Share

บทที่ 7

last update Huling Na-update: 2025-09-22 20:27:27

เวลาผ่านไปจากนาทีเป็นร่วมชั่วโมง จันทร์ดาราก็ได้ยินเสียงกร๊อบแกร๊บ ก่อนที่ร่างสูงจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ความดีใจที่เห็นชายหนุ่มทำให้หญิงสาวผุดลุกขึ้นยืนและวิ่งเข้าไปหา

            “นาย...ฉันนึกว่านายจะโกรธจนทิ้งฉันไปแล้ว”

            สุริยะโยนกิ่งไม้แห้งที่ออกไปเก็บและกล้วยเครือเล็กๆ ลงพื้น ความโกรธยังไม่จางหาย แต่หน้าที่ต้องมาก่อน

            “ถ้าผมทิ้งคุณไปจริงๆ คุณจะทำยังไง รู้มั้ยว่าผมอยากทิ้งคุณใจจะขาด”

สุริยะหันมามองตาเขียว และชี้หน้าหวานๆ นั้นอย่างฉุนจัด เกิดมายังไม่มีใครเคยด่าว่าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงมาก่อนเลย แต่ผู้หญิงตรงหน้าที่เพิ่งรู้จักไม่ทันข้ามวัน กลับด่าเขาฉอดๆ

            จันทร์ดาราเสียใจจนน้ำตาคลอเบ้า และปล่อยให้มันไหลลงมาอาบสองแก้ม ร่างบางสะอื้นฮักจนตัวโยน เสียใจที่ดันปากเสียและเสียใจที่เกือบถูกทิ้ง และเหนือกว่าอื่นใดเสียใจที่ได้รู้ว่าคนตรงหน้าอยากทอดทิ้งเธอใจจะขาด

            สุริยะเห็นจันทร์ดาราร้องไห้ก็เงียบกริบ หันไปเปิดกระเป๋าเป้หยิบไฟแช็กออกมาจุด แต่ก็จุดไม่ติดเสียที ชายหนุ่มจึงขว้างทิ้งอย่างไม่ไยดีและเริ่มจุดไฟด้วยมือเปล่า เขาเอาท่อนไม้ใหญ่ตั้งไว้ข้างล่างและนำกิ่งไม้มาหักก้านให้เหลือแต่กิ่งตรงๆ และหนีบกิ่งนั้นไว้กับฝ่ามือให้ด้านล่างแตะกับท่อนไม้ที่วางราบกับพื้นก่อนปั่นไปเรื่อยๆ อาจช้ากว่าการจุดไฟแช็ก แต่ไม่นานนักแรงเสียดสีก็ทำให้เกิดประกายเพลิงขึ้นมา จากนั้นสุริยะก็วางกิ่งไม้แห้งสุมๆ กัน จนกลายเป็นกองไฟ ถ้ำที่มืดสลัวเริ่มสว่างจ้าและอุ่นขึ้นทันที

            “จะยืนร้องไห้อีกนานมั้ย ร้องยังกับมีใครตายซะงั้น พูดแค่นี้ไม่เห็นต้องร้อง ทีคุณยังด่าว่าผมปาวๆ ผมยังทนฟังได้เลย ทำไมผมพูดแค่นี้ถึงทนฟังไม่ได้”

            “ถ้าคุณพ่อไม่ให้นายมาช่วยฉัน นายก็คงไม่มาอยู่แล้วใช่มั้ย”

            “ก็ใช่น่ะสิ คุณเป็นอะไรกับผมล่ะ ผมถึงต้องมาช่วยด้วย แล้วว่าที่ผัวในอนาคตของคุณล่ะไปไหนซะ ทำไมไม่มาช่วยคุณเอง ต้องเดือดร้อนให้ผมมาช่วยแบบนี้”

            “ฉันคงเป็นภาระสำหรับนายมาก นายกลับไปเถอะ ปล่อยให้ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวก็แล้วกัน กลับไปบอกให้คู่หมั้นฉันเป็นคนมาช่วยฉันเอง” จันทร์ดารายังไม่วายประชดประชันเพราะความน้อยใจและเสียใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

            สุริยะไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นพรวดและเดินดุ่มๆ ออกไป ทิ้งจันทร์ดาราให้อยู่ตามลำพังในถ้ำ หญิงสาวมองร่างสูงที่เดินจากไปด้วยสายตาเจ็บปวด ก่อนร้องไห้ออกมาอีกครั้งด้วยความเจ็บใจที่ชายหนุ่มเดินจากเธอไปง่ายๆ แถมไม่คิดจะเหลียวแลเลยแม้แต่น้อย

            เวลาผ่านไปจนพลบค่ำ ข้างนอกนั้นมืดสนิท ความหวาดกลัวทำอะไรไม่ถูกทำให้จันทร์ดาราทิ้งตัวลงนอนข้างกองไฟ สัตว์เลื้อยคลานที่เธอกลัวนักกลัวหนาคงไม่เข้ามาอีก เพราะกองไฟที่สว่างโร่ แต่เธอก็อดหวั่นใจไม่ได้จนต้องขดตัวเข้าหากัน ความเหนื่อยผสมกับความหิวจัดทำให้เธอมองเครือกล้วยที่ถูกทิ้งไว้ และปอกกล้วยเข้าปากไปสามลูก ก่อนจะเอนกายอีกครั้งเมื่อหนังท้องเริ่มตึงขึ้นมาบ้าง และเผลอหลับลงเพราะความเหนื่อยอ่อน

เสียงฝีเท้าในรองเท้าคอมแบ็ตที่ย่องเข้ามาใกล้ แต่เธอก็ยังได้ยินเพราะใบหูแนบกับพื้นดิน หญิงสาวลืมตาขึ้นและทำท่าจะลุกขึ้นหากไม่มีอ้อมแขนที่สวมกอดจากทางด้านหลัง ไออุ่นจากกายหนาที่ส่งผ่านมายังร่างบาง ทำให้เธออบอุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ต้องหันไปมองจันทร์ดาราก็จำกลิ่นกายของเขาได้ ริมฝีปากอิ่มยิ้มพรายอย่างดีใจว่าเขาไม่ได้ทอดทิ้งเธอไปไหน

            “กลับมาทำไมคะ”

เสียงหวานใสที่ถามขึ้นอย่างอ่อนหวาน แถมยังมีคำลงท้ายน่ารัก ทำให้ดวงตาที่กำลังหลับลงต้องลืมขึ้นอีกครั้งและทอดถอนใจยาวอย่างหนักหน่วง

            “ข้างนอกมันหนาว ข้างในนี้อุ่นกว่ากันเยอะ”

            “กอดแน่นขนาดนี้ ไม่อุ่นยังไงไหว”

            สุริยะคลายอ้อมกอดและลุกขึ้นนั่ง ไขว้แขนถอดเสื้อยืดสีเขียวออก การเหวี่ยงตัวเข้าปากถ้ำที่อยู่หลังม่านน้ำตก ทำให้เสื้อผ้าของเขาเปียก จริงอยู่ที่เสื้อยืดผ้าบางแต่มันก็ยังชื้นจนต้องถอดออก มือใหญ่คลำไปทั่วร่างบางและพบว่าเสื้อผ้าของจันทร์ดาราเริ่มหมาดแล้ว แต่ก็ยังชื้นอยู่บ้าง

            “ถอดเถอะ ถ้าไม่ถอดคุณอาจไม่สบายจริงๆ แล้วเราคงต้องติดแหง็กอยู่ในถ้ำนี้ต่อไปอีก”

สุริยะบอก และเป็นฝ่ายปลดกระดมเสื้อเชิ๊ตสีชมพูผูกเอวของจันทร์ดาราออก

            “นาย! ไม่ถอดไม่ได้เหรอ เดี๋ยวมันก็แห้ง”

จันทร์ดาราปฏิเสธ แต่มือหนาซึ่งถูกมือเล็กตะครุบหมับยังคงขยับปลดกระดุมไปเรื่อยๆ

            “ไม่ได้ ถ้าถอดออกแล้วคุณจะอุ่นกว่าใส่เยอะ เชื่อผม”

            จันทร์ดาราอยากดื้อรั้น แต่เธอกลัวเขาจะโกรธและทิ้งเธอไว้อีก มือน้อยจึงผละจากมือใหญ่ เปิดทางให้มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อเธอจนหมดแถว ไม่นานเสื้อตัวสวยก็หลุดออกจากร่าง

            “นายราหู...อย่ามองแบบนั้นสิ ฉันอายนะ”

            “อายทำไม ของสวยๆ งามๆ ของดีมีไว้ให้โชว์ และผมก็อยากมอง อยากสัมผัส” สุริยะพูดเหมือนคนละเมอ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 104

    “เชิญค่ะ ตามสบาย” “ไม่ทราบว่าเป็นพนักงานใหม่เหรอครับ ผมไม่เคยเห็นหน้า แต่เอ...ไม่ยังรู้ว่าเขารับคนท้องเข้าทำงานด้วย” จันทร์ดาราเกือบหัวเราะ นี่เธอดูเหมือนเป็นพนักงานของที่นี่งั้นเหรอ งั้นก็ฟอร์มทำเป็นพนักงานต่อไปดีกว่า อยากรู้นักว่าผู้ชายตรงหน้าจะมาไม้ไหน “ค่ะ ดิฉันโชคดีค่ะ ที่เอส.เอส.เค.รับเข้าทำงาน ทั้งๆ ที่ท้องแก่” “อ๋อ...ที่บริษัทนี้มีสวัสดิการดีมากเลยครับ สงสัยจะไม่เลือกว่าท้องไม่ท้อง แต่คงเลือกที่ความสามารถมากกว่า” “นั่นสิคะ ดิฉันเองก็ยังงงๆ ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ แล้วทำงานในตำแหน่งอะไร” “ผมชื่อวิสุทธิ์ วิชยะชัยเจริญ ผมเป็นหัวหน้าฝ่ายคิวซีครับ แล้วคุณล่ะชื่ออะไร ทำงานแผนกไหน” จันทร์ดารานิ่งคิดชั่วครู่ จะบอกเขาดีไหมนะว่าเธอเป็นใคร หรือจะปล่อยให้เขาไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ ‘อืม...พี่ยะก็เคยหลอกเรานี่นา อยากรู้จังว่าความรู้สึกหลอกใครบางคนได้นั้น มันเป็นยังไง’ “ดิฉันจันทร์ดารา จักราพิมุขค่ะ ทำงานอยู่...แผนก...เอ่อ...เลขานุการค่ะ” “ห๊า...เลขานุการเหรอ

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 103

    หัวใจของเธอกลั่นกรองความรู้สึกแล้วส่งไปให้ปลายลิ้นและเรียวปาก ซึ่งกำลังมอบความสุขให้คนรักอย่างตั้งใจ ปลายลิ้นสะบัดกวัดไกวประสานงานกับเรียวนิ้วทั้งห้า ร่างกำยำไหวยะเยือกตัวสั่นสะเทิ้ม มือหนากำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน “ที่รักจ๋า พี่...จะขาดใจ...อยู่แล้ว...คนดี” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงขาดห้วง ความสุขกำลังทะยานจนใกล้จะถึงขีดสุด จันทร์ดาราลุกขึ้นนั่งหันหลังบนตักกว้าง ครอบครองแก่นกายที่กำลังสะท้านเจียนขาดใจรอมร่อ เธอเท้ามือยันที่เท้าแขนแล้วเริ่มห่มสะโพกผายขึ้นลง “จำไว้นะคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ราหูก็ต้องอยู่คู่กับพระจันทร์” ร่างสองร่างขยับสอดคล้องกันบนรถวีลแชร์ ความคับแคบหาได้เป็นอุปสรรค ความรักที่บรรจงมอบให้แก่กันและกันจนรุ่มร้อน ไฟรับโอบล้อมรอบกายของทั้งคู่ จนห้องน้ำนั้นร้อนระอุ เสียงครวญครางไม่เป็นประสาดังสอดประสานกัน เหมือนกับดวงใจสองดวงที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน กว่าที่ทั้งคู่จะลงมาจากห้องหอเวลาก็ผ่านไปอีกสองชั่วโมง หม่อมหลวงสุริยะ แสงสุรียกานต์ต้องทำกายภาพบำบัดในโรงพยาบาลต่ออีกสองเดือน กว่าที่เ

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 102

    ร่างหนาโหมสะโพกถาโถมเต็มกำลัง เหมือนเครื่องยนต์ที่เร่งเครื่องเร็วเต็มสปีด เท่าที่พละกำลังทั้งหมดจะเอื้ออำนวย ไฟรักไม่เคยมอดดับตราบใดที่ลมหายใจแห่งรักยังคงดำเนินอยู่ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หัวใจสองดวงก็ยังคงเชื่อมต่อกันอย่างโหยหา สุริยะคำรามลั่นเมื่อถึงวินาทีสุดท้าย หยาดรักชโลมอยู่ภายในความคับแน่น และชายหนุ่มก็ตั้งใจแล้วว่าจะต้องได้ลูกหัวปีท้ายปีให้ได้ เขาอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกตัวน้อยวิ่งเล่นกันเต็มบ้าน เวลาไปไหนมาไหนทีเขาก็จะอุ้มลูกหนึ่งคน จูงหนึ่งคน และให้แม่เขาจูงอีกคนหนึ่ง เท่านั้นแหละครอบครัวที่สุริยะต้องการ “โอย...นี่ขนาดยังบาดเจ็บอยู่ พี่ยะยังมีแรงขนาดนี้เลยเหรอคะ” เสียงหวานของคนในอ้อมกอดสั่นพร่า แต่ดวงตาไหววับล้อเล่นกับแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านม่านลูกไม้โปร่งบาง เธอกับเขายังไม่ได้ลุกขึ้นจากเตียงตั้งแต่ส่งตัวเข้าหอ ป่านนี้คนข้างล่างคงชะเง้อชะแง้รอคอยแล้ว “เรี่ยวแรงพี่ยังคงเหมือนม้าศึกไม่เปลี่ยนหรอกที่รัก ว่าแต่...เราจะต่อกันอีกรอบหนึ่งดีไหม” “ไม่ดีค่ะ ชิ...เห็นหน้าจันทร์เจ้าก็คิดเป็นแต่เรื่องเดียว ลุ

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 101

    ชายหนุ่มหันไปจูบแก้มเนียนนุ่มหนักๆ แล้วทำท่าจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ความรักและความห่วงหาอาทรในยามที่รู้ว่าคนรักกำลังจะมีลูก แต่คนเป็นพ่อกลับทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนแหม็บอยู่บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล แล้วยังครุ่นคิดไปต่างๆ นานา ว่าอาจจะเดินไม่ได้เหมือนปกติ ทำให้เขาอยากลองใจหญิงสาวเล็กๆ น้อยๆ ว่าถ้าเขากลายเป็นคนพิการทั้งหน้าตาและร่างกาย เมียรักจะรับเขาได้ไหมและจะยังรักเขาเหมือนเดิมรึเปล่า “จันทร์เจ้ารังเกียจคนพิการอย่างพี่รึเปล่า” หญิงสาวไม่ตอบ เวลานี้เธออยากใช้ภาษากายบอกเขา ว่าเธอรักและคิดถึงเขามากแค่ไหน คำว่ารังเกียจตัดทิ้งไปได้เลย ไม่ว่าสุริยะจะกลับมาด้วยร่างกายที่ครบ 32 หรือไม่ เธอก็ยังรักเขาไม่เสื่อมคลาย มือบางปลดกระดุมเสื้อสูทสีขาวเช่นเดียวกับชุดเจ้าสาวของเธอจนหมดแถว และช่วยถอดออกจากร่างหนา ไม่สนใจดวงตาคมกริบซึ่งมองใบหน้างดงามของคนตั้งอกตั้งใจปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออก มองการกระทำอันแสนน่ารักซึ่งทำให้ด้วยความเต็มใจ “ที่รัก...ไม่อยากรู้บ้างเหรอว่าพี่ไปเจอกับอะไรมาบ้าง” “อยากรู้ค่ะ แต่อยากรู้เรื่องอื่นก่อน”

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 100

    “โอ๊ย! ปล่อยนะ คุณไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนี้กับฉัน” กลีบปากและจมูกร้อนๆ ซุกไซ้ไปตามลำคอหอมกรุ่ม ไม่สนใจมือบางที่ดันใบหน้าเหวอะหวะเอาไว้แน่น คนตัวโตลืมตัวลืมใจปล่อยให้ความต้องการเข้าครอบงำ ลืมแม้กระทั่งความลับที่ต้องการจะปกปิด แต่คนตัวเล็กนั้นหาได้ลืมตัวไปกับสัมผัสที่คุ้นเคยนั้น จริงสิ...อ้อมกอดแบบนี้ รวมถึงกลิ่นกายที่คุ้นจมูก ทำไมช่างเหมือนกันนัก มือบางลูบไปตามแผลแห้งกรังนั้น รู้สึกแปลกใจว่าทำไมแผลนั้นมันไม่มีเปียกชื้นจากเลือดหรือน้ำเหลือง ทั้งที่มองไกลๆ ก็เหมือนว่ามันเหวอะหวะดูน่ากลัวนัก แต่ทำไม... หม่อมหลวงตะวันชะงักและดันหน้าออกห่างอย่างรวดเร็ว เมื่อสำนึกได้ว่ามือน้อยกำลังสำรวจไปทั่วใบหน้า “อย่า!” เขาลืมตัวร้องห้ามเสียงหลง ทำให้เจ้าสาวหมาดๆ ยิ่งได้ใจ ความรู้สึกบอกเธอว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่อย่างที่เห็น “ทำไมแผลถึงแห้งแบบนี้ ทั้งที่ดูเหมือนมันเปียกแฉะ” มือใหญ่ตะครุบมือบางไม่ให้แตกถูกไรผม แต่ช้าไปเสียแล้ว กลิ่นหอมจากกายอิ่มทำให้สมองของเขาสั่งงานช้าไปกว่าเธอหนึ่งก้าว จันทร์ดา

  • เถื่อนปรารถนา   บทที่ 99

    “หม่อมหลวงตะวัน แสงสุรียกานต์เหรอคะ” “สวัสดีครับน้องจันทร์เจ้า วันนี้ดูสวยมากจริงๆ” หม่อมหลวงตะวันแย้มยิ้มในขณะพูด แต่ไม่ว่าเขาจะยิ้มกว้างขนาดไหน ความน่ากลัวบนใบหน้าก็ไม่ได้ลดน้อยถดถอยลง “พูดยังกับเราเคยเจอกันงั้นแหละ” “เราเคยเจอกันแล้ว แต่น้องจันทร์เจ้าคงลืมพี่คนนี้ไปนานแล้ว” “เอ่อ...” คุณหญิงชดช้อยเข้ามาห้ามทับ เพราะถ้าขืนยังพูดคุยกันต่อไปแบบนี้ งานแต่งงานคงไม่ได้เริ่มขึ้นแน่ “แม่ว่าเราควรเริ่มงานได้แล้ว อ้อ...นายอำเภอมาถึงพอดี” “คุณแม่คะ” จันทร์ดาราอยากปฏิเสธงานแต่งงานในครั้งนี้เหลือเกิน เธอไม่เคยคิดรังเกียจคนพิการ แต่ก็ไม่เคยคิดจะมีสามีเป็นคนพิการแบบนี้ ว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นแบบนี้ ไม่งั้นเขาคงไม่เลือกคนท้องอย่างเธอเป็นเมีย นี่คงหมดสมรรถภาพทางเพศด้วยกระมัง ถึงอยากได้คนที่กำลังท้องเป็นเมีย บิดาหันมาส่งตาดุห้ามปรามบุตรสาว เขารู้ดีว่าจันทร์ดารากำลังจะพูดอะไร แต่มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หลานในท้องจะต้องมีพ่อให้เร็วที่สุด เจ้าสาวแสนสวยถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า แล้วก้าว

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status