LOGIN
เสียงดนตรีดังไปทั่วฮอลล์จัดงานอันหรูหรา แสงสปอตไลท์นับสิบดวงแกว่งไปมาราวกับเริงระบำ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่าศิลปินและแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานประกาศรางวัลที่ใหญ่ที่สุดในรอบปี
เมฆินทร์ หรือ คิน นั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้แถวหน้าสุด หัวใจเต้นรัวแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ถึงแม้จะพยายามเก็บอาการด้วยรอยยิ้มอันสมบูรณ์แบบตามแบบฉบับซูเปอร์สตาร์ผู้เคยผ่านเวทีมานับไม่ถ้วนแล้วก็ตาม
“ตื่นเต้นเหรอเรา” เสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นข้างตัว
เลโอ พระเอกที่เคยร่วมแสดงซีรีส์วายด้วยกันจนสร้างชื่อเสียงอันโด่งดังเอ่ยถาม อีกทั้งยังเลื่อนมือมาวางบนหน้าตักของเมฆินทร์แล้วตบลงเบา ๆ ราวกับจะช่วยให้คนข้างตัวได้ผ่อนคลายมากขึ้น แม้ว่าเมฆินทร์จะเก็บอาการความตื่นเต้นต่อหน้าคนอื่น ๆ แต่เขามักจะมองออกเสมอ เพราะพวกเขาร่วมงานกันมาหลายต่อหลายครั้งจนสนิทสนมกันมาก รวมถึงเป็นคู่จิ้นที่เหล่าแฟนคลับให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ซีรีส์ของพวกเขายังไม่ออนแอร์ ผ่านมาเกือบสองปีแล้ว พวกเขาก็ยังได้ร่วมงานกันอยู่เรื่อย ๆ
“นิดหน่อยครับ จริง ๆ คินลุ้นมากกว่า” ตอบพลางหันไปยิ้มให้ เมื่อปีที่แล้วเมฆินทร์ก็มีชื่อเสนอเข้าชิงรางวัล แต่เขากลับไม่ได้รางวัลนี้มาครอบครอง ในปีนี้เขาก็ยังถูกเสนอชื่ออีก จะว่าแอบหวังว่าปีนี้จะเป็นชื่อของเขาสักทีก็คงใช่
“ต้องได้อยู่แล้วน่า... รางวัลนี้ถ้าไม่ใช่ของเรา ก็ไม่รู้ใครจะเหมาะสมได้รางวัลไป”
เมฆินทร์สบตากับเลโอ พยักหน้าตอบเบา ๆ แต่ในใจยังคงสั่นไหวด้วยความตื่นเต้นอยู่ดี เขาเหลือบมองไปยังเวทีที่ในขณะนี้กำลังฉายภาพและแนะนำผลงาน ประวัติคร่าว ๆ ของผู้เข้าร่วมชิงรางวัลทั้ง 5 คน โดยตรงกลางเวทีนั้นมีโพเดียมคริสตัลที่วางถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติรอให้เจ้าของขึ้นไปหยิบมัน
ที่นั่นคือเป้าหมาย คือบทพิสูจน์ของหยาดเหงื่อแรงกายทั้งหมดที่เขาทุ่มเทมาตลอดทั้งปี รวมทั้งตั้งใจทำผลงานทุกอย่างออกมาให้เพอร์เฟกต์
“และสำหรับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของค่ำคืนนี้!” เสียงของพิธีกรหญิงเอ่ยขึ้น ทำเอาบรรยากาศภายในฮอลล์นั้นเงียบกริบลงทันทีเมื่อเธอเว้นจังหวะการพูด
“รางวัลศิลปินยอดเยี่ยมแห่งปี... ผู้ที่ได้รับรางวัลได้แก่” ก่อนจะมีเสียงดนตรีของการประกาศผลดังขึ้นสร้างความตื่นเต้นจนแทบหยุดหายใจ แสงสปอตไลท์สาดส่องไปยังผู้เข้าชิงรางวัลทั้ง 5 คน
“เมฆินทร์ จากไลท์นิ่งออลสตาร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ค่า!!”
สิ้นเสียงพิธีกร เมฆินทร์ยิ้มกว้างออกมาด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอดวงตาสวย เขาลุกขึ้นยืนอย่างสง่าผ่าเผย ก่อนจะหันไปโค้งตัวอย่างมีมารยาทให้กับนักแสดงท่านอื่น ๆ ที่อยู่ภายในฮอลล์ พร้อมกับเสียงปรบมือแสดงความยินดีกึกก้อง เลโอลุกขึ้นยืนพลางสวมกอดแสดงความยินดีกับเขา ก่อนจะผายมือให้เกียรติ
เมฆินทร์ก้าวเดินไปยังบันไดข้างเวที แต่ละก้าวที่เหยียบย่างขึ้นไปนั้นเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ นี่คือบันไดแห่งความสำเร็จที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีทั้งความขยัน, มุ่งมั่น, อดทน, เพียรพยายาม ซึ่งคือเส้นทางแห่งความฝันที่นับจากนี้ไปเขาจะทุ่มเทให้กับมันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
‘แม่ครับ... แม่เห็นคินไหม... คินทำได้แล้วนะ’ เขาบอกกับคนบนฟ้าในใจ
เมื่อร่างสูงสง่าในชุดสูทแบรนด์ดังสีขาวบริสุทธิ์ก้าวขึ้นไปหยุดอยู่บนเวที แสงไฟทั้งหมดก็สาดส่องมายังเขาราวกับอวยพรให้กับความสำเร็จในครั้งนี้ เมฆินทร์เอื้อมมือไปคว้าจับถ้วยรางวัลตรงหน้า เขายิ้มพลางชื่นชมความสวยงามของถ้วยรางวัลคริสตัลสักพัก ก่อนจะขยับไมโครโฟนให้ได้ระดับ สูดลมหายใจเพื่อบรรเทาความตื่นเต้นที่ยังไม่จางหาย รวบรวมคำพูดทั้งหมดที่เขาอัดอั้นอยู่ในใจ
“ผม... ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับถ้วยรางวัลอันทรงเกียรตินี้ครับ” น้ำเสียงของเมฆินทร์สั่นเครือเล็กน้อย เขาเว้นวรรคเพื่อควบคุมจังหวะให้น้ำเสียงกลับมาเป็นปกติ ก่อนจะเริ่มกล่าวต่อไป
“ขอบคุณทางค่ายไลท์นิ่งออลสตาร์ที่มอบโอกาสให้เด็กธรรมดา ๆ คนนึงได้ทำตามความฝันของตัวเอง ขอบคุณพี่หลิน ผู้จัดการสุดสวยของผมที่คอยดูแลมาตลอด แม้ว่าผมจะดื้อไปบ้าง หรือท้อไปบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยทิ้งผมไปไหนเลยครับ เป็นผู้จัดการที่ดีมากจริง ๆ”
กล้องที่อยู่ภายในงานฉายภาพของเจ้าของค่ายที่นั่งยิ้มแสดงความยินดีให้กับศิลปินในสังกัด ก่อนจะตัดภาพไปที่ผู้จัดการสาวที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างเวทีตรงบันไดทางขึ้น เธอปลื้มปิติที่ศิลปินของเธอพูดถึง ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาที่บัดนี้ไหลลงมาอาบข้างแก้ม
“ขอบคุณพี่เลโอครับ พี่เป็นคนที่คอยให้คำแนะนำในเรื่องของการแสดง หรือในเรื่องอื่น ๆ คอยให้คำปรึกษากับผมเสมอมา” เมฆินทร์หันไปมองที่เลโอพลางผายมือออกไปทางด้านที่เขานั่งอยู่ เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับที่เข้ามาชมงานประกาศรางวัลได้เป็นอย่างดี
“และที่สำคัญที่สุด... ขอบคุณทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ขอบคุณแฟนคลับที่เป็นท้องฟ้าที่แสนจะอบอุ่นให้ดวงดาวเล็ก ๆ แบบผมได้ส่องแสง ขอบคุณทุกความรักทุกกำลังใจที่มอบให้ พวกคุณคือแรงผลักดันที่สำคัญให้ผมอยากตอบแทนด้วยผลงานที่ดียิ่งขึ้น” เขาโบกมือให้กับแท่งไฟสีฟ้ารูปก้อนเมฆที่กำลังสว่างไสวตามจุดต่าง ๆ ของฮอลล์ ก้มศีรษะโค้งตัวลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา
“สุดท้ายนี้… ผมขอมอบรางวัลที่มีค่าให้กับครอบครัวของผม โดยเฉพาะคุณแม่ ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ได้อยู่ตรงนี้เพื่อดูความสำเร็จของผม แต่ผมเชื่อว่าท่านกำลังมองและแสดงความยินดีให้กับผมจากบนฟ้า ผมสัญญาว่าจะทำงานให้หนักขึ้นไปอีก เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีมาตอบแทนทุกคน ขอบคุณครับ!”
สิ้นเสียงของเมฆินทร์ เสียงปรบมือดังกึกก้องยาวนานกว่าครั้งไหน ๆ เขาโค้งขอบคุณไปตลอดทางที่เดินไปสุดขอบเวที จนกระทั่งแสงไฟค่อย ๆ ดับลง และเข้าสู่ช่วงการประกาศรางวัลอื่นต่อไป
“เป็นการกล่าวขอบคุณที่ซึ้งมาก ไม่คิดเลยว่านายจะพูดถึงพี่ด้วย” เมื่อลงจากเวทีมา เลโอก็เอ่ยขึ้นทันที จะว่าแซวก็ไม่เชิง แต่เขาทราบซึ้งแทบจะทุกคำพูดและรู้ว่าเมฆินทร์กล่าวออกมาจากใจ
“พี่ก็เป็นคนสำคัญของผมนะ จะไม่พูดถึงได้ยังไง”
หลังจากนั้นบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความชื่นมื่น เหล่านักแสดงและศิลปินที่มาร่วมงานต่างทยอยกันเข้ามาแสดงความยินดีกับเมฆินทร์หลังจบงาน เขายกมือไหว้และกล่าวขอบคุณผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม และเปลี่ยนรอยยิ้ม สวมกอด และสนทนากันอย่างออกรสออกชาติกับศิลปินรุ่นเดียวกัน ในวันนี้ถือเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุดเลยก็ว่าได้
“คิน พี่ว่าเรากลับกันเลยดีกว่า ต้องตื่นเช้ามืดนะ” พี่หลิน ผู้จัดการส่วนตัวเดินแทรกเข้ามาเมื่อเห็นว่าในตอนนี้คนรอบตัวของเมฆินทร์เริ่มลดน้อยลง จริง ๆ ไม่อยากขัดในวันที่น่ายินดีแบบนี้ แต่ตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่งแล้ว และเช้ามืดที่เธอว่าคือตีสี่ กว่าจะถึงคอนโดของเมฆินทร์ แล้วได้นอนพักผ่อน ไม่รู้จะได้หลับถึงสองชั่วโมงไหม
“ครับพี่หลิน ผมขอตัวก่อนนะ แล้วเจอกัน” เมฆินทร์ตอบรับ พลางบอกลาเลโอและคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ด้วยกัน
‘28 กุมภาพันธ์ .. วันนี้จู่ ๆ ภาสก็มาขอเลิก เขาบอกว่าครอบครัวของเขาบังคับให้เขาไปแต่งงานกับคนระเดียวกัน คนที่เหมาะสมกับบ้านเขา.. โลกทั้งใบของฉันพังทลายลงแล้ว’ ‘2 มีนาคม .. ฉันพยายามยื้อและคุยกับเขาเพราะวันนี้เขามาเก็บเสื้อผ้าออกจากคอนโดของเรา แต่เขาไม่แม้แต่จะสบตาด้วยซ้ำ.. ทำไมถึงใจร้ายใส่กันได้ขนาดนี้’ ‘3 มีนาคม .. วันนี้ทั้งวันพยายามโทรหาเขาเพื่อที่จะขอโอกาสมาคุยกันให้รู้เรื่องแต่เขาไม่รับโทรศัพท์ฉันเลย.. ไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำว่าความรักที่มีให้กันตลอดระยะเวลา 5 ปีมันจะสูญเสียไปภายในวันเดียวอย่างไม่ยุติธรรม’ ‘15 มีนาคม .. วันนี้ลองไปดักรอที่คณะ แต่เหมือนเขาจะหลบหน้าฉัน ภาสไม่ยอมแม้แต่จะติดต่อกัน เหมือนตัดขาดฉันออกไปจากชีวิตเขา.. ไหนว่าเราจะมีอนาคตร่วมกันไง? ไหนว่าจะสร้างครอบครัวที่น่ารักด้วยกัน? แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น!’ ‘18 มีนาคม.. ขอร้องล่ะ ฉันอยากได้แค่คำอธิบาย ความรักของเราไม่มีค่าพอให้เอาชนะทุกอุปสรรคได้จริง ๆ หรอ หรือฐานะทางสังคมสำคัญมากจริง ๆ เรา..ไม่ดีพอสำหรับเธอแล้วใช่ไหมในตอนนี้’ ‘27 มีนาคม .. เหงาจัง ที่ที่ไม่มีภาสอยู่มันไม่ม
สองวันผ่านไปอย่างเชื่องช้าในห้องพักผู้ป่วยที่หรูหราแต่ไร้ชีวิตชีวา ในที่สุดเมฆินทร์ก็ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ ร่างกายของเขาค่อนข้างอ่อนเพลียเบาโหวงอย่างไม่คุ้นชิน แต่ก็ดีขึ้นมากหลังจากได้รับวิตามินและสารอาหารอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศในรถยนต์ระหว่างเดินทางกลับบ้านนั้นแสนสงบ มีเสียงเพลงบรรเลงเปียโนเบา ๆ ชวนให้ผ่อนคลาย พราวฟ้าดูคลายความกังวลมากกว่าเมื่อหลายวันก่อนที่เข้ามาคุยกับเขา เธอขับรถด้วยท่วงท่าเรียบนิ่ง ไม่ได้ชวนคุยอะไรมากนัก คงเพราะอยากให้เขาได้พักผ่อนและชื่นชมบรรยากาศนอกโรงพยาบาลอย่างเต็มที่ ซึ่งเมฆินทร์เองก็รู้สึกขอบคุณในใจสำหรับความเงียบนั้น ทำให้มีเวลาจมอยู่กับตัวเอง พิจารณาและทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่างที่แทบจะตลอดเวลาตั้งแต่เขาฟื้นมาก็เอาแต่คิดวนซ้ำ ๆ ไม่เลิก ดวงตาสีเทาเข้มทอดมองออกไปนอกหน้าต่างรถ มันไม่ใช่ความตื่นตระหนกเหมือนครั้งแรกที่สัมผัสกับที่แห่งนี้ แต่เป็นการเฝ้ามองด้วยสายตาของนักสำรวจ ในการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อม ทำความเข้าใจโลกใบใหม่ที่เขาถูกเหวี่ยงเข้ามา... สถาปัตยกรรมของตึกระฟ้าดูเน้นความทันสมัยและสวยงามแปลกตา ไม่มีแม้แต่เสาไฟหรื
“อะไรครับ? แต่อะไร” “ลูกใจเย็น ๆ ก่อน” พราวฟ้าเห็นท่าทางเริ่มไม่สงบของลมหนาว เธอเริ่มกังวลมากขึ้น “การรับการรักษาผ่านทางโรงพยาบาลต้องรอคิวที่นาน และทั้งพิสทิลเอง แอนไทเองก็มีสิทธิ์เลือกว่าจะตกลงรักษาให้กันหรือปฏิเสธที่จะไม่รับเคสนี้ก็ได้ มันเลยทำให้การรันระบบช้ามากกว่าที่ควรจะเป็น” “เอ้า.. แล้วแบบนี้จะมาลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครเพื่อ?” เมฆินทร์ทั้งไม่เข้าใจ และงงหนักกว่าเก่า “เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายจ้ะ มันมีระบบกฎหมายเข้ามาคุ้มครองด้วยสำหรับแอนไทที่ลงทะเบียน เอาเป็นว่า… เราอย่าสนใจเลย เพราะที่แม่จะบอกคือแม่มีทางรักษาให้น้องหนาวแบบที่ไม่ต้องรอคิวอะไรทั้งนั้น อย่าที่แม่บอกไปพิษค่อนข้างรุนแรงจะมัวแต่ยืดเวลานานมากไม่ได้” พราวฟ้าพูดพลางลูบหัวลูกชายตนเบา ๆ เมื่อเห็นว่ามีการถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่คล้ายโล่งอก “งั้นดีเลยครับ แม่บอกวิธีมาเลย ผมจะทำตาม.. ผมไม่อยากจบชีวิตอีกรอบแล้วจริง ๆ” “ลูกยอมรับได้ใช่ไหม ถ้าลูกต้องมีอะไรกับแอนไทเพื่อการรักษาพิษ... มันอาจจะไม่ใช่แค่ครั้งเดียว หรือสองครั้ง” “ห้ะ!! ด…เดี๋ยวนะ มีอะไรกับแอนไทหรอครับ
หลังจากสายหมอกกลับไปแล้ว บรรยากาศในห้องก็กลับมาเงียบสงบลงอีกครั้ง พราวฟ้าเดินมานั่งข้างเตียงผู้ป่วยอีกครั้ง เธอจับมือของลูกชายมากุมเอาไว้แน่น แววตาเต็มไปด้วยความรัก ความเจ็บปวดและความมุ่งมั่นที่แน่วแน่กับสิ่งที่เธอกำลังจะพูดออกมาหลังจากนี้ และเป็นจังหวะเดียวกันที่เมฆินทร์เห็นป้ายชื่อที่ถูกปักไว้บนเสื้อกาวน์ของคนตรงหน้า ชื่อจริงเป็นชื่อพราวฟ้า ส่วนนามสกุลทำไมนามสกุลเดียวกัน มันเป็นความบังเอิญอีกอย่างที่น่าตกใจมาก บังเอิญราวกับถูกจับวาง รวมถึงการแสดงออกหรือสีหน้าท่าทางก็เหมือนแม่เนตรนภาในโลกเดิม แต่ที่สะดุดตาและชวนสงสัยมากกว่าคือแผนก เวชศาสตร์เพศรอง ชื่อแผนกแปลกจนในหัวเมฆินทร์นึกตลก หรือว่าจะเป็นพวกโอเมก้าอัลฟ่าแบบในนิยายที่เขาเคยอ่าน ‘ต้องช็อคอีกกี่เรื่อง… เพศรองมีจริงบนโลกเหรอ? โอเมก้าเวิร์สของแท้ไหมเนี่ย’ “ลมหนาว... ฟังแม่นะลูก” เสียงของพราวฟ้าจริงจังเรียกสติที่กำลังคิดนั่นคิดนี่ของเมฆินทร์ให้เข้าที่ “สิ่งที่อยู่บนหลังของลูก พิษของดอกอะโคไนต์... มันไม่ใช่สิ่งที่จะปล่อยไว้เฉย ๆ ได้ แม่ว่าลูกเข้าใจความร้ายกาจของพิษนี้ดี เพราะมันเคยกำเริบมาหลายครั้งแล้ว”
แกร๊ก.. เสียงประตูห้องพักผู้ป่วยดังขึ้นทำลายความฟุ้งซ่านของเมฆินทร์ บานประตูเปิดออกแต่เขาไม่ได้สนใจมัน เพราะคิดว่าสายหมอกอาจจะลืมของหรือไม่ก็ร้านเค้กที่ว่ามันอยู่ใกล้จริง ๆ จนใช้เวลาไม่นานก็กลับมาแล้ว เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ พร้อมกับกลิ่นน้ำหอมที่เขารู้สึกคุ้นเคยและจำได้ดี กลิ่นนี้ทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัว รีบหันใบหน้าไปมองยังผู้มาเยือนทันที “ลูกแม่ฟื้นแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะคนเก่ง” อ้อมกอดที่อบอุ่นและนุ่มนวลถูกมอบให้กับเขา เมฆินทร์นิ่งค้าง ตัวแข็งทื่อไปหมด ซ้ำยังเผลอกลั้นหายใจ เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาและสัมผัสที่กำลังได้รับ "แม่... ฟ้า...” เขาพูดเสียงเบาหวิวและสั่นเครือ สองแขนยกขึ้นกระชับกอดหญิงสาวที่สวมชุดกราวน์สีขาวสะอาดตาตรงหน้าแน่น แต่แล้วความปวดหน่วงที่ศีรษะก็กลับมาอีกครั้ง มันสร้างความทรมานให้กับร่างกาย เสียงรอบตัวเริ่มอื้ออึงแทบจะจับใจความไม่ได้ ‘อีกแล้ว... ความทรงจำมันไหลเข้ามาในหัวอีกแล้ว’ “หนาว ลมหนาว ลมหนาวลูก!” เสียงเอ่ยเรียกชื่อเจ้าของร่างซ้ำแล้วซ้ำเล่าดึงให้เมฆินทร์กลับมาสู่ปัจจุบัน น้ำตาใสไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
“อ๊ากกกกก!” เมฆินทร์เซถลาราวกับถูกผลักจนร่างกายเกือบทรุดลงไป แต่สองมือยังกำแน่นที่ขอบของเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ความรู้สึกที่เขาได้รับรู้แล่นพล่านไปทั่วร่างกายราวกับของจริง... ความปวดแสบปวดร้อนในช่องท้อง ความทรมานที่หัวใจ... และความสิ้นหวังที่กัดกินจิตใจ... เขารับรู้ถึงมันทั้งหมด ‘ถ้าสิ่งที่รับรู้ มันคือความจริง.. มันน่าสมเพชเกินไป! ยอมตายเพราะผู้ชายคนเดียวน่ะเหรอ? ช่างเป็นวิธีจบชีวิตที่ไร้ค่าสิ้นดี!’ ส่วนลึกในจิตใจของที่กำลังสับสนว่าตัวตนของเขาหรือความทรงจำที่ฉายชัด มันคืออะไรกันแน่ เมฆินทร์ที่มุ่งมั่นและทะเยอทะยานมาตลอดชีวิต จะไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นเด็ดขาด แต่ทำไมความเจ็บปวดหรือทุกอย่างที่รู้สึกได้.. ราวกับมันคือตัวเขาเองที่เป็นผู้กระทำและทรมานกับมันแบบแสนสาหัส ดวงตาเวลานี้รื้นไปด้วยน้ำตา สมองของเขาพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด เขาคือเมฆินทร์ที่ก่อนหน้านี้เกิดอุบัติเหตุรถชน ร่างกายของเขาเหมือนกับจะแหลกสลายในครานั้น ก่อนจะไม่รับรู้อะไร สติอันเลือนรางอ้อนวอนต่อใครก็ตามที่เขานึกได้ให้เขารอด ‘หรือว่า.. พรข้อนั้นที่เขาขอ มัน




![สถานะลับ(รับ)สถานะรัก [เมะxเมะ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


