Share

งอน

last update Last Updated: 2025-09-24 08:43:18

ความเงียบปกคลุมตั้งแต่ตอนที่คุยเรื่องนั้นกันจบกระทั่งรถเลื่อนเข้ามาจอดภายในบ้านหลังใหญ่

ครืด~ ครืด~

โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายส่งเสียงแทรกขึ้นมาได้จังหวะพอดิบพอดี

"ยัยรสโทรมา รักขอตัวคุยโทรศัพท์กับน้องแป๊บนึงนะคะ" มีเพียงการพยักหน้าเบาๆ ของคนที่ดับเครื่องยนต์ ไม่นานเจ้าของเรือนร่างสูงโปร่งก็เป็นฝ่ายเดินนำเข้าบ้านไปโดยที่ไม่คิดจะเอ่ยอะไรออกมาเลยสักคำ

เปี่ยมรักเผลอถอนลมหายใจออกมาเบาๆ แค่คิดถึงใบหน้าหล่อเหลาที่บึ้งตึงตลอดเวลา ยังมองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำว่าชีวิตคู่ของเธอมันจะเดินหน้าต่อไปยังไง

อย่างว่า คนไม่เคยรักเคยคบกันมาก่อนจะมาให้รู้สึกรักและพิศวาสกันเลยมันก็คงไม่ใช่

"อืม ว่า..."

[ ทำไมทำเสียงแบบนั้นอ่ะ ทะเลาะกับผัว? ]

"ยัยรส แก่แดด" ว่าไปพลางรั้งสายกระเป๋าขึ้นมาคล้องบ่า

"มีอะไรว่ามา"

[ ก็ไม่มีอะไรมาก รสแค่จะโทรไปถามว่าทะเลาะกับพี่ภูมิรึเปล่า ตอนจะกลับเห็นเขาทำหน้าตึงๆ อยู่นะ ]

"มันก็เป็นปกติของเขานั่นแหละ ยิ้มน้อยถึงน้อยที่สุด เถอะ อยู่ด้วยกัน เขายังไม่คิดที่จะยิ้มให้ฉันด้วยซ้ำ"

[ เอ้า เป็นงั้นอ่ะ เห็นกลับมาที่บ้านด้วยกันก็คิดว่าน่าจะไปกันได้สวย ]

"เขาก็คงทำตามหน้าที่ไปงั้นแหละมั้ง"

[ แล้ว...ส่งตัวเมื่อคืนเป็นไงบ้างอ่ะ แบบนั้นกันยัง ]

"ไอ้รส นับวันยิ่งแก่แดด"

[ เปล่าน่าพี่รัก แม่ให้ถาม ]

"แม่งั้นเหรอที่ให้ถาม"

[ อือ ก็อย่างที่รู้ๆ นั่นแหละ แม่ก็ไม่สบายใจกลัวผัวพี่รู้ว่าอยากให้พี่แต่งงานเพราะเหตุผลอะไร แม้ความจริงแม่จะไม่ได้คิดที่จะใช้พี่ปลดหนี้ก็ตาม ]

"แม่คงกลัวว่าถ้าเขารู้แล้วฉันจะโดนทิ้งสินะ"

[ พี่รัก แม่ก็แค่ห่วงแหละ ] คนฟังเงยหน้ามองฟ้า โตแล้วก็ควรเข้าใจอะไรง่ายๆ ได้แล้วนั่นแหละ

"ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่ยอมโดนทิ้งแน่นอน" เปี่ยมรักละโทรศัพท์ออกจากหู ดวงตากลมโตเกลือกกลิ้งไปมา พยายามคิดหาทางออกว่าสิ่งไหนที่เธอควรทำ

"เจ้ คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเหรอครับ" ภูพิงค์ทักทายเมื่อพี่สะใภ้ก้าวเข้ามาในบ้าน เปี่ยมรักยิ้มกว้างน้องชายของสามี แอบเห็นว่าเขานั่งทำหน้าเซ็งๆ อยู่ไม่ไกลกัน

"หอบอะไรเยอะแยะครับ"

"หนังสือนิยายน่ะ สนใจเอาไปอ่านสักเล่มไหมคะ"

"เจ้อ่ะ มาคะมาขาอีกแล้ว ไม่รู้รึไงว่าไอ้ภูแพ้คนพูดเพราะ"

"น่ารำคาญ" ภูมิรพีปรายตามองน้องเล็กที่ดี๊ด๊าจนออกนอกหน้า ถึงอย่างนั้นภูพิงค์ก็ยังไหวไหล่ไปมา

"เรียกภูเฉยๆ ก็ได้ครับ คะขาไม่ต้องนะครับ ภูใจสั่น" ภูพิงค์ขยิบตาให้พี่สะใภ้ ลึกๆ ในใจก็แค่แกล้งหยอกผู้ที่เป็นพี่ชาย

"โอเค งั้นเจ้เรียกภูเฉยๆ นะ"

"ครับผม อ้อ ข้าวเย็นเรียบร้อยกันทั้งบ้านแล้วนะครับ ก่อนหน้านี้ภูไลน์ถามเฮียภูมิแล้ว เห็นบอกว่าอยู่บ้านเจ้ มื้อเย็นเรียบร้อยกันแล้วใช่ไหมครับ"

"เอ่อ..." เปี่ยมรักชะงักไปทันที ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาบอกน้องชายของเขาว่าไปที่บ้านของเธอ

หรือเขาเข้าใจว่ามื้อเย็นคงได้ทานกันที่นั่น แต่เธอกลับเลือกที่จะตัดบทเขา ทั้งที่จริงแล้วเขาอาจจะไม่ได้เรื่องเยอะเรื่องมากแบบที่เธอคาดเดา

"กูขึ้นข้างบนก่อน ปวดหัวว่ะ" ภูมิรพีหยัดตัวลุกจนเต็มความสูง ไม่ได้มองคนตัวเล็กที่พึ่งจะหย่อนตัวลงนั่งด้วยซ้ำ

"อ้าวเฮียแล้ว..." ไม่ทันที่ภูพิงค์จะทันได้พูดจนจบประโยค ร่างสูงโปร่งตรงไปยังชั้นบนจนคนที่กำลังจะทักท้วงได้แต่ยกมือขึ้นเกาศีรษะด้วยความงุนงง

"อะไรของเขา เฮียหงุดหงิดอะไรมาอ่ะเจ้ เหมือนโมโหหิว กินข้าวไม่อิ่มป่าว" คนถูกถามยิ้มแห้ง อดที่จะมองตามแผ่นหลังกว้างไม่ได้เลย

"พ่อกับแม่อยู่ไหนเหรอภู"

"ข้างบนครับ เขาถอยทีวีจอใหม่แบบที่ใหญ่กว่าเดิมอ่ะ แม่ติดละครยิ่งกว่าสาวๆ ซะอีก อย่างว่าแหละ พระเอกหล่อเหมือนภูเลย" คนฟังยิ้มกว้างเป็นการตอบรับ ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ บ้าน เพียงแค่วันเดียวเธอยังไม่ชินจริงๆ

"คุณภพล่ะ คุณภพอยู่ไหม"

"เฮียภพยังไม่กลับครับ รายนั้นบ้างาน มืดค่ำไม่กลับ แบบนี้ประจำเดี๋ยวเจ้ก็ชิน"

"แล้วภูล่ะ วันนี้ไม่ได้ไปไหนเหรอ"

"อ๋อ ดึกๆ นัดดูบอลกับเพื่อนน่ะ ภูติดเพื่อนนิดๆ แฮ่" เปี่ยมรักอมยิ้มให้กับความเป็นกันเองของน้องชายสามี

ภูพิงค์ขี้เล่น คุยเก่ง แตกต่างจากสามีของเธอโดยสิ้นเชิง

ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ ห้องหลังจากที่ก้าวขาเข้ามาในห้องนอนที่ถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นของเครื่องปรับอากาศและกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ได้กลิ่นครั้งแรกเมื่อคืนนี้

มองหาอยู่สักแป๊บก็แอบเห็นว่าผู้ที่เป็นสามียืนดูดบุหรี่อยู่ที่ริมระเบียง

เปี่ยมรักปลดกระเป๋าสะพายออกจากบ่า เท้าเปลือยตรงไปยังระเบียงใช้มือเลื่อนประตูกระจกเบาๆ

"เฮีย..." แม้กลิ่นบุหรี่จะอบอวลฉุนแต่เปี่ยมรักก็ยังเลือกที่จะสู้

"มีอะไร" ชายหนุ่มตกใจไม่น้อยที่พบว่าภรรยาหมาดๆ กล้าเข้ามาหาเขาในตอนนี้ทั้งที่เห็นอยู่ว่าเขากำลังทำอะไร

"รักมาตามลงไปกินข้าวค่ะ"

"กินข้าว?"

"ค่ะ ที่รักเดินขึ้นห้องช้าเพราะรักทำอาหารเย็นอยู่ค่ะ"

"ไม่ใช่ว่านั่งคุยกับไอ้ภูถูกคอ?"

"ภูพิงค์ไปดูบอลกับเพื่อนค่ะ ส่วนรักเข้าครัวไปทำอาหารเย็นให้สามี" คนตัวโตชะงักกับท่าทีที่เปลี่ยนแปลงแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

ยังเคืองที่เธอสบประมาทและตัดสินเขาล่วงหน้าไม่หาย ใครจะไปทันคิดว่าต่อมาเธอจะมาพูดดีทำท่าเอาอกเอาใจ

"มันเลยเวลาอาหารเย็นแล้ว ฉันไม่..."

"รักก็อุตส่าห์ตั้งใจทำ" ขนตางามงอนกระพริบลง ลูกตาดำตวัดมองเลยออกไปอีกทาง

ท่าทีที่บอกว่าผิดหวังทำให้คนตัวโตร้อนรน

"มันน่าแปลกนะที่อยู่ดีๆ เธอก็มาเอาอกเอาใจฉัน"

"ก็ผัวเมียกัน รักแค่ทำหน้าที่ของรักเท่านั้นเอง" คนฟังหรี่ตามอง ไม่อยากจะเชื่อว่าหญิงสาวจะเอ่ยคำนี้ออกมา

"รักผัดคะน้าใส่หมู ในครัวมีแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ถ้าไม่มีคนลงไปกินด้วย งั้นรักก็จะอาบน้ำแล้วนอนอ่านหนังสือเลย" แวบหนึ่งที่เปี่ยมรักมองหน้าสามี คนตัวเล็กหมุนตัวกลับ เป็นจังหวะที่ได้ยินเสียงในลำคออย่างหงุดหงิดและคำพูดจากปากสามีหมาดๆ ที่ดังตามออกมาติดๆ

"กินก็กิน" คนฟังอมยิ้มเมื่อได้ฟัง ครั้นพอหมุนตัวกลับไปหาเขาอีกครั้ง รอยยิ้มหวานก็หุบลง

"ตกลงจะกินหรือไม่กินกันแน่คะ"

"เห็นว่าเธออุตส่าห์มาตาม ฉันจะกินเพื่อไม่ให้เสียมารยาทก็แล้วกัน"

--------

จ้าาา งอนเก่ง 555555

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจ้าสาวป้ายแดง   เล็งไว้นานแล้ว

    "รักว่าเราลงไปข้างล่างดีกว่านะคะ อยู่ตรงนี้นานๆ เดี๋ยวพ่อกับแม่สงสัยเอา" แก้มนวลร้อนผ่าว การกระทำของคนตัวเล็กทำหนุ่มหล่อระบายรอยยิ้มให้หลุดออกมาในรูปแบบเดียวกันภูมิรพีกวาดสายตามองทุกอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร หลายสิ่งหลายอย่างเป็นเมนูที่เขาชอบทาน อีกหลายอย่างก็เป็นเมนูที่เขาไม่เคยทานเลยเช่นเดียวกัน"มาลูกมา อาหารพร้อมแล้ว""พ่อเพิ่มพัดลมให้อีกตัวนะลูก รับรองว่าไม่ร้อน" นรินทร์ยกพัดลมหน้ากว้างเข้ามาแล้วรีบทำการเสียบปลั๊ก เห็นชัดว่าทุกคนในบ้านเอาอกเอาใจเขาเป็นอย่างดี"สปริงเกอร์ล่ะพ่อ ถ้าเปิดสปริงเกอร์บนหลังคามันจะทำให้บ้านเราเย็นขึ้นนะ""แล้วจะยืนบอกพ่อทำไมล่ะยัยรส ไปสิ รีบไปเปิดเร็วๆ เลย พี่ๆ เขาร้อนเอ็งนี่มัน""ไปแล้วๆ โอ๊ยบ่นจัง" ปัณรสรีบหมุนตัวออกไปนอกบ้าน ทุกการกระทำเรียกรอยยิ้มจากหนึ่งในสมาชิกครอบครัวที่เคยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดยิ้มกว้างออกมา"พอกลับมาบ้านแล้วรักไม่อยากกลับไปที่อื่นอีกเลยค่ะ คิดถึงเหตุการณ์เก่าๆ จัง" "เรานี่ยังไง ไม่คิดว่าคนข้างๆ จะน้อยใจเลยเหรอ" ดารินมองลูกเขยอย่างเกรงใจ พลอยทำให้คนกลางอย่างเปี่ยมรักมองตาม"รักแค่คิดถึงวันเก่าๆ" "ผมเข้าใจครับ เอาเป็นว่าเฮียจ

  • เจ้าสาวป้ายแดง   ห้องเก็บเสียงไหม

    บ้านดานุกุลดารินพร้อมทั้งสามีซึ่งเป็นประมุขของบ้านอย่างนรินทร์เปิดบ้านต้อนรับบุตรสาวที่วันนี้เข้าบ้านมาพร้อมกับหนุ่มหล่อข้างกายซึ่งมีสถานะเป็นลูกเขยของแม่กับพ่อภูมิรพียกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง ไม่ลืมที่จะส่งต่อของฝากให้กับพวกท่านซึ่งของเหล่านั้นไม่ได้มีเฉพาะของชายหนุ่มและภรรยาที่ตั้งใจซื้อมา แต่พ่อกับแม่ของเขาเองพอทราบข่าวว่าเขาจะไปเยี่ยมบ้านของภรรยา ผู้เป็นแม่ก็จัดสรรของฝากจนเต็มไม้เต็มมือ"ไหว้พระนะลูกนะ ยัยรสบอกแม่ว่ารักกับคุณภูมิจะมา วันนี้พ่อกับแม่เตรียมอาหารไว้เยอะแยะเลยนะลูก" "นั่นไง รักว่าแล้วว่าแม่ต้องเตรียมอาหารไว้รอ เฮียก็ซื้อของมาซะเยอะเลย" เปี่ยมรักหันกลับไปมองคนที่เข้าบ้านมาพร้อมกัน พบเพียงรอยยิ้มจางๆ ที่ชายหนุ่มส่งกลับมา"วันนี้เราทานข้าวกันที่บ้านนะคะ แม่รักทำอาหารอร่อยค่ะ อร่อยกว่ารักทำด้วย" "ได้สิ ไม่มีปัญหา กระเป๋าให้เฮียเอาไปเก็บที่ไหน" สรรพนามที่ภูมิรพีใช้ระหว่างคุยกับภรรยา ดารินและนรินทร์มองหน้ากันทันที"เห็นลูกๆ สนิทกันแบบนี้พ่อกับแม่ดีใจมากเลยนะ" นรินทร์สังเกตเห็นว่า สีหน้าของบุตรสาวดูสดใสมากเป็นพิเศษ คนเป็นพ่อที่พูดน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เน้นการสังเกตเป็นส

  • เจ้าสาวป้ายแดง   ขี้หวง

    "เฮียพูดคำว่ารัก เพราะว่ารักกำลังอุ้มท้องลูกของเฮียอยู่รึเปล่าคะ" คงจะเป็นฮอร์โมนของคนที่กำลังตั้งครรภ์ส่งผลให้เปี่ยมรักร้องถาม ดวงตากลมสวยกลอกกลิ้งไปตามกรอบหน้าหล่อเหลาลงตัวทุกจุดของผู้เป็นสามี ปากอิ่มเม้มเข้าหากันน้อยๆ เปี่ยมรักไม่ชอบการเก็บทุกอย่างเอามาคิดมาก ถามแบบตรงไปตรงมามันคงเป็นอะไรที่ง่ายมากกว่าการเก็บทุกอย่างไว้เอง"สำหรับเฮีย ลูกคือตัวแทนของความรักนะ เพราะรักจึงอยากมี" "ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราต่างก็รู้ดีน่ะเหรอคะว่าเราแต่งงานกันเพราะอะไร" ใจคนตั้งประเด็นแทบหยุดเต้น เปี่ยมรักกำลังเก็บความรู้สึกของตัวเองไม่มิด เกิดอยากเคลียร์ในเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่และรู้สึกผิดมาโดยตลอดในเมื่อทุกอย่างมันกำลังดีและไปได้สวย บางเรื่องที่ยังค้างคาก็ควรคลี่คลายออกให้กระจ่าง ท้ายที่สุดเหล่าปัญหาจะได้ไม่ต้องตามมาทีหลัง"ถ้าเฮียเคลียร์ในเรื่องนี้ได้ ตัวเธอล่ะจะเคลียร์เรื่องนี้ได้รึเปล่า" ใจคนฟังกระตุกวูบ เปี่ยมรักโน้มตัวเข้าไปแนบชิด ท่อนแขนเรียวเกี่ยวลำคอหนาเข้ามากอดอย่างออดอ้อน เลยเป็นตัวเธอที่พูดไม่ออกทั้งที่เป็นฝ่ายสร้างประเด็นเองแท้ๆ"หึ..." ภูมิรพีหลุดเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ พลางยกมือขึ้นมาลูบ

  • เจ้าสาวป้ายแดง   ตามใจ NC+++

    คำบอกรักจากหนุ่มหล่อทำใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาคู่สวยกระพริบถี่ จำได้ว่าก่อนหน้านี้เขาเป็นคนพูดทุกอย่างขึ้นมาเอง เรื่องท้าทายที่ว่าระหว่างเธอและเขา ใครจะเป็นฝ่ายรู้สึกก่อนกันทั้งที่เปี่ยมรักกลัวแทบตาย กลัวว่าการหวั่นไหวที่มันก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วมันจะทำให้เธอเป็นเพียงฝ่ายเดียวที่รู้สึก ไม่นึกไม่ฝันว่าท้ายที่สุดเขาจะเป็นฝ่ายเฉลยมันออกมาด้วยตัวเอง"เมื่อกี้บอกรักงั้นเหรอคะ" "อืม ฉันรักเธอนะ มันนานมากจนเธอตั้งรับไม่ทันแน่ๆ""ชะ ช่วยเล่าหน่อยสิคะ" เปี่ยมรักเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น คนตัวโตกดเข่าแทรกเข้ามาที่กลางหว่างขา สัมผัสได้ว่า ความใหญ่โตเกินมาตรฐานสัมผัสกับความนุ่มของผิวเนียน"มันยาวนะ แน่ใจเหรอว่าอยากฟัง""รักอยากฟัง อ๊ะ..." ร่างบางถูกยกด้วยสองมือเพื่อให้ผละจากการคร่อมทับร่างหนา คนตัวโตขยับตัวเพียงนิดตามด้วยการรั้งร่างบางเข้ามาประกบชิดและดันแผ่นหลังบางให้เอนหลังไปกับโซฟาแทน"อื้ออ! ทะ ทำอะไรคะ" เปี่ยมรักเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น หัวใจเริ่มเต้นแรงเมื่อใบหน้าคมคายฝังเข้ากับหน้าท้องแบนราบตามด้วยมือหนาที่ลูบไล้เคล้นคลึงเข้ากับใจกลางความเป็นสาว"อ๊าส์

  • เจ้าสาวป้ายแดง   ลูกมารอแล้ว

    "ถ้าขั้นนั้นภูก็คงต้องขอคารวะศิษย์พี่แล้วล่ะ อยากคลั่งรักแบบเฮียภูมิบ้างว่ะ ว่าแต่ชาตินี้ภูจะได้เจอรักแท้รึเปล่านะ ก็คงไม่อ่ะ ฟ้าคงส่งภูมาเพื่อเป็นนักล่าเพียงอย่างเดียว" "เดี๋ยวมึงก็รู้ไอ้เสือน้อย นักล่าใช่ปะ อย่าหลงรักเหยื่อเนื้อหวานๆ ขึ้นมาซะล่ะ พอถึงวันนั้นทุกเหตุการณ์ที่มึงแซวกูคงผุดขึ้นมาเป็นระนาว""อ้าว นี่เฮียคาดโทษน้องนี่หว่า ไรวะ ภูยังจำได้อยู่นะ แม่บอกให้รักกันใช่ไหมครับเฮียภพ" หนุ่มน้อยรีบหาพวก ท่าทางลนลานพลอยทำให้บุตรคนกลางของอัศวราชระบายรอยยิ้มออกมา"ผมดีใจกับเฮียด้วยนะ ผมว่าผลตอบแทนของความซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียวมันกำลังจะส่งผลในอีกระดับแล้วล่ะ" "หมายความว่าไงวะ" ภูมิรพีเหลือบมองเสี้ยวใบหน้าของน้องคนกลาง แต่ก็พบเพียงรอยยิ้มจางๆ ที่ผุดออกมา"เห็นตอนที่รักกอดเฮีย ผมว่าอ้อมกอดนั้นมันมีความหมายนะ คนอยู่ตั้งเยอะแยะ คนที่จะเข้าไปห้ามเฮียควรเป็นใครก็ได้ ผม ไอ้ภู หรือจะเป็นคุณแม่ แต่เธอกลับเลือกที่จะหยุดเฮียด้วยตัวเอง การหยุดมันมีหลายรูปแบบ แต่เมียเฮียเลือกหยุดด้วยการสวมกอด หมายความว่า เมียเฮียไม่ได้หยุดเฮียเพื่อปกป้องผู้หญิงคนนั้น แต่เธอหยุดเฮียเพื่อปกป้องเฮีย""อันนี้จริง

  • เจ้าสาวป้ายแดง   เฉลยความในใจ

    น้ำตาแห่งความพ่ายแพ้หลั่งไหลออกมาไม่ขาดสาย นัยน์ตาของทอฝันถูกหล่อเลี้ยงไปด้วยหยาดน้ำตาจนทุกอย่างพร่ามัวเหตุผลที่แท้จริงเธอเพียงอยากมีบทบาท การที่บอสหนุ่มไม่เคยมีท่าทีสนใจผู้หญิงคนไหนเลยมันทำให้เธอที่มีโอกาสใกล้ชิดมากกว่าใครมีความหวัง ทั้งทอดสะพาน เอาใจใส่ทุกอย่าง แต่วันนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้วว่าทุกสิ่งที่เธอทำไม่มีประโยชน์อะไรเลยเธอไม่ควรประมาทสองหนุ่มนั่นคือภพนิพิฐและภูพิงค์ รู้ดีว่าสองคนนี้ไม่ธรรมดา ส่วนผู้บริหารระดับสูงอย่างเบญญาและภีมพลผู้เป็นสามีก็มีอำนาจมากพอที่จะทำให้ไม่มีองค์กรใดเปิดโอกาสให้เธอได้เริ่มต้นงานใหม่ส่วนเปี่ยมรักผู้หญิงที่ธรรมดามากในสายตาเธอ เห็นแล้วว่าสามีอย่างภูมิรพีที่เป็นแบล็กหลัง พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องคนเป็นเมีย บอสหนุ่มไม่เคยล้อเล่นหรือเสียเวลากับใครทั้งนั้น ทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอเดือดร้อนแน่ หากยังไม่หยุดและถอยกลับออกไปยิ่งเห็นทุกคนพร้อมใจฉีกหน้าเธอออกมาแบบนั้น เลขาสาวหมดหนทางที่จะไปต่อ หากเธอไม่ถอยและหายออกไปจากชีวิตของพวกเขา รู้ดีว่าเธอจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่ที่ให้ยืน"หนูรัก เจ็บมือมากไหมลูก" เบญญาเข้าหาสะใภ้สาวหลังจากเลขาของบุตรชายเดินกุ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status