Share

บทที่ 4

Author: Meowmao
last update Last Updated: 2025-09-13 02:37:22

ตอนเช้า

"อื้อออ.."

ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องของตัวเอง ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งช้า ๆ พลางมองไปรอบ ๆ เขา ไปแล้วสินะ... มันเป็นแบบนี้มาสี่ปีแล้วแหละ เขาทำแบบนี้กับฉันมาสี่ปีแล้ว ฉันเป็นตัวอะไรสำหรับเขากันนะ ฉันลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปซื้อของเข้าห้องด้วยร่างกายที่แทบจะไม่มีแรงเหลือ คนเอาแต่ใจอย่างเขาชอบทำแบบนี้กับฉันเสมอน่ะแหละ

“อืม...น่าจะซื้อเยอะเลยนะเนี่ย..”

ฉันพึมพำกับตัวเองพลางนึกถึงของที่จะซื้อ ถ้าถามว่าฉันเอาเงินมาจากไหนทำไมถึงยังอยู่คอนโดหรูหรานี่มาได้ถึงสามปี ก็เพราะพ่อกับแม่ฉันส่งตังมาให้ทุกเดือนเลยน่ะสิ แต่ไม่เคยติดต่อมาสักครั้ง พวกเขาส่งมาให้ฉันครั้งละสามหมื่นบาทต่อเดือน แต่ฉันก็ไม่ได้ใช้ฟุ่มเฟือยเลยนะ ประหยัดสุด ๆ เลยล่ะ ฉันเห็นแบบนี้ก็รู้จักขี้งกเหมือนกันนะ

ซุปเปอร์มาร์เก็ต

ฉันมาถึงห้างก็ตรงไปโซนซุปเปอร์มาร์เก็ตทันที ฉันต้องรีบหน่อยแล้วล่ะไม่ค่อยอยากอยู่ข้างนอกนาน ๆ เดี๋ยวฉันมีปัญหาอีก ไม่รู้เขามีกล้องติดตามตัวฉันหรือไง ถึงได้รู้ไปหมดว่าฉันทำอะไร ที่ไหน กับใคร

“อืม…จะพอมั้ยนะ”

ฉันพึมพำกับตัวเองพลางคำนวนว่าจะเอาไข่ไก่กับมาม่าไปไว้เท่าไหร่ให้พอเดือนนี้ดี

“ขอโทษนะครับ...”

ฉันหันไปมองคนที่สะกิดเรียกฉันอย่างตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหาคนที่สะกิดเรียก

“เอ๊ะ!?”

แต่ที่ทำฉันตกใจมากก็คือคตที่ทักฉันนี่แหละ

“ไงครับ”

เขาทักทายฉันแล้วยิ้มอย่างใจดีเหมือนที่ชอบทำให้บ่อย ๆ

“พี่เทม?”

ฉันเรียกชื่อเขาด้วยความตื่นเต้น พี่เทมเป็นลูกของเพื่อนคุณพ่อของฉันเอง ฉันเล่นกับเขามาตั้งแต่เด็ก ๆ จนพอขึ้นมัธยมเขาก็ดันต้องไปเรียนต่อต่างประเทศซะงั้น ตั้งแต่วันที่ไปส่งเขาที่สนามบินวันนั้น เขาก็หายไปเลย จนกระทั่งตอนนี้…

“ไปไง มาไงคะเนี่ย”

ฉันเริ่มถามไถ่ทันที เพราะไม่ได้เจอหน้ากันนาน

“พี่ว่าเราไปหาร้านนั่งคุยกันดีกว่ามั้ย ยัยตัวเล็ก ไม่เจอกันซะนานเรื่องคุยน่าจะเยอะ”

เขาพูดแล้วเอามือลูบหัวฉันอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะส่งยิ้มมาให้ฉันบาง ๆ

“นี่!พี่เทม! ผมยุ่งเลยเนี่ย ไปหาร้านนั่งก็ได้ค่ะ แต่ว่าห้ามเรียกตัวเล็กแล้วนะ เพราะตอนนี้เค้าโตแล้ว”

ฉันพูดพร้อมทำหน้าหมุ่ยใส่เขา พร้อมกับเดินไปด้วย จนลืมไปเลยว่าต้องซื้อของด้วย

“ก็ยังเล็กเหมือนเดิมเลยนะ นี่โตขึ้นบ้างมั้ยเนี่ย”

แหม๋เขาตัวโตกว่าฉันขึ้นนิดหน่อยทำมาเป็นเถอะ ตัวโตขึ้นละทำเป็นมาพูดบุลลี่ฉันนะ

“ใครมันจะไปตัวโตอย่างพี่กันล่ะฮ่ะ! ว่าเเต่ไปทำอะไรมาเนี่ย ดูหล่อขึ้นมากเลย”

ฉันเดินไปมองสังเกตุเขาดี ๆ ไปด้วย เรื่องจริงนะ เขาดูดีขึ้นมาก มากเสียจนฉันก็แทบจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ

“แน่นอนอยู่แล้วก็นะ พี่ไปตรงไหนสาว ๆ ก็มองอะนะ”

เขาว่าแล้วยักคิ้วส่งมาให้ฉันกวน ๆ ยอตัวเองสุดๆ ไปเลยจ้าพ่อคุณ

“ยกเว้น เค้าคนหนึ่งอะ ที่ม่ายมองง”

“หรอยัยตัวเล็ก”

พี่เทมพูดแล้วเอามือมาดึงเเก้มทั้งสองข้างของฉันอย่างกับฉันเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ อย่างงั้นแหละ

“อ่อย อ๊าาา ไอ้ อี้ อ้าา (ปล่อย น๊าาา ไอ้พี่บ้าา) ”

ฉันพูดพลางตีมือเขาไปด้วยเบา ๆ เป็นเชิงบอกให้เขาปล่อย

“ว่าแต่เราเถอะสบายดีหรือเปล่า”

เขาถามแต่สายตาเต็มไปด้วยความสงสารและเป็นห่วง เขาคงจะสื่อถึงเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนที่ครอบครัวของฉันล้มละลายแบบกระทันหันแบบนั้น ถึงจะช้าไปแต่ก็รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย เพราะสายตาของเขาน่ะ มันต่างจากสายตาของผู้ชายอีกคนไปโดยสิ้นเชิงเลยล่ะ

“ก็ เรื่อย ๆ อ่ะแหละ เค้าก็ตั้งใจเรียนอยู่ อยากไปหาคุณพ่อคุณแม่ไว ๆ”

ฉันพูดแล้วเดินเลี้ยวเข้าไปในร้านกาแฟทันที เพราะไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้นอีก

“ก็ดีแล้ว อ้อแล้วถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกพี่ได้เลยนะยัยตัวเล็ก ห้ามเกรงใจนะ เข้าใจมั้ย”

ฉันอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเขาพูดแบบนี้ แอบรู้สึกดีที่มีคนเป็นห่วงฉันขนาดนี้

“งั้น เลี้ยงชาเขียวหน่อยนะคะ คุณพี่สุดหล่ออ”

ฉันพูดติดตลกพลางทำหน้าตาอ้อน ๆ เพราะไม่อยากเสียเงินซื้อน้ำที่ราคาต่อแก้วเป็นร้อย

"ได้ครับ คุณน้องคนสวย"

พี่เทมเองก็ตบมุขของฉันกลับอย่างรู้ทันทันที ให้มันได้อย่างนี้สิ พี่ฉัน สปอร์ต หล่อ ใจดี ครบจบในคนเดียว!

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปสั่งเครื่องดื่มแปป เราเอาชาเขียวกับเค๊กวานิลลาใช่มั้ย?”

ไม่น่าเชื่อ ว่าเขายังจำได้ด้วยว่าฉันชอบอะไร

“ยังจำได้อยู่เหรอคะว่าเค้าชอบกินอะไรน่ะ”

ฉันพูดแล้วยิ้มตาหยีส่งไปให้เขา เขาเองก็ลูบหัวฉันเบา ๆ ก่อนจะเดินแยกไปสั่งเครื่องดื่ม ส่วนฉันก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อรอเขาทันที

ไม่นานนักเขาก็เดินกลับมาพร้อมเครื่องดื่มของเขาแล้วก็ของฉัน

“น่ากินจัง ของฟรีนี่ดี๊ดี”

ฉันพูดขึ้นเมื่อเขาวางถาดเครื่องดื่มลงตรงหน้าฉัน พร้อมกับเค้กวานิลลา

“ขอบคุณนะคะ คุณพี่เทม”

ฉันพูดขอบคุณเขาด้วยท่าทางน่ารัก หวังให้เขาเอ็นดูเยอะ ๆ เผื่อจะได้อะไรกินฟรีอีก

“กินเข้าไปจะได้อ้วน ๆ นี่วัน ๆ กินอะไรบ้างมั้ยเนี่ยฮ่ะ”

ฉันก็กินนะ กินมาม่าไง เช้า เย็น ส่วนเที่ยงฉันกินแซนวิซกับนมเอา หรือไม่ก็ไปหาอะไรกินกับยัยนก ถ้าเป็นแบบนั้นก็อาจจะกินเยอะหน่อย

“กินสิคะ กินจุแทบทุกมื้อเลยด้วยสงสัยพยาธิเยอะไปหน่อยน่ะค่ะ ฮ่าๆๆ”

ฉันพูดติดตลกแล้วหัวเราะออกมาแต่...ดูเหมือนคนฟังจะไม่ตลกด้วยเลย

“โกหกไม่เนียน ไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ สินะ”

เขารู้ทันอีกแล้ว เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจริง ๆ

“พี่เทมรู้ได้ยังไงอ่า”

ฉันพูดพลางหลบตาแล้วทำเป็นกินเค้กต่อ

“ถ้าเธอโกหก เธอจะหัวเราะตบท้ายไม่กล้าสบตาตอนพูด เธอเป็นแบบนี้ออกบ่อย”

โห..นี่เขาเคยลืมเรื่องของฉันบ้างมั้ยเนี่ย ขนาดไม่ได้เจอกันนานแล้วนะเนี่ย หากเจอหน้ากันบ่อยครั้ง คงรู้หมดว่าฉันคิดอะไรแบบไหน

“โห..เก่งจัง พี่เทมเองก็ดูไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ เรื่องนิสัยมองออกคนเนี่ย เก่งที่หนึ่งเลย”

ฉันพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะเขาเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงใครอีกคนที่มองฉันออกทะลุปรุโปร่งไปแล้วเรียบร้อย

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ?”

ฉันรีบสบตากับคนตรงหน้าทันที ไม่ได้นะ เขาจะมารู้เรื่องของฉันกับพี่วินไม่ได้นะ หากเขารู้ เขาต้องพาฉันหนีไปหาพ่อกับแม่ทันทีแน่ ๆ แบบนั้นเขาอาจจะเดือดร้อนเพราะฉันอีกคนแน่ ๆ

“เปล่าค่ะไม่มีอะไรหรอกค่ะ”

ฉันพูดแล้วสบตาเขาอย่างไม่ต้องการให้เขาจับได้ทันที ไม่รู้ว่าได้ผลไหม แต่ถ้าเขาไม่ถามเซ้าซี้ก็คงได้ผลแหละ

“พี่เทมลองกินเค้กมั้ยคะ อร่อยน้า”

ฉันทำเป็นตักเค้กไปจ่อตรงหน้าเขา เพื่อเปลี่ยนเรื่องทันที

“ไม่เอาหรอก พี่ว่ามันเลี่ยนจะตายไป”

ฉันทำหน้าหมุ่ยเล็กน้อยก่อนจะเอาเค้กในช้อนนั้นกลับมากินเสียเอง ไม่เห็นจะเลี่ยนเลย หวานออก

“ยังชอบมันอยู่หรือเปล่า?”

จู่ ๆ เขาก็ถามถึงใครบางคน ที่ฉันเคยชอบเขามาก มากเสียจนไม่เคยเปิดใจให้กับใครอีก

“คะ? ใครหรอคะ?”

ฉันทำเป็นไม่เข้าใจในคำถามของเขาทันที เพราะรู้ดีว่าเขาหมายถึงใคร

“อย่ามาทำเป็นไขสือน่า เธอรู้ดีว่าพี่หมายถึงใคร”

ฉันเบือนหน้าหนีพี่เทมทันที จะให้ตอบว่าอย่างไรล่ะ ในเมื่อไม่เคยเลิกชอบเขาได้เลย แม้ใจดวงนี้จะเจ็บสักแค่ไหน ก็ไม่อาจจะลบความรู้สึกของฉันที่มีต่อเขาได้เลย

“ยังชอบอยู่สินะ ไม่สินานขนาดนี้ เรียกว่ารักแล้วล่ะมั้ง”

ฉันหันกลับไปมองเขาทันที ที่พี่เทมพูดออกมาแบบนี้เขาคงมองฉันออกอย่างตามเคย

“อย่าพูดถึงเขาเลยค่ะ เรื่องความรู้สึกของรินน่ะ มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกนะคะ”

ฉันรีบบอกเขาทันที เพราะไม่อยากให้เขาพูดถึงคนใจร้าย ที่ตอนนี้เอาแต่ทำตัวร้ายกาจกับฉันราวกลับว่าอยากจะบีบให้ตายคามือ

“ก็ได้ ถ้าเราต้องการแบบนั้น”

พี่เทมพูดแล้วยกแก้วกาแฟของเขาขึ้นจิบอย่างรู้ทัน ว่าฉันกำลังปกปิดความรู้สึกอะไรอยู่

“พี่เทมกลับมาอยู่กรุงเทพนานแล้วหรอคะ”

ฉันถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องทันที เอ๊ะ นี่ฉันเปลี่ยนเรื่องบ่อยเกินไปหรือเปล่านะ

“อืม.. สองเดือนกว่า ๆ แล้วล่ะ พี่ย้ายกลับมาเรียนปี4ที่นี่น่ะ”

ฉันพยักหน้าเบา ๆ สงสัยจะคิดถึงที่นี่เลยย้ายกลับมา

“มหาลัยเดียวกับรินแน่เลย”

ฉันพูดไปยิ้มไปอย่างรู้ทัน ดูจากที่มาโผล่แถวนี้คงไม่ผิดจากที่คาดเดาสักเท่าไหร่หรอก

“แหน่ะเก่งขึ้นนะเนี่ย เริ่มตามพี่ทันซะและ”

ฉันยิ้มตาใสส่งไปให้เขาอย่างน้อมรับคำชม ไม่คิดจะถ่อมตัวสักนิด

“แล้วนี่เรามาซื้ออะไรล่ะ?”

อยู่ ๆ เขาก็ถามขึ้น จริงสิฉันมาซื้อของไปเก็บไว้นี่นา แล้วนี่ก็ผ่านมานานมากแล้วด้วย หนังสือก็ต้องกลับไปอ่านอีก ตายล่ะ!!

“เค้าลืมไปเลยอ่ะ! งั้นไว้เจอกันนะคะพี่เทม รินต้องไปแล้ว อ้อ! ขอบคุณสำหรับชาเขียวและเค้กอร่อย ๆ ด้วยนะคะ”

ฉันพูดลาเขาพลางรีบลุกขึ้นทันที ก่อนจะตักเค้กชิ้นสุดท้ายเข้าปากทันที และไม่ลืมจะหยิบแก้วชาเขียวมาด้วย

“เดี๋ยว ริน”

ฉันชะงักเท้าที่กำลังจะเดินออกจากตรงนั้นทันทีที่พี่เทมเอ่ยเรียกไว้

“ขอเบอร์ไว้ให้พี่หน่อย ไว้ติดต่อกัน”

พี่เทมพูดแล้วยื่นโทรศัพท์มือถอราคาแพงมาตรงหน้าฉัน ฉันพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะรับโทรศัพท์ของเขามากดเบอร์ของตัวเองลงไป

“แล้วเจอกันนะคะพี่เทม บ๊ายบายน้า”

หลังจากกดเบอร์เสร็จก็ยื่นโทรศัพท์ของเขาคืนทันที ก่อนที่ฉันจะพูดลาแล้วโบกมือบ้ายบายเขาแล้วเดินออกจากร้านตรงไปซื้อของที่ตั้งใจว่าจะซื้อทันทีด้วยความเร่งรีบ

คอมเม้นท์ + กดใจ = เป็นกำลังใจนักเขียนนะคั้บ~~

หากต้องการอ่านตอนใหม่ก่อนใครสามารถเพิ่มเข้าชั้นหนังสือเพื่อรับการแจ้งเตือนได้นะคั้บ><
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 109

    เมื่อรสาถูกพาตัวออกไปวินทัพก็หันกลับมาหาดารินทร์แล้วพาเธอเดินเข้าห้องไป ทิ้งให้ลูกน้องอีกสองคนยืนเฝ้าธามเอาไว้ ธามที่เห็นแบบนั้นก็เค่นหัวเราะออกมา“น่าสนใจดีนี่”เมื่อลากดารินทร์กลับเข้ามาภายในห้อง เขาก็จับข้อมือของเธอขึ้นมาดู ก็พบว่าช้ำจนขึ้นเป็นสีม่วง ๆ รอบข้อมือเลย“เจ็บหรือเปล่า” เขาถามด้วยน้ำเส

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 108

    หลังจากที่ได้นอนพักไปหลายชั่วโมงดารินทร์ก็ตื่นขึ้นมา พบว่าเป็นช่วงเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว ภายในห้องนอนของเธอถูกปิดมืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากด้านนอกของเมืองเท่านั้นที่ส่องเข้ามาภายในความมืดของห้องที่มีเพียงเธออยู่ร่างบางลุกจากเตียงนอนช้า ๆ ก่อนจะเดินออกไปโซนห้องทำงานด้านนอก ก็พบว่าไร้เงาของเจ้าของห้องทำงาน

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 107

    หลังจากที่ดารินทร์ป้อนข้าวคนดื้ออย่างวินทัพเสร็จเขาก็ยอมกินยาและเดินกลับเข้าไปนอนง่าย ๆ ดารินทร์จึงไปจัดการตัวเองเพื่อเตรียมตัวทำงานต่อ วันนี้เธอยังไม่ได้งีบหลับสักนาทีเลยด้วยซ้ำ“หาว~” ร่างบางหาวออกมาฟอดใหญ่ขณะที่กำลังเคีลยร์เอกสารในส่วนที่สำคัญเพื่อเตรียมให้คนป่วยเซ็นหลังตื่น“คุณดารินทร์…ยังไม่ได

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 106

    หลังจากที่ลูกน้องของวินทัพเอาสิ่งที่ดารินทร์ต้องการมาให้แล้ว ร่างบางก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาและตนเองจนแล้วเสร็จ กว่าจะเรียบร้อยก็ทำเอาร่างบางหอบเหนื่อยไปหลายรอบ เพราะเขาขัดขืนอยู่ตลอด แถมบางครั้งยังลืมตามามองค้อนใส่เธออีกด้วย หลังจากดารินทร์จัดการตัวเองเรียบร้อยก็เดินกลับมาหาเขาที่เตียงนอน ยื

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 105

    เป็นไปตามคาด เขาไม่ได้กินยาจริง ๆ เพราะตั้งแต่ไปพบลูกค้ากลับมา เขาก็เตรียมตัวเข้าประชุมไม่ได้คิดสนใจจะกินยาเลย และผลของการดื้อของเขาก็คืออาการหวัดกินน่ะสิ เพราะเขากำลังนั่งซูดซ้าดน้ำหมูกที่ไหลออกมาเพราะพิษไข้อยู่“ไหวไหมคะ?” ดารินทร์เอ่ยถามหลังจากที่มีคนพูดจบแล้วเขาก็ใช้ทิชชู่แผ่นสุดท้ายของห่อไปแล้ว

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 104

    คุณหญิงจิตกมลมองหน้าของดารินทร์ตาเขียวปั๊ด จากที่ไม่ชอบอยู่แล้วยิ่งไม่ชอบไปกันใหญ่“ปากดีให้ได้ตลอดแล้วกัน ออกไปได้แล้วฉันไม่อยากจะเสวนากับคนอย่างหล่อน” คุณหญิงจิตกมลพูดแล้วหันหน้าหนีทันทีดารินทร์เพียงดค้งให้เท่านั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป“ถือดีนัก” คุณหญิงจิตกมลว่าร่างบางลับหลังเบา ๆหนึ่งชั่วโมงต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status