“ค่ะพี่เป๊ก ค่ะ รอจอมที่ร้านเลยค่ะ เดี๋ยวจอมรีบกลับไปนะคะ” เธอกดวางสายทันทีพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิมพร้อมกับคว้าหยิบปิ่นโตที่วางตั้งไว้มาถือเพื่อจะกลับ ก็ในเมื่อสามีไม่ต้องการปิ่นโตที่นำมาให้จะเอาไว้ทำไมล่ะ ก็เอากลับไปกินเองสิ
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว จะกินข้าวที่เธอเตรียมมา” พรรธน์ยศเอ่ยขึ้นเมื่อตอนนี้จอมใจไม่ได้สนใจตัวเองแล้วและกำลังจะเดินกลับไป
“คะ?” เธอเอี้ยวหน้าหันมากลอกตาไปมาอย่างสงสัยในประโยคของสามี
“ฉันหิว” เขาตอบสั้นห้วน
“แล้วยังไงคะ จะกินกับข้าวที่จอมเอามาเหรอคะ?” เธอถามกวนกลับพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็เปลี่ยนกลับเป็นหน้านิ่งปกติ
“ก็เอามาให้ฉันไม่ใช่เหรอ เอามาแล้วก็เอาเข้าไปจัดใส่จานสิ ฉันจะได้กิน” เขาบอกสั่งเธอ
“ไหนบอกว่าไม่กินของที่จอมนำมาให้คะ แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยากกินล่ะคะ”
“ถ้าจะให้กินก็ไปจัดใส่จานมา พูดมาก น่ารำคาญ!”
เมื่อพูดจบเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานพร้อมเปิดประตูทิ้งไว้ ส่วนจอมใจก็ได้แต่เบ้ปากเล็กน้อยแล้วเดินถือปิ่นโตไปยังห้องครัวที่เมื่อกี้เธอเดินผ่านมาทันที เพื่อจัดกับข้าวในปิ่นโตที่นำมาใส่จานนำไปให้ชายหนุ่ม แม้เขาจะปากร้าย แต่เขาก็ยอมทานกับข้าวที่นำมาให้และมันก็เป็นกับข้าวฝีมือเธอด้วยสิ
พรรธน์ยศปรายตามองกับข้าวสองอย่างในจานกับถ้วยตรงหน้าของตนเองที่โต๊ะกลางชุดโซฟาของห้องทำงาน มีแกงเขียวหวานปลากรายกับผัดผักรวมมิตรใส่กุ้งสด แค่เห็นก็น้ำลายไหลแล้ว ใช่...เขาเริ่มหิว เพราะตอนนี้มันเที่ยงกว่าแล้ว
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
“ทานเลยนะคะ เดี๋ยวจอมจะมาเก็บให้ค่ะ” เธอบอกเขาแล้วก็ลุกเดินไปยังมุมห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์ที่สั่นเตือนอยู่ออกมารับสาย พอเห็นว่าเป็นรเณศก็รีบรับสายทันที
“พี่เป๊ก จอมขอโทษนะคะ วันนี้คงกลับไปทานข้าวเที่ยงกับพี่เป๊กไม่ได้แล้วค่ะ” เธอบอกปลายสายอย่างรู้สึกผิดที่ผิดนัดรุ่นพี่หนุ่ม
“ฉันไม่ชอบกินข้าวคนเดียว” พรรธน์ยศเอ่ยเสียงดังพร้อมกับผลักจานข้าวตรงหน้าออกห่างแล้วมองไปทางคนที่สนใจโทรศัพท์มากกว่าตัวเองตอนนี้ ‘คงสำคัญมากสินะ คนที่โทรมาถึงได้โทรจี้กันขนาดนี้’ เขาพึมพำกับตัวเองด้วยความไม่พอใจ
จอมใจได้ยินที่เขาพูดจึงรีบคุยกับรุ่นพี่แล้วรีบตัดวางสายและเดินกลับมานั่งที่โซฟาตัวที่ว่างใกล้ๆ เขา
“ต้องให้จอมป้อนไหมคะ ถึงจะทานได้” เธอจับจานข้าวของเขามาตรงหน้าตัวเองพร้อมกับหยิบช้อนส้อมมาตักกับข้าวและข้าวใส่ช้อนให้พอดีคำแล้วยกขึ้นไปใกล้กับปากหนาที่เม้มเป็นเส้นตรง
“ทานสิคะ ไหนบอกไม่ชอบกินข้าวคนเดียว จอมก็จะป้อนค่ะ แต่จอมไม่กินค่ะ เพราะยังไม่หิว” เธอบอกเขาพร้อมกับรอให้เขาเปิดปากกินข้าวที่เธอตักป้อน
“ฉะ...อ่ะ...อื้อ” เพียงแค่เปิดปากจะพูด ข้าวที่จ่อตรงหน้าก็ถูกยัดเข้ามาในปากแบบไม่ให้ได้ตั้งตัวจนต้องยอมรับและเคี้ยวเร็วๆ แล้วกลืนลงท้อง
“เธอทำบ้าอะไรของเธอจอม!” เขากระชากเสียงถามพร้อมคว้าจับมือเล็กที่จับช้อนในมือรั้งไว้
“ก็พี่แทคไม่ชอบกินข้าวคนเดียว จอมก็มานั่งด้วยและป้อนแล้วนี่ไงคะ แล้วยังต้องการอะไรอีก”
“ฉันไม่ได้ให้เธอมาป้อนข้าวสักหน่อย เธอฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องรึไงว่าไม่ชอบกินข้าวคนเดียวก็คือต้องมีคนมานั่งกินเป็นเพื่อน ต้องกินด้วยกันไม่ใช่มานั่งด้วยและป้อนฉันแบบนี้”
“แต่จอมไม่หิวนี่คะ?”
“ไม่หิวหรือหิ้วท้องไว้รอกินกับไอ้ชู้ที่โทรมากันแน่จอม?” เขานึกเคืองคนตัวเล็กที่ให้ความสนใจคนที่โทรมาหามากกว่าตัวเอง และตัวเองก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วยเหมือนกันทำไมต้องหงุดหงิดแบบนี้ด้วย แค่หล่อนคุยกับผู้ชายเท่านั้น ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้รัก ไม่ชอบหล่อน ออกจะเกลียดจอมใจเสียด้วยซ้ำ
‘ทำไมพี่แทคพูดเหมือนหึงเราเลยนะ แต่ไม่ใช่หรอก พี่แทคเกลียดเราจะตาย ไม่มีทางหึงเราหรอก มีแต่เราคิดไปเองมากกว่ายัยจอม’ เธอคิดในใจแล้วก็ตอบกลับ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่แทคด้วยคะ ในเมื่อพี่แทคก็ไม่ได้สนใจอะไรจอมอยู่แล้วนี่คะ”
“ใช่! ไม่ได้สนใจ แต่ลืมไปรึเปล่าว่าเราแต่งงานกันเมื่อวาน และทะเบียนสมรสก็จดเรียบร้อยแล้ว”
“แล้วยังไงคะ? ก็ในเมื่อพี่บอกเองว่าไม่คิดจะยกย่องจอมอยู่แล้วนี่ แล้วจะมาสนใจอะไรคะ ถ้าไม่กินข้าวแล้ว จอมเก็บนะคะ จอมต้องรีบกลับไปร้าน”
“รีบกลับไปร้านหรือรีบกลับไปหาผู้ชายที่โทรมากันแน่จอม” เขารีบพูดตอบกลับและมือเล็กที่กำลังจะเก็บโต๊ะก็หยุดชะงักทันทีพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตาสีทมิฬแข็งกร้าวของเขาที่มองมายังตนอยู่ก่อน
“รู้อะไรไหมคะ ตอนนี้พี่แทคเหมือนคนกำลังหึงจอมเลยค่ะ อย่าทำให้จอมนึกดีใจสิคะว่าพี่แทคกำลังหึงจอมทั้งๆ ที่ความจริงพี่แทคเกลียดจอมมาตลอด”
“อย่าสำคัญตัวเองผิดจอม ฉันไม่เคยนึกพิศวาสเธอแม้แต่น้อย แต่ที่พูดเพราะอยากให้เธอจำใส่สมองไว้ว่าตัวเธอมีผัวแล้วไม่ใช่สาวโสดอย่างเมื่อก่อน ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่ได้นอนกับเธอก็ตาม แต่ยังไงเธอก็ใช้นามสกุลของฉันแล้ว”
“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ พี่แทคไม่ต้องห่วงค่ะ จอมจำใส่สมองเป็นอย่างดีและก็จำเสมอว่าตัวเองเป็นเมียแต่งที่พี่เกลียดชังน้ำหน้าและไม่มีวันแทนที่พี่ขวัญได้”
“หึ! รู้ตัวก็ดีแล้วนี่ และเธอก็น่ารังเกียจที่สุด ที่นึกอิจฉาได้แม้กระทั่งพี่สาวตัวเอง” เขาตอบสวนกลับ
“จอมขอถามหน่อยเถอะ ทำไมพี่แทคถึงรักจอมไม่ได้ ทำไมถึงต้องเป็นพี่ขวัญคนเดียวด้วย” เธอถามเขาอย่างสุดจะทนพร้อมกับยกมือปาดเช็ดน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอาบสองแก้ม
อึก!
“น้ำตามันช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอกนะจอม เธอร้องไห้เป็นสายเลือดหรือร้องจนตาย ฉันก็ไม่มีทางรักหรือชอบเธอได้หรอก เธอมันไม่ได้ครึ่งของขวัญเลยสักอย่าง ขวัญทั้งสวย ทั้งน่ารัก แต่เธอสิ สวยก็ไม่สวย มองตรงไหนก็น่าเบื่อ อย่าคิดเอาตัวเองมาเปรียบกับขวัญ จำไว้...วันไหนที่ขวัญกลับมา ฉันจะหย่ากับเธอเพื่อไปหาขวัญทันที” วาจาห้าวหาญเอ่ยเชือดเฉือนใจคนที่นั่งสะอื้นไห้อยู่บนโซฟาอีกตัว โดยไม่คิดจะตอบคำถามของจอมใจที่ถามตน
พรรธน์ยศปล่อยร่างอวบอิ่มของภรรยาคนสวยของตัวเองยืนข้างอ่างอาบน้ำเพื่อรอให้ตัวเองเปิดน้ำผสมน้ำในอ่างให้ได้อุณหภูมิพอดี และเพียงเวลาไม่นานก็ได้น้ำที่พอดีและอุณหภูมิพอดี เขาก็อุ้มจอมใจลงไปนอนแช่ในอ่างแล้วตามด้วยตัวเขาลงไปนั่งในอ่างซ้อนหลังภรรยา“อ่ะ...พี่แทค อืม...” เธอครางกระเส่าเมื่อปากหนาของเขาเริ่มจูบคลอเคลียกับต้นคอระหงเลื้อยมายังหัวไหล่เนียนมายังแผ่นหลัง“อ่า...หอม ขนาดมีเหงื่อยังหอมขนาดนี้ ขอบคุณนะทูนหัว ที่วันนี้แต่งงานกับพี่ และพี่ดีใจที่พี่ไม่ล่มงานแต่งงานของเรา ขอบคุณที่ขวัญหนีไปและทำให้พี่ได้เจ้าสาวแสนสวยคนนี้มา” เขาพึมพำกับหัวไหล่เปลือยของเธอพร้อมสอดมือโอบกอดมาด้านหน้าเคล้นคลึงสองเต้าอวบใหญ่ล้นมือไปด้วย“อ่ะ...อื้อ ถ้าย้อนเวลากลับไปวันนั้นอีกครั้ง จอมก็จะยังแต่งงานแทนพี่ขวัญค่ะ เพราะจอมรักพี่แทค จอมอยากเป็นเจ้าของพี่แทคมาตลอด อ่ะ...ชูว์ เบาๆ พี่แทค จอม...อ่า...เสียว” เธอจับมือใหญ่ที่ขยุ้มขยำหน้าอกตนเองให้ผ่อนแรงลงอีกนิดเมื่อเขาบีบแรงเกินไป“อ่า...แล้วก็ได้เป็นเจ้าสาวสมดั่งใจหวัง และที่สำคัญตอนนี้ได้ครองหัวใจพี่ด้วย จอมเป็นเหมือนยาชั้นดีที่หล่อเลี
ร่างเล็กที่เคยผอมบางเพรียวระหงตอนนี้อวบอิ่มและกำลังเดินอุ้ยอ้ายถือตะกร้าผักเข้ามาในบ้าน ตั้งแต่ง้อกันสำเร็จ เขาก็ได้รับของขวัญในเย็นนั้นคือจอมใจกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา เขากำลังจะเป็นพ่อคน และทั้งคู่ก็พากันย้ายมาอยู่บ้านสามี เพราะพรรธน์ยศเป็นห่วงแม่ที่เริ่มอายุเยอะแล้วอยู่คนเดียว และจอมใจก็เห็นด้วย เพราะที่บ้านขวัญใจพี่สาวก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว ตอนนี้จึงสบายใจที่พี่สาวอยู่ดูแลพ่อกับแม่แทนตัวเอง “ไปเก็บผักสวนครัวหลังบ้านเหรอจ๊ะทูนหัว” เขาที่เพิ่งกลับมาจากทำงานก็รีบถามสาวใช้ทันทีว่าภรรยาตัวเองอยู่ไหน พอรู้ก็รีบมาหาและเห็นร่างอุ้ยอ้ายของหญิงท้องแก่อีกสองเดือนก็จะคลอดเจ้าตัวเล็กเดินถือตะกร้าผักบุ้ง ผักคะน้าเข้ามาในบ้านพอดี “ค่ะ พี่แทค เพิ่งมาถึงเหรอคะ?” “ครับ เหนียวตัวจังเลย เก็บผักมาเหงื่อคงเยอะแน่เลย ไปอาบน้ำกันเถอะ” เขาเดินมาโอบประคองภรรยาที่ถือตะกร้าผักในมือแล้วยื้อแย่งจากมือส่งให้สาวใช้ที่เดินตามหลังภรร
“ไม่หย่า! กลับมาอยู่ด้วยกันนะ ให้โอกาสพี่นะ ที่ผ่านมาพี่มันไม่ดีจริงๆ ปากไม่ดีและนิสัยก็ไม่ดี ให้พี่ได้แก้ตัวกับสิ่งที่ผ่านมานะ พี่จะเป็นสามีที่ดีของจอม กลับมาอยู่กับพี่นะคนดีของพี่” เขายื่นมือคว้ามือเล็กมากุมไว้แน่นด้วยกลัวเธอจะวิ่งหนี“โอกาสเหรอคะ? จอมถามหน่อยเถอะ พี่แทคจะให้จอมกลับไปทำไม ในเมื่อในใจพี่แทคไม่เคยมีจอม พี่แทคไม่เคยมีผู้หญิงคนนี้ แล้วจะรั้งจอมไว้ทำไมคะ?” หัวใจดวงน้อยเจ็บทุกครั้งเมื่อต้องย้ำกับตัวเองว่าเขาไม่เคยรักตน“ใครบอกว่าพี่ไม่เคยมีจอม ถ้าไม่มีจอม พี่จะทำแบบนี้เหรอ พี่ไม่เคยคุกเข่าให้ใครเลยนะนอกจากจอมคนเดียวที่คู่ควรกับการคุกเข่าของพี่ กลับมาอยู่ด้วยกันนะทูนหัว ดูพี่สิ ตอนนี้สภาพพี่แย่มาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับเพราะคิดถึงเมีย กลับบ้านเรานะทูนหัว” พรรธน์ยศอ้อนทันทีพร้อมกับดึงมือเล็กมาลูบไล้แก้มสากที่ซูบตอบลงของตัวเองเมื่อเขาพูดนั่นแหละ จอมใจถึงได้มองหน้าหล่อๆ ของสามี เพิ่งสังเกตว่ามันซูบลงไปเยอะจริงๆ ดวงตาก็คล้ำโบ๋เหมือนคนไม่ได้หลับได้นอน“แล้วทำไมจอมต้องสนใจพี่แทคด้วยคะ ก็ในเมื่ออีกไม่กี่นาทีข้
“กลับมาอยู่บ้านเรานะลูก” ทิพย์มณีเอ่ยพร้อมกับลูบแผ่นหลังเล็กของลูกสาว ส่วนภูธิปก็ทำเช่นเดียวกันกับภรรยา ตอนนี้พ่อแม่ลูกกอดกันกลม“กลับมาอยู่บ้านเรานะจอม พี่ขอโทษนะที่เห็นแก่ตัว ตอนนี้พี่คิดได้แล้ว” ขวัญใจเดินมาโอบกอดทั้งสามอีก เป็นภาพที่ดูแล้วอิ่มใจมากสำหรับคนที่เดินผ่านไปมา ส่วนรเณศและหนึ่งฤทัยก็ได้แต่หันมาส่งยิ้มให้กันแล้วพากันเดินถอยไปอยู่เงียบๆ ในมุมของตัวเอง เพื่อให้ทุกคนเคลียร์ใจกัน“จอม...พี่ขอโทษนะ ที่ก่อนหน้านี้พี่เห็นแก่ตัว พี่ขอโทษจริงๆ พี่รักจอมนะน้องพี่ ให้อภัยพี่นะจอม” เมื่อทั้งสี่คนผละออกจากกัน ขวัญใจก็จับมือเล็กของน้องสาวมากุมแน่นเพื่อขอให้น้องยกโทษให้กับความผิดของตัวเองที่ผ่านมา“ตอนนี้พี่เขารู้แล้วว่าพี่เขาควรอยู่ตรงไหน” ทิพย์มณีเอ่ยเสริม“ใช่ลูก กลับมาอยู่ด้วยกันนะ กลับมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวเราเหมือนเดิม ตอนนี้พี่เขาสำนึกผิดแล้วและพ่อก็ให้อภัยพี่เขาแล้ว อย่าแบกความทุกข์ไว้คนเดียวเลยนะลูก และอย่าหนีไปแบบนี้อีกรู้ไหมพ่อกับแม่เป็นห่วงมากแค่ไหน โดยเฉพาะพ่อแทคเขาเป็นห่วงเรามากนะจอม&rdq
หนึ่งฤทัยพาจอมใจมากรุงเทพฯ มาถึงตั้งแต่เช้ามาแวะที่คอนโดของเพื่อนรักก่อน เพื่อรอเวลานัดกับพรรธน์ยศที่หน้าสำนักงานเขตเพื่อไปจดทะเบียนหย่ากับสามี จริงๆ รู้ว่าเพื่อนไม่ไหว แต่ทำยังไงได้เมื่อเพื่อนอยากมาหย่าให้ขาดจากสามี แม้จะรักแต่ยอมเจ็บปวดดีกว่าปล่อยไว้นาน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “เราไปเปิดประตูก่อนนะ สงสัยพี่เป๊กมาแล้วน่ะ” หนึ่งฤทัยบอกเพื่อนรักแล้วเดินไปเปิดประตูห้องทันที แล้วก็จริงเป็นรเณศจริงๆ ถึงเดินกลับมาพร้อมกับผู้มาใหม่และปิดประตูไว้เหมือนเดิม “เป็นยังไงมั่งจอม โอเคไหม พร้อมไหม” รเณศถามหญิงสาวพร้อมนั่งลงโซฟาตัวที่ว่างตรงข้ามเธอ ส่วนหนึ่งฤทัยก็เดินไปนั่งลงที่เดิมข้างเพื่อนรัก “แล้วจอมไม่โอเคได้ไหมล่ะพี่เป๊ก ไม่โอเคก็ต้องโอเคแหละ ไปกันเถอะค่ะ จอมไหว ตอนนี้ก็ใกล้ได้เวลานัดแล้ว” เธอบอกชายหนุ่ม&n
เลขาแจ้งว่ามีคนมาขอพบอยู่ข้างล่าง เขาจึงถามว่าใคร พอรู้ว่าเป็นรเณศก็รีบให้ขึ้นมาหาตัวเองที่ห้องทำงานทันที ทันทีที่รเณศมาถึง พรรธน์ยศก็ถามทันทีว่าอีกฝ่ายมาทำไม และก็เห็นว่าในมือของอีกฝ่ายมีซองเอกสารสีน้ำตาลมาด้วย รเณศไม่ตอบ แต่กลับเดินมาดึงลากเก้าอี้นั่งโดยไม่สนใจว่าเจ้าของห้องทำงานจะเชิญชวนหรือไม่ “อะไร?” พรรธน์ยศถามเสียงห้วนเมื่อเห็นซองเอกสารในมืออีกฝ่ายที่โยนมาทิ้งตรงหน้าตัวเอง “เปิดดูสิ” รเณศตอบสั้นๆ พร้อมเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ยกขาไขว่ห้างด้วยท่าทางสบายๆ พรรธน์ยศรีบหยิบซองเอกสารเปิดออกมาดูทันทีว่ามันคือซองอะไร พอไล่สายตาอ่านก็ถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความโกรธ สันกรามปูดโปนขึ้นทันที มือใหญ่ก็กำเอกสารในมือแน่น “ใบหย่างั้นเหรอ?” “เซ็นซะ จะได้เสร็จธุระของฉัน” รเณศเอ่ยสั่งอีกฝ่าย&nb