ฮึก! ฮือๆ
ยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเจ็บยิ่งช้ำกับคำพูดของเขา คำพูดของพรรธน์ยศเปรียบเหมือนเข็มเล็กๆ ที่ทิ่มแทงตำในอกของเธอและมันก็เหมือนมีดเล่มเล็กๆ ที่กรีดเฉือนใจเธอด้วยในตอนนี้ ทำไมกัน ทำไมเขาถึงมองเธอในแง่ร้ายแบบนี้ เธอไม่เคยคิดและนึกอิจฉาขวัญใจเลยสักครั้งที่ถูกเขาเลือก แต่เธอน้อยใจในโชคชะตาตัวเองมากกว่าที่ไม่เป็นคนที่ถูกเขาเลือก
“ใช่ จอมมันไม่สวย จอมมันไม่น่าดึงดูดแบบพี่ขวัญ แต่ยังไงตอนนี้พี่แทคก็เป็นของจอม เป็นสามีจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญ” เธอปาดเช็ดน้ำตากลืนก้อนสะอื้นลงคอพร้อมโต้ตอบกลับเสียงดังโดยไม่นึกกลัวสายตาสีทมิฬที่เพ่งมองมาทางตน
“น่าสมเพช! หึ!” พรรธน์ยศยิ้มเยาะเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะพูดต่อ “เก็บโต๊ะแล้วรีบไสหัวไป ก่อนที่ฉันจะทำร้ายเธอจอม ไปให้พ้นหน้าฉัน ผู้หญิงความคิดต่ำอิจฉาได้แม้กระทั่งพี่สาวตัวเอง”
“ถึงวันนี้จอมจะไป ยังไงเราก็ต้องเจอกัน เพราะเราคือสามีภรรยากัน จำไว้ว่าพี่แทคเป็นของจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญแล้วตอนนี้ พี่แทคเป็นของจอม” เธอฝืนความเจ็บปวดในอกตะโกนตอกกลับพร้อมกับคว้าหยิบกระเป๋าแล้วลุกเดินหนีออกจากห้องทำงานใหญ่ไปทันที โดยไม่สนใจจะเก็บโต๊ะตามที่เขาสั่ง
ปึก!
พรรธน์ยศหันไปมองประตูที่ถูกกระแทกปิดเต็มแรงแล้วมองไปยังอาหารและจานข้าวตรงหน้าตัวเองแล้วก็นั่งลงเหมือนเดิม แม้จะโกรธมากแค่ไหน แต่กับข้าวที่ได้ทานไปแค่คำเดียวก่อนหน้านี้อร่อยและรสถูกปากเขาทีเดียว
“ยัยผู้หญิงน่าสมเพช!”
เขาพึมพำพร้อมกับดึงจานข้าวมาตักกับข้าวและข้าวพอดีคำทานต่อ พอคำข้าวเข้าปากก็รู้สึกว่าความขุ่นเคืองในใจได้มลายหายไปทันทีเมื่อได้สัมผัสกับรสชาติของแกงเขียวหวานปลากราย ก่อนหน้านี้ผัดผักรวมมิตรกุ้งสดว่าอร่อยแล้วพอได้กินแกงเขียวหวานปลากรายอร่อยยิ่งกว่า แถมเป็นรสชาติเผ็ดหวานมันที่เขาชอบด้วย
“อืม...อร่อยดี คงอาหารที่ร้านเธอสินะ” เขาพึมพำแล้วตักทานต่อคำที่สองที่สามโดยไม่รู้เลยว่ากับข้าวที่ทานเป็นฝีมือของจอมใจ ภรรยาแสนชังของตัวเองที่ตั้งใจทำมาให้สุดฝีมือ
แม้จะเจ็บกับคำพูดเมื่อตอนกลางวันมากแค่ไหน แต่เธอก็ต้องปัดทิ้งออกจากหัว เพราะยังไงก็ต้องเจอกับพรรธน์ยศอยู่ดี และตอนนี้เธอก็มาบ้านกรีฑาเพื่อมาช่วยที่บ้านเตรียมมื้อเย็น นี่คือครั้งแรกที่จะได้ทานข้าวกับแม่ของสามีด้วย และเมนูกับข้าวทุกอย่างล้วนเป็นอาหารที่พรรธน์ยศชอบทั้งนั้น เธอถามแม่ของเขาว่าเขาชอบทานอะไรและรสชาติแบบไหน เธอก็ทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเขา แม้จะรู้ดีว่าผลตอบแทนที่จะได้รับกลับมามีแต่คำพูดจาถากถางทำร้ายจิตใจ แต่ก็อยากทำให้เขาทาน
“เสร็จแล้วเหรอลูก” นิษฐาถามลูกสะใภ้ที่เพิ่งจัดจานข้าวกับเด็กรับใช้เสร็จพร้อมมองไปยังหมูผัดกะปิ แกงป่าไก่บ้าน น้ำพริกปลาย่างผักสด และหมูผัดขิงอ่อน
“ค่ะ คุณแม่ หนูทำเสร็จแล้วค่ะ ของหวานก็เสร็จแล้วนะคะ เป็นกระท้อนลอยแก้ว”
“ดูสิ หนูจอมสะใภ้แม่เก่งขนาดนี้แล้วพ่อแทคยังไม่สนใจอีก มันน่าตีนัก หนูจอมอดทนหน่อยนะลูก แม่เชื่อว่าวันข้างหน้าพ่อแทคต้องเห็นความดีในตัวหนูบ้างแหละ” นางเอ่ยให้กำลังใจลูกสะใภ้
“หนูก็หวังแบบนั้นค่ะ หวังว่าพี่แทคจะรักหนูบ้าง หรือไม่รักก็ได้ แต่ขอให้มองหนูแบบที่มองคนอื่นบ้างไม่ใช่มองด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อเหมือนทุกวันนี้”
“ไม่คิดมากนะลูก อย่าสนใจปากร้ายๆ ของลูกชายแม่เลย เตรียมเสร็จแล้วก็ไปถอดผ้ากันเปื้อนเถอะ เหมือนว่าพ่อแทคจะกลับมาแล้วนะ แม่ได้ยินเสียงรถน่ะ”
“งั้นหนูไปถอดผ้ากันเปื้อนก่อนนะคะ”
“จ้า รีบไปนะ เดี๋ยวแม่จะให้คนใช้ตักข้าวรอเลย นี่ก็หกโมงได้เวลาทานมื้อเย็นแล้ว เพราะทานมื้อเย็นอิ่ม แม่ต้องไปรอดูละครหลังข่าวน่ะ”
“ค่ะ คุณแม่” แล้วเธอก็เดินออกจากห้องรับประทานอาหารไปยังห้องครัว ส่วนนิษฐาก็หันไปสั่งเด็กรับใช้ตักข้าวรอลูกสะใภ้และลูกชายโดยไม่ลืมสั่งเด็กไปบอกพรรธน์ยศว่ามื้อเย็นพร้อมแล้ว ส่วนนางก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้หัวโต๊ะที่เด็กรับใช้ดึงเลื่อนออกให้นั่ง
พรรธน์ยศมองกับข้าวบนโต๊ะอาหารแล้วก็น้ำลายไหลทันที เพราะแต่ละเมนูมีแต่ของโปรดของชอบเขาทั้งนั้นจึงไม่รอช้าที่จะดึงเก้าอี้ออกมานั่งเพื่อจะทานข้าว แต่พอจะหยิบช้อนกลางตักอาหารก็ถูกแม่ร้องห้ามไว้ก่อน
“อย่าเพิ่งสิพ่อแทค รอหนูจอมก่อน” นางบอกลูกชายและมือที่จับช้อนก็รีบชักกลับทันที
“ทำไมต้องรอคนไม่รักษาเวลาด้วยครับ” เขาตอบกลับโดยไม่รู้ว่ากับข้าวตรงหน้าเป็นฝีมือของจอมใจ
“ต้องรอสิ เพราะหนูจอมเป็นคนทำกับข้าวพวกนี้ทั้งหมด” นางตอบกลับยิ้มๆ
“เหรอครับ และคุณแม่ก็บอกเธอทำของชอบของผมเหรอครับ”
“เปล่า น้องถามแม่ว่าเราชอบกินอะไร แม่ก็เลยบอกและหนูจอมก็ไปตลาดสดซื้อของมาทำเพื่อเอาใจสามี”
หึ!
“แสดงบทเมียเก่ง” เขาพึมพำในลำคอ แต่คนหูดีอย่างแม่เขาก็ได้ยินชัดจึงตอบกลับ
“หนูจอมทำด้วยใจก็หาว่าแสดง นั่นไงมาแล้ว ทานเถอะ ถ้าลูกหิว เพราะหนูจอมมาแล้ว”
“ผมไม่คิดจะรอแม่นั่นอยู่แล้ว ไหนดูซิ ทำได้ใช่ว่าจะกินได้สักหน่อย” แล้วเขาก็ตักหมูผัดขิงใส่จานข้าวพร้อมตักใส่ข้าวและช้อนพอดีคำใส่เข้าปากพร้อมกับที่จอมใจเดินมาดึงเก้าอี้ที่นั่งตรงข้ามเขาออกนั่ง
พรรธน์ยศปล่อยร่างอวบอิ่มของภรรยาคนสวยของตัวเองยืนข้างอ่างอาบน้ำเพื่อรอให้ตัวเองเปิดน้ำผสมน้ำในอ่างให้ได้อุณหภูมิพอดี และเพียงเวลาไม่นานก็ได้น้ำที่พอดีและอุณหภูมิพอดี เขาก็อุ้มจอมใจลงไปนอนแช่ในอ่างแล้วตามด้วยตัวเขาลงไปนั่งในอ่างซ้อนหลังภรรยา“อ่ะ...พี่แทค อืม...” เธอครางกระเส่าเมื่อปากหนาของเขาเริ่มจูบคลอเคลียกับต้นคอระหงเลื้อยมายังหัวไหล่เนียนมายังแผ่นหลัง“อ่า...หอม ขนาดมีเหงื่อยังหอมขนาดนี้ ขอบคุณนะทูนหัว ที่วันนี้แต่งงานกับพี่ และพี่ดีใจที่พี่ไม่ล่มงานแต่งงานของเรา ขอบคุณที่ขวัญหนีไปและทำให้พี่ได้เจ้าสาวแสนสวยคนนี้มา” เขาพึมพำกับหัวไหล่เปลือยของเธอพร้อมสอดมือโอบกอดมาด้านหน้าเคล้นคลึงสองเต้าอวบใหญ่ล้นมือไปด้วย“อ่ะ...อื้อ ถ้าย้อนเวลากลับไปวันนั้นอีกครั้ง จอมก็จะยังแต่งงานแทนพี่ขวัญค่ะ เพราะจอมรักพี่แทค จอมอยากเป็นเจ้าของพี่แทคมาตลอด อ่ะ...ชูว์ เบาๆ พี่แทค จอม...อ่า...เสียว” เธอจับมือใหญ่ที่ขยุ้มขยำหน้าอกตนเองให้ผ่อนแรงลงอีกนิดเมื่อเขาบีบแรงเกินไป“อ่า...แล้วก็ได้เป็นเจ้าสาวสมดั่งใจหวัง และที่สำคัญตอนนี้ได้ครองหัวใจพี่ด้วย จอมเป็นเหมือนยาชั้นดีที่หล่อเลี
ร่างเล็กที่เคยผอมบางเพรียวระหงตอนนี้อวบอิ่มและกำลังเดินอุ้ยอ้ายถือตะกร้าผักเข้ามาในบ้าน ตั้งแต่ง้อกันสำเร็จ เขาก็ได้รับของขวัญในเย็นนั้นคือจอมใจกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา เขากำลังจะเป็นพ่อคน และทั้งคู่ก็พากันย้ายมาอยู่บ้านสามี เพราะพรรธน์ยศเป็นห่วงแม่ที่เริ่มอายุเยอะแล้วอยู่คนเดียว และจอมใจก็เห็นด้วย เพราะที่บ้านขวัญใจพี่สาวก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว ตอนนี้จึงสบายใจที่พี่สาวอยู่ดูแลพ่อกับแม่แทนตัวเอง “ไปเก็บผักสวนครัวหลังบ้านเหรอจ๊ะทูนหัว” เขาที่เพิ่งกลับมาจากทำงานก็รีบถามสาวใช้ทันทีว่าภรรยาตัวเองอยู่ไหน พอรู้ก็รีบมาหาและเห็นร่างอุ้ยอ้ายของหญิงท้องแก่อีกสองเดือนก็จะคลอดเจ้าตัวเล็กเดินถือตะกร้าผักบุ้ง ผักคะน้าเข้ามาในบ้านพอดี “ค่ะ พี่แทค เพิ่งมาถึงเหรอคะ?” “ครับ เหนียวตัวจังเลย เก็บผักมาเหงื่อคงเยอะแน่เลย ไปอาบน้ำกันเถอะ” เขาเดินมาโอบประคองภรรยาที่ถือตะกร้าผักในมือแล้วยื้อแย่งจากมือส่งให้สาวใช้ที่เดินตามหลังภรร
“ไม่หย่า! กลับมาอยู่ด้วยกันนะ ให้โอกาสพี่นะ ที่ผ่านมาพี่มันไม่ดีจริงๆ ปากไม่ดีและนิสัยก็ไม่ดี ให้พี่ได้แก้ตัวกับสิ่งที่ผ่านมานะ พี่จะเป็นสามีที่ดีของจอม กลับมาอยู่กับพี่นะคนดีของพี่” เขายื่นมือคว้ามือเล็กมากุมไว้แน่นด้วยกลัวเธอจะวิ่งหนี“โอกาสเหรอคะ? จอมถามหน่อยเถอะ พี่แทคจะให้จอมกลับไปทำไม ในเมื่อในใจพี่แทคไม่เคยมีจอม พี่แทคไม่เคยมีผู้หญิงคนนี้ แล้วจะรั้งจอมไว้ทำไมคะ?” หัวใจดวงน้อยเจ็บทุกครั้งเมื่อต้องย้ำกับตัวเองว่าเขาไม่เคยรักตน“ใครบอกว่าพี่ไม่เคยมีจอม ถ้าไม่มีจอม พี่จะทำแบบนี้เหรอ พี่ไม่เคยคุกเข่าให้ใครเลยนะนอกจากจอมคนเดียวที่คู่ควรกับการคุกเข่าของพี่ กลับมาอยู่ด้วยกันนะทูนหัว ดูพี่สิ ตอนนี้สภาพพี่แย่มาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับเพราะคิดถึงเมีย กลับบ้านเรานะทูนหัว” พรรธน์ยศอ้อนทันทีพร้อมกับดึงมือเล็กมาลูบไล้แก้มสากที่ซูบตอบลงของตัวเองเมื่อเขาพูดนั่นแหละ จอมใจถึงได้มองหน้าหล่อๆ ของสามี เพิ่งสังเกตว่ามันซูบลงไปเยอะจริงๆ ดวงตาก็คล้ำโบ๋เหมือนคนไม่ได้หลับได้นอน“แล้วทำไมจอมต้องสนใจพี่แทคด้วยคะ ก็ในเมื่ออีกไม่กี่นาทีข้
“กลับมาอยู่บ้านเรานะลูก” ทิพย์มณีเอ่ยพร้อมกับลูบแผ่นหลังเล็กของลูกสาว ส่วนภูธิปก็ทำเช่นเดียวกันกับภรรยา ตอนนี้พ่อแม่ลูกกอดกันกลม“กลับมาอยู่บ้านเรานะจอม พี่ขอโทษนะที่เห็นแก่ตัว ตอนนี้พี่คิดได้แล้ว” ขวัญใจเดินมาโอบกอดทั้งสามอีก เป็นภาพที่ดูแล้วอิ่มใจมากสำหรับคนที่เดินผ่านไปมา ส่วนรเณศและหนึ่งฤทัยก็ได้แต่หันมาส่งยิ้มให้กันแล้วพากันเดินถอยไปอยู่เงียบๆ ในมุมของตัวเอง เพื่อให้ทุกคนเคลียร์ใจกัน“จอม...พี่ขอโทษนะ ที่ก่อนหน้านี้พี่เห็นแก่ตัว พี่ขอโทษจริงๆ พี่รักจอมนะน้องพี่ ให้อภัยพี่นะจอม” เมื่อทั้งสี่คนผละออกจากกัน ขวัญใจก็จับมือเล็กของน้องสาวมากุมแน่นเพื่อขอให้น้องยกโทษให้กับความผิดของตัวเองที่ผ่านมา“ตอนนี้พี่เขารู้แล้วว่าพี่เขาควรอยู่ตรงไหน” ทิพย์มณีเอ่ยเสริม“ใช่ลูก กลับมาอยู่ด้วยกันนะ กลับมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวเราเหมือนเดิม ตอนนี้พี่เขาสำนึกผิดแล้วและพ่อก็ให้อภัยพี่เขาแล้ว อย่าแบกความทุกข์ไว้คนเดียวเลยนะลูก และอย่าหนีไปแบบนี้อีกรู้ไหมพ่อกับแม่เป็นห่วงมากแค่ไหน โดยเฉพาะพ่อแทคเขาเป็นห่วงเรามากนะจอม&rdq
หนึ่งฤทัยพาจอมใจมากรุงเทพฯ มาถึงตั้งแต่เช้ามาแวะที่คอนโดของเพื่อนรักก่อน เพื่อรอเวลานัดกับพรรธน์ยศที่หน้าสำนักงานเขตเพื่อไปจดทะเบียนหย่ากับสามี จริงๆ รู้ว่าเพื่อนไม่ไหว แต่ทำยังไงได้เมื่อเพื่อนอยากมาหย่าให้ขาดจากสามี แม้จะรักแต่ยอมเจ็บปวดดีกว่าปล่อยไว้นาน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “เราไปเปิดประตูก่อนนะ สงสัยพี่เป๊กมาแล้วน่ะ” หนึ่งฤทัยบอกเพื่อนรักแล้วเดินไปเปิดประตูห้องทันที แล้วก็จริงเป็นรเณศจริงๆ ถึงเดินกลับมาพร้อมกับผู้มาใหม่และปิดประตูไว้เหมือนเดิม “เป็นยังไงมั่งจอม โอเคไหม พร้อมไหม” รเณศถามหญิงสาวพร้อมนั่งลงโซฟาตัวที่ว่างตรงข้ามเธอ ส่วนหนึ่งฤทัยก็เดินไปนั่งลงที่เดิมข้างเพื่อนรัก “แล้วจอมไม่โอเคได้ไหมล่ะพี่เป๊ก ไม่โอเคก็ต้องโอเคแหละ ไปกันเถอะค่ะ จอมไหว ตอนนี้ก็ใกล้ได้เวลานัดแล้ว” เธอบอกชายหนุ่ม&n
เลขาแจ้งว่ามีคนมาขอพบอยู่ข้างล่าง เขาจึงถามว่าใคร พอรู้ว่าเป็นรเณศก็รีบให้ขึ้นมาหาตัวเองที่ห้องทำงานทันที ทันทีที่รเณศมาถึง พรรธน์ยศก็ถามทันทีว่าอีกฝ่ายมาทำไม และก็เห็นว่าในมือของอีกฝ่ายมีซองเอกสารสีน้ำตาลมาด้วย รเณศไม่ตอบ แต่กลับเดินมาดึงลากเก้าอี้นั่งโดยไม่สนใจว่าเจ้าของห้องทำงานจะเชิญชวนหรือไม่ “อะไร?” พรรธน์ยศถามเสียงห้วนเมื่อเห็นซองเอกสารในมืออีกฝ่ายที่โยนมาทิ้งตรงหน้าตัวเอง “เปิดดูสิ” รเณศตอบสั้นๆ พร้อมเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ยกขาไขว่ห้างด้วยท่าทางสบายๆ พรรธน์ยศรีบหยิบซองเอกสารเปิดออกมาดูทันทีว่ามันคือซองอะไร พอไล่สายตาอ่านก็ถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความโกรธ สันกรามปูดโปนขึ้นทันที มือใหญ่ก็กำเอกสารในมือแน่น “ใบหย่างั้นเหรอ?” “เซ็นซะ จะได้เสร็จธุระของฉัน” รเณศเอ่ยสั่งอีกฝ่าย&nb