ทิฟฟานี่ทึ่งเล็กน้อยเมื่อพวกเขามาถึงที่บ้านของครอบครัวเวสต์ ในเมืองหลวงบ้านแบบนี้ต้องมีราคาไม่น้อยแน่นอน ทุกรายละเอียดของมันแสดงถึงร่องรอยของประวัติศาสตร์ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีค่ามากจนไม่สามารถระบุมูลค่าได้ เธออดไม่ได้ที่จะหยุดและชื่นชมต้นไม้อายุกว่าร้อยปีในสวน เพียงต้นไม้นี้ต้นเดียวก็ราคาสูงแล้ว“คุณสามารถมาได้บ่อย ๆ เท่าที่คุณต้องการเลยนะ” แจ็คสันแซวอย่างติดตลก“อ่ะจ้า” ทิฟฟานี่กลอกตาใส่เขาและย่ำเข้าบ้านด้วยรองเท้าส้นสูงของเธอราวกับว่าเธอไม่มีมารยาทเลย นี้เป็นแผนของเธอ -- ยิ่งคุณหญิงเวสต์ไม่ชอบเธอมากเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้นซัมเมอร์ เวสต์ นั่งดื่มชาอยู่ในห้องนั่งเล่นตอนที่พวกเขาเดินเข้ามา เธออุ้มพุดเดิ้ลสีเทาอ่อนไว้ในอ้อมแขน เมื่อเธอเห็นทิฟฟานี่เธอพูดด้วยสีหน้าที่กึ่งยิ้ม “เธอคนนี้แรงไม่เบาเลยนะ แต่ก็ดีแล้ว ดีกว่าแสร้งทำเป็นดอกไม้ที่บอบบาง”ในหัวของทิฟฟานี่สับสนไปหมด ด้วยไอคิวของเธอ เธอไม่สามารถบอกได้ว่าคุณหญิงเวสต์กำลังประชดประชันหรือพูดด้วยความจริงใจ เธอเดินไปที่โซฟาตรงข้ามคุณหญิงเวสต์และนั่งลง “น้องหมาสวยงามจังเลยนะคะคุณเวสต์ คุณคงใช้ความพยายามอย่างมากในการบำรุงรักษามัน”
ที่โต๊ะกินข้าว ทิฟฟานี่ยกขาข้างนึงและวางมันไว้บนเก้าอี้ของตนเองด้วยความตั้งใจ เธอเคี้ยวอย่างเสียงดังและทำเสียงแจ๊บ ๆ ด้วยปากของเธอระหว่างที่รับประทานอาหาร และทุกครั้งที่เธอจะตักอาหารมาไว้บนจานตัวเองเธอจะเขยิบเข้าใกล้คุณหญิงเวส์ตให้มากที่สุดเพื่อรบกวนเขาหรือเธอแม้กระทั่งลุกขึ้นยืนเพื่อเอื้อมให้ถึงภาชนะที่ใส่อาหารไว้ เธอทำผิดต่อมารยาทบนโต๊ะอาหารทุกข้อที่ครอบครัวชนชั้นสูงเกลียด ทุกครั้งที่เธอเห็นว่าคุณหญิงเวสต์มองเธอ เธอจะฉีกยิ้มโง่ ๆ ด้วยความเสแสร้งสิบนาทีผ่านไป สีหน้าของคุณหญิงเวสต์หมองลง เธอกระแทกช้อนส้อมของเธอลงบนโต๊ะอาหาร ทิฟฟานี่ตกใจจนไม่กล้าที่จะทำอะไรต่อ เธอเอาขาตนเองลงจากเก้าอี้ด้วยความเกรงกลัว“แจ็คสัน เวสต์ ลูกยังมีชีวิตอยู่ ยังมีลมหายใจอยู่ ทำไมไม่ช่วยหนูทิฟฟ์ตักอาหารใส่จานของเธอ? ความสูงของลูกไร้ประโยชน์ไปแล้วหรอ? ไม่เห็นหรอว่าเธอสูงไม่พอที่จะเอื้อมถึงอาหาร?”ทิฟฟานี่ตะลึง“ครับ ผมจะจำเอาไว้” แจ็คสันตอบ “แม่ทานอาหารไปเถอะ ผมจะดูแลเธอเอง พอใจไหม?”คุณหญิงเวสต์พอใจจึงหยิบช้อนส้อมตัวเองขึ้นมาและรับประทานอาหารต่อ เมื่อเธอสังเกตเห็นว่าทิฟฟานี่ได้นำขาตนเองลงจากเก้าอี้คุณหญิงเ
แอเรียนตอบด้วยฮึดฮัดตอบก่อนจะหันกลับและกลับไปที่ห้องของเธอ อย่างไรก็ตาม เธอลงเอยด้วยการพลิกตัวไปมาและไม่สามารถนอนหลับได้สามชั่วโมงผ่านไป รถของไบรอันกลับมาที่คฤหาสน์ เทรมอนต์ แอเรียนเช็คดูปฏิทิน -- วันนี้เป็นวันศุกร์ พรุ่งนี้ทิฟฟานี่ไม่ต้องไปทำงาน แอเรียนจึงส่งข้อความไปหาเธอ : ฉันได้ข่าวจากไบรอันและลุงเฮนรี่ว่าเขาฟื้นแล้ว เธอสะดวกที่จะขับรถไปส่งฉันที่นั่นไหม? ขอโทษที่ต้องรบกวนยามดึกแบบนี้ทิฟฟานี่ตอบกลับมาเร็วมาก : ทำไมเธอถึงถ่อมตัวกับฉันจัง? ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย รอฉันที่นนั่นแหละแอเรียนตอบกลับด้วยอีโมจิรูปยิ้มก่อนที่จะลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอไม่อยากให้ไบรอันหรือลุงเฮนรี่ไปส่งเพราะตอนที่เธอรู้ว่ามาร์คฟื้นแล้วเธอได้แสดงท่าทางราวกับว่าเธอไม่ได้สนใจ และการที่จะรบกวนลุงเฮนรี่หรือไบรอันให้ไปส่งเธอยามดึกดื่นป่านนี้ก็ดูจะไม่เหมาะสม จิตใต้สำนึกของเธอปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเธออยากไปโรงพยาบาลมากแค่ไหนในขณะนี้เธอดูเหมือนเป็นคนที่มีความต้องการตรงกันข้ามกับจิตใต้สำนึกของเธอ ที่สำคัญที่สุดคือเธออยากเจอมาร์ค แต่ไม่อยากเลือกช่วงเวลาที่เขาน่าจะตื่นอยู่เพราะเธอรู้สึกว่าบรรยากาศมันน่าจะอึดอัดระหว่า
แอเรียนตื่นตระหนกทันทีและปฏิเสธด้วยพลังทั้งหมดที่เธอมี “ฉันไม่ได้ร้อง! ฉันแค่… กลัว ตอนนั้นคุณอยู่ในห้อง ICU และดูเหมือนคุณตายไปแล้ว… ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ตอนนั้นฉันรู้สึกกลัวมาก…”เขายิ้มเย้ย “อ๋อ… เข้าใจแล้ว”เธออยากผ่อนคลายเธอจึงนึกหาหัวข้อในการสนทนาและถามว่า “คุณประสบอุบัติเหตุได้อย่างไร?”เขาตั้งใจที่จะไม่ลงรายละเอียดกับเธอเพราะว่าการที่จะบอกเธอไม่ได้มีประโยชน์อะไรอยู่ดี มันจะทำให้เธอเป็นกังวลมากเปล่า ๆ เขาไม่เคยชอบทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้ว“อย่าถาม รู้ไปก็เท่านั้น” แล้วเขาก็พูดต่อ “ข้อมูลจากเฮเลนนั้นเป็นประโยชน์มาก เขาคงอยากจะช่วยฉันจริง ๆ ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด อุบัติเหตุฉันไม่เกี่ยวอะไรกับเขา บางทีทุกสิ่งที่เขาทำในอดีตอาจเกิดจากความทุ่มเทอย่างสุดหัวใจของเขาที่มีต่อพวกคินซีย์ อย่างไรก็ตาม เขาทำทั้งหมดก็เพื่อเธอ อีกอย่าง การที่ทำร้ายฉันจะไม่ส่งผลประโยชน์อะไรต่อเขาแน่ ๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องเฮเลน แอเรียนจึงไม่อยากพูดอะไรมากนัก “อืม”“ระหว่างฉันกับแอรี่ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น” อยู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่องคุยแอเรียนถึงกับผงะ การที่ต้องพูดถึงเรื่องพวกนี้ยังคงทำใ
รถคันนึงวิ่งผ่านหน้าต่างไปด้วยความเร็วสูง เสียงของยางบนถนนดังแสบหู เสียงของมันดังขึ้นอย่างกะทันหันซึ่งขัดแย้งกันกับความเงียบในรถของพวกเขาอย่างสิ้นเชิงแอเรียนไม่ได้ตอบอะไร แต่การไม่ตอบของเธอก็เป็นคำตอบในตัวของมันเอง“บัดซบ!” ทิฟฟานี่อุทาน “ฉันน่าจะรู้! ทีนี้ฉันก็เข้าใจละว่าทำไมเธอถึงไม่อาจตกหลุมรักผู้ชายที่หล่อเหล่าและรวยแบบมาร์คได้ เธอนะเหมือนลูกแกะตัวน้อยที่ไร้พิษภัยและเดียงสา แต่เขาเหมือนหมาป่าที่จะกัดแทะกินเธอได้ทุกเมื่อที่เขาไม่พอใจ แต่อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังกตัญญูต่อเขาเพราะเขาเลี้ยงเธอมา!”แอเรียนดูค่อนข้างสงบเมื่อเทียบกับความขุ่นเคืองโดยชอบธรรมของทิฟฟานี่ “มันไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่เธอคิด ฉันไม่ได้รักเขา ; สิ่งเดียวที่ฉันไม่ชอบในความสัมพันธ์ของเขาและแอรี่ก็คือตัวตนของเธอ เรื่องกิจการนอกสมรสของเขาฉันไม่ได้สนใจหรอก ฉันยอมรับว่าฉันก็เจ็บนะพอรู้ว่าเขาช่วยแอรี่ปกปิดความจริง แต่ฉัน… เกลียดเขาไม่ลง”“เธอรู้ไหม หลังจากที่ฉันโดนจับได้ว่านอนอยู่บนเตียงกับวิล เขาบอกฉันว่าเขาเคยรักฉัน… ฉันทรยศผู้ชายคนนึงที่ผู้หญิงคนอื่นไม่กล้าทำให้ผิดหวัง เพราะฉะนั้นถ้าจะปล่อยให้เขาทำให้ฉันเจ็บบางก็คงจะไม่
ทิฟฟานี่มาถึงโดยรถแท็กซี่ แอเรียนตั้งใจว่าจะให้ทิฟฟานี่เอารถในโรงจอดรถมาขับสักคัน แต่ลุงเฮนรี่หายไปไหนก็ไม่รู้ เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องสุ่มเลือกกุญแจมาจากลิ้นชักในห้องของเฮนรี่ เธอถือซุปไก่ท่ามกลางแดดร้อนระหว่างที่รอให้ทิฟฟานี่ขับรถออกมาจากโรงจอดรถ ทันใดนั้น เธอก็เห็นรถสปอร์ตสีเงินขับออกมาอย่างระยิบระยับท่ามแสงแดด โดยรวมแล้วมันดูน่าทึ่งมากเธอตะลึง มันคือรถสปอร์ตแบบสองที่นั่ง ความประทับใจแรกของเธอคือความเท่ห์ของมัน การได้ขับรถคันนี้ออกไปจะต้องยอดเยี่ยมที่สุด!ทิฟฟานี่เหงื่อตกด้วยความตื่นเต้น “แอริ เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันขับคันนี้ไปส่งซุปไก่กับเธอ? ถ้ามาร์ครู้เข้าเขาจะฆ่าเธอไหม?”แอเรียนเองไม่ได้เรื่องมากเรื่องรถอยู่แล้ว ขอให้มันขับได้ก็พอ เธอจึงขึ้นรถโดยไม่ลังเล “ไม่เป็นไรหรอก ขับ ๆ ไปเถอะ เขาอาจจะบีบคอฉัน แต่ไม่ใช่คอเธอ อีกอย่าง เราเอาซุปนี้ไปให้เขา เราไม่ได้ไปไกลสะหน่อย รถคันนี้… แพงเหรอ?”ทิฟฟานี่พยักหน้าเหมือนไก่ที่กำลังจิกเม็ดข้าว ดวงตาสีอัลมอนด์ของเธอเปล่งประกายแวววาวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุข “ถูกต้อง ราคาไม่เบา ไม่เบาเลยแหละ มันเป็นรถที่ไม่สามารถหาเจอที่ไหนได
แอเรียนอยู่ในห้างสรรพสินค้าและกำลังเลือกเสื้อผ้าของทารกแรกเกิดที่แผนกแม่และเด็ก ชุดเล็ก ๆ ทุกตัวดูน่ารักมาก เธอแทบจะมุ่งความสนใจไปที่เสื้อผ้าเด็กสีชมพูตัวเล็ก ๆ โดยสัญชาตญาณเพราะสิ่งที่แมรี่พูดก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการที่เธอมีแนวโน้มที่จะท้องเด็กผู้หญิง ยิ่งมองเธอก็ยิ่งปฏิเสธพวกมันไม่ลง เธอถูกล่อลวงมากจนเกือบจะซื้อสินค้าทั้งร้านทิฟฟานี่เอื้อมมือมาลูบท้องของแอเรียน “จึ ๆ ลูกเธอยังไม่เกิดด้วยซ้ำแต่เธอกลับดูเหมือนคุณแม่คนนึงไปแล้ว ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอีกไม่นานเธอก็ได้เป็นแม่คน เวลาผ่านไปไวเสียจริง ถ้าเป็นฉันนะ เธอจะไม่ต้องออกมาเดินเหนื่อยซื้อของแบบนี้หรอก ทำไมไม่รอให้มาร์คออกจากโรงพยาบาลก่อน? เขาจะได้มากับเธอ การมีส่วนร่วมของเขาไม่อาจทำได้จากห้องส่วนตัวเขานะ นั่นจะเป็นการปล่อยอิสระให้เขาง่ายเกินไป”คำพูดของเธอทำให้แอเรียนตะลึงจนแอเรียนเขินหน้าแดง แอเรียนรีบเอามือปิดปากทิฟฟานี่ “หยุดเลย อย่าพูดตามใจปากตัวเองแบบนี้ตลอดสิ เธอคิดหรอว่าคนอย่างเขาจะมาที่แบบนี้เพราะต้องซื้อเสื้อผ้าเด็ก? ฉันยังไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงวันนั้นเลย”ทิฟฟานี่นึกภาพมาร์คที่มีสีหน้าของคนเป็นพ่อที่รักลูกตนเองยืนเลือกเส
ผู้หญิงในชุดแดงตะลึง เธอยืนอยู่ข้างหลังอีธานด้วยความกลัวเกินที่จะพูดอะไร เธอเป็นเพียงแค่เลขาและสร้อยเส้นนั้นควรจะเป็นของลูกค้าผู้หญิงคนนึงทิฟฟานี่ไม่ได้คาดหวังให้เอธานมาซื้อของแบบนี้ให้เธอ เธอหัวเราะเยาะ “ฉันกินไข่ม้วนที่คุณซื้อให้คราวที่แล้วแล้ว ลืมสร้อยเส้นนี้ไปซะ ฉันไม่มีปัญญาซื้อมันหรอก และแน่นอนว่าฉันจะไม่ยอมให้คุณซื้อให้หรอก”แอเรียนดึงบัตรเครดิตแบล็กการ์ดออกมาจากกระเป๋าของเธอ “รูดบัตรฉันเลย ฉันซื้อเอง”อีธานยืนยัดที่จะใช้บัตรตนเอง โดยไม่ได้รับผลกระทบอย่างสิ้นเชิงกับคำปฏิเสธและคำพูดที่เย็นชาของทิฟฟานี่เขาชี้ไปที่สร้อยคออีกเส้นในขณะที่เขารูดการ์ด “ห่อเส้นโน้นให้ผมด้วย”ทิฟฟานี่ดูเหมือนจะอารมณ์เสียไปหมด เธอโยนสร้อยคอที่ห่อไว้ลงพื้น “อีธาน นี่คุณพยายามจะแสดงความเหนือกว่าของคุณให้ฉันเห็นหรือเปล่า? คุณคิดว่าเรื่องนี้สนุกมากหรอ? มันเป็นเพราะฉันเคยใช้เงินเพื่อซื้อของให้คุณใช่ไหม? คุณคิดว่านั้นเป็นการดูถูกคุณใช่ไหม? ตอนนี้คุณเลยต้องการจะเอาคืนถูกไหม?”อีธานเม้มริมฝีปากและจ้องไปที่เธอ “ฉันเปล่า เธอคิดมากไป เธอชอบมัน ฉันจึงมอบให้เธอ เรื่องมันก็มีแค่นี้”ความรู้สึกอัปยศอดสูนั้นยังค