พิศวาสลวงบ่วงมาร

พิศวาสลวงบ่วงมาร

last updateLast Updated : 2025-08-19
By:  Luffy.gUpdated just now
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
55Chapters
39views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ปรมาจารย์ผู้เยือกเย็นดุจน้ำแข็งกลับได้พบกับ "มารน้อย" ผู้มาพร้อมรอยยิ้มงดงามที่ซ่อนคมมีดแห่งแผนการร้าย หนึ่งคือปรมาจารย์ผู้ไร้หัวใจ... หนึ่งคือจอมมารผู้ไร้ปรานี... เขาคือจอมมารผู้หมายจะช่วงชิงทุกสิ่ง แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในเกมแห่งการล่อลวงจะกลายเป็นพันธนาการนิรันดร์ เมื่อบ่วงมารร้อยรัดดวงจิต ปรมาจารย์ผู้สูงส่งต้องเลือกว่าจะยอมจำนนต่อไฟพิศวาส หรือดับมอดไปพร้อมกับแผนการที่ถูกถักทอ

View More

Chapter 1

บทที่ 1 ผู้มาเยือน

บทที่ 1 ผู้มาเยือน

         บนยอดเขาสูงเสียดฟ้า ใจกลางป่าสนโบราณที่ปกคลุมด้วยม่านหมอกเยือกเย็นตลอดทั้งสี่ฤดู ปรากฏที่ตั้งสูงตระหง่านนั่นคือ สำนักเมฆาขาว สถานที่ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแหล่งรวมสรรพวิชาลึกล้ำ และเป็นที่พำนักของ ปรมาจารย์หลี่ซาน ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดั่งเทพเซียนมีชีวิต ความรู้ของเขาลึกซึ้ง หยั่งถึงศาสตร์เร้นลับแห่งฟ้าดินจนมิอาจมีผู้ใดเทียบเทียม

         ทว่าความสามารถอันเป็นเลิศนั้นกลับถูกห่อหุ้มไว้ด้วยบุคลิกที่เยือกเย็นดุจหิมะ ใจแข็งกระด้างราวศิลา ยะเยือกจนผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้ แม้แต่ลูกศิษย์ผู้ซื่อสัตย์ที่คอยรับใช้อยู่รายล้อมยังคงต้องรักษาระยะห่าง ไม่อาจก้าวล่วงเข้าไปในอาณาเขตส่วนตัวของเขาได้ ไม่เคยมีผู้ใดได้สัมผัสถึงความอ่อนโยน หรือแม้แต่รอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าหล่อเหลาที่ถูกสลักเสลาอย่างสมบูรณ์แบบนั้น

         หลี่ซานคือปรมาจารย์ผู้โดดเดี่ยวที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของหุบเขาแห่งความรู้และความเกรียงไกร มีเพียงลมหายใจเข้าออกที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เพียงรูปปั้นหินสลักที่งดงามไร้ความรู้สึก

         ค่ำคืนหนึ่งซึ่งจันทร์เต็มดวงสาดส่องลงมาต้องยอดไม้จนเกิดเงาทมิฬยามลมพัดกรู สำนักเมฆาขาวที่มักเงียบสงัดดุจป่าช้า กลับถูกรบกวนด้วยเสียงเคาะประตูที่เบาแผ่ว

         หลี่ซานผู้ซึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่หน้าแท่นบูชา หินอ่อนสีดำขลับสะท้อนแสงเทียนริบหรี่ บำเพ็ญเพียรในยามวิกาล คิ้วเรียวโก่งงามขมวดเข้าหากันเพียงเล็กน้อย นัยน์ตาคมกริบดุจเหยี่ยวมองผ่านม่านหมอกที่ลอยต่ำออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มีจังหวะที่อ่อนระโหยโรยแรงลงไปอีก ราวกับผู้มาเยือนกำลังจะขาดใจ

         “ผู้ใดบังอาจมารบกวนยามวิกาล” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นแผ่วเบา หากแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจที่ทำให้มวลอากาศรอบกายหนาวเย็นยะเยือก

         พลังปราณอันทรงพลังแผ่ซ่านออกมารอบกาย ทำให้ลูกศิษย์ผู้เฝ้าประตูที่กำลังขนลุก พวกเขารีบก้มศีรษะลงแสดงความเคารพต่อเงาร่างสูงสง่าที่ก้าวเข้ามาใกล้

         หลี่ซานลุกขึ้นยืนช้าๆ ร่างสูงสง่าในชุดผ้าไหมสีขาวบริสุทธิ์ราวหิมะขยับเพียงเล็กน้อยยามก้าวเดินอย่างมั่นคง ไร้ซึ่งความกังวลหรือหวาดระแวงแม้แต่น้อยในแววตาที่สงบนิ่ง เขาก้าวเท้าออกไปช้าๆ ตรงไปยังประตูไม้เนื้อแข็งบานใหญ่ที่สลักลวดลายเมฆมงคลโบราณ

         เมื่อประตูไม้บานหนาหนักถูกผลักออกช้าๆ เผยให้เห็นด้านนอกที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะโปรยปราย สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้ากลับทำให้แม้แต่ปรมาจารย์ผู้เยือกเย็นดุจน้ำแข็งยังชะงักงันไปชั่วขณะ ดวงตาคมกริบเบิกกว้างขึ้นเพียงน้อยนิด ก่อนจะหรี่ลงพิจารณาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างละเอียด

         ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งล้มฟุบอยู่บนธรณีประตู เสื้อผ้าที่สวมใส่ขาดรุ่งริ่งจนเห็นเนื้อใน เปื้อนดินโคลนและเลือดตามร่างกายจนแยกไม่ออกว่าบาดเจ็บตรงไหนบ้าง เส้นผมสีดำขลับที่เคยถูกรวบอย่างเป็นระเบียบกลับยุ่งเหยิงพันกันเป็นปม ใบหน้าซีดขาวจนแทบไร้สี ริมฝีปากแห้งผากแตกเป็นรอย ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยราวกับกำลังฝืนเปิดมองโลกที่พร่าเลือนเบื้องหน้า แต่สิ่งที่ทำให้หลี่ซานรู้สึกแปลกประหลาดอย่างถึงที่สุดคือ... รอยยิ้มจางๆ ที่ประดับอยู่บนริมฝีปากซีดเผือดนั้น มันเป็นรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยน บอบบาง ราวกับดอกไม้แรกแย้มที่กำลังจะเหี่ยวเฉาเพราะพิษหนาว

         บางสิ่งที่ดึงดูดสายตาของหลี่ซานให้จ้องมองโดยไม่รู้ตัว ราวกับมีมนตร์สะกดลึกลับที่ยากจะต้านทาน

         “คารวะ...ท่านปรมาจารย์หลี่ซาน...” เสียงแหบพร่าเอ่ยออกมาแผ่วเบา ราวกับใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเพื่อเปล่งคำพูดเหล่านั้น ก่อนที่ร่างนั้นจะทรุดลงหมดสติไปในอ้อมแขนของศิษย์ผู้หนึ่งที่รีบเข้าไปประคองด้วยความตกใจ

         หลี่ซานมองร่างที่ไร้สติของชายหนุ่มผู้นั้นนิ่งนาน ดวงตาที่เคยไร้ความรู้สึกกลับฉายแววครุ่นคิดเพียงแวบเดียว ก่อนจะหันไปออกคำสั่งเสียงเรียบเฉย ทว่าแฝงความหนักแน่น “พาเขาไปรักษา”

         ศิษย์รับคำสั่งด้วยความงุนงง เพราะปรมาจารย์ไม่เคยยื่นมือเข้าช่วยผู้ใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับสำนักมาก่อน แต่พวกเขาก็รีบทำตามคำสั่งโดยทันที

         ดวงตาของหลี่ซานยังคงจับจ้องไปที่ร่างที่อ่อนแอและบอบบางที่กำลังถูกพยุงลับหายไปในความมืดมิดของโถงทางเดิน พลันภาพรอยยิ้มจางๆ นั้นก็ย้อนกลับมาฉายชัดในห้วงความคิด รอยยิ้มที่ดูบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ทว่ากลับทิ้งความรู้สึกบางอย่างไว้ในใจที่เคยสงบนิ่งราวผืนน้ำในบึงอันเงียบสงัด

         เมื่อกลับเข้ามาในห้องบำเพ็ญเพียร หลี่ซานยังคงนั่งขัดสมาธิในท่าเดิม ทว่าจิตใจกลับไม่สงบดุจเดิม ภาพของชายหนุ่มผู้นั้นยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงความคิด มันเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกแปลกประหลาดใจ ความสงบนิ่งที่เคยมีมาตลอดหลายร้อยปีกลับสั่นไหวอย่างไม่น่าเชื่อ

         หลี่ซานหยิบหยกเย็นที่วางอยู่ข้างกายขึ้นมาสัมผัส ความเย็นเยียบของหยกช่วยให้จิตใจสงบลงได้บ้าง แต่มันก็ทำได้เพียงชั่วครู่ เสียงลมหายใจที่แผ่วเบาของชายหนุ่มเมื่อครู่ เสียงที่ดูอ่อนแรง ทว่ากลับเต็มไปด้วยความแข็งกร้าวและความดื้อรั้นยังคงก้องอยู่ในโสตประสาท

         หลี่ซานไม่เคยสนใจโลกภายนอก ไม่เคยมีสิ่งใดกระทบกระเทือนจิตใจอันมั่นคงของเขาได้ แต่ชายหนุ่มผู้นั้น... เขากลับทิ้งบางสิ่งไว้ในจิตใต้สำนึกของเขาอย่างไม่อาจห้ามได้

         หลายชั่วยามผ่านไป ภายในห้องพักที่มักถูกใช้เพื่อรักษาศิษย์ที่บาดเจ็บจากการฝึกวิชา ร่างของชายหนุ่มผู้นั้นนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม้ พลังปราณบริสุทธิ์ถูกถ่ายเทเข้าร่างโดยหมอประจำสำนักเพื่อขับพิษและรักษาบาดแผลภายนอก

         เมื่อบาดแผลถูกชำระล้างจนสะอาด เผยให้เห็นผิวพรรณที่ขาวละเอียดราวหยกน้ำดี แม้จะผอมซูบไปบ้างจากการอดอยาก แต่เค้าโครงใบหน้านั้นกลับงดงามเกินกว่าบุรุษเพศทั่วไป เส้นผมสีดำขลับที่สยายออกคลอเคลียใบหน้า ทำให้รูปลักษณ์ของเขาดูอ่อนโยนและน่าทะนุถนอมยิ่งนัก แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาอาบไล้เรือนร่าง ทำให้เขาดูราวกับเทพเซียนที่ร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์ สั่นสะเทือนจิตใจของผู้ที่พบเห็น

         ทันใดนั้นเอง ดวงตาที่หลับพริ้มมานานก็ค่อยๆ เปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นนัยน์ตาสีเทาหม่นที่ดูลึกลับแต่ชวนให้หลงใหลในคราเดียวกัน ริมฝีปากซีดเผือดขยับเล็กน้อย พึมพำชื่อหนึ่งออกมาเบาๆ “ท่านปรมาจารย์...หลี่ซาน...”

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
55 Chapters
บทที่ 1 ผู้มาเยือน
บทที่ 1 ผู้มาเยือน บนยอดเขาสูงเสียดฟ้า ใจกลางป่าสนโบราณที่ปกคลุมด้วยม่านหมอกเยือกเย็นตลอดทั้งสี่ฤดู ปรากฏที่ตั้งสูงตระหง่านนั่นคือ สำนักเมฆาขาว สถานที่ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแหล่งรวมสรรพวิชาลึกล้ำ และเป็นที่พำนักของ ปรมาจารย์หลี่ซาน ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดั่งเทพเซียนมีชีวิต ความรู้ของเขาลึกซึ้ง หยั่งถึงศาสตร์เร้นลับแห่งฟ้าดินจนมิอาจมีผู้ใดเทียบเทียม ทว่าความสามารถอันเป็นเลิศนั้นกลับถูกห่อหุ้มไว้ด้วยบุคลิกที่เยือกเย็นดุจหิมะ ใจแข็งกระด้างราวศิลา ยะเยือกจนผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้ แม้แต่ลูกศิษย์ผู้ซื่อสัตย์ที่คอยรับใช้อยู่รายล้อมยังคงต้องรักษาระยะห่าง ไม่อาจก้าวล่วงเข้าไปในอาณาเขตส่วนตัวของเขาได้ ไม่เคยมีผู้ใดได้สัมผัสถึงความอ่อนโยน หรือแม้แต่รอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าหล่อเหลาที่ถูกสลักเสลาอย่างสมบูรณ์แบบนั้น หลี่ซานคือปรมาจารย์ผู้โดดเดี่ยวที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของหุบเขาแห่งความรู้และความเกรียงไกร มีเพียงลมหายใจเข้าออกที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เพียงรูปปั้นหินสลักที่งดงามไร้ความรู้สึก ค่ำคืนหนึ่งซึ่งจันทร์เต็มดวงสาดส่อง
last updateLast Updated : 2025-08-19
Read more
บทที่ 2 จอมมารน้อย
บทที่ 2 จอมมารน้อย “เฟิ่งอวี้” คือชื่อของชายหนุ่มผู้นี้ ในห้วงแห่งสติที่เลือนราง ภาพสุดท้ายที่เขามองเห็นคือใบหน้าอันเย็นชาและสง่างามของปรมาจารย์หลี่ซาน และเขาก็รู้ดีว่าแผนการขั้นแรกของเขานั้น...สำเร็จแล้ว รอยยิ้มบางเบาผุดขึ้นบนใบหน้ายามหลับตาลงอีกครั้ง ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับแตกต่างจากรอยยิ้มที่หลี่ซานได้เห็น มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอำมหิต แผนการอันแยบยลและเลือดเย็นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เบื้องหน้าของเฟิ่งอวี้คือหลี่ซาน ปรมาจารย์ผู้เย่อหยิ่งที่ผู้คนต่างเกรงกลัว ทว่าสำหรับเขาแล้ว นั่นเป็นเพียงก้าวแรกสู่การครอบครองสิ่งสูงค่าที่เขาหมายปองมาเนิ่นนาน เฟิ่งอวี้ย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อน ในวันที่เขาตัดสินใจเดินทางมายังสำนักเมฆาขาว เส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตรายและอุปสรรคมากมาย แต่เขากลับไม่คิดจะย่อท้อ ด้วยเป้าหมายเดียวคือการเข้าใกล้หลี่ซานให้มากที่สุด เฟิ่งอวี้ไม่ใช่บุรุษผู้อ่อนแออย่างที่ปรากฏภายนอก เขาเป็นถึงบุตรชายของจอมมารผู้ชั่วร้ายและแกร่งกล้า เขามีความสามารถในการต่อสู้ที่ซ่อนเร้น ความเฉลียวฉลาดที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบได้ และเหนือสิ่งอื่นใดคือจิต
last updateLast Updated : 2025-08-19
Read more
บทที่ 3 กับดัก
บทที่ 3 กับดัก “ไม่ต้องลุก” หลี่ซานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “เจ้ายังบาดเจ็บอยู่” เฟิ่งอวี้ยิ้มบางๆ ออกมาราวกับรู้สึกตื้นตันใจอย่างสุดซึ้ง “ข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณท่านปรมาจารย์ที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้” เสียงของเขานั้นทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยนทำให้ผู้ฟังรู้สึกสงบและผ่อนคลาย หลี่ซานไม่ตอบคำ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง และสำรวจบาดแผลบนร่างกายของชายหนุ่มอย่างละเอียด ดวงตาของเขาหยุดลงที่รอยแผลเป็นที่บาดลึก ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นรอยแผลเก่า ซึ่งบ่งบอกว่าชายหนุ่มผู้นี้ได้ผ่านอะไรมาไม่น้อยอย่างแน่นอน “เจ้าเป็นใคร มาจากที่ใด” หลี่ซานถามเสียงเรียบไร้อารมณ์ เฟิ่งอวี้ถอนหายใจแผ่วเบา ดวงตาคู่สวยฉายแววเศร้าสร้อยทันที “ข้าไร้บ้าน ไร้ญาติมิตร จึงจำต้องเร่ร่อนไปทั่ว บัดนี้ข้าถูกคนตามล่าด้วยหวังจะขายข้าให้กับหอโคมเขียว ข้าจึงต้องหลบหนีอย่างหัวซุกหัวซุน จนกระทั่งมาถึงที่นี่...” เฟิ่งอวี้กล่าวพลางสะอึกสะอื้นออกมาพลาง น้ำเสียงที่เบาหวิวจนแทบจะกลืนหายในลำคอ กับน้ำตาที่เอ่อคลอราวกับพยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้ไหลริน “ข้าได้ยินกิตติศัพท์ของท่านมานาน ว่าท่านเป็นผู้มี
last updateLast Updated : 2025-08-19
Read more
บทที่ 4 ตกหลุมพราง
บทที่ 4 ตกหลุมพราง หลี่ซานเงียบไปพักหนึ่ง บรรยากาศในห้องโถงพลันเงียบสงัดลงจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของทั้งสองคน เฟิ่งอวี้ยังคงคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า ก้มหน้าลงเล็กน้อย แต่ในใจกลับกำลังคำนวณปฏิกิริยาของหลี่ซานอย่างละเอียด เขารู้ดีว่าหลี่ซานไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกได้ง่ายๆ ความเย็นชาและเย่อหยิ่งของเขานั้นเป็นเกราะป้องกันชั้นดี แต่เฟิ่งอวี้ก็มีอาวุธที่เหนือกว่า นั่นคือความสามารถในการควบคุมจิตใจผู้อื่น และภาพลักษณ์ที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาที่เขาสร้างขึ้นมาอย่างบรรจง หลังจากผ่านไปช่วงเวลาอันน่าอึดอัด ในที่สุดหลี่ซานก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเรียบเฉย ทว่าแฝงไว้ด้วยอำนาจ “เช่นนั้น...พรุ่งนี้เช้า ให้เจ้ามารายงานตัวที่ลานฝึก ข้าจะดูว่าเจ้ามีคุณสมบัติพอที่จะเป็นศิษย์ของสำนักเมฆาขาวหรือไม่” เฟิ่งอวี้เงยหน้าขึ้นช้าๆ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มกว้างสดใสทันที ดวงตาคู่สวยเป็นประกายราวกับได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุดในชีวิต “ขอบคุณขอรับ! เฟิ่งอวี้จะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!” เขาก้มลงกราบอีกครั้งอย่างนอบน้อม ก่อนจะลุกขึ้นยืนช้าๆ ด้วยท่าทางอ่อนแรงเล็กน้อย หลี่ซานยืนนิ่งสงบมองดูเฟิ
last updateLast Updated : 2025-08-19
Read more
บทที่ 5 คืบคลาน
บทที่ 5 คืบคลาน เวลาผ่านไปหลายชั่วยาม อากาศเริ่มเย็นลงอีกครั้ง หลี่ซานเห็นว่าเฟิ่งอวี้เริ่มมีอาการเหนื่อยล้า ร่างกายเริ่มสั่นเทาเล็กน้อย เขาจึงเอ่ยปากขึ้น “วันนี้พอแค่นี้ก่อน” เฟิ่งอวี้ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ใบหน้าซีดขาว แต่ดวงตาคู่สวยยังคงเปล่งประกายด้วยความกระตือรือร้น “ขอบคุณท่านอาจารย์ เฟิ่งอวี้รู้สึกว่าตนเองยังอ่อนด้อยนัก ยังมีสิ่งที่ข้าต้องเรียนรู้อีกมาก” “เจ้าเป็นคนมีพรสวรรค์” หลี่ซานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เฟิ่งอวี้ชะงักไปเล็กน้อย เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคำชมเชยจากปากคนผู้นี้ “แต่พรสวรรค์ที่ไร้การฝึกฝนก็ไร้ความหมาย วันนี้จงกลับไปพักผ่อนเสียก่อน” เฟิ่งอวี้ยิ้มบางๆ คำนับอย่างนอบน้อม ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้หลี่ซานยืนอยู่กลางลานฝึกเพียงลำพัง หลี่ซานยังคงจ้องมองแผ่นหลังของเฟิ่งอวี้ที่ค่อยๆ เลือนหายไปท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ก่อตัวขึ้นในใจของเขาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ไม่สบายใจ แต่เป็นความสนใจ...ความสนใจที่อยากจะรู้ว่าภายใต้ท่าทีอ่อนโยนและบอบบางของเฟิ่งอวี้ แท้จริงแล้วซ่อนเร้นสิ่งใดอยู่กันแน่
last updateLast Updated : 2025-08-19
Read more
บทที่ 6 สั่นไหว
บทที่ 6 สั่นไหว เฟิ่งอวี้ถอนหายใจแผ่วเบา “ข้าเพียงคิดว่า...หากปราศจากความรู้สึกใดๆ แล้ว ชีวิตจะมีความหมายอันใดเล่า ความสุข ความเศร้า ความรัก ความเกลียดชัง...สิ่งเหล่านี้ล้วนหล่อหลอมให้เราเป็นเรา หากไร้ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ก็ไม่ต่างอะไรจากรูปปั้นหินที่งดงามแต่ไร้ชีวิตจิตใจ” คำกล่าวของเฟิ่งอวี้ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจของหลี่ซาน เขาจ้องมองเฟิ่งอวี้ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความประหลาดใจ ตลอดชีวิตของเขา เขาเชื่อมั่นมาตลอดว่าการไร้ใจคือหนทางสู่ความสมบูรณ์แบบ แต่คำพูดของเด็กหนุ่มผู้นี้กลับสั่นคลอนความเชื่อของเขาอย่างรุนแรง เฟิ่งอวี้ยกมือขึ้นช้าๆ แตะลงบนแขนเสื้อของหลี่ซานอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มอ่อนโยนประดับบนใบหน้า ทว่าดวงตาคู่สวยกลับฉายแววลึกล้ำเกินกว่าจะคาดเดา “ท่านอาจารย์...ท่านงดงามราวเทพเซียน แต่กลับดูโดดเดี่ยวเหลือเกิน...หากวันหนึ่งท่านมี 'ใจ' ขึ้นมา...ท่านจะรู้สึกว่าโลกใบนี้ไม่ได้ว่างเปล่าอย่างที่ท่านคิด” สัมผัสที่แผ่วเบาของเฟิ่งอวี้ ราวกับกระแสไฟฟ้าที่แล่นเข้าสู่ร่างของหลี่ซาน ทำให้เขารู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วทั้งกาย ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ไม่อาจอธิบ
last updateLast Updated : 2025-08-19
Read more
บทที่ 7 รุกคืบ
บทที่ 7 รุกคืบ ในค่ำคืนที่ลมหนาวพัดแรงจนกิ่งไม้เสียดสีกันดุจเสียงกระซิบ เฟิ่งอวี้แอบเข้าไปยังห้องบำเพ็ญเพียรของหลี่ซาน แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ เผยให้เห็นร่างของหลี่ซานที่นั่งขัดสมาธิอยู่หน้าแท่นบูชาอย่างสงบนิ่ง เฟิ่งอวี้ค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปใกล้ ด้วยวิชาตัวเบาที่ฝึกฝนมาอย่างยอดเยี่ยม ทำให้เขาไร้ซึ่งเสียงยามก้าวเดิน ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่ด้านหลังของหลี่ซานในระยะที่ห่างพอสมควร ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยพลังปราณสีดำบางเบาออกจากปลายนิ้ว พลังปราณนั้นไหลเข้าไปยังร่างของหลี่ซานอย่างช้าๆ มันไม่ใช่พลังที่สร้างความเสียหาย แต่เป็นพลังที่ค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในเส้นลมปราณของหลี่ซาน และเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างอย่างเงียบๆ พลังปราณที่เฟิ่งอวี้ถ่ายทอดเข้าไปนั้น เป็นพลังที่เขาสร้างขึ้นมาจากการหลอมรวมพลังปราณที่ชั่วร้ายบางส่วนเข้ากับพลังปราณบริสุทธิ์ของเขาเอง มันมีผลต่อการควบคุมอารมณ์และจิตใจของผู้รับ ทำให้ผู้รับเริ่มอ่อนไหวต่อสิ่งเร้าภายนอกมากขึ้น นี่คือแผนการที่เฟิ่งอวี้คิดคำนวณมาอย่างถี่ถ้วน เขารู้ว่าหลี่ซานมีพลังปราณแข็งแกร่งและจิตใจมั่นคงราวหินผา ยาก
last updateLast Updated : 2025-08-19
Read more
บทที่ 8 ครอบครอง
บทที่ 8 ครอบครอง คำพูดนั้นราวกับเปลวไฟที่จุดประกายในใจของหลี่ซาน ความปรารถนาอันรุนแรงพุ่งเข้าครอบงำจิตใจของเขาอย่างสมบูรณ์ เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป หลี่ซานก้มลงจุมพิตริมฝีปากของเฟิ่งอวี้อย่างรุนแรงและหิวกระหาย มันเป็นจุมพิตที่เต็มไปด้วยความสับสน ความใคร่ และความต้องการที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เฟิ่งอวี้ยิ้มเยาะในใจอย่างผู้มีชัย แผนการของเขาได้ผลเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ ชายหนุ่มตอบรับจุมพิตของหลี่ซานอย่างเร่าร้อน มือเรียวโอบรอบคอของหลี่ซานแน่นขึ้น ดึงรั้งอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิม รสจูบของหลี่ซานนั้นดิบเถื่อนและหิวกระหาย มันไม่ใช่จุมพิตที่อ่อนโยน แต่เป็นจุมพิตที่แสดงถึงความต้องการที่ถูกปลุกเร้า เฟิ่งอวี้สัมผัสได้ถึงความสับสนและความปรารถนาอันรุนแรงในตัวของปรมาจารย์ผู้สูงส่งผู้นี้ เขารู้สึกถึงชัยชนะอันหอมหวานที่กำลังจะมาถึง หลี่ซานโอบร่างของเฟิ่งอวี้แน่นขึ้น แขนอีกข้างสอดเข้าไปใต้แผ่นหลังของเฟิ่งอวี้ ยกอีกฝ่ายขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวอย่างง่ายดาย แม้เฟิ่งอวี้จะบาดเจ็บ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความเจ็บปวดใดๆ เขายังคงจุมพิตตอบหลี่ซานอย่างเร่าร้อน ดวงตาคู่สว
last updateLast Updated : 2025-08-19
Read more
บทที่ 9 เป็นของข้า
บทที่ 9 เป็นของข้า หลี่ซานไม่ได้ยินคำพูดของเฟิ่งอวี้อีกต่อไป เขามึนเมาไปกับไฟปรารถนาที่กำลังแผดเผาเขาจากภายใน ความเยือกเย็นของวิชา “ไร้ใจ” ได้ถูกทำลายลงไปอย่างสมบูรณ์ เขากลายเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่ถูกครอบงำด้วยความรู้สึกอันเร่าร้อน...ความรู้สึกที่เฟิ่งอวี้ได้ปลุกปั่นขึ้นมา มือหนาของเฟิ่งอวี้ปลดเปลื้องอาภรณ์ของหลี่ซานออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นเรือนร่างอันแข็งแกร่งและเย้ายวน สัมผัสร้อนรุ่มของเขาลูบไล้ไปทั่วทุกส่วนของร่างกายหลี่ซาน ทำให้ผิวขาวเย็นเยือกนั้นเร่าร้อนและขึ้นสีแดงระเรื่อขึ้นมา “อ่า....” หลี่ซานครางในลำคออย่างพอใจ ยามที่เฟิ่งอวี้ก้มลงจูบไล้ไปตามของเขาอย่างดูดดื่ม ยิ่งเมื่อริมฝีปากบอบบางนั้นไล้ต่ำลงไปยังแผงอกของเขาอย่างยั่วเย้าและซุกซน นั่นยิ่งทำให้สติสัมปชัญญะของหลี่ซานแตกซ่านไปจนหมดสิ้น เขาทำได้เพียงแหงนหน้าขึ้นรับความเสียวซ่านที่ไม่เคยพบพาน ร่างกายอ่อนระทวยจนไม่อาจควบคุมได้ หลี่ซานจึงทำได้เพียงปล่อยร่างกายให้เคลื่อนไหวไปตามสัมผัสที่เร่าร้อนที่เฟิ่งอวี้ปรนเปรอให้แก่เขาอย่างไม่หยุดหย่อน เสียงหอบกระชั้นของทั้งสองดังขึ้นระงมไปทั่วห
last updateLast Updated : 2025-08-19
Read more
บทที่ 10 ราตรีหม่น
บทที่ 10 ราตรีหม่น ค่ำคืนนั้นยังคงดำเนินไปอย่างบ้าคลั่ง เฟิ่งอวี้ที่ได้ครอบครองหลี่ซานอย่างสุขสม ความปรารถนาในใจอันท่วมท้นมิอาจเติมเต็มได้เพียงครั้งเดียว ภายในห้องของหลี่ซาน กลิ่นอายของความปรารถนาที่เร่าร้อนยังคงคละคลุ้งไปทั่วอย่างไม่มีท่าทีจะสิ้นสุด เฟิ่งอวี้ยิ้มเยาะในใจ เมื่อเขายังคงคลอเคลียเลียไล้ไปตามร่างกายของหลี่ซานอย่างหิวกระหาย สัมผัสอันรุนแรงและป่าเถื่อนของเฟิ่งอวี้ ทำให้หลี่ซานรู้สึกขนลุกชันขึ้นอีกครั้ง ความเจ็บปวดและอับอายก่อนหน้ายังคงติดตรึงไม่จางหาย แต่ทว่าร่างกายกลับร้อนรุ่มขึ้นมาจากการปรนเปรอของคนเบื้องหน้า จนชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความสับสน เฟิ่งอวี้รู้สึกถึงชัยชนะอันหอมหวานที่กำลังจะมาถึง เขาโอบรอบคอหลี่ซานแน่นขึ้น ริมฝีปากยังคงลวนลามไปทั่วร่างกายราวกับต้องการแผดเผาคนตรงหน้าอย่างไม่ลดละ นิ้วเรียวยาวจิกเข้าที่แผ่นหลังกว้างของหลี่ซานอย่างลืมตัว บ่งบอกถึงความตื่นเต้นที่กำลังพลุ่งพล่านในกาย หลี่ซานเองก็ถูกราคะเข้าครอบงำจนหมดสิ้น ร่างกายคลั่งไคล้และโหยหาในรสสัมผัสของเฟิ่งอวี้ เขาลืมสิ้นซึ่งวิชา “ไร้ใจ” ที่ฝึกฝนมาตลอดชีวิต ดวงตาคมก
last updateLast Updated : 2025-08-19
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status