แล้วภีมภพก็เล่าเรื่องงานแต่งงานให้กับคนที่นั่งข้างๆ ฟังแต่ไม่ได้บอกว่ารักแรกของเขาจะมาร่วมงานด้วย ตอนนี้สถานะของเขากับญารินดายังไม่มีอะไรคืบหน้า เขาไม่อยากให้เรื่องในอดีตมีผลกระทบกับเรื่องที่เขาตั้งใจจะทำในอนาคต
“ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไรนี่คะ ไปเถอะค่ะ ไปเจอเพื่อนๆ น่าสนุกดีออกนะคะ”
“กอหญ้าไปด้วยกันไหม”
“ไปได้เหรอคะ แต่กอหญ้าไม่รู้จักใครเลยสักคน”
“ไม่รู้จักที่ไหน พี่ยุ้ยก็ไปนะครับ” เขาหมายถึงแฟนสาวของเพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านคอมพิวเตอร์
“เหรอคะ”
“ว่าไงสนใจไหมล่ะ” ภีมภพคิดว่าจะพาเธอไปด้วยไม่รู้ว่าในสถานะไหน แต่ก็ยังดีกว่าไปคนเดียว อย่างน้อยก็เป็นการปิดโอกาสของปวีรดาไปในตัว
“แต่กอหญ้าไม่มีชุดนะคะ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้น้าพาไปซื้อดีไหม แต่กอหญ้าต้องขอแม่กับน้าพรก่อนนะครับ” เพราะรู้ว่าสองคนนั้นทั้งหวงและห่วงเธอมากแค่ไหน
“ค่ะ แต่ถ้าแม่ไม่ให้ไปล่ะคะ”
“ต้องลองขอดูก่อนสิกอหญ้า” เพราะครั้งนี้งานแต่งค่อนข้างจะจัดใหญ่ เพราะเจ้าบ่าวเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างเจ้าใหญ่ของจังหวัด ถ้าแอบพาญารินดาไปโดยไม่บอก พี่สาวของเขาคงได้รู้จากคนอื่นอย่างแน่นอน
พอกลับมาถึงบ้านญารินดาก็รีบบอกเรื่องนี้กับมารดาและเพียงพอที่กำลังนั่งดูทีวีกันอยู่ที่ห้องรับแขก
“ดีเลยภพ พี่กำลังหาเพื่อนไปงาน เราไปกันทั้งหมดนี่แหละค่ะ น้าวาสด้วยนะคะ”
“น้าขอตัวค่ะคุณพร คุณภพ งานแบบนี้ไม่เหมาะกับน้าหรอกค่ะ”
“แล้วกอหญ้าล่ะ ว่ายังไง”
“หนูแล้วแต่แม่ค่ะ”
“น้าวาสคะ พรอยากให้กอหญ้าไปงานนี้ด้วยเพราะคนมากันเยอะ พรอยากแนะนำให้กอหญ้ารู้จักกับเพื่อนของพร บางคนยังไม่รู้ว่าพรมีหลานสาว และงานนี้ก็มีลูกค้าเจ้าใหญ่ กอหญ้าจะได้ทำความรู้จักไว้”
“ถ้าคุณพรเห็นสมควร น้าก็ไม่ห้าม ว่าแต่กอหญ้ามีชุดที่จะใส่ไปงานหรือยังลูก”
“น้าภพบอกว่าถ้าแม่อนุญาตให้ไป พรุ่งนี้น้าภพจะพาไปซื้อชุดค่ะ”
“เรื่องชุด เดี๋ยวน้าพากอหญ้าไปที่ร้านประจำดีกว่า เพราะน้าเองก็ต้องไปดูชุดที่สั่งตัดไว้ด้วย”
“ดีเหมือนกันนะกอหญ้า น้าไม่ค่อยรู้เรื่องผู้หญิงเท่าไหร่”
“ค่ะน้าภพ”
ภีมภพมองหญิงสาวที่ยืนเคียงข้างพี่สาวของเขาตาไม่กะพริบ เพราะก่อนออกมาจากบ้านชายหนุ่มไม่ได้เจอเธอเลย เพียงพรให้น้องชายล่วงหน้ามาก่อน แล้วเธอกับญารินดาก็ตามมาทีหลัง
วันนี้ญารินดาดูสวยหวานกว่าทุกวัน เธอสวมชุดเดรสสีฟ้าอ่อนเปิดไหล่เพียงเล็กน้อย สวยสมวัย ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเพียงนิด ดวงตากลมโตดูเป็นประกาย เขาเห็นว่าใครหลายคนในงานต่างพากันสนใจเธอเป็นพิเศษไม่รู้เพราะเพียงพรแนะนำว่าเป็นหลานสาวหรือเพราะความสวยของเธอกันแน่
“ภพมีหลานด้วยเหรอคะ วีไม่เห็นรู้มาก่อน” ปวีรดาที่เอาแต่เดินตามเขาไปทั่วทั้งงานถามขึ้น
“ครับ”
ภีมภพพยายามคุยกับเธอให้น้อยที่สุด เรื่องราวระหว่างคนทั้งสองจบลงไม่ดีนัก เธอไม่ค่อยเห็นด้วยในวันที่เขาลาออกจากบริษัททั้งๆ ที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดี ทั้งสองก็ทะเลาะกันอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็เป็นเขาที่ทนไม่ได้ เพราะปวีรดาดูถูกร้าน ดูถูกอาชีพของครอบครัวที่ส่งเสียให้เขาเรียนจนจบ
จากนั้นเขากับเธอก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย แต่ก็พอทราบข่าวของเธอบ้างจากเพื่อนในกลุ่ม การเจอกันวันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้เจอกัน หลังจากเลิกรา
ตลอดเวลาที่อยู่ในงานภีมภพไม่มีโอกาสคุยกับญารินดาเลย เพราะหญิงสาวเดินตามเพียงพรไปทั่วงาน ส่วนเขานั้นก็มีปวีรดาเกาะติดแจ จนกระทั่งถึงเวลากลับ ภีมภพจึงมาดักรอที่ลานจอดรถ
“กอหญ้า น้าพรล่ะครับ”
“น้าพรกำลังตามมาค่ะ” ญารินดามองผู้หญิงที่ยืนเกาะแขนชายหนุ่มอยู่ด้วยสายตาที่อ่านยาก เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แต่ก็ไม่กล้าถาม
“น้ากับเพื่อนจะไปดื่มกันต่อ กอหญ้าไปกับน้าไหมครับ” ภีมภพอยากให้เธอไปรู้จักกับเพื่อนๆ คนอื่น
“ภพค่ะ น้องยังเด็กชวนไปที่แบบนั้นได้ยังไงคะ”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ผมก็ไปด้วย”
“มันจะไม่สนุกเอาสิคะภพ วีไม่อยากให้ภพต้องมาคอยดูแลเด็ก”
“มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณนะวี”
“เกี่ยวสิคะ ก็วีเป็นแฟนคุณ”
ญารินดาตัวชา เธอไม่รู้เรื่องนี้เลย เขาผิดบังเรื่องทั้งหมดได้ยังไงถึง 3 ปี
“พูดให้ถูกนะวี เราเป็นแฟนเก่า แล้วผมก็ไม่นิยมของเก่า”
“ภพยังไม่มีใคร วีก็โสด”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่มีใคร”
ญารินดาอยากจะหายตัวไปตอนนี้ เพราะคำพูดของคนทั้งสองทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนเลยสักนิด
“อย่าหลอกตัวเองเลยภพ วีรู้ว่าคุณยังรักวีอยู่”
“ผมไม่อยากคุยเรื่องนี้อีกแล้ว ถ้าคุณยังอยากเป็นเพื่อนกับผมก็ควรหยุดพูดถึงอดีตนะวี ถ้ายังพูดอีกแม้แต่ความเป็นเพื่อนคุณก็จะไม่ได้จากผม”
ภีมภพพูดกับปวีรดา แต่สายตามองหน้าหลานสาว ถ้ามองไม่ผิดเหมือนว่าญารินดาจะแอบยิ้ม
“กอหญ้าตกลงจะไปกับน้าไหมครับ”
“ไม่ดีกว่าคะ กอหญ้าต้องขับรถให้น้าพร”
“อย่าขับเร็วนะครับ”
“ค่ะน้าภพ แล้วน้าภพจะกลับดึกไหมคะ”
“ไม่ดึกครับคงแวะไปหาเพื่อนไม่นาน คืนนี้น้านอนบ้านใหญ่นะครับกอหญ้าอย่าเพิ่งปิดประตูล่ะ” เพราะบ้านหลังเล็กกำลังปรับปรุงหลายวันมานี้ภีมภพจึงมาใช้ห้องนอนของตัวเองที่อยู่ตรงข้ามห้องของเพียงพร
“น้าพรมาแล้ว กอหญ้าไปก่อนนะคะ”
“ครับ”
“รอน้านานไหมกอหญ้า พอดีน้าเจอทานนายอำเภอเลยคุยนานไปหน่อย” เพียงพรถามหญิงสาวที่เดินมารอที่รถก่อนหน้า
“ไม่ค่ะ”
“เมื่อกี้น้าภพใช่ไหมที่ยืนคุยกับกอหญ้า”
“ค่ะ น้าภพกับผู้หญิงชื่อวีค่ะ”
“อ่อ”
“น้าพรรู้จักเหรอคะ เธอเป็นแฟนน้าภพใช่ไหมคะ”
“แฟนเก่าจ้ะ เลิกกันไปหลายปีแล้ว”
“ดูเหมือนเธออยากคืนดีกับน้าภพนะคะ”
“แล้วน้าภพว่ายังไงล่ะกอหญ้า” เพียงพรรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของน้องชาย
“น้าภพบอกว่าเป็นได้แค่เพื่อน”
“ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ น้าภพของกอหญ้าไม่ใช่คนโง่”
“คุณวีเป็นคนไม่ดีเหรอคะ”
“เธอก็ไม่เลวร้ายอะไรนะ แต่น้าภพไม่ชอบให้ใครมาดูถูกอาชีพและร้านที่พ่อกับแม่สร้างกันมา”
ญารินดาพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมทั้งสองคนถึงเลิกกัน เพราะภีมภพเคยพูดให้ฟังว่าร้านค้าและครอบครัวเป็นทุกอย่างในชีวิต
แม้จะรู้สึกไม่พอใจที่ภีมภพไปเที่ยวต่อกับเพื่อนๆ และแฟนเก่าแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะสถานะของเขากับเธอนั้นยังเป็นน้ากับหลานแม้เธออยากจะเปลี่ยนสถานะแค่ไหนก็ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะ
พอกลับมาถึงบ้านญารินดารีบอาบน้ำจากนั้นก็นอนรอว่าเมื่อไหร่เสียงรถของภีมภพจะเข้ามาสักที รอจนกระทั่งเผลอหลับไปหลายรอบ จนถึงเวลาตีหนึ่ง เสียงรถก็มาหยุดที่หน้าบ้าน เธอเงี่ยหูฟัง อยากจะออกไปดูว่าชายหนุ่มเมามาหรือเปล่า
“ภพขา วีเดินไม่ไหวแล้ว อุ้มวีหน่อยได้ไหมคะ” เสียงผู้หญิงทำให้คนที่กำลังจะเปิดประตูออกจากห้องต้องชะงัก
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าผู้หญิงที่น้าชายพากลับมาด้วยคืนนี้เป็นใคร ความรู้สึกของญารินดาตอนนี้คือมันจุก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ ตอนหัวค่ำอยู่ต่อหน้าเธอเขาพูดอีกอย่าง แต่สุดท้ายก็พาผู้หญิงคนนั้นกลับมาด้วย
สองมือสั่นเทา เธอไม่อยากรู้ว่าสองคนนั้นจะคุยอะไรกันต่อ ญารินดาหยิบหูฟังมาสวมเปิดเพลงให้ดังกลบเสียงรอบข้าง ก่อนจะล้มตัวลงนอน พยายามข่มตาให้หลับ แม้จะยากแต่ญารินดาก็หลับไปพร้อมทั้งคราบน้ำตา
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นที่บ้านของเจ้าบ่าว เพราะด้านหน้าบ้านมีบริเวรกว้างขวาง เพื่อนของญารินดามาร่วมงานกันหลายคน เพื่อนของเธอต่างพากันอิจฉาที่เจ้าบ่าวของเธอนั้นหล่อราวกับเทพบุตรช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นและแห่ขันหมาก ส่วนช่วงเย็นเป็นงานเลี้ยงฉลอง ภีมภพและญารินดายืนต้อนรับแขกด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของคนมีความสุข เขากุมมือเจ้าสาวตลอดงานเพื่อให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาทั้งรักและหวงแหนเธอมากแค่ไหน“ยินดีด้วยนะกอหญ้า” ต้นหลิวกับครอบครัวมาแสดงความยินดีกับเธอด้วย ส่วนต้นโมกนั้นก็ควงคู่มากับเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งตกลงคบหากันได้ไม่นาน“ขอให้มีความสุขมากๆนะกอหญ้า” กัญและทีเจทีก็มาร่วมอวยพรนอกจากนั้นก็มีเพื่อนสมัยเรียนมัธยมที่มาแสดงความยินดีกับเธออีกหลายคน ต่างดีใจที่ญารินดาเป็นเพื่อนคนแรกในกลุ่มที่แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาคู่บ่าวสาวเดินทักทายและกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน จนถึงเวลาสามทุ่มแขกก็เริ่มทยอยกันเดินทางกลับบ้าน ในที่สุดงานแต่งงานก็เสร็จสิ้นลง เมื่อถึงฤกษ์ส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการทั้งหมด“คุณภพ แม่ฝากกอหญ้าด้วยด้วยนะคะ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัย
แล้วก็ถึงวันที่ญารินดาเรียนจบ วาสนาปลื้มใจยิ่งกว่าใครทั้งหมด คุณเพียงพรจัดงานเลี้ยงให้กับกอหญ้าที่ลานหน้าบ้านและชวนคนงานทุกคนให้มาร่วมฉลองความสำเร็จของเธอและเพียงพรก็ได้ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าภีมภพกับญารินดานั้นกำลังคบหากันและจะจัดงานแต่งงานในอีกสองเดือนข้างหน้าตามฤกษ์ที่หลวงพ่อให้มาลูกน้องของภีมภพต่างพากันโห่ร้องแสดงความยินดี ที่เจ้านายของตนจะแต่งงานและจะได้เข้าชมรมกลัวเมียเหมือนกับพวกเขา แต่งานนี้ว่าที่เจ้าบ่าวอย่างภีมภพไม่ค่อยจะดีใจเท่าไร่ เพราะตอนนี้ญารินดาและวาสนาขอกลับไปอยู่ที่บ้านก่อนแล้วหลังแต่งงานค่อยย้ายกลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังใหญ่แม้ว่าจะได้เจอกันทุกวันเพราะญารินดามาทำงานที่ร้าน แต่เขาก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับเธอตามลำพังเลยสักนิด ถ้าจะให้เขารอให้ถึงวันแต่งงานเขาคงได้ขาดใจตายก่อนแน่ๆ ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่ญารินดากลับมาอยู่ที่บ้านของตนเอง ทุกอย่างกำลังลงตัวทั้งเรื่องงานและเรื่องความรัก เธอได้เจอกับภีมภพและได้ทานข้าวกลางวันด้วยกันทุกวัน แต่ชายหนุ่มมักโทรมาโอดครวญอยู่บ่อยๆ ว่าอยากให้เธอไปค้างที่บ้านบ้าง แต่ญารินดาก็เกรงใจมารดา เพราะที่ผ่านมาเธอก็ทำผิดเอาไว้มากหญิงสาวก็เ
ญารินดาตื่นนอนมาด้วยความสดชื่น การได้นอนอยู่ในอ้อมกอดของคนรักมันทำให้เธอหลับฝันดีกว่าคืนไหน แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าคนที่เธอนอนกอดอยู่ทั้งคืนนั้นหายไปไหนตั้งแต่เช้าวันนี้เธอมีเรียนเก้าโมงเช้าจึงคิดว่าจะรีบอาบน้ำแล้วไปหาอะไรทานที่คณะก่อนเข้าเรียน แต่พออาบน้ำเสร็จคนที่คิดถึงก็เดินกลับเข้าห้องมาพอดี “น้าภพไปไหนมาแต่เช้าคะ” “น้าลงไปซื้อโจ๊กมาให้ครับ กอหญ้าจะได้กินก่อนไปเรียน” “ขอบคุณนะคะน้าภพ” “ทำไมทำหน้าซึ้งขนาดนั้นแค่โจ๊กเองนะครับ” “ก็น้าภพดีกับกอหญ้านี่คะ” “แค่นั้นเองเหรอครับ” “กอหญ้าคุยกับแม่แล้วค่ะ ไม่มีดุกอหญ้าเลย เพราะน้าภพช่วยพูดใช่ไหมคะ” “น้าไม่ได้พูดอะไรเลยครับ ก็แค่บอกไปตามความจริงว่าน้ารักและจริงใจกับกอหญ้า” “ตอนแรกกอหญ้านึกว่าแม่จะดุ แต่แม่บอกว่าดีใจที่กอหญ้ามีคนดีๆ อย่างน้าภพคอยดูแลค่ะ กอหญ้ารักน้าภพนะคะ” หญิงสาวกอดคนตัวโตอย่างประจบ “น้าก็รักกอหญ้าครับ รีบกินดีกว่าไหมครับ กินตอนร้อนๆ จะได้อร่อย เดี๋ยวกินเสร็จแล้วน้าไปส่งนะครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ กอหญ้าไปเองได้ค่ะ ใก
ภีมภพเหยียบมิดไมล์ใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงก็มาถึงหอพักของญารินดา เขารีบวิ่งขึ้นไปหาคนรักด้วยความเป็นห่วงไม่ใช่เพราะเรื่องที่เธอเข้าใจผิดแต่เป็นเพราะกลัวว่าอาการปวดท้องของเธอจะเป็นหนัก ญารินดาลุกขึ้นเปิดประตูโดยไม่ได้มองว่าใครมาเคาะเพราะคิดว่าคงจะเป็นต้นหลิวอย่างเคย “กอหญ้า” “น้าภพ” ญารินดาไม่คิดว่าเขาจะมาหาเธอในเวลานี้ เขาน่าจะเอาเวลานี้ไปดูแลลูกและภรรยาของเขาสิมันถึงจะถูกต้อง “ขอน้าเขาไปก่อนได้ไหมกอหญ้า” ภีมภพไม่อยากเพื่อนของเธอมาเจอเพราะกลัวว่าคนรักจะเสียหายที่มีผู้ชายมาหากลางดึก “น้าภพมาทำอะไรที่นี่คะ” “น้าเอายามาให้ครับ” “ขอบคุณนะคะ” ญารินดารีบไว้แล้วทำท่าจะปิดประตู “กอหญ้าคงไม่ไล่น้ากลับใช่ไหมครับ” “กอหญ้าไม่ได้ไล่ค่ะ แต่น้าภพไม่ควรจะอยู่ที่นี่” “เรามีเรื่องต้องคุยกันนะครับ ขอน้าเข้าไปนะครับ” “กอหญ้ามีอะไรจะคุยค่ะ กอหญ้าต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ” “น้าอยากคุยเรื่องเขา ถ้ากอหญ้าจะยืนคุยตรงนี้น้าก็ไม่มีปัญหานะครับ ถ้าเพื่อนกอหญ้ามาเจอน้าก็จะได้บอกเลยว
วันนี้ญารินดาต้องกลับไปเรียนแล้วเธอนัดกับภีมภพไว้เวลาบ่ายสองโมง แต่รอจนกระทั่งสี่โมงเย็นเขาก็ยังไม่มารับ หญิงสาวโทรหาเขาหลายครั้งแต่ก็ติดต่อไม่ได้ มันคงเป็นเธอเองที่คาดหวังกับเขามากจนเกิน คาดหวังว่าเรื่องที่เห็นวันก่อนนั้นจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดแต่เมื่อคิดทบทวนดูแล้วทุกอย่างมันค่อนข้างจะชัดเจนว่าตอนนี้เขากลับไปอยู่กับคนของเขา ในที่ของเขาแล้ว ที่ตรงนี้มันเลยเหลือแค่เพียงเธอคนเดียวญารินดาให้ใบตองขี่จักรยานยนต์ไปส่งเธอที่ท่ารถ พอใบตองถามหญิงสาวก็บอกว่าตนเองมารอต้นหลิว เด็กสาวจึงขี่จักรยานยนต์กลับบ้านโดยไม่ได้ถามอะไรต่อยืนรอไม่นานญารินดาก็ได้ขึ้นมานั่งบนรถตู้มุ่งหน้าสู่เมืองหลวงไปทำหน้าที่ของตนเองอีกหนึ่งเดือนวาสนากับเพียงพรนั่งทานอาหารค่ำด้วยกันสองคนในบ้านหลังใหญ่ ยังทานไปได้ไม่ถึงครึ่งภีมภพก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาเสียก่อน“ไม่ต้องรีบขนาดนั้น น้าวาสเขาเก็บส่วนของภพไว้ให้แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะกินหมดหรอก” เพียงพรรีบบอกน้องชาย“พี่พร น่าวาส กอหญ้าล่ะครับ”“ก็คุณภพไปส่งแล้วไม่ใช่เหรอคะ” วาสนามองอย่างสงสัย“เปล่าครับน้าวาส”“ภพ มันเกิดอะไรขึ้น เราไม่ได้ไปส่งกอหญ้าแล้วน้องกลับยัง
ญารินดายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมหลังจากที่ภีมภพขับรถออกไปแล้ว หญิงสาวไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอกันแน่ ความสุขที่มีมาตลอดสองเดือนพังลงตรงหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอรู้สึกเสียใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเรื่องที่ตัวเองจะมีลูกยากและคิดว่าภีมภพคงจะเข้าใจเธอ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นเลย เพราะลูกของเขากำลังจะคลอด นี่สินะเหตุผลที่เขาไปรับเธอไม่ได้ เธอก็คงเป็นที่ระบายอารมณ์ของเขาในเวลาที่ภรรยาตัวจริงของเขาตั้งครรภ์อยู่ หญิงสาวรวบรวมสติและแรงที่เหลือน้อยนิดเดินไปเรียกรถที่หน้าโรงพยาบาลกลับไปบ้านด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดอย่างที่สุด “กอหญ้า มานั่งก่อน หน้าซีดมาเลยหมอว่ายังไงบ้างลูก” วาสนารีบมาถามอาการด้วยความเป็นห่วง ก่อนหน้านี้ญารินดาบอกว่าเธอแวะหาหมอที่โรงพยาบาลเพราะปวดท้อง “หมอบอกว่ากอหญ้าช็อกโกแลตซีสต์ค่ะ แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ มันไม่ได้ร้ายแรงแค่ทานยาที่คุณหมอให้เท่านั้นเองค่ะ”“แน่นะ ไม่ใช่ว่าเป็นเยอะแล้วโกหกแม่”“ไม่เยอะหรอกค่ะแม่”“ไม่แล้วทำไมกอหญ้าของน้าถึงเหมือนคนร้องไห้ล่ะลูก” เพียงพรที่นั่งสังเกตอยู่อดถามไม่ได้“กอหญ้าร้องไห้ก็เพราะมันปวดท้อง