ของขวัญจากแฟนเก่า
“ตาณเอ๊ยตาณ แกมัวแต่ทำอะไรอยู่ ของที่ลูกค้าสั่งอยู่ไหน” เสียงเรียกหญิงสาวดังมาจากหลังครัว คนเรียกหากำลังง่วนอยู่กับการเช็กรายการสั่งซื้อซึ่งยาวเป็นหางว่าว
“หนูอยู่นี่เจ้ รอเดี๋ยว กำลังจะไป” ตาณว่าพร้อมถือถุงพลาสติกมาวางที่โต๊ะ
“มัวไปทำอะไรอยู่ หายไปเป็นชั่วโมง หรือว่าแอบไปนัดดูตัวกับหนุ่มเกาหลีอีก” เบบี้ สาวประเภทสองเพื่อนรุ่นพี่ซึ่งทำหน้าที่ฝ่ายบัญชีถามตาณด้วยความเป็นห่วงและอยากรู้
เมื่อต้นปี ตาณรับงานพิเศษกับบริษัทจัดหาคู่ของชาวต่างชาติ เป็นการนัดพูดคุยกับหนุ่มเกาหลี ผลตอบแทนดีไม่น้อย วิธีการก็ไม่มีพิธีรีตองมากมาย เพียงแค่ไปพบกับหนุ่มที่อยากได้คู่ครองเป็นสาวไทยที่ร้านอาหาร หรือสถานที่ซึ่งบริษัทจัดหาให้ การสนทนาผ่านล่ามช่วยแปลภาษา ทั้งภาษาอังกฤษหรือภาษาเกาหลี เมื่อจบการพูดคุยสั้นๆ ราวครึ่งชั่วโมงก็รับเงินเข้ากระเป๋า
ตาณรับงานดังกล่าวราวห้าเดือนเศษ ได้พบผู้ชายนับแล้วก็เกินสองโหล งานดังกล่าวผ่านการบอกต่อของพนักงานในร้านคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้บินไปอยู่ที่เกาหลีเรียบร้อยแล้ว
และต้นเดือนที่ผ่านมา เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับตาณ เมื่อหนุ่มเกาหลีคนหนึ่งขอนัดพบหล่อนเป็นหนที่สอง การนัดดูตัวครั้งนี้สำคัญมากเพราะมีผลที่จะทำให้หล่อนได้เป็นภรรยาของอปป้าสุดหล่อ
“ครั้งเดียวก็พอมั้งคะ ตาณเกรงใจคุณเขา” หญิงสาวบอกปฏิเสธในการนัดพบครั้งที่สองของหนุ่มเกาหลีวัย 35 ปี
ไม่ใช่ว่าเพราะอายุห่างกันมากเกินไป แต่หล่อนทำใจไม่ได้ เมื่อรู้ว่าเขามีภรรยามาแล้วถึงสามคน และทั้งสามล้วนตายโหง!
ใช่ ฟังไม่ผิด สามสาวต่างประสบอุบัติเหตุแบบสยองขวัญ
“แต่น้องคะ คุณบุนซูชอบน้องมาก และไม่เกี่ยงว่าจะมีข้อแม้อะไร” พนักงานบริษัทจัดหาคู่ เอ่ยถึงอปป้าและยังอธิบายสรรพคุณ พร้อมเชียร์ให้หล่อนยอมไปพบอีกฝ่ายเพื่อสานไมตรีต่อ
“ขอบคุณค่ะ แต่ตอนนี้หนูไม่สะดวกจริงๆ และฝากขอบคุณเขาด้วยที่เมตตา”
หญิงสาวพูดอย่างรักษาน้ำใจทั้งสองฝ่าย ถึงอย่างไรหล่อนก็ได้เงินจากบริษัทนั้นมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องมากโข ส่วนสาเหตุที่แท้จริงซึ่งหล่อนไม่อาจบอกให้บริษัทจัดหาคู่ทราบก็คือ หลังจากพบหน้าบุนซูและรู้ภูมิหลังอีกฝ่าย ตาณก็ปอดแหก ถึงเขาจะหล่อจัดประหนึ่งดาราในหน้าจอทีวี มีคุณสมบัติน่าจับเป็นสามีมากเพียงใด แต่ผู้ชายที่มีดวงกินเมียอย่างนั้น ตาณคงไม่กล้าเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง
“อูย ก็หนูบอกว่าเลิกแล้วไง งานกล้วยๆ เงินดีก็จริง แต่เบื่อนั่งทำหน้าไร้เดียงสา” หล่อนว่าพร้อมยักไหล่
“ถ้างั้น ทำไมถึงมาช้า เฮียชัยบ่นล้งเล้งลั่นร้านเลย” เบบี้ถามทั้งที่ก้มหน้ากดเครื่องคิดเลขเพื่อรวมยอดรายการสั่งซื้อ
ตาณถอนหายใจอีกพรืด แล้วเริ่มเล่าเหตุการณ์ตื่นเต้นให้เบบี้ฟังก่อนพุ่งถลาเข้ามาในร้าน ตาณขับมอเตอร์ไซค์ไปรับของสองสามอย่าง ทั้งที่พรางตัวด้วยหมวก และเสื้อคลุม กระนั้นยังไม่รอดพ้นสายตาอปป้าผู้ตามหารักแท้
ผู้ชายคนนั้นชื่อ บุนซู มีความหมายว่าอย่างไรหล่อนไม่ได้ใส่ใจผิดกับเขาที่จดจำรายละเอียดหล่อนได้หมด
หญิงสาววิ่งหลบเข้าไปอยู่ในห้างสรรพสินค้า ใช้เวลาเล่นซ่อนแอบนานจนมีสายจากทางร้านเรียกเข้า แต่หล่อนไม่ยอมรับ ด้วยอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ตาณรออยู่พักใหญ่กระทั่งมั่นใจว่าบุนซูเลิกตามตื๊อจึงกลับไปเอารถจักรยานยนต์ ก่อนเร่งเครื่องด้วยความเร็วเพื่อตรงดิ่งเข้ามาที่ครัวแม่หุง สุดท้ายก็เกิดอุบัติเหตุแย่ๆ กับอดีตคนรักเก่า อเล็กซ์ จี. วิลสัน!
ครั้นเบบี้เงยหน้าจากรายการสั่งซื้อ เธอก็ร้องเสียงดัง ก่อนจะยกมือทาบอกเป็นท่าประกอบ
“ตายแล้ว ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม แกเอาปากไปฟัดกับหมาที่ไหนมา อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนแอบพาผู้ชายเข้าบ้าน!”
“ไม่... ผู้ชายเข้าบ้านน่ะไม่มี แต่มีอะไรกับหมาน่ะอาจจะใช่!” ตาณว่าจบก็กัดฟันเสียงดังกรอด
“มันยังไงกันวะ ฟังแล้วปวดหัว นังตาณ” เบบี้เกาผมบนศีรษะที่มีอยู่น้อยนิดเสียงดังแกรกๆ พอรู้ตัวว่าเกาแรงเกินไปก็หยุดมือ ด้วยกลัวผมจะร่วงและกลายเป็นสาวประเภทสองหัวล้าน ซึ่งพักหลังเธอมักถูกเด็กในครัวล้อเลียนว่ากะเทยแมนจูบ่อยๆ
“คืองี้ ไม่ใช่หมาที่ไหนหรอก ตาณแค่สะดุดล้มปากไปจูบกับสิ่งอัปมงคลเข้า เลยทำความสะอาดแรงไปหน่อย”
“ให้มันแน่เถอะ” เบบี้เอ่ยพร้อมสำรวจของที่สั่งตาณออกไปรับ “ได้มาครบทุกรายการนะ เจ้จะได้ให้พวกในครัวเอาไปจัด”
“ตามนั้นแหละเจ้ ถ้าขาดเหลืออะไร ก็ให้เด็กรับรถไปทำแทนหนูแล้วกัน คืนนี้ขออยู่ในร้านเก็บเนื้อเก็บตัวเป็นนางอายดีกว่า สังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆ ยังไงพิกล”
“หือ...พูดเป็นลางแบบนี้ มันไม่ดีนะเว้ย”
เบบี้ว่าพร้อมเดินเข้ามาและจับมือตาณไปกุมไว้เพื่อถ่ายทอดกำลังใจ ชีวิตเพื่อนรุ่นน้องประสบอุปสรรคมากมายเหลือเกิน กระนั้นหล่อนก็ยิ้มสู้ คงเป็นเพราะจิตใจที่เข้มแข็ง และมีภาระท่วมหัวที่ต้องดูแล
“แต่เจ้ว่านะ ปากแกมันดูไม่ได้จริงๆ ใส่หน้ากากปิดเอาไว้ดีไหม” เบบี้บอกพร้อมส่งหน้ากากผ้าให้ แต่เห็นแล้วตาณก็อยากกรี๊ดให้อีกฝ่ายหูดับ
“อร๊าย แบบอื่นไม่มีหรือเจ้”
หน้ากากผ้าที่รับมาเป็นรูปปากสุนัข ถึงจะน่ารักน่าชัง แต่ใจไพล่ไปถึงผู้ชายคนนั้น คนที่เคยบอกว่าเขาเป็นมนุษย์หมาป่า!
“ก็เหลืออันเดียวนี่แหละ ไม่เอาก็ตามใจ ของมีราคานะโว้ย อิมพอร์ตจากเกาหลีเชียว”
เบบี้ทำท่าจะดึงกลับคืน แต่ตาณไม่ยอม อย่างไรเสียหล่อนก็ไม่อยากโชว์ปากเจ่อๆ ให้ใครเห็น
ตาณรับหน้ากากผ้ามาสวม พร้อมให้กำลังใจตัวเอง แม้จะมีสิ่งแย่ๆ เข้ามาในชีวิต แต่ไม่ขอดราม่ากับเรื่องเหล่านั้น หล่อนต้องแกร่ง และแข็งแรงพอที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัว คิดได้ดังนั้นก็บิดไล่ความเมื่อยตามร่างกาย ก่อนจะเดินเข้าไปทำหน้าที่ตน แต่ก้าวไม่ทันจะถึงพื้นที่รับผิดชอบงานหูก็แว่วได้ยินเสียงสนทนาอยู่ไม่ห่างตัว
“อูย ร้านนี้แหละ มีแต่คนสวยๆ ถ้าสนใจอย่าลืมนามบัตรที่ให้ไว้นะ”
ตาณชะเง้อออกไปนอกครัว และเห็นผู้หญิงที่สวมยูนิฟอร์มบริษัทจัดหาคู่ อีกฝ่ายมีรูปร่างป้อมเตี้ยสะดุดตา ส่วนคนที่ยืนข้างเธอและหันหน้ามาทางตาณคือหนุ่มเกาหลีหน้าขาว ตาชั้นเดียว ซึ่งดูยังไงโหงวเฮ้งเขาก็แปะยี่ห้อผู้ชายกิน
เมีย
คุณบุนซู!!
มีหลายสิ่งที่อเล็กซ์ไม่รู้เกี่ยวกับตาณ ในช่วงเวลาเดียวกันที่เขาบินกลับบ้านแคลิฟอร์เนีย เพื่อไปเยี่ยมยายซึ่งป่วยจากอาการไขมันพอกตับ ก่อนหน้านั้นอเล็กซ์มีงานล้นมือ เขาต้องเรียนรู้หน้าที่ใหม่ในบริษัท แต่ก็ไม่ลืมที่จะติดต่อคนรัก ทว่าพยายามโทรศัพท์หาเท่าไรก็ไม่มีสัญญาณจากหมายเลขของตาณ กระทั่งถึงวันที่ต้องขึ้นเครื่องเขาจึงฝากสมิธซึ่งอยู่เคลียร์งานที่เมืองไทยติดตามข่าวของหญิงสาว“อาหมายถึงตาณ” อเล็กซ์ครางชื่อคนรักเก่าออกมา“ใช่ เด็กคนนั้นเคยมาตามหาแกที่บริษัท บอกว่ามีเรื่องสำคัญอยากพูดด้วย แต่อาซักยังไงก็ไม่ยอมพูด คลับคล้ายคลับคลาว่าเขามารอแกอยู่หน้าบริษัทเกือบสองวันกับผู้ชายที่ตุ้งติ้งคนหนึ่ง เฮ้อ...ตอนนั้นอาไม่รู้จริงๆ ว่าเด็กนั่นท้องลูกแก ก็คิดว่าอาจเป็นสาวๆ ที่เคยตามกรี๊ด และรักสนุกเหมือนที่แมรี่เคยเล่าให้ฟัง” สมิธเอ่ยเสียงเรียบ“ส่วนอาเองก็ทำเกินกว่าเหตุไปนิด ที่จับแพะชนแกะแล้วเล่าเรื่องของเด็กผู้หญิงในทำนองเสียหายให้แมรี่ฟัง ก็ตอนนั้นคุณย่าแสงแขเพิ่งเสียได้ไม่นาน และเธอก็เข้าโรงพยาบาลนอนแบ็บไม่ได้สติ พอแมรี่รู้เรื่อง เลยสั่งให้ไล่เด็กคนนั้นไป” ลิลลี่เอ่ยอย่างสำนึกผิด“ทำไม ผมไม่เคยรู้เ
อเล็กซ์สูดลมหายใจลึก แล้วก้าวไปยังมุมลูกค้าวีไอพีซึ่งสมิธกำลังนั่งคุยกับปองคุณอยู่“โอ มาถึงร้านอาสมิธทั้งที ผมต้องถล่มให้ราบ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย” อเล็กซ์ว่าอย่างอารมณ์ดี ทั้งวันเขายังไม่ได้รับประทานอาหารมื้อหลัก นอกจากกาแฟและคุกกี้“ทำไมหน้าซีดจังเจ้านาย” ปองคุณทักหนุ่มหล่อ“อาการไม่ดีเท่าไหร่เฮีย”เขาว่าพร้อมกับมองซ้ายแลขวา ภาพผู้หญิงท้องลอยเข้ามาวนเวียนในหัว ทั้งที่อาการหลอนเช่นนั้น หายไปจากชีวิตเขานานแล้ว“พักผ่อนบ้างเถอะ อย่าหักโหมงานให้มาก ผมบอกแล้วไง มีอะไรก็แบ่งๆ ให้คนอื่นทำบ้าง เป็นถึงว่าที่เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่โต ต้องบริหารงานให้เป็น ไม่ใช่ลงมือทำเสียทุกอย่าง” ปองคุณว่าพร้อมตบไหล่เพื่อนรุ่นน้องเบาๆอเล็กซ์ยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนมองไปด้านนอกห้องวีไอพี โต๊ะด้านนอกมีลูกค้าสับเปลี่ยนมาไม่ขาดสาย ชายหนุ่มทึ่งในความสามารถของสมิธ ซึ่งพัฒนาธุรกิจของครอบครัวภรรยาให้เป็นร้านอาหารแนวหน้าของประเทศ มีการจัดส่งไปยังร้านในทุกภูมิภาค และปัจจุบันมีร้านในต่างประเทศหลายสาขา โดยมียอดขายต่อปีนับสองพันล้านบาท“ที่นัดมาคุยเพราะอาอยากให้อเล็กซ์ช่วยดูแลงานของผู้ใหญ่ลายสิงห์ ส่ว
ตาณหน้าแดง ไม่รู้ว่าประวิทย์เข้าใจอาการหล่อนได้อย่างไร แต่ที่เขากล่าวมา คือสิ่งที่หล่อนกำลังประสบ“หนูซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ละ...แล้ว...ผลมันบอกว่าหนูท้อง” สิ่งที่หล่อนทำก่อนหน้านี้ต้องรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากชายใจหญิงนั่งไม่ติด ตาณคือรุ่นน้องนิสัยดี คอยช่วยงานตลอด และไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียให้ลำบากใจ“เฮ้อ ฉันไม่เคยเห็นแกยุ่งกับใคร วันๆ เอาแต่ทำงานและก็อ่านหนังสือนิยาย แล้วนี่ไปทำอีท่าไหน หรือว่าถูกผู้ชายรังแก” ประวิทย์ว่าแล้วก็โกรธกรุ่น“ปละ เปล่า เราทั้งสองคนรักกัน”“แหม...พูดเสียเต็มปาก แล้วไอ้ลูกหมานั่นมันเป็นใคร?”ตาณไม่รู้จะเล่าถึงหนุ่มฝรั่งลูกเสี้ยวอย่างไร หล่อนแอบคบหากับเขาทั้งที่ประวิทย์เคยห้ามปรามว่าผู้ชายคนนี้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ วันๆ เอาแต่อวดความหล่อ ชอบทำตัวเป็นเดือนในหมู่ดาวให้สาวๆ กรี๊ด และยังเคยก่อคดีดังให้มารดาปวดหัวจนต้องส่งตัวมาเมืองไทย“ว่าไง ไอ้ลูกหมานั่นเป็นใคร เดี๋ยวฉันจะตามไปลากคอมันมารับผิดชอบเสียเดี๋ยวนี้เลย”“มะ ไม่ได้นะ พี่...เขาไม่ผิด และ แล้วเขาสัญญากับหนูว่าจะรีบกลับมา”ฟังถึงตรงนี้ ประวิทย์ก็พอจะรู้ คนที่ขโมยหัวใจเพื่อนรุ่นน้อง คงไม่พ้นหนุ่มๆ ที่ช่
อเล็กซ์มาส่งตาณที่เรือนไม้สีขาว เขาไม่ได้อยู่รับประทานอาหารเย็นกับหล่อน ขณะนั้นบุนซูกำลังจัดเตรียมอาหารโดยมีสามแฝดและเบบี้เป็นลูกมือ ชายหนุ่มเพียงแต่โบกมือทักทายเด็กๆ และขับรถจากไป สิ่งที่เขากระทำสร้างความประหลาดใจต่อคุณแม่“เอาไว้โอกาสหน้า พี่ขอเป็นเจ้ามือบ้างนะครับ”“ค่ะ...ฉันยังไงก็ได้ ขอแค่เด็กๆ ชอบ” ตาณไม่คิดว่าอเล็กซ์จะยอมถอยง่ายๆ แต่หล่อนก็ไม่พร้อมที่จะรั้งเขาไว้ในตอนนี้“พี่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา มันยากที่จะกลับมาสู่จุดเริ่มต้น แต่...ความรักเป็นสิ่งสวยงาม และผลที่ตามมาก็คุ้มค่า”ชายหนุ่มทิ้งความสงสัยเอาไว้ให้ตาณต้องหาคำตอบ หล่อนยืนเหม่ออยู่นาน กระทั่งเบบี้ก้าวเข้ามา“เฮ้อ จะไปอาลัยอาวรณ์ ผัวเก่าทำไมล่ะตาณ”“หน้าหนูมันฟ้องขนาดนั้นหรือ” เสียงหล่อนเนือย ท่าทางก็พอกัน“จ้ะ คนอย่างแก เป็นอะไรปุ๊บ มันก็ลงที่หน้าหมด สดชื่นหน่อยสิ เดี๋ยวคนใหม่เห็นเข้าก็เซ็งแย่” เบบี้ว่าจบก็ชวนตาณให้เข้าไปหาบุนซูร่างสมส่วนก้าวไปยังห้องครัว ได้ยินเสียงหัวเราะ สลับเสียงพูดคุยของสามแฝดและหนุ่มเกาหลี แม้สื่อสารด้วยภาษากายมากกว่าการพูด แต่ทั้งตั้งต้น และแต้มฝันก็สนุกสนาน“หนูไม่เอาผัก”แต้มฝันป
ชายหนุ่มอุ้มเธอขึ้นรถเก๋งคันใหญ่ โดยไม่ฟังเสียงต่อว่าจากหญิงสาว“คุณทำอะไรเนี่ย ฉันจะไปหาลูก!” หล่อนดึงดันจะลงรถ แต่เขายื้อไว้ และปั้นสีหน้าขึงขัง“ตาณมีสติหน่อย ตะกี้พี่บอกเบบี้ให้ช่วยดูเด็กๆ แล้ว”ก่อนเดินไปหาตาณ อเล็กซ์เข้าไปทักทายสามแฝด พร้อมมอบของฝากให้ทุกคน รวมถึงเบบี้ ซึ่งตั้งแง่ใส่เขาก็จริง แต่เมื่อพูดคุยกันด้วยเหตุผล ฝ่ายนั้นก็ไม่ได้คิดจงเกลียดจงชังเขาอย่างที่เอ่ยปากขับไล่“น่าแปลก ฉันนึกว่าเจ้เบบี้จะงับหัวคุณเสียอีก” ตาณสงสัย เขาไปตกลงกับสาวประเภทสองอย่างไรถึงยอมสงบศึกง่ายๆอเล็กซ์ทำความสะอาดแผลเบื้องต้นให้ตาณ ด้วยการใช้น้ำสะอาดล้าง กระทั่งเห็นปากแผลชัดๆ ทั้งคู่ก็มีสีหน้าไม่สู้ดี“คงไม่ใช่แค่เปลือกหอยแล้วละ...” หล่อนว่าเสียงอ่อย“คราวนี้ คงไม่ว่าพี่เป็นกระต่ายตื่นตูม หรือฝรั่งขี้โวยวายแล้วใช่ไหม”เขาว่าจบ ตาณก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา“ก็ท่าทางคุณเว่อร์มาก เป็นใครก็ตกใจ”“ตาณ...ต่อไปนี้ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นกับตาณและลูกๆ พี่จะให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ถึงสิ่งที่พี่ทำอาจดูงี่เง่าหรือเพี้ยนไปบ้าง แต่เชื่อเถอะ ทั้งหมดพี่ทำจากหัวใจ”คำพูดเขาหวานเลี่ยนและลิเกจ๋า แต่หล่อนกับร
โอ้ทะเลแสนงามสามแฝดได้เบบี้คอยดูแล ตาณเลยมีเวลาส่วนตัว หล่อนอาบน้ำแล้วสวมเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองสบายๆ เสื้อแขนกุด พร้อมกางเกงขาสั้นขนาดพอดีตัว วันนี้นึกครึ้มใจจึงหยิบเครื่องสำอางมาเติมสีสันบนใบหน้า ระบายสีอ่อนๆ เน้นธรรมชาติ และไม่ลืมบรรจงเติมสีปากอวบอิ่มให้ดูสดชื่น ทว่าเมื่อมองตัวเองในกระจก ก็นึกอยากลบสีสันเหล่านั้นออก หล่อนเป็นคุณแม่ลูกสาม ควรสนใจลูกๆ มากกว่าเรื่องตัวเองเบบี้เดินเข้ามาในบ้านเพื่อหยิบขนมและเครื่องดื่มไปเติมให้เด็กๆ ด้านล่าง พอเห็นตาณกำลังจะลบเครื่องสำอางก็เอ่ยห้าม“แต่งหน้าแบบนี้สวยจะตาย กล้าๆ หน่อยสิยะ คนเราคิดจะเดินไปข้างหน้าแล้วก็ก้าวไปให้สุด”หญิงสาวมองเงาในกระจกอีกครั้ง หล่อนยังสาวอยู่มาก การจมอยู่กับความหลังเป็นสิ่งไม่สมควร คิดได้ดังนั้นจึงเพิ่มความมั่นใจด้วยการเติมสีปากให้สดใสตามเดิมหลังจากเรียกความมั่นให้ตัวเอง ตาณก็ก้าวจากชานระเบียงสู่ผืนทรายเบื้องล่าง แต่แวบหนึ่งหางตาก็มองเห็นร่างสูงเดินมาจากอีกฝั่งของชายหาด ด้วยความอยากรู้จึงหันไปมองร่างสูงหุ่นสมาร์ตสวมเสื้อกล้ามสีขาว และกางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีน้ำเงินเข้ม มีหมวกใบเท่บนศีรษะ ห้อยแว่นตากันแดดที่เสื้อและจังห