วันต่อมา
@มหาลัย
วันนี้ฉันมาส่งงานอาจารย์ ที่ตึกคณะของพวกพี่วิน เพราะอาจารย์เขามาสอนแทนเพื่อนของเขาที่ตึกนี้ทำให้ฉันต้องมาส่งที่นี่ ฉันเองก็อยากจะส่งวันอื่นนะแต่ว่า...เดตไลน์งานนี้ก็คือวันนี้ตอน4โมงน่ะสิ นี่ก็บ่ายแล้วด้วย ดีนะที่เสร็จทันไม่งั้นแย่แน่
@คอนโดมิเดียมหรู M
ฉันยืนอยู่ตรงหน้าห้องของตัวเองจะเป็นชั่วโมงแล้ว...ฉันรู้ว่าเขาต้องอยู่ข้างในแน่ ๆ และฉันก็รู้ว่าเขาพาใครมา...นอนในห้องของฉัน....เพราะฉันเห็นพวกเขาตั้งแต่ด้านล่างแล้ว...ฉันไม่อยากเข้าไปเห็นอะไรตอนนี้…ฉันรอได้...
แกร๊ก...
"หือ!?"
ฉันมองผู้หญิงที่เปิดประตูออกมาด้วยเสื้อผ้านักศึกษาที่หลุดลุ่ยไม่เรียบร้อย เธอดูตกใจเล็กน้อยที่เห็นฉันยืนอยู่
เมื่อเห็นว่าฉันเป็นใครเธอก็ยกยิ้มให้ฉันอย่างเย้ยหยัน แล้วก็เดินออกไปโดยไม่สนใจฉันอีก เธอคือผู้หญิงคนที่นั่งอยู่กับพี่วินเมื่อเช้านี่…
ฉันสบัดความคิดทั้งหมดออกจากหัวแล้วเดินเข้าไปในห้องด้วยหัวใจที่รู้สึกชา ๆ พอเข้ามาฉันก็เจอพี่วินนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงโซฟา ฉันเดินเลยผ่านเขาไปที่ห้องนอน...สภาพห้องตอนนี้มันไม่ต่างจาก…ห้องของโรงแรมมาตรฐานต่ำ มีกล่องถุงยางที่ถูกเปิดใช้แล้ว แล้วก็พวกถุงยางที่ใช้แล้วในถังขยะใบเล็กของฉัน น้ำตาของฉันรื้นขึ้นมาทันที แต่ฉันก็เก็บห้องไปด้วยอย่างทำเป็นไม่สนใจ…เมื่อไหร่เขาจะออกไปจากชีวิตของฉันสักที! ฉันเกลียดเขาเหลือเกิน เกลียดจนอยากจะอ้วกออกมา แต่ฉันก็…รักเขาเหมือนกัน
“พี่วินหิวหรือเปล่าคะ?”
พอฉันเก็บของในห้องเสร็จก็เดินไปหาเขาแล้วถามเขาเหมือนปกติที่คอยถามตลอด
“ไม่ต้องเสือก”
พี่วินทัพพูดแล้วหยิบเสื้อนักศึกษาของตัวเองพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาคงจะไปแล้ว
“พี่ยังไม่ได้ฟังรินอธิบายเลย...”
ฉันพูดเสียงเบาราวกับกระซิบเมื่อเขากำลังจะเดินผ่านฉันไป..ไม่รู้สิ ฉันแค่ไม่อยากให้เขามองฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้น ต่อให้เขาจะมองว่าฉันเป็นแบบนั้นก็ตาม จริง ๆ ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบายก็ได้ แต่เพราะฉันแคร์เขามากเกินไป
“แล้วฉันต้องสนใจด้วยเหรอ? อืม…ฉันควรสนใจผู้หญิงสำส่อนแบบเธอด้วยสินะ”
ฉันนึกไว้แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังเลือกที่จะพูดออกไป พูดหาเรื่องให้ตัวเองเจ็บ หาเรื่องใส่ตัวไม่เข้าท่าจริง ๆ เลยดารินเอ้ย
“มันไม่ใช่แบบที่พี่คิดนะคะ...พี่น่าจะฟังรินบ้าง”
ฉันพูดโดยไม่หันไปมองหน้าเขา ตอนนี้เขาคงส่งสายตาอำมหิตส่งมาให้ฉันเหมือนเคยน่ะแหละ
“งั้นที่เธอเห็นวันนี้...ก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดเหมือนกัน..เธอเชื่อหรือเปล่าล่ะ ว่าฉันไม่ได้เอากับผู้หญิงคนอื่นในห้องเธอ...ฉันแค่พายัยนั่นมาติวหนังสือ...เธอเชื่อหรือเปล่า?”
ฉันหมดคำจะพูดจริง ๆ นั่นมันไม่เหมือนกันด้วยซ้ำ ของเขาน่ะ หลักฐานก็มี…
“หึ! เงียบแบบนี้ตอบไม่ได้สินะว่าเธอเชื่อฉัน เพราะหลักฐานมันชัดไง ก็เหมือนกับที่ฉันเห็นไง ทั้งบอกว่าคิดถึงทั้งลูบหัว นี่ถ้าไร้ยางอายกันสักหน่อย ไม่เอากันตรงนั้นเลยหรือไง!”
ฉันหันควับไปหาเขาทันที เขาต้องเกลียดฉันขนาดไหนถึงได้พูดคำพวกนี้ออกมาอย่างหน้าไม่อาย ฉันมีอะไรแค่กับเขาคนเดียว! ฉันไม่ใช่พวกชอบนอนกัคนอื่นไปทั่ว เขารู้ดีกว่าใครด้วยซ้ำ แต่เขากลับ…
“ค่ะ ถ้าพี่จะดูถูกรินขนาดนี้ งั้นต่อไปก็อย่ามาแตะตัวรินอีกเลยนะคะ พี่ควรขยะแขยงรินให้มากกว่านี้!”
ฉันพูดออกไปด้วยความโมโห เขามันบ้า พูดจาดูถูกฉันออกมาได้อย่าไม่รู้สึกอะไร เมื่อพูดจบก็หันหน้าเตรียมเดินหนีทันที เพราะไม่อยากจะเสวนากับเขาไปมากกว่านี้อีกแล้ว
พรึ่บ!!
“อ๊ะ!!!”
แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้า เขากล็คว้าแขนของฉันเอาไว้ ก่อนจะออกแรงบีบอย่างแรงจนฉันนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“เธออย่าฝันเลย ไม่มีวันนั้นหรอก เพราะฉันจะทำกับเธอแบบนี้...จนกว่ามันจะสาสมกับสิ่งที่เธอทำกับหยก!”
เขาพูดออดมาด้วยความโกรธแถมยังบีบข้อมือฉันแรงมากขึ้นกว่าเดิมอีก เอาอีกแล้วเรื่องผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว นี่เขาจะโกรธแค้นอะไรฉันนักหนา ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอด้วยซ้ำ!
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะคะ! เมื่อไหร่มันจะสาสมกันสักที! รินเหนื่อย!! รินเหนื่อยมากแล้ว! รินไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยซ้ำอะพี่วิน!เลิกเอาเรื่องนี้มาข่มเหงรินสักที!"
ฉันพูดพลางทิ้งตัวร้องไห้ตรงหน้าของเขา อย่างอดไม่อยู่ฉันไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้วไม่อยากอีกแล้ว! ฉันเหนื่ย เหนื่อยที่จะยอมเขาแบบนี้เหนื่อยที่จะรักเขาแล้ว เขาเอาแต่ทำร้ายฉันทั้งร่างกายและจิตใจซ้ำ ๆ จนฉันจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว!
“แล้วใครใช้ให้เธอทำกับผู้หญิงที่ฉันรักล่ะ!! เราเกือบจะได้แต่งงานกันอยู่แล้ว! แต่สุดท้ายเธอเป็นแบบนั้นก็เพราะเธอ!”
ฉันมองหน้าเขาด้วยความเจ็บปวดผู้ชายที่ฉันแอบรักมาตลอดชีวิต! เขากลับเกลียดฉันได้ขนาดนี้…แถมยังโทษว่าฉันเป็นคนทำอีก
“แล้ว..ฮึก..ถ้าวันนั้น..ถ้าวันนั้นเป็นรินที่โดนล่ะคะฮึก! พี่จะทำกับผู้หญิงคนนั้นเหมือนที่พี่ทำกับรินรึป่าวคะ?”
ฉันถามออกไปแต่ไม่ได้มองหน้าเขา ฉันกลัวคำตอบนะแต่…ฉันอยากจะรู้ว่าเขาคิดยังไง
“แล้วทำไม...ทำไมฉันต้องทำกับหยกแบบนั้นล่ะ? เธอไม่ใช่คนที่ฉันรัก เธอไม่ใช่!และก็จะไม่มีวันใช่ด้วย!"
เขาสบัดมือของฉันทิ้งอย่างแรงก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างไม่หันกลับมาอีกเลย...เจ็บดี... ถึงจะรู้คำตอบอยู่แล้วก็ยังอยากจะถามออกไป ทำไมนะ ทำไมวันนั้นคนที่โดนกระทำแบบนั้นไม่เป็นฉันกันนะ...น่าจะเป็นฉันคนนี้! ฉันจะได้ไม่ต้องมาเจ็บแบบนี้
1 อาทิตย์ต่อมา
ตอนนี้ฉันเตรียมตัวสอบอย่างหนักทุกวัน ใกล้จะจบปีสามแล้วนี่เนอะโชคดีที่หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่เคยมาให้ฉันเห็นอีก เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ จะได้มีสมาธิสอบ...ถ้าฉันจบปีสี่เมื่อไหร่ฉันจะรีบไปหาคุณพ่อคุณแม่เลย…คิดถึงพวกท่านจัง
“นี่! ฉันเรียกไม่ได้ยินรึไงห๊ะ!”
ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเผลอคิดอะไรเพลินไปหน่อยจนเพื่อนสนิทอย่างยัยนกตะโกนบ่นอุบใส่เสียงดัง
“เบา ๆ สิยัยบ้า!นี่มันในห้องสมุดนะ”
ฉันพูดเอ็ดยัยนกเสียงเบาราวกลับกำลังกระซิบ เพราะหวังจะให้ได้ยินกันสองคน หากเป็นข้างนอกฉันจะไม่อะไรเลย แต่นี่ในห้องสมุด แถมยังเป็นช่วงสอบอีก สายตาตำหนิหลายคู่จึงหันมามองพวกเราแกมต่อว่าในใจ
“ก็แล้วฉันเรียกทำไมไม่ตอบกันเล่า หือ คิดอะไรไปถึงไหนเนี่ย”
ฉันเอี่ยวหัวหลบทันทีที่ยัยนกเอามือมายีหัวฉันเบา ๆ ยัยบ้านี่หัวยุ่งหมดเลย
“ผมยุ่งหมดเลยอะ ยัยนก”
ฉันพูดไปพลางสางผมตัวเองไป ไม่วายต้องทำหนาหมุ่ยใส่อีกฝ่ายด้วย หัวยุ่งหมดเลยเนี่ย
“แล้วเรียกเรามีอะไรเหรอ?”
ฉันถามเมื่อนึกขึ้นได้ถึงสาเหตุที่ยัยนกทำฉันหัวยุ่งแบบนี้ ถ้าเป็นเรื่องไร้สาระล่ะน่าดู!
“ก็ฉันขี้เกียจลุกไปหาหนังสืออ่ะ นี่อ่ะ! ฉันจดชื่อหนังสือใว้ให้แล้วรบกวนหน่อยน้า เพื่อนรัก”
ยัยนกพูดแล้วทำหน้าออดอ้อน น่ารักมากมั้งน่ะ ฉันอีกตายเคย
“โอเค ๆ รอแป๊บละกันนะ”
ฉันพูดแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างเบาที่สุดเท่าที่จะทำด้ ก่อนจะหยิบกระดาษจดหนังสือที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ด้วยความเบื่อหน่ายเพื่อนสนิทเต็มทน
“ขอบใจน้าา งุงงิ้ง”
ยัยนกพูดแล้วจับมือฉันเบา ๆ แล้วนำไปถูกไถที่หน้าอย่างออเซาะ ให้ตายสิเป็นงี้ตลอดเลย แต่ฉันก็พยักหน้ารับเบา ๆ อย่างไม่อะไรมาก เอ็นดูเสียมากกว่าด้วย ก่อนจะเดินไปตรงหมวดที่ยัยนกจดให้ไว้
“มึง กูว่าจะเล่นแม่งวันนี้มึงเอาไง”
แต่จู่ ๆ ฉันก็ดันไปได้ยินบทสนทนาหนึ่งเข้าให้ พวกพูดอยู่ตรงไหนสักแห่งของห้องนี้ ถึงเสียงจะไม่ดังมาก แต่หากเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินมันชัดเจนราวกับพูดอยู่ข้างกันเลย
“มึงมั่นใจเหรอวะ ว่าจะชนะกลุ่มพวกมัน”
ฉันทำท่าไม่สนใจก่อนจะหาหนังสือต่อ เพราะมันไม่น่าเกี่ยวอะไรกับฉันและฉันว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งกับพวกที่ชอบยกพวกตีกันสักเท่าไหร่ ว่าแต่ทำไมเลือกมาคุยกันในห้องสมุดล่ะเนี่ย
“อยู่นี่เอง…”
ฉันพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะหยิบหนังสือที่ยัยนกให้มาเอาขึ้นมาถือไว้
“หึ มึงคิดว่าคนอย่างไอ้วินทัพมันจะเก่งสักแค่ไหนกันวะ แม่งลองต่อยกับกูตัว ๆ แม่งก็แพ้กูอยู่ดี”
ฉันชะงักกึกทันทีที่ได้ยินชื่อของบุคคลที่พวกเขากล่าวถึง พี่วินทั…ถ้าให้เดาคงมีแค่คนเดียว เพราะเขาน่ะมีเรื่องไปทั่วแถมชื่อเสียงยังดังกระฉ่อนอีกด้วย ว่าเขาน่ะเก่งกาจแค่ไหน สู้กับใครก็ชนะจนหลายต่อหลายคนอยากจะโค่นล้มเขา
“กูว่านะ มันก็คงแค่อวดเก่งไปวัน ๆ น่ะแหละ แค่เอากลุ่มมันมาข่มพวกเราเท่านั้นแหละ จริง ๆ ก็กระจอก”
ไม่จริงเลยกลุ่มของพี่วินถึงจะมีแค่ห้าคน แต่พวกเขาเก่งกาจกันทุกคน เพราะฉันเคยเห็นพวกเขาสู้มาแล้วถึงได้กล้าพูด ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นพวกเขาอายุแค่สิบแปดสิบเก้าเท่านั้นเอง แต่ล้มผู้ใหญ่ได้ดย่างงายดาย พวกเขาน่ะน่ากลัวเกินไป
“แล้วก็อีกอย่างนะ กูก็มีของไปเซอร์ไพรส์มันด้วย”
ฉันขยับเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อดูว่าเขาเป็นใครแต่พอเห็นสิ่งที่ผู้ชายคนหนึ่งพูดหยิบขึ้นมาก็ถึงกับชะงักทันที..งมันคือปืน...ตอนนี้ฉันสั่นไปหมด มันทำอะไรไม่ถูกเลย นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้วนะ
ฉันทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งค้างอยู่แบบนั้น...พี่วินกำลังจะมีอันตราย…ไม่ได้นะ! เขาจะตายไม่ได้นะ! ถึงเขาจะทำร้ายฉันมากแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่อยากเห็นเขาเป็นอะไรไปหรอกนะ...ฉันควรทำยังไงดี…
ปึก!
“เชี่ย ใครวะ!”
แย่แล้ว...ฉันมัวแต่คิดไม่ตกเรื่องที่เห็นจึงเผลอทำหนังสือตก ทำไงดี! ฉันไม่รอช้ารีบวิ่งออกจากตรงนั้นทันที ก่อนจะรีบวิ่งไปหายัยนกทันที ถ้าพวกนั้นจับได้ฉันแย่แน่!
“อ่าวมาแล้วเหรอ ทำไมไปนานจัง?”
ยัยนกทักฉันทันทีที่เห็นหน้าแต่ฉันไม่ได้สนใจสิ่งที่ยัยนกพูดเลย ฉันรีบหันไปมองทางที่เดินมาทันทีก็เห็นผู้ชายสองคนนั้นกำลังจะเดินมาทางนี้
“แกยังไม่ต้องถามอะไรนะทำตัวปกติอ่านหนังสือไป ฉันอ่านหนังสือล่ะ”
ฉันรีบพูดแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือตรงหน้าทันที ทำเหมือนปกติ ยัยนกเองขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ยอมเงียบ จนผู้ชายสองคนนั้นเดินผ่านไป ให้ตายสิ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ไม่สิ ฉันต้องรีบไปหาพี่วิน! ต้องรีบไปเตือนเขา!
“ยัยนก ฉันไปก่อนนะพอดีเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระด่วนอะ”
ยัยนกเองก็มองฉันเก็บของแบบงง ๆ เพราะตอนนี้ฉันเก็บของลวก ๆ ยัด ๆ มันเข้ากระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจนัก เพราะเรื่องที่รู้มานั้นสำคัญกว่ามาก
“เดี๋ยว ๆ ริน แกเป็นอะไรเนี่ย? มีเรื่องอะไร?”
ยัยนกจับแขนฉันไว้แล้วถามทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างไปจากฉันสักเท่าไหร่
“เดี๋ยวไว้ฉันเล่าให้ฟังทีหลังนะ แต่ตอนนี้ขอฉันไปจัดการธุระก่อน ไปนะ”
ฉันพูดแล้วรีบเดินออกมาทันทีไม่รอให้นกซักไซ้อะไรเพิ่ม...แต่เมื่อเดินออกมาถึงหน้าสมุดก็ต้องหยุดชะงัก...เมื่อ...
“กูกะแล้วเชียว...”
สายตาน่ากลัวของผู้ชายที่ควักปืนตอนนั้นกำลังทำให้ฉันกลัว...กลัวจนไม่กล้าขยับไปไหน...พวกเขารู้ได้ยังไง…
“ว่าไงคนสวย จะรีบไปไหนล่ะ...รีบไปหาไอ้วินทัพหรอ?”
ฉันถอยหลังช้า ๆ หนีคนที่เดินเข้ามาหาแทบจะทันที แปลกจังคนแถวนี้หายไปไหนหมดเนี่ย! แบบนี้ฉันจะหนียังไงดีล่ะ!
“แหม๋ ชีวิตไอ้เหี้ยวินนี่มีแต่ผู้หญิงรุมล้อมจังนะ…หึ!”
ฉันยังคงเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ โดยพยายามหาทางคิดเอาตัวรอด ฉันไม่น่ารีบออกมาเลย! ให้ตายสิ!
“อย่า…อย่าเข้ามานะ!!”
ฉันเริ่มพูดเมื่อมันจะถึงทางตันอยู่แล้วที่ไม่เลือกกลับเข้าไปข้างในเลยเพราะกลัวว่าจะรบกวนคนอื่น...แต่ฉันว่าฉันควรกลับเข้าไปข้างในจริง ๆ นั่นแหละ นึกได้แบบนั้นฉันก็หันหลังกลับทันทีเตรียมวิ่งสุดกำลังเลยล่ะ
พรึ่บ!
“อ๊ะ!!”
อยู่ ๆ ผู้ชายคนนั้นก็วิ่งมาดักหน้าฉัน…อย่างรู้ทัน
“ถอยไปนะ!!”
ฉันพูดบอกด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าปกติ เหมือนจะไม่กลัวแต่ในใจฉันกลับเต้นรัวยิ่งกว่ากลองที่ถูกตีเสียอีก ราวกลับว่ามันจะเด้งออกมาจากอกอย่างไรอย่างนั้น
“ทำไม? ถอยให้เธอคาบข่าวไปฟ้องไอ้เหี้ยวินมันเหรอ อย่าฝันไปเลย!!"
พรึ่บ!
“อื้อ!!!.”
พวกนั้นเอาผ้ามาปิดจมูกฉันและกอดรัดตัวฉันไว้แน่น...ฉันดิ้นสุดกำลังก่อนที่ทุกอย่างเริ่มเลือนลาง…และทุกอย่างก็ดับลงราวกับถูกปิดสวิซลง
คอมเม้นท์ + กดใจ = เป็นกำลังใจนักเขียนนะคั้บ~~
หากต้องการอ่านตอนใหม่ก่อนใครสามารถเพิ่มเข้าชั้นหนังสือเพื่อรับการแจ้งเตือนได้นะคั้บ><