วันนี้ธรรศธรตื่นสายกว่าปกติ เพราะเป็นวันหยุดเขาเลยนอนต่อแบบคนเกียจคร้าน เมื่อคืนกลับมาดึก เลยทำให้เช้านี้เขานอนยาวไปสักหน่อย
"เสด็จลงมาได้แล้วเหรอยะ ฉันนึกว่าแกจะนอนถึงเย็นเสียอีก"คำทักทายจากแม่ทันทีที่เจอหน้ากัน
"เมื่อคืนกลับดึกน่ะครับ พ่อไม่อยู่เหรอครับ"ตอบพร้อมกับถามหาบิดา ซึ่งปกติพ่อเขามักจะอยู่ติดบ้านเสมอ
"ไม่ดึกละมั้ง บ้านฉันเรียกว่าสว่างคาตาเลยแหละแบบนี้"คุณปานวาดตอบลูกชายแบบคนหาเรื่องทะเลาะกัน ยกที่หนึ่งกำลังจะเริ่ม ชายหนุ่มคิดในใจ แม่กับเขาถือว่าเป็นมวยถูกคู่
"พอดีมีเรื่องให้คิดนะครับ เลยอยู่คิดดึกไปหน่อย"คำตอบของลูกชาย ทำให้คุณปานวาดลอบเบะปาก มีเรื่องให้คิด หรือเรื่องไม่ต้องคิดกันแน่ ทำอย่างเดียว
"แม่อ่านอะไรอยู่ครับ เห็นเพ่งจนตาแทบหลุด"ถามมารดาเพราะตั้งแต่ลงมาเขาเห็นแม่นั่งจ้องมองอะไรบางอย่างในหน้าหนังสือพิมพ์อย่างตั้งอกตั้งใจ
"ข่าวซุบซิบสังคมไฮโซนั่นแหละ เออตาหนึ่ง แกดูนี่สิ นี่ใช่ว่าที่ลูกเขยคุณหญิงอรสาหรือเปล่า ในข่าวมันใช้อักษรย่อนะ ฉันแปลไม่ถูก ในข่าวเขาเขียนว่า น้องม.นี่หรือป่าวที่เป็นตัวจริงของ ไฮโซ พ.ที่ทำให้ น้องอ. มีท่าว่าจะหม้ายขันหมาก แกดูสิเขามีรูปด้วย แหมๆนั่งกอดกันกลมเชียว"บอกพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้ชายหนุ่ม เพราะคำว่า ม.พ.อ. ที่สะดุดหูทำให้ชายหนุ่มรับมาดู รูปในหนังสือพิมพ์ เบลอหน้าคนทั้งสองไว้ไม่ให้เห็นได้ชัดแต่เสื้อผ้าและสถานที่ มันก็ชัดเจน ผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีนี้คือคนเดียวกับที่เขาเห็นในผับเมื่อคืน คนที่นั่งกอดกับพุฒิพัฒน์ และก็เป็นคนเดียวกับที่เขาไปราวีเธอ ถ้า ม.นี่คือตัวจริงอย่างที่ข่าวเขียนไว้ งั้นคงไม่ผิดตัว เธอคือคนรักของพุฒิพัฒน์จริงๆ ธรรศธรไล่เรียงเรื่องราวของคนทั้งสองตามความคิดของตัวเอง คนที่รักกับพุฒิพัฒน์ตั้งแต่อยู่ที่อเมริกาตามที่พิมพ์มาดาเคยหลุดปากบอกเขาให้รับรู้ สวยขนาดนี้นี่เล่า ถึงได้ทำให้พุฒิพัฒน์หลงจนโงหัวไม่ขึ้น
"ตาหนึ่ง ตาหนึ่ง ไอ้..."
"ฮะ อะไรนะครับ แม่ว่าอะไรนะ"
"ถึงกับตลึงเลยเหรอยะ เปล่าฉันยังไม่ได้พูดอะไร เห็นแกมองตาค้างขนาดนั้นเลยจะถามแกว่าใช่ไหม"คุณปานวาดบอกลูกชาย
"ไม่ทราบสิครับ ผมจำหน้าเขาไม่ได้ ว่าแต่แม่ไปเป็นแฟนคลับเขาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ผมเห็นแม่ตามติดชีวิตเขาจัง"
"แฟนคลับ บ้าบออะไรยะ ฉันเห็นเขาจะหมั้นกับหนูแอ้ อยู่รอมล่อ ยังจะมามีข่าวแบบนี้อีก สงสารหนูแอ้นะ"นางบอกพร้อมกับถอนหายใจ
"นี่ถ้าแกมีปัญญาสักนิด จีบหนูแอ้ติด ฉันคงตายตาหลับ"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกันครับ ผมจีบแอ้ไม่ติด กับแม่ตายตาหลับ"
"อ้าว!ก็อย่างน้อยๆแกก็ยังมีคนดีๆมาดูแลกับเค้าบ้างไง ฉันจะได้หมดห่วง ว่าอย่างน้อยทรัพย์สมบัติที่พ่อแก่อุตสาห์ หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงจะได้ไม่ถูกแกผลาญหมดนะสิ"
"แม่! นี่ผมดูแย่ในสายตาแม่ขนาดนั้นเลยหรอครับ"ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงสูงหลังจากโดนมารดาหลอกว่ากระทบ
"ก็ถ้าแกยังลอยชายไปวันๆแบบนี้ ฉันก็ต้องห่วงสมบัติฉันเป็นธรรมดานั่นแหละยะ"บอกพร้อมกับลุกขึ้น
"ไปดูอาหารกลางวันดีกว่า อยู่แถวๆนี้ เหม็นขี้หน้าคน"พูดจบแม่เขาก็พาร่างอันอ้วนถ้วนสมบูรณ์ เดินนวยนาดจากไป แม่คือคนที่ดูถูกเขาได้วันละยี่สิบสี่ชั่วโมงจริงๆ ชายหนุ่มส่ายหัว พร้อมกับมองดูรูปคนทั้งสอง มือใหญ่เผลอลูบริมฝีปากตัวเอง เมื่อสายตาเผลอมองไปยังปากอิ่มที่ขนาดเบลอภาพแล้ว แต่ยังชัดเจนในความรู้สึกของเขา ผู้หญิงคนนี้เปรียบเหมือนแสงไฟที่วูบวาบ ให้ความรู้สึกร้อนลุ่มยามที่ได้ใกล้ชิด จนยากที่ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ในขณะที่ผู้หญิงอีกคน เปรียบเสมือนสายน้ำที่ไหลเรื่อยๆแต่ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นยามที่ได้ใกล้ชิด พิมพ์มาดา เช้านี้เธอจะเป็นอย่างไรนะ ยามที่ได้เห็นรูปคนที่ตัวเองรักกอดกับคนอื่น ธรรศธรคิดห่วงใย จนมือใหญ่เผลอขยุ้มหนังสือพิมพ์ในมือ ตามอารมณ์ของตัวเองที่กำลังประทุขึ้น
เช้านี้พุฒิพัฒน์เองก็ตื่นสายกว่าปกติ เพราะเป็นวันหยุดชายหนุ่มจึงไม่รีบร้อน เมื่อคืนหลังจากแยกจากมณีรินทร์ วันนี้เขาตั้งใจจะคุยเรื่องคนรักให้ครอบครัวรับรู้ พุฒิพัฒน์คิดในใจ
"ออตาพุฒิวันนี้อยู่บ้านเหรอดีเลยตอนบ่ายพาแม่ไปบ้านคุณหญิงหน่อย แม่ได้กฤษ์หมั้นมาแล้วนะ หมั้นเช้าแต่งเย็นเลย จัดงานวันเดียวให้มันจบ จะช้าจะเร็วก็ต้องแต่งกันอยู่ดี"คุณเกตุแก้วบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"อะไรนะครับแม่ มันไม่เร็วไปหน่อยหรอครับ"พุฒิพัฒน์เองก็ตกใจกับคำพูดของมารดาเช่นกัน
"ผมกับพิมพ์มาดา เรายังไม่ได้ลองคบกันเลย คุณแม่จะไม่ให้ผมได้ศึกษาดูใจกันก่อนเหรอครับ"
"ที่แกอ้างโน้นอ้างนี่ เพราะยายนี่ใช่ไหม"คุณเกตุแก้วโยนหนังสือพิมพ์ให้ชายหนุ่ม สายตาพุฒิพัฒน์มองไล่ไปตามรูปภาพและตัวหนังสือทันที ข่าวเร็วมาก
"ก็อย่างที่คุณแม่ทราบ ผมมีคนรักอยู่แล้ว เราคบกันมาตั้งแต่อยู่เมืองนอก"ชายหนุ่มอธิบาย
"แล้วไง เมื่อก่อนแม่ไม่เคยว่านะ แกจะมีเล็กมีน้อยที่ไหน หรือแกจะคบกับใคร แต่ตอนนี้แม่ขอให้แก แต่งงานกับหนูแอ้ แม่ขอแกแค่นี้ทำให้แม่ได้ไหม พุฒิแกเป็นลูกชายคนเดียวของแม่นะ แม่อยากเห็นแกมีความสุข อยากให้แกได้แต่งงานกับคนดีๆมีชาติตระกูล แกแต่งไปแล้ว แกจะเก็บคนนี้ไว้แม่ก็ไม่ว่า แม่ขอแค่แกแต่งกับหนูแอ้แค่นั้น ทำให้แม่ได้ไหม"
"คุณแม่"เป็นพุฒิพัฒน์เสียอีกที่เป็นฝ่ายอึ่งไป แม่เขาคิดอะไรอยู่ การที่ขอให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ใช่คนรัก เขาก็รู้สึกแย่พอแล้ว นี่แม่เขายังเสนอให้เขาเก็บมณีรินทร์ไว้เป็นเมียน้อยอีกด้วย ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว เช้านี้สำหรับพุฒิพัฒน์แล้ว ช่างไม่สดใสเอาเสียเลย
"ผมขอตัวนะครับ ตอนบ่ายผมมีธุระ เชิญคุณพ่อคุณแม่นะครับ"ชายหนุ่มออกมาจากบ้านด้วยหัวใจที่หนัก ถ้ามณีรินทร์รู้ถึงความใจกว้างของมารดาเขาจะเป็นอย่างไรนะ ผู้หญิงอย่างมณีรินทร์ ถ้าไม่ได้เป็นที่หนึ่งเธอก็จะไม่เป็นตัวเลือกให้ใคร ข้อนี้พุฒิพัฒิน์รู้ดี
"พุฒิ มาแต่เช้าเลยค่ะ"ทันทีที่เห็นหน้าคนรัก มณีรินทร์ก็ส่งยิ้มหวานมาทักทาย ยิ้มแบบนี้สิ ที่พุฒิพัฒน์อยากเห็นทุกวัน
"วันนี้มายด์ไปไหนหรือเปล่าครับ ผมว่าจะชวนออกไปข้างนอกด้วยกัน"
"คุณแม่ชวนทานข้าวกลางวันด้วยกันค่ะ"ตอบพร้อมกับส่งแขนเรียวไปโอบแขนชายหนุ่ม
"เข้าบ้านกันค่ะ"
"เออ มายด์"
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"บอกพร้อมกับหันมามองหน้าคนรัก
"มายด์ครับ ผมเรียนเรื่องของเราให้คุณพ่อคุณแม่ทราบแล้วนะครับ ท่านอนุญาตให้เราคบกันครับ"
"จริงหรอคะพุฒิพูดจริงหรอคะ มายด์ดีใจที่สุดเลยค่ะ "ใบหน้าสวยยิ้มด้วยความดีใจจนออกนอกหน้า
"ครับ แต่คุณแม่ขอให้ผมแต่งงานกับพิมพ์มาดา "พุฒิพัฒน์บอกด้วยสีหน้าลำบากใจ
"ยังไงค่ะ"ใบหน้าสวยที่ยิ้มหวานแทบหุบยิ้มทันที
"พุฒิพูดอะไรนะคะ มายด์ฟังไม่ชัด"
"คุณแม่ท่านอนุญาตให้เราคบกัน แต่ผม ต้องแต่งงาน"
"คะ"
"คุณจะให้มายด์คบคุณในขณะที่คุณแต่งงานมีภรรยา แล้วมายด์จะคบกับคุณในฐานะอะไรดีคะ"
"มายด์ ผมพยายามแล้ว"
"พยายามแล้วหรอคะ คุณต้องให้ฉัน"คลานเข่าเข้าไปกราบขอบคุณคุณแม่คุณไหมคะ ที่อุตสาห์อนุญาตให้ฉันเป็นเมียน้อยคุณได้"ใบหน้าหวานที่ดูเหมือนจะมีความสุขในตอนแรก เริ่มมีอาการโกรธจัดแบบคนไม่พอใจ
"มายด์ คุณก็พูดเกิน"
"เกินไปเหรอ ทำไมคะพุฒิ การที่คุณคบกับฉัน มันทำให้ครอบครัวคุณเสียชื่อเสียงมากนักหรอคะ ฉันมันไม่มีอะไรดีเลยในสายตาของครอบครัวคุณใช่ไหมคะ"
"เราเลิกกันเถอะค่ะ"มณีรินทร์บอกเลิกหลังจากทั้งสองนิ่งกันไปสักพัก
"ถ้าคุณมีฉันไม่ได้ รักฉันไม่ได้ เราก็เลิกกันดีกว่าค่ะ ออและฉันฝากขอบคุณแม่คุณด้วยนะคะ สำหรับข้อเสนอเมียน้อยให้ฉัน"
"มายด์ ใจเย็นๆก่อนสิ"
"ไม่ค่ะ ฉันจะไม่ทน ฉันเลือกเจ็บครั้งเดียว แต่จบค่ะ"พูดจบก็ปล่อยมือจากแขนคนรักและเดินเข้าบ้านทันที
"มายด์ มายด์ คุยกันก่อนสิโธ่เว้ย!"พุฒิพัฒน์สบถลั่น อะไรๆมันดูยุ่งเหยิงไปหมด ให้มันได้อย่างนี้สิ พุฒพัฒน์คิดในใจ อย่างคนหัวเสีย
ใบหน้าสวยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา หลังจากคุยกับพุฒิพัฒน์แล้ว มณีรินทร์ก็ตัดสินใจที่จะเลิกกับชายหนุ่ม หลายปีที่คบกัน เธอยอมรับว่ารักพุฒิพัฒน์มาก มากจนไม่คิดจะรักคนอื่นได้อีก มณีรินทร์เป็นคนที่รักคนยากแต่ถ้ารักแล้วเธอจะรักตลอดไป หลายครั้งที่บิดาพยายามพาเธอออกงานให้ได้พบปะกับคนอื่นมากหน้าหลายตา เพื่อให้เธอได้มีโอกาสมองชายคนอื่นบาง พ่อของเธอแนะนำชายที่เหมาะสมให้เธอหลายต่อหลายคน แต่เธอก็ปิดโอกาสตัวเอง เพราะเธอรักและมั่นคงต่อพุฒิพัฒน์เสมอมา จนวันนี้ที่เธอตัดสินใจจบความสัมพันธ์กับชายหนุ่ม เธอไม่เคยคิดถึงมันเลย เพราะเธอคิดว่ายังไงพุฒิพัฒน์ก็รักเธอเหมือนกับที่เธอรักเขา แต่คำบอกที่ออกมาจากปากของคนรัก ที่เสนอให้เธอคบกับเขาต่อไป ในขณะที่เค้าต้องแต่งงานกับคนอื่นแค่นี้มันก็ชัดเจนพอแล้วว่าพุฒิพัฒน์เลือกใคร
"มาก่อนมาหลังมันไม่สำคัญหรอกสิ่งสำคัญสำหรับชายหนุ่มคงเป็นความเหมาะสม ไม่ใช่ความรักสินะ มันอยู่ที่ว่าผู้ชายจะเลือกใคร"มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง
"พอทีเถอะมายด์ แกจะร้องให้มันได้อะไรขึ้นมา"มณีรินทร์บอกตัวเอง
หญิงสาวออกจากบ้านในเวลาต่อมา ขับรถไปที่ทำงาน วันนี้เป็นวันหยุดออฟฟิศปิดงานก็ไม่มีค้างคา แต่มันก็ยังดีกว่าที่จะปล่อยให้เวลาผ่านไปกับความคิดฟุ้งซ่าน หลายครั้งที่ยกมือถือขึ้นมากดหาเบอร์ของวิชุดา แต่เพื่อนสนิทกำลังยุ่งกับการย้ายบ้านใหม่เลยไม่อยากรบกวน มณีรินทร์ปล่อยให้เวลาผ่านไปจนมืดค่ำ เธอไม่อยากกลับบ้านไม่อยากพบใคร หลายครั้งที่มีสายเรียกเข้าจาก พุฒิพฒน์ แต่หญิงสาวเลือกไม่รับสาย และปิดมือถือในที่สุด
“จะทำอะไรคะ”ถามเมื่อเห็นสายตาแพรวพราวของสามี“ปลุกคนหลับครับ”ธรรศธรตอบหน้าตาเฉย“ลูกอยู่กันเต็มรถเนี่ยนะคะ หื่นให้มันน้อยหน่อยนะคะพี่หนึ่ง”ดุให้สามี เมื่อชายหนุ่มรับลูกสาวไปอุ้มไว้“รักมากที่ครับ เลยอดใจไม่ไหว”หันมาตอบ เมื่ออุ้มลูกคนเล็กเดินเข้าบ้านในท่าเจ้าสาว“ลูกสี่แล้วค่ะ”มรีรินทร์เดินตาม เพราะต้องเข้าไปจัดที่นอนให้เด็กๆ“แล้วไงครับ ความรักก็เกี่ยวกับจำนวนลูกนั่นแหละครับ รักมากก็ต้องมีลูกมาก”“หรอคะ ถ้ารักมายด์มากกว่านี้ มายด์ไม่ต้องมีลูกอีกเป็นคอกเลยหรอคะ”“ใช้คำว่าโหลแทนคอกดีกว่าไหม ใช้คอกมันฟังดูแปลกๆนะ”“ใช้คอกเหมาะแล้วค่ะ มายด์รู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่พันธุ์ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ เดี๋ยวท้องๆ”“ครับ ถ้าปากดีแบบนี้ เดี๋ยวก็ท้องอีกครับ ไปเปิดน้ำอุ่นรอเลย เดี๋ยวพี่ขนเด็กๆเข้านอนเสร็จจะตามไป นวดให้พี่หน่อยนะ ปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลยเนี่ย เดี๋ยวพี่ให้รางวัลอย่างงาม”พูดจบร่างสูงก็เดินกลับไปทางเก่า เพราะในรถยังเหลือหนุ่มน้อย สาวน้อย ให้เขาแบกอีกสามคน พ่อลูกดกก็แบบนี้ ลูกหลับทีก็เหนื่อยหน่อย จะปลุกให้เดินกันเองก็สงสาร ซ้อมไว้ก็ไม่เป็นไร เพราะอนาคตเขาคงต้องเดินแบกแบบนี้อีกหลายคนแน่นอน.............
“เพราะแกคนเดียวเลย”ธรรศธรหันไปชี้หน้าพุฒิพัฒิน์“ผมไปเกี่ยวอะไรด้วย ผมก็อยู่ของผมดีๆเนี่ย”พุฒิพัฒน์โวยวาย ที่ถูกธรรศธรกล่าวหา“แกนั่นแหละตัวปัญหาใหญ่ เห็นไหมดูสิแอ้ต้องมาเต้นรำคู่แทนคุณเพราะใคร”พุฒิพัฒน์งงหนัก เมื่อหันไปมองพิมพ์มาดาที่กำลังเต้นรำอยู่กับแทนคุณ“ไม่เข้าใจครับ”“โง่จริงวุ๊ย!”“อะไรวะพี่หนึ่ง อยู่ๆก็ด่า”“ก็มึงมีลูกแค่คนเดียวไง เลยไม่พอแบ่งให้ลูกกู ดูแทนคุณสิ มองน้องพรีมตาค้างเลย เห็นแล้วสงสาร”“อืม...จริงด้วย มองเหมือนพี่หนึ่งมองเมียผมเลยนะนั่น”พุฒิพัฒน์เออออตาม แต่ท้ายประโยคกลับแขวะให้ธรรศธรร่างสูงใหญ่ ตรงเข้าล็อคคอคนที่บางกว่า ก่อนจะใช้หมัดกระทุ้งท้องพุฒิพัฒน์อย่างแรง “โอ้ย!”พุฒิพัฒน์ตัวงอ เมื่อถูกธรรศธรฟาดหมัดเข้าใส่เต็มๆ“โทษฐานที่บังอาจแอบมองกู กูมองแอ้ก็จริงโว้ย! แต่กูมองเหมือนน้องสาว ไม่เหมือนมึงหรอก มองเมียกูตาเยิ้มเลยกูเห็นนะ”“ผมก็มองมายด์ในฐานะเพื่อนเหมือนกันนั่นแหละ พี่หนึ่งหึงเกินไปแล้วนะ”“ถ้ามึงมองแบบเพื่อนจริงๆก็แล้วไป แต่ถ้ามึงคิดมากกว่านั้นเจอตีนกูแน่”“พี่...จะมาหึงอะไรวะ มายด์รักพี่หลงพี่ขนาดนั้น จะเอาตาที่ไหนมามองคนอื่นได้วะ แก่แล้วเลอะเลือนนะพี่น่
น่าแปลกที่วันนี้แทนคุณ ไม่เข้ามาแย่งคู่เต้นรำของน้อง เหมือนเช่นทุกครั้ง มณีรินทร์หยุดเท้าที่กำลังจะเดินไปหาลูก เมื่อเห็นพิมพ์มาดากำลังคุยอยู่กับแทนคุณ“ทำอะไรอยู่ครับคนเก่ง”พิมพ์มาดาเอ่ยถาม เมื่อเดินมาถึงโต๊ะที่เด็กชายสุธิรักษ์นั่งอยู่“แทนกำลังดูน้องเต้นรำอยู่ครับ”แทนคุณตอบเสียงเศร้า ก่อนจะหันไปมองฟลอร์เต้นรำต่อ พิมพ์มาดาสังเกตอาการของหนุ่มน้อย ก่อนจะนึกสงสาร เมื่อเห็นสายตาคู่เล็กไปหยุดอยู่ที่คู่ของลูกสาวของเธอ แต่แปลกที่วันนี้แทนคุณไม่งอแง เหมือนทุกปี“ไม่อยากเต้นรำหรือคะ”พิมพ์มาดาถามต่อ“อยากครับ แต่แทนไม่มีคู่ เป็นพี่ต้องเสียสละให้น้องแทนไม่แย่งคู่ของนายหรอกครับ”หนุ่มน้อยตอบพร้อมกับยกแขนขึ้นกอดอก ด้วยท่าทางมุ่งมั่น พิมพ์มาดาอมยิ้ม ท่าทางแบบนี้ ถอดมาจากพี่หนึ่งของเธอชัดๆ หญิงสาวคิดในใจ“ใครบอกแทนแบบนี้คะ ครูที่โรงเรียนหรอคะ”“แม่มายด์บอกครับ แม่มายด์บอกให้แทนรักน้อง และก็ต้องเสียสละให้น้อง แทนเป็นพี่ชายคนโต แทนต้องดูแลน้องๆครับ”เด็กชายสุธิรักษ์ตอบอย่างมุ่งมั่น“เก่งจังเลยลูก แทนคุณเก่งมาก อาแอ้อยากเต้นรำจังเลยค่ะ แทนคุณเต้นคู่กับอาแอ้ได้ไหมคะ”พิมพ์มาดาเอ่ยชื่นชม ก่อนจะชวนให้แทนคุณ
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู”สิ้นเสียงเพลงอวยพรวันเกิด เสียงปรบมือจากแขกที่มาร่วมงาน ก็ดังขึ้นกึกก้องไปทั้งงานพิมพ์มาดาก้มบอกลูกสาวตัวน้อย ให้อธิฐานขอพรก่อนจะเป่าเทียนตัดเค้ก สาวน้อยกุมมือทั้งสองข้างไว้กลางอก ดวงตากลมโตหลับพริ้ม ก่อนจะทำปากขมุบขมิบอยู่พักหนึ่ง แล้วลืมตาขึ้น แล้วก้มลงเป่าเทียนบนเค้ก“พ่อขอให้ลูกเรียนเก่งๆ สุขภาพแข็งแรง เป็นเด็กดีนะลูก”พุฒิพัฒน์ที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยอวยพรให้ลูกสาว ก่อนจะจูบเบาๆบนศีรษะทุยสวยอย่างแสนรัก“แม่ก็ขอให้ลูกมีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงนะคะ เป็นเด็กดีนะลูก”พิมพ์มาดาอวยพรให้ลูกเช่นกันเด็กหญิงพิมพ์พัฒน์ หรือน้องพรีม หันไปยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนจะหันไปขอบคุณแขกทุกคนที่มาอวยพรวันเกิดให้เธอ ด้วยกิริยามารยาทที่ใครเห็นแล้วก็นึกเอ็นดู ธรรศธรกับมณีรินทร์ ยืนมองสาวน้อยด้วยสายตาที่รักใคร่ ก่อนจะเข้ามาอวยพรและมอบของขวัญให้เธอเช่นกันคืนนี้สาวน้อยเจ้าของวันเกิดใส่ชุดกระโปรงสีขาวฟูฟ่อง มองแล้วน่ารักน่าถนุถนอมไปทั้งตัวตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในงาน คุณแม่ลูกสี่ก็ยังกลุ้มใจไม่หาย เพราะคืนนี้จะมีงานเต้น
"คุงแม่ขา พี่แทงคุงว่าเจ้าขาไม่จวยค่ะ"เสียงเล็กแหลมที่ดังมาจากห้องนั่งเล่นทำให้คุณแม่ลูกสี่ปาดเหงื่อ เอาอีกแล้วลูกๆ ของเธอทะเลาะกันอีกแล้วใช่ไหม มณีรินทร์กรอกตามองบนอนาถกับชีวิตตัวเอง เธออยู่บ้านเลี้ยงลูกโดยมีคุณปานวาดกับแม่แก้วและเด็กรับใช้ช่วยดูแล ธรรศธรเสนอให้เธอจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยเมื่อเธอคลอดเด็กชายบริพัตรหรือน้องเจ้านาย แต่เธอปฏิเสธโดยให้เหตุผลกับเขาว่าสามีเธอเจ้าชู้ถ้าจ้างพี่เลี้ยงสาวๆ เข้ามากลัวว่าจะทำหน้าที่เลี้ยงพ่อของลูกด้วย สิ่งที่ธรรศรตอบแทนเธอคือตั้งท้องลูกคนที่สี่เจ้าของเสียงเล็กๆ ที่กำลังร้องหาเธอ เด็กหญิงปิ่นมุก หรือน้องเจ้าขาของเธอนั่นเอง ลูกสาวคนนี้ธรรศธรตั้งชื่อจริงให้ก่อนหน้านั้นลูกๆ ของเธอจะได้รับชื่อมาจากปู่ย่าและตากับยาย ธรรศธรบอกเหตุผลที่ตั้งชื่อลูกคนนี้กับเธอว่า อยากให้ลูกสาวมีชื่อ คล้ายลิเกเหมือนกับเธอ มณีรินทร์ได้แต่มองบนกับเหตุผลของเขา เธอไม่อยากเถียงอะไรกับเขาอีก เพราะกลัวเขาจะหาเรื่องมาทำให้เธอท้องอีก"อะไรกันคะลูก" เสียงหวานใสร้องถามถึงแม้จะเหนื่อยแต่เธอก็ยินดี ใบหน้าสวยยิ้มแย้มทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าลูก"แทนคุณหนูแกล้งอะไรน้องอีกคะ"ใบหน้าสวยหันไปทางต้นเห
มณีรินทร์ยังคงมีอาการวิงเวียนหนักในช่วงเช้าเหมือนเดิมถึงจะเป็นท้องที่สามแต่เธอก็ยังแพ้หนัก ร่างบางนั่งมองตัวเองในกระจก ยังนึกเคืองสามีไม่หายเขาทำกับเธอเหมือนเป็นแม่พันธุ์ ของขวัญยังไม่ทันโตเธอก็ตั้งท้อง เธอคลอดลูกชายให้เขา เด็กชายสุทธิรักหรือน้องแทนคุณ เลี้ยงแทนคุณได้ไม่นาน เธอก็ตั้งท้องอีกใจคอเขาจะไม่ให้เธอพักท้องบ้างเลยหรือไงธรรศธรให้เหตุผลว่าเขาแก่แล้วถ้าไม่รีบทำตอนมีแรงอีกหน่อยก็ทำไม่ไหว เหตุผลของเขาฟังไม่ขึ้นแต่มณีรินทร์ก็เถียงไม่ชนะเขาสักครั้งงานแต่งถูกกำหนดก่อนที่มณีรินทร์จะท้องลูกคนที่สาม สามเดือนถ้าคำนวนเวลาแล้วก็พอดีกัน พอลงกำหนดแต่งเธอก็ท้องทันทีทุกอย่างจึงเลื่อนไม่ได้ เธอเลยต้องมานั่งเซ็งให้ช่างแต่งหน้าทำผมรุ่มอยู่แบบนี้ ลูกๆ ของเธออยู่ไหนกันนะเช้านี้ยังไม่เจอหน้าลูกสักคน เจ้าสาวมือใหม่มีอาการคิดถึงหน้าลูกน้อยธรรศธรในชุดเจ้าบ่าวหล่อเหลายืนมองรูปถ่ายงานแต่งงานตัวเองอย่างภูมิใจ วันนี้เขาได้แต่งงานเเล้วภรรยาเขาใจแข็งเหลือเกินไม่ยอมแต่งสักที จนกระทั่งเธอมายอมเมื่อลูกคนที่สองโต แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะเชื้อแรงขนาดนี้พอมีสองแล้วสามก็ตามมาติดๆ สมน้ำหน้าถ้ายอมแต่งกับเขาตั้งแต่มีลูกค