เสียงนาฬิกาปลุกดังในเวลา 05.30 น. คีรินทร์นายแพทย์หนุ่มวัย 29 ปีกำลังงัวเงียลุกขึ้นจากที่นอนด้วยสภาพอิดโรยเพราะเมื่อคืนกว่าเขาจะเข้านอนก็เกือบจะตีสองเนื่องจากมีเคสของผู้ป่วยที่ต้องศึกษาเพิ่มเติม
เขากำลังเรียนอายุรแพทย์ได้เกือบสามปีและตอนนี้ก็ขอทุนไปไปเรียนต่อเฉพาะทางเกี่ยวกับโรคมะเร็งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้แล้ว
คุณหมอหนุ่มอาบน้ำสระผมเรียกความสดชื่นก่อนจะเดินมาจากห้องนอนบ้านของเขาเป็นบ้านเดียวชั้นเดียวหลังเล็กอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลมากไม่นัก
เมื่อออกมาจากห้องก็รู้สึกว่างเปล่าซึ่งตามปกติแล้วป้าแจ่มแม่บ้านจะต้องเตรียมอาหารเช้าไว้รอแต่ตอนนี้ป้าแจ่มขอลาออกเพื่อกลับไปดูแลหลานที่ต่างจังหวัด
คีรินทร์กำลังหาคนมาทำงานแทนป้าแจ่มแต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะหาใครสักคนที่ไว้ใจได้มาช่วยดูบ้านหลังเล็กๆ และแมวของเขา
ถ้าเป็นคนอื่นการทำความสะอาดบ้านซักผ้ารีดผ้าคงเป็นเรื่องง่ายๆ แต่สำหรับคนที่แทบไม่มีเวลามันก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากตอนนี้เขาเลยอาศัยป้าศรีจันทร์ที่อยู่ข้างบ้านให้มาช่วยทำความสะอาดสัปดาห์ละสองวันระหว่างที่ยังหาแม่บ้านประจำไม่ได้
“ทำไมแม่บ้านเดี๋ยวนี้หายากจังนะ” เขาบ่นก่อนจะหยิบอาหารแช่แข็งในตู้เข้าไมโครเวฟและหยิบกาแฟกระป๋องในตู้เย็นมาดื่ม ระหว่างรอชายหนุ่มนั่งอ่านตำราทางการแพทย์ฆ่าเวลา
พอเสียงเตือนจากไมโครเวฟดังก็เอาอาหารออกมาทานเขามักจะบอกคนไข้อยู่เสมอว่าการทานอาหารสำเร็จรูปไม่ดีต่อสุขภาพแต่สำหรับตนเองแล้วมันก็เลี่ยงไม่ได้เลย เพราะไม่อยากจะไปแย่งกับคนอื่นทานอาหารที่โรงอาหารในเวลาเช้า แต่ครั้นจะทำกับข้าวเองก็ไม่มีเวลามากพอ การไม่มีแม่บ้านอยู่ด้วยแบบนี้คีรินทร์จึงไม่ชอบเลย
เมื่อทานอาหารเสร็จก็เดินมายังมุมหนึ่งของบ้านที่ตอนนี้แมวส้มตัวอ้วนกลมกำลังนอนเล่นอยู่
“ฉันไปทำงานก่อนนะนุ่มนิ่มอย่าซนมากล่ะ แล้วก็อย่ากินเยอะด้วยนะเย็นนี้ฉันจะรีบกลับมาเล่นด้วย” คีรินทร์พูดกับแมวตัวอ้วนที่เก็บมาเลี้ยงเมื่อสองเดือนก่อน
คุณหมอหนุ่มขับรถออกจากบ้านในเวลาเจ็ดโมงจากนั้นก็ใช้เวลาอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดทั้งวัน
“จัดการเรื่องไปเรียนต่อไปถึงไหนแล้วคีย์” ปริณดาหรือหมอน้ำคนรักของหมอคีรินทร์ถามขึ้นระหว่างนั่งทานอาหารกลางวันด้วยกันที่โรงอาหารของโรงพยาบาล
“ใกล้จะเรียบร้อยแล้ว แต่น้ำจะไม่ลองคิดดูหน่อยเหรอเรื่องไปเรียนต่อผมอยากให้น้ำไปด้วยกันนะ” คีรินทร์อยากให้คนรักไปเรียนกับตนเองด้วยเพราะระยะเวลาที่ไปเรียนมันนานถึงสามปีเขาไม่อยากจะห่างกับเธอนานขนาดนั้น
“น้ำต้องดูแลแม่นะคีย์ไม่อยากทิ้งแม่ไปไกล”
“แต่ก็จ้างคนดูแลได้ ผมเองก็จะช่วยดูแลอีกคนก็ได้ถ้าหากน้ำจะไปเรียน” หมอวงศธรที่เป็นเพื่อนสนิทของทั้งสองคนพูดขึ้นมา
“มันก็ไม่เหมือนกับการดูแลเองหรอกนะอาร์ม น้ำคิดว่าเหนื่อยแล้วกับการเรียนจากนี้ขอทำงานดีกว่า ไปเรียนโดยไม่มีทุนค่าใช้จ่ายมันก็สูงมากด้วย แล้วอาร์มล่ะไม่คิดจะเรียนต่อเหรอ”
“ไม่ล่ะตอนนี้ขอทำงานก่อน ส่วนเรื่องเรียนค่อยว่ากันอีกที ฉันว่าจะเรียนต่อระบบทางเดินอาหารน่ะแต่ก็ต้องดูอีกทีว่าถึงตอนนั้นจะยังขยันอยู่ไหม ว่าแต่นายเถอะไปเรียนตั้งไกลไม่คิดถึงน้ำแย่เหรอ”
“มันแน่อยู่แล้วฉันก็ต้องคิดถึงน้ำสิ เราสองคนคบกันมาตั้งหลายปีไม่เคยห่างกันเลย”
“แบบนี้คงคิดถึงแย่ใช่ไหมล่ะ”
“ทำยังไงได้ล่ะ แต่ผมก็อยากไปเรียน”
“คีย์ไปเรียนเถอะนะ ไม่ต้องห่วงหรอกน้ำอยู่ได้”
“ทำไมนายกับน้ำถึงไม่แต่งงานก่อนล่ะ” วงศธรเห็นทั้งสองคนคบกันมานานหลายปีก็อยากเห็นเพื่อนได้แต่งงานกัน
“ฉันคิดเรื่องนั้นเหมือนกัน แต่น้ำน่ะสิอยากรอให้ฉันกลับมาก่อน ฉันอยากจะแต่งงานจดทะเบียนสมรสทำทุกอย่างให้ถูกต้องเวลาไปเรียนที่นั่นจะได้สบายใจ”
“แต่เราอยู่ห่างกันแบบนี้น้ำไม่อยากให้คีย์รู้สึกว่าถูกบังคับหรือมีข้อผูกมัด” ปริณดาเข้าใจดีกว่าการห่างกันนานถึงสามปีนั้นโอกาสที่คีรินทร์จะไปเจอคนอื่นก็มีค่อนข้างมาก
“ผมไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลยนะน้ำ”
“เรื่องแต่งงานน้ำว่าเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน กลับมาเราต้องค่อยคุยกันอีกนะคีย์ก็รู้นี้ว่าตอนนี้น้ำต้องโฟกัสแค่แม่” เพราะมารดาของปริณดากำลังป่วยเป็นอัลไซร์เมอร์เธอจึงอยากอยู่กับมารดาอย่างเต็มที่
“ผมเข้าใจนะน้ำ แต่ก็ไม่อยากจะห่างเลย แล้วก็ต้องขอโทษที่ไม่อยู่ด้วยตอนที่นำกำลังลำบาก ผมเห็นแก่ตัวมากเลยใช่ไหม”
“ไม่หรอก ถ้าคีย์ไม่ยอมไปเรียนน้ำต้องรู้สึกผิดมากๆ แน่”
“นายไม่ต้องห่วงหรอกนะคีย์ ฉันก็อยู่ที่นี่ทั้งคน ฉันจะทำหน้าที่แทนนายเองนะ” วงศธรให้สัญญากับเพื่อน
“ขอบใจนะอาร์ม ถ้ายังไงฉันฝากนายช่วยดูแลน้ำด้วยนะ” คีรินทร์หันมาบอกเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม เขาสองคนมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด กระทั่งเรียนเฉพาะทางก็เลือกเรียนแผนกอายุรกรรมเหมือนกันอีกด้วย
“ไม่ต้องห่วงหรอกคีย์ฉันจะช่วยดูแลแฟนนายให้ก็แล้วกันนะ”
“แล้วนายไม่คิดจะมีแฟนบ้างเหรออาร์มอายุก็เยอะแล้วนะ”
“ฉันยังไม่เจอคนที่ถูกใจ แต่ก็ไม่แน่นะนายไปเรียนตั้งหลายปีกลับมาฉันอาจจะแต่งงานแล้วก็ได้”
“ได้ที่ไหนนายต้องรอฉันมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวสิ”
“ก็นายไปเรียนตั้งหลายปีฉันคงไม่รอหรอกนะถ้าเจอคนที่ถูกใจจริงๆ” เขาพูดแล้วหัวเราะ
“นี่พวกเราพูดเหมือนกับว่าฉันจะไปพรุ่งนี้เลยนะ มันอีกตั้งหลานเดือนเลย”
“ก็วางแผนไว้ก่อนไงล่ะ พอถึงเวลาเกินทางจะได้ไม่ติดขัดอะไร”
“แต่ตอนนี้ฉันมีเองคิดขัดมากกว่าเรื่องไปเรียนอีกนะอาร์ม”
“เรื่องอะไร ฉันช่วยได้ไหม”
“ก็ตอนนี้ฉันยังหาแม่บ้านไม่ได้เลยนะสิ นี่ก็ต้องป้าข้างบ้านมาช่วยทำความสะอาด”
“แล้วทำไมไม่จ้างป้าเขาไปเลยล่ะคีย์”
“ป้าแกแก่แล้วและก็มีหลานสาวที่ต้องดูแลแล้วป้าแกก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินอะไรเลย ที่มาช่วยก็คงเพราะเห็นว่าฉันไม่มีใคร” คีรินทร์อธิบาย
“นายลองติดต่อไปที่บริษัทรับทำความสะอาดสิ เขามีคนมาทำความสะอาดแบบไปเช้าเย็นกลับด้วยนะ”
“ฉันติดต่อไปแล้วแต่ไม่เจอคนที่ถูกใจเลย ฉันอยากได้คนที่ทำอาหารเช้าให้ฉันด้วยนะ ขี้เกียจมาแย่งกับคนอื่นกินที่โรงพยาบาล”
“ก็นายเรื่องมากอย่างนี้ไงถึงหาใครไม่ได้สักที”
“น้ำก็ไม่รู้จะช่วยคีย์ยังไงเหมือนกันนะ นี่ก็ลองถามคนรู้จักแล้วก็ไม่มีใครสนใจเลย จะมีก็แต่ต่างด้าวนะแต่ก็กลัวจะไม่ปลอดภัย”
“ถ้าหาคนไทยไม่ได้ก็คงต้องจ้างต่างด้าวนั่นแหละแต่คงหาบริษัทที่เชื่อถือได้” ชายหนุ่มถอนหายใจ
“ถ้ายังไงฉันจะลองถามคนรู้จักให้นะว่ามีใครสนใจจะเป็นแม่บ้านไหม”
“ขอบใจนะ”
ทั้งสามหมอนั่งทานอาหารกันไม่นานก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง
คีรินทร์อุ้มคนรักเข้ามาในบ้านแต่ยังเดินไม่ถึงห้องนอนเขาก็ไปต่อไม่ไหว เพราะทุกจังหวะที่ก้าวขาท่อนเอ็นร้อนก็ครูดกับร่องสวาทจนหญิงสาวได้แต่ครางหวานเพราะเสียวซ่านเกินกว่าจะทนไหว“หมอคีย์ขา...เฟิร์นเสียว”ชายหนุ่มก็รู้สึกเสียวไม่ต่างจากขวัญนภัสเลย เขาหยุดเดินแล้วดันตัวเธอเข้าผนังเพราะเสียวจนก้าวขาไม่ออก“ผมก็เสียวนะเฟิร์น วันนี้เฟิร์นตอดแรงมากเลยรู้ไหม”“ก็เฟิร์นคิดถึงหมอคีย์”“ยั่วเก่งแบบนี้ผมเอาจนหมดแรงอย่ามาบ่นนะที่รัก”คีรินทร์จับสะโพกกลมกลึงไว้แน่น เขายกขึ้นสูงจนท่อนเอ็นเกือบจะหลุดออกจากร่องรักก่อนจะกดต่ำลงเข้าหาตัวในจังหวะที่สะโพกของเขากระแทกสวนเสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั้งห้องรับแขก เสียงหวานครางรับกับเสียงครางต่ำ“ชอบไหม เฟิร์น...ซี๊ดดด...”“ชะ..ชอบ..... เฟิร์นชอบคะหมอคีย์...มันเสียวมาก”คนถามครางต่ำเพราะมันทั้งลึกและคับแน่น ช่องทางรักของขวัญนภัสตอดรัดเขาอย่างรุนแรง นั่นยิ่งส่งให้ชายหนุ่มกระแทกเข้าแรงยิ่งขึ้นจนหญิงสาวครางลั่นห้องอีกครั้งเธอกระตุกถี่และหอบเหนื่อยจนตัวโยนคีรินทร์วางขาข้างหนึ่งของเธอลงบนพื้น ส่วนอีกข้างเอาพาดไว้ท่อนแขนของตน แล้วส่งตัวตนเข้าหาเธออย่างบ้าคลั่งก่อนจะ
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่คีรินทร์ไม่สามารถติดต่อขวัญนภัสได้ เขาไปดักรอเธอที่หน้าบริษัทแต่ก็ไม่เจอ พอถามเพื่อนร่วมงานจึงรู้ว่าหญิงสาวแอบติดรถออกไปกับเพื่อนคนหนึ่งตอนนี้คีรินทร์ไม่รู้จะทำยังไงให้ขวัญนภัสยอมคุยกับตนเองเขาไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนเธอคนไหนเลยแม้กระทั่งเบอร์โทรของชุติมณฑ์เขาก็ไม่เคยขอไว้ชายหนุ่มได้แต่หวังเพียงว่าระหว่างนี้ขวัญนภัสจะรู้ใจตัวเองและติดต่อกลับมาหาเขาส่วนเรื่องที่มารดาอยากให้แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งนั้นคีรินทร์ปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาดและบอกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการอะไรแบบนั้นเลยเขาอยากมีชีวิตเรียบง่ายมีความสุขอยู่กับคนที่เขารักเขาออกไปทำงานตั้งแต่เช้าพอตกเย็นก็รีบกลับบ้านและหวังว่าเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอคนรักอยู่ในบ้านแต่มันก็ไม่ใช่แบบนั้นคีรินทร์ทำความสะอาดบ้านจนสะอาดทุกซอกทุกมุม เขาทำหน้าที่แทนขวัญนภัสเพราะกลัวว่าถ้าหากเธอกลับมาแล้วเห็นบ้านสกปรกจะทำให้เธอต้องเหนื่อยไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่คิดถึงขวัญนภัสแต่แมวตัวอ้วนก็เหมือนจะเศร้าไปมากเมื่อไม่เจอกับเธอนานนับสัปดาห์“เจ้านุ่มนิ่มทำไมเฟิร์นเขาถึงใจร้ายกับเราจังเลยนะ เมื่อไหร่เธอจะยอมใจอ่อนกับฉันเสียที” คีริ
หมอคีรินทร์กลับมาถึงบ้านในเย็นวันจันทร์เขารู้สึกแปลกใจมากเมื่อเห็นรถยนต์ที่ไม่คุ้นตาจอดอยู่หน้าบ้านเมื่อชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็ต้องตกใจเมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องรับแขก แต่พอเดินไปใกล้ๆ เขาก็คลายความสงสัยเพราะยังคงจำหน้ามารดาของตัวเองได้ แม้จะไม่ติดต่อกันมานานหลายปีก็ตาม“สวัสดีครับ” เขายกมือไหว้ก่อนจะนั่งลงตรงข้าม“มาแล้วเหรอลูก” คุณสุวิมลยิ้มกว้างด้วยความดีใจเพราะเธอรอลูกชายมานานเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว“คุณเข้ามาในนี้ได้ยังไง”“ก็นี่เป็นบ้านของลูกชายแม่ แล้วแม่จะเข้ามามันก็คงไม่แปลกเท่าไหร่”“คุณมีธุระอะไรกับผมเหรอ แล้วเฟิร์นไปไหน” เขาถามด้วยความแปลกใจเพราะปกติทุกครั้งที่กลับเข้ามาในบ้านขวัญนภัสจะต้องรอต้อนรับเขาพร้อมกับเจ้าแมวตัวอ้วน“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเธอไปไหน”“แล้วคุณเข้ามาที่นี่ได้ยังไง”“คีย์ ทำไมต้องเรียกแม่ห่างเหินแบบนั้นล่ะลูก ถึงเราจะไม่ได้ติดต่อกันแต่ความเป็นแม่เป็นลูกก็ยังเหมือนเดิมนะ”“ผมว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว คุณยังไม่บอกผมเลยว่าเข้ามาได้ยังไง” เขาถามย้ำด้วยสีหน้าไม่พอใจ“วันก่อนแม่บังเอิญผ่านมาแถวนี้เลยแวะเข้ามาหา ผู้หญิงคนนั้นก็เลยให้กุญแจบ้านแ
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นหลังจากนั้นไม่นานขวัญนภัสมองหน้าจอเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือคีรินทร์ก็รีบกดรับ“ว่าไงครับเฟิร์นออกจากบ้านหรือยังเดี๋ยวจะตกเครื่องเอานะ” คีรินทร์โทรมาเตือนคนรักและรอคอยที่จะเจอกับเธอในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า“หมอคีย์คะเฟิร์นขอโทษค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยเสียงที่สั่นเพราะตอนนี้ตัดสินใจได้แล้วว่าตนเองจะไม่ไปหาเขาที่เชียงใหม่“เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมน้ำเสียงฟังดูไม่ดีเลยหรือเครื่องมีปัญหา”“คือวันเสาร์ที่บริษัทมีงานด่วนค่ะหมอคีย์ เฟิร์นก็เลยไปหาหมอไม่ได้ขอโทษด้วยนะคะที่ผิดนัด”“งั้นให้ผมจะบินกลับคืนนี้เลยดีมั้ย”“แต่วันจันทร์หมอยังมีงานนี่คะ หมอคีย์อยู่ทำงานต่อนะคะ”“แต่ผมรู้สึกเป็นห่วงเฟิร์นยังไงก็ไม่ รู้น้ำเสียงของเฟิร์นฟังดูไม่ค่อยดีเลยนะ งานมีปัญหาหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ แค่มีงานด่วนเข้ามา เรื่องไปเจอแม่เอาไว้โอกาสหน้าเราค่อยไปหาท่านก็ได้นะคะ”“ไม่เป็นไร ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน เฟิร์นกินอะไรหรือยัง”“ยังเลยค่ะ เฟิร์นว่าจะทำข้าวผัดค่ะง่ายดีและไม่เสียเวลาด้วย”“สั่งเดลิเวอรี่ก็ได้นะ ถ้าไม่อยากทำจะได้ไม่เหนื่อยมาก”“เฟิร์นทำไหว หมอคีย์ก็อย่าลืมทานข้าวด้วยนะคะ”“ผมอย
หมอคีรินทร์เดินทางไปเชียงใหม่ได้สองวันแล้วส่วนขวัญนภัสก็เตรียมตั๋วเครื่องบินและจะเดินทางไปหาเขาในเที่ยวดึกของวันศุกร์ หลังจากเลิกงานเธอจึงรีบตรงกลับมาบ้านทันที แต่เมื่อมาถึงหน้าบ้านก็ต้องแปลกใจเมื่อมีรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน และเมื่อเธอกำลังจะเดินผ่านประตูรถก็เปิดออกมา“นี่ใช่บ้านหมอคีรินทร์ใช่ไหม” ผู้หญิงท่าทางภูมิฐานเปิดประตูออกมาแล้วถามกับขวัญนภัส“ใช่ค่ะ คุณน้ามีธุระอะไรกับหมอคีรินทร์หรือเปล่าคะ พอดีว่าตอนนี้หมอคีย์ไม่อยู่ที่บ้านค่ะ” ขวัญนภัสตอบอย่างสุภาพ เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครแต่ที่รู้คงไม่ใช่เพื่อนของหมอคีรินทร์อย่างแน่นอน“แล้วเธอเป็นอะไรกับลูกชายของฉัน”“ลูกชายของคุณน้าคือหมอคีรินทร์เหรอคะ”“ก็ใช่น่ะสิหมอคีรินทร์คือลูกชายของฉัน แล้วเธอล่ะเป็นใคร” ขวัญนภัสมองหน้าผู้หญิงคนนี้ด้วยแววตาสงสัย คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเพราะหมอคีรินทร์บอกว่าไม่ได้ติดต่อกับมารดามานานแล้ว“สวัสดีค่ะ หนูชื่อเฟิร์นเป็นแฟนหมอคีรินทร์ค่ะ” ขวัญนภัสยกมือไหว้มารดาของคนรักอย่างอ่อนน้อม“แฟนเหรอ ถ้ายังงั้นก็ดีเลยฉันกำลังอยากจะคุยกับเธอพอดี ขอฉันเข้าไปข้างในได้ไหม”“ได้ค่ะคุณน้าเชิญค่ะ” ขวัญนภัสเปิดประต
คีรินทร์มองท่าทางของคนรักแล้วได้แต่ครางอยู่ในลำคอ หญิงสาวมองตาเขาอีกครั้งด้วยสายตาที่ยั่วยวนก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วก้มลงใช้ริมฝีปากสัมผัสส่วนปลายที่ปริ่มน้ำอย่างแผ่วเบา“ซี๊ดดด......เฟิร์น....”เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มขวัญนภัสก็มั่นใจมากขึ้นเธอใช้มือรูดท่อนเอ็นของเขาขึ้นลง ปลายลิ้นเล็กสัมผัสลากไล้ไปทั่วแท่งร้อน กดนวดรอยบุ๋มแล้วตวัดรอบรอยคอดหยักก่อนจะส่งเข้าไปในโพรงปากเล็กจนลึกสุดเท่าที่ตัวเองจะรับไหว“ดีมากเลยเฟิร์นของฉัน เธอเก่งมาก”เสียงเอ่ยชมทำให้หญิงสาวเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น จนชายหนุ่มเสียวซ่านไปทั่วกายแกร่งเขาเอามือมาประคองใบหน้าหวานของขวัญนภัสไว้แล้วยกสะโพกขึ้นสูงส่งแท่งร้อนเข้าออกโพรงปากรัวเร็วตามอารมณ์ดิบเถื่อนจนหญิงสาวแทบสำลัก ตอนนี้คีรินทร์กำลังคุมตัวเองไม่อยู่“ซี๊ด.....เฟิร์นจ๋า เสียวอะไรอย่างนี้ ดีมากมันดีมาก แต่พอก่อนนะผมยังไม่อยากแตกตอนนี้”คีรินทร์รีบดึงความเป็นชายออกจากโพรงปากนุ่ม แล้วรีบพลิกให้ขวัญนภัสนอนราบลงกับเตียง กางขาเธอออกแทรกตัวเข้าไปอยู่กึ่งกลางถูไถท่อนเอ็นร้อนไปบนกลีบกุหลาบและกดย้ำบนเกสรสวาท“อื้อ...หมอคีย์”“พร้อมนะเฟิร์นขอเข้าไปนะ”ชายหนุ่มกดจูบลงบ