“พวกมึงก็หยุดแกล้งมันได้แล้ว” หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มเอ่ยขึ้น เพราะก่อนที่ศิวัฒน์จะเดินเข้ามาในงานพวกเขาก็วางแผนกันว่าจะแกล้งศิวัฒน์ เพราะอยากรู้ว่าเขาหวงเมียแค่ไหน“แค่อยากลองใจมัน อยากรู้ว่าความหวงเมียของมันอยู่เลเวลไหน”“สรุปมันเวลไหนวะ”ตอนนี้ศิวัฒน์รู้สึกเหมือนถูกลากมารุมยังไงยังงั้น“หมาลูกอ่อนเ
ณ.บริษัท ภายในห้องทำงานของผู้บริหารมีชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งจิบกาแฟและพูดคุยกัน เนื่องจากขณะที่ศิวัฒน์นั่งทำงานอยู่ได้มีสายเข้าจากเพื่อนสนิทว่าจะแวะเข้ามาเยี่ยมเยียน เขาเลยแจ้งให้เลขาเตรียมของว่างเพื่อรับแขกไว้“ไอ้ไตร”“หือ” ศิวัฒน์ขานรับในลำคอ“มึงไปงานแต่งไอ้วินมั้ยวะ”“อาจจะ” เขาตอบอย่างไม่แน่ใจน
“ฉัตรเคยห้ามพี่เหรอคะ” เธอหมายถึงเวลาเพื่อนชวนไปสังสรรค์ ศิวัฒน์มักจะบอกเธอเสมอ เธออนุญาตแต่เขากลับไม่เคยไปสักครั้ง“พี่เองต่างหากที่ไม่อยากไป เพราะเกรงใจฉัตร กลัวว่าไปแล้วฉัตรจะคิดมาก เพราะพี่น่ะประวัติไม่ค่อยดีเท่าไหร่”“เช่นอะไรบ้างคะ”“พอกินเหล้าแล้วพี่ทำฉัตรลุกไม่ไหวทุกที” นั่นหมายถึงงานเลี้ยงส
ปิดเทอมใหญ่ของฉัตรนลินทร์ เธอบอกศิวัฒน์ว่าขอพาลูกกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่บ้าน โดยตกลงกันว่าศิวัฒน์จะตามไปหลังจากที่เคลียร์งานที่บริษัทเสร็จเรียบร้อยแต่แล้วคืนก่อนที่ฉัตรนลินทร์จะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ศิวัฒน์ก็ยังไม่กลับบ้าน เธอแปลกใจจึงลองโทรหา แต่ก็ไม่มีคนรับสาย จนผ่านไปเกือบสี่ทุ่มด้วยความร้อนใจ
ทันทีที่ประตูเปิดออกศิวัฒน์ก็จับให้ฉัตรนลินทร์หันมาเผชิญหน้ากับเขา แล้วเขาก็บดเบียดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากสีสวยทันที แม้จะตกใจแต่ฉัตรนลินทร์ก็ไม่ได้รู้สึกกลัว เหมือนกับว่าเธอรู้สึกคุ้นเคยกับสัมผัสนี้ไปแล้ว แม้จะต่อต้านสุดท้ายร่างกายของเธอก็ต้องพ่ายแพ้ให้เขาอยู่ดี สู้ทำตามหัวใจของตัวเองไปเลยดีกว่าศิวั
“มึงไม่ต้องแสดงความคิดเห็น”“ทำไม รับความจริงไม่ได้” เขาทำหน้าเยาะเย้ย “เป็นกูกูก็ไม่รักผู้ชายเหี้ย ๆ แบบมึง แต่งงานกันเสร็จกลับไปเข้าหอกับผู้หญิงคนอื่น พอย้ายเข้าบ้านกลับพาผู้หญิงคนอื่นมาอยู่ในบ้านด้วย นี่กูยังแปลกใจเลยนะว่าน้องฉัตรทนได้ยังไง ก็ตามที่กูว่าแหละน้องมันไม่ได้คิดอะไรกับมึง เลยไม่รู้สึก