"สวยแบบนี้ค่าตัวเท่าไรล่ะ ผู้ชายโต๊ะนั้นให้คุณเท่าไร ผมจ่ายให้มากกว่าสองเท่า"ธรรศธรเอ่ยระราน "นี่คุณ ถ้าคุณเมาก็กลับไปซะ อย่ามายุ่งกับฉัน"มณีรินทร์ยังควบคุมอารมณ์ได้ดี แม้ภายในใจจะเริ่มหวาดกลัว "ปล่อย!"หญิงสาวเริ่มดิ้นหนักขึ้น เมื่อฝ่ามือใหญ่เริ่มไม่อยู่นิ่ง ธรรศธรเริ่มลูบไล้สีข้าง และสะโพกแน่นกลมกลึงอย่างมันมือ อกอวบอิ่มเบียดเข้าหาอกกว้าง เอวเล็กเบียดอยู่กับช่วงเอวสอบที่มีกล้ามเนื้อแน่นแบบคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ จากตอนแรกที่คิดจะแกล้งให้เธอกลัว กลับกลายเป็นความต้องการแบบที่ธรรศธรเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง "ร้อนแรงอย่างนี้นี่เล่าพุฒิพัฒน์ถึงได้หลงจนหัวปักหัวปำ" "ปล่อย! ฉันบอกให้ปล่อยช่วย!..."เสียงตะโกนขาดหาย เมื่อริมฝีปากหนาฉกลงมาปิดปากอิ่ม มณีรินทร์เองก็นึกไม่ถึงว่าจะถูกคนแปลกหน้าคุกคามเธอแบบนี้ ความกลัวเริ่มเข้าเกาะกุมหัวใจ
View Moreณ คฤหาสน์หรูกลางกรุงของตระกูล’จอมแก้วตะการ’ ตระกูลเก่าแก่ที่สืบทอดมาจากข้าราชชั้นผู้ใหญ่ วันนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษเพราะแขกที่มาเยือนเป็นถึงเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ระดับต้นๆของเมืองไทย ภายในห้องรับแขกหรูคุณโชติและคุณหญิง อรสานั่งหน้าตายิ้มแย้ม ถัดมาจากคุณหญิงอรสาเป็นหญิงสาวร่างสมส่วนผิวขาวหน้าสวยหวานที่นั่งเงียบ แต่ในตาหวานแอบเขินอายทุกครั้งที่ได้สบตากับตาคมฝั่งตรงข้าม คุณชาตรีและคุณเกตุแก้วนั่งหน้าตาสดชื่นแจ่มใสเช่นกัน ถัดมาจากคุณเกตุแก้ว เป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคมคายในตาดุที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับเพียงคนเดียวในห้องนี้ ถ้าจะมีใครสังเกตสักนิดจะเห็นว่าในตาคมคู่นี้เหลือบมองนาฬิกาข้อมืออยู่บ่อยครั้ง "ถ้าไม่มีอะไรแล้วเอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะคะคุณพี่ น้องจะให้หนูแอ้กับตาพุฒิหมั้นหมายกันไว้ก่อน"คุณเกตุแก้วเอ่ยทำลายความเงียบ "พี่ก็ไม่ติดขัดอะไรหรอกค่ะ ยายแอ้ก็โตแล้วเรื่องแบบนี้ พี่คงต้องแล้วแต่ลูกค่ะ"คุณหญิงอรสาตอบกลับ "ถ้ายังไงวันนี้ผมขอตัวกลับเลยนะครับ เรื่องที่คุยไว้ก็ตกลงตามนี้นะครับ"คุณชาตรีเอ่ยขอตัวหลังจากเจรจาเสร็จตามที่ได้ตั้งใจไว้ "รีบไปไหนกันครับนานๆได้เจอกันทีอยู่ทานข้าวกลางวันด้วยกันเลยนะครับ"คุณโชติเอ่ยชวนแขกให้อยู่ต่อเมื่อเริ่มคุยกันถูกคอ "ดีเลยค่ะ วันนี้ยายแอ้ลงครัวเองเห็นบอกว่าตาพุฒิชอบทานแกงส้มชะอมไข่ ยายแอ้แกเตรียมเครื่องรอตั้งแต่เมื่อวาน แล้วค่ะ"คุณหญิงอรสาเอ่ยสมทบเพราะนางนึกสงสารลูกสาว "คุณแม่คะ"พิมพ์มาดาหรือยายแอ้ที่ใครๆเรียกเอ่ยขัดคุณหญิงอรสาก่อนที่นางจะทำให้เจ้าตัวได้อายไปกว่านี้ แก้มสาวมีสีเลือดฝาดจางๆปรากฏบนใบหน้า "ผมขอตัวนะครับ"น้ำเสียงเข้มออกอาการหงุดหงิดอย่างชัดเจนอย่างที่เจ้าตัวไม่คิดจะเก็บอารมณ์เอ่ยขัดขึ้น "ตาพุฒิจะรีบไปไหนลูกเสียมารยาทจริงๆ คุณลุงอุตส่าห์ชวนทานข้าว แล้วดูสิหนูแอ้ก็ทำของชอบไว้ให้ด้วย"คุณเกตุแก้วหันไปดุลูกชายเพียงคนเดียวที่ใครๆก็รู้ถึงกิติศัพท์เรื่องความเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าตาพุฒิติดธุระก็กลับไปก่อนก็ได้ แต่ยังไงคงต้องรบกวนคุณชาตรีกับคุณเกตุทานด้วยกันนะคะ" คุณหญิงอรสาเอ่ยตัดบท ทำไมนางจะดูไม่ออกว่าชายหนุ่มที่เป็นหัวข้อสนทนาออกอาการเบื่อหน่ายขนาดไหน สายตาคนอาบน้ำร้อนมาก่อนสังเกตไม่ยากเลย มีเพียงก็แต่หญิงสาวคนเดียวในนี้เท่านั้นที่ไม่สังเกตอะไรเลย "ถ้าอย่างนั้นผมลาเลยนะครับ คุณลุง คุณป้า"พูดพร้อมยกมือไหว้ผู้ใหญ่แบบรีบร้อนเหมือนกลัวจะมีใครเปลี่ยนใจให้ต้องอยู่ต่อ "ยายแอ้เดินไปส่งพี่เขาสิลูก"คุณหญิงอรสรเอ่ยกับบุตรสาว "ค่ะคุณแม่ แอ้ขอตัวสักครู่นะคะคุณอา"พิมพ์มาดาหันไปบอกผู้ใหญ่ทั้งสองแล้วเดินตามชายหนุ่มออกไป "จะไหวไหมคะคู่นี้"คุณหญิงอรสาพูดขึ้นหลังจากคนทั้งสองลับหลังไปแล้ว คุณโชติและคุณชาตรีได้แต่เงียบ "น้องขอโอกาสให้ตาพุฒิได้ไหมคะ น้องรู้ว่าทางคุณพี่ไม่ค่อยมั่นใจคนของน้อง แต่น้องคิดว่าตาพุฒิต้องรักหนูแอ้เข้า สักวัน คนอย่างตาพุฒิก็เหมาะแล้วค่ะที่จะได้หนูแอ้มาดูแล"คุณเกตุแก้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแกมขอร้อง "นานแค่ไหนคะกว่าตาพุฒิจะรักยายแอ้ จริงๆพี่ก็ไม่ติดขัดนะคะเพราะดูๆแล้ว ยายแอ้เองก็คงมีใจให้ตาพุฒิไม่น้อย แต่พี่ก็ไม่อยากให้ลูกเสียใจค่ะ"คุณหญิงอรสรกล่าวพร้อมกับลอบถอนใจ
……………………………………………………………………
ลานจอดรถหน้าคฤหาสน์หนุ่มสาวที่เป็นหัวข้อสนทนาของวันนี้ยืนแทบจะหันหลังให้กัน "แอ้ขอโทษนะคะพี่พุฒิที่ทำให้พี่พุฒิอึดอัด แล้วแอ้จะเรียนคุณพ่อคุณแม่นะคะ เรื่องหมั้น…"หญิงสาวหยุดคำพูดไว้ แค่นั้น เมื่อหันมาสบกับตาคม "แอ้ก็รู้นี่ครับว่าพี่มีคนรักอยู่แล้ว เรารักกันตั้งแต่อยู่ที่อเมริกา แต่ไม่รู้ทำไมพ่อกับแม่พี่ถึงไม่สนใจ"ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างหัวเสีย "แอ้ทราบค่ะ"พิมพ์มาดาเอ่ยได้เท่านี้เพราะไม่รู้จะพูดอะไร เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าตัว "ไว้แอ้จะคุยกับท่าน พี่พุฒิสบายใจเถอะค่ะยังไงงานหมั้นก็ยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้หรอกค่ะ" "มันไม่ควรเกิดครับ งานหมั้นระหว่างเราจะไม่เกิดขึ้นครับ ถ้าแอ้ช่วยพี่" "ให้แอ้ช่วยอะไรคะ"คำถามเบาหวิวแทบจะไม่พ้นริมฝีปากคู่สวย เอ่ยถามเขาด้วยหัวใจที่ปวดร้าว "พี่ก็ยังคิดไม่ออกครับ เอาไว้พี่คิดได้จะบอกอีกที พี่ไปก่อนนะครับ"ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับก้มมองนาฬิกาเรือนหรู อีกครั้ง "สวัสดีค่ะ…พี่พุฒิ"พุฒิพัฒน์ไม่รอให้หญิงสาวเอ่ยคำลาจบ รถสปอร์ตคันหรูก็แล่นออกไปด้วยความเร็วสูงสมกับสมรรถนะของมัน ร่างบางมองตามรถที่แล่นไปด้วยหัวใจที่หนักอึ่ง นี่เหรอพี่พุฒิของเธอผู้ชายคนที่เธอคิดถึงตลอดเวลา ไม่ว่านานแค่ไหนเธอก็รอเขามาตลอด คนที่เธอหวังจะฝากชีวิตไว้กับเขา หญิงสาวเดินกลับเข้ามาในบ้านในขณะที่แขกและเจ้าของบ้านย้ายกันไปคุยต่อที่ห้องรับประทานอาหาร "ตาพุฒิกลับไปแล้วเหรอลูก"คุณหญิงอรสาเอ่ยถามทันทีที่ร่างบางเดินมาถึง "ค่ะคุณแม่พี่พุฒิมีประชุมช่วงบ่ายค่ะ"ตอบแบบไม่เต็มเสียงนักเพราะไม่ถนัดกับการโกหก "เอาล่ะๆมาทานข้าวเลยยายแอ้ คุณอารอนานแล้ว" คุณโชติกล่าวตัดบท เพราะสังเกตจากสีหน้าความลำบากใจของลูกสาว ทั้งหมดลงมีรับประทานอาหารเงียบๆมีแต่คุณหญิงอรสา และคุณเกตุแก้วที่คุยกันต่อถึงเรื่องอาหารบนโต๊ะ คุณอรสาบอกด้วยหน้าตายิ้มแย้มถึงฝีมืองานครัวของบุตรสาว ต่างจากคนที่ถูกเอ่ยถึงบ่อยๆที่ทำหน้าตาแบบไร้ความรู้สึก จะมีก็เพียงรอยยิ้มน้อยๆที่ยิ้มตอบมาเป็นการขอบคุณหลังจากได้รับคำชม
มานี่เลยคุณ"ธรรศธรออกเเรงลากหญิงสาว "ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วยค่ะ!"เธอดิ้นพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ มีเจ้าหน้าที่หลายคนขยับเข้ามา "ใครเข้ามากูยิง!"ธรรศธรขู่ ทำให้เจ้าหน้าที่หยุดชะงัก "มานี่!"ชายหนุ่มลากต่อ ร่างบางที่ดิ้นและขืนตัวไว้ทิ้งตัวลงกับพื้น เธอไม่ยอมเดินตามเขา "ลุกขึ้น!"ธรรศธรกระชากแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้น "นี่คุณ! เบาๆหน่อยสิ"วิชุดาที่ยืนตะลึงดูเหตุการณ์แหวใส่ เมื่อเห็นชายหนุ่มชักจะทำกับเพื่อนเธอหนักเกินไปแล้ว เธอรีบถลาเข้าหาหวังจะเข้าไปหาเพื่อนดนัยจึงรีบเข้าไปขวางไว้ "ปล่อยให้คุณหนึ่งจัดการเองดีกว่าครับ"ดนัยขวางหน้า พร้อมกับเอ่ยอย่างสุภาพ "วิช่วยฉันด้วย!"มณีรินทร์กรีดร้อง "มายด์…"วิชุดาอยากจะเข้าไปหาเพื่อนรัก "คุณเป็นคนโทรตามผมมาที่นี่ เพราะฉะนั้นอย่ามายุ่งดีกว่า เมื่อคุณเองก็ไม่มีปัญญาจัดการกับเธอ"ธรรศธรเอ่ยเสียงดังฟังชัด วิชุดาหน้าซีดเผือด "วิ!"มณีรินทร์ร้องเรียกชื่อเพื่อนเสียงดัง หันมามองด้วยสายตาสงสัย "ยังไงผมก็ต้องขอบคุณนะ"ธรรศธรเอ่ยขอบคุณ หลังจากหันไปช้อนร
อาการกระสับกระส่ายนั่งไม่ติดกับที่ของวิชุดาอยู่ในสายตาของมณีรินทร์มาสักพักแล้ว วิชุดาคงห่วงเธอมาก ทำเรื่องแบบนี้ถ้าพลาดขึ้นมาก็ตายกันมาหลายคนแล้ว แต่เธอไม่กลัว อีกแค่นิดเดียวทุกอย่างก็จะจบลง เมื่อหญิงสาวที่นั่งคิวก่อนหน้าเริ่มทยอยเข้าไปกันหลายคนแล้ว "วิแกเป็นอะไรหรือเปล่า"มณีรินทร์เอ่ยถามหลังจากเห็นวิชุดาชะเง้อมองทางเข้าตลอดเวลา "เปล่า เปล่า ฉันแค่ห่วงแก"บอกพร้อมกับส่งมือไปกุมมือบางที่ชื้นเหงื่อ "ฉันโอเค ถ้าแกอึดอัดแกลงไปรอที่รถก็ได้ ฉันอยู่ได้" "ไม่เป็นไรมายด์ฉันจะอยู่กับแก"บอกพร้อมกับส่งยิ้มจืดชืดมาให้ เวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่า'ไอ้ชั่ว'ของ มณีรินทร์จะมาถึงสักที และ'ไอ้ชั่ว'หน้าตาจะเป็นยังไงกันนะลองว่าคิดทำเรื่องเลวๆแบบนี้ได้หน้าตาคงจะน่ากลัวน่าดู วิชุดา จินตนาการหน้า 'ไอ้ชั่ว'ไปต่างๆนานา เริ่มอยู่ไม่สุขเมื่อคิวก่อนหน้ามณีรินทร์ถูกเรียกเข้าไปข้างใน คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย ขอให้ทุกอย่างทันเวลา วิชุดาคิดพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในใจ เมื่อหาที่จอดรถได้ร่างสูงใหญ่รีบลงจากรถ และวิ่งอย่างรีบร้อน พร้อมกับกดหาเบอร์ของคนท
"มีอุบัติเหตุข้างหน้าครับคุณหนึ่ง"ดนัยรายงานเมื่อจับอาการของคนที่นั่งกระสับกระส่ายมาสักพัก ธรรศธรเพียงพยักหน้าตอบ สายตาของเค้าจับจ้องอยู่ที่นาฬิกาข้อมือเรือนหรู "ว่าแต่คุณหนึ่งให้ไปที่นั่นทำไมครับ"ดนัยเอ่ยถามเพราะมันเป็นคนละทางกับทางกลับออฟฟิศของเขา "มีหน้าที่ขับก็ขับไปเถอะ"เสียงที่ดังมาแบบไม่สบอารมณ์ทำให้ดนัยแอบขำ นั่นไงองค์ลงดนัยส่ายหัวไปมากับคำตอบของเจ้านาย "ไอ้โอมึงเหยียบไปเลยนะกูให้เวลาสิบนาที มึงต้องถึง" "ห๋า!คุณหนึ่งรถนะครับไม่ใช่ไอรอนแมน" "ถ้ามึงช้ากูไล่ออก"กรรมของไอ้โอจริงๆ มีเจ้านายวัยทอง ดนัยอยากจะเอาหัวโขกกับพวงมาลัยรถให้ตายๆไปสะ อาการกระสับกระส่ายนั่งไม่ติดกับที่ของวิชุดาอยู่ในสายตาของมณีรินทร์มาสักพักแล้ว วิชุดาคงห่วงเธอมาก ทำเรื่องแบบนี้ถ้าพลาดขึ้นมาก็ตายกันมาหลายคนแล้ว แต่เธอไม่กลัว อีกแค่นิดเดียวทุกอย่างก็จะจบลง เมื่อหญิงสาวที่นั่งคิวก่อนหน้าเริ่มทยอยเข้าไปกันหลายคนแล้ว "วิแกเป็นอะไรหรือเปล่า"มณีรินทร์เอ่ยถามหลังจากเห็นวิชุดาชะเง้อมองทางเข้าตลอดเวลา "เปล่า เปล่า ฉันแค่ห่วงแก"บอก
วิชุดาหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอยู่พักใหญ่ หลังจากให้มณีรินทร์นอนพัก เพราะอาการเวียนหัวของเธอเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีก หลังจากเจอสถานที่ที่ต้องการแล้ว สองสาวก็พากันออกจากบ้าน วิชุดาเสนอให้มณีรินทร์เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน เพราะสิ่งที่คิดจะทำนั้นเธอก็ไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่วิชุดาเสนอให้มณีรินทร์มาพักอยู่กับเธอที่บ้าน เพราะสะดวกในหลายๆ เรื่องระหว่างทางวิชุดาคิดหาทางออกให้มณีรินทร์หลายทาง แต่มณีรินทร์ก็ไม่รับข้อเสนอจากเธอสักทาง จนกระทั่งมาถึงจุดหมายที่จีพีเอสพามา เป็นซอยแคบๆ ที่แยกออกมาซอยหลักจากถนนใหญ่อีกที ป้ายหน้าอาคารเขียนว่า’ คลีนิคXXX’ ชื่อหรูฟังดูดีแต่ ทั้งสองสาวรู้ว่าที่นี่คือที่จะทำให้มณีรินทร์หลุดพ้นจากสิ่งที่เป็นอยู่ เมื่อหาที่จอดรถได้วิชุดามองหน้าเพื่อนรักอีกครั้งมาถึงตรงนี้แล้วคงไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนใจมณีรินทร์ได้แน่นอน"มันอันตรายนะมายด์ ถ้าแกเปลี่ยนใจไปที่อเม...""ฉันไม่กลัว"คำว่าอเมริกาค้างไว้ที่ปากของวิชุดาเมื่อมณีรินทร์ยังยืนยันความตั้งใจเดิม ทั้งสองเข้าไปติดต่อข้างในและนั่งรอเรียกตามที่เจ้าหน้าที่ ที่แต่งตัวคล้ายๆ พยาบาลสั่งวิชุดาขนลุกซู่เมื่อนึกไปต่างๆ นานา ตาจับจ้อง
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยมณีรินทร์ก็ขับรถตามมาที่บ้านของเพื่อนสนิท เธอเหนื่อยและอยากพัก แต่ด้วยสายตาที่มองมาอย่างสงสัยของวิชุดา บวกกับคำพูดที่บอกว่ามีเรื่องคุยยาวเธอจึงต้องตามมา พรุ่งนี้เธอจะเดินทางไปอเมริกามีบางอย่างที่ยังทำไม่เรียบร้อย และคืนนี้เธออยากบอกฝันดีกับพ่อและแม่ จึงอยากมาคุยให้จบๆจะได้รีบกลับบ้าน "มายด์แกเป็นแบบนี้มานานหรือยัง"วิชุดาเอ่ยถามทันทีที่มณีรินทร์เดินตามเข้ามาในบ้าน "อะไร"มณีรินทร์งงกับคำถาม วิชุดากรอกตามองบนคนฉลาดมากๆอย่างมณีรินทร์บดจะโง่ขึ้นมานี่โง่ได้ใจเลยจริงๆ "ก็อาการที่แกเป็นเนี่ย อ้วก อาเจียน เวียนหัว อะไรที่แกเป็นน่ะ"วิชุดาบอกอย่างรำคาญ "สักพักแล้วสงสัยจะนอนน้อย"มณีรินทร์ตอบตาใส "เหรอยะ มายด์นี่แกแกล้งโง่หรือเปล่า"วิชุดาแหวกลับ "อะไร" "ง่ายๆสั้นๆนะ แกนอนกับพุฒิครั้งสุดท้ายเมื่อไร" "วิ!"มณีรินทร์เรียกชื่อเพื่อนเสียงสูง "เออ! ชัดไหม"มณีรินทร์หน้าซีดเผือดตัวชาหนึบ เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามหน้าผากและฝ่ามือ "วิ…แกหมายความว่าไง" "มายด์ ก็ไอ้อากา
มณีรินทร์คิดในใจ และก่อนที่พิธีกรจะประกาศอะไรต่อ เมื่อแสงแฟลชรัวมาที่เธอชุดใหญ่ ร่างกายเธอก็สุดจะทนร่างบางล้มลงตรงนั้นที่กลางเวที มณีรินทร์ไม่รู้ว่ามีการประมูลเพชรที่เธอสวมใส่หรือไม่ เพราะสติเธอดับวูบไม่รู้แม้กระทั่งว่ามีใครมารับเธอไว้ หรือปล่อยให้เธอล้มลงไปอย่างหมดสภาพ เสียงร้องกรีดร้องของแขกในงานดังขึ้นแล้วก็เงียบหาย ทุกอย่างมืดสนิท เธอไม่รับรู้อะไรอีกเลย"มายด์ มายด์ แกเป็นไงบ้าง"เสียงเรียกของวิชุดาปลุกให้หญิงสาวตื่นขึ้น มณีรินทร์ปรือตาขึ้นช้าๆ สมองมึนงง"ที่นี่ที่ไหนนะวิ"เอ่ยถามเมื่อปรับสภาพสายตาให้เข้ากับแสงในห้องได้"ห้องพักของโรงแรมแกล้มลงน่ะ ดีนะที่คุณพีทเขารับไว้ทัน ไม่อย่างนั้นนะแกเอ้ย"วิชุดาพูดค้างไว้แค่นั้น พร้อมกับทำท่าทางหวาดเสียว"คุณมายด์เป็นไงบ้างค่ะ"เสียงทีมงานที่รออยู่เอ่ยถามพร้อมๆ กันมณีรินทร์มองกวาดไปทั่วห้อง เธออยู่บนเวที เธอกำลังเดินแบบแทนนางแบบที่เบี้ยวงาน ทุกอย่างกำลังจะจบลง แล้วหลังจากนั้นเธอก็มานอนอยู่ที่นี่ สายตามณีรินทร์มองไปยังร่างสูงโปร่ง ที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง เขาคนนี้คือคนที่เอาช่อดอกไม้ขึ้นไปให้เธอบนเวที และเป็นคนเดียวกับที่วิชุดาเรียกว่าคุณพี
Comments