วันนี้ธรรศธรตื่นสายกว่าปกติ เพราะเป็นวันหยุดเขาเลยนอนต่อแบบคนเกียจคร้าน เมื่อคืนกลับมาดึก เลยทำให้เช้านี้เขานอนยาวไปสักหน่อย
"เสด็จลงมาได้แล้วเหรอยะ ฉันนึกว่าแกจะนอนถึงเย็นเสียอีก"คำทักทายจากแม่ทันทีที่เจอหน้ากัน
"เมื่อคืนกลับดึกน่ะครับ พ่อไม่อยู่เหรอครับ"ตอบพร้อมกับถามหาบิดา ซึ่งปกติพ่อเขามักจะอยู่ติดบ้านเสมอ
"ไม่ดึกละมั้ง บ้านฉันเรียกว่าสว่างคาตาเลยแหละแบบนี้"คุณปานวาดตอบลูกชายแบบคนหาเรื่องทะเลาะกัน ยกที่หนึ่งกำลังจะเริ่ม ชายหนุ่มคิดในใจ แม่กับเขาถือว่าเป็นมวยถูกคู่
"พอดีมีเรื่องให้คิดนะครับ เลยอยู่คิดดึกไปหน่อย"คำตอบของลูกชาย ทำให้คุณปานวาดลอบเบะปาก มีเรื่องให้คิด หรือเรื่องไม่ต้องคิดกันแน่ ทำอย่างเดียว
"แม่อ่านอะไรอยู่ครับ เห็นเพ่งจนตาแทบหลุด"ถามมารดาเพราะตั้งแต่ลงมาเขาเห็นแม่นั่งจ้องมองอะไรบางอย่างในหน้าหนังสือพิมพ์อย่างตั้งอกตั้งใจ
"ข่าวซุบซิบสังคมไฮโซนั่นแหละ เออตาหนึ่ง แกดูนี่สิ นี่ใช่ว่าที่ลูกเขยคุณหญิงอรสาหรือเปล่า ในข่าวมันใช้อักษรย่อนะ ฉันแปลไม่ถูก ในข่าวเขาเขียนว่า น้องม.นี่หรือป่าวที่เป็นตัวจริงของ ไฮโซ พ.ที่ทำให้ น้องอ. มีท่าว่าจะหม้ายขันหมาก แกดูสิเขามีรูปด้วย แหมๆนั่งกอดกันกลมเชียว"บอกพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้ชายหนุ่ม เพราะคำว่า ม.พ.อ. ที่สะดุดหูทำให้ชายหนุ่มรับมาดู รูปในหนังสือพิมพ์ เบลอหน้าคนทั้งสองไว้ไม่ให้เห็นได้ชัดแต่เสื้อผ้าและสถานที่ มันก็ชัดเจน ผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีนี้คือคนเดียวกับที่เขาเห็นในผับเมื่อคืน คนที่นั่งกอดกับพุฒิพัฒน์ และก็เป็นคนเดียวกับที่เขาไปราวีเธอ ถ้า ม.นี่คือตัวจริงอย่างที่ข่าวเขียนไว้ งั้นคงไม่ผิดตัว เธอคือคนรักของพุฒิพัฒน์จริงๆ ธรรศธรไล่เรียงเรื่องราวของคนทั้งสองตามความคิดของตัวเอง คนที่รักกับพุฒิพัฒน์ตั้งแต่อยู่ที่อเมริกาตามที่พิมพ์มาดาเคยหลุดปากบอกเขาให้รับรู้ สวยขนาดนี้นี่เล่า ถึงได้ทำให้พุฒิพัฒน์หลงจนโงหัวไม่ขึ้น
"ตาหนึ่ง ตาหนึ่ง ไอ้..."
"ฮะ อะไรนะครับ แม่ว่าอะไรนะ"
"ถึงกับตลึงเลยเหรอยะ เปล่าฉันยังไม่ได้พูดอะไร เห็นแกมองตาค้างขนาดนั้นเลยจะถามแกว่าใช่ไหม"คุณปานวาดบอกลูกชาย
"ไม่ทราบสิครับ ผมจำหน้าเขาไม่ได้ ว่าแต่แม่ไปเป็นแฟนคลับเขาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ผมเห็นแม่ตามติดชีวิตเขาจัง"
"แฟนคลับ บ้าบออะไรยะ ฉันเห็นเขาจะหมั้นกับหนูแอ้ อยู่รอมล่อ ยังจะมามีข่าวแบบนี้อีก สงสารหนูแอ้นะ"นางบอกพร้อมกับถอนหายใจ
"นี่ถ้าแกมีปัญญาสักนิด จีบหนูแอ้ติด ฉันคงตายตาหลับ"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกันครับ ผมจีบแอ้ไม่ติด กับแม่ตายตาหลับ"
"อ้าว!ก็อย่างน้อยๆแกก็ยังมีคนดีๆมาดูแลกับเค้าบ้างไง ฉันจะได้หมดห่วง ว่าอย่างน้อยทรัพย์สมบัติที่พ่อแก่อุตสาห์ หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงจะได้ไม่ถูกแกผลาญหมดนะสิ"
"แม่! นี่ผมดูแย่ในสายตาแม่ขนาดนั้นเลยหรอครับ"ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงสูงหลังจากโดนมารดาหลอกว่ากระทบ
"ก็ถ้าแกยังลอยชายไปวันๆแบบนี้ ฉันก็ต้องห่วงสมบัติฉันเป็นธรรมดานั่นแหละยะ"บอกพร้อมกับลุกขึ้น
"ไปดูอาหารกลางวันดีกว่า อยู่แถวๆนี้ เหม็นขี้หน้าคน"พูดจบแม่เขาก็พาร่างอันอ้วนถ้วนสมบูรณ์ เดินนวยนาดจากไป แม่คือคนที่ดูถูกเขาได้วันละยี่สิบสี่ชั่วโมงจริงๆ ชายหนุ่มส่ายหัว พร้อมกับมองดูรูปคนทั้งสอง มือใหญ่เผลอลูบริมฝีปากตัวเอง เมื่อสายตาเผลอมองไปยังปากอิ่มที่ขนาดเบลอภาพแล้ว แต่ยังชัดเจนในความรู้สึกของเขา ผู้หญิงคนนี้เปรียบเหมือนแสงไฟที่วูบวาบ ให้ความรู้สึกร้อนลุ่มยามที่ได้ใกล้ชิด จนยากที่ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ในขณะที่ผู้หญิงอีกคน เปรียบเสมือนสายน้ำที่ไหลเรื่อยๆแต่ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นยามที่ได้ใกล้ชิด พิมพ์มาดา เช้านี้เธอจะเป็นอย่างไรนะ ยามที่ได้เห็นรูปคนที่ตัวเองรักกอดกับคนอื่น ธรรศธรคิดห่วงใย จนมือใหญ่เผลอขยุ้มหนังสือพิมพ์ในมือ ตามอารมณ์ของตัวเองที่กำลังประทุขึ้น
เช้านี้พุฒิพัฒน์เองก็ตื่นสายกว่าปกติ เพราะเป็นวันหยุดชายหนุ่มจึงไม่รีบร้อน เมื่อคืนหลังจากแยกจากมณีรินทร์ วันนี้เขาตั้งใจจะคุยเรื่องคนรักให้ครอบครัวรับรู้ พุฒิพัฒน์คิดในใจ
"ออตาพุฒิวันนี้อยู่บ้านเหรอดีเลยตอนบ่ายพาแม่ไปบ้านคุณหญิงหน่อย แม่ได้กฤษ์หมั้นมาแล้วนะ หมั้นเช้าแต่งเย็นเลย จัดงานวันเดียวให้มันจบ จะช้าจะเร็วก็ต้องแต่งกันอยู่ดี"คุณเกตุแก้วบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"อะไรนะครับแม่ มันไม่เร็วไปหน่อยหรอครับ"พุฒิพัฒน์เองก็ตกใจกับคำพูดของมารดาเช่นกัน
"ผมกับพิมพ์มาดา เรายังไม่ได้ลองคบกันเลย คุณแม่จะไม่ให้ผมได้ศึกษาดูใจกันก่อนเหรอครับ"
"ที่แกอ้างโน้นอ้างนี่ เพราะยายนี่ใช่ไหม"คุณเกตุแก้วโยนหนังสือพิมพ์ให้ชายหนุ่ม สายตาพุฒิพัฒน์มองไล่ไปตามรูปภาพและตัวหนังสือทันที ข่าวเร็วมาก
"ก็อย่างที่คุณแม่ทราบ ผมมีคนรักอยู่แล้ว เราคบกันมาตั้งแต่อยู่เมืองนอก"ชายหนุ่มอธิบาย
"แล้วไง เมื่อก่อนแม่ไม่เคยว่านะ แกจะมีเล็กมีน้อยที่ไหน หรือแกจะคบกับใคร แต่ตอนนี้แม่ขอให้แก แต่งงานกับหนูแอ้ แม่ขอแกแค่นี้ทำให้แม่ได้ไหม พุฒิแกเป็นลูกชายคนเดียวของแม่นะ แม่อยากเห็นแกมีความสุข อยากให้แกได้แต่งงานกับคนดีๆมีชาติตระกูล แกแต่งไปแล้ว แกจะเก็บคนนี้ไว้แม่ก็ไม่ว่า แม่ขอแค่แกแต่งกับหนูแอ้แค่นั้น ทำให้แม่ได้ไหม"
"คุณแม่"เป็นพุฒิพัฒน์เสียอีกที่เป็นฝ่ายอึ่งไป แม่เขาคิดอะไรอยู่ การที่ขอให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ใช่คนรัก เขาก็รู้สึกแย่พอแล้ว นี่แม่เขายังเสนอให้เขาเก็บมณีรินทร์ไว้เป็นเมียน้อยอีกด้วย ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว เช้านี้สำหรับพุฒิพัฒน์แล้ว ช่างไม่สดใสเอาเสียเลย
"ผมขอตัวนะครับ ตอนบ่ายผมมีธุระ เชิญคุณพ่อคุณแม่นะครับ"ชายหนุ่มออกมาจากบ้านด้วยหัวใจที่หนัก ถ้ามณีรินทร์รู้ถึงความใจกว้างของมารดาเขาจะเป็นอย่างไรนะ ผู้หญิงอย่างมณีรินทร์ ถ้าไม่ได้เป็นที่หนึ่งเธอก็จะไม่เป็นตัวเลือกให้ใคร ข้อนี้พุฒิพัฒิน์รู้ดี
"พุฒิ มาแต่เช้าเลยค่ะ"ทันทีที่เห็นหน้าคนรัก มณีรินทร์ก็ส่งยิ้มหวานมาทักทาย ยิ้มแบบนี้สิ ที่พุฒิพัฒน์อยากเห็นทุกวัน
"วันนี้มายด์ไปไหนหรือเปล่าครับ ผมว่าจะชวนออกไปข้างนอกด้วยกัน"
"คุณแม่ชวนทานข้าวกลางวันด้วยกันค่ะ"ตอบพร้อมกับส่งแขนเรียวไปโอบแขนชายหนุ่ม
"เข้าบ้านกันค่ะ"
"เออ มายด์"
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"บอกพร้อมกับหันมามองหน้าคนรัก
"มายด์ครับ ผมเรียนเรื่องของเราให้คุณพ่อคุณแม่ทราบแล้วนะครับ ท่านอนุญาตให้เราคบกันครับ"
"จริงหรอคะพุฒิพูดจริงหรอคะ มายด์ดีใจที่สุดเลยค่ะ "ใบหน้าสวยยิ้มด้วยความดีใจจนออกนอกหน้า
"ครับ แต่คุณแม่ขอให้ผมแต่งงานกับพิมพ์มาดา "พุฒิพัฒน์บอกด้วยสีหน้าลำบากใจ
"ยังไงค่ะ"ใบหน้าสวยที่ยิ้มหวานแทบหุบยิ้มทันที
"พุฒิพูดอะไรนะคะ มายด์ฟังไม่ชัด"
"คุณแม่ท่านอนุญาตให้เราคบกัน แต่ผม ต้องแต่งงาน"
"คะ"
"คุณจะให้มายด์คบคุณในขณะที่คุณแต่งงานมีภรรยา แล้วมายด์จะคบกับคุณในฐานะอะไรดีคะ"
"มายด์ ผมพยายามแล้ว"
"พยายามแล้วหรอคะ คุณต้องให้ฉัน"คลานเข่าเข้าไปกราบขอบคุณคุณแม่คุณไหมคะ ที่อุตสาห์อนุญาตให้ฉันเป็นเมียน้อยคุณได้"ใบหน้าหวานที่ดูเหมือนจะมีความสุขในตอนแรก เริ่มมีอาการโกรธจัดแบบคนไม่พอใจ
"มายด์ คุณก็พูดเกิน"
"เกินไปเหรอ ทำไมคะพุฒิ การที่คุณคบกับฉัน มันทำให้ครอบครัวคุณเสียชื่อเสียงมากนักหรอคะ ฉันมันไม่มีอะไรดีเลยในสายตาของครอบครัวคุณใช่ไหมคะ"
"เราเลิกกันเถอะค่ะ"มณีรินทร์บอกเลิกหลังจากทั้งสองนิ่งกันไปสักพัก
"ถ้าคุณมีฉันไม่ได้ รักฉันไม่ได้ เราก็เลิกกันดีกว่าค่ะ ออและฉันฝากขอบคุณแม่คุณด้วยนะคะ สำหรับข้อเสนอเมียน้อยให้ฉัน"
"มายด์ ใจเย็นๆก่อนสิ"
"ไม่ค่ะ ฉันจะไม่ทน ฉันเลือกเจ็บครั้งเดียว แต่จบค่ะ"พูดจบก็ปล่อยมือจากแขนคนรักและเดินเข้าบ้านทันที
"มายด์ มายด์ คุยกันก่อนสิโธ่เว้ย!"พุฒิพัฒน์สบถลั่น อะไรๆมันดูยุ่งเหยิงไปหมด ให้มันได้อย่างนี้สิ พุฒพัฒน์คิดในใจ อย่างคนหัวเสีย
ใบหน้าสวยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา หลังจากคุยกับพุฒิพัฒน์แล้ว มณีรินทร์ก็ตัดสินใจที่จะเลิกกับชายหนุ่ม หลายปีที่คบกัน เธอยอมรับว่ารักพุฒิพัฒน์มาก มากจนไม่คิดจะรักคนอื่นได้อีก มณีรินทร์เป็นคนที่รักคนยากแต่ถ้ารักแล้วเธอจะรักตลอดไป หลายครั้งที่บิดาพยายามพาเธอออกงานให้ได้พบปะกับคนอื่นมากหน้าหลายตา เพื่อให้เธอได้มีโอกาสมองชายคนอื่นบาง พ่อของเธอแนะนำชายที่เหมาะสมให้เธอหลายต่อหลายคน แต่เธอก็ปิดโอกาสตัวเอง เพราะเธอรักและมั่นคงต่อพุฒิพัฒน์เสมอมา จนวันนี้ที่เธอตัดสินใจจบความสัมพันธ์กับชายหนุ่ม เธอไม่เคยคิดถึงมันเลย เพราะเธอคิดว่ายังไงพุฒิพัฒน์ก็รักเธอเหมือนกับที่เธอรักเขา แต่คำบอกที่ออกมาจากปากของคนรัก ที่เสนอให้เธอคบกับเขาต่อไป ในขณะที่เค้าต้องแต่งงานกับคนอื่นแค่นี้มันก็ชัดเจนพอแล้วว่าพุฒิพัฒน์เลือกใคร
"มาก่อนมาหลังมันไม่สำคัญหรอกสิ่งสำคัญสำหรับชายหนุ่มคงเป็นความเหมาะสม ไม่ใช่ความรักสินะ มันอยู่ที่ว่าผู้ชายจะเลือกใคร"มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง
"พอทีเถอะมายด์ แกจะร้องให้มันได้อะไรขึ้นมา"มณีรินทร์บอกตัวเอง
หญิงสาวออกจากบ้านในเวลาต่อมา ขับรถไปที่ทำงาน วันนี้เป็นวันหยุดออฟฟิศปิดงานก็ไม่มีค้างคา แต่มันก็ยังดีกว่าที่จะปล่อยให้เวลาผ่านไปกับความคิดฟุ้งซ่าน หลายครั้งที่ยกมือถือขึ้นมากดหาเบอร์ของวิชุดา แต่เพื่อนสนิทกำลังยุ่งกับการย้ายบ้านใหม่เลยไม่อยากรบกวน มณีรินทร์ปล่อยให้เวลาผ่านไปจนมืดค่ำ เธอไม่อยากกลับบ้านไม่อยากพบใคร หลายครั้งที่มีสายเรียกเข้าจาก พุฒิพฒน์ แต่หญิงสาวเลือกไม่รับสาย และปิดมือถือในที่สุด
มานี่เลยคุณ"ธรรศธรออกเเรงลากหญิงสาว "ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วยค่ะ!"เธอดิ้นพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ มีเจ้าหน้าที่หลายคนขยับเข้ามา "ใครเข้ามากูยิง!"ธรรศธรขู่ ทำให้เจ้าหน้าที่หยุดชะงัก "มานี่!"ชายหนุ่มลากต่อ ร่างบางที่ดิ้นและขืนตัวไว้ทิ้งตัวลงกับพื้น เธอไม่ยอมเดินตามเขา "ลุกขึ้น!"ธรรศธรกระชากแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้น "นี่คุณ! เบาๆหน่อยสิ"วิชุดาที่ยืนตะลึงดูเหตุการณ์แหวใส่ เมื่อเห็นชายหนุ่มชักจะทำกับเพื่อนเธอหนักเกินไปแล้ว เธอรีบถลาเข้าหาหวังจะเข้าไปหาเพื่อนดนัยจึงรีบเข้าไปขวางไว้ "ปล่อยให้คุณหนึ่งจัดการเองดีกว่าครับ"ดนัยขวางหน้า พร้อมกับเอ่ยอย่างสุภาพ "วิช่วยฉันด้วย!"มณีรินทร์กรีดร้อง "มายด์…"วิชุดาอยากจะเข้าไปหาเพื่อนรัก "คุณเป็นคนโทรตามผมมาที่นี่ เพราะฉะนั้นอย่ามายุ่งดีกว่า เมื่อคุณเองก็ไม่มีปัญญาจัดการกับเธอ"ธรรศธรเอ่ยเสียงดังฟังชัด วิชุดาหน้าซีดเผือด "วิ!"มณีรินทร์ร้องเรียกชื่อเพื่อนเสียงดัง หันมามองด้วยสายตาสงสัย "ยังไงผมก็ต้องขอบคุณนะ"ธรรศธรเอ่ยขอบคุณ หลังจากหันไปช้อนร
อาการกระสับกระส่ายนั่งไม่ติดกับที่ของวิชุดาอยู่ในสายตาของมณีรินทร์มาสักพักแล้ว วิชุดาคงห่วงเธอมาก ทำเรื่องแบบนี้ถ้าพลาดขึ้นมาก็ตายกันมาหลายคนแล้ว แต่เธอไม่กลัว อีกแค่นิดเดียวทุกอย่างก็จะจบลง เมื่อหญิงสาวที่นั่งคิวก่อนหน้าเริ่มทยอยเข้าไปกันหลายคนแล้ว "วิแกเป็นอะไรหรือเปล่า"มณีรินทร์เอ่ยถามหลังจากเห็นวิชุดาชะเง้อมองทางเข้าตลอดเวลา "เปล่า เปล่า ฉันแค่ห่วงแก"บอกพร้อมกับส่งมือไปกุมมือบางที่ชื้นเหงื่อ "ฉันโอเค ถ้าแกอึดอัดแกลงไปรอที่รถก็ได้ ฉันอยู่ได้" "ไม่เป็นไรมายด์ฉันจะอยู่กับแก"บอกพร้อมกับส่งยิ้มจืดชืดมาให้ เวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่า'ไอ้ชั่ว'ของ มณีรินทร์จะมาถึงสักที และ'ไอ้ชั่ว'หน้าตาจะเป็นยังไงกันนะลองว่าคิดทำเรื่องเลวๆแบบนี้ได้หน้าตาคงจะน่ากลัวน่าดู วิชุดา จินตนาการหน้า 'ไอ้ชั่ว'ไปต่างๆนานา เริ่มอยู่ไม่สุขเมื่อคิวก่อนหน้ามณีรินทร์ถูกเรียกเข้าไปข้างใน คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย ขอให้ทุกอย่างทันเวลา วิชุดาคิดพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในใจ เมื่อหาที่จอดรถได้ร่างสูงใหญ่รีบลงจากรถ และวิ่งอย่างรีบร้อน พร้อมกับกดหาเบอร์ของคนท
"มีอุบัติเหตุข้างหน้าครับคุณหนึ่ง"ดนัยรายงานเมื่อจับอาการของคนที่นั่งกระสับกระส่ายมาสักพัก ธรรศธรเพียงพยักหน้าตอบ สายตาของเค้าจับจ้องอยู่ที่นาฬิกาข้อมือเรือนหรู "ว่าแต่คุณหนึ่งให้ไปที่นั่นทำไมครับ"ดนัยเอ่ยถามเพราะมันเป็นคนละทางกับทางกลับออฟฟิศของเขา "มีหน้าที่ขับก็ขับไปเถอะ"เสียงที่ดังมาแบบไม่สบอารมณ์ทำให้ดนัยแอบขำ นั่นไงองค์ลงดนัยส่ายหัวไปมากับคำตอบของเจ้านาย "ไอ้โอมึงเหยียบไปเลยนะกูให้เวลาสิบนาที มึงต้องถึง" "ห๋า!คุณหนึ่งรถนะครับไม่ใช่ไอรอนแมน" "ถ้ามึงช้ากูไล่ออก"กรรมของไอ้โอจริงๆ มีเจ้านายวัยทอง ดนัยอยากจะเอาหัวโขกกับพวงมาลัยรถให้ตายๆไปสะ อาการกระสับกระส่ายนั่งไม่ติดกับที่ของวิชุดาอยู่ในสายตาของมณีรินทร์มาสักพักแล้ว วิชุดาคงห่วงเธอมาก ทำเรื่องแบบนี้ถ้าพลาดขึ้นมาก็ตายกันมาหลายคนแล้ว แต่เธอไม่กลัว อีกแค่นิดเดียวทุกอย่างก็จะจบลง เมื่อหญิงสาวที่นั่งคิวก่อนหน้าเริ่มทยอยเข้าไปกันหลายคนแล้ว "วิแกเป็นอะไรหรือเปล่า"มณีรินทร์เอ่ยถามหลังจากเห็นวิชุดาชะเง้อมองทางเข้าตลอดเวลา "เปล่า เปล่า ฉันแค่ห่วงแก"บอก
วิชุดาหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอยู่พักใหญ่ หลังจากให้มณีรินทร์นอนพัก เพราะอาการเวียนหัวของเธอเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีก หลังจากเจอสถานที่ที่ต้องการแล้ว สองสาวก็พากันออกจากบ้าน วิชุดาเสนอให้มณีรินทร์เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน เพราะสิ่งที่คิดจะทำนั้นเธอก็ไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่วิชุดาเสนอให้มณีรินทร์มาพักอยู่กับเธอที่บ้าน เพราะสะดวกในหลายๆ เรื่องระหว่างทางวิชุดาคิดหาทางออกให้มณีรินทร์หลายทาง แต่มณีรินทร์ก็ไม่รับข้อเสนอจากเธอสักทาง จนกระทั่งมาถึงจุดหมายที่จีพีเอสพามา เป็นซอยแคบๆ ที่แยกออกมาซอยหลักจากถนนใหญ่อีกที ป้ายหน้าอาคารเขียนว่า’ คลีนิคXXX’ ชื่อหรูฟังดูดีแต่ ทั้งสองสาวรู้ว่าที่นี่คือที่จะทำให้มณีรินทร์หลุดพ้นจากสิ่งที่เป็นอยู่ เมื่อหาที่จอดรถได้วิชุดามองหน้าเพื่อนรักอีกครั้งมาถึงตรงนี้แล้วคงไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนใจมณีรินทร์ได้แน่นอน"มันอันตรายนะมายด์ ถ้าแกเปลี่ยนใจไปที่อเม...""ฉันไม่กลัว"คำว่าอเมริกาค้างไว้ที่ปากของวิชุดาเมื่อมณีรินทร์ยังยืนยันความตั้งใจเดิม ทั้งสองเข้าไปติดต่อข้างในและนั่งรอเรียกตามที่เจ้าหน้าที่ ที่แต่งตัวคล้ายๆ พยาบาลสั่งวิชุดาขนลุกซู่เมื่อนึกไปต่างๆ นานา ตาจับจ้อง
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยมณีรินทร์ก็ขับรถตามมาที่บ้านของเพื่อนสนิท เธอเหนื่อยและอยากพัก แต่ด้วยสายตาที่มองมาอย่างสงสัยของวิชุดา บวกกับคำพูดที่บอกว่ามีเรื่องคุยยาวเธอจึงต้องตามมา พรุ่งนี้เธอจะเดินทางไปอเมริกามีบางอย่างที่ยังทำไม่เรียบร้อย และคืนนี้เธออยากบอกฝันดีกับพ่อและแม่ จึงอยากมาคุยให้จบๆจะได้รีบกลับบ้าน "มายด์แกเป็นแบบนี้มานานหรือยัง"วิชุดาเอ่ยถามทันทีที่มณีรินทร์เดินตามเข้ามาในบ้าน "อะไร"มณีรินทร์งงกับคำถาม วิชุดากรอกตามองบนคนฉลาดมากๆอย่างมณีรินทร์บดจะโง่ขึ้นมานี่โง่ได้ใจเลยจริงๆ "ก็อาการที่แกเป็นเนี่ย อ้วก อาเจียน เวียนหัว อะไรที่แกเป็นน่ะ"วิชุดาบอกอย่างรำคาญ "สักพักแล้วสงสัยจะนอนน้อย"มณีรินทร์ตอบตาใส "เหรอยะ มายด์นี่แกแกล้งโง่หรือเปล่า"วิชุดาแหวกลับ "อะไร" "ง่ายๆสั้นๆนะ แกนอนกับพุฒิครั้งสุดท้ายเมื่อไร" "วิ!"มณีรินทร์เรียกชื่อเพื่อนเสียงสูง "เออ! ชัดไหม"มณีรินทร์หน้าซีดเผือดตัวชาหนึบ เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามหน้าผากและฝ่ามือ "วิ…แกหมายความว่าไง" "มายด์ ก็ไอ้อากา
มณีรินทร์คิดในใจ และก่อนที่พิธีกรจะประกาศอะไรต่อ เมื่อแสงแฟลชรัวมาที่เธอชุดใหญ่ ร่างกายเธอก็สุดจะทนร่างบางล้มลงตรงนั้นที่กลางเวที มณีรินทร์ไม่รู้ว่ามีการประมูลเพชรที่เธอสวมใส่หรือไม่ เพราะสติเธอดับวูบไม่รู้แม้กระทั่งว่ามีใครมารับเธอไว้ หรือปล่อยให้เธอล้มลงไปอย่างหมดสภาพ เสียงร้องกรีดร้องของแขกในงานดังขึ้นแล้วก็เงียบหาย ทุกอย่างมืดสนิท เธอไม่รับรู้อะไรอีกเลย"มายด์ มายด์ แกเป็นไงบ้าง"เสียงเรียกของวิชุดาปลุกให้หญิงสาวตื่นขึ้น มณีรินทร์ปรือตาขึ้นช้าๆ สมองมึนงง"ที่นี่ที่ไหนนะวิ"เอ่ยถามเมื่อปรับสภาพสายตาให้เข้ากับแสงในห้องได้"ห้องพักของโรงแรมแกล้มลงน่ะ ดีนะที่คุณพีทเขารับไว้ทัน ไม่อย่างนั้นนะแกเอ้ย"วิชุดาพูดค้างไว้แค่นั้น พร้อมกับทำท่าทางหวาดเสียว"คุณมายด์เป็นไงบ้างค่ะ"เสียงทีมงานที่รออยู่เอ่ยถามพร้อมๆ กันมณีรินทร์มองกวาดไปทั่วห้อง เธออยู่บนเวที เธอกำลังเดินแบบแทนนางแบบที่เบี้ยวงาน ทุกอย่างกำลังจะจบลง แล้วหลังจากนั้นเธอก็มานอนอยู่ที่นี่ สายตามณีรินทร์มองไปยังร่างสูงโปร่ง ที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง เขาคนนี้คือคนที่เอาช่อดอกไม้ขึ้นไปให้เธอบนเวที และเป็นคนเดียวกับที่วิชุดาเรียกว่าคุณพี