Home / วาย / เดี๋ยวก่อน! นายเป็นนายเอกไม่ใช่เหรอ!? / บทที่ 23 เลกไซด์ (?) วิวติดทะเลมีหาดทราย

Share

บทที่ 23 เลกไซด์ (?) วิวติดทะเลมีหาดทราย

last update Last Updated: 2025-10-27 20:00:43

ค่ำนั้นอันวาร์จำได้ หลังสุราเข้าปากไปพอสมควร เขาและรจนาก็พากันไปเปิดม้วนไทม์ไลน์ของ "ยอดองครักษ์เคียงหทัย" ที่เคยเขียนไว้ออกดู

บนเส้นเวลา พวกเขาวาดดอกจันไว้ที่เหตุการณ์หนึ่งคือ เหตุการณ์ที่หยางซิงอีและนายเอกเจอกันครั้งแรก หรือก็คือช่วงงานฉลองวันคล้ายวันประสูติขององค์จักรพรรดิหยาง แต่เพราะพวกเขาจำไม่ได้ว่าการพบกันของทั้งคู่เกิดขึ้นก่อนหรือหลังวันคล้ายวันประสูติกันแน่ เนื่องจากงานฉลองนั้นยาวนานถึงเจ็ดวัน จึงตัดสินใจใส่สิ่งที่ตนรู้ลงไปก่อน คือวันที่ของวันคล้ายวันประสูติ (เขาเห็นอีเจ๊วาดหัวใจไว้หลังเลขวันด้วย)

แล้วหลังนั่งนับวันเทียบกับปฏิทินแผ่นกลมขนาดใหญ่ในห้องทรงงานขององค์จักรพรรดิทั้งยังเมา พวกเขาก็ทำปฏิทินนับถอยหลังไปยังวันคล้ายวันประสูติครั้งนั้นได้สำเร็จ ซึ่งหากนับจากคืนนี้ที่ร่ำสุรากัน พวกเขาก็เหลือเวลาเตรียมตัวรับมือการมาเยือนของคู่พระ-นายเป็นเวลา 2 ปี 1 เดือนกับอีก 14 วัน

นั่นทำให้พวกเขาพอจะระบุได้ว่า ตอนนี้พวกตนอยู่ตรงไหนของ "ยอดองครักษ์เคียงหทัย" แล้ว

ก่อนหน้านี้พวกเขาสนใจแต่สถานการณ์ของพวกตนเลยหลงลืมไปว่า มีอีกสิ่งที่ต้องใส่ใจ และมันก็คื

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • เดี๋ยวก่อน! นายเป็นนายเอกไม่ใช่เหรอ!?   บทที่ 28 แต่หัวใจยังตามไม่ทัน

    ขณะหลินซีและเฉินอวี้ไล่ตามโจรลักพาตัวและหวังต้าเหยียนบนหลังคา อันวาร์และซานหลินผู้ตัดสินใจไปขอกำลังจากผู้ตรวจการมา ก็ส่งม้าเร็วคนหนึ่งไปแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายนี้แก่องค์จักรพรรดิหม่าเยว่แจ้งเหตุร้ายนี้ด้วยใบหน้าซีดเผือด และทันทีที่ทราบเรื่องจากขันทีคู่ใจ การประชุมของราชสำนักและองค์จักรพรรดิก็เป็นอันหยุดลง“เจ้าว่าเช่นไรนะหม่าเยว่” สุรเสียงที่ยามปกติเยือกเย็นวันนี้ร้อนรน และขันทีวัยกลางคนก็ได้แต่แจ้งข่าวร้ายซ้ำอีกครั้ง“องค์หญิงหวังต้าเหยียนถูกลักพาตัวไปพ่ะย่ะค่ะ”ราวกับโลกหยุดหมุน รจนารู้สึกเย็บวาบไปทั้งสรรพางค์กาย บรรดาขุนนางเองพอทราบเหตุก็ตกใจ ท้องพระโรงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและคำถาม แต่ไม่มีสิ่งใดเข้าหูรจนา หล่อนสั่งให้คนช่วยเตรียมม้า และเพียงก้านธูป ขบวนเสด็จขององค์จักรพรรดิก็ออกจากวังหลวงไปยังสำนักงานผู้ตรวจการของตลาดที่เกิดเหตุบนหลังม้า จมูกของรจนาคล้ายได้กลิ่นดอกยี่โถ และหล่อนนึกถึงคำพูดของหยางซิงอีในความฝัน“ข้าบอกท่านแล้วว่าไม่ควรปล่อยข้าไป...ท่านพี่”แล้วหล่อนก็ได้แต่คิดว่าหล่อนน่าจ

  • เดี๋ยวก่อน! นายเป็นนายเอกไม่ใช่เหรอ!?   บทที่ 27 ร่วงหล่นจากฟ้า

    เพราะองค์หญิงหวังต้าเหยียนยังไม่มีราชองครักษ์ประจำพระองค์ รจนาจึงมอบหมายหน้าที่อารักขานางนอกเขตพระราชฐานให้หลินซีก่อนเดินทางออกจากวัง เขาและซานหลินตกลงกันว่า เพื่อมิให้สะดุดตาจนเกินควร ซานหลินจะทำหน้าที่อารักขาราชนิกุลทั้งสองในที่แจ้ง ขณะที่หลินซีจะคอยตามดูในเงามืด แน่นอนว่าเรื่องนี้ทั้งอันวาร์และหวังต้าเหยียนล้วนทราบดี แต่ถึงจะมียอดฝีมือคอยดูแลอย่างใกล้ชิดถึงสองคน......เหตุร้ายก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดีที่โต๊ะกลมของภัตตาคารเฟยหย่า หวังต้าเหยียนนั่งอยู่ริมหน้าต่างถัดเข้ามาคือซานหลิน และอันวาร์เป็นชั่วขณะหนึ่งที่ทั้งสามลุกจากที่นั่ง ที่แขนยาวข้างหนึ่งยื่นเข้ามาคว้าตัวหวังต้าเหยียนออกจากภัตตาคารไปทางช่องหน้าต่าง ต่อหน้าต่อตาซานหลินและอันวาร์ไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ทันได้ส่งเสียง ชายกระโปรงสีฟ้าอ่อนของหวังต้าเหยียนก็ลอยพ้นขอบหน้าต่างไปแล้วในชั่ววินาทีอันเชื่องช้าที่แขนข้างนั้นกระชากตัวหวังต้าเหยียนออกไป เขาเห็นใบหน้านางซีดเผือด นางยื่นมือมาหาเขา ปากเอ่ยว่า “ท่านพี่...” แต่เขากลับคว้าจับมือนางไม่ทัน"ไอ้เวร!" อันวาร์ส

  • เดี๋ยวก่อน! นายเป็นนายเอกไม่ใช่เหรอ!?   บทที่ 26 สายตามุ่งร้าย

    รจนามองเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแก่ตำหนักองค์ชายเจ็ดจากห้องทรงงานของหยางลู่จื้อ ในสายตาหล่อน รอยยิ้มของตำหนักองค์ชายเจ็ดถือเป็นนิมิตหมายที่ดี คาดว่าจะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในไม่ช้าก็เร็วไม่คิดว่าสองสัปดาห์ต่อมาหลังคิดเช่นนั้น หล่อนจะฝันร้ายรุนแรงจนสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วไม่อาจหลับได้อีกจนเช้าในฝันรจนานั่งทำงานรออันวาร์และหวังต้าเหยียนมาเข้าเรียนยามค่ำเช่นทุกวัน แต่รอแล้วรอเล่าทั้งคู่ก็ไม่มาเสียที หล่อนจึงตัดสินใจจะส่งหลินซีออกไปตาม แต่ไม่ว่าจะเรียกหาหลินซีสักกี่ครั้ง คนสนิทของหล่อนก็ไม่มีวี่แววว่าจะปรากฏตัวเลยประหลาด หล่อนคิดแล้วลองเรียกผู้อื่นดูบ้าง ทั้งหญิงรับใช้และขันทีแต่ผลลัพธ์ก็ยังเป็นเช่นเดิม มีเพียงเสียงเรียกหาแต่ปราศจากเสียงขานรับหนังหัวของรจนาชาวาบ มีบางอย่างไม่ถูกต้อง แล้วอยู่ ๆ ลมเย็นก็พัดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาดับตะเกียงไฟทุกดวงในห้องทรงงานราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบขยี้เปลวเพลิง เมื่อปราศจากแสงสว่าง ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความมืดรวมถึงตัวหล่อนด้วยท่าไม่ดีแล้ว หล่อนคิด ห้องทรงงานในความมืดดูวังเวงอย่างน่าป

  • เดี๋ยวก่อน! นายเป็นนายเอกไม่ใช่เหรอ!?   บทที่ 25 เป็นชายหนุ่มนัยน์ตาสีชาด

    เพราะเรียนหนังสือด้วยกัน สอบด้วยกัน และอันวาร์ก็ไปเที่ยวเล่นที่ตำหนักของหวังต้าเหยียนทุกวัน ไม่กี่สัปดาห์หลังรู้จักกัน อันวาร์ก็กลายเป็นคนที่หวังต้าเหยียนสนิทด้วยที่สุดในวังหลวงเริ่มจากสีฉลองพระองค์ที่พระนางเริ่มทรงตามเขา ทรงสังเกตรูปแบบสีที่เขาเลือกใส่แล้วใส่ตาม วันไหนเขาใส่สีแดงพระนางก็ทรงสีแดง วันไหนเขาใส่สีเขียวนางก็ทรงสีเขียว แต่เพราะพระนางมีราชครูคอยชี้แนะเรื่องการแต่งกายอย่างใกล้ชิด สีฉลองพระองค์ของพระนางจึงอ่อนหวานสบายตากว่าของเขามากครั้งแรกที่เขาจับสังเกตได้ว่า ฉลองพระองค์ของพระนางเป็นสีเดียวกันกับของเขา เขาดีใจมากจนพาพระนางไปยืนทำท่าทางประหลาดที่หน้ากระจก และแต่ละท่าทางก็ช่างน่าขัน จนหลายครั้งหลังทำท่าทางเสร็จก็ต่างลงไปนั่งหัวเราะจนน้ำตาไหลอยู่กับพื้นห้อง หน้าดำหน้าแดงไปหมดหวังต้าเหยียนพบว่า ยามปกติฉลองพระองค์ขององค์ชายเจ็ด (และองค์จักรพรรดิ) นั้นมิได้มีสีสันฉูดฉาดแสบตาเช่นวันแรกที่พระนางพบเจอทั้งสองพระองค์ และเมื่อพระนางถามอันวาร์เรื่องนี้ เขาก็อธิบายด้วยรอยยิ้มขบขันว่า วันนั้นเป็นวันพิเศษ เขาจึงแต่งตัวให้พิเศษสดใสกว่าปกติเสียหน่อยเท่านั้นเอง

  • เดี๋ยวก่อน! นายเป็นนายเอกไม่ใช่เหรอ!?   บทที่ 24 เขาน่ะคิดบวกเสมอนะ

    WARNNING-มีการกล่าวถึงการแต่งงานกันเองในหมู่เครือญาติ“น้องข้า ค่ำนี้ข้าจะสอนพวกเจ้าเรื่องแคว้นไป๋” รจนาในคราบหยางลู่จื้อเอ่ยแก่องค์หญิงหวังต้าเหยียนและอันวาร์ สุรเสียงทุ้มต่ำเรียกความสนใจของลูกศิษย์จำเป็นทั้งสองจากขนมหวานบนโต๊ะน้ำชารจนาย้อนความให้ลูกศิษย์ทั้งสองถึงอาณาจักรดั้งเดิมที่แปดแคว้นเคยเป็น อาณาจักรแห่งนี้ที่ “ยอดองครักษ์เคียงหทัย” ดำเนินอยู่ แท้จริงมีนามเดิมว่า ต้าซิงทุกอย่างในต้าซิงสงบสุขร่มเย็นจนกระทั่งเกิดการแตกแยกกันเองของกลุ่มชนชั้นสูง ที่ต่อมาลุกลามใหญ่โตจนกลายเป็นรอยร้าวแบ่งอาณาจักรอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรเป็นสิบแคว้น และลดลงเหลือเพียงแปดแคว้นในเวลาต่อมาหนึ่งในแคว้นที่แตกออกมาเหล่านั้นคือแคว้นไป๋ ซึ่งแคว้นไป๋นอกจากจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในแปดแคว้นแล้ว ยังเป็นแคว้นที่เก่าแก่ที่สุดอีกด้วย เพราะเป็นแคว้นของราชวงศ์เดิมแห่งอาณาจักรต้าซิง สายเลือดของผู้ปกครองที่แท้จริงของทั้งแปดแคว้นเมื่อเป็นแคว้นเก่าแก่ ซ้ำทำเลที่ตั้งบางส่วนยังมีทะเลทรายเป็นปราการธรรมชาติคอยป้องกันการรุกรานจากต่า

  • เดี๋ยวก่อน! นายเป็นนายเอกไม่ใช่เหรอ!?   บทที่ 23 เลกไซด์ (?) วิวติดทะเลมีหาดทราย

    ค่ำนั้นอันวาร์จำได้ หลังสุราเข้าปากไปพอสมควร เขาและรจนาก็พากันไปเปิดม้วนไทม์ไลน์ของ "ยอดองครักษ์เคียงหทัย" ที่เคยเขียนไว้ออกดูบนเส้นเวลา พวกเขาวาดดอกจันไว้ที่เหตุการณ์หนึ่งคือ เหตุการณ์ที่หยางซิงอีและนายเอกเจอกันครั้งแรก หรือก็คือช่วงงานฉลองวันคล้ายวันประสูติขององค์จักรพรรดิหยาง แต่เพราะพวกเขาจำไม่ได้ว่าการพบกันของทั้งคู่เกิดขึ้นก่อนหรือหลังวันคล้ายวันประสูติกันแน่ เนื่องจากงานฉลองนั้นยาวนานถึงเจ็ดวัน จึงตัดสินใจใส่สิ่งที่ตนรู้ลงไปก่อน คือวันที่ของวันคล้ายวันประสูติ (เขาเห็นอีเจ๊วาดหัวใจไว้หลังเลขวันด้วย)แล้วหลังนั่งนับวันเทียบกับปฏิทินแผ่นกลมขนาดใหญ่ในห้องทรงงานขององค์จักรพรรดิทั้งยังเมา พวกเขาก็ทำปฏิทินนับถอยหลังไปยังวันคล้ายวันประสูติครั้งนั้นได้สำเร็จ ซึ่งหากนับจากคืนนี้ที่ร่ำสุรากัน พวกเขาก็เหลือเวลาเตรียมตัวรับมือการมาเยือนของคู่พระ-นายเป็นเวลา 2 ปี 1 เดือนกับอีก 14 วันนั่นทำให้พวกเขาพอจะระบุได้ว่า ตอนนี้พวกตนอยู่ตรงไหนของ "ยอดองครักษ์เคียงหทัย" แล้วก่อนหน้านี้พวกเขาสนใจแต่สถานการณ์ของพวกตนเลยหลงลืมไปว่า มีอีกสิ่งที่ต้องใส่ใจ และมันก็คื

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status