Share

เมียง้อ

last update Last Updated: 2025-09-26 02:00:02

ดวงตาคมกริบเหลือบมองร่างแบบบางที่เคลื่อนไหวตัวเองภายในห้องอาหาร มือเรียวประคองจานที่มีข้าวสวยร้อนๆ อยู่บนนั้น แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย เมนูนี้ที่บ้านของเขามีอยู่เป็นประจำ เท่าที่ดูจากสีสัน รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของแม่บ้าน ถึงอย่างนั้นก็มีไอความร้อนที่บ่งบอกว่าแม้จะทำไว้ก่อนหน้านี้หลายชั่วโมง แต่พอนำมาทานใหม่ ก็มีการอุ่นอาหารให้ร้อนเหมือนเดิม

ผัดคะน้าหมูที่เจ้าสาวหมาดๆ อ้างว่าเป็นคนทำก็ดูน่าทาน ก้านคะน้ามีการปลอกอย่างใส่ใจ เนื้อหมูที่ถูกหั่นชิ้นก็ดูพอดีคำ

"ไม่เห็นเฮียบอกรักเลยค่ะว่าภูพิงค์ไลน์หาตอนที่เราอยู่บ้านของรัก"

"แล้วมันสำคัญแบบไหน"

"รักไม่รู้นี่คะว่าเฮียเข้าใจว่าเราจะทานมื้อค่ำที่บ้านของรักไปเลย"

"แล้วเหตุผลอะไรที่ฉันต้องซื้อของกลับไปที่บ้านของเธอตั้งหลายอย่างทั้งที่เธอพยายามย้ำว่าที่บ้านอยู่กันแค่สามคน" คำพูดของคนตัวโตทำคนฟังชะงักไปทันที

จริงสิ ตอนที่เขาพาเธอไปที่ร้านอาหารระดับห้าดาว เขาสั่งอาหารหลายเมนู ในขณะที่เธอพยายามบอกตั้งหลายครั้งว่าที่บ้านมีกันแค่สามคนเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อติดไม้ติดมือไปหลายอย่างเพราะจะทานไม่หมด ไม่ทันคิดว่าที่ซื้อเยอะเพราะเขาจะไปทานข้าวที่นั่น

"รักแค่ไม่คิดว่าคนระดับเฮียจะอยากไปนั่งกินข้าวที่บ้านของรัก" เจ้าสาวหมาดๆ เริ่มรู้สึกผิด

"เหตุผลของฉัน แค่คิดว่าเธออาจจะอยากทานข้าวพร้อมกับครอบครัวก็เลยอยากตามใจ" ดวงตากลมโตตวัดขึ้นจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาทันที

หัวใจดวงน้อยเต้นแรงในตอนที่สบตากัน เขาทำเพื่อเธองั้นเหรอ

อะไรจะเพอร์เฟคถึงขนาดนั้น ทั้งหล่อทั้งรวย พยายามเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นอีกต่างหาก เหมือนว่าเธอจะโชคดีเหมือนที่แม่บอกเลยนะยัยรัก!

"รักขอโทษนะคะที่มองเฮียผิดไป" เขาเพียงแต่ปรายตามอง จากนั้นก็ก้มหน้าสนใจจานอาหารของตัวเองแทน

เปี่ยมรักกระตือรือร้นตักอาหารแล้วนำไปวางบนจานของอีกฝ่าย เป็นการเรียกความสนใจจากเจ้าของใบหน้าคมคายได้อีกครั้ง

"กลับคำ?"

"..."

"สบประมาทฉันไปแล้วก็เลยเปลี่ยนใจทีหลัง?"

"ง้อต่างหาก"

"..."

"อะแฮ่ม" เสียงบุคคลที่สามส่งผลให้เปี่ยมรักหันขวับ แก้มนวลร้อนผ่าวเมื่อพบว่าภพนิพิฐกำลังเดินยิ้มเข้ามา

"กำลังง้ออะไรกันอยู่ครับ"

"กลับดึกเชียวนะ" ภูมิรพีทักทายผู้เป็นน้อง แวบหนึ่งที่ปรายตามองเมียหมาดๆ ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน

เขาได้ยินชัดว่าเธอพูดคำว่าง้อ และการที่มีคนอื่นเข้ามาได้ยินด้วย คงอายอยู่มั้ง

"งานยุ่งน่ะครับ เฮียมีเมีย ช่วงแรกผมคงยุ่งหน่อยเพราะต้องทำงานคูณสอง ขอข้าวเพิ่มสักจานได้ไหมครับ"

"อ้อ นั่งสิเดี๋ยวรักตักให้" ชายกลางของบ้านหย่อนตัวบนโต๊ะอาหาร แอบมองอาหารบนจานของพี่ชายคนโตแล้วอมยิ้มออกมา

มีเมียตักอาหารให้ หน้าตาระรื่นเชียวนะ!

"ขอบคุณครับ เจ้อายุเท่าไหร่นะ ยี่สิบหกย่างยี่สิบเจ็ดปะ"

"ค่ะ" เปี่ยมรักพยักหน้า จากนั้นก็หย่อนสะโพกลงนั่งบนเก้าอี้ของตัวเองตามเดิม

"เฮียสามสิบสอง ผมสามสิบเต็ม ไอ้ภูยี่สิบสาม จริงๆ ผมอายุเยอะกว่า แต่ผมขอเรียกเมียเฮียว่าเจ้ตามไอ้ภูนะ"

"อืม ได้สิ เรียกแบบไหนก็ได้ ว่าแต่ แล้วรักควรเรียกน้องชายคนกลางของเฮียภูมิแบบไหนดี"

"ผมเป็นพี่ เรียกเฮียภพได้นะครับ" เปี่ยมรักหันกลับไปหาผู้ที่เป็นสามี เป็นเชิงขอความคิดเห็น และการกระทำของเธอ มันทำให้ภูมิรพีค่อนข้างพอใจ

"ตามนั้น เข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ เรียกตามนั้นเลยก็แล้วกัน" แม้บนใบหน้าหล่อเหลาจะยังคงความเรียบเฉย ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กก็ยังยิ้มได้

อย่างน้อยๆ การที่ก้าวขาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้แล้วทุกคนดีกับเธอ มันก็เป็นอะไรที่ดีมากแล้วจริงๆ

"ผัดคะน้านี่ฝีมือใครอ่ะ เจ้เหรอ?"

"ค่ะ เป็นไงบ้าง รสชาติได้เรื่องไหม"

"สำหรับผมก็โอเคนะ อร่อยมาก เฮียล่ะ อาหารฝีมือเมียถูกปากป่าว" การโยนคำถามแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยส่งผลให้คนที่กำลังเคี้ยวข้าวหยุดค้าง ยิ่งยามที่เห็นดวงตากลมโตจ้องมองเขาเพื่อรอคำตอบ ความกดดันก็ยิ่งถาโถมเข้ามา

ถ้าบอกว่าอร่อยมาก ไอ้ภพก็คงจะเล่าสู่ไอ้ภูฟัง พวกมันแซวไม่เลิกแน่ แต่ถ้าปากหนักบอกไปว่าเฉยๆ คนที่อุตส่าห์ตักอาหารง้อก็คงจะหน้างอ หาเรื่องลุกจากโต๊ะอาหารแล้วไปอาบน้ำนอนอ่านหนังสือแน่ๆ เลย

เหมือนว่าเขาจะรู้ทัน!

"เฮีย ตกลงกับข้าวฝีมือเมีย..."

"อืม ก็อร่อยดี" ทันทีที่ภูมิรพีตอบกลับ คนที่กำลังรอคอยคำตอบก็ยิ้มกว้างออกมาทันที

"เจ้รู้ใจเฮียนะเนี่ย ว่าแต่ แพลนมีตัวเล็กตามที่พ่อกับแม่ขอเลยป่าว" คราวนี้คนตัวเล็กเบิกตาโพลง หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง ใครจะไปคิดกันว่าเขาจะถามแบบนี้ออกมา

"อะ เอ่อ คือว่า..."

"แน่นอน ฉันไม่เคยขัดพ่อขัดแม่อยู่แล้ว" เจ้าบ่าวหมาดๆ ตอบออกมาหน้าตาเฉย

"ฮันแน่ คงเร่งมือเลยอ่ะดิ"

"มะ ไม่ๆ คือว่า..."

"จะเร่งคืนนี้แหละ" คำตอบแบบตรงไปตรงมาทำใบหน้าสวยร้อนผะผ่าว แก้มนวลเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เจ้าของคำตอบตักข้าวเข้าปากด้วยใบหน้าเรียบเฉย ส่วนคนที่เป็นฝ่ายตั้งคำถามและตั้งประเด็น เคี้ยวข้าวพลางอมยิ้มอย่างชอบใจ

คนอย่างภูมิรพี จะมีเมียทั้งที พ่อแม่กลับคลุมถุงชนมันไม่น่าใช่ แม้คนอื่นๆ จะเข้าใจแบบนั้น แต่คนที่ช่างสังเกตแบบเขากลับคิดต่าง ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ใหญ่ของบ้านจะไม่อยากเลือกเมียด้วยตัวเอง

บางครั้งเหตุผลที่ไม่ยอมปฏิเสธ เมียที่เฮียได้อาจจะเป็นสเปคของเฮียแบบที่ไอ้ภูมันพูดก็ได้!

"...อย่าลีลา จานแค่ไม่กี่ใบถ้าจะใช้เวลานานขนาดนี้ปล่อยไว้เถอะ พรุ่งนี้เช้าค่อยให้แม่บ้านมาล้าง" คนที่ยืนกอดอกพิงขอบประตูเอ่ยขึ้นเมื่อสังเกตว่าคนที่บอกว่าจะจัดการเก็บกวาดครัวให้เรียบร้อยเหมือนเดิมก่อนใช้เวลานานเกินไป

"รักบอกแล้วว่าเฮียไม่ต้องรอ"

"เสียงดังแบบนี้ไม่เหมือนคนที่อยากง้อเท่าไหร่เลยนะ" ใบหน้างดงามหันกลับ เลยได้เห็นว่าสามีหมาดๆ จ้องดวงหน้าของเธอไม่วางตา

"รักง้อแล้ว มันคนละส่วนกันค่ะ"

"อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันเธอนะ"

"ระ รู้ทันเรื่องอะไรคะ"

"เรื่องที่เธอก็รู้อยู่แก่ใจ" คนฟังเบิกตาโพลง ลูกตาเกลือกกลิ้งไปมาไม่นิ่ง คนที่มองอยู่กดยิ้มที่มุมปากทันที

"วันนี้ฉันไม่ได้เหนื่อยกับงาน ต่อให้เธอจะถ่วงเวลาจนดึก..."

"...สุดท้ายก็โดนอยู่ดี"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจ้าสาวป้ายแดง   เล็งไว้นานแล้ว

    "รักว่าเราลงไปข้างล่างดีกว่านะคะ อยู่ตรงนี้นานๆ เดี๋ยวพ่อกับแม่สงสัยเอา" แก้มนวลร้อนผ่าว การกระทำของคนตัวเล็กทำหนุ่มหล่อระบายรอยยิ้มให้หลุดออกมาในรูปแบบเดียวกันภูมิรพีกวาดสายตามองทุกอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร หลายสิ่งหลายอย่างเป็นเมนูที่เขาชอบทาน อีกหลายอย่างก็เป็นเมนูที่เขาไม่เคยทานเลยเช่นเดียวกัน"มาลูกมา อาหารพร้อมแล้ว""พ่อเพิ่มพัดลมให้อีกตัวนะลูก รับรองว่าไม่ร้อน" นรินทร์ยกพัดลมหน้ากว้างเข้ามาแล้วรีบทำการเสียบปลั๊ก เห็นชัดว่าทุกคนในบ้านเอาอกเอาใจเขาเป็นอย่างดี"สปริงเกอร์ล่ะพ่อ ถ้าเปิดสปริงเกอร์บนหลังคามันจะทำให้บ้านเราเย็นขึ้นนะ""แล้วจะยืนบอกพ่อทำไมล่ะยัยรส ไปสิ รีบไปเปิดเร็วๆ เลย พี่ๆ เขาร้อนเอ็งนี่มัน""ไปแล้วๆ โอ๊ยบ่นจัง" ปัณรสรีบหมุนตัวออกไปนอกบ้าน ทุกการกระทำเรียกรอยยิ้มจากหนึ่งในสมาชิกครอบครัวที่เคยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดยิ้มกว้างออกมา"พอกลับมาบ้านแล้วรักไม่อยากกลับไปที่อื่นอีกเลยค่ะ คิดถึงเหตุการณ์เก่าๆ จัง" "เรานี่ยังไง ไม่คิดว่าคนข้างๆ จะน้อยใจเลยเหรอ" ดารินมองลูกเขยอย่างเกรงใจ พลอยทำให้คนกลางอย่างเปี่ยมรักมองตาม"รักแค่คิดถึงวันเก่าๆ" "ผมเข้าใจครับ เอาเป็นว่าเฮียจ

  • เจ้าสาวป้ายแดง   ห้องเก็บเสียงไหม

    บ้านดานุกุลดารินพร้อมทั้งสามีซึ่งเป็นประมุขของบ้านอย่างนรินทร์เปิดบ้านต้อนรับบุตรสาวที่วันนี้เข้าบ้านมาพร้อมกับหนุ่มหล่อข้างกายซึ่งมีสถานะเป็นลูกเขยของแม่กับพ่อภูมิรพียกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง ไม่ลืมที่จะส่งต่อของฝากให้กับพวกท่านซึ่งของเหล่านั้นไม่ได้มีเฉพาะของชายหนุ่มและภรรยาที่ตั้งใจซื้อมา แต่พ่อกับแม่ของเขาเองพอทราบข่าวว่าเขาจะไปเยี่ยมบ้านของภรรยา ผู้เป็นแม่ก็จัดสรรของฝากจนเต็มไม้เต็มมือ"ไหว้พระนะลูกนะ ยัยรสบอกแม่ว่ารักกับคุณภูมิจะมา วันนี้พ่อกับแม่เตรียมอาหารไว้เยอะแยะเลยนะลูก" "นั่นไง รักว่าแล้วว่าแม่ต้องเตรียมอาหารไว้รอ เฮียก็ซื้อของมาซะเยอะเลย" เปี่ยมรักหันกลับไปมองคนที่เข้าบ้านมาพร้อมกัน พบเพียงรอยยิ้มจางๆ ที่ชายหนุ่มส่งกลับมา"วันนี้เราทานข้าวกันที่บ้านนะคะ แม่รักทำอาหารอร่อยค่ะ อร่อยกว่ารักทำด้วย" "ได้สิ ไม่มีปัญหา กระเป๋าให้เฮียเอาไปเก็บที่ไหน" สรรพนามที่ภูมิรพีใช้ระหว่างคุยกับภรรยา ดารินและนรินทร์มองหน้ากันทันที"เห็นลูกๆ สนิทกันแบบนี้พ่อกับแม่ดีใจมากเลยนะ" นรินทร์สังเกตเห็นว่า สีหน้าของบุตรสาวดูสดใสมากเป็นพิเศษ คนเป็นพ่อที่พูดน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เน้นการสังเกตเป็นส

  • เจ้าสาวป้ายแดง   ขี้หวง

    "เฮียพูดคำว่ารัก เพราะว่ารักกำลังอุ้มท้องลูกของเฮียอยู่รึเปล่าคะ" คงจะเป็นฮอร์โมนของคนที่กำลังตั้งครรภ์ส่งผลให้เปี่ยมรักร้องถาม ดวงตากลมสวยกลอกกลิ้งไปตามกรอบหน้าหล่อเหลาลงตัวทุกจุดของผู้เป็นสามี ปากอิ่มเม้มเข้าหากันน้อยๆ เปี่ยมรักไม่ชอบการเก็บทุกอย่างเอามาคิดมาก ถามแบบตรงไปตรงมามันคงเป็นอะไรที่ง่ายมากกว่าการเก็บทุกอย่างไว้เอง"สำหรับเฮีย ลูกคือตัวแทนของความรักนะ เพราะรักจึงอยากมี" "ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราต่างก็รู้ดีน่ะเหรอคะว่าเราแต่งงานกันเพราะอะไร" ใจคนตั้งประเด็นแทบหยุดเต้น เปี่ยมรักกำลังเก็บความรู้สึกของตัวเองไม่มิด เกิดอยากเคลียร์ในเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่และรู้สึกผิดมาโดยตลอดในเมื่อทุกอย่างมันกำลังดีและไปได้สวย บางเรื่องที่ยังค้างคาก็ควรคลี่คลายออกให้กระจ่าง ท้ายที่สุดเหล่าปัญหาจะได้ไม่ต้องตามมาทีหลัง"ถ้าเฮียเคลียร์ในเรื่องนี้ได้ ตัวเธอล่ะจะเคลียร์เรื่องนี้ได้รึเปล่า" ใจคนฟังกระตุกวูบ เปี่ยมรักโน้มตัวเข้าไปแนบชิด ท่อนแขนเรียวเกี่ยวลำคอหนาเข้ามากอดอย่างออดอ้อน เลยเป็นตัวเธอที่พูดไม่ออกทั้งที่เป็นฝ่ายสร้างประเด็นเองแท้ๆ"หึ..." ภูมิรพีหลุดเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ พลางยกมือขึ้นมาลูบ

  • เจ้าสาวป้ายแดง   ตามใจ NC+++

    คำบอกรักจากหนุ่มหล่อทำใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาคู่สวยกระพริบถี่ จำได้ว่าก่อนหน้านี้เขาเป็นคนพูดทุกอย่างขึ้นมาเอง เรื่องท้าทายที่ว่าระหว่างเธอและเขา ใครจะเป็นฝ่ายรู้สึกก่อนกันทั้งที่เปี่ยมรักกลัวแทบตาย กลัวว่าการหวั่นไหวที่มันก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วมันจะทำให้เธอเป็นเพียงฝ่ายเดียวที่รู้สึก ไม่นึกไม่ฝันว่าท้ายที่สุดเขาจะเป็นฝ่ายเฉลยมันออกมาด้วยตัวเอง"เมื่อกี้บอกรักงั้นเหรอคะ" "อืม ฉันรักเธอนะ มันนานมากจนเธอตั้งรับไม่ทันแน่ๆ""ชะ ช่วยเล่าหน่อยสิคะ" เปี่ยมรักเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น คนตัวโตกดเข่าแทรกเข้ามาที่กลางหว่างขา สัมผัสได้ว่า ความใหญ่โตเกินมาตรฐานสัมผัสกับความนุ่มของผิวเนียน"มันยาวนะ แน่ใจเหรอว่าอยากฟัง""รักอยากฟัง อ๊ะ..." ร่างบางถูกยกด้วยสองมือเพื่อให้ผละจากการคร่อมทับร่างหนา คนตัวโตขยับตัวเพียงนิดตามด้วยการรั้งร่างบางเข้ามาประกบชิดและดันแผ่นหลังบางให้เอนหลังไปกับโซฟาแทน"อื้ออ! ทะ ทำอะไรคะ" เปี่ยมรักเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น หัวใจเริ่มเต้นแรงเมื่อใบหน้าคมคายฝังเข้ากับหน้าท้องแบนราบตามด้วยมือหนาที่ลูบไล้เคล้นคลึงเข้ากับใจกลางความเป็นสาว"อ๊าส์

  • เจ้าสาวป้ายแดง   ลูกมารอแล้ว

    "ถ้าขั้นนั้นภูก็คงต้องขอคารวะศิษย์พี่แล้วล่ะ อยากคลั่งรักแบบเฮียภูมิบ้างว่ะ ว่าแต่ชาตินี้ภูจะได้เจอรักแท้รึเปล่านะ ก็คงไม่อ่ะ ฟ้าคงส่งภูมาเพื่อเป็นนักล่าเพียงอย่างเดียว" "เดี๋ยวมึงก็รู้ไอ้เสือน้อย นักล่าใช่ปะ อย่าหลงรักเหยื่อเนื้อหวานๆ ขึ้นมาซะล่ะ พอถึงวันนั้นทุกเหตุการณ์ที่มึงแซวกูคงผุดขึ้นมาเป็นระนาว""อ้าว นี่เฮียคาดโทษน้องนี่หว่า ไรวะ ภูยังจำได้อยู่นะ แม่บอกให้รักกันใช่ไหมครับเฮียภพ" หนุ่มน้อยรีบหาพวก ท่าทางลนลานพลอยทำให้บุตรคนกลางของอัศวราชระบายรอยยิ้มออกมา"ผมดีใจกับเฮียด้วยนะ ผมว่าผลตอบแทนของความซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียวมันกำลังจะส่งผลในอีกระดับแล้วล่ะ" "หมายความว่าไงวะ" ภูมิรพีเหลือบมองเสี้ยวใบหน้าของน้องคนกลาง แต่ก็พบเพียงรอยยิ้มจางๆ ที่ผุดออกมา"เห็นตอนที่รักกอดเฮีย ผมว่าอ้อมกอดนั้นมันมีความหมายนะ คนอยู่ตั้งเยอะแยะ คนที่จะเข้าไปห้ามเฮียควรเป็นใครก็ได้ ผม ไอ้ภู หรือจะเป็นคุณแม่ แต่เธอกลับเลือกที่จะหยุดเฮียด้วยตัวเอง การหยุดมันมีหลายรูปแบบ แต่เมียเฮียเลือกหยุดด้วยการสวมกอด หมายความว่า เมียเฮียไม่ได้หยุดเฮียเพื่อปกป้องผู้หญิงคนนั้น แต่เธอหยุดเฮียเพื่อปกป้องเฮีย""อันนี้จริง

  • เจ้าสาวป้ายแดง   เฉลยความในใจ

    น้ำตาแห่งความพ่ายแพ้หลั่งไหลออกมาไม่ขาดสาย นัยน์ตาของทอฝันถูกหล่อเลี้ยงไปด้วยหยาดน้ำตาจนทุกอย่างพร่ามัวเหตุผลที่แท้จริงเธอเพียงอยากมีบทบาท การที่บอสหนุ่มไม่เคยมีท่าทีสนใจผู้หญิงคนไหนเลยมันทำให้เธอที่มีโอกาสใกล้ชิดมากกว่าใครมีความหวัง ทั้งทอดสะพาน เอาใจใส่ทุกอย่าง แต่วันนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้วว่าทุกสิ่งที่เธอทำไม่มีประโยชน์อะไรเลยเธอไม่ควรประมาทสองหนุ่มนั่นคือภพนิพิฐและภูพิงค์ รู้ดีว่าสองคนนี้ไม่ธรรมดา ส่วนผู้บริหารระดับสูงอย่างเบญญาและภีมพลผู้เป็นสามีก็มีอำนาจมากพอที่จะทำให้ไม่มีองค์กรใดเปิดโอกาสให้เธอได้เริ่มต้นงานใหม่ส่วนเปี่ยมรักผู้หญิงที่ธรรมดามากในสายตาเธอ เห็นแล้วว่าสามีอย่างภูมิรพีที่เป็นแบล็กหลัง พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องคนเป็นเมีย บอสหนุ่มไม่เคยล้อเล่นหรือเสียเวลากับใครทั้งนั้น ทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอเดือดร้อนแน่ หากยังไม่หยุดและถอยกลับออกไปยิ่งเห็นทุกคนพร้อมใจฉีกหน้าเธอออกมาแบบนั้น เลขาสาวหมดหนทางที่จะไปต่อ หากเธอไม่ถอยและหายออกไปจากชีวิตของพวกเขา รู้ดีว่าเธอจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่ที่ให้ยืน"หนูรัก เจ็บมือมากไหมลูก" เบญญาเข้าหาสะใภ้สาวหลังจากเลขาของบุตรชายเดินกุ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status