หน้าหลัก / วัยรุ่น / เด็กของรามิล / ตอนที่ 4 อดีตหวานปนขม  

แชร์

ตอนที่ 4 อดีตหวานปนขม  

ผู้เขียน: เธียรนรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-03 14:03:02

            “ทะเล” ฉันเดินตามนิดาลงมาจากรถ ทันทีที่เท้าสัมผัสกับผืนทรายยายนิดาก็วิ่งนำคนอื่นด้วยความตื่นเต้น

            “ยายนิดาเดินดี ๆ เดี๋ยวล้ม” ฉันเดินตามบ่นยายนิดาที่วิ่งเล่นเหมือนเด็กน้อย ในมือประคองหมวกกันแดดบนศีรษะหวั่นจะปลิวไปตามสายลมที่พัดพลิ้ว “มาทาครีมกันแดดด้วย”

            “ฉันไม่ชอบอะมันเหนียว”

            “ทา ๆ ไปเถอะ ผิวไหม้ขึ้นมาอย่ามาบ่นนะ” ฉันบีบครีมกันแดดใส่มือก่อนจะเดินตามทาบนผิวแขนของเพื่อนสนิท ให้ตายเถอะขนาดมีแฟนแล้วยังต้องมาให้ฉันตามดูแลอีก

            “พวกเราไปถ่ายรูปตรงนั้นกันไหม” วิชี้ไปทางโขดหินก้อนใหญ่ก่อนพวกเราจะเดินย่ำหาดทรายเพื่อไปถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน

            ฉันเดินเล่นไปตามหาดทรายขาวพลางทอดมองดูพระอาทิตย์ตกที่กำลังจะลาลับของฟ้า สีส้มจากแสงอาทิตย์ส่องกระทบบนผืนน้ำ ฉันถอนหายใจออกมาด้วยความหวั่นวิตก

            ประจำเดือนของฉันไม่มาหลายเดือนแล้วตั้งแต่คืนนั้น แถมฉันยังมีอาการเวียนหัวคลื่นไส้อยู่บ่อย ๆ พอไปถามเภสัชกรที่ร้านขายยาใกล้ ๆ นี้ เขาก็บอกให้ลองตรวจครรภ์เพื่อความแน่ใจเพราะมีโอกาสที่อาจจะติดได้

            ฉันเป็นกังวลมากแถมไม่กล้าหันหน้าไปปรึกษาใครด้วยซ้ำ

           “อึก” ฉันหยุดชะงักกึกเมื่อเดินอยู่ดี ๆ โลกตรงหน้าก็หมุนโคลงเคลงไปมาเสียจนฉันเซ ถุงยาที่ฉันถือมาล่วงลงบนพื้น ร่างกายฉันเบาหวิวราวกับจะล่องลอยจนเรียวขาอ่อนแรงทรุดลงบนพื้นดีที่มีคนมารับไว้ได้ทัน

           “เป็นอะไรไหมครับ” เสียงทุ้มดังอยู่ข้างหลังฉันพยักหน้าแล้วทรงตัวให้ยืนตรง

           “ขอบคุณนะคะ” ฉันยกมือขึ้นนวดขมับเบา ๆ ก่อนจะหันไปขอบคุณคนที่เข้ามาช่วยเอาไว้ “พี่มิล”

           หนุ่มรุ่นพี่ก้มลงเก็บถุงยาที่ล่วงลงบนพื้นก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นว่ามีกล่องหนึ่งโผล่ออกมาจากถุง พี่มิลขมวดคิ้วมุ่ยฉันเลยรีบเข้าไปคว้าของของฉันคืน

           “ขอบคุณนะคะฉันขอตัวก่อน”

           “นั่นมันอะไร” พี่มิลถามตามหลังพร้อมกับเดินมาข้างฉัน ฉันรีบหยุดฝีเท้าลงก่อนจะสูดลมหายใจเข้าอึดใจหนึ่งด้วยความอึดอัด

           “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่มิล มันก็แค่ของใช้ผู้หญิงอะ” ฉันตอบกลับไปโดยที่ไม่กล้าสบสายตาของร่างสูงที่จ้องมองมาอย่างคาดคั้น

            “แต่นั่นมันที่ตรวจครรภ์ไม่ใช่เหรอ” รุ่นพี่หนุ่มยังคงเค้นเอาคำตอบ

            “มีคนเขาฝากซื้ออะค่ะ เดี๋ยวหนูจะเอาไปให้เขาแล้ว” ฉันก้าวเดินออกไปหวังจะเดินจากหาดทรายขึ้นไปบนถนน

           “เพื่อนเธอเหรอ หรือธิดา” แต่ร่างสูงเอาตัวมาขวางเอาไว้เสียก่อน

           “ไม่ใช่ค่ะ แค่คนแถวนี้อะ พี่เลิกเซ้าซี้ฉันสักทีเถอะ” ฉันขึ้นเสียงใส่หนุ่มรุ่นพี่ก่อนจะเดินเบี่ยงออกไปไม่เว้นจังหวะให้ชายหนุ่มได้เดินตาม ฉันแอบชำเลืองกลับมามองพี่มิลที่ยังยืนถอนหายใจอยู่หาดทรายก็โล่งใจที่พี่เขาไม่ได้ตามมา ฉันเลยรีบสับเท้าเดินออกไปทันที

            ในตอนเย็นพวกเรานั่งกินเลี้ยงกันอย่างอิ่มหนำสำราญ ฉันแอบชำเลืองมองพี่มิลบ้างบางครั้ง ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงได้ชอบแอบมองพี่เขาอยู่เรื่อย

             หลังจากที่ทานอะไรเสร็จเรียบร้อยบางคนก็แยกย้ายกันไปเดินเล่น บางคนก็แยกย้ายกันเข้านอน ส่วนฉันกับวิก็ขอตัวกลับมาที่ห้องนอนก่อน

             “แกนอนหรือยัง” ฉันเอ่ยถามวิที่นอนอยู่ข้างกัน ไร้เสียงตอบรับจากคนที่นอนอยู่ฉันเลยค่อย ๆ ย่องออกจากเตียงเบา ๆ เพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วล็อกประตูก่อนจะทำใจอยู่สักพักแล้วหยิบที่ตรวจครรภ์ออกมา

             ฉันยืนอ่านคู่มือวนเป็นสิบ ๆ รอบเพื่อให้แน่ใจ มือไม้ฉันมันสั่นเทาไปหมด เคยได้ยินมาว่าปัสสาวะในตอนเช้าจะแม่นยำที่สุด นี่ก็เที่ยงคืนแล้ว นับเป็นวันใหม่ได้หรือยังนะ

             แต่ช่างมันเถอะตรวจให้มันรู้ ๆ ไปเลย ฉันหวาดวิตกมาเป็นสัปดาห์ แล้ว ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะได้คิดว่าจะทำยังไงต่อ

            ฉันยืนทำใจอยู่สักพักกว่าจะกล้าตรวจได้ แต่พอตรวจแล้วก็ไม่กล้าดูซะนี่

            มือเรียวกำหมัดแน่นก่อนจะเคาะบนอ่างล้างหน้าเบา ๆ ด้วยความประหม่า ผลตรวจก็อยู่ในมือแล้วเหลือแค่ดูเท่านั้นแหละ

            ฉันปิดเปลือกตาก่อนจะชูเครื่องตรวจขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา หัวใจฉันเต้นตุบ ๆ เหมือนจะทะลุออกมาจากอก ฉันค่อย ๆ ทำใจอย่างช้า ๆ แล้วหรี่ดวงตาขึ้นมาดู

            สองขีด...

            ฆ่าฉันให้ตายเลยดีกว่า...

           “ฮือ ๆ ๆ” ฉันกลั้นเสียงสะอื้นไห้ของตัวเองก่อนจะเดินออกมา

จากรีสอร์ตเข้าไปแอบอยู่ในมุมมืดแล้วปล่อยเสียงสะอื้นไห้ออกมาอย่างหนัก ในมือกำผลตรวจแน่นอย่างไม่อาจเชื่อสายตา สองขีด สองขีดจริง ๆ

            ฉันร่ำไห้ออกมาด้วยความสิ้นหวัง จบแล้ว ชีวิตของฉันจบเห่แน่ ฉันต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่อายุสิบเก้าเนี่ยนะ

            เสียงฝีเท้าดังอยู่ใกล้ ๆ ฉันรีบยกมือขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไห้ของตัวเอง

            “มน” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อฉัน ฉันรีบเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยดวงตาที่อาบไปด้วยคราบน้ำตา

            “พี่มิล” ฉันสะอึกก้อนสะอื้นของตัวเองด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นว่าพ่อของลูกในท้องฉันยืนหัวโด่อยู่ตรงหน้า พี่เขามองมาที่ฉันด้วยความตกใจ คงจะอึ้งที่เห็นฉันร้องไห้แถมยังมาแอบร้องไห้อยู่คนเดียวอีกต่างหาก “พี่มิลออกไปก่อนได้ไหมคะ ฉันอยากอยู่คนเดียว”

             “เกิดอะไรขึ้นอะ” พี่มิลย่อตัวลงมานั่งข้าง ๆ ฉันที่นั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นปูน ฉันรีบขยับตัวหนีแต่ก็พลาดท่า พี่มิลรีบคว้าที่ตรวจครรภ์ในมือของฉันไปแล้วก้มมองมันด้วยความตกตะลึง

             “พี่มิลเอาคืนมาค่ะ” เนื้อตัวฉันชาวาบไปหมดเมื่อเห็นว่าหนุ่มรุ่นพี่ตัวแข็งทื่อก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมามองฉันด้วยแววตาที่สั่นไหว

             เขาก็คงจะไม่รับผิดชอบ หรือไม่ก็เอาเงินฝาดหัวไปทำแท้งแน่ ๆ

             “เพราะคืนนั้นใช่ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงสั่นก่อนจะก้มลงมองที่ตำแหน่งท้องของฉัน “เธอท้องจริง ๆ เหรอ”

            “พี่มิลไม่ต้องทำอะไรหรอกค่ะ ฉันจะไปเอาเด็กออก” ฉันรีบลุกขึ้นยืนหวังจะเดินหนีออกไปสงบสติอารมณ์ก่อนเพราะในตอนนี้ฉันแทบจะสติแตกอยู่แล้ว

            “เดี๋ยวมน เดี๋ยว” หนุ่มรุ่นพี่รีบคว้าแขนฉันไว้ “เธอใจเย็น ๆ ก่อนนะ มันต้องมีวิธีที่ดีกว่าทำแท้งสิ”

           “แล้วพี่จะให้ทำยังไง ฉันจะยังเรียนไม่จบเลยนะ ฉันจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงลูกอะ แล้วพี่คิดว่าเราสองคนพร้อมจะเป็นพ่อแม่คนแล้วหรือไง” ฉันสลัดแขนออกจากการเกาะกุมของหนุ่มรุ่นพี่ พี่มิลดูมีท่าทีหวาดวิตกไม่ต่างกัน ใบหน้าหล่อเหลาชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ

           ฉันไม่อยากให้ลูกเกิดมาอยู่ในที่ครอบครัวที่แตกแยกเหมือนฉัน

           “พี่เลี้ยงเอง พี่เรียนจบแล้วเดี๋ยวพี่ทำงานเลี้ยงลูกให้เองนะ เธออย่าเอาลูกออกเลยนะ” ฉันเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ พี่เขาเข้ามากุมมือของฉันไว้พลางพูดร้องขออย่างไม่น่าเชื่อ

           “แล้วอนาคตฉันล่ะพี่ ใครจะมารับผิดชอบอนาคตฉัน” พี่มิลก้มหน้าลงเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ไหล่กว้างของชายหนุ่มสั่นเทา น้ำตาหยดใสไหลออกมาจากดวงตาของหนุ่มรุ่นพี่

            พี่มิลตัดสินใจคุกเข่าลงต่อหน้าฉันจนฉันยืนตัวแข็งทื่อด้วยความตกตะลึง

             “พี่จะดูแลลูก จะดูแลเธอเอง คืนนั้นมันเป็นความผิดของพี่เองที่พี่ไม่ได้ป้องกัน”

             “คืนนั้นพวกเราก็เมากันทั้งคู่อะ”

             “พี่จะตั้งใจทำงานแล้วดูแลลูก ให้เธอได้กลับไปเรียนให้จบ พี่จะเป็นพ่อที่ดี พี่จะไม่ทำให้อนาคตของเธอพัง พี่จะรับผิดชอบทุก ๆ อย่างเองนะมน เธออย่าเอาลูกออกเลยนะพี่ขอร้อง” พี่มิลเอ่ยคำขอร้องทั้งน้ำตา ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยแววตาที่เว้าวอน จนฉันอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาอีกรอบ

              “ฉันจะเชื่อใจพี่ได้ยังไง ใคร ๆ ก็รู้ว่าพี่มันเป็นเสือผู้หญิงอะ”

              “เธอจะให้พี่พิสูจน์ยังไงก็ได้ แต่เธอเก็บลูกไว้เถอะนะ” ฉันยกมือขึ้นปิดปากเพื่อกั้นเสียงร้องไห้ที่ดังระงม ฉันยกมือขึ้นจิกเสื้อตรงหน้าอกเพราะข้างในมันรัดแน่นไปหมดจนฉันแทบจะขาดใจ

              พี่มิลลุกขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้าฉันก่อนที่จะเอื้อมมือมาแตะลงบนศีรษะฉันอย่างช้า ๆ

              “ให้โอกาสพี่นะ พี่ทำงานผ่านโปรของคุณพ่อเมื่อไหร่ พี่จะรับผิดชอบเรื่องเธอทันที” ฉันเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอีกครั้ง ไม่รู้ทำไมในใจฉันมันถึงได้อ่อนยวบเสียจนยอมพยักหน้ารับคำของหนุ่มรุ่นพี่

               พี่มิลดึงตัวฉันเข้าไปสวมกอด ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงความอบอุ่นประหลาดทำให้เนื้อตัวสั่นเทาของฉันมันสงบลงอย่างเหลือเชื่อ

               “ไม่ต้องร้องนะ มันไม่ดีต่อลูก” มือหนาลูบแผ่นหลังของฉันอย่างอ่อนโยน

               “พี่อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใครได้ไหมคะ ฉันยังไม่พร้อมจะบอกใคร” ฉันผละกอดออกมาจากหนุ่มรุ่นพี่ ข้างในฉันมันเต้นรัวซะจนฉันรู้สึกประหม่า

               “อื้อ เธอพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกพี่แล้วกันนะ” พี่มิลก้มหน้าลงมาก่อนจะลูบที่หน้าท้องฉันเบา ๆ “อยู่กับแม่อย่าดื้อนะลูก”

              “พี่มิลคะ ลูกยังไม่ได้ยินหรอกค่ะ” ฉันหลุดหัวเราะออกมาจากการกระทำของชายหนุ่ม

              “พี่อยากคุยกับลูกไว ๆ นี่” พี่มิลกลับมายืนตัวตรงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มอย่างอบอุ่นแบบที่ฉันไม่เคยเห็น

มาก่อนแล้วเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน

              “พี่มิลอยากมีลูกเหรอคะ” ฉันตัดสินใจเอ่ยถามไป

              “อื้อ พี่ตั้งใจไว้ว่าถ้าพี่มีลูกพี่จะตั้งใจเลี้ยงลูกให้ดี... ลูกพี่จะได้ไม่เป็นเหมือนพี่” ดวงตาคมฉายแววประหม่าออกมาก่อนจะหันไปมองทางอื่น

               ฉันว่าฉันน่าจะเข้าใจความรู้สึกนั้นดีเลยล่ะ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เด็กของรามิล   ตอนพิเศษ 2 ครอบครัว

    หลังจากที่ฉันรู้ตัวว่าตัวเองท้องพี่มิลก็ไม่ปล่อยให้ฉันได้ทำงานหนักอีกเลย แถมยังตามใจสุด ๆ ฉันอยากได้อะไร พี่มิลก็จะซื้อให้โดยที่ไม่ต้องขอเลยสักนิด อยากกินอะไรก็ได้กิน จนตอนนี้ฉันมีน้ำมีนวลขึ้นเป็นกอง ไม่เป็นไรลูกคลอดก็คงจะกลับมาเฟิร์มเอง นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ใกล้ถึงวันกำหนดคลอดเต็มที ฉันกับพี่มิลตื่นเต้นเอามาก ๆ ฉันไปอัลตราซาวนด์มา ลูกแข็งแรงมาก แถมยังเป็นเพศชายสมใจอยากอีกต่างหาก “พี่มิลคะ พี่อยากตั้งชื่อลูกว่าอะไรเหรอ” ฉันเอ่ยถามระหว่างที่พี่เขากำลังนั่งลูบท้องของฉันอยู่อย่างอ่อนโยน “พี่อยากให้ลูกชื่อมิ่งขวัญ” พี่มิลพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ทำไมถึงชื่อมิ่งขวัญเหรอคะ” ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “มิ่งขวัญแปลว่าผู้เป็นที่รัก เพราะลูกเกิดจากความรักของเราสองคน และพี่ก็อยากให้ลูกเป็นที่รักของคนอื่น ๆ” ชายหนุ่มโน้มตัวลงมานอนข้าง ๆ กันก่อนจะสวมกอดฉันเอาไว้ “โตมาจะเป็นพวกมากรักเหมือนพ่อไหมเนี่ย” ฉันหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหลับตาลงในอ้อมกอดของคนรัก “แต่เป็นชื่อที่เพราะมากจริง ๆ นะคะ” ในคืนนั้นฉันรู้สึกไม่สบายตั

  • เด็กของรามิล   ตอนพิเศษ 1 ชีวิตสมรส

    หลังจากที่พวกเราแต่งงานกัน เวลาก็ล่วงมาถึงสองปีแล้ว พวกเรายังคงใช้ชีวิตหวานชื่นอย่างที่คู่รักหลังแต่งงานทั่วไปควรจะเป็น เวลาว่างก็พากันไปเที่ยวเล่น เติมความหวานในชีวิตให้แก่กันและกัน จนพวกเราได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะมีลูก ฉันอยากมีลูกมาก ๆ ไม่ต่างจากพี่มิลหรอก ฉันอยากมีลูกชายมาก ส่วนพี่มิลบอกว่าจะลูกสาวหรือลูกชายอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น พวกเราเริ่มปรึกษาหมอเรื่องการมีลูก ซื้อหนังสือมาอ่าน เข้าคอร์ส อบรมมากมายเพื่อเตรียมพร้อม และแน่นอนว่าพี่มิลค่อนข้างจะตื่นเต้นจนฉันรู้ตัวอีกทีพี่เขาก็ซื้อบ้านใหม่เพื่อเตรียมห้องให้เจ้าตัวเล็กถึงสองคน ฉันว่าฉันตื่นเต้นมากแล้วนะ แต่พี่มิลตื่นเต้นมากกว่าฉันซะอีก “พ่อกับแม่อยากมีหลานชายหรือหลานสาวคะ” ฉันเอ่ยถามทั้งแม่และลุงภูมิที่กำลังนั่งนับเงินหลังจากที่ร้านปิด ตอนนี้ฉันเรียกลุงภูมิว่าพ่อได้อย่างสนิทใจแล้ว เพราะลุงภูมินั้นรับฉันเป็นลูกบุญธรรมแบบถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนนามสกุลฉันก็เปลี่ยนมาใช้ของพี่มิลหลังจากที่แต่งงานกัน ไม่ต้องพูดถึงพ่อแท้ ๆ ตั้งแต่ที่ฉันมาอยู่กับแม่ก็ขาด

  • เด็กของรามิล   บทที่ 25 The End

    หลังจากการฝึกงานอันแสนหนักหนาสิ้นสุดลง ฉันก็หมกตัวอยู่กับการทำโพรเจกต์จบจนตัวเองไม่ได้หลับไม่ได้นอน รวมทั้งไม่ได้เจอพี่มิลด้วย พี่มิลน่ารักกับฉันอยู่เสมอ คอยเอาใจใส่แม้ในวันที่ฉันจะยุ่งปางตายก็ตามจนในที่สุดฉันก็เรียนจบได้โดยสวัสดิภาพ ตอนนี้เลยมานอนแนบตักของพี่มิลเพื่อให้คลายเหนื่อยซะหน่อย “เรียนจบแล้ว แต่งงานกันเลยดีไหมคะ” พี่มิลเอ่ยถามพลางลูบหัวของฉันไปพลาง “พี่มิลไม่อยากใช้ชีวิตดูก่อนเหรอคะ พวกเราไปเที่ยวกันเยอะ ๆ พอมีลูกคงจะเหนื่อยน่าดู แล้วก็พวกเราจะได้เตรียมพร้อมเพื่อเป็นพ่อเป็นแม่ที่ดีไงคะ” ฉันพูดทั้งที่ยังหลับตาพริ้มอยู่บนตักของคนพี่ “พี่ก็ว่างั้นแหละ ทำไงได้มีเมียเด็กก็ต้องตามใจ” ฉันฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง “ว่านอนสอนง่ายมากค่ะพี่มิล” เพื่อเป็นรางวัลฉันเลยโน้มใบหน้าเข้าไปหอมแก้มขาวของคนพี่ฟอดหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อจะลุกไปหาอะไรมากิน “วันงานปริญญาของเธอ พี่อาจจะไปไม่ได้นะ” มือที่กำลังจะเอื้อมไปเปิดตู้เย็นถึงกับชะงักทันที วันสำคัญทั้งที่แต่กลับไม่ว่างงั้นเหรอ อยากจะงอนน

  • เด็กของรามิล   บทที่ 24 เลี้ยงส่ง

    “ในที่สุดพวกเราก็ได้มาเลี้ยงส่งให้พวกน้อง ๆ ฝึกงานสักที อ้าว ชน” พวกเราทั้งสี่คนชนแก้วกันบนโต๊ะในร้านของรุ่นพี่ในคณะที่กลุ่มของพี่มิลรู้จักมักคุ้นเลยมักจะพามาสังสรรค์บ่อย ๆ “อันที่จริงก็ไม่อยากให้น้องมนไปเลย พอไปแล้วคงจะเหงาแย่” รุ่นพี่คนหนึ่งทำหน้ามู่ทู่ราวระคนกับเศร้าสร้อย “อย่าเศร้าสิคะ หนูจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ นะ” ฉันว่าด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นดื่ม แน่นอนว่าฉันก็ยังดื่มน้ำหวานอยู่ดี คราวนี้พี่มิลคุมเองทุกแก้วไม่มีสารปนเปื้อนแน่นอน “เออน้องมน ตอนที่เราไปทะเลกันพี่ไม่ค่อยเห็นน้องมนเลย หายไปไหนมาเหรอคะ” แก้วเครื่องดื่มในมือฉันเริ่มสั่นคลอนเพราะใจสั่นที่กระตุกวูบ ฉันเงยหน้าขึ้นมาพลางฝืนยิ้มให้ปกติที่สุด “คือว่า... อ๋อ ๆ มนมีเพื่อนอยู่แถวนั้นพอดีเลยไปหาเพื่อนน่ะค่ะ” ฉันพูดแถไปอย่างนั้นทั้งที่ฉันก็เอาแต่กกตัวอยู่กับพี่มิลในห้องพักนั่นแหละ “ไม่เนียนนะคะลูกสาว” กลายเป็นว่าพวกรุ่นพี่ดันจับพิรุธได้พลางส่งสายตาจับผิดมาทางฉันกันยกใหญ่ “แอบคบกับคนในบริษัทก็บอกค่ะ พวกพี่จะไม่บอกใครสัญญา” ฉันกลืนน้ำลายเอื้อกให

  • เด็กของรามิล   บทที่ 23 แกะของขวัญ NC

    หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อย พี่รดากับพ่อก็ขอตัวเพื่อจะกลับบ้าน ส่วนฉันกับพี่มิลก็กลับมาที่คอนโดฯ ของพี่มิลเหตุผลเพราะพี่มิลรอของขวัญวันเกิดจากฉันอยู่ ระหว่างทางกลับบ้านฉันรู้สึกเสียวสันหลังวาบชอบกลยามที่สายตาของคนพี่จ้องมองมา อย่างคาดหวังเยอะได้ไหมใจคอมันไม่ดี พอมาถึงห้องฉันก็บอกให้พี่มิลรอฉันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นก่อนแล้วขอจัดแจงอะไรสักพัก ฉันรีบมุ่งตรงมาที่ห้องน้ำก่อนที่จะเปิดน้ำในอ่างแช่น้ำอันใหญ่ในห้องน้ำของพี่มิล หลังจากนั้นก็โรยกลีบกุหลายแล้วจุดเทียนเพิ่มบรรยากาศเสียหน่อย “พี่มิลคะพร้อมแล้วค่ะ” ฉันออกมายืนรอหน้าห้องน้ำด้วยชุดคลุมอาบน้ำยิ่งทำให้ชายหนุ่มดวงตาวาววับยิ่งขึ้นไปอีก “จะเล่นอะไรคะเนี่ย” พี่มิลย่างเท้าเดินเข้ามาใกล้ด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์รอยยิ้มบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังชอบใจ “บอกไปก็ไม่เซอร์ไพรส์สิคะ” ฉันว่าก่อนจะดันให้ร่างสูงเข้าไปในห้องน้ำที่ปิดไฟมือสนิทมีเพียงแสงสว่างรำไรจากแท่งเทียนหอมที่ถูกวางไว้แต่ละจุดในห้องน้ำเพื่อสร้างบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก เสียงประตูถูกปิดลงก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิ

  • เด็กของรามิล   บทที่ 22 ของขวัญวันเกิด

    วันนี้เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่ฉันมาทำงานอย่างเช่นปกติ เพียงอีกแค่สามวันเท่านั้นที่ฉันจะฝึกงานจบเสียที มิกซ์กลัวว่าฉันจะโดนคุณวิรชาตามราวีอีก เจ้าตัวแสบเลยจะมารับในตอนเย็น ฉันเลยเดินลงมาเพื่อที่จะมองหาน้องชายของตัวเองจะได้กลับบ้านพร้อมกัน “มน” ฉันหันหน้าไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะเผยรอยยิ้มเมื่อเห็นพี่รดาเดินเข้ามาหา “พี่รดา หายเจ็บแล้วเหรอคะ” ฉันเดินเข้าไปหารุ่นพี่สาวที่กำลังจะเดินสวนทางฉันขึ้นไปยังบริษัท “อื้อ หายแล้ว อันที่จริงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย พี่มิลอะเวอร์” หญิงสาวหัวเราะร่วน “พี่รดาหายเจ็บแล้วหนูก็สบายใจ มิกซ์เป็นห่วงพี่มากนะคะ” พี่รดานิ่งเงียบไปก่อนจะเผยยิ้มขึ้นมาถึงแม้ว่ามันจะดูฝืนไปสักหน่อย “พี่ต้องขอโทษแทนแม่พี่อีกครั้งนะ” หญิงสาวเอื้อมมือมากุมมือของฉันเอาไว้พลางเอ่ยคำขอโทษออกมาด้วยใจจริง “หนูยอมหายโกรธเพราะพี่นะคะ” พี่รดายกยิ้มอย่างโล่งใจ “พรุ่งนี้วันเกิดพี่มิล คุณพ่อพี่อยากเจอเธอนะ” ฉันถึงกับรีบหันขวับไปสบตากับพี่รดาด้วยความตกตะลึง “อะไรนะคะ พ่อพี่มิลอย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status