LOGIN“นายครับนาย ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้ครับ?”
“อืม” ชายหนุ่มค่อยๆ ฟื้นคืนสติขึ้นมา เพราะเสียงเรียกของลูกน้องที่อยู่ข้างๆ
“ผมตามหานายทั้งคืนเลยนะครับ โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้เลย จนมีคนบอกว่านายเข้ามาที่โรงแรมแล้วยังไม่ออกมาเลย ผมถึงได้ตามมาเจอ"
“….” เขาไม่ได้ตอบอะไร เพราะกำลังงัวเงียอยู่เขาจำได้ว่าเมื่อคืนมีอะไรกับผู้หญิงคนนึงนี่นา แต่ทำไมเขาถึงเป็นสภาพนี้ได้ล่ะ ไม่มีความโล่งเหมือนคนที่เพิ่งได้ปลดปล่อยออกไปเลย หนำซ้ำยังรู้สึกปวดหัวหนักคล้ายถูกวางยาอีกต่างหาก
“ไปโรงพยาบาลนะครับ นายต้องตรวจร่างกาย"
“อืม..”
เขาถูกลูกน้องนำส่งโรงพยาบาล ตรวจร่างกายตรวจเลือดต่างๆ จนได้รู้ว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับใครเลย และที่สำคัญในเลือดของเขามียานอนหลับเป็นสารตกค้างอยู่ด้วย นั่นจึงทำให้เขารู้ว่าตัวเองโดนหลอก และคงจะเป็นน้ำในแก้วนั่นที่เธอคนนั้นพยายามหว่านล้อมให้เขากินให้ได้
“มึงไปจับตัวผู้หญิงคนนั้นมา กูไม่รู้ว่าเป็นใครแต่กูจำหน้าได้ จับตัวมาได้แล้วพามาหากูทันที"
“ครับนาย”
เขาโกรธและโมโหมากที่ถูกผู้หญิงหลอกแบบนี้ ไม่เคยมีใครกล้าล้วงคองูเห่าอย่างเขาเลย ยกเว้นเธอคนนั้นที่กล้าทำได้ขนาดนี้
ตัดมาที่หญิงสาว ขณะที่เธอกำลังเดินกลับบ้านหลังเลิกเรียน ก็มีชายฉกรรจ์หลายคนมายืนดักเธอเอาไว้ ทำให้เธอตกใจกลัวมากเพราะคนพวกนี้เหมือนตั้งใจมาหาเธอ เพราะไม่มีใครหลบเธอเลย และต่อให้เธอจะขยับหนีก็ถูกชายฉกรรจ์ขยับตัวขวางไว้ไม่ให้เธอเดินผ่านไป
“ขึ้นมาบนรถดีๆ แล้วน้องจะไม่เจ็บตัว"
“คะ คิดจะทำอะไร บ้านเมืองมีกฎหมายนะ ฉันไม่ไปกับใครทั้งนั้น แล้วฉันก็จะโทรแจ้งตำรวจด้วย”
“น้องไม่กล้าหรอก เพราะน้องรู้ดีว่าตัวเองทำอะไรลงไป”
“…..” เธอเงียบ แต่ก็ยังไม่ได้ยอมขึ้นไปบนรถพร้อมกับชายฉกรรจ์พวกนั้น ใครจะไปกล้าล่ะพวกเขาเป็นใครเธอยังไม่รู้จักเลย
“ขึ้นรถมา เจ้านายพี่อยากจะคุยด้วยน่ะ"
“มะ ไม่”
“ลูกน้องของพี่มันไม่ได้ใจดีขนาดนั้นนะ ขึ้นมากับพี่ดีๆ จะดีกว่า ก่อนที่ลูกน้องของพี่มันจะลงมือทำอะไรไม่ดีลงไป”
“….” เธอมองไปที่กลุ่มชายฉกรรจ์ คนพวกนี้มันน่ากลัวจริงๆ นะ ถ้าเธอไม่ไปจะเจออะไรหรือเปล่า จะหนีก็คงไม่รอดโดนล้อมซะขนาดนี้เนี่ย
สุดท้ายเธอก็ต้องยอมขึ้นรถไปกับผู้ชายใส่สูทคนนั้น และก็ไม่รู้ว่าถูกพาไปที่ไหนเพราะเธอถูกผ้าสีดำปิดตาเอาไว้ รถแล่นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรถจอดดับสนิทพร้อมกับประตูถูกเปิดออก ก่อนที่เธอจะถูกพาตัวลงไปจากรถ เข้าไปยังบ้านหลังหนึ่งและขึ้นไปด้านบนก่อนจะถูกพาเข้าไปยังห้องห้องหนึ่ง
พรึบ!
ผ้าปิดตาสีดำถูกดึงออกทำให้เธอเห็นคนตรงหน้าได้อย่างชัดเจน ใบหน้าของชายคนนี้ทำให้เธอต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะเธอจำได้ดี มันเพิ่งจะผ่านมาเมื่อคืนเอง
“ไงสาวน้อย เจอกันอีกแล้วนะ"
“คะ คุณ!”
“ตกใจแบบนี้แสดงว่าจำกันได้สินะ” เขายิ้มมุมปากด้วยท่าทางที่เจ้าเล่ห์ ก่อนที่มือหยาบจะจับเส้นผมสลวยไปม้วนเล่นไปมา พร้อมกับยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ เธอ แม้เขาจะหล่อและตรงสเปกของเธอ แต่สายตาของเขาก็ดูน่ากลัวจริงๆ
“….”
“เธอกล้ามากนะ ที่มาหลอกคนอย่างฉันน่ะ ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร?”
“คะ คือว่าฉัน...” เธอเริ่มตะกุกตะกัก ไม่กล้าสบสายตาคนตรงหน้า ทั้งที่เมื่อวานยังเป็นคนมั่นใจตัวเองอยู่แท้ๆ แต่วันนี้กลับไม่เป็นแบบนั้นเลย
ปึก!
ซองเอกสารถูกวางลงตรงหน้าของเธอ ไม่รู้ว่าคืออะไร และเธอก็ไม่กล้าหยิบออกมาเปิดอ่านด้วย
“วันนี้ฉันถูกลูกน้องหามส่งโรงพยาบาล หมอตรวจร่างกายของฉันพบว่ามีสารของยานอนหลับตกค้างอยู่ในเลือด เธอวางยาฉัน!”
“อึก...” เสียงคล้ายตะคอกของคนตรงหน้ามันทำให้เธอสะดุ้ง ไม่กล้าเถียงเพราะมันคือเรื่องจริง
“เธอจะรับผิดชอบยังไง ถ้าฉันส่งเรื่องนี้บวกกับหลักฐานที่มีให้กับตำรวจ ชีวิตเธอต่อจากนี้ได้ไปอยู่ในคุกแน่”
“….”
“ข้อหาวางยาและลักทรัพย์ เผลอๆ อาจจะโดนข้อหาพยายามฆ่าด้วย เพราะถ้าฉันแพ้ยาตัวนี้ ฉันตายได้เลยนะ"
“ขะ ขอโทษ คุณจะเอาเงินคืนใช่ไหม เดี๋ยวหามาคืนนะ ตอนนี้ฉัน...ใช้หมดแล้ว"
“เฮอะ! เธอนี่มันสมกับเด็กจริงๆ”
“อยะ อย่าแจ้งความเลยนะคะคุณ ฉันไม่อยากติดคุก ตอนนี้เงินที่เอาไปฉันไม่มีแล้ว แต่ฉันจะทำงานนะ หาเงินมาทยอยคืนคุณ”
“ฉันไม่รับ"
“ละ แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงล่ะ”
“….”
“คุณตอบสิ ฉันยอมทำหมดเลยจริงๆ นะ"
“ยอมจริงๆ ใช่ไหม?"
“อื้อ...ยอมจริงๆ ค่ะ”
“เอาไว้ฉันจะให้คำตอบอีกที แล้วจะให้คนของฉันติดต่อไป หวังว่าเธอจะไม่ปฏิเสธนะ”
“ค่ะ"
“ตอนนี้กลับไปได้แล้ว"
“คุณจะไม่แจ้งความใช่ไหม?"
“ก็ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะทำตามข้อตกลงของฉันมั้ย มันขึ้นอยู่กับเธอแล้วล่ะ"
“…..”
หญิงสาวถูกลูกน้องของชายหนุ่มพาออกมา และไปส่งที่หน้ามหาลัยตรงที่เดิม ตอนนี้เริ่มจะค่ำแล้วเธอเดินกลับบ้านตามปกติแต่ยังไม่ทันจะถึงบ้านพวกเพื่อนๆ ก็รีบวิ่งมาดักเอาไว้ด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนก
“อะไรของพวกมึงเนี่ย?!”
“อีญ่า กูมีเรื่องจะบอก เรื่องใหญ่และสำคัญมาก!”
“….” เธอไม่ได้ตกใจอะไร เพราะตอนนี้ไม่มีเรื่องไหนน่าตกใจและน่าเครียดมากกว่าที่เธอกำลังเจออยู่ตอนนี้แล้ว
“คือเรื่องเมื่อคืน..."
“เอาไว้ค่อยคุยได้ไหมวะ ตอนนี้กูเหนื่อยฉิบหาย อยากเข้าบ้านแล้วเนี่ย"
“กูจะบอกว่าลูกค้าเมื่อวานอะ ผิดคน"
“หา??”
“คะ คือลูกค้าที่นัดเมื่อวานอะ ส่งข้อความมาบอกว่าเกิดอุบัติเหตุ เลยมาไม่ได้ พอเช้ามาก็รีบส่งข้อความมาบอก เมื่อวานมึงไปเจอลูกค้าได้ไงวะ"
“ก็มึงบอกตัวสูง ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวนี่"
“ผิดคนจริง แต่ลูกค้าคนนั้นเงินหนักว่ะ”
“อืม...และกูก็กำลังจะติกคุกแล้ว ข้อหาวางยานอนหลับแล้วลักทรพย์ ฮือ...” เธอทำท่าเหมือนจะร้องไห้ แต่ไม่ได้ร้องและไม่มีน้ำตา เธอเข้มแข็งอยู่ไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเจอเรื่องหนักหนาสาหัสแค่ไหนเธอก็ยังเก็บความรู้สึกได้ดีเหมือนเดิม
“อีญ่า..."
“อือ.."
“มันเกิดอะไรขึ้น?” เพื่อนสองคนจ้องหน้าด้วยความตกใจ และเป็นห่วงเพื่อนสนิทมาก
“เขาบอกว่าจะให้กูชดใช้ แล้วจะติดต่อมาอีกทีอะ"
“…."
“สงสัยเราคงต้องเลิกทำงานนี้แล้วจริงๆ ก่อนที่มันจะเดือดร้อนไปมากกว่านี้ พวกมึงเข้าใจไหม”
“อืม...เข้าใจแล้ว"
“กูเข้าบ้านก่อนนะ”
“เออๆ พรุ่งนี้เจอกัน”
สองเดือนต่อมาข้าวฟ่างยืนนิ่งอยู่หน้าบ้าน เพราะจู่ๆ ก็มีรถเข้ามาจอดในบ้านของเธอพร้อมกับขนของลงมาไว้ที่หน้าบ้าน เธอไม่รู้ว่ามันคือของอะไรกล่องอะไรทำไมมันถึงเยอะขนาดนี้ แต่ที่แน่ๆ คือเธอไม่ได้สั่งอย่างแน่นอน“ทั้งหมดหนึ่งแสนสามหมื่นห้าพันบาทครับ”“ดะ เดี๋ยวนะคะ ฉันไม่ได้สั่งนะคะ” และที่ทำให้เธอตกใจไปมากกว่านั้นก็เพราะค่าของที่เอามาส่งนั้นมันแพงแสนแพง เธอยังไม่รู้เลยมันคือของอะไรทำไมถึงได้แพงและเยอะขนาดนี้“อ่าว...แต่ว่า”“พี่สั่งเองครับ” เอ็มเจเดินออกมา และหยิบเช็คให้กับคนส่งของ“ของอะไรอะพี่เอ็ม ทำไมมันเยอะขนาดนี้?” เธอถาม“ของลูกไง”“ของอะไรทำไมมันเยอะ แล้วก็แพงด้วยตั้งเป็นแสน พี่ซื้อมาถมที่ดินเหรอ?”“เปล่า ซื้อของมาเตรียมให้ลูกไง”“พี่เอ็มพี่บ้าไปแล้วหรือไง เรายังไม่รู้เลยนะว่าลูกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แล้วพี่ซื้อมาเยอะขนาดนี้ทำไม เด็กแป๊บๆ ก็โตแล้ว เดี๋ยวก็ต้องเปลี่ยนนะ”“แล้วทำไงอะ พี่ซื้อมาแล้วอะ”“…..” ข้าวฟ่างยืนเท้าเอวมองหน้าเอ็มเจที่กำลังนั่งมองของที่ตัวเองสั่งมา พอถูกภรรยาบ่นเท่านั้นแหละเขาถึงกับไปไม่ถูกเลย"ทำไมพี่ทำอะไรถึงไม่ปรึกษาฉันก่อนล่ะ ของเด็กเราไม่ควรซื้อเยอะเพราะเด็ก
ห้าเดือนถัดมาบริษัทMJ“อึก...” มือหนารีบยกขึ้นปิดปากเพราะกลิ่นกาแฟที่เลขาเอามาให้มันทำให้เขารู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมา ทั้งที่เขาก็กินกาแฟดำทุกๆ เช้าเป็นประจำอยู่แล้วแท้ๆ แต่วันนี้กลับรู้สึกเหม็นขึ้นมาซะได้“ปะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะท่านประธาน กาแฟมันเหม็นเหรอคะ?”“ครับ อึก!”“…..” เลขารีบยกแก้วกาแฟขึ้นดม พร้อมทั้งลองชิมดูว่ามันมีกลิ่นไม่ดีเหมือนกับที่เจ้านายได้กลิ่นหรือเปล่า แต่พอได้ดมและชิมเธอรู้สึกว่านี่มันก็รสชาติของกาแฟทั่วไป ไม่ได้มีกลิ่นเหม็นอะไรเลย “ไม่มีกลิ่นอะไรเลยนะคะ ท่านประธานไม่สบายหรือเปล่าคะ?”“อืม..ช่วงนี้ผมนอนน้อยน่ะ น่าจะเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอล่ะมั้งครับ” เอ็มเจพูดพร้อมกับมือที่คลึงขมับของตัวเองไปด้วย พอเกิดอาการพะอืดพะอมขึ้นมาอาการอื่นๆ มันก็ตามมาด้วยเช่นกัน มันคลุมเครือจนเธอบอกไม่ถูกเลยเหมือนกัน“เดี๋ยวนะคะ อาการแบบนี้เป็นมานานหรือยังคะ?”“พึ่งเป็นนะครับ”“แล้วมีแค่อาหารพะอืดพะอมเหรอคะ?”“อืม...บอกไม่ถูกหรอกครับ พอมันเกิดอาการแล้วมันก็โหวงตรงหน้าอกไปหมด อยากจะอ้วกอยากจะเป็นลมเวียนหัว” ที่พูดออกมาทั้งหมดนี้คืออาการที่เขากำลังเป็นอยู่ตอนนี้จริงๆ แม้กระทั่งจับปากกามือขอ
เวลาต่อมางานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราสมฐานะ มีผู้คนมาร่วมยินดีมากมายแม้กระทั่งนักข่าวก็ยังมาทำข่าวให้กับงานแต่งของข้าวฟ่างและเอ็มเจ เขาดีใจมากที่ได้แต่งงานกับเธอดีใจที่ได้มีวันนี้"ยืนยิ้มแก้มปริเลยนะพี่เอ็ม" ข้าวฟ่างแอบแซว เพราะเธอยังไม่เห็นเขาหุบยิ้มเลย"ก็แหงสิงานแต่งของเราทั้งทีนะ ทำแต่หน้าบึ้งตึงเสียฤกษ์เสียงานพอดี" แม้จะถูกเจ้าสาวของตัวเองพูดแซว แต่เขาก็ไม่ได้ทำหน้าเปลี่ยนไปจากเดิม กลับกันยังยิ้มกว้างมากกว่าเดิมเสียอีกงานแต่งครั้งนี้ได้ส่งการ์ดเชิญไปให้พ่อของเพลงด้วย และเธอก็ได้มาร่วมงานครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ถึงตอนนี้จะไม่ได้มีปัญหาอะไรกันแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครจ้องจะเล่นงานเพลงซะเมื่อไหร่ ทำอะไรกับใครไว้เขาก็รอวันเอาคืนอย่างสาสมนั่นแหละ"ยินดีด้วยนะ อาเองก็เห็นเรามาตั้งแต่เด็กแต่เล็ก โตขึ้นมาก็ขยันทำงานเรียนก็เก่ง อาฝากเราดูแลน้องด้วยนะ รักกันให้นานๆ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน ครอบครัวอยู่ด้วยกันแล้วจะมีกระทบกระทั่งกันไปบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร รับฟังปัญหาของกันและกันและช่วยกันแก้ไข เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง""ครับคุณอา""ขอบคุณค่ะคุณพ่อ""รักกันให้นานๆ แกก็ดูแลน้องให้ดีๆ ล่
ข้าวฟ่าง Talkเวลาต่อมาฉันนั่งเฝ้าพี่เอ็มจนกระทั่งเขาฟื้นขึ้นมา พอหมอมาตรวจและบอกว่าพี่เอ็มไม่มีอะไรแทรกซ้อนฉันก็สบายใจขึ้นเยอะก่อนหน้านั้นหมอบอกว่าพี่เอ็มมีสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าชายนิทราได้ เพราะเสียเลือดไปเยอะ แต่ก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าพี่เอ็มจะหลับไปนานกี่วัน หรืออาจจะเป็นเดือน เพราะแบบนั้นมันเลยทำให้ฉันรู้สึกเป็นกังวลมากกลัวว่าพี่เอ็มจะไม่ฟื้นขึ้นมา"ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนะครับ ต่อจากนี้แค่รักษาแผลให้หายและระวังแผลติดเชื้อเท่านั้นก็พอครับ""ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ""ถ้างั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ พรุ่งนี้เช้าหมอจะมาตรวจอีกครั้ง แต่หากเกิดอะไรขึ้นก็เรียกหมอมาตรวจได้เลยนะครับ""ค่ะ"คุณหมอและพยาบาลเดินออกไป เหลือเพียงฉันกับพี่เอ็มสองคน ตอนนี้ฉันอยากกอดพี่เอ็มมากแต่ก็กลัวว่าจะทำให้เขาเจ็บ"ร้องไห้เหรอเรา ดูสิตาบวมเชียว""ไม่ต้องพูดเลยเพราะพี่นั่นแหละ""พี่ขอโทษ""พี่ไม่ได้ผิดสักหน่อยฉันต่างหากที่ผิด ฉันทำให้พี่ต้องเจ็บตัว ทำให้พี่ต้องเกือบตาย ฉันก็เลยร้องไห้""ทำไมต้องโทษตัวเองด้วย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเราไม่ได้ผิดเลยนะ""ฉันเกือบจะเสียพี่ไปแล้วนะ" คราวนี้ฉันพูดเสียงสั่น มันอยากจะร้องไห้อ
คนตัวเล็กยืนรออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินไม่ห่าง เธอเป็นห่วงคนข้างในมากจนไม่สามารถนั่งรอได้ และเรื่องที่เกิดขึ้นก็ถึงหูของพ่อแม่เอ็มเจและพ่อแม่ของเธอแล้วด้วยตึก ตึก ตึก“ข้าวฟ่างลูกเกิดอะไรขึ้นลูก”“คุณลุงคุณป้า พี่เอ็มฮึก...พี่เอ็มถูกยิงเพราะหนู ฮื่อ...”“ใจเย็นๆ ก่อนนะลูก มันเกิดอะไรขึ้นไหนเล่าให้ป้าฟังหน่อย”“ฮึก...”“ข้าวฟ่างลูก ใจเย็นๆ ก่อน ตอนนี้พี่เอ็มก็ถึงมือของหมอแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้วนะลูก ตั้งสติแล้วบอกแม่หน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงถูกยิงได้”“หนูนัดกับเพื่อนออกไปดื่ม พอจะกลับบ้านพี่เอ็มก็โทรมาพอดี พอพี่เอ็มรู้ก็เลยจะมารับหนูกลับบ้าน แต่ก็ไม่รู้ใครมาจับตัวหนู พี่เอ็มมาช่วยพอดี แล้วพี่เอ็มก็ถูกยิงค่ะ ฮึก...แม่พี่เอ็มจะเป็นอะไรไหมคะคุณแม่”“ไม่หรอกลูก พี่เอ็มจะต้องไม่เป็นอะไรนะ พี่เอ็มต้องปลอดภัย” แม่ของเอ็มเจพูดปลอบใจ“ออกไปคุยกับฉันหน่อย” พ่อของเอ็มเจหันไปพูดกับคนที่พาเอ็มเจมาโรงพยาบาล ก่อนที่จะพากันเดินออกไป“คุณป้าหนูขอโทษฮึก เพราะหนูแท้ๆ พี่เอ็มเลยต้องเป็นแบบหนู ฮื้อ...”“ไม่เป็นอะไรนะลูก อย่าโทษตัวเองเรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกนะลูก พี่เอ็มเขาจะไม่สบายใจเอานะถ้าเ
ข้าวฟ่างนอนร้องไห้อยู่ทั้งคืน เช้ามาตาทั้งสองข้างของเธอมันก็บวมเฉ่งจนเธอไม่กล้าออกไปเจอหน้าใครในบ้าน และเธอก็นอนอยู่ในห้องทั้งวันจนกระทั่งตกช่วงหัวค่ำก็ออกไปนัดเจอกับเพื่อนๆเธอไม่ได้รับสายของเอ็มเจเลย แม้กระทั่งข้อความที่เขาส่งมาเธอก็ไม่คิดที่จะเปิดอ่านความรู้สึกของเธอตอนนี้มันแปลกไปหมด มันบอกไม่ถูกว่าเธอโกรธหรือเกลียดเขา แต่เพราะมันยังมีความรู้สึกดีๆ อยู่มากกว่าเธอถึงได้น้อยใจที่มารู้เรื่องนี้ทีหลัง และน้อยใจที่เอ็มเจทำงานแบบนี้ เธอรู้ดีว่ามันเป็นงานอันตรายที่ต้องเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องทำงานแบบนี้ทั้งที่หุ้นที่บริษัทของเขาแต่ละแห่งก็พอที่จะทำให้เขาอยู่ได้สบายแล้ว"ฟ่างตกลงแกเป็นอะไร นัดพวกฉันออกมาเจอแต่พอมาถึงแล้วแกกลับนั่งดื่มไม่สนใจพวกฉันสองคนเลย สรุปเรียกพวกฉันออกมาทำไม?" อ๊ะอายพูด เพราะปกติจะไม่ได้มีการนัดเจอในช่วงวันธรรมดาแบบนี้ และการที่ข้าวฟ่างจะนัดเจอกับเพื่อนๆ ก็คงจะต้องมีเรื่องทุกข์ใจอย่างแน่นอน"ไม่รู้ดิ ไม่รู้จะเริ่มเล่าจากตรงไหนดี""ทะเลาะกับพี่เอ็มอีกแล้วเหรอ?" เต็มดาวถาม"อืม...""อย่าบอกนะว่าต้นเหตุมันมาจากนางดาราดังนั้นอีกแล้วอ่ะ?!""เป







