ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ

ข้ามีระบบปลูกผักวิเศษ

last updateLast Updated : 2024-12-18
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
10
0 ratings. 0 reviews
62Chapters
2.8Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เฉินอวี้ซินเอาตัวเข้าไปบังเด็กๆ จากดินถล่ม จึงได้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กวัยสิบขวบและสูญเสียความทรงจำ นางได้เริ่มทำภารกิจเพื่อหวังจะได้กลับคืนสู่ถิ่นฐานที่จากมา และ ช่วยครอบครัวให้มีอยู่มีกิน

View More

Chapter 1

ตอนที่ 1 ข้ามภพ

ตอนที่ 1 ข้ามภพ

“อวี้ซินลูกแม่… เจ้าเป็นอันใดไปกันแน่ถึงได้หลับไปนานเช่นนี้”

เฉินหรูซีมารดาของเฉินอวี้ซิน ใช้มืออันหยาบกร้านลูบหัวน้อยๆ ของบุตรสาว ที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงเพราะพิษไข้

“ท่านแม่ขอรับ… เป็นข้าเองที่ดูแลน้องได้ไม่ดี น้องเลยตกน้ำตกท่าในวันนั้น”

เฉินตงห่าวบุตรชายวัยสิบเอ็ดปีที่นั่งอยู่ข้างผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด

“เจ้าไม่ผิดหรอกนะตงห่าว อย่าได้โทษตนเองไปเลย วันนั้นฝนตก พื้นดินลื่น น้องของเจ้าไม่ทันระวังจึงได้พลัดตกไปเอง”

หรูซีโอบไหล่ตงห่าว

“แต่น้ำตรงบริเวณนั้นก็ไม่ได้สูง ถึงขนาดที่จะทำให้นางจมได้ มันคงเป็นคราวเคาะของนางกระมัง”

เฉินหรูซีปลอบใจบุตรชาย แล้วดึงเขาเข้ามากอดไว้แน่น

“น้องจะไม่จากเราไปเหมือนท่านพ่อใช่หรือไม่ขอรับ”

เฉินตงห่าวที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่เงยหน้าขึ้นพร้อมกับเอ่ยถามอย่างมีความหวัง

“แน่นอนสิจ๊ะ น้องแค่พลัดตกน้ำแล้วเป็นไข้ อีกไม่นานน้องสาวของเจ้าก็จะตื่นขึ้นมาเอง”

เฉินหรูซีขานตอบบุตรชาย

“ท่านแม่ขอรับ เราไปขอให้ท่านปู่เรียกท่านหมอมารักษาน้องได้หรือไม่ขอรับ ข้าอยากให้น้องหายเร็วๆ”

เฉินตงห่าวที่อยากเห็นน้องสาวตื่นขึ้นมาโดยไว แสดงความคิดเห็นของตนออกไป

“แม่คงจะทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกนะ หากแม่ไปที่บ้านหลักท่านย่าของเจ้าคงจะหาว่าแม่ดูแลน้องได้ไม่ดี”

เฉินหรูซีถอนหายใจออกมาหนักๆ

นางรู้อยู่แล้วว่าถึงจะไปร้องขอให้แม่สามีช่วยเหลืออย่างไร สุดท้ายแม่สามีที่จงเกลียดจงชังตน คงจะไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยนางอย่างแน่นอน

บ้านเฉินมีบุตรชายอยู่สองคน

บุตรคนหนึ่งคือเฉินฮ่าวตี้ เขาได้แต่งงานกับสตรีที่มีอันจะกินแล้วย้ายไปค้าขายในตัวเมือง และส่งเงินอีแปะกลับมาให้แม่สามีทุกเดือนจนกลายเป็นลูกชายสุดที่รักของบ้านหลัก

บุตรคนที่สองคือเฉินตู้หมิง พ่อของเฉินอวี้ซิน กับ เฉินตงห่าว

เฉินตู้หมิงชอบพออยู่กับเฉินหรูซีจึงตบแต่งกับนาง แม้ว่าผู้เป็นมารดาจะไม่เห็นด้วย แต่ผู้เป็นพ่อเห็นบุตรชายมีความรักมั่นคง จึงออกหน้าไปสู่ขอนางมาให้เป็นภรรยาของเขา

ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ สามปีที่แล้ว เฉินตู้หมิงก็ได้ล้มป่วยและจากไปอย่างไม่หวนคืน

นั่นยิ่งทำให้เฉินจางจางผู้เป็นแม่สามีโกรธแค้นนางที่เป็นภรรยาของเขามากขึ้น จากที่ไม่ชอบหน้ากลายเป็นว่าจงเกลียดจงชังนางเข้ากระดูกดำไปเสียแล้ว

“เช่นนั้น ให้ลูกไปหาท่านปู่แบบลับๆ ดีหรือไม่ ท่านจะต้องช่วยเหลือพวกเราเป็นแน่”

เสียงเจื้อยแจ้วของตงห่าวพูดขึ้นอย่างมั่นใจ เพราะอย่างน้อยๆ ท่านปู่ก็ไม่เกลียดเขากับน้องสาวขนาดนั้น

“หากเราทำเช่นนั้นท่านย่าของเจ้ารู้เข้ามันจะไม่ดี”

หรูซีลูบหัวบุตรชายเพื่อปลอบโยน

“แต่ท่านแม่ขอรับ หากปล่อยให้อวี้ซินนอนนิ่งๆ อยู่แบบนี้มันจะดีหรือขอรับ ไม่สู้เราลองเสี่ยงสักครั้งจะไม่ดีกว่าหรือ”

ตงห่าวยังคงต้องการให้น้องสาวได้รับการรักษาจากท่านหมอสักครั้ง

“แม่ไม่อยากหยิบยืมอีแปะจากท่านปู่ของเจ้า”

หรูซีถอนหายใจออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

ก่อนหน้านี้นางก็เคยยืมเงินจากบ้านหลักมารักษาอาการเจ็บป่วยของสามี

แต่พอสามีจากไป นางก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมากมาย รวมทั้งต้องหาเงินอีแปะไปชดใช้ให้บ้านหลัก

แม้ว่าพ่อสามีจะไม่ได้ว่าอันใด แต่ข้าที่เป็นภรรยาของเฉินตู้หมิง และเป็นแม่ของเด็กทั้งสอง ก็ต้องหาเช้ากินค่ำเพื่อที่จะคืนเงินจำนวนนั้นให้ครบ

ไม่รู้ว่าฟ้าฝนแกล้งกันหรืออยากลงโทษนางแต่อย่างไร ตั้งแต่ที่สามีนางจากไป ที่ดินสามหมู่ที่นางได้รับมาก็แห้งแล้งลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งปลูกข้าวก็ยังไม่พอจะกิน

หรูซีได้แต่เก็บความทุกข์ใจนี้ไว้เพียงลำพัง นางไม่สามารถหันหน้าไปพึ่งพิงใครได้ เพราะนอกจากบ้านของนางที่ประสบปัญหานี้ ชาวบ้านคนอื่นๆ ก็ประสบปัญหาภัยแล้งนี้ด้วยเช่นกัน

สองปีให้หลังมานี้ ข้าวของหยูกยาทุกอย่างล้วนแพงขึ้นเป็นเท่าตัว นางจึงอาศัยขึ้นป่าไปเก็บผักมาขาย เพื่อแลกเศษข้าวมาประทังชีวิต

แม้ท้องของนางจะไม่ถูกเติมเต็มจนอิ่ม ขอเพียงให้ลูกๆ กินอิ่มนอนหลับนางก็พอใจ

แต่แล้ววันคืนดีๆ ก็ได้เกิดเรื่องขึ้นกับบุตรสาว

วันนั้นจู่ๆ ฝนก็เทลงมาโดยไม่บอกกล่าวหรือแจ้งเตือนล่วงหน้า

บนทางลงเขานั้นชันมาก จึงทำให้เฉินอวี้ซินลื่นพลัดตกลงไปในแอ่งน้ำ ถึงแม้ว่าตอนแรกนางจะปกติดีอยู่ แต่พอกลับมาถึงบ้านนางก็ล้มหมอนนอนเสื่อแล้วกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราเช่นนี้มาสามวันแล้ว

ตงห่าวรู้ว่าทางบ้านของตนขัดสนเรื่องเงินๆ ทองๆ ส่วนท่านย่าก็ไม่ค่อยชอบท่านแม่ เพราะคิดว่าท่านแม่เป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านพ่อจากไป

แต่ชีวิตของน้องสาวในตอนนี้ก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัยนัก เขาจนปัญญา และไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี

หากวันนั้นตอน ขากลับ เขาจูงมือน้องสาวเอาไว้อย่างเช่นทุกที และไม่มัวแต่วิ่งเล่นตากน้ำฝนน้องสาวของเขาก็คงจะไม่พลาดท่าตกน้ำไปแบบนี้

“เอาล่ะๆ แม่จะออกไปทำงานต่อแล้ว ส่วนเจ้าก็อยู่เป็นเพื่อนน้องเถอะนะ”

เฉินหรูซีบอกบุตรชาย

“ท่านแม่ ท่านพึ่งพักเที่ยงได้แค่ครู่เดียวเองนะขอรับ ท่านจะขึ้นเขาไปเก็บผักมาขายอีกแล้วหรือ”

ตงห่าวมองมารดา ใบหน้าของท่านเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก แถมท่านยังกินข้าวไปแค่นิดหน่อยเพียงเท่านั้น

เขาเป็นห่วงท่านแม่ของเขามาก เพราะหากว่าท่านแม่ทำงานหนักจนทรุดโทรมไปอีกคน เขาคงจะไร้ที่พึ่งพิง

“เอาเช่นนี้เถอะขอรับ วันนี้ข้าจะไปกับท่านแม่ด้วย หากอวี้ซินนางตื่นขึ้นมา นางต้องรู้แน่ว่าเราไปไหน ให้ข้าไปช่วยท่านแม่อีกแรงเถอะนะขอรับ ข้าได้ยินคนพูดกันว่าช่วงนี้ผักเริ่มแตกยอดงามๆ เพราะได้น้ำฝนจากวันนั้น หากเราสองคนช่วยกันต้องได้ผักป่ามามากมายอย่างแน่นอน”

ตงห่าวที่สงสารท่านแม่จับใจ รีบอาสาที่จะไปช่วยท่านแม่อีกแรง อย่างน้อยๆ นี่ก็เป็นสิ่งเดียวที่เขาพอจะทำได้

“แต่ว่าหากเจ้าไม่อยู่ น้องสาวของเจ้า…”

“ท่านแม่ ท่านอย่ากังวลไปเลยขอรับ ข้าจะปิดรั้วบ้านให้ดีขอรับ”

ตงห่าวบอกผู้เป็นแม่ แถมเขายังยืนกรานอย่างหนักแน่น วันนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไปช่วยท่านแม่ให้จงได้

“เอาเช่นนั้นก็ได้ เดี๋ยวแม่ไปตักน้ำใส่กระบอกก่อนนะ”

“ขอรับ”

เฉินตงห่าวยิ้มกว้างออกมาเมื่อผู้เป็นแม่ยินยอมที่จะให้ตนติดตามไปด้วย

ตงห่าวจึงคอยท่าท่านแม่ที่ไปตักน้ำในบ่อของหมู่บ้านด้วยจิตใจที่เป็นสุข

“น้องสาวเจ้าจะนอนขี้เซาไปถึงไหน หากเจ้ายังไม่รีบตื่นขึ้นมาอีก ท่านแม่ของเจ้ารวมทั้งข้าได้อกแตกตายเป็นแน่ ตื่นขึ้นมาไวๆ เถอะนะ”

เฉินตงห่าวที่เป็นเด็กหนุ่มวัยสิบเอ็ดปี แต่รู้ความ กระชับผ้าห่มให้กับน้องสาว

หนึ่งก้านธูปผ่านไป (สิบห้านาที)

เฉินหรูซีก็ได้หาบถังไม้ที่มีน้ำอยู่เกินครึ่งกลับบ้านมา นางกรอกน้ำใส่กระบอก เตรียมสัมภาระให้พร้อมแล้วออกเดินทางไปที่เชิงเขาพร้อมกับบุตรชาย

ติ๊ง….

[ระบบกำลังประมวลผล และ ซิ้งค์ข้อมูลให้กับโฮสต์]

เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของเฉินอวี้ซิน พอระบบที่ว่าส่งข้อมูลเข้ามาในหัวของนางจนแล้วเสร็จ เฉินอวี้ซินก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างยากลำบาก

ติ๊ง!…

[แจ้งเตือน!! ร่างกายของโฮสต์อ่อนแอ โปรดเติมเต็มสารอาหารให้เพียงพอ!!!]

เสียงระบบในหัวดังขึ้นซ้ำไปซ้ำมา

เฉินอวี้ซินค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งอย่างยากลำบาก

นางขยี้ตาอย่างสงสัยว่าตนเองอยู่ที่ไหน

“ที่นี่คือที่ไหนกัน?”

เฉินอวี้ซินพยายามพูดออกมา แต่คอของนางก็แหบแห้งมาก จนแทบจะไม่มีเสียง

ติ๊ง!

[ที่นี่เป็นเมืองจีนยุคโบราณ โฮสต์โปรดเพิ่มสารอาหารให้กับร่างกาย]

เสียงในหัวดังขึ้นอีกครั้ง

“ยุคโบราณ? ฉันตายแล้วได้เกิดใหม่อย่างนั้นสินะ”

เฉินอวี้ซินที่จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตนเองมาจากไหน เป็นใคร? ได้แต่มองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้

ติ๊ง!

[ตรวจพบสารอาหารอยู่ใกล้ๆ โฮสต์ ระบบแนะนำให้โฮสต์กินสิ่งนั้นเข้าไปด่วน!!!]

“พบแหล่งอาหารงั้นเหรอ ก็ได้ๆ”

อวี้ซินที่ยังไม่รู้ว่าระบบอะไรนี่มาจากไหน แต่นางก็พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน แม้จะเอียงเซในช่วงแรกไปบ้าง แต่พอนางปรับตัวได้ นางก็เปิดประตูห้องนอนที่เก่าแก่นี่ออกไป และเดินไปตามทางที่ระบบบอก

ติ๊ง!

[กรุณาเลี้ยวซ้ายด้านหน้า]

“รู้แล้วๆ ก็ข้าเหนื่อยอยู่ ระบบนี่ก็ไม่รู้จะเตือนอะไรนักหนา”

อวี้ซินได้แต่บ่นอิดออดมาตามทาง แต่พอนางเปิดประตูไม้ออกไปได้ ด้านนอกก็เหมือนกับสิ่งแปลกใหม่ที่นางไม่คุ้นเคย ยิ่งนางได้หันกลับมามองตัวบ้าน ที่เป็นบ้านปูนหนึ่งชั้น ถูกยกสูงขึ้นจากพื้นดินเกือบหนึ่งช่วงเอว นางก็ยิ่งรู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

เสียงเตือนจากระบบดังขึ้นอีกครั้งว่าให้นางเติมเต็มสารอาหาร แต่พอเดินไปตามทางที่ระบบนั่นบอก กับพบเพียงแค่หัวมัน และ ผักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อวี้ซินจึงเริ่มก่อไฟตามที่ระบบบอกเพื่อเผามันหวานกิน

“ข้าอยู่ที่ไหน?”

เฉินอวี้ซินเอ่ยถามขึ้นหลังจากกินหัวมันลงท้องไป

ติ๊ง!

[ที่นี่คือหมู่บ้านไป๋ซาน อยู่ห่างจากตัวเมืองสามกิโลเมตร]

“หมู่บ้านไป๋ซานงั้นหรือ?”

อวี้ซินบ่นกับตัวเอง

“แล้วข้ามาทำอะไรที่นี่”

อวี้ซินถามต่ออย่างไม่เข้าใจ

ติ๊ง!

[โฮสต์เป็นคนของที่นี่ กำลังอัปเดตสถานะของโฮสต์…]

“ข้าเป็นคนของที่นี่หรือ เพราะเหตุใดข้าจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ”

ติ๊ง!

[ระบบกำลังตรวจสอบ โปรดรอสักครู่…]

“เฮ้อ… แล้วระบบอะไรนี่เข้ามาอยู่ในหัวของข้าได้อย่างไร”

อวี้ซินเอ่ยถามไป ทว่าระบบอะไรนั่นก็ไม่ได้ตอบอะไรนางอีก

นางจึงเดินวนดูรอบๆ ตัวบ้าน เพื่อหวังว่าความทรงจำที่ขาดหายไปจะคืนกลับมา ทว่าพอนางเดินรอบๆ ตัวบ้านแล้วนางก็ไม่ได้รู้สึกคุ้นเคยอะไรกับบ้านหลังนี้เลยแม้แต่นิด

อวี้ซินเดินไปนั่งหน้าบ้านตรงที่มีระเบียงริมประตูยื่นออกมาเล็กน้อย

ติ๊ง!

[ตรวจสอบสำเร็จ กำลังรายงานผล…

ชื่อ : เฉิน อวี้ซิน อายุ 10 ปี

อาศัยอยู่กับมารดาและพี่ชาย

พ่อผู้ให้กำเนิดเสียชีวิตเมื่อ 3 ปีก่อน

เนื่องจากร่างของโฮสต์พลัดตกน้ำ ทำให้ความทรงจำของโฮสต์หายไป

โฮสต์โปรดพัฒนาระบบให้มากกว่านี้ เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น…]

“เฉินอวี้ซิน อายุสิบปี พ่อตาย แม่ยังอยู่ แถมยังมีพี่ชายอีกหรือนี่ แล้วที่บอกให้ข้าพัฒนาระบบ แล้วข้าต้องพัฒนามันอย่างไร?”

อวี้ซินทวนคำพูดของระบบแล้วถามข้อมูลเพิ่มเติม

ติ๊ง!

[โฮสต์โปรดค้นหาพืชสมุนไพร และรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น…]

“พัฒนาระบบ คือ ให้ข้าออกตามหาพืชสมุนไพรงั้นหรือ”

ติ๊ง!

[แจ้งเตือน… เผื่อว่าโฮสต์อาจจะลืมไป

ข้าเป็นระบบปลูกพืชผัก

หากรวบรวมข้อมูลผักหรือสมุนไพรได้ครบตามจำนวน ก็จะปลดล็อกภารกิจต่อไปได้

หากทำสำเร็จระบบจะมีรางวัลให้…]

“ระบบปลูกผักสินะ เอาเถอะ! ข้าก็จำอะไรไม่ได้อยู่ดี แต่ตอนนี้ข้าอยากพักแล้ว ร่างกายของข้าไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่เลย”

อวี้ซินพูดจบนางก็กำลังจะลุกขึ้นแล้วกลับไปนอนต่อ

ทว่า! เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นมา แล้วบอกให้นางไปปลูกข้าวเพื่อความอยู่รอด ระบบยังได้มอบข้าวเปลือกให้นางหนึ่งกระสอบป่าน

“ตกใจหมดเลยนึกว่าผีหลอก อะไรกันจู่ๆ ถุงข้าวเปลือกก็ปรากฏออกมาดื้อๆ แบบนี้เลยเหรอ? ระบบหากเจ้าทำได้ขนาดนี้ทำไมไม่ส่งอาหารให้ข้าด้วยเลยล่ะ”

อวี้ซินเอามือกุมหน้าอกเพราะความตกใจ

นางตรวจสอบดูกระสอบป่านที่เต็มไปด้วยเมล็ดข้าว ว่า มันโผล่ออกมาได้อย่างไร

ติ๊ง!

[ภารกิจแรก โปรดปลูกข้าวสาลี รางวัลจำกัดเวลา…]

“หือ… มีเวลาด้วย? แล้วข้าจะปลูกข้าวอย่างไร?”

ติ๊ง!

[โฮสต์โปรดใช้ความสามารถของตนเอง…]

สิ้นเสียงแจ้งเตือน อวี้ซินก็ถึงกับอ้าปากค้าง นี่ข้าต้องปลูกข้าวสาลีภายในเวลาที่กำหนด? แถมยังต้องพึ่งพาตนเองนี่นะ

อวี้ซินถอนหายใจออกมาแล้วเดินไปดูทุ่งนาที่มีน้ำแห้งขอดอย่างจนใจ

ตามที่ระบบได้บอกไว้ ข้ามีที่ดินของทางบ้านอยู่สามหมู่ (สามไร่) หากจะปลูกข้าวก็ต้องไถนาพรวนดินก่อนถึงจะหว่านเมล็ดข้าวนี่ได้

แต่พอข้าเห็นข้าวเปลือกนี่ก็ท้องร้องเลยแฮะ หรือข้าจะเอามาหุงกินก่อนดี

อวี้ซินยกยิ้มมุมปาก

ติ๊ง!

[ระบบไม่อนุญาตให้โฮสต์เอาเมล็ดพันธุ์มาทำอาหาร

โปรดมุ่งเน้นไปตามวิธี และ ขั้นตอน…]

พออวี้ซินคิดในใจว่าจะเอาข้าวมากิน เสียงแจ้งเตือนนั่นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

แล้วข้าจะพรวนดินอย่างไร หรือว่าต้องใช้เสียมนี่ไปพรวนดินตามที่ระบบแนะนำ

“….”

อวี้ซินมองไปข้างบ้าน ที่มีเสียมไม้นอนราบอยู่กับพื้น นางทำได้เพียงแค่ถอนหายใจออกมา แล้วหยิบมัน ก่อนจะเดินลงทุ่งนาไปอย่างจนใจ

“เหนื่อยก็เหนื่อย! เมื่อยก็เมื่อย! แถมยังเจ็บมืออีก โชคดีที่ดินมันไม่ได้แข็งมาก ไม่งั้นมือของข้าคงได้แตกก่อนที่จะขุดดินนี่เสร็จอย่างแน่นอน”

เฉินอวี้ซินเอาผ้าพันมือไว้อย่างดี

นางยืนขุดพลิกหน้าดินไปมาอย่างอดทน แม้ว่าจะบ่นไป ทำไปก็ตาม

แต่นางก็ต้องทำ!!

เพราะระบบบอกว่า… หากอยากรู้ข้อมูลมากกว่านี้ ต้องทำตามที่ระบบแนะนำ

นางจึงได้แต่กัดฟันสู้!!

และฝืนทนทำงานต่อไป ด้วยร่างกายที่อ่อนปวกเปียก และหมดหนทาง

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
62 Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status