ด้านเตชินท์ที่พาหลานสาวเข้านอนจนเห็นว่าหลานสาวหลับสนิทแล้ว เขาจึงออกจากห้องของเธอ ทว่าพอเปิดประตูออกมาจากห้องก็เห็นเพื่อนสนิทยืนอยู่หน้าห้อง คิ้วหนาจึงขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจเท่าไหร่ที่เห็นเพื่อนตัวดียังอยู่ เขาจึงถอนหายใจแรงออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนออกไปกึ่งประชด
"มึงยังไม่กลับอีกเหรอวะ"
"กูไปส่งขวัญตาที่คอนโดแล้ว แต่กูไม่สบายใจกูเลยอยากกลับมาเคลียร์กับน้องเซียให้รู้เรื่องก่อน กูโคตรรู้สึกแย่เลยว่ะไอเต น้องเซียจะเกลียดกูจริงไหมวะ กูกลัวว่ะ ถ้าน้องเซียไม่รักกูเหมือนเดิมกูจะทำยังไงดีวะ"
ศิลาพูดร่ายยาวออกมาด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง จนเตชินท์ถึงกับถอนหายใจออกมาอีกครั้งและส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ เขาเองก็ไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไงเหมือนกัน แต่กระนั้นก็ไม่คิดจะช่วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะศิลาทำร้ายหลานสาวสุดที่รักของเขาที่เขาคอยเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่ตะบันหน้าให้ก็นับว่าเขาใจเย็นมากแล้ว
"กูไม่ใช่น้องเซีย มึงมาถามกูแล้วกูจะรู้ไหม ตอนนี้มึงกลับไปก่อนเถอะ น้องเซียหลับไปแล้ว"
"คืนนี้กูว่าจะนอนที่นี่ว่ะ ถ้ายังไม่ได้เคลียร์กับน้องเซียกลับบ้านไปกูคงนอนไม่หลับแน่" ศิลาเอ่ยบอกเพื่อนด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ภายในใจร้อนดังไฟเพราะไม่รู้ว่าเด็กสาวจะยอมให้อภัยเขาหรือเปล่า
"เรื่องของมึง อยากทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าน้องเซียไม่อยากคุยกับมึงอันนี้กูก็ช่วยไม่ได้" พูดจบเตชินท์ก็ยักไหล่ให้เพื่อนอย่างไม่ยี่หระ แล้วเดินเข้าห้องตัวเองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องของหลานสาว
ด้านศิลาพอเห็นว่าเพื่อนเดินเข้าห้องไปแล้ว เขาก็ยืนมองประตูห้องนอนของเด็กสาวอยู่พักใหญ่ก่อนจะตัดใจเดินออกไปนั่งรอเธอที่ห้องรับแขก เพราะถ้าเด็กสาวตื่นแล้วเดินลงไปข้างล่างก็ต้องผ่านห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น เขาจึงเลือกไปนั่งรอเธอที่นั่น
.....
เวลาต่อมา
23:55 น.
"มึงมานั่งทำไรอยู่ตรงนี้ ดึกแล้วไม่ไปนอนในห้องรับรองดีๆวะ" เตชินท์เอ่ยถามเมื่อลงมาข้างล่างแล้วเห็นเพื่อนยังนั่งอยู่ในห้องรับแขก
"กูรอน้องเซีย" ศิลาตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ต่างจากใบหน้า ดูไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ แต่ภายในใจกลับอยู่ไม่สุขคิดไม่ตกกับเรื่องของเด็กสาว
"เฮ้อ~ ก็กูบอกมึงแล้วหนิว่าน้องเซียหลับไปแล้ว มึงจะนั่งรอเพื่ออะไรวะ รอเผื่อว่าน้องเซียจะตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วลงมาข้างล่างอย่างงี้เหรอ" เตชินท์อดไม่ได้ที่จะพูดเหน็บแนมเพื่อนด้วยความเอือมระอาเต็มที แต่ลึกๆก็อดสงสารเพื่อนไม่ได้ที่เป็นเอาหนักขนาดนี้ ถึงขั้นไม่ยอมหลับยอมนอนเพื่อรอเคลียร์กับหลานสาวของเขา
ศิลาไม่ตอบแต่เลือกที่จะลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเตรียมจะเดินออกไปจากห้องรับแขก แต่เตชินท์ก็เอ่ยถามขึ้นมาเสียก่อน
"มึงจะไปไหน"
"ไปนอน" ศิลาเอ่ยตอบแค่นั้น น้ำเสียงและใบหน้ายังคงเรียบนิ่งเช่นเดิม แล้วเดินออกไปทันที ทิ้งให้เพื่อนนั่งงงกับท่าทีนิ่งเฉยของเขา
"อะไรของมันวะ" เตชินท์พึมพำกับตัวเองเบาๆ จากนั้นก็ละความสนใจจากเพื่อนแล้วเดินไปยังห้องครัวเพื่อเอาน้ำดื่มที่เขาตั้งใจลงมาเอาตั้งแต่แรก พอได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็เดินกลับขึ้นห้องไป
เช้าวันต่อมาวันนี้ศิลาตั้งใจจะเคลียร์กับเด็กสาวให้รู้เรื่อง แต่เด็กสาวดันไม่ยอมออกจากห้องเลย เธอเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง โรงเรียนก็ไม่ไป ทว่าด้วยความที่เขามีประชุมใหญ่ช่วงเช้าจึงต้องยอมกลับบ้านไปก่อน แม้จะไม่มีกระจิตกระใจทำงานก็ตาม แต่ด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบเขาจึงเลี่ยงไม่ได้ โดยตั้งใจไว้ว่าถ้าเสร็จงานที่บริษัทแล้วเขาจะกลับมาเคลียร์กับเด็กสาวจริงๆจังๆเสียที เขาไม่อยากให้เรื่องมันค้างคาอยู่แบบนี้ เขาไม่อยากผิดใจกับเด็กสาวนาน เพราะมันทำให้เขารู้สึกทรมานใจอย่างบอกไม่ถูก
ก๊อกๆๆ!
"น้องเซียอาเองครับ ไอศิมันกลับไปแล้วหนูลงไปกินข้าวเถอะ"
ด้านซีเซียที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียงนอนของตังเอง พอได้ยินเสียงเคาะประตูและเสียงคุ้นเคยของคนเป็นอา เธอจึงได้สติและคลานลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้คนเป็นอาทันที
แกรก!
"ไอศิมันกลับไปแล้วครับ น้องเซียลงไปกินข้าวเถอะ คงหิวแย่แล้วใช่ไหมครับ" เมื่อหลานสาวเปิดประตูออกมาเตชินท์ก็พูดกับเธอทันทีด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางยกมือหนาข้างหนึ่งขึ้นมาลูบศรีษะเล็กของหลานสาวเบาๆอย่างเอ็นดู
"อาเตคะ น้องเซียมีเรื่องสำคัญมากจะคุยด้วยค่ะ" ซีเซียไม่ตอบ แต่เลือกที่จะพูดถึงเรื่องสำคัญของเธอขึ้นมาแทน
"สำคัญมากเลยเหรอครับ" เตชินท์เลิกคิ้วขึ้นถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของหลานสาว
"ค่ะ เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ อาเตเข้ามาก่อนสิคะ คุยเสร็จแล้วเดี๋ยวค่อยไปกินข้าวกัน" พูดจบเด็กสาวก็หันหลังให้แล้วเดินไปนั่งตรงโซฟาปลายเตียงนอน เตชินท์จึงเดินตามไปนั่งลงข้างๆหลานสาว จากนั้นซีเซียก็เริ่มพูดถึงเรื่องสำคัญที่เธอว่า.....
.....
อาหลานใช้เวลาคุยเรื่องสำคัญกันอยู่นานพอสมควร เมื่อคุยเรื่องสำคัญกันเสร็จ คนเป็นอาถึงกับต้องหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมา กอดหลานสาวสุดที่รักคนเดียวของตัวเองไว้แน่นจนจมอกแกร่งด้วยความรู้สึกใจหายเมื่อเธอกำลังจะห่างอก เขาเลี้ยงของเขามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เขาทั้งรักทั้งหวงเธอยิ่งกว่าอะไรดี พอรับรู้ว่าหลานสาวกำลังจะไปจากเขา ก็ทำให้เขารู้สึกใจหายและไม่อยากให้เธอไปไหนเลย แต่ด้วยความที่เขารักและตามใจเด็กสาวมาก เขาจึงไม่อยากขัดความตั้งใจของเธอ แม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยก็ตาม โดยที่เด็กสาวก็ไม่ได้บอกว่าจะไปนานแค่ไหน แต่ถึงคันต้องย้ายโรงเรียน เตชินท์ก็ทำใจแล้วว่าต้องไปนานนับปี ซึ่งไม่รู้ว่ากี่ปีเพราะเด็กสาวเองก็ให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้ สุดแล้วแต่ความพอใจของเธอ...
เวลาต่อมา17:05 น.ด้านศิลาที่วันนี้ยุ่งกับงานที่บริษัททั้งวัน พอเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเขาก็รีบร้อนมาหาหลานสาวของเพื่อนทันที แต่เมื่อมาถึงบ้านเพื่อนก็พบว่าภายในบ้านเงียบเชียบกว่าปกติ โดยไร้วี่แววของร่างเล็กอรชรอ้อนแอ้นที่เขาคะนึงหาและอยากเจอทั้งวัน ทว่าตาคมกริบก็พลันหันไปเห็นเพื่อนตัวเองกำลังนั่งดื่มน้ำสีอำพันอยู่ที่โต๊ะบริเวณริมสระว่ายน้ำ เขาจึงไม่รอช้าสองขายาวๆก้าวเดินไปทางเพื่อนทันที"น้องเซียล่ะ หรือว่าอยู่บนห้อง" เมื่อเดินมาถึงศิลาก็เอ่ยถามเตชินท์พลางนั่งลงข้างๆเพื่อน"ไปแล้ว" เตชินท์ตอบแค่นั้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ต่างจากใบหน้า แล้วยกแก้วใบใสที่มีน้ำสีอำพันอยู่ก้นแก้วกระดกดื่มรวดเดียวหมด จนลูกกระเดือกเคลื่อนขึ้นลงยามกลืนน้ำเมาลงคอด้านศิลาที่ได้ยินเช่นนั้น คิ้วหนาก็ขมวดเข้าหากันยุ่ง รู้สึกใจหายกับคำว่าไปแล้วของเพื่อน เขาจึงถามต่อทันทีด้วยน้ำเสียงร้อนรน"ไปแล้ว ไปไหนวะ""น้องเซียย้ายไปอยู่ใต้กับยายเค้าแล้ว" เตชินท์ก็ยังคงตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเช่นเดิม พลางรินน้ำสีอำพันเติมใส่แก้วของตัวเอง แล้วรินใส่แก้วอีกใบไปวางไว้ตรงหน้าเพื่อนศิลาที่ได้ยินเช่นนั้นใจแกร่งก็ก
ด้านเตชินท์ที่พาหลานสาวเข้านอนจนเห็นว่าหลานสาวหลับสนิทแล้ว เขาจึงออกจากห้องของเธอ ทว่าพอเปิดประตูออกมาจากห้องก็เห็นเพื่อนสนิทยืนอยู่หน้าห้อง คิ้วหนาจึงขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจเท่าไหร่ที่เห็นเพื่อนตัวดียังอยู่ เขาจึงถอนหายใจแรงออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนออกไปกึ่งประชด"มึงยังไม่กลับอีกเหรอวะ""กูไปส่งขวัญตาที่คอนโดแล้ว แต่กูไม่สบายใจกูเลยอยากกลับมาเคลียร์กับน้องเซียให้รู้เรื่องก่อน กูโคตรรู้สึกแย่เลยว่ะไอเต น้องเซียจะเกลียดกูจริงไหมวะ กูกลัวว่ะ ถ้าน้องเซียไม่รักกูเหมือนเดิมกูจะทำยังไงดีวะ"ศิลาพูดร่ายยาวออกมาด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง จนเตชินท์ถึงกับถอนหายใจออกมาอีกครั้งและส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ เขาเองก็ไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไงเหมือนกัน แต่กระนั้นก็ไม่คิดจะช่วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะศิลาทำร้ายหลานสาวสุดที่รักของเขาที่เขาคอยเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่ตะบันหน้าให้ก็นับว่าเขาใจเย็นมากแล้ว"กูไม่ใช่น้องเซีย มึงมาถามกูแล้วกูจะรู้ไหม ตอนนี้มึงกลับไปก่อนเถอะ น้องเซียหลับไปแล้ว""คืนนี้กูว่าจะนอนที่นี่ว่ะ ถ้ายังไม่ได้เคลียร์กับน้องเซียกลับบ้านไปกูคงนอนไม่หลับแน่" ศิล
เมื่อซีเซียวิ่งออกมาทางหน้าบ้านก็เห็นคนเป็นอาแท้ๆเดินเข้าบ้านมาพอดี เธอจึงไม่รอช้ารีบวิ่งให้เร็วกว่าเดิม แล้วเข้าไปกอดอาเตของเธอทันทีพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายออกมายกใหญ่"ฮือๆ~ อาเตน้องเซียเจ็บ ฮือๆๆ น้องเซียเจ็บ ฮือๆ~" เธอร้องไห้ฟูมฟายแต่คำเดิมๆประหนึ่งฟ้องคนเป็นอาว่าเธอนั้นเจ็บ โดยที่มือบางข้างหนึ่งกุมแก้มนุ่มข้างที่โดนอีกคนตบ มือบางอีกข้างกอดเอวสอบของคนเป็นอาไว้แน่น ซึ่งความเจ็บที่ใบหน้า เทียบไม่ได้กับความเจ็บที่หัวใจดวงน้อยเลย ตอนนี้มันแตกละเอียดจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว"น้องเซียเจ็บตรงไหน ใครมันกล้ามาทำให้น้องเซียของอาเจ็บบอกอามาครับ หนูไม่ต้องร้องนะเดี๋ยวอาจัดการมันให้เอง" เตชินท์ดันร่างเล็กของหลานสาวออกเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามด้วยความร้อนใจที่ไม่รู้ว่าใครมันมาทำให้หลานสาวคนเดียวของเขาร้องไห้ฟูมฟายหนักขนาดนี้ และยิ่งพอได้เห็นแก้มของหลานสาวแดงก่ำเป็นรอยนิ้วมือชัดเจน เตชินท์ก็โมโหเลือดขึ้นหน้าทันทีแม้จะไม่รู้ว่ารอยฝ่ามือนี้เป็นของใครก็ตาม ทว่าสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนสนิทวิ่งมาทางเขาพอดี เขาจึงเอ่ยถามออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง"ไอศิใครตบหลานกูวะ!""ไอเตกูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ" ปากห
"น้องเซียเป็นอะไร ใครทำอะไรหนูทำไมถึงได้ร้องไห้แบบนี้"ด้านซีเซียเมื่อวิ่งออกมาจากห้องรับแขกก็สวนเข้ากับขวัญตาที่เดินมาทางเธอพอดี ซีเซียจึงหยุดชะงักเมื่อขวัญตาเอ่ยถาม แต่เธอก็เลือกที่จะไม่พูดไม่ตอบอะไรออกไป แล้วเตรียมจะเดินหนีเพราะกลัวอีกคนจะวิ่งตามมาทัน ทว่าก็ไม่ทันที่เธอจะได้เดินไปขวัญตาก็คว้าแขนของเธอเอาไว้เสียก่อนพร้อมกับเอ่ยถามเธออีกครั้งด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง"น้องเซียเป็นอะไร บอกอาขวัญได้นะ""ปล่อย! อย่ามายุ่งกับหนู! เพราะอาขวัญนั่นแหละอาศิถึงไม่รักหนู!" ซีเซียสะบัดแขนออกอย่างแรงแล้วตวาดใส่ขวัญตาเสียงดังอย่างคนพาล ซึ่งการกระทำที่ก้าวร้าวของเธอตกอยู่ในสายตาคมกริบของศิลาที่วิ่งมาทันได้เห็นความก้าวร้าวของเธอเข้าพอดี"ใจเย็นๆก่อนนะ มีอะไรก็ค่อยๆคุยกัน" ขวัญตาพยายามพูดกล่อมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและพยายามคว้าแขนเด็กสาวเอาไว้เพราะอยากให้เธอใจเย็นๆ แม้จะไม่รู้ว่าเด็กสาวเป็นอะไรก็ตามถึงได้ดูโมโหและโกรธเธอมากขนาดนี้ด้านซีเซียตอนนี้หูดับไม่ฟังอะไรทั้งนั้น และด้วยความโมโหบวกกับรำคาญอีกฝ่ายที่เอาแต่จับแขนดึงรั้งเธอไม่ยอมปล่อย เธอจึงสะบัดแขนออกจากมือของขวัญตาอย่างแรงเพี้ยะ!ทว่าซีเซียก็ไม่
ด้านเตชินท์ก็ได้แต่นั่งมองเหตุการณ์ทุกอย่างเงียบๆ เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมา แม้ว่าตัวเขาจะรับรู้ทุกอย่างดีอยู่แก่ใจ รู้แม้กระทั่งเหตุผลที่ศิลาคบกับขวัญตาก็เป็นเพราะหลานสาวของเขา แม้เขาจะเตือนเพื่อนอยู่หลายครั้งว่าให้ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง ไม่ใช่หลอกตัวเองอยู่แบบนี้ แต่ศิลาก็ไม่ฟังยังดื้อดึงเลือกที่จะดึงขวัญตาเข้ามาเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่มีต่อหลานสาวของเขา ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจเพื่อนตัวดีของเขาเลยสักนิดว่าทำไมต้องทำแบบนี้ แค่บอกชอบหลานสาวของเขาไปก็สิ้นเรื่อง อีกอย่างเขาเองก็ไม่ได้ขัดขวางถ้าเพื่อนจะรักจะชอบหลานสาวของเขา ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งไม่เข้าใจในตัวศิลาแถมยังนึกหมั่นไส้อยู่ลึกๆที่เพื่อนตัวดีไม่ชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเองสักที ...ทว่าอยู่ๆโทรศัพท์ของเขาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะกลางโซฟาตรงหน้าเขาก็ดังขึ้น เขาจึงละความสนใจจากเพื่อนสนิทและให้ความสนใจกับโทรศัพท์แทน เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายและคุยได้นิดหน่อย เตชินท์ก็ลุกขึ้นเดินออกไป ในขณะที่คุยโทรศัพท์กับคนปลายสายอยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่ลืมหันมาส่งซิกให้เพื่อนว่าเขาจะออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกด้านศิลาที่เห็นแบบนั้นก็พยักหน้าให้เพื่อนแ
ขณะนี้ภายในรถคันหรูมีแต่ความเงียบ ศิลาที่ลอบมองเด็กสาวทางกระจกมองหลังก็เอ่ยถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่นั่งเหม่อมองข้างทางตลอดเวลา"น้องเซียเป็นอะไรรึเปล่าครับ"ซีเซียที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบนสายตามามองคนตัวโตเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าเบาๆให้แทนคำตอบ แล้วเบนสายตากลับไปมองข้างทางต่อ"หนูเซียอาจจะหิวมั้งคะศิ พึ่งกลับจากโรงเรียนคงยังไม่ได้กินอะไร" ขวัญตาที่นั่งฟังอยู่ตรงเบาะรถฝั่งตรงข้ามคนขับก็เอ่ยพูดกับแฟนหนุ่มก่อนจะชะโงกหน้าไปมองเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้านหลังของเธอ แล้วยิ้มให้เด็กสาวแม้ว่าเด็กสาวจะไม่สนใจเธอเลยก็ตาม"น้องเซียหิวไหมครับ เดี๋ยวอาแวะร้านอาหารแถวนี้ให้" เมื่อแฟนสาวพูดจบศิลาก็เอ่ยถามเด็กสาวทันทีโดยที่ดวงตาคู่คมมองเด็กสาวทางกระจกมองหลังสลับกับมองถนนเบื้องหน้าตลอดเวลา"ไม่ค่ะ" ซีเซียตอบขณะที่ดวงตาคู่สวยยังคงมองเหม่อข้างทางอยู่อย่างนั้น"ถ้าหิวเมื่อไหร่ก็บอกอานะครับ" ศิลาเอ่ยบอกแค่นั้นก่อนจะตั้งใจขับรถต่อ เขาไม่อยากเล้าหลือเด็กสาวไปมากกว่านี้เพราะกลัวเธอจะรำคาญเอา แม้ว่าเขาจะรู้สึกแปลกๆกับพฤติกรรมของเธอตอนนี้ก็ตาม"ค่ะ"สิ้นเสียงตอบรับสั้นๆของเด็กสาวศิลาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เห็นเธอเงียบ