”คุณบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา แต่ทำไมคุณถึงขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกับฉัน? จะโกหกก็ช่วยใช้สมองหน่อย ฉันเป็นผู้ใหญ่แล้วและฉันสามารถรับผิดชอบต่อการกระทำของฉันได้ แต่ฉันไม่สามารถทนมองผู้ชายอย่างคุณที่ไม่รับผิดชอบการกระทำของตัวเอง!” ทิฟฟานี่รู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก ไม่ว่าเธอจะมองรายละเอียดพวกนี้อย่างไรก็ไม่ได้ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“ขอโทษนะ? คุณเป็นคนที่ไม่อยากกลับบ้านและไม่ให้ที่อยู่บ้านของคุณกับผม ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพาคุณกลับมาที่นี่เนื่องจากผมไม่สามารถส่งคุณกลับบ้านได้ ผมไม่ได้เตรียมเตียงไว้ที่ห้องอื่น ๆ นี่เป็นห้องเดียวที่เราสามารถนอนในบ้านนี้ได้และผมจะไม่นอนโซฟา นอกจากนั้นผมยังเหนื่อยที่ต้องดูแลคุณทั้งคืน ผมจะนอนที่ไหนได้อีกถ้าไม่ใช่บนเตียง” แจ็คสันโผล่หัวออกมาจากห้องน้ำในขณะที่แปรงฟันพลางบ่นทิฟฟานี่เกี่ยวกับพฤติกรรมต่าง ๆ ของเธอไม่ว่าแจ็คสันจะพูดความจริงหรือไม่ทิฟฟานี่ก็ทำได้เพียงยอมรับ เป็นความผิดของเธอที่ดื่มมากเกินไปจนจำอะไรไม่ได้ เนื่องจากเธอไม่สามารถโต้เถียงกับเขาได้ เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อใจในคำพูดของเขาเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่เคยอยู่กับแจ็คสันก่อนหน้า
เกือบจะเป็นเวลาอาหารกลางวันที่แจ๊คสันโทรหาแผนกออกแบบ หัวหน้าตะโกนสุดเสียง “ทิฟฟานี่ เลน คุณเวสต์กำลังตามหาคุณ! รีบไปที่ห้องทำงานของเขา!”สมองของทิฟฟานี่แทบจะระเบิดเมื่อเอ่ยถึงแจ็คสัน “รับทราบแล้วค่ะ!”ระหว่างทางไปที่ออฟฟิศ เธอคิดอยู่เสมอว่าแจ็คสันจะทำอะไรอะไรกับเธอที่ออฟฟิศ เป็นไปได้ไหมที่เขาต้องการจะสานต่อเรื่องที่พวกเราทำค้างไว้เมื่อคืน? มิฉะนั้น จู่ ๆ เขาจะตามหาเธอทำไม?เธอใช้เวลาเดินไปที่ห้องทำงานของเขาแล้วยกมือขึ้นเคาะประตู เธอตัดสินใจแล้ว ถ้าแจ็คสันขอความช่วยเหลือจากเธอ เธอจะไม่ตอบตกลง นี่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ที่มีจิตสำนึกควรทำ...“เข้ามา” เสียงของแจ็คสันดังขึ้นมาจากด้านในทิฟฟานี่สงบสติอารมณ์ลงและผลักประตูให้เปิด เธอรักษาระยะห่างระหว่างพวกเขาและยืนอยู่ที่ประตู “มีปัญหาอะไร?”แจ็คสันหยิบเอกสารขึ้นมาโดยไม่ได้เงยหน้า “ส่งสิ่งนี้ไปที่ไกลด์ เพราะแอเรียนก็อยู่ที่นั่นด้วย พวกคุณสาว ๆ สามารถไปทานอาหารกลางวันด้วยกันได้ แค่อย่าลืมมันอีก”ทิฟฟานี่ผงะ “คุณเรียกฉันมาเพราะเรื่องนี้?”แจ็คสันเงยหน้ามองเธอด้วยสีหน้างงงวย “ทำไมต้องเป็นเรื่องอื่น?”เธอผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัดและเดินหน้าไป
ทิฟฟานี่รู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย “จริงเหรอ? แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้สึกอะไรเลย?”แอเรียนตกตะลึงไปชั่วครู่ก่อนจะกลับมามีสติ “เธอหมายถึง...เธอ? เธอไม่ได้คบกับเอธานมาเป็นเวลานานและยังอยู่กับเขาเป็นครั้งคราวเหรอ? ทำไมเธอถึงถามเรื่องแบบนี้กับฉัน? เธอไม่ได้รู้เรื่องนี้ดีไปกว่าฉันเหรอ?”ดวงตาของทิฟฟานี่หรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถึงเอธาน “เอธานกับฉัน...ไม่เคยไปถึงขั้นนั้น เขาต้องการรอจนกว่าพวกเราจะแต่งงานกัน แต่ใครจะไปรู้...ฮ่าฮ่า...เขาไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับฉันตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันคิดได้แล้วว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดี อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทำอะไรฉันเมื่อเขายังคบอยู่กับฉัน”จากคำบอกเล่าของเธอแอเรียนพอจะได้เบาะแสอยู่บ้าง “เพราะว่าเธอไม่เคยมีอะไรกับเอธานแล้วทำไมจู่ ๆ เธอถึงถามฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ? ทิฟฟ์ บอกความจริงกับฉันมานะ”ทิฟฟานี่รู้สึกกังวลใจมากจนดื่มน้ำเปล่าไปครึ่งแก้ว และถอนหายใจ “หยุดถามฉันแบบนั้นแอริ ฉันบอกเธอไม่ได้... ฉันไม่เป็นไร มันก็แค่การสุ่มถาม ดูฉันสิ ฉันดูสบายดี ใช่ไหม?” หลังจากที่ยืนยันว่าเธอไม่ได้ไม่สบายที่ตรงไหนในร่างกายของเธอ เธอก็ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัดและตอนนี้ยังสามารถหัวเราะ
ชั่วพริบตาห้องทำงานเต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีเลือดอยู่เต็มพื้น แอเรียนไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน ขาของแอเรียนสั่น เธอฝืนตัวเองให้ดึงผู้ชายที่กำลังสู้กันอยู่ออกจากกันเมื่อเธอเห็นว่าเอริกเสียเปรียบ “หยุดสู้กัน! คุณจะทำให้ตัวเองเจ็บที่ทำแบบนี้! พวกคุณคุยกันแทนไม่ได้เหรอ?”เอริกหยุดตัวเองไม่ให้เคลื่อนไหวมากเกินไป เมื่อเขาเห็นว่าแอเรียนเข้ามาหาพวกเขา แต่มันทำให้อีกฝ่ายมีโอกาสที่จะเอาชนะเขาได้ด้วยการชกอย่างแรง เอริกล้มลงกับพื้น แอเรียนกรีดร้อง คว้ากระถางต้นกระบองเพชรบนโต๊ะทำงานและทุบลงบนหัวของชายคนนั้น “หยุดนะ!”ด้วยการกระแทกอย่างแรงทำให้ชายคนนั้นหมดสติ มันทำให้เธอตัวสั่นและเธอไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าฝ่ามือของเธอถูกกระบองเพชรทิ่มเอริคโซซัดโซเซขึ้นมาและปกป้องเธอไว้ที่ด้านหลังของเขา“โทรหาตำรวจ”แอเรียนส่าย “เราโทรหาตำรวจไม่ได้... เราทำร้ายเขา เราจะหนีไปไม่ได้ถ้าเราเรียกตำรวจ...”เอริกพูดไม่ออก “เขาเป็นคนที่มาที่บริษัทของผมเพื่อหาเรื่อง สิ่งที่เราทำคือการป้องกันตัวเองตามความเหมาะสม ทำไมเราจะเริ่มไม่ได้? นอกจากนี้เขายังเป็นพี่ชายคนรองของผม คุณคิดว่าเขาจะปล่อยให้ผมเข้าคุกเหรอ? การเรียกตำรวจเป็น
มาร์คไม่ได้พูดอะไร แต่เมื่อเห็นการยืนกรานในดวงตาของเขา แอเรียนก็ไม่อยากหาเรื่องระหว่างทางไปโรงพยาบาลเธออดที่จะถามไม่ได้ “ครอบครัวของเอริกมีพี่น้องกี่คนเหรอคะ? ทำไมพวกเขาถึงมาถึงขั้นนี้ได้?”มาร์คดึงเน็คไทของเขา “พี่สาวหนึ่งคนและพี่ชายสองคน เขาเป็นคนสุดท้ายของครอบครัว...จากภรรยาคนที่สามของพ่อเขา เขามีพี่ชายต่างแม่ มันค่อนข้างซับซ้อน ผู้ชายแก่คนนี้เขาไม่ได้นับถือมากนัก จริง ๆ แล้วไม่ใช่ความผิดของเอริก ถ้าเป็นผม ผมคงจะทำได้แย่กว่าเขามาก”แอเรียนยังคิดว่าเรื่องต่าง ๆ จะไม่หยุดอยู่แค่นี้หากเป็นมาร์คเมื่อมาถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการดึงหนามที่ฝ่ามือของแอเรียนออก เมื่อเธอเห็นว่าฝ่ามือเปื้อนเลือด เธอเพิ่งรู้สึกว่าเธอเจ็บแค่ไหน หลังจากรักษาฝ่ามือและพันผ้าพันแผลแล้ว มาร์คขมวดคิ้วและมองมาที่ผ้าพันแผลที่มือของเธอ “ไม่ต้องกลับไปที่ออฟฟิศแล้ว ผมจะไปส่งคุณที่บ้าน”แอเรียนไม่เต็มใจ “ฉันไม่เป็นไรค่ะ ฉันยังมีงานที่ยังทำไม่เสร็จและฉันยังต้องทำงานล่วงเวลาในคืนนี้ จะไม่กลับไปทำงานได้อย่างไรคะ? บาดแผลไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานของฉันหรอกค่ะ”มาร์คไม่สนใจความคิดเห็นของเธอและลากเธอไปขึ้นรถเพื่อไปส่งเธอที่ค
แจ็คสันกระเดาะลิ้น “ใบหน้าของนายพังหมดเลย เขารุนแรงเกินไป”แอเรียนไม่คุ้นเคยกับโต๊ะที่เต็มไปด้วยผู้ชายแบบนี้และด้วยความที่เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวเธอจึงไม่สามารถตามบทสนทนาได้ด้วย แอเรียนจึงทานไปไม่กี่คำและลุกขึ้น "ฉันอิ่มแล้ว พวกคุณทานให้อร่อยนะคะ”มาร์คพยักหน้ารับ เธอเดินไปนั่งบนโซฟาที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับข้าวปั้นที่เข้ามาคลอเคลียในอ้อมกอดเธออย่างเป็นธรรมชาติแจ็คสันเมื่อเห็นอย่างนั้นก็ตกใจเล็กน้อย “แมวตัวนั้นอ้วนจังเลยนะ…”มาร์คถอนหายใจโดยไม่พูดอะไร แต่แจ็คสันรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ “โถ่ โถ่ ไม่คิดไม่ฝันเลยนะเนี่ย แต่ก่อนนายเป็นคนที่กลัวสัตว์ขนมากที่สุด แต่ตอนนี้กลับเลี้ยงเองซะงั้น ดูเหมือนว่าใครบางคนจะมีอิทธิพลต่อนายค่อนข้างมากเลยสินะ?”มาร์คยังคงไม่พูดอะไร แต่สายตาเขาจ้องไปที่แจ็คสันพร้อมกับยิ้มที่มุมปากก่อนที่สายตาเขาจะกวาดไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างไม่ได้ตั้งใจเมื่อพวกเขาทานอาหารเสร้จก็เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม แจ็คสันและเอริกกลับไปด้วยสภาพที่โซเซ และมาร์คก็ไม่ได้สภาพดีกว่าพวกเขาเลย นี้เป็นครั้งแรกที่แอเรียนรู้สึกว่าคฤหาสน์เทรมอนต์ที่เคยเงียบดั่งป่าช้าได้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ในความประทั
อยู่ ๆ โทรศัพท์ของแอเรียนก็ดังขึ้น เธอหลบหนีจากการอ้อมแขนมาร์คและหยิบมือถือบนเตียงขึ้นมาดู บนหน้าจอแสดงผลให้เห็นว่าทิฟฟานี่โทรมา แอเรียนจำเป็นที่จะต้องรับสายนี้เพราะเธอมั่นใจว่ามาร์คจะต้องหยุดการกระทำของเขาไว้จนกว่าเธอจะคุยโทรศัพท์เสร็จเธอกดรับสายปราศจากความกังวล ทันทีที่มาร์คได้ยินเสียงทิฟฟานี่เขาก็กัดคอเธอเบา ๆ แอเรียนตัวแข็งก่อนที่ร่างกายเธอจะอ่อนย้วยดั่งเยลลี่ เธอพูดด้วยความยากลำบากว่า “ทิฟฟ์...ตอนนี้ฉันไม่สะดวกคุย เดี๋ยวฉันโทรกลับนะ” ทิฟฟานี่ถามอย่างงง ๆ ว่า “เธอเป็นอะไรหรอแอริ? ทำไมตอนนี้ถึงไม่สะดวกคุยละ? ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกเธอนะ เรื่องของคุณ---” แอเรียนวางสายทันทีก่อนที่ทิฟฟานี่จะพูดจบ หัวใจเธอเต้นเร็วมาก ทิฟฟานี่เกือบเอ่ยชื่อ ‘คุณสโลน’ แล้ว ก่อนที่เธอจะรู้ความจริง เธอจะให้มาร์ครู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด ตอนนี้เขาใกล้ชิดเธอมาก เขาได้ยินทิฟฟานี่แน่ ๆโชคดีที่มาร์คเมาและไม่ได้ถามอะไร สิ่งเดียวที่เขาสนใจตอนนี้คือ แอเรียน เขาคว้ามือถือเธอและโยนมันทิ้งโดยไม่สนใจว่าจะโยนไปที่ใดเมื่อเสื้อผ้าพวกเขาถูกถอดหมดแล้ว มาร์คไม่ได้ลงมือทันที แต่เขากลับนำทางมือแอเรียนไปยังส่วนล่างของร่างก
ทิฟฟานี่ดันแก้วน้ำไปที่ริมฝีปากของแจ็คสันอย่างเร่งรีบ “ดื่มซะ ฉันยังเหลืองานต้องทำอีกเยอะและไม่มีเวลามาคุยด้วยหรอก นายแค่ขอให้ฉันมาทำความสะอาดบ้านและเตรียมอาหารให้ นายไม่ได้บอกว่าฉันต้องมารับใช้นาย ถ้าต้องการแบบนั้นนายต้องขึ้นค่าจ้างฉัน!”แจ็คสันดื่มน้ำจนหมดแก้วและหยิบธนบัตรออกจากกระเป๋าสตางค์เขามาปึกนึง “ได้สิ...เท่าที่คุณต้องการ แต่ฉันมีข้อแม้ นอน...กับฉัน คุณเสนอราคามาเลย”ทิฟฟานี่เกือบจะระเบิดด้วยความโมโห นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน? “แจ็คสัน เวสต์ เมื่อกี้นายพูดว่าอย่างไรนะ?”แจ็คสันปลดกระดุมเสื้อตนเองเผยให้เห็นหน้าอกที่ล่ำของเขา “นอนกับฉัน…”ทิฟฟานี่ดันตัวเองไปด้านหน้าและตบหน้าแจ็คสันอย่างไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองได้ “ไปตายซะ! ถ้าขืนนายยังทำตัวแบบนี้อยู่ฉันจะตีนายให้ตายแน่!”แต่เธอไม่ได้โมโหร้ายแรงขนาดนั้น ทิฟฟานี่รักในความสวยงาม ตอนแจ็คสันปลดกระดุมเสื้อเธอเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ หากแจ็คสันไม่ได้หล่อขนาดนี้เธอคงจะทำร้ายเขาจนเขาพิการไปแล้ว! แต่เพราะความมึนเมาของแจ็คสันเธอจึงไม่ได้ถือสาเขาแจ็คสันที่เพิ่งจะโดนตบไปสีหน้าและสายตาเปลี่ยนเป็นดุดัน ทิฟฟานี่เสียใจกับการกระทำเมื่อ