Share

บทที่ 6

last update Huling Na-update: 2025-09-20 12:25:27

“งูเหลือมน่ะคุณ และตอนนี้ก็ปล่อยผมได้แล้ว เพราะผมหายใจไม่ออก”

            “ไม่เอาน่ะ ฉันกลัว งูเหลือมเหรอ...” จันทร์ดาราเอนกายออกห่าง แต่ยังไม่ปล่อยมือจากลำคอหนา “นายรู้ได้ไงว่าเป็นงูเหลือม” ก่อนดีดตัวออกไปเสียสองสามก้าว เมื่อเริ่มปะติดปะต่อความคิดของตนได้ “นี่แสดงว่านาย...นายรู้ล่ะสิว่าที่นี่มีงู แล้ว...แล้วนายยังจะพาฉันเข้ามาอีกเหรอ คนบ้า ไอ้บ้า ทำอะไรไม่รู้จักคิด”

            “เฮ้อ...ถามหน่อยเถอะ กะอีแค่คราบงูตัวเดียวที่มันลอกคราบทิ้งเอาไว้ กับไอ้โจรที่มันกำลังตามล่าเราอยู่ คุณกลัวอะไรมากกว่ากัน คุณจะออกไปนอนข้างนอกก็ได้นะ ถ้าคิดว่ามันปลอดภัยกว่านอนในนี้ แต่ผม...จะนอนในนี้ แล้วถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมาล่ะก็ ผมจะไปบอกพ่อคุณว่า ผมมาช่วยคุณไม่ทัน”

            “นาย...ก็ได้ ฉันจะนอนในนี้ แต่นายต้องเอาคราบงูไปทิ้งให้ฉันก่อน”

จันทร์ดาราต่อรอง จะให้เธอออกไปนอนข้างนอกคนเดียวเธอไม่ไปแน่ แต่ถ้ามีเขาไปด้วยล่ะก็ไม่แน่

            ลูกสาวนายพลย่นคิ้วให้กับความรู้สึกของตัวเอง เธอรู้สึกอบอุ่นเวลาที่อยู่ใกล้เขา เธอรู้สึกปลอดภัยเมื่อมีเขาอยู่ใกล้ๆ นี่เธอกำลังเป็นอะไรไปนี่ ยังไม่ทันข้ามวัน เธอกลับรู้สึกดีๆ กับผู้ชายตรงหน้าแล้วเหรอ

            สุริยะไม่ตอบ แต่เดินเข้าไปข้างในสักพัก ก่อนเดินออกมาพร้อมกิ่งไม้ที่มีคราบงูเหลือมพาดอยู่ แค่เพียงเห็นคราบ จันทร์ดาราก็ถอยร่นไม่เป็นขบวนอย่างหวาดกลัว ชายหนุ่มเหวี่ยงคราบงูเหลือมทิ้งลงไปกับสายน้ำตก และส่องไฟฉายในมือไปรอบๆ ถ้ำ เพื่อมองหาสิ่งผิดปกติอื่นที่อาจจะมี ร่างสูงตระหง่านเดินเข้าไปข้างในถ้ำเรื่อยๆ จนแน่ใจว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมใดๆ ที่จะทำให้ผู้หญิงที่ยืนตัวสั่นเพราะเสื้อผ้าที่เปียกชื้น และอากาศภายในถ้ำก็เย็นเฉียบ ต้องร้องกรี๊ดๆ และกระโดดกอดคอเขาจนแทบหายใจหายคอไม่ออก แต่พอนึกถึงร่างนุ่มๆ ที่เบียดกายเข้าหาอย่างหวาดกลัวนั้น มุมปากลึกก็กระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ พลางคิดว่าถ้าจันทร์ดารากอดเขาด้วยความเสน่หาแล้วจะเป็นยังไงหนอ

            “หนาวเหรอ” เขาหันไปถามจันทร์ดารา แล้วได้รับการพยักหน้าตอบรับกลับมา “ถอดเสื้อผ้าออกซะ” เขาสั่งและเริ่มปลดกระดุมเสื้อลายพรางของตนออกบ้าง

            “นะ...นายจะทำอะไรน่ะ”

จันทร์ดาราร้องเสียงหลง เมื่อเห็นเสื้อตัวนอกหลุดออกไปจากลำตัวหนาแกร่ง แต่ก็ยังมีเสื้อยืดสีเขียวที่ฟิตเปรี๊ยะแนบไปกับมัดกล้ามเป็นลอนสวย

            “ผมก็หนาวเหมือนกันน่ะสิคุณ คุณก็ถอดออกซะ ถ้ายังไม่อยากตายเป็นผีเฝ้าถ้ำเพราะเป็นปอดบวมกลางป่านี่ซะก่อน แต่...”

            “แต่อะไร”

            “ผมก็ไม่แน่ใจนะว่า ตอนนี้คุณกำลังเป็นปวดบวมอยู่หรือเปล่า”

ดวงตาคมหลุบลงมองอกอิ่มอวบใหญ่ที่ดันเด่นออกมาอย่างสวยงาม จันทร์ดารามองตามสายตาคู่นั้น แล้วต้องยกมือปิดบังทรวงอกของตนให้พ้นจากสายตากรุ้มกริ่ม

            “ทะลึ่ง ลามก ทำไมคุณพ่อต้องส่งนายให้มาช่วยฉันด้วยก็ไม่รู้ ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงรู้จักที่ต่ำที่สูงมากกว่านาย”

            สุริยะย่างสามขุมเข้าหาร่างบาง มือใหญ่กระชากต้นแขนบอบบางเข้าหา จันทร์ดาราสาบานได้ว่าเธอเห็นดวงตาคมคู่นั้นลุกเป็นไฟ ก่อนจะมลายหายไปต่อหน้าต่อตา หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอเฮื้อกใหญ่ข่มความหวาดกลัวให้อยู่ลึกที่สุด

            “สำหรับผมไม่มีคำว่าที่ต่ำที่สูง ทุกคนยืนอยู่บนพื้นดินเท่าเทียมกันหมด คุณเอาอะไรมาวัดว่าคุณอยู่สูงกว่าผม หรือคิดว่าเป็นลูกนายพล แล้วจะเหยียบหัวใครเล่นก็ได้งั้นเหรอ ฝันไปเถอะ ถึงแม้ท่านนายพลจะเป็นผู้บังคับบัญชาของผม แต่พันตรีสุริยะ สุริโยปกรณ์คนนี้จะไม่มีวันยอมให้ใครเหยียบหัวง่ายๆ โดยไม่คิดโต้ตอบ”

สุริยะกระชากเสียงคำรามใส่ จนร่างบางตัวสั่นงันงกและหลับตาปี๋ เพราะไม่กล้าสบตาคมดุคู่นั้น

            “เอ่อ...ฉัน...คือว่า...”

จันทร์ดาราอยากจะบอกว่าเธอปากเสียไปอย่างงั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นเลย แต่ร่างสูงที่ถอยห่างและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ก็หายไปจากม่านน้ำตกนั้นทำให้เธอได้แต่นิ่งงัน หญิงสาวถอนหายใจออกมาแรงๆ และทรุดตัวลงนั่งกับพื้นที่เย็นเฉียบ เสียงน้ำตกที่ดังสนั่นและความมืดมิดภายในถ้ำ มีเพียงแสงที่ลอดผ่านสายน้ำเข้ามา ด้วยเวลานี้บรรยากาศในป่าเริ่มอึมครึมเพราะดวงอาทิตย์ที่ใกล้จะลาลับขอบฟ้า ทำให้แสงในถ้ำก็เริ่มลดน้อยลงไปด้วย

           

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 104

    “เชิญค่ะ ตามสบาย” “ไม่ทราบว่าเป็นพนักงานใหม่เหรอครับ ผมไม่เคยเห็นหน้า แต่เอ...ไม่ยังรู้ว่าเขารับคนท้องเข้าทำงานด้วย” จันทร์ดาราเกือบหัวเราะ นี่เธอดูเหมือนเป็นพนักงานของที่นี่งั้นเหรอ งั้นก็ฟอร์มทำเป็นพนักงานต่อไปดีกว่า อยากรู้นักว่าผู้ชายตรงหน้าจะมาไม้ไหน “ค่ะ ดิฉันโชคดีค่ะ ที่เอส.เอส.เค.รับเข้าทำงาน ทั้งๆ ที่ท้องแก่” “อ๋อ...ที่บริษัทนี้มีสวัสดิการดีมากเลยครับ สงสัยจะไม่เลือกว่าท้องไม่ท้อง แต่คงเลือกที่ความสามารถมากกว่า” “นั่นสิคะ ดิฉันเองก็ยังงงๆ ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ แล้วทำงานในตำแหน่งอะไร” “ผมชื่อวิสุทธิ์ วิชยะชัยเจริญ ผมเป็นหัวหน้าฝ่ายคิวซีครับ แล้วคุณล่ะชื่ออะไร ทำงานแผนกไหน” จันทร์ดารานิ่งคิดชั่วครู่ จะบอกเขาดีไหมนะว่าเธอเป็นใคร หรือจะปล่อยให้เขาไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ ‘อืม...พี่ยะก็เคยหลอกเรานี่นา อยากรู้จังว่าความรู้สึกหลอกใครบางคนได้นั้น มันเป็นยังไง’ “ดิฉันจันทร์ดารา จักราพิมุขค่ะ ทำงานอยู่...แผนก...เอ่อ...เลขานุการค่ะ” “ห๊า...เลขานุการเหรอ

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 103

    หัวใจของเธอกลั่นกรองความรู้สึกแล้วส่งไปให้ปลายลิ้นและเรียวปาก ซึ่งกำลังมอบความสุขให้คนรักอย่างตั้งใจ ปลายลิ้นสะบัดกวัดไกวประสานงานกับเรียวนิ้วทั้งห้า ร่างกำยำไหวยะเยือกตัวสั่นสะเทิ้ม มือหนากำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน “ที่รักจ๋า พี่...จะขาดใจ...อยู่แล้ว...คนดี” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงขาดห้วง ความสุขกำลังทะยานจนใกล้จะถึงขีดสุด จันทร์ดาราลุกขึ้นนั่งหันหลังบนตักกว้าง ครอบครองแก่นกายที่กำลังสะท้านเจียนขาดใจรอมร่อ เธอเท้ามือยันที่เท้าแขนแล้วเริ่มห่มสะโพกผายขึ้นลง “จำไว้นะคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ราหูก็ต้องอยู่คู่กับพระจันทร์” ร่างสองร่างขยับสอดคล้องกันบนรถวีลแชร์ ความคับแคบหาได้เป็นอุปสรรค ความรักที่บรรจงมอบให้แก่กันและกันจนรุ่มร้อน ไฟรับโอบล้อมรอบกายของทั้งคู่ จนห้องน้ำนั้นร้อนระอุ เสียงครวญครางไม่เป็นประสาดังสอดประสานกัน เหมือนกับดวงใจสองดวงที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน กว่าที่ทั้งคู่จะลงมาจากห้องหอเวลาก็ผ่านไปอีกสองชั่วโมง หม่อมหลวงสุริยะ แสงสุรียกานต์ต้องทำกายภาพบำบัดในโรงพยาบาลต่ออีกสองเดือน กว่าที่เ

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 102

    ร่างหนาโหมสะโพกถาโถมเต็มกำลัง เหมือนเครื่องยนต์ที่เร่งเครื่องเร็วเต็มสปีด เท่าที่พละกำลังทั้งหมดจะเอื้ออำนวย ไฟรักไม่เคยมอดดับตราบใดที่ลมหายใจแห่งรักยังคงดำเนินอยู่ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หัวใจสองดวงก็ยังคงเชื่อมต่อกันอย่างโหยหา สุริยะคำรามลั่นเมื่อถึงวินาทีสุดท้าย หยาดรักชโลมอยู่ภายในความคับแน่น และชายหนุ่มก็ตั้งใจแล้วว่าจะต้องได้ลูกหัวปีท้ายปีให้ได้ เขาอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกตัวน้อยวิ่งเล่นกันเต็มบ้าน เวลาไปไหนมาไหนทีเขาก็จะอุ้มลูกหนึ่งคน จูงหนึ่งคน และให้แม่เขาจูงอีกคนหนึ่ง เท่านั้นแหละครอบครัวที่สุริยะต้องการ “โอย...นี่ขนาดยังบาดเจ็บอยู่ พี่ยะยังมีแรงขนาดนี้เลยเหรอคะ” เสียงหวานของคนในอ้อมกอดสั่นพร่า แต่ดวงตาไหววับล้อเล่นกับแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านม่านลูกไม้โปร่งบาง เธอกับเขายังไม่ได้ลุกขึ้นจากเตียงตั้งแต่ส่งตัวเข้าหอ ป่านนี้คนข้างล่างคงชะเง้อชะแง้รอคอยแล้ว “เรี่ยวแรงพี่ยังคงเหมือนม้าศึกไม่เปลี่ยนหรอกที่รัก ว่าแต่...เราจะต่อกันอีกรอบหนึ่งดีไหม” “ไม่ดีค่ะ ชิ...เห็นหน้าจันทร์เจ้าก็คิดเป็นแต่เรื่องเดียว ลุ

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 101

    ชายหนุ่มหันไปจูบแก้มเนียนนุ่มหนักๆ แล้วทำท่าจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ความรักและความห่วงหาอาทรในยามที่รู้ว่าคนรักกำลังจะมีลูก แต่คนเป็นพ่อกลับทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนแหม็บอยู่บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล แล้วยังครุ่นคิดไปต่างๆ นานา ว่าอาจจะเดินไม่ได้เหมือนปกติ ทำให้เขาอยากลองใจหญิงสาวเล็กๆ น้อยๆ ว่าถ้าเขากลายเป็นคนพิการทั้งหน้าตาและร่างกาย เมียรักจะรับเขาได้ไหมและจะยังรักเขาเหมือนเดิมรึเปล่า “จันทร์เจ้ารังเกียจคนพิการอย่างพี่รึเปล่า” หญิงสาวไม่ตอบ เวลานี้เธออยากใช้ภาษากายบอกเขา ว่าเธอรักและคิดถึงเขามากแค่ไหน คำว่ารังเกียจตัดทิ้งไปได้เลย ไม่ว่าสุริยะจะกลับมาด้วยร่างกายที่ครบ 32 หรือไม่ เธอก็ยังรักเขาไม่เสื่อมคลาย มือบางปลดกระดุมเสื้อสูทสีขาวเช่นเดียวกับชุดเจ้าสาวของเธอจนหมดแถว และช่วยถอดออกจากร่างหนา ไม่สนใจดวงตาคมกริบซึ่งมองใบหน้างดงามของคนตั้งอกตั้งใจปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออก มองการกระทำอันแสนน่ารักซึ่งทำให้ด้วยความเต็มใจ “ที่รัก...ไม่อยากรู้บ้างเหรอว่าพี่ไปเจอกับอะไรมาบ้าง” “อยากรู้ค่ะ แต่อยากรู้เรื่องอื่นก่อน”

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 100

    “โอ๊ย! ปล่อยนะ คุณไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนี้กับฉัน” กลีบปากและจมูกร้อนๆ ซุกไซ้ไปตามลำคอหอมกรุ่ม ไม่สนใจมือบางที่ดันใบหน้าเหวอะหวะเอาไว้แน่น คนตัวโตลืมตัวลืมใจปล่อยให้ความต้องการเข้าครอบงำ ลืมแม้กระทั่งความลับที่ต้องการจะปกปิด แต่คนตัวเล็กนั้นหาได้ลืมตัวไปกับสัมผัสที่คุ้นเคยนั้น จริงสิ...อ้อมกอดแบบนี้ รวมถึงกลิ่นกายที่คุ้นจมูก ทำไมช่างเหมือนกันนัก มือบางลูบไปตามแผลแห้งกรังนั้น รู้สึกแปลกใจว่าทำไมแผลนั้นมันไม่มีเปียกชื้นจากเลือดหรือน้ำเหลือง ทั้งที่มองไกลๆ ก็เหมือนว่ามันเหวอะหวะดูน่ากลัวนัก แต่ทำไม... หม่อมหลวงตะวันชะงักและดันหน้าออกห่างอย่างรวดเร็ว เมื่อสำนึกได้ว่ามือน้อยกำลังสำรวจไปทั่วใบหน้า “อย่า!” เขาลืมตัวร้องห้ามเสียงหลง ทำให้เจ้าสาวหมาดๆ ยิ่งได้ใจ ความรู้สึกบอกเธอว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่อย่างที่เห็น “ทำไมแผลถึงแห้งแบบนี้ ทั้งที่ดูเหมือนมันเปียกแฉะ” มือใหญ่ตะครุบมือบางไม่ให้แตกถูกไรผม แต่ช้าไปเสียแล้ว กลิ่นหอมจากกายอิ่มทำให้สมองของเขาสั่งงานช้าไปกว่าเธอหนึ่งก้าว จันทร์ดา

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 99

    “หม่อมหลวงตะวัน แสงสุรียกานต์เหรอคะ” “สวัสดีครับน้องจันทร์เจ้า วันนี้ดูสวยมากจริงๆ” หม่อมหลวงตะวันแย้มยิ้มในขณะพูด แต่ไม่ว่าเขาจะยิ้มกว้างขนาดไหน ความน่ากลัวบนใบหน้าก็ไม่ได้ลดน้อยถดถอยลง “พูดยังกับเราเคยเจอกันงั้นแหละ” “เราเคยเจอกันแล้ว แต่น้องจันทร์เจ้าคงลืมพี่คนนี้ไปนานแล้ว” “เอ่อ...” คุณหญิงชดช้อยเข้ามาห้ามทับ เพราะถ้าขืนยังพูดคุยกันต่อไปแบบนี้ งานแต่งงานคงไม่ได้เริ่มขึ้นแน่ “แม่ว่าเราควรเริ่มงานได้แล้ว อ้อ...นายอำเภอมาถึงพอดี” “คุณแม่คะ” จันทร์ดาราอยากปฏิเสธงานแต่งงานในครั้งนี้เหลือเกิน เธอไม่เคยคิดรังเกียจคนพิการ แต่ก็ไม่เคยคิดจะมีสามีเป็นคนพิการแบบนี้ ว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นแบบนี้ ไม่งั้นเขาคงไม่เลือกคนท้องอย่างเธอเป็นเมีย นี่คงหมดสมรรถภาพทางเพศด้วยกระมัง ถึงอยากได้คนที่กำลังท้องเป็นเมีย บิดาหันมาส่งตาดุห้ามปรามบุตรสาว เขารู้ดีว่าจันทร์ดารากำลังจะพูดอะไร แต่มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หลานในท้องจะต้องมีพ่อให้เร็วที่สุด เจ้าสาวแสนสวยถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า แล้วก้าว

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status