ธรรศธรออกมาจากบ้านของพิมพ์มาดาด้วยหัวใจที่หนักอึ่ง นี่หรือเปล่าอาการของคนอกหัก ชายหนุ่มยิ้มให้กับตัวเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาสู้เพื่อที่จะให้พิมพ์มาดามองเห็นความรักที่เขามีต่อเธอ และวันนี้คำตอบมันชัดเจนแล้ว ความรักก็เป็นแบบนี้แหละ เมื่อสมหวังก็ต้องมีผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดา ชายหนุ่มส่ายศรีษะเบาๆ เพื่อไล่ความคิด พร้อมกลับหักพวงมาลัยรถออกนอกเส้นทางที่ตั้งใจจะกลับบ้านในตอนแรก เขาอยากหาที่นั่งใช้ความคิดสักพัก และเพื่อนที่ดีที่สุดก็คือเหล้านั่นเอง
ชายหนุ่มหมุนพวงมาลัยรถเข้ามายังร้านประจำของเขากับเพื่อนๆ เป็นผับขนาดเล็กที่มีทุกอย่างพร้อมทั้งอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสาวๆ ไว้คลายเครียดหากลูกค้าคนไหนต้องการ หาที่จอดรถได้แล้ว ชายหนุ่มเดินเข้าไปด้านในตาคมเข้มมองหาที่นั่ง โต๊ะที่ธรรศธรเลือกเป็นมุมที่ค่อนข้างมืดแต่สามารถมองเห็นบรรยากาศได้ทั่วทั้งร้าน ชายหนุ่มสั่งเครื่องดื่มที่ต้องการ และนั่งทอดอารมณ์ฟังเพลงไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นมีสาวๆ ส่งสายตาเชิญชวนมาไม่ขาด หรือบางคนก็แวะเวียนมาหาเขาถึงโต๊ะ เพราะหน้าตาที่หล่อเข้มของเขาจึงเป็นที่สะดุดตากับสาวๆ ที่พบเห็น ถึงแม้สายตาจะดูเย็นชาไปบ้าง แต่นั่นยิ่งส่งผลให้เขาน่าค้นหาและท้าทายยิ่งขึ้น
ชายหญิงคู่หนึ่งเดินคลอเคลียกันเข้ามาในร้าน และเลือกนั่งโต๊ะที่ตรงข้ามกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาของผู้มาใหม่ธรรศธรคุ้นหน้าเป็นอย่างดี เพราะใบหน้านี้ไม่ใช่หรือที่ทำให้เขาต้องมานั่งระบายอารมณ์อยู่ตรงนี้ คนที่เป็นศัตรูหัวใจกับเขาเสมอมา พุฒิพัฒน์ กิตติไพศาล ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่เป็นถึงรองประธานของกิตติกรุ๊ปเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ที่มีทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดหรูเกือบทุกๆ โครงการของประเทศ ธรรศธรสาดเหล้าลงคอ เขามีอาการหงุดหงิดเมื่อได้พบเจอกับ พุฒิพัฒน์โดยบังเอิญ สายตาของธรรศธรมองเลยไปยังสาวสวย ที่มากับชายหนุ่ม ผู้หญิงคนนี้สวยจัด ใบหน้ารูปไข่ที่ประกอบไปด้วยคิ้วโกงสวย ดวงตากลมโตที่กรีดอายไลเนอร์เพื่อให้ดูคมขึ้นกว่าเดิม จมูกโด่งสวยที่ตรงปรายเชิดรั้นขึ้นนิดๆ ที่เขาไม่แน่ใจว่าผ่านมีดหมอมาแล้วกี่ครั้ง ริมฝีปากอิ่มสวยที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสด เส้นผมดำสลวยที่ยาวลงไปถึงกลางหลัง ใบหน้าสวยนี้ดูจะโดดเด่นจบกลบรัศมีสาวๆ ที่อยู่ในผับแห่งนี้จนหมด ธรรศธรหัวเราะในลำคอ เมื่อนึกถึงคำพูดของคุณหญิงอรสา
"ตาพุฒิเค้าชอบคนสวย"คงจริงเพราะเธอคนนี้สวยจัด สวยเหมือนผ่านมีดหมอมาแล้วทั้งตัว ธรรศธรนึกสยองตามความคิดตัวเอง นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้นายไม่ใยดีพิมพ์มาดาสินะ ใครๆ ก็ชอบของสวยงามทั้งนั้น แก้วเหล้าในมือถูกสาดลงคออีกหลายต่อหลายแก้ว แต่ไม่ทำให้ธรรศธรถึงกับเมามาย ชายหนุ่มหยิบมือถือเครื่องบางราคาสูงของตัวเอง มากดบันทึกภาพทั้งสองคนไว้ โดยที่ทั้งสองไม่มีโอกาสรู้เลยว่ามีสายตาที่มองมาอย่างโกรธแค้น ถ้าสายตาของธรรศธรเป็นไฟ ร่างของสองคนนี้คงไหม้เป็นจุลไปแล้ว
พุฒิพัฒน์และมณีรินทร์เลือกมาร้านนี้เพราะบรรยากาศดี แขกที่มานั่งฟังเพลงส่วนมากจะเป็นวัยทำงาน ผับนี้ต่างจากผับทั่วๆ ไปคือเน้นความสะดวกให้ลูกค้า และมีมุมต้อนรับลูกค้าหลายๆ แบบ โต๊ะที่ทั้งสองเลือกนั่งเป็นโต๊ะที่เป็นรูปครึ่งวงกลม มีเก้าอี้ยาวเพียงตัวเดียว ทั้งสองจึงนั่งกันอย่างแนบชิด พุฒิพัฒน์ใช้เวลาง้อมณีรินทร์อยู่หลายวันกว่าหญิงสาวจะใจอ่อน คราวนี้มณีรินทร์โกรธเขาจริงๆ ยามที่เธอเอาจริง พุฒิพัฒน์ก็เริ่มหวั่นในใจ
"ผมดีใจมากนะที่มายด์หายโกรธ แล้วยอมออกมาพบผม"เป็นพุฒิพัฒน์ที่ชวนพูดคุยหลังจากทั้งสองได้เครื่องดื่มที่ตัวเองต้องการแล้ว คำพูดของชายหนุ่มส่งผลให้ได้รับค้อนวงโตเป็นคำตอบ มณีรินทร์ยังนิ่งเฉย
"ไม่เอานะมายด์ เราดีกันแล้วนี่น่า"ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปโอบรอบไหล่บอบบาง
"พุฒิคะคุณจะทำตามที่คุณสัญญาได้เหรอคะ คุณจะปฏิเสธพ่อแม่คุณได้เหรอ ที่ฉันออกมาก็เพราะอยากได้ยินคำยืนยันจากคุณ"มณีรินทร์เริ่มต้นด้วยการถามคำถามที่พุฒิพัฒน์ เอ่ยรับปากสัญญากับเธอไว้ก่อนจะออกมาพบกัน
"มายด์สิครับ เวลามายด์โกรธทีไร ชอบพูดจากห่างเหินจนผมใจคอไม่ดีแล้วนะ"พุฒิพัฒน์เริ่มออดอ้อน
"บอกตรงๆ นะคะว่าฉัน เออ มายด์ ไม่แน่ใจเลยคะว่าคุณจะทำอย่างที่รับปากไว้ได้"
"ผมจะพูดกับคุณพ่อคุณแม่เรื่องของเรา ผมจะไม่หมั้นไม่แต่งกับใครทั้งนั้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ยอม เราหนีไปอยู่อเมริกากันนะครับ ว่าแต่มายด์จะทนลำบากกับผมได้ไหม"พุฒิพัฒน์เอ่ยถามคนรัก ส่งผลให้ใบหน้าสวยยิ้มหวานด้วยความยินดี
"พุฒิคะต่อให้มายด์ต้องกัดก้อนเกลือกิน หรือให้มายด์ไปบุกป่าที่ไหน ถ้ามีคุณอยู่ข้างๆ ลำบากแค่ไหน มายด์ก็ไม่กลัวค่ะ"ตอบพร้อมรอยยิ้มหวานหยดจนเกิดรอยบุ๋มกดลงที่แก้มข้างซ้ายคำตอบของหญิงสาวคือคำยืนยันว่าเธอรักเขามากแค่ไหน พุฒิพัฒน์โอบกอดเธอไว้แนบอก เรียวแขนเสลาของเธอโอบกอดชายคนรักแนบแน่นด้วยเช่นกัน เพราะอยู่ในสถานที่แบบนี้ทั้งสองคนจึงปล่อยตัวปล่อยใจไปตามความต้องการของกันและกัน
พุฒิพัฒน์แน่ใจแล้วว่าเขารักมณีรินทร์มากแค่ไหน คำพูดว่าจะพาเธอไปลำบาก ทั้งสองคนห่างไกลจากคำนั้นมากมาย ด้วยฐานะทางครอบครัว และความรู้ที่สองคนมี ต่อให้พุฒิพัฒน์โดนตัดออกจากกองมรดก เขาก็สามารถเลี้ยงดูมณีรินทร์ได้อย่างสบายๆ การกระทำของทั้งสองคนนั้น อยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามทั้งหมด ภาพถ่ายทุกการกระทำถูกบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือเขามากมาย นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกชายโฉด หญิงชั่ว ถึงแม้ทั้งสองคนจะเป็นคนรักกัน แต่การกระทำที่ทั้งสองแสดงออกมาส่งผลกระทบกับจิตใจของพิมพ์มาดา ธรรศธรก็ยกให้เป็นการกระทำที่ชั่วช้า ดวงตาคมเข้มจับจ้องใบหน้าสวยในโทรศัพท์มือถือด้วยสายตาเกลียดชัง
"มายด์ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ"บอกพร้อมกับขยับลุกขึ้น
"ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหม"พุฒิพัฒน์ถามด้วยความห่วงใย
"มายด์ไปได้ค่ะ ทำยังกับมายด์ไม่เคยมา เดี๋ยวมานะคะ"บอกพร้อมกับก้าวเดินไปยังทางเดินไปห้องห้องน้ำ
หลังจากเสร็จธุระมณีรินทร์เดินกลับไปยังโต๊ะ ถึงแม้ห้องน้ำที่นี่จะแยกฝั่งชายหญิง แต่ก็มีทางเดินทางเดียวกัน ไม่ทันระวังร่างบอบบางก็ชนเข้าอย่างจังกับร่างสูงใหญ่ ที่โผล่พรวดพลาดออกมาจากมุมหนึ่งของทางเดิน แรงปะทะทำให้ร่างบางเสียหลักล้ม ดีที่ได้อ้อมแขนแข็งแกร่งมากอดรัดไว้เสียก่อน ไม่อย่างนั้นมีหวัง ได้เจ็บตัวกันบ้าง
"ขอบคุณค่ะ"มณีรินทร์เอ่ยขอบคุณ พร้อมกับถอยออกห่าง แต่อ้อมแขนที่กอดรัดนอกจากไม่ยอมปล่อยแล้ว หญิงสาวยังรู้สึกว่ามันกลับรัดแน่นมากกว่าเดิม
"ปล่อยค่ะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ขอโทษด้วยนะคะ ที่ฉันเดินไม่ระวัง"มณีรินทร์บอกอีกครั้ง หวังจะให้ชายหนุ่มคลายวงแขนออก ธรรศธรก้มมองใบหน้าสวยของคนที่เขาคิดว่าผ่านมีดหมอมานับครั้งไม่ถ้วนอย่างใกล้ชิด เขาเดินตามหญิงสาวออกมาหลังจากเห็นเธอลุกมาจากโต๊ะ ยืนรอจนเธอเดินกลับมา และจังหวะที่เธอเดินไม่ทันระวัง เขาก็จงใจออกมาให้เธอชนอย่างจัง
"คุยกันก่อนสิคุณ"ธรรศธร เอ่ยบอกหญิงสาว พร้อมกับลากร่างบางให้เข้ามาหลบหลังพุ่มไม้ ที่หนาบังตา
"เอ๊ะ! คุณปล่อยฉันนะ"มณีรินทร์อุทานอย่างตกใจหลังจากถูกชายแปลกหน้าลากเข้ามาในจุดที่ลับตาคน กลิ่นลมหายใจของชายหนุ่มผสมปนเปไปด้วยกลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์ที่ให้ความรู้สึก น่ารังเกียจ อาการดิ้นรนขัดขืน เริ่มรุนแรงขึ้น
"สวยแบบนี้ค่าตัวเท่าไรล่ะ ผู้ชายโต๊ะนั้นให้คุณเท่าไร ผมจ่ายให้มากกว่าสองเท่า"ธรรศธรเริ่มเอ่ยระราน
"นี่คุณ ถ้าคุณเมาก็กลับไปซะ อย่ามายุ่งกับฉัน"มณีรินทร์ยังควบคุมอารมณ์ได้ดี
"ปล่อย! "หญิงสาวเริ่มดิ้นหนักขึ้น เมื่อฝ่ามือใหญ่เริ่มไม่อยู่นิ่ง ธรรศธรเริ่มลูบไล้สีข้าง และสะโพกแน่นกลมมนอย่างมันมือ อกอวบอิ่มของเธอเบียดเข้ากลับอกกว้างที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของเขา เอวเล็กเบียดอยู่กลับเอวสอบที่มีกล้ามเนื้อแน่นอย่างคนออกกำลังกายเป็นประจำ จากตอนแรกที่คิดจะแกล้งให้เธอกลัว กลับกลายเป็นความต้องการแบบที่ธรรศธรเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง ร้อนแรงอย่างนี้นี่เล่าพุฒิพัฒน์ถึงได้หลง
"ฉันบอกให้ปล่อยช่วย! ..."เสียงร้องตะโกนขาดหาย เมื่อริมฝีปากหนาฉกลงมาปิดปากบาง เมื่อเจ้าของเริ่มร้องโวยวาย มณีรินทร์เองก็นึกไม่ถึงว่าจะถูกคนแปลกหน้าคุกคามเธอแบบนี้ความกลัวเริ่มจับกุมหัวใจ ธรรศธรดื่มดำหาความหวานจากเรียวปากงาม หญิงสาวพยายามรวบรวมเเรงทั้งหมดที่มี ออกแรงดิ้นอีกครั้ง และได้ผล เมื่อธรรศธรจูบจนพอใจแล้วก็ปล่อยให้ร่างบางเป็นอิสระ ทันทีที่หลุดจากการกอดรัด มณีรินทร์ฟาดฝ่ามือไปบนใบหน้าของชายหนุ่มทันที เธอไม่ทันได้มองหน้าเขาด้วยซ้ำ
"ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต! ไปลงนรกซะ"ด่าจบก็หมุนตัวออกวิ่งไปอย่างไม่คิดจะหันกลับมาดู ธรรศธรลูบซีกหน้าที่ถูกฝ่ามือเรียวฟาดลงมาอย่างเต็มแรงจนหน้าชา ชายหนุ่มมองตามร่างโปร่งที่วิ่งออกไปอย่างเร็ว
“เราได้เจอกันอีกแน่คนสวย ถ้าคุณเป็นคนรักของพุฒิพัฒน์จริงๆ ผมคงปล่อยคุณไว้ไม่ได้ ขอโทษนะคุณรนหาที่เอง ช่วยไม่ได้” ธรรศธรมองตามด้วยสายตาอาฆาต การกระทำที่อุกอาจของชายแปลกหน้าทำให้มณีรินทร์ฝันผวา หลังจากกลับมาที่โต๊ะ หญิงสาวชวนคนรักออกจากร้านทันที โดยให้เหตุผลว่าปวดศรีษะ พุฒิพัฒน์เองก็ดูไม่ติดใจอะไร เขามาส่งมณีรินทร์ที่บ้าน พร้อมกับรับปากกับเธอว่าจะรีบคุยกับครอบครัวให้เรียบร้อย
มานี่เลยคุณ"ธรรศธรออกเเรงลากหญิงสาว "ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วยค่ะ!"เธอดิ้นพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ มีเจ้าหน้าที่หลายคนขยับเข้ามา "ใครเข้ามากูยิง!"ธรรศธรขู่ ทำให้เจ้าหน้าที่หยุดชะงัก "มานี่!"ชายหนุ่มลากต่อ ร่างบางที่ดิ้นและขืนตัวไว้ทิ้งตัวลงกับพื้น เธอไม่ยอมเดินตามเขา "ลุกขึ้น!"ธรรศธรกระชากแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้น "นี่คุณ! เบาๆหน่อยสิ"วิชุดาที่ยืนตะลึงดูเหตุการณ์แหวใส่ เมื่อเห็นชายหนุ่มชักจะทำกับเพื่อนเธอหนักเกินไปแล้ว เธอรีบถลาเข้าหาหวังจะเข้าไปหาเพื่อนดนัยจึงรีบเข้าไปขวางไว้ "ปล่อยให้คุณหนึ่งจัดการเองดีกว่าครับ"ดนัยขวางหน้า พร้อมกับเอ่ยอย่างสุภาพ "วิช่วยฉันด้วย!"มณีรินทร์กรีดร้อง "มายด์…"วิชุดาอยากจะเข้าไปหาเพื่อนรัก "คุณเป็นคนโทรตามผมมาที่นี่ เพราะฉะนั้นอย่ามายุ่งดีกว่า เมื่อคุณเองก็ไม่มีปัญญาจัดการกับเธอ"ธรรศธรเอ่ยเสียงดังฟังชัด วิชุดาหน้าซีดเผือด "วิ!"มณีรินทร์ร้องเรียกชื่อเพื่อนเสียงดัง หันมามองด้วยสายตาสงสัย "ยังไงผมก็ต้องขอบคุณนะ"ธรรศธรเอ่ยขอบคุณ หลังจากหันไปช้อนร
อาการกระสับกระส่ายนั่งไม่ติดกับที่ของวิชุดาอยู่ในสายตาของมณีรินทร์มาสักพักแล้ว วิชุดาคงห่วงเธอมาก ทำเรื่องแบบนี้ถ้าพลาดขึ้นมาก็ตายกันมาหลายคนแล้ว แต่เธอไม่กลัว อีกแค่นิดเดียวทุกอย่างก็จะจบลง เมื่อหญิงสาวที่นั่งคิวก่อนหน้าเริ่มทยอยเข้าไปกันหลายคนแล้ว "วิแกเป็นอะไรหรือเปล่า"มณีรินทร์เอ่ยถามหลังจากเห็นวิชุดาชะเง้อมองทางเข้าตลอดเวลา "เปล่า เปล่า ฉันแค่ห่วงแก"บอกพร้อมกับส่งมือไปกุมมือบางที่ชื้นเหงื่อ "ฉันโอเค ถ้าแกอึดอัดแกลงไปรอที่รถก็ได้ ฉันอยู่ได้" "ไม่เป็นไรมายด์ฉันจะอยู่กับแก"บอกพร้อมกับส่งยิ้มจืดชืดมาให้ เวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่า'ไอ้ชั่ว'ของ มณีรินทร์จะมาถึงสักที และ'ไอ้ชั่ว'หน้าตาจะเป็นยังไงกันนะลองว่าคิดทำเรื่องเลวๆแบบนี้ได้หน้าตาคงจะน่ากลัวน่าดู วิชุดา จินตนาการหน้า 'ไอ้ชั่ว'ไปต่างๆนานา เริ่มอยู่ไม่สุขเมื่อคิวก่อนหน้ามณีรินทร์ถูกเรียกเข้าไปข้างใน คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย ขอให้ทุกอย่างทันเวลา วิชุดาคิดพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในใจ เมื่อหาที่จอดรถได้ร่างสูงใหญ่รีบลงจากรถ และวิ่งอย่างรีบร้อน พร้อมกับกดหาเบอร์ของคนท
"มีอุบัติเหตุข้างหน้าครับคุณหนึ่ง"ดนัยรายงานเมื่อจับอาการของคนที่นั่งกระสับกระส่ายมาสักพัก ธรรศธรเพียงพยักหน้าตอบ สายตาของเค้าจับจ้องอยู่ที่นาฬิกาข้อมือเรือนหรู "ว่าแต่คุณหนึ่งให้ไปที่นั่นทำไมครับ"ดนัยเอ่ยถามเพราะมันเป็นคนละทางกับทางกลับออฟฟิศของเขา "มีหน้าที่ขับก็ขับไปเถอะ"เสียงที่ดังมาแบบไม่สบอารมณ์ทำให้ดนัยแอบขำ นั่นไงองค์ลงดนัยส่ายหัวไปมากับคำตอบของเจ้านาย "ไอ้โอมึงเหยียบไปเลยนะกูให้เวลาสิบนาที มึงต้องถึง" "ห๋า!คุณหนึ่งรถนะครับไม่ใช่ไอรอนแมน" "ถ้ามึงช้ากูไล่ออก"กรรมของไอ้โอจริงๆ มีเจ้านายวัยทอง ดนัยอยากจะเอาหัวโขกกับพวงมาลัยรถให้ตายๆไปสะ อาการกระสับกระส่ายนั่งไม่ติดกับที่ของวิชุดาอยู่ในสายตาของมณีรินทร์มาสักพักแล้ว วิชุดาคงห่วงเธอมาก ทำเรื่องแบบนี้ถ้าพลาดขึ้นมาก็ตายกันมาหลายคนแล้ว แต่เธอไม่กลัว อีกแค่นิดเดียวทุกอย่างก็จะจบลง เมื่อหญิงสาวที่นั่งคิวก่อนหน้าเริ่มทยอยเข้าไปกันหลายคนแล้ว "วิแกเป็นอะไรหรือเปล่า"มณีรินทร์เอ่ยถามหลังจากเห็นวิชุดาชะเง้อมองทางเข้าตลอดเวลา "เปล่า เปล่า ฉันแค่ห่วงแก"บอก
วิชุดาหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอยู่พักใหญ่ หลังจากให้มณีรินทร์นอนพัก เพราะอาการเวียนหัวของเธอเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีก หลังจากเจอสถานที่ที่ต้องการแล้ว สองสาวก็พากันออกจากบ้าน วิชุดาเสนอให้มณีรินทร์เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน เพราะสิ่งที่คิดจะทำนั้นเธอก็ไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่วิชุดาเสนอให้มณีรินทร์มาพักอยู่กับเธอที่บ้าน เพราะสะดวกในหลายๆ เรื่องระหว่างทางวิชุดาคิดหาทางออกให้มณีรินทร์หลายทาง แต่มณีรินทร์ก็ไม่รับข้อเสนอจากเธอสักทาง จนกระทั่งมาถึงจุดหมายที่จีพีเอสพามา เป็นซอยแคบๆ ที่แยกออกมาซอยหลักจากถนนใหญ่อีกที ป้ายหน้าอาคารเขียนว่า’ คลีนิคXXX’ ชื่อหรูฟังดูดีแต่ ทั้งสองสาวรู้ว่าที่นี่คือที่จะทำให้มณีรินทร์หลุดพ้นจากสิ่งที่เป็นอยู่ เมื่อหาที่จอดรถได้วิชุดามองหน้าเพื่อนรักอีกครั้งมาถึงตรงนี้แล้วคงไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนใจมณีรินทร์ได้แน่นอน"มันอันตรายนะมายด์ ถ้าแกเปลี่ยนใจไปที่อเม...""ฉันไม่กลัว"คำว่าอเมริกาค้างไว้ที่ปากของวิชุดาเมื่อมณีรินทร์ยังยืนยันความตั้งใจเดิม ทั้งสองเข้าไปติดต่อข้างในและนั่งรอเรียกตามที่เจ้าหน้าที่ ที่แต่งตัวคล้ายๆ พยาบาลสั่งวิชุดาขนลุกซู่เมื่อนึกไปต่างๆ นานา ตาจับจ้อง
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยมณีรินทร์ก็ขับรถตามมาที่บ้านของเพื่อนสนิท เธอเหนื่อยและอยากพัก แต่ด้วยสายตาที่มองมาอย่างสงสัยของวิชุดา บวกกับคำพูดที่บอกว่ามีเรื่องคุยยาวเธอจึงต้องตามมา พรุ่งนี้เธอจะเดินทางไปอเมริกามีบางอย่างที่ยังทำไม่เรียบร้อย และคืนนี้เธออยากบอกฝันดีกับพ่อและแม่ จึงอยากมาคุยให้จบๆจะได้รีบกลับบ้าน "มายด์แกเป็นแบบนี้มานานหรือยัง"วิชุดาเอ่ยถามทันทีที่มณีรินทร์เดินตามเข้ามาในบ้าน "อะไร"มณีรินทร์งงกับคำถาม วิชุดากรอกตามองบนคนฉลาดมากๆอย่างมณีรินทร์บดจะโง่ขึ้นมานี่โง่ได้ใจเลยจริงๆ "ก็อาการที่แกเป็นเนี่ย อ้วก อาเจียน เวียนหัว อะไรที่แกเป็นน่ะ"วิชุดาบอกอย่างรำคาญ "สักพักแล้วสงสัยจะนอนน้อย"มณีรินทร์ตอบตาใส "เหรอยะ มายด์นี่แกแกล้งโง่หรือเปล่า"วิชุดาแหวกลับ "อะไร" "ง่ายๆสั้นๆนะ แกนอนกับพุฒิครั้งสุดท้ายเมื่อไร" "วิ!"มณีรินทร์เรียกชื่อเพื่อนเสียงสูง "เออ! ชัดไหม"มณีรินทร์หน้าซีดเผือดตัวชาหนึบ เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามหน้าผากและฝ่ามือ "วิ…แกหมายความว่าไง" "มายด์ ก็ไอ้อากา
มณีรินทร์คิดในใจ และก่อนที่พิธีกรจะประกาศอะไรต่อ เมื่อแสงแฟลชรัวมาที่เธอชุดใหญ่ ร่างกายเธอก็สุดจะทนร่างบางล้มลงตรงนั้นที่กลางเวที มณีรินทร์ไม่รู้ว่ามีการประมูลเพชรที่เธอสวมใส่หรือไม่ เพราะสติเธอดับวูบไม่รู้แม้กระทั่งว่ามีใครมารับเธอไว้ หรือปล่อยให้เธอล้มลงไปอย่างหมดสภาพ เสียงร้องกรีดร้องของแขกในงานดังขึ้นแล้วก็เงียบหาย ทุกอย่างมืดสนิท เธอไม่รับรู้อะไรอีกเลย"มายด์ มายด์ แกเป็นไงบ้าง"เสียงเรียกของวิชุดาปลุกให้หญิงสาวตื่นขึ้น มณีรินทร์ปรือตาขึ้นช้าๆ สมองมึนงง"ที่นี่ที่ไหนนะวิ"เอ่ยถามเมื่อปรับสภาพสายตาให้เข้ากับแสงในห้องได้"ห้องพักของโรงแรมแกล้มลงน่ะ ดีนะที่คุณพีทเขารับไว้ทัน ไม่อย่างนั้นนะแกเอ้ย"วิชุดาพูดค้างไว้แค่นั้น พร้อมกับทำท่าทางหวาดเสียว"คุณมายด์เป็นไงบ้างค่ะ"เสียงทีมงานที่รออยู่เอ่ยถามพร้อมๆ กันมณีรินทร์มองกวาดไปทั่วห้อง เธออยู่บนเวที เธอกำลังเดินแบบแทนนางแบบที่เบี้ยวงาน ทุกอย่างกำลังจะจบลง แล้วหลังจากนั้นเธอก็มานอนอยู่ที่นี่ สายตามณีรินทร์มองไปยังร่างสูงโปร่ง ที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง เขาคนนี้คือคนที่เอาช่อดอกไม้ขึ้นไปให้เธอบนเวที และเป็นคนเดียวกับที่วิชุดาเรียกว่าคุณพี