ใบหน้าของชาร์ลส์แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ที่ขัดแย้งกัน “ฉันยอมก็ได้ไอ้เด็กน้อย พ่อของนายเล่าให้ฉันฟังก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น ฉันตกใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ นายรู้ไหม? ความสัมพันธ์ของเขาและแม่นายเต็มไปด้วยความรัก เขาไม่ได้ลงรายละเอียดกับฉัน แต่เขาบอกอย่างชัดเจนว่าถ้าวันใดวันหนึ่งลูกชายทั้งสองของเขากลายเป็นศัตรูที่ขมขื่กันเขาอยากให้ฉันเข้าไปช่วย คิด ๆ ดูแล้วเรื่องนี้มันฟังดูเป็นลางสังหรณ์ใช่ไหม? บางทีเขาอาจจะรู้จุดจบของเขาแล้ว หรือบางทีมันอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ… แน่นอนนั่นคงเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเทรมอนต์ ฉันคงไม่อาจเข้าใจ”มาร์คก้มลงมองโต๊ะ ดวงตาของเขากลายเป็นหน้าจอทึบแสงส่องจอที่ปกปิดอารมณ์ที่ถูกกระตุ้นของเขา ทิ้งไว้เพียงหมัดของเขาเป็นเบาะแสเดียวที่สื่อความรู้สึกที่แท้จริงของเขา “อย่าเอ่ยถึงเขาในประโยคเดียวกับแม่เลยคุณลุง เขาไม่สมควรได้รับมัน” เขากล่าว “ถึงอย่างไรก็ตาม นั่นเป็นความปรารถนาสุดท้ายของเขาใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้น คุณก็ให้เกียรติเขาตามที่คุณเห็นสมควรเลย แต่ผมจะบอกคุณให้ : ผมไม่เคยขอให้คนทุจริตคนนั้นได้รับอันตรายเลย เขาทำตัวเขาเอง”ความหนาวสั่นวิ่งลงกระดูกสันหลังของชายที่มีอ
ที่ห้องพยาบาล มาร์คไม่แม้แต่จะหลับตาลงในคืนที่ยาวนานและเงียบสงบนี้เช้าวันต่อมา แอเรียนลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ ยาชาได้หมดฤทธิ์ไปแล้วและหน้าเธอก็ซีดจากความเจ็บปวด แม้กระทั่งหน้าผากของเธอก็ยังเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเธอตกใจทันทีที่เธอเห็นมาร์ค “ลูก ๆ ของฉัน…”เขาแยกริมฝีปากบางของเขาออกเล็กน้อย “ไม่เป็นไร เราอย่ามีลูกกันเลยดีกว่า ผมดีใจที่คุณปลอดภัย”แอเรียนหายใจออกอย่างช้า ๆ เธอรู้ตั้งแต่เมื่อวานตอนทานอาหารค่ำแล้วว่าเธอจะต้องเสียลูก ๆ ของเธอ เธอแค่ไม่ได้คาดการณ์ว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ ตอนแรกเธอยังคิดอยู่เลยว่าเธอจะได้ให้กำเนิดลูก ๆ ทั้งสองอย่างสันติสุข แต่เรื่องราวก็กลายเป็นซะอย่างนี้…“ทำไม? มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ตอนแรกฉันยังดี ๆ อยู่เลยไม่ใช่หรอ? ฉันไม่ได้กินหรือทำอะไรที่ฉันไม่ควร…” เธอพึมพำกับตัวเอง น้ำตาเธอคลอเบ้า ทำให้เธอดูเหมือนตุ๊กตาเศษผ้าไร้วิญญาณที่น่าสงสาร“สภาพร่างกายของเธอไม่พร้อมที่จะให้เธอตั้งครรภ์ได้อีก มันเป็นความประมาทของผมเอง ผมไม่ควรทำให้เธอท้องตั้งแต่แรก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการแท้งลูกครั้งแรกของเธอได้ทำลาย…” เขาชะงักเพราะไม่อยากเอ่ยชื่อแอรี่ต่อหน้าเธอแอเรียนหันหน้าห
ฌองลุกขึ้นจากพื้นด้วยความหวังอันริบหรี่ในดวงตาของเขา “จริงด้วย... แอเรียนยังมีเงินและบ้านอยู่ในมือ สิ่งเหล่านั้นรวมกันเป็นเงินประมาณสามล้านดอลลาร์ซึ่งจะเพียงพอเพื่อให้เราอยู่รอดได้ชั่วขณะ! ไปหาเธอกันเถอะ!”หลังจากทำการสอบสวนแอรี่จึงได้รู้ว่าแอเรียนได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เธอบุกไปที่โรงพยาบาลเพียงเพื่อถูกหยุดโดยบอดี้การ์ดที่หน้าประตู ขณะนี้เธอไม่สนใจที่จะรักษาภาพลักษณ์ของเธอในฐานะสุภาพสตรีที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยอีกต่อไป "ให้ฉันเข้าไป! ให้ฉันเข้าไปหาอินางเลวนั่น!”แมรี่ที่ได้ยินเสียงวุ่นวายนอกห้องพยาบาลจึงเดินออกมาดูพร้อมใบหน้าที่บึ้งทันทีที่เธอก้าวออกไป "คุณมาทำอะไรที่นี่?"แอรี่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะยืนเขย่งเท้าเพื่อมองเข้าไปในห้องพยาบาล “แอเรียนอยู่ข้างในนั่นใช่ไหม? ให้ฉันเข้าไป! ฉันมีเรื่องด่วน!”แอรี่ดูเหมือนว่าเธอมาที่นี่เพื่อฆ่าแทนที่จะมาหาใครบางคน แน่นอนว่าแมรี่จะไม่ยอมให้เธอเข้าไป “คุณคินซีย์ นายหญิงของเรายังไม่หายดีพอที่จะรับแขกได้ โปรดกลับไปเถอะ ไม่เช่นนั้นฉันจะต้องดำเนินการกับคุณหากคุณยังคงสร้างความปั่นป่วนอยู่ที่นี่”แอรี่เหวี่ยงมือไปที
มาร์คขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแอรี่ใช้คำหยาบคายเหล่านั้นก่อนที่จะเดินเข้ามาหาและจับคางของเธอ เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มที่น่าฟังแต่ซ่อนความอันตราย “คุณกำลังท้าทายขีดจำกัดของผมนะ”แอรี่กลัวมากจนน้ำตาไหลและร่างกายสั่นสะท้านดั่งใบไม้ “ค-คุณ… จะทำอะไร?”เขาผลักเธอออกไปอย่างกะทันหัน “ผมไม่มีนิสัยชอบลงไม้ลงมือกับผู้หญิงหรอก แต่ถ้าคุณยังคงเพิกเฉยต่อไป ผมก็จะไม่รังเกียจที่จะปล่อยให้บอดี้การ์ดของผมทำมันแทน”แอรี่ล้มลงกับพื้นที่ก้นของเธอ รองเท้าส้นสูงที่เธอตั้งใจเลือกมาสำหรับการนัดเจอของพวกเขากลายเป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญในตอนนี้ เธอลุกขึ้นด้วยความยากลำบากและเดินกะเผลกออกไปเพียง เพื่อต้องหยุดเพราะบอดี้การ์ดที่จู่ ๆ ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ ด้วยความตื่นตระหนกเธอไม่แม้แต่จะสามารถถ่มน้ำลายใส่เขาได้เหมือนที่เธอเคยทำก่อนหน้านี้ ในที่สุด เธอก็รู้แล้วว่าความอ่อนโยนของมาร์คเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหน้ากากเขาเท่านั้น รอยยิ้มของเขาสามารถเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูใบไม้ผลิได้ แต่ความโกรธของเขาสามารถทำให้เกิดพายุหิมะในฤดูหนาวได้“ฉันจะไม่ไปหาแอเรียนอีกแล้ว… ได้โปรดปล่อยฉันไป…” เธอประนีประนอมและซ่อนความเกล
ทิฟฟานี่อยู่เคียงข้างแอเรียนทั้งในช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่เลวร้ายและตอนนี้เธอยังพูดถึงเรื่องที่จะไม่มีลูกอีก เธอได้ทำทุกอย่างที่เพื่อนคนนึงจะทำให้เพื่อนอีกคนได้หัวใจที่เย็นชาของแอเรียนกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง “ทิฟฟ์…ขอบคุณ ตอนนี้ฉันดีขึ้นแล้ว ฉันแค่รู้สึกเศร้านิดหน่อย ฉันรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้คุยกับเธอ ฉันอยากหย่า แต่ฉันจะทำอย่างไรได้ถ้ามาร์คไม่ยินยอม”แอเรียนต้องการที่จะหย่าจริง ๆ ขณะที่เธออยู่ในโรงพยาบาลเธอได้คิดไตร่ตรองเรื่องนี้มาดีแล้ว เธอจึงได้ตระหนักว่าเธอไม่อาจลืมเรื่องราวในอดีตได้ นอกจากนี้ เธอไม่สามารถมีลูกเองได้อีกต่อไป นั่นหมายความว่าจะไม่มีเป็นผู้สืบทอดให้ตระกูลเทรมอนต์ ไม่มีทางที่มาร์คจะไม่คิดอยากมีลูกในช่วงหนึ่งของชีวิตเขา เนื่องจากพวกเขาดำเนินการธุรกิจขนาดใหญ่ การมีทายาทจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับตระกูลเทรมอนต์ แอเรียนอยากยุติเรื่องต่าง ๆ ในตอนนี้มากกว่าที่จะต้องมากังวลกับปัญหาเหล่านั้นในอนาคต นอกจากนี้ เธอไม่ได้วางแผนที่จะอยู่ในครอบครัวเทรมอนต์ไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว สำหรับเธอ คฤหาสน์ เทรมอนต์ เป็นเพียงคุกที่หรูหราเท่านั้นทิฟฟานี่ไม่แปลกใจเลย เธอครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะพ
เธอจับชายเสื้อของเธอด้วยความกังวลใจและพยายามอย่างสงบสติอารมณ์บนใบหน้าของตนเองอย่างเต็มที่ “ไม่ ฉันยืนยันที่จะหย่า ครั้งหนึ่งฉันเคยพยายามโน้มน้าวตัวเองให้ใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไป พอฉันตั้งครรภ์ในครั้งนี้ ฉันจึงตั้งตารอที่จะได้คลอดลูกและเชื่อว่าทุกอย่างคงจะดีขึ้น แต่โชคชะตาก็ยังเลือกที่จะบอกฉันว่าฉันควรจะจากไป ขอบคุณที่คุณบอกฉันว่าคุณรักฉัน แต่ขอโทษที่ฉันไม่มีวันรักคุณได้ เวลาที่ฉันอยู่กับคุณฉันมักจะตัวสั่นเสมอ ฉันต้องอยู่แบบระมัดระวังและรอบคอบเพื่อไม่ให้คุณอารมณ์เสีย และฉันก็อึดอัดที่จะต้องอยู่ด้วยความรู้สึกผิดแบบนี้ตลอด เราจะอยู่ร่วมกันโดยที่เราไม่ได้รักกันได้อย่างไร? คุณไม่เบื่อหรอ?”มาร์คลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหันและคลายเน็คไทของเขา เขารู้สึกอยากทำลายข้าวของแต่ก็กังวลว่ามันจะทำให้เธอตกใจ “เธอไม่จำเป็นต้องรักฉัน ยังไงฉันก็จะไม่ยอมหย่า เธออยากทำอะไรก็ทำไปเลย! ฉันจะออกไปข้างนอกแล้ว ฉันยังมีบางอย่างที่ต้องจัดการ ถ้าเธอต้องการอะไรก็ไปหาแมรี่เอา”เขาหยิบเสื้อคลุมและออกไปจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ ในรถ ไบรอันถามเขาว่า "นายท่านอยากไปไหนครับ?"มาร์คไม่อยากจะทำอะไรเลย จริง ๆ แล้ววันนี้เขาลาหยุดเพราะอยากใช
ณ บ้านของครอบครัวเวสต์ทิฟฟานี่กำลังคุยกับซัมเมอร์อย่างสนุกสนาน มองแวบแรกพวกเขาดูเหมือนแม่และลูกสาวคู่หนึ่ง ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมากจนแจ็คสันดูเหมือนจะไม่เข้าพวกทั้ง ๆ เขาเป็นลูกชายของซัมเมอร์ เขานั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกอดพุดเดิ้ลของซัมเมอร์ไว้ในอ้อมแขน ชายร่างสูงในชุดสูทอุ้มลูกสุนัขขนปุยเป็นภาพที่น่ารักทีเดียว แม้แต่ทิฟฟานี่เองก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเขาอยู่สองสามครั้งดูเหมือนซัมเมอร์จะนึกอะไรบางอย่างได้เมื่อจู่ ๆ เธอก็พูดขึ้นมาว่า “ทิฟฟ์ นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอมาที่นี่ใช่ไหม? คืนนี้ไม่ต้องกลับหรอก มันดึกมากแล้ว คืนนี้นอนค้างคืนที่นี้และอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อน มันนานมาแล้วด้วยที่แจ็คสันได้มาพักที่นี่กับฉัน”สีหน้าของทิฟฟานี่ค่อย ๆ ตึงเครียด เธอกล่าวว่า “หนูคิดว่านั่นคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่นะคะคุณเวสต์ แม่ต้องบ่นหนูแน่ ๆ ถ้าหากหนูอยู่ค้างคืน เขาไม่ให้หนูค้างคืนที่อื่นแม้แต่บ้านของแฟนก็ตาม เขาเข้มงวดกับเรื่องแบบนั้นมาก”ซัมเมอร์ผิดหวังเล็กน้อย “อย่างนั้นเหรอ? มันเป็นเรื่องดีนะที่ครอบครัวของเธอเป็นห่วงเรื่องแบบนี้ แต่ฉันอยากให้เธออยู่ต่อจริง ๆ เอาแบบนี้ไหม? ทำไมเธอไม่เอาเบอร์ติดต่อแม่มาใ
ทันทีที่แจ็คสันเข้าห้องน้ำ ทิฟฟานี่ก็ถอดผ้าขนหนูออกและขึ้นเตียงไป กลิ่นบนหมอนเหมือนกลิ่นเขาเลย มันเป็นกลิ่นที่หอมหวาน จู่ ๆ เธอก็นึกถึงครั้งแรกที่เจอเขา ตอนนั้นเธอรู้สึกตื่นตาเมื่อเห็นใบหน้าเขา ใคร ๆ ก็คงใจเต้นรัวเมื่อได้เห็นใบหน้านั้น แต่ไม่ใช่สำหรับทิฟฟานี่เพราะตอนนั้นเธอยังคบกับอีธานอยู่แม้ว่าในหัวของเธอจะเต็มไปด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่าน แต่ในไม่ช้าเธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราเรียบร้อย เตียงขนาดยักษ์แสนสบาย หมอนหนานุ่มและผ้าห่มที่นุ่มสบายช่วยให้เธอนอนหลับได้สบาย นานมาแล้วที่เธอไม่ได้รู้สึกสบายใจเช่นนี้ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกอึดอัด ดูเหมือนว่าเธอจะดื่มน้ำมากเกินไปตอนที่คุยกับซัมเมอร์หลังอาหารเย็น เธอยังคงอยู่ในสภาพที่ขมุกขมัวขณะที่เธอพลิกผ้าห่มออก ในขณะนี้ในหัวของเธอมีเพียงความคิดเดียว เธอต้องเข้าห้องน้ำ เพียงพริบตาเธอก็สะดุดทันทีที่ลุกจากเตียง เธอได้ยินเสียงแจ็คสันครวญครางด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่เธอจะรู้สึกได้ว่าท้องของเธอไปบดขยี้ใบหน้าของเขาเพียงชั่วพริบตาเธอก็ถูกเขาโยนออกไปด้วยความรุนแรง จนเธอกระแทกเตียงอย่างแรง เตียงไม้ทำให้เธอเจ็บหลังและเธอก็อ