"ใครเอาอาหารเข้ามาทานข้างในเหรอ" อาจารย์ใบเฟิร์นหันไปถามคนที่รายงานเมื่อครู่
"ออมสินค่ะ" เชอรี่ยืนขึ้นแล้วก็ชี้ไปทางออมสิน
"ใครชื่อออมสินจ๊ะลุกขึ้นหน่อย" ให้นักศึกษาแนะนำตัวแล้วก็จริง แต่นักศึกษาเยอะขนาดนี้อาจารย์ก็ยังคงจำได้ไม่หมด
"ออมสินเธอแอบเอาอะไรเข้ามาทานหรอ" ไอเดียและการ์ตูนที่นั่งอยู่ข้างๆ ต่างก็ตกใจ
"เปล่านี่" ออมสินลุกขึ้นแบบงงๆ
"จะเปล่าได้ยังไงค้นดูกระเป๋าก็รู้ค่ะ" เชอรี่ยังคงกัดไม่ยอมปล่อย
"ถ้างั้นอาจารย์ขอดูกระเป๋าหน่อย"
ออมสินยอมส่งกระเป๋าให้กับอาจารย์ พอกระเป๋าถูกเปิดออกก็เห็นว่ามีถุงอาหารอยู่ในนั้น
โอ๊ยเราลืมไปได้ยังไงเนี่ยลืมเสียสนิทเลย ทีแรกว่าจะเอามาทิ้งแต่พอได้คุยกับเพื่อนแล้วลืมเลย
"เราไม่รู้กฎของที่นี่เหรอห้ามพกอะไรเข้ามาทานในห้องเรียน"
"คือว่าออมสินไม่ได้พกเข้ามาค่ะ" จะอธิบายยังไงดีล่ะพูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ
"ถ้าเธอไม่ได้พกแล้วอะไรอยู่ในกระเป๋า" เพื่อนกลุ่มอื่นพูด
"ออมสินไม่ได้จะพกมากินในห้องเรียนค่ะ เมื่อเช้านี้ยืนกินหน้าโรงเรียนมันเหลือเลยคิดว่าจะเก็บไว้กินช่วงเที่ยง" เอาวะเรียกความสงสารสักหน่อยเผื่อรอด
"เก็บไว้กิน?" เพื่อนหลายคนต่างก็หันมองมา นี่เธอจนขนาดต้องเก็บอาหารตอนเช้าไว้กินตอนเที่ยงเลยเหรอ
"ถึงจะเก็บไว้กินก็เอาเข้ามาในห้องเรียนไม่ได้ ถ้ามดได้กลิ่นอาหารก็จะเข้ามาในห้องนี้ด้วย" อาจารย์อธิบายรวมไปถึงกลัวมีกลิ่นรบกวนการเรียนการสอน
"ออมสินขอโทษค่ะ"
"อาจารย์คะ ที่จริงอาหารนั้นเป็นของ.."
"อะไรเหรอไอเดียเธอคิดจะรับผิดแทนคนผิดเหรอ" เมญ่าคบกับกลุ่มนี้มานานแค่อ้าปากก็รู้แล้วว่าจะพูดอะไร ไม่มีทางหรอกที่เธอจะปล่อยให้ออมสินพ้นผิดครั้งนี้ แต่ก็ต้องขอบคุณแม่เชอรี่ ที่พูดเรื่องอาหารขึ้นมา เมญ่าเลยยุยงอีกนิดหน่อยเชอรี่ถึงได้เสนอหน้าฟ้องอาจารย์
"เป็นของออมสินเองค่ะไม่ใช่ของเพื่อนหรอกค่ะ"
"คนผิดก็ยอมรับผิดแล้วอาจารย์จะลงโทษยังไงคะ" เชอรี่ยังคงพูดต่อ เพราะกลัวว่าอาจารย์จะปล่อยเรื่องนี้ไป
"แต่อาจารย์ค้านี่แค่ความผิดครั้งแรกแถมพวกเรายังดูกฎระเบียบไม่ดีเลย" การ์ตูนและไอเดียช่วยพูด
"เอาอาหารออกไปเก็บข้างนอก และเราก็ยืนสำนึกผิดอยู่หน้าห้องสิบนาที"
"อะไรกันคะทำไมลงโทษเบาแบบนี้" กลุ่มของเชอรี่ไม่พอใจ
"ความผิดก็ไม่ได้หนักหนาอะไร แถมเป็นการเรียนวันแรก"
"ขอบคุณค่ะอาจารย์" ออมสินถือถุงอาหารออกไปข้างนอก ตอนที่ยืนสำนึกผิดอยู่เธอก็จัดการกับอาหารในถุงนั้นต่อ..
เวลาเดียวกันนั้นในห้องผู้บริหาร..
"?" ทีแรกกำลังจะปิดกล้องวงจรปิดแล้วล่ะ เพราะว่ากล้องไม่ได้ติดไว้ในห้องเรียนด้วย แต่ตอนที่เอื้อมมือไปยังไม่ปิดก็เห็นว่ามีนักศึกษาเดินออกมายืนหน้าห้องแล้วก็กินอะไรสักอย่างที่เธอนำออกมาด้วย
"ขอบใจนะเมื่อกี้ยังกินไม่อิ่มเลย" เธอพูดแล้วก็กัดข้าวเหนียวโดยการขยับออกจากถุงเล็กน้อยก่อนจะกัดไก่เข้าไปด้วย
"หึหึ" ได้ยินเสียงเธอพูดเมื่อครู่พอจะรู้แล้วคงถูกทำโทษ ที่เขาขำเพราะเธอสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้
สิบนาทีผ่านไป หลังจากที่กินข้าวเหนียวจนหมดแล้วออมสินก็ไปหาน้ำดื่มและเข้าห้องน้ำจนเรียบร้อยก่อนจะกลับมาที่ห้อง
เที่ยงของวันนั้น..
"อะไร" ออมสินมองดูสิ่งที่เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งในห้องยื่นมาให้
"วันนี้ฉันมีเงินติดตัวมาไม่เยอะ ฉันแบ่งให้เธอด้วย"
"ให้ฉันทำไม"
"เอาไปเถอะ" ชายคนนั้นวางเงินใส่มือแล้วก็รีบเดินออกไป
"เดี๋ยวก่อน นายชื่ออะไร" เธอเดาได้แล้วว่าทำไมเพื่อนถึงเอาเงินให้ คงคิดว่าเธอไม่มีเงินซื้อข้าวกินจนต้องห่อมากินทั้งตอนเช้าและตอนเที่ยง
"ไทเป"
"ออมสินเธอทำอะไร" ไอเดียและการ์ตูนอดขำไม่ได้ เพราะทั้งสองก็รู้แล้วว่าทำไมไทเปถึงเอาเงินให้ออมสิน
"ไทเปนี่ก็น่ารักนะ ดูซื่อๆ ดี"
"เราไปทานข้าวกันเถอะ"
"ฉันยังอิ่มอยู่เลย" กินข้าวเหนียวเข้าไปจนหมดห่อตอนนี้ยังอืดอยู่เลย
"ถ้างั้นฉันสองคนไปกินข้าวก่อนนะ"
"อืม" ออมสินส่งเพื่อนแล้วก็กลับเข้ามาในห้อง ทำไมทานข้าวเหนียวเข้าไปแล้วถึงรู้สึกง่วงนอนขนาดนี้ ที่จริงเธอง่วงตั้งแต่อยู่ในคาบเรียนแล้ว ถ้านอนหลับมีหวังถูกไอ้พวกนั้นเล่นงานหนักแน่ โอ๊ยแล้วเราจะใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัยให้รอดได้ยังไงเนี่ย แค่วันแรกยังเจอศึกหนักขนาดนี้
ผ่านไปพักใหญ่เพื่อนๆ ที่ออกไปทานข้าวเที่ยงก็กลับเข้ามาในห้องเรียน
"ผู้หญิงคนนี้จะสร้างตำนานทุกเรื่องเลยหรือไง" อาวุธเพื่อนของไทเปมองไปเห็นว่าออมสินที่ถูกลงโทษเมื่อเช้า ตอนนี้เอาเก้าอี้เรียงกันไว้แล้วเธอก็นอนยาว
"หึหึ" ไทเปเดินเข้ามาใกล้ก็อดมองดูไม่ได้
ป๊อกๆ เสียงเหมือนใครเคาะเก้าอี้ที่เธอนอนอยู่ออมสินได้ยินเลยรีบลุกขึ้น
"อะไรเมื่อกี้แม่คนนั้นนอนในห้องเรียนเหรอ" เชอรี่ที่เดินตามเข้ามาเห็นตอนที่ออมสินลุกขึ้นพอดี เลยหันไปถามพริ้ม แต่พริ้มก็บอกให้ถามคนที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของเธอคนนั้น
แต่เมญ่าก็ไม่ได้ตอบ ที่เข้ามาคุยกับกลุ่มนี้เพราะแค่อยากยืมมือ แต่ไม่ชอบนิสัยของพริ้มเลยที่ชอบพูดกระทบ
"เธอต้องอดทนหน่อยสิพริ้ม อย่าลืมสิว่าเราแค่จะดึงพวกของมันมา"
"ก็ฉันกลัวว่าเธอจะไปสนิทกับแม่นั่นมากกว่าฉันนี่"
"ไม่มีทางหรอก" ไม่ใช่แค่เมญ่าหรอกที่จะยืมมือเชอรี่ เชอรี่ก็คิดไม่ต่างกัน
ออมสินลุกขึ้นมาก็แอบสงสัยว่าใครเป็นคนเคาะเก้าอี้เพื่อปลุกเธอ เพราะตอนนี้ไอเดียและการ์ตูนยังไม่ได้เข้ามา ต้องเป็นหนึ่งในคนที่เดินเข้ามาก่อนแน่
เย็นวันนั้น..
"ออมสินเธอจะกลับบ้านยังไง"
"ให้ลุงมารอรับที่เดิม"
"ถ้างั้นพวกเรากลับก่อนนะ"
"พวกเธอไปกับฉันสิ"
"ไม่หรอกเดี๋ยวเธอกลับถึงบ้านค่ำพ่อว่าให้อีก"
หลังจากที่แยกทางกับเพื่อนแล้วออมสินกำลังเดินออกมา แต่จังหวะนั้นก็ถูกคนเข้ามาขวางทาง
"ฉันถามหน่อยเถอะ จนแบบเธอเอาเงินที่ไหนมาเรียนที่นี่"
ออมสินหันมองไปดูด้านหลังของตัวเอง "เธอถามฉันเหรอ" พอไม่เห็นใครอยู่ด้านหลังออมสินถึงได้หันกลับมามองอีกฝ่าย
"ตรงนี้ก็มีแค่เธอ"
"เราสนิทกันเหรอ"
"นี่! เธอแค่ตอบเพื่อนฉันมา" พริ้มเห็นท่าทางยียวนของอีกฝ่ายเลยกระแทกเสียงใส่
"ฉันจะหาเงินมาจากที่ไหนมันก็เรื่องของฉัน ฉันไม่ได้ไปยืมโคตะระพ่อแม่พวกเธอสักหน่อย"
"อะไรโคตะระ?" พริ้มสงสัยคำนี้เลยหันไปมองเชอรี่
"มันหมายถึงโคตรพ่อโคตรแม่ไง"
"มันด่าโคตรพ่อโคตรแม่เธอเหรอ"
"ด่าเธอนั่นแหละ หยุดนะ!" เชอรี่ยังไม่ยอมจบยังเดินตามมา "เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร"
"สัมภเวสีมั้ง"
"นี่เธอ!"
"ถ้าไม่ใช่แล้วจะมาตามหลอกหลอนฉันทำไมล่ะ"
"ฉันบอกให้เอาบุญก็ได้นะว่าเพื่อนฉันเป็นน้องสาวของเจ้าของมหาวิทยาลัยนี้! ไม่ใช่แค่น้องสิยังเป็นคู่หมาย"
"สมองสับสนหรือเปล่าเมื่อกี้ว่าน้องสาว แล้วทีนี้ทำไมว่าคู่หมาย เธอจะแต่งงานกับพี่ชายเธอเหรอ"
"ดูมันพูดนะ!" ทั้งคำพูดและสีหน้าอีกฝ่ายกวนประสาทมากเลย "ฉันจะบอกให้พี่ชายฉันไล่เธอออก" เชอรี่พอรู้เรื่องความสัมพันธ์ของออมสินกับเจ้าเวหามาบ้างแล้วจากปากของเมญ่า เธอแค่รอโอกาสเปิดโปง
ออมสินส่ายหน้าแบบเอือมระอาก่อนจะเดินไปจากสิ่งสกปรกแถวนี้
"ทำไมเธอไม่ตอกหน้ามันไปเลยล่ะว่าเรารู้เรื่องของมันแล้ว"
"เรื่องนี้บอกมันจะไปสนุกอะไรล่ะ สู้เราบอกพี่เวย์จะไม่สนุกกว่าเหรอ"
"ใช่ๆ ถ้าพี่ชายเธอรู้ว่า ถูกพวกนี้เอามาเล่นสนุกนะ.."
"แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน""อยู่บ้านของผมครับ""แสดงว่า?" นรสิงห์หันมองไปดูเพื่อน เพราะทั้งสองอยู่บ้านหลังเดียวกัน"ใช่อยู่บ้านเดียวกันกับกูนี่แหละ"อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ น้องสาวของเขาอยู่ใกล้จมูกเขานี่เองเหรอ "ฉันอยากจะขอพบเธอหน่อยได้ไหม""ได้สิ.. แต่ว่าเธอจะเครียดมากไม่ได้นะ""ทำไม"เจ้าวายุเลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ เพราะเรื่องนี้เขายังไม่ทันได้เล่า"ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นในพื้นที่ของมึงได้" พอรับรู้ว่าน้องสาวได้รับอันตรายจากการมาเที่ยวที่นี่นรสิงห์เลยหันไปต่อว่าให้เจ้าของสถานที่"เรื่องนั้นมันเหตุสุดวิสัยจริงๆ แต่กูก็จัดการเรียบร้อยแล้ว""เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เรานัดกันอีกที" เจ้าวายุรีบพูดตัดบท เพราะยังไม่รู้จักนิสัยของนรสิงห์ดี"ไม่เป็นไรหรอกพรุ่งนี้วันหยุดไม่ได้ไปเรียนไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอที่นั่น" นรสิงห์หมายถึงจะไปหาไอเดียที่บ้านของเจ้าวายุหลังจากที่พูดคุยกันรู้เรื่องแล้ว เจ้าวายุเลยกลับมาหาไอเดียที่บ้าน พอกลับมาเห็นว่าเธอนอนหลับเขาเลยไม่ได้ปลุก คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยเล่าให้ฟังแล้วกันวันต่อมาที่คฤหาสน์ศักดินา.."เราเป็นเพื่อนของตาเวย์เหรอ" เห็นรถหรูวิ่งเข้ามาจอดเลย
"มึงถามทำไม""มึงช่วยนัดเพื่อนคนนี้ของมึงให้กูหน่อยได้ไหม""ได้สิ ว่าแต่มึงบอกกูมาก่อนว่ามันเรื่องอะไร""เรื่องของไอเดีย""ทำไม? มันเกี่ยวอะไรกับไอเดียด้วย""กูไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไง""มึงก็เริ่มจากเรื่องที่มึงถามกูนี่ไงมึงถามเพื่ออะไร""กูกำลังสืบหาครอบครัวของไอเดียอยู่""ไอเดียก็มีแม่อยู่ไม่ใช่เหรอ?" เรื่องนี้เจ้าเวหารู้มาจากออมสินอีกที ออมสินพูดให้ฟังอยู่บ่อยๆ ว่าครอบครัวของไอเดียเป็นยังไง"ไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเธอหรอก""อะไรนะ? กูงงไปหมดแล้ว เธออยู่กับแม่แต่มีพ่อเลี้ยงไม่ใช่เหรอ""ทั้งสองคนไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ ของไอเดีย""มึงรู้ได้ยังไง""กูตรวจดีเอ็นเอมาแล้ว""แล้วมึงก็คิดว่าไอเดียเป็นญาติของไอ้สิงห์เหรอ?""เพราะเรื่องนี้แหละกูถึงอยากจะคุยกับเพื่อนมึงหน่อย""ได้สิ มึงจะให้กูนัดวันไหน""เอาที่ทางนั้นสะดวก" เจ้าวายุรู้ว่าทางนั้นมีกิจการมากมายอาจจะไม่ค่อยมีเวลาว่าง"อืม ถ้างั้นกูไปดูคลับก่อนนะ""คุณยังไม่ออกไปหรือคะ" ออมสินว่าจะลงมาเล่นกับไอเดียข้างล่าง พอลงมาก็เห็นว่าสามียังไม่ออกจากบ้าน เพราะเขาบอกไว้ว่าจะเข้าไปดูคลับหน่อย"กำลังจะไปแล้วคุณลงมาทำไม""ผัวไม่อยู่บ้านลงมาทำไมก็เรื่องของฉันสิ
"คุณรีบพูดมาเถอะค่ะ" ตั้งแต่เขาบอกว่ากำลังให้คนสืบเรื่องครอบครัวเธอ ไอเดียก็รอแบบใจจดใจจ่อ ถึงแม้เธอจะไม่ได้ถามความคืบหน้า แต่เธอก็รออยู่ว่าเมื่อไรเขาจะแจ้งเรื่องนี้"แม่ของคุณเกี่ยวข้องกับครอบครัวผู้มีอิทธิพลครอบครัวหนึ่ง""ครอบครัวผู้มีอิทธิพล? ยังไงคะ""ผมไม่แน่ใจว่าทำไมแม่คุณถึงระหกระเหินออกมาจากบ้าน" เป็นเรื่องที่สืบไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องในครอบครัว แค่เขารู้ที่มาที่ไปของแม่เธอ ส่วนพ่อของเธอยังไม่รู้ที่มาที่ไปแน่ชัด"คุณจะบอกว่า แม่แท้ๆ ของฉันถูกไล่ออกจากบ้านเหรอ?" ถ้ามันเป็นแบบนั้นเธอก็ไม่อยากจะรู้เรื่องแล้ว พวกเขาถึงขนาดไล่แม่เธอออกจากบ้าน คงไม่ต้องการเด็กที่เกิดจากแม่ของเธอหรอก"เรื่องนี้ผมยังไม่แน่ชัดเพราะมันเป็นเรื่องในครอบครัว คงสืบลำบาก""พวกเขาเป็นครอบครัวไหนคะ""ดำรงฤทธิ์""ดำรงฤทธิ์ ทำไมนามสกุลนี้มันคุ้นๆ""บริษัทในเครือของดำรงฤทธิ์มีทั่วประเทศ""คุณอย่าบอกนะคะ ว่าแม่ฉันเป็นญาติกับคนพวกนั้น?""เรื่องนี้ผมก็ให้คำตอบคุณยังไม่ได้ เพียงแค่ชื่อของแม่คุณ เคยปรากฏอยู่ในใบทะเบียนบ้าน""เคยปรากฏ?" หมายความว่าแม่ของเธอถูกคัดชื่อออกงั้นเหรอ? แม่เธอทำผิดอะไรนักหนาทำไมพวกเขาถึงทำก
"ฉันว่าจะมาถามเรื่องพ่อค่ะ""ท่านมาแล้วเหรอ""คุณให้พ่อมาทำงานที่นี่เหรอคะ""ใช่ ท่านจะได้อยู่ใกล้ลูกสาวไง""ขอบคุณมากนะคะ""ขอบคุณทำไมล่ะนั่นก็พ่อตาผมนะ""ฉันรักคุณนะคะ""หือ.. เดี๋ยวนะ" เขายังไม่ได้ตั้งตัวเลย"คุณไม่อยากให้ฉันบอกรักเหรอ""ไม่ใช่แบบนั้นคุณจะไม่ให้ผมได้ตั้งตัวหน่อยหรือ""นึกว่าอะไรเสียอีก" เขากำลังจะลุกขึ้นแต่ไอเดียเดินเข้าไปแล้วดันร่างของเขาให้นั่งลงก่อนที่เธอจะวางสะโพกลงกับตัก มือเรียวโอบรัดต้นคอแกร่งไว้ก่อนที่จะแนบริมฝีปากลง "อืม" ทีแรกคิดว่าจะจุ๊บแก้มแต่อีกฝ่ายดันหันหน้ามารับริมฝีปากของเธอก่อน"น่ารักจัง" ชายหนุ่มขยับริมฝีปากออกมาเลยชมก่อนที่จะเปลี่ยนจากจุ๊บเป็นจูบ..ไอเดียปล่อยให้เขาจูบจนพอใจ ใครจะเข้ามาเห็นก็ช่างปะไรนี่ห้องสามีของเธอ"พอแล้วเหรอคะ" เห็นอีกฝ่ายถอนจูบออก"เดี๋ยวคุณก็เข้าห้องเรียนสายหรอก""ถ้างั้นไอเดียกลับห้องก่อนนะคะ""เดี๋ยวก่อนสิผมจะไปส่ง" ชายหนุ่มหยิบเอาโทรศัพท์แล้วเดินตามเธอออกมา จนมาถึงอาคารเรียนไอเดียก็เห็นว่าตอนนี้อาคารเรียนกำลังก่อสร้างอะไรไม่รู้"เขาทำอะไรกันคะ""อาทิตย์หน้าก็คงใช้งานได้แล้ว""แล้วมันคืออะไรล่ะคะ?" หญิงสาวหันไปมองดูสิ่งก
"เมื่อกี้นี้ลูกเขยว่าอะไรนะ""ก็ตามที่ผมพูดนั่นแหละครับ ผมจะให้เงินเท่าที่คุณแม่ต้องการ และผมจะหาที่อยู่ใหม่ให้คุณแม่ด้วย""แน่ใจนะว่าให้เท่าที่แม่ต้องการ""คุณแม่บอกมาได้เลยครับว่าต้องการเท่าไร"" 10 ล้านบาท""แม่!""ตกลงครับ""คุณ..""ถือว่าเงินนี้ผมให้ท่านสำหรับที่ท่านเลี้ยงดูคุณมา""เลี้ยงดูหมายความว่ายังไง" นางได้ยินคำพูดนี้เลยถาม"ฉันรู้ความจริงแล้วว่าคุณไม่ใช่แม่แท้ๆ ของฉัน""ไอเดีย.." นางดูตกใจที่ลูกสาวรู้ความจริงแต่ก็ปรับสีหน้าได้ไวมาก "ไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่ฉันก็เลี้ยงดูเธอมา""เพราะแบบนี้ไงครับผมถึงจะตอบแทนบุญคุณที่คุณเลี้ยงดูคนรักของผมมา""ดี! อย่าลืมล่ะเงินสด 10 ล้านและที่อยู่ใหม่""อะไรนะ!" ชัยนาทเดินกลับมาได้ยินคำพูดนี้ของภรรยาพอดี "มันจะมากไปแล้วนะ""มากยังไง กว่าฉันจะเลี้ยงมันมาโตได้ขนาดนี้""เธอแน่ใจนะว่าเธอเป็นคนเลี้ยง""แกเป็นผัวฉัน ก็เท่ากับฉันเลี้ยงเหมือนกันแหละ""มันไม่มากหรอกครับผมให้ได้ และคุณแม่สัญญาว่าจะเซ็นใบหย่าให้คุณพ่อ ถ้าพ่ออยากจะหย่าก็หย่าได้เลยนะครับ""ไปหย่ากันวันนี้เลย" ประโยคนี้แม่เป็นคนพูด เพราะไม่เคยพิศวาสผู้ชายคนนี้เลย มีสิ่งเดียวที่ยังอยู่ก็คือเงิน
"คุณเล่าเรื่องพวกนั้นให้ฉันฟังได้ไหมคะ" เธอขยับกายเข้าไปใกล้ แล้วก็แนบใบหน้าลงกับแผ่นอกของเขาที่นั่งพิงหมอนอยู่บนเตียงนอน"เรื่องนี้คุณตาขอจัดการเอง" ท่านอยากให้เจ้าวายุมีเวลาดูแลเมียกับลูกให้มาก และอีกอย่างที่ท่านจัดการเรื่องนี้เองเพราะไม่อยากให้พวกนั้นลอยนวล ถึงแม้ว่าจะรู้จักกันตั้งแต่สร้างบ้านหลังนี้มา แต่ท่านก็ไม่คิดจะปล่อยไป"แล้วอีกสองคนล่ะคะ" เป็นอีกเรื่องที่ไอเดียสงสัย เพราะไม่เห็นทั้งสามคนมาเรียน"เจอข้อหาไม่ต่างกัน เพราะถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด""หรือคะ..""คุณไม่ต้องคิดมากนะ ใครทำอะไรก็ได้แบบนั้น""ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันกับออมสินไปทำอะไรให้พวกนั้นไม่ชอบนักหนา ตั้งแต่เข้าเรียนแล้ว""ต่อไปนี้ไม่มีใครมาทำอะไรคุณได้แล้วนะ""แล้วเรื่องเรียนล่ะคะ ฉันยังคงจะเรียนได้อีกไหม" เธอกลัวว่าถ้าท้องโตมากกว่านี้จะถูกสั่งห้าม เดี๋ยวก็เสียชื่อมหาวิทยาลัย"เรื่องนั้นมันแล้วแต่คุณ ถ้าคุณอยากจะเรียนก็เรียนไป""ฉันเรียนได้จริงเหรอคะ""เรียนได้สิ แต่เวลาเดินคุณต้องระวังๆ หน่อย""ฉันสัญญาว่าจะระวังค่ะ คุณตาไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ" คำถามนี้ออกจากปากของไอเดีย เจ้าวายุมองหน้าเธอจนอีกฝ่ายสงสัยว่าเขามองทำไม "