LOGINวันนี้ธรรศธรตื่นสายกว่าปกติ เพราะเป็นวันหยุดเขาเลยนอนต่อแบบคนเกียจคร้าน เมื่อคืนกลับมาดึก เลยทำให้เช้านี้เขานอนยาวไปสักหน่อย
"เสด็จลงมาได้แล้วเหรอยะ ฉันนึกว่าแกจะนอนถึงเย็นเสียอีก"คำทักทายจากแม่ทันทีที่เจอหน้ากัน
"เมื่อคืนกลับดึกน่ะครับ พ่อไม่อยู่เหรอครับ"ตอบพร้อมกับถามหาบิดา ซึ่งปกติพ่อเขามักจะอยู่ติดบ้านเสมอ
"ไม่ดึกละมั้ง บ้านฉันเรียกว่าสว่างคาตาเลยแหละแบบนี้"คุณปานวาดตอบลูกชายแบบคนหาเรื่องทะเลาะกัน ยกที่หนึ่งกำลังจะเริ่ม ชายหนุ่มคิดในใจ แม่กับเขาถือว่าเป็นมวยถูกคู่
"พอดีมีเรื่องให้คิดนะครับ เลยอยู่คิดดึกไปหน่อย"คำตอบของลูกชาย ทำให้คุณปานวาดลอบเบะปาก มีเรื่องให้คิด หรือเรื่องไม่ต้องคิดกันแน่ ทำอย่างเดียว
"แม่อ่านอะไรอยู่ครับ เห็นเพ่งจนตาแทบหลุด"ถามมารดาเพราะตั้งแต่ลงมาเขาเห็นแม่นั่งจ้องมองอะไรบางอย่างในหน้าหนังสือพิมพ์อย่างตั้งอกตั้งใจ
"ข่าวซุบซิบสังคมไฮโซนั่นแหละ เออตาหนึ่ง แกดูนี่สิ นี่ใช่ว่าที่ลูกเขยคุณหญิงอรสาหรือเปล่า ในข่าวมันใช้อักษรย่อนะ ฉันแปลไม่ถูก ในข่าวเขาเขียนว่า น้องม.นี่หรือป่าวที่เป็นตัวจริงของ ไฮโซ พ.ที่ทำให้ น้องอ. มีท่าว่าจะหม้ายขันหมาก แกดูสิเขามีรูปด้วย แหมๆนั่งกอดกันกลมเชียว"บอกพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้ชายหนุ่ม เพราะคำว่า ม.พ.อ. ที่สะดุดหูทำให้ชายหนุ่มรับมาดู รูปในหนังสือพิมพ์ เบลอหน้าคนทั้งสองไว้ไม่ให้เห็นได้ชัดแต่เสื้อผ้าและสถานที่ มันก็ชัดเจน ผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีนี้คือคนเดียวกับที่เขาเห็นในผับเมื่อคืน คนที่นั่งกอดกับพุฒิพัฒน์ และก็เป็นคนเดียวกับที่เขาไปราวีเธอ ถ้า ม.นี่คือตัวจริงอย่างที่ข่าวเขียนไว้ งั้นคงไม่ผิดตัว เธอคือคนรักของพุฒิพัฒน์จริงๆ ธรรศธรไล่เรียงเรื่องราวของคนทั้งสองตามความคิดของตัวเอง คนที่รักกับพุฒิพัฒน์ตั้งแต่อยู่ที่อเมริกาตามที่พิมพ์มาดาเคยหลุดปากบอกเขาให้รับรู้ สวยขนาดนี้นี่เล่า ถึงได้ทำให้พุฒิพัฒน์หลงจนโงหัวไม่ขึ้น
"ตาหนึ่ง ตาหนึ่ง ไอ้..."
"ฮะ อะไรนะครับ แม่ว่าอะไรนะ"
"ถึงกับตลึงเลยเหรอยะ เปล่าฉันยังไม่ได้พูดอะไร เห็นแกมองตาค้างขนาดนั้นเลยจะถามแกว่าใช่ไหม"คุณปานวาดบอกลูกชาย
"ไม่ทราบสิครับ ผมจำหน้าเขาไม่ได้ ว่าแต่แม่ไปเป็นแฟนคลับเขาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ผมเห็นแม่ตามติดชีวิตเขาจัง"
"แฟนคลับ บ้าบออะไรยะ ฉันเห็นเขาจะหมั้นกับหนูแอ้ อยู่รอมล่อ ยังจะมามีข่าวแบบนี้อีก สงสารหนูแอ้นะ"นางบอกพร้อมกับถอนหายใจ
"นี่ถ้าแกมีปัญญาสักนิด จีบหนูแอ้ติด ฉันคงตายตาหลับ"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกันครับ ผมจีบแอ้ไม่ติด กับแม่ตายตาหลับ"
"อ้าว!ก็อย่างน้อยๆแกก็ยังมีคนดีๆมาดูแลกับเค้าบ้างไง ฉันจะได้หมดห่วง ว่าอย่างน้อยทรัพย์สมบัติที่พ่อแก่อุตสาห์ หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงจะได้ไม่ถูกแกผลาญหมดนะสิ"
"แม่! นี่ผมดูแย่ในสายตาแม่ขนาดนั้นเลยหรอครับ"ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงสูงหลังจากโดนมารดาหลอกว่ากระทบ
"ก็ถ้าแกยังลอยชายไปวันๆแบบนี้ ฉันก็ต้องห่วงสมบัติฉันเป็นธรรมดานั่นแหละยะ"บอกพร้อมกับลุกขึ้น
"ไปดูอาหารกลางวันดีกว่า อยู่แถวๆนี้ เหม็นขี้หน้าคน"พูดจบแม่เขาก็พาร่างอันอ้วนถ้วนสมบูรณ์ เดินนวยนาดจากไป แม่คือคนที่ดูถูกเขาได้วันละยี่สิบสี่ชั่วโมงจริงๆ ชายหนุ่มส่ายหัว พร้อมกับมองดูรูปคนทั้งสอง มือใหญ่เผลอลูบริมฝีปากตัวเอง เมื่อสายตาเผลอมองไปยังปากอิ่มที่ขนาดเบลอภาพแล้ว แต่ยังชัดเจนในความรู้สึกของเขา ผู้หญิงคนนี้เปรียบเหมือนแสงไฟที่วูบวาบ ให้ความรู้สึกร้อนลุ่มยามที่ได้ใกล้ชิด จนยากที่ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ในขณะที่ผู้หญิงอีกคน เปรียบเสมือนสายน้ำที่ไหลเรื่อยๆแต่ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นยามที่ได้ใกล้ชิด พิมพ์มาดา เช้านี้เธอจะเป็นอย่างไรนะ ยามที่ได้เห็นรูปคนที่ตัวเองรักกอดกับคนอื่น ธรรศธรคิดห่วงใย จนมือใหญ่เผลอขยุ้มหนังสือพิมพ์ในมือ ตามอารมณ์ของตัวเองที่กำลังประทุขึ้น
เช้านี้พุฒิพัฒน์เองก็ตื่นสายกว่าปกติ เพราะเป็นวันหยุดชายหนุ่มจึงไม่รีบร้อน เมื่อคืนหลังจากแยกจากมณีรินทร์ วันนี้เขาตั้งใจจะคุยเรื่องคนรักให้ครอบครัวรับรู้ พุฒิพัฒน์คิดในใจ
"ออตาพุฒิวันนี้อยู่บ้านเหรอดีเลยตอนบ่ายพาแม่ไปบ้านคุณหญิงหน่อย แม่ได้กฤษ์หมั้นมาแล้วนะ หมั้นเช้าแต่งเย็นเลย จัดงานวันเดียวให้มันจบ จะช้าจะเร็วก็ต้องแต่งกันอยู่ดี"คุณเกตุแก้วบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"อะไรนะครับแม่ มันไม่เร็วไปหน่อยหรอครับ"พุฒิพัฒน์เองก็ตกใจกับคำพูดของมารดาเช่นกัน
"ผมกับพิมพ์มาดา เรายังไม่ได้ลองคบกันเลย คุณแม่จะไม่ให้ผมได้ศึกษาดูใจกันก่อนเหรอครับ"
"ที่แกอ้างโน้นอ้างนี่ เพราะยายนี่ใช่ไหม"คุณเกตุแก้วโยนหนังสือพิมพ์ให้ชายหนุ่ม สายตาพุฒิพัฒน์มองไล่ไปตามรูปภาพและตัวหนังสือทันที ข่าวเร็วมาก
"ก็อย่างที่คุณแม่ทราบ ผมมีคนรักอยู่แล้ว เราคบกันมาตั้งแต่อยู่เมืองนอก"ชายหนุ่มอธิบาย
"แล้วไง เมื่อก่อนแม่ไม่เคยว่านะ แกจะมีเล็กมีน้อยที่ไหน หรือแกจะคบกับใคร แต่ตอนนี้แม่ขอให้แก แต่งงานกับหนูแอ้ แม่ขอแกแค่นี้ทำให้แม่ได้ไหม พุฒิแกเป็นลูกชายคนเดียวของแม่นะ แม่อยากเห็นแกมีความสุข อยากให้แกได้แต่งงานกับคนดีๆมีชาติตระกูล แกแต่งไปแล้ว แกจะเก็บคนนี้ไว้แม่ก็ไม่ว่า แม่ขอแค่แกแต่งกับหนูแอ้แค่นั้น ทำให้แม่ได้ไหม"
"คุณแม่"เป็นพุฒิพัฒน์เสียอีกที่เป็นฝ่ายอึ่งไป แม่เขาคิดอะไรอยู่ การที่ขอให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ใช่คนรัก เขาก็รู้สึกแย่พอแล้ว นี่แม่เขายังเสนอให้เขาเก็บมณีรินทร์ไว้เป็นเมียน้อยอีกด้วย ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว เช้านี้สำหรับพุฒิพัฒน์แล้ว ช่างไม่สดใสเอาเสียเลย
"ผมขอตัวนะครับ ตอนบ่ายผมมีธุระ เชิญคุณพ่อคุณแม่นะครับ"ชายหนุ่มออกมาจากบ้านด้วยหัวใจที่หนัก ถ้ามณีรินทร์รู้ถึงความใจกว้างของมารดาเขาจะเป็นอย่างไรนะ ผู้หญิงอย่างมณีรินทร์ ถ้าไม่ได้เป็นที่หนึ่งเธอก็จะไม่เป็นตัวเลือกให้ใคร ข้อนี้พุฒิพัฒิน์รู้ดี
"พุฒิ มาแต่เช้าเลยค่ะ"ทันทีที่เห็นหน้าคนรัก มณีรินทร์ก็ส่งยิ้มหวานมาทักทาย ยิ้มแบบนี้สิ ที่พุฒิพัฒน์อยากเห็นทุกวัน
"วันนี้มายด์ไปไหนหรือเปล่าครับ ผมว่าจะชวนออกไปข้างนอกด้วยกัน"
"คุณแม่ชวนทานข้าวกลางวันด้วยกันค่ะ"ตอบพร้อมกับส่งแขนเรียวไปโอบแขนชายหนุ่ม
"เข้าบ้านกันค่ะ"
"เออ มายด์"
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"บอกพร้อมกับหันมามองหน้าคนรัก
"มายด์ครับ ผมเรียนเรื่องของเราให้คุณพ่อคุณแม่ทราบแล้วนะครับ ท่านอนุญาตให้เราคบกันครับ"
"จริงหรอคะพุฒิพูดจริงหรอคะ มายด์ดีใจที่สุดเลยค่ะ "ใบหน้าสวยยิ้มด้วยความดีใจจนออกนอกหน้า
"ครับ แต่คุณแม่ขอให้ผมแต่งงานกับพิมพ์มาดา "พุฒิพัฒน์บอกด้วยสีหน้าลำบากใจ
"ยังไงค่ะ"ใบหน้าสวยที่ยิ้มหวานแทบหุบยิ้มทันที
"พุฒิพูดอะไรนะคะ มายด์ฟังไม่ชัด"
"คุณแม่ท่านอนุญาตให้เราคบกัน แต่ผม ต้องแต่งงาน"
"คะ"
"คุณจะให้มายด์คบคุณในขณะที่คุณแต่งงานมีภรรยา แล้วมายด์จะคบกับคุณในฐานะอะไรดีคะ"
"มายด์ ผมพยายามแล้ว"
"พยายามแล้วหรอคะ คุณต้องให้ฉัน"คลานเข่าเข้าไปกราบขอบคุณคุณแม่คุณไหมคะ ที่อุตสาห์อนุญาตให้ฉันเป็นเมียน้อยคุณได้"ใบหน้าหวานที่ดูเหมือนจะมีความสุขในตอนแรก เริ่มมีอาการโกรธจัดแบบคนไม่พอใจ
"มายด์ คุณก็พูดเกิน"
"เกินไปเหรอ ทำไมคะพุฒิ การที่คุณคบกับฉัน มันทำให้ครอบครัวคุณเสียชื่อเสียงมากนักหรอคะ ฉันมันไม่มีอะไรดีเลยในสายตาของครอบครัวคุณใช่ไหมคะ"
"เราเลิกกันเถอะค่ะ"มณีรินทร์บอกเลิกหลังจากทั้งสองนิ่งกันไปสักพัก
"ถ้าคุณมีฉันไม่ได้ รักฉันไม่ได้ เราก็เลิกกันดีกว่าค่ะ ออและฉันฝากขอบคุณแม่คุณด้วยนะคะ สำหรับข้อเสนอเมียน้อยให้ฉัน"
"มายด์ ใจเย็นๆก่อนสิ"
"ไม่ค่ะ ฉันจะไม่ทน ฉันเลือกเจ็บครั้งเดียว แต่จบค่ะ"พูดจบก็ปล่อยมือจากแขนคนรักและเดินเข้าบ้านทันที
"มายด์ มายด์ คุยกันก่อนสิโธ่เว้ย!"พุฒิพัฒน์สบถลั่น อะไรๆมันดูยุ่งเหยิงไปหมด ให้มันได้อย่างนี้สิ พุฒพัฒน์คิดในใจ อย่างคนหัวเสีย
ใบหน้าสวยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา หลังจากคุยกับพุฒิพัฒน์แล้ว มณีรินทร์ก็ตัดสินใจที่จะเลิกกับชายหนุ่ม หลายปีที่คบกัน เธอยอมรับว่ารักพุฒิพัฒน์มาก มากจนไม่คิดจะรักคนอื่นได้อีก มณีรินทร์เป็นคนที่รักคนยากแต่ถ้ารักแล้วเธอจะรักตลอดไป หลายครั้งที่บิดาพยายามพาเธอออกงานให้ได้พบปะกับคนอื่นมากหน้าหลายตา เพื่อให้เธอได้มีโอกาสมองชายคนอื่นบาง พ่อของเธอแนะนำชายที่เหมาะสมให้เธอหลายต่อหลายคน แต่เธอก็ปิดโอกาสตัวเอง เพราะเธอรักและมั่นคงต่อพุฒิพัฒน์เสมอมา จนวันนี้ที่เธอตัดสินใจจบความสัมพันธ์กับชายหนุ่ม เธอไม่เคยคิดถึงมันเลย เพราะเธอคิดว่ายังไงพุฒิพัฒน์ก็รักเธอเหมือนกับที่เธอรักเขา แต่คำบอกที่ออกมาจากปากของคนรัก ที่เสนอให้เธอคบกับเขาต่อไป ในขณะที่เค้าต้องแต่งงานกับคนอื่นแค่นี้มันก็ชัดเจนพอแล้วว่าพุฒิพัฒน์เลือกใคร
"มาก่อนมาหลังมันไม่สำคัญหรอกสิ่งสำคัญสำหรับชายหนุ่มคงเป็นความเหมาะสม ไม่ใช่ความรักสินะ มันอยู่ที่ว่าผู้ชายจะเลือกใคร"มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง
"พอทีเถอะมายด์ แกจะร้องให้มันได้อะไรขึ้นมา"มณีรินทร์บอกตัวเอง
หญิงสาวออกจากบ้านในเวลาต่อมา ขับรถไปที่ทำงาน วันนี้เป็นวันหยุดออฟฟิศปิดงานก็ไม่มีค้างคา แต่มันก็ยังดีกว่าที่จะปล่อยให้เวลาผ่านไปกับความคิดฟุ้งซ่าน หลายครั้งที่ยกมือถือขึ้นมากดหาเบอร์ของวิชุดา แต่เพื่อนสนิทกำลังยุ่งกับการย้ายบ้านใหม่เลยไม่อยากรบกวน มณีรินทร์ปล่อยให้เวลาผ่านไปจนมืดค่ำ เธอไม่อยากกลับบ้านไม่อยากพบใคร หลายครั้งที่มีสายเรียกเข้าจาก พุฒิพฒน์ แต่หญิงสาวเลือกไม่รับสาย และปิดมือถือในที่สุด
สองเดือนต่อมาวันทำงานพุฒิพัฒน์มักจะกลับบ้านเร็วเสมอ ถ้าวันไหนติดประชุมหรือต้องไปงานเลี้ยง ก็จะโทรมาบอกหรือไม่ก็ให้คนขับรถมารับเธอไปงานด้วยกัน วันหยุดก็ขลุกอยู่แต่กับบ้าน ไม่ว่าพิมพ์มาดาจะขยับตัวไปไหน เขาก็จะตามติด จนกลายเป็นเงาของเธอ คุณโชติคุณอรสาต่างก็ดีใจ ที่ลูกเขยกลับตัวเป็นคนดี ยิ่งคุณเกตุแก้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง นางดีใจที่สุดที่สุดท้ายลูกชายก็ต้องขอบคุณที่รู้ว่านางเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา เพลย์บอยไฮโซหนุ่มนักรัก กลายร่างมาเป็นลูกแมวเชื่องๆที่คอยเดินตามภรรยา ใครเห็นภาพนี้ต่างก็ตกใจกันทั้งนั้น วันหยุดพิมพ์มาดาจะมาหามณีรินทร์เสมอ ถ้าเธอไม่มามณีรินทร์กับครอบครัวก็จะมาหาเธอ หนูของขวัญน่ารักมาก น่ารักจนพิมพ์มาดายากมีลูกสักคน เธอไม่ได้คุมกำเนิดแต่ทำไมลูกถึงมาช้า ในขณะที่มณีรินทร์ทำท่าจะท้องลูกคนที่สอง พุฒิพัฒน์กับธรรศธรเปิดใจคุยกัน และทำให้เขารู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมณีรินทร์ เป็นเพราะธรรศธรอยากจะกันเธอออกจากชีวิตเขา แต่สุดท้ายธรรศธรก็หลงรักมณีรินทร์ จึงวางแผนจับเธอเป็นภรรยา เรื่องนี้พิมพ์มาดาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เรื่องของเอวิกาที่ทำกับธรรศธร ทำให้พิมพ์มาดารู้สึกดีกับพุฒิพัฒน์
"ออกไปจากที่นี่ก่อนที่ผมจะเรียกตำรวจมาลากคอคุณ"ชายหนุ่มขู่คำราม ตาคู่คมมองใบหน้าที่ยิ้มสะใจของเอวิกาอย่างเดือดจัด ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้รักเขา และก็ไม่ได้ต้องการเขาจริงๆ ร่างบางที่ยืนโงนเงนตรงบันไดพยายามตั้งสติ เธอจะไม่อ่อนแอให้ใครเห็นอีกแล้ว แม้จะเจ็บจนแทบเดินไม่ไหว แต่เธอจะไม่ยอมแพ้ จะไม่ยอมให้คนพวกนั้นมองเธอเป็นตัวตลก มือบางที่กำราวบันไดสั่นระริก เมื่อพยายามบังคับขาที่สั่น ให้ก้าวเดินไปอย่างมั่นคงที่สุด นี่จะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้าย เธอจะไม่ร้องไห้อีกแล้วเสียงเอะอะโวยวายของคนทั้งสองเงียบไปแล้ว เขาจะตกลงอะไรกันก็ช่าง มันไม่เกี่ยวกับเธอ"แอ้พี่ขอโทษ"เสียงนุ่มทุ้มมาพร้อมวงแขนแกร่งที่ช้อนเธอเข้าสู่อ้อมแขน แล้วพาเดินขึ้นชั้นบน ทำให้น้ำตาเธอไหลออกมาไม่หยุด ร่างบางสะอื้นจนตัวโยน เมื่อถูกรวบเอาไปกอดไว้ในอกกว้าง"พี่ขอโทษๆๆ"พุฒิพัฒน์พูดแต่คำว่าขอโทษซ้ำๆ เพราะมันเป็นคำเดียวที่เขาพูดได้ในตอนนี้"แอ้เจ็บค่ะ เจ็บมากจริงๆ พี่พุฒิหย่าให้แอ้นะคะ แอ้ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ แอ้ทำไปเพราะแอ้รักพี่ ไม่ได้ตั้งใจทำลายชีวิตพี่เลยจริงๆ"พูดปนเสียงสะอื้นเพราะเจ้าตัวไม่เก็บมันไว้อีกแล้ว คำพูดของผู้หญิงคนนั
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้หญิงสาวตัวชาเหมือนถูกแช่แข็ง พุฒิพัฒน์ก็เช่นกัน ชายหนุ่มมองหน้าคนมาเยือน ก่อนจะกัดฟันเพื่อข่มความโกรธเอาไว้ ผู้หญิงสวยจัดแต่งตัวด้วยเสื้อผ้ารัดรูป ยืนฉีกยิ้มหวานส่งให้เธอ ก่อนจะยกมือไหว้ด้วยท่าทางอ่อนช้อย ดูก็รู้ว่าไม่ได้มาหาเธอแบบเป็นมิตร"สวัสดีค่ะคุณพี่ เอมี่มารบกวนหรือเปล่าคะ"แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ตาคู่เฉี่ยวมองพิมพ์มาดาอย่างเย้ยหยัน"มาทำไม!"ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงไม่เบาเลย คนฟังรู้ดีว่าเขากำลังโกรธจัด"เห็นคุณไม่รับโทรศัพท์ เอมี่เลยมาหา เลยถือโอกาสมาทำความรู้จักกับคุณพี่ด้วย วันนั้นที่คอนโดเห็นคุณพี่รีบกลับ เลยไม่ทันได้ทักทาย เอมี่นะคะ เอวิกาค่ะคุณพี่คงคุ้นหน้าเอมี่จากรูปถ่ายแล้ว"เอวิกาพูดหน้าตาเฉย จงใจเน้นคำว่ารูปถ่ายชัดๆ จนคนที่ยืนข้างๆหญิงสาวเย็นวาบไปทั้งตัว"รูปถ่ายอะไร!"พุฒิพัฒน์ถามเสียงเย็น กรามแกร่งขบเข้ากันจนเป็นสันนูน เอวิกาทำอะไรลับหลังเขาอีกแล้วหรือ"กลับไป! ก่อนที่ผมจะหมดความอดทนกับคุณ"พุฒิพัฒน์เอ่ยปากไล่ เมื่อเห็นพิมพ์มาดายังเฉย เขาก็ยิ่งรู้สึกผิด"แหมคุณพี่ยังไม่พูดอะไรสักคำ พุฒิอย่าใจร้ายสิคะ"เอวิกาท้าทาย "ลูกฉันไม่พูด แต่ฉันนี่แหละจะพูด
"สนุกไหมลูก"เสียงที่ร้องถามมาก่อนตัว ทำให้คนที่ลงจากรถกลอกตาไปมาอย่างแสนงอน คุณหญิงอรสายิ้มกริ่ม เมื่อลูกเขยขับรถพาลูกสาวมาจอดหน้าบ้าน"ไปเที่ยวมาทำไมทำหน้าแบบนี้คะ ไม่สนุกเหรอ""สนุกคะ ถ้าแอ้ได้เที่ยวกับเพื่อนๆ""อ้าว...แล้วพวกยายก้อยไม่ไปเหรอคะ""ไปคะ...แต่"พิมพ์มาดาหยุดคำพูดไว้แค่นั้น เกือบไปแล้วจะให้แม่รู้ได้ยังไง ว่าเธอถูกพุฒิพัฒน์ขังให้อยู่แต่ในห้อง แล้วเสิร์ฟเซ็กให้เธอทั้งก่อนและหลังอาหาร"ว่าไงคะคุณพุฒ..."กระซิบถามลูกเขย แต่ได้ค้อนวงโตจากลูกสาวเป็นคำตอบ"ไม่พลาดครับคุณแม่"ชายหนุ่มตอบพร้อมกับยักคิ้วให้คนแก่ คุณหญิงอรสาหน้าบาน เมื่อได้คำตอบที่ถูกใจ"อย่าลืมโทรบอกคุณอาเกตุนะคะแม่"พูดประชดใส่มารดาก่อนจะเดินเข้าบ้านไป"เก่งมากค่ะคุณพุฒิ ที่คุยกันไว้ตกลงค่ะ แม่ยกโทษให้ ทีนี้ก็เหลือแต่ยายแอ้ แม่เอาใจช่วยค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ"พูดจบก็เดินจากไป ชายหนุ่มส่ายหัวให้แม่ยาย เพราะรู้ว่านางจะไปไหน เรื่องนี้แม่เขาก็ต้องรู้ ร่างสูงถอนหายใจ ก่อนจะเดินตามคนร่างบางเข้าบ้าน 7 วัน 7 คืนที่เชียงใหม่ เขาจัดหนักจัดเต็มให้เธอ นึกว่าจะยกโทษให้บ้าง ที่ไหนได้กับโกรธหนักกว่าเดิม จะมีก็แต่เวลาบนเตียงเท่านั้นที่ยอ
"อื้อ..."ร่างบางขยับเมื่อรู้สึกรำคาญ เมื่อมีอะไรมากวนไม่หยุด มือบางปัดสิ่งกวนใจเหล่านั้นออก แต่มันก็ยังกลับมาอีก แถมยังเพิ่มความรำคาญให้เธอหนักขึ้น"ตื่นได้แล้วคนขี้เซา ไม่ไปงานเพื่อนเหรอ"เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหู ก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าไปหยอกล้อกับติ่งหูเล็ก"อื้อ..."รู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วท้องน้อย เมื่อขยับตัวจนเผลอยกมือมากุมเอาไว้"เจ็บมากเลยเหรอ"ชายหนุ่มมองตามมือของคนหลับ ก่อนจะมองใบหน้าเนียนที่ขมวดคิ้วเข้าหากัน ทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ พิมพ์มาดาเองก็เหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่คนเดียว"ไม่เป็นไรค่ะ"บอกพร้อมกับปัดมือหนาที่ลูบแก้มออก แต่กลับได้จมูกโด่งๆมาแทนมือ เมื่อคนตัวโตจงใจหอมแก้มเธอฟอดใหญ่"กี่โมงแล้วคะ""ตีห้าครับ พี่เห็นแอ้นัดกับเพื่อนว่าจะไปงานแต่เช้าเลยเรียก ลุกไหวไหมครับ"ไม่พูดเปล่ามือไม้ยังลูบไล้ไปบนผิวเปล่าเปลือยช่วงไหล่ ที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมา"พี่ออกไปก่อนได้ไหมคะ แอ้จะอาบน้ำ""นางอายตัวนี้ขี้อายจัง พี่เห็นไปหมดทั้งตัว จะอายทำไมคะ"พูดพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกเอ็นดูคนที่ดึงผ้าห่มมาปิดจนถึงคอ"หนาวเหรอครับ ข้างนอกอากาศเย็น""ค่ะ"รับปากไปส่งๆ จะให้บอกว่าเธออา
ร่างสูงกระตุกเกร็งน้ำรักขาวขุ่นเปรอะเปื้อนจนเต็มสองมือ หญิงสาวละมือออกเหมือนสิ่งที่เธอจับไว้เป็นของร้อน "เสร็จแล้วก็ถอยไปสิคะ แอ้จะอาบน้ำ""พี่เสร็จแต่แอ้ยังไม่เสร็จ"พูดจบก็ยอบตัวลงกับพื้น มือทั้งสองข้างจับยึดโคนขาเรียวเอาไว้ จับแยกออกจากกัน จนเนินเนื้อบริเวณนั้นแบะอ้า พิมพ์มาดาตกใจ มือบางค้ำขอบอ่างเอาไว้เพราะกลัวจะหงายหลังลงไป"สวยมากค่ะ หอมน่ากิน""พี่พุฒิอย่าค่ะ!"เสียงร้องห้ามถูกกลืนหาย เมื่อหญิงสาวเม้มปากเข้าหากัน ยามเมื่อลิ้นอุ่นชื้นตวัดปาดเลียลงมาที่ใจกลางความเป็นหญิง แล้วลากไล้ขึ้นลง ก่อนจะดูดเน้นๆบริเวณที่ไวต่อความรู้สึก แล้วโจนจ้วงปลายลิ้นเข้าสู่ร่องเสียวของเธอ ร่างบางบิดส่ายน้ำหวานเหนียวหนืดพากันไหลออกมา เมื่อไม่อาจต้านกับธรรมชาติของร่างกายได้"อ๊ะ...พี่...""เสียวใช่ไหม พี่ทำแบบนี้แอ้เสียวใช่ไหม ร้องออกมาค่ะไม่ต้องอายใคร"ลิ้นร้อนยังทำงานไปตามจังหวะอารมณ์ของคนกุมเกม เธอสดใหม่และไร้เดียงสา เจอลิ้นอุ่นๆเข้าไป ถึงกับอยู่ไม่ติดพื้น เขาจะล่ามเธอไว้ด้วยความรู้สึกที่เขามี รวมทั้งเซ็กร้อนๆนี่ด้วย เขาจะทำให้เธอโหยหาจนทิ้งเขาไม่ลง "อ่า...พี่"พิมพ์มาดาพูดไม่ออก เมื่อถูกความเสียวเข้าเ







