Share

บทที่ 8

last update Last Updated: 2025-03-19 11:53:48

คนร่างสูงใหญ่ที่ยืนนิ่งบนระเบียงขบกรามแน่น สายตาคมกริบจ้องไปยังหญิงสาวอย่างประเมินและครุ่นคิด ขณะที่นายปั้นกับนายแสงถึงกับตัวสั่น กล้าๆ กลัวๆ ที่จะห้ามเธอ 

“กลับไปได้แล้ว แล้วคืนนี้ไม่ต้องมาอีก” 

เสียงดุกร้าวดังแทรกความเงียบ ปิ่นลดาทำท่าจะค้าน แต่พอเห็นว่าสองคนข้างหลังขยับตัว พากันเดินออกไปอย่างรวดเร็ว เธอเลยถึงบางอ้อ

คิดว่าจะถูกไล่ซ้ำไล่ซ้อนซะอีก เฮ้อ!

เมื่อสองคนนั้นหายไปแล้ว ปิ่นลดาจึงหันมายังชายคนที่หมายตาว่าจะทำให้เธอพบกับตาเฒ่าตัณหากลับที่ทำให้เธออยู่ในสภาพนี้ให้ได้ แต่พอเห็นว่าร่างนั้นกำลังก้าวลงจากบันไดที่ทอดเลื้อย เธอก็ขยับตัว บอกตัวเองไม่ได้ว่าควรดีใจหรือวิ่งหนีกันแน่

ร่างใหญ่ทะมึนหากเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ดูประเปรียว ทำให้เธอรู้สึกไม่ต่างกับการเผชิญกับเสือดำ!

“ฉัน...ฉันไม่อยากคุยกับคุณ แต่อยากให้เรียกคุณใหญ่มาคุยกับฉัน” 

ปิ่นลดายอมเสียฟอร์ม เมื่อสัมผัสถึงรังสีอันตรายจากผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ไม่อาจมองเห็นใบหน้า แต่คะเนจากขนาดร่างกายและความคล่องตัวของเขา หล่อนฉลาดพอที่จะไม่ต่อกร

“มีอะไรบอกกับฉันได้”

“ไม่ได้หรอก ฉันมีเรื่องสำคัญ คนนอกไม่เกี่ยว”

“อ๋อ เรื่องระหว่างเธอกับเขา เรื่องลับของสองคน” 

น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของเจ้าของวาจาดุกร้าวแถมยังมีท่าทางเคร่งขรึมเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ทำให้ปิ่นลดาสะท้านอย่างไม่รู้ตัว สัญชาตญาณในกายร่ำร้องให้หาทางหลบจากเขา ยิ่งเมื่อตวัดสายตามองโดยรอบ...ความเงียบสงัดกับความมืดมิดของราตรีกาลยิ่งให้ปิ่นลดาตระหนักว่าไม่ใช่จังหวะเหมาะที่จะคาดคั้นเขาเพื่อจะพบกับเจ้าของคฤหาสน์

“ฉันว่า ฉันควรกลับ” 

หล่อนว่าพลางหันกายกลับ คิดจะจ้ำอ้าวอย่างไม่เหลียวหลังไปยังสถานที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด หากสองเท้าบางต้องชะงักกึก เมื่อได้ยินเสียงทรงอำนาจดังจากข้างหลัง

“ฉันยังไม่อนุญาตให้เธอกลับ” 

แม้จะไม่ดังมาก หากบางอย่างที่เจือกับน้ำเสียงนั้นทำให้ปิ่นลดาตัวเย็นวาบ หายใจติดขัดขึ้นมาดื้อๆ มือเรียวสองข้างกำแน่น หล่อนกำลังตัดสินใจว่าควรทำอย่างไรในห้วงเวลาวิกฤตนี้ แม้ทุกอย่างยังเงียบนิ่ง แต่รู้ว่าภัยอันตรายค่อยๆ แทรกมาหา และเธอคงไม่อาจยืนนิ่งเฉยโดยไม่คิดจะต่อสู้เลย

ปิ่นลดาตัดสินใจวิ่งหนีกลับทิศทางเดิม หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ท่ามกลางคืนเดือนมืดไร้แม้แสงจันทร์ส่องทาง เสียงตึกตักที่ดังพร้อมจังหวะย่ำเท้าของตัวเองยิ่งทำให้เธอต้องพยายามเร่งหนี ทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นเสียงหัวใจที่กระหน่ำสั่นหรือเสียงจากผู้ชายคนนั้น

หากเธอไม่มีเวลาคิดถึงมันอีกแล้ว เมื่อรู้สึกถึงแรงกระชากจากด้านหลังทำให้ร่างแทบหักกลาง แรงนั้นกระชากเธอปะทะกับกำแพงเนื้อหนาหนั่น

“กรี๊ด! ปล่อยฉัน”

ปิ่นลดาดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง สำเหนียกในวินาทีนั้นว่าทางรอดของตนแทบเป็นศูนย์แล้ว

ท่อนแขนกำยำรัดเอวบางแล้วดึงแนบชิดลำตัวแกร่ง อุปาทานไปเองหรือเปล่าไม่รู้ว่าเขากำลังฉวยโอกาสลวนลามเธออยู่ 

กระทั่งลำแขนข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นสูง ช้อนทรวงอกอิ่มเต็มขึ้น แล้วรัดกระชับแน่นเข้า หญิงสาวหัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อได้ยินเสียงหอบแปลกๆ จากคนซ้อนหลัง มันไม่ใช่เสียงหอบเพราะเหนื่อยที่ต้องวิ่งตามเธอแน่นอน 

หญิงสาวกรีดร้องดังสุดเสียงด้วยไม่อาจระงับความกลัว เมื่อความร้อนผ่าวแข็งขึงดุนดันอยู่กับบั้นท้าย เขาจงใจทำมัน คนหยาบคายตั้งใจลวนลามเธอ!

“ปล่อยฉัน! ปล่อย! ฉันไม่พบคุณใหญ่แล้ว ไม่พบก็ได้ ปล่อยสิ!” 

หล่อนตะโกนพลางดิ้นสุดกำลังหวังจะหลุดพ้นจากการกระทำจาบจ้วง เขาเป็นใครกัน ทำไมถึงได้อุกอาจทำกับเธอในเขตคฤหาสน์แห่งนี้ที่ใครต่อใครก็ต่างกลัวเจ้าของกันทั้งนั้น

“ทำไมยอมง่ายๆ ล่ะ ฉันกำลังสนุก จะว่าไปเธอก็ถูกใจฉันนะ ปิ่นลดา” 

“หยุดพูดนะ นายทำหยาบคายกับฉันไม่ได้ เพราะ...เพราะคุณใหญ่จะโกรธนาย”

“คุณใหญ่?” เสียงห้าวฟังดูประหลาดใจ ก่อนเปลี่ยนเป็นถามเหมือนกำลังขำเธอ “คุณใหญ่เนี่ยนะจะโกรธฉัน แล้วโกรธเรื่องอะไร”

“ฉันเป็นคนของเขา ฉันเป็นผู้หญิงของคุณใหญ่ นายจะทำหยาบคายกับผู้หญิงของนายไม่ได้ ปล่อยฉันลงถ้าไม่อยากตาย”

ปิ่นลดาขู่ฟ่อเท่าที่สติและปัญญาที่เหลืออยู่จะเค้นออกมาได้ แล้วร่างใหญ่นั้นก็หยุดลวนลาม แรงรัดจากลำแขนแกร่งคลายลง 

หญิงสาวหัวใจพองโต...หรือชื่อของ ‘คุณใหญ่’ จะได้ผลจริงๆ

“เธอเป็นผู้หญิงของเขา แล้วเคยเจอเขาหรือเปล่า รู้หรือว่าเขาเป็นคนยังไง”

เสียงถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ ปิ่นลดาได้จังหวะสะบัดตัวออก ถอยห่างราวกับร่างใหญ่ยักษ์นั้นเป็นของร้อน และน่าเจ็บใจที่เขายังยืนได้มั่นคง ส่วนเธอนั้นหรือ...เซแซดๆ ไปสองสามก้าว แทบจะสะดุดเท้าตัวเองล้ม ก่อนตั้งตัวยืน

“ทำไมจะไม่รู้ ถึงเขาจะแก่ แต่ฉันชอบเขา เขาใจดี ไม่หยาบคายอย่างนาย และจำไว้นะ อย่าบังอาจแตะต้องตัวฉันอีก ไม่งั้นฉันจะฟ้องเขาให้สั่งคนจับนายยิงเป้า”

หล่อนประกาศก้อง คนร่างใหญ่ถึงกับยืนจังงัง แม้ไม่เห็นหน้าแต่ปิ่นลดาก็รู้หรอกว่าเขากลัวโทษที่เธอขู่

“อย่าตามมานะ ถ้าไม่อยากตาย”

หล่อนถอยห่างอีกสามก้าว ก่อนหันกายวิ่งหนีสุดฝีเท้า ร่างน้อยในชุดเสื้อคลุมสีขาวที่เห็นรางๆ ในคืนเดือนมืดจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง 

คนข้างหลังยกมือเท้าสะเอวมองตาม ดวงตาคมหรี่ลง เรียวปากหยักกระตุกยิ้มอย่างจอมวายร้าย

อย่างนี้จะพึ่งเทคโนโลยีผลิตเลือดเนื้อเชื้อไขให้โง่ทำไม ก็หล่อนร่ำร้องอยากเป็นผู้หญิงของนายใหญ่ใจจะขาดแล้ว!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 66 (จบ)

    หล่อนหอบกระเส่า เปล่งเสียงเรียก ทิ้งศีรษะกับที่นอนอย่างหมดทางเมื่อเรียวลิ้นสากระคายกดคลึงยอดเกสรสวย ช่องทางรักอุ่นชื้นถูกรุกรานด้วยนิ้วแกร่งที่ทำงานประสานกัน เร่งจังหวะรัวเร็ว จนหล่อนดีดตัวสูง บิดกายเมื่อความเสียวซ่านกำซาบทั่วทุกรูขุมขน หากเขาไม่ปรานี กลับเร่งอารมณ์โถมใส่ กายอิ่มสั่นระริก ส่งเสียงครางกระเส่าเคล้าเสียงสะอื้นไห้อย่างยอมจำนนดวงหน้านวลแดงก่ำด้วยฤทธิ์อารมณ์สะบัดไปมา ดวงตาหวานเปิดปรือเย้ายวนอย่างไม่รู้ตัว มือนุ่มที่ถูกมัดไว้กำแน่นเข้ามากัน ระลอกคลื่นอารมณ์ใหญ่ยักษ์ซัดสาดเข้ามาต่อเนื่อง กระทั่งสิ่งที่อัดแน่นในกายระเบิดโพลง พล่านพร่าเกินจะควบคุม“คุณใหญ่ขา ลดาไม่ไหวแล้ว”ปิ่นลดาครวญอย่างน่าสงสาร ก่อนกรีดร้องอย่างไม่อาจทนไหว ทิ้งกายเปลือยลงระทวยทอดอย่างหมดทาง ปรับลมหายใจและอารมณ์ข้างในที่ปลดปล่อยออกมาร่างหนาใหญ่ขยับนั่งคุกเข่า เขาถอดเสื้อคลุมออก เหลือเพียงกายแกร่งเปลือย โน้มคร่อมเจ้าร่างบาง ปลดเชือกที่พันธนาการข้อมือเธอไว้ แล้วไล้เลื่อนต่ำมาผลักท่อนขาอวบให้เปิดกว้างปิ่นลดาผวาเฮือก แอ่นกายไขว่คว้าสามีหนุ่ม เมื่อเขาดันกายเข้า

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 65

    บทส่งท้ายปิ่นลดา...ยอดรักยอดปรารถนาหลังจากแต่งงาน ไม่กี่เดือนต่อมาปิ่นลดาก็คลอดลูกชายคนแรกให้กับรัชตะ และว่างเว้นไม่ถึงปีหญิงสาวก็ตั้งท้องลูกสาวคนที่สอง ตอนนี้ทารกน้อยออกมาลืมตาดูโลกได้กว่าแปดเดือนแล้วในแต่ละวันหญิงสาวต้องหัวหมุนกับลูกชายหญิง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในความวุ่นวายนั้นช่างเปี่ยมด้วยความสุขอย่างที่เธอนึกไม่ออกว่าชีวิตนี้จะต้องการอะไรอีก...นอกเหนือจากสามีหนุ่มและลูกสองคนอันเป็นแก้วตาดวงใจในวันนี้รัชตะออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อเข้าร่วมประชุมหุ้นส่วนใหญ่ซึ่งเป็นนักธุรกิจต่างชาติในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีโรงงานตั้งอยู่ในประเทศพม่า โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่กลางเมืองเชียงราชของฝั่งไทยเขากลับเข้าบ้านในเวลาสองทุ่ม ทันทีที่ภรรยาสาวซึ่งเพิ่งจัดการกับลูกน้อยสองคนเสร็จเห็นเขาก็ยิ้มกว้างแล้วเดินไปหา“งานเป็นยังไงบ้างคะ เสร็จเรียบร้อยดีไหม”ปิ่นลดากอดท่อนแขนล่ำสันของสามีไว้ แนบแก้มนวลด้วยท่าทางประจบอย่างแสนน่ารัก ทุกท่าทางเป็นไปโดยธรรมชาติ“เรียบร้อยครับ”“คุณใหญ่มาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอุ่นให

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 64

    “พราวพิชชาค่ะ พี่สาวของลดา”“ชื่อยังกะลิเก”เสียงเปรยเข้าหูในระยะประชิด พราวพิชชาต้องกลั้นอารมณ์อีกรอบ แต่เธอไม่ต้องทนนานเมื่อเสียงคุ้นหูดังเข้ามา อย่างที่ต้องรีบหันมอง“คุณแหวว คุณแหววจริงๆ ด้วย ลดาดีใจจังเลย ในที่สุดคุณแหววก็มา”ร่างงามอิ่มในชุดไทยประยุกต์สีครีมที่เห็นชัดว่ากำลังตั้งครรภ์เดินแกมวิ่งมาหา จนต้องปราดไปรับ กลัวว่าเจ้าสาวจะล้มคว่ำเสียก่อน“ลดาคิดว่าคุณแหววจะไม่มาซะอีกค่ะ”“มาสิ พี่ต้องมา ลดาแต่งงานทั้งที”พราวพิชชายิ้ม ยกสองมือประคองแก้มนวลที่ตกแต่งไว้อย่างดี เธอมองทั่วดวงหน้าน้องสาวแล้วดันออกห่าง สังเกตถ้วนทั่วแล้วยิ้มพอใจ“ลดาสวยมากเลยจ้ะ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น พี่ดีใจจริงๆ ที่เห็นลดาในภาพนี้”เธอหลุดความคิดออกมา พราวพิชชาพอรู้ว่าน้องสาวบุญธรรมต้องเจอกับอะไรก็ต่อเมื่อเรื่องมันเลยมาจนถึงวันนี้แล้ว ถามพ่อกับแม่กลับได้คำตอบว่าปิ่นลดาสบายดี เจ้าตัวเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วเลือกทำงานที่เมืองไทยต่อ โดยปฏิเสธจะไปอยู่ออสเตรเลียด้วยกันหากค

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 63

    “ไม่เชื่อค่ะ ลดาไม่เชื่อหรอกว่าตลอดชีวิตของคุณจะไม่มีใครอีก นอกจากเด็กมอมแมมอย่างลดาในตอนนั้น”“มันก็ใช่ ความจริงมีคนเต็มใจเยอะเชียวละ แต่ฉันไม่ตกลง” เขาว่าหน้าตาเฉย แต่คนฟังเบ้หน้า “ฉันอยากได้แม่เก่งๆ ให้ลูก แล้วถูกใจฉันด้วย”“คนเต็มใจของคุณใหญ่มีคุณชัญญาด้วยไหมคะ”“ฉันบอกแล้ว คุณชัญญาเป็นผู้หญิงที่ฉันให้ความสนิทสนม เธอเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ฉันไม่เคยคิดเป็นอื่น”“แต่คุณชัญญาคิด” หล่อนว่าเสียงเข้ม ชายหนุ่มต้องอธิบายด้วยท่าที งอนง้อ“ต่อจากนี้ไม่คิดแล้วละ เชื่อฉัน เรื่องที่คุณชัญญาช่วยเธอหนีกลับกรุงเทพฯ วันนี้ ฉันก็รู้ แต่ไม่อยากพูดถึงอีก ขอให้มันจบได้ไหม เรื่องนี้ฉันขอ เพราะเราต้องอยู่ร่วมกันในเชียงราช อาจจะตลอดชีวิตของเรา แล้วฉันเชื่อว่าคุณชัญญาเป็นผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรี เธอจะจบเรื่องของเราลงแค่นี้แน่นอน”“โอเคค่ะ ลดาเชื่อและคิดเหมือนคุณ...แต่ขอบอกไว้นะคะถ้าเมื่อกี้คุณใหญ่ไม่บอกว่ารักลดาก่อน ลดาจะไม่ยอมรับฟังอะไรง่ายๆ ลดาจะทำให้คุณเจ็บตัวด้วย ผู้ชายอะไร พิษสงรอบตัวจริ

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 62

    หญิงสาวหันมอง อมยิ้มแก้มตุ่ย ไม่บอกเขาหรอกว่าตนกำลังมีความสุขเหลือเกิน ก็ผู้ชายที่รักเต็มหัวใจแถมยังเป็นพ่อของลูกในท้องบอกรักพร้อมกับขอแต่งงาน ต่อให้เหนื่อยอ่อนแค่ไหนก็เรียกพลังคืนได้ในพริบตา“ทานข้าวกันเลยไหมคะ ค่ำแล้ว คุณลดากำลังท้องกำลังไส้ ท้องว่างนานไม่ดี เดี๋ยวคุณหนูจะหิว”พวงทิพย์เดินออกมาบอกเสียงจริงจัง จนปิ่นลดาหน้าเหวอกับท่าทางที่เปลี่ยนไป กระนั้นก็รีบปรับสีหน้ายิ้มรับอย่างจริงใจพร้อมบอกขอบคุณ จนแม่บ้านใหญ่ยิ้มเก้อ รีบกลับเข้าห้องครัวสั่งเด็กตั้งโต๊ะเสียงหัวเราะในลำคอหนาทำให้ปิ่นลดาหันมอง“คุณใหญ่หัวเราะทำไม มีอะไรน่าขำหรือคะ”“ขำเธอกับคุณทิพย์ไง”“คุณใหญ่นี่ นิสัยไม่ดีอีกแล้ว”ปิ่นลดารู้ทันหรอกน่า หยิกท่อนแขนกำยำก่อนฝ่ายนั้นจะโอบพาเข้าห้องทานอาหาร เพราะไม่อยากให้เธอกินข้าวมื้อค่ำผิดเวลานานสองคนใช้เวลาส่วนตัวในห้องทานอาหาร ช่างน่าแปลกว่าวันนี้แม้จะเป็นอาหารรสเลิศ ไม่ต่างจากวันก่อนที่ปิ่นลดาเห็นแล้วอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง จนรัชตะต้องลงมือทำเมนูสารพัดไข่ให้หล่อนแทน

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 61

    การกลับมาถึงคฤหาสน์ราชเกียรติกูรในช่วงเย็นความรู้สึกต่างจากการออกไปในตอนเช้าโดยสิ้นเชิงปิ่นลดาก้าวลงจากรถ มองรอบตัว สูดลมหายใจเต็มปอด เหมือนกับว่าได้จากไปนานแล้วเพิ่งหวนคืนมา สำนึกอีกส่วนบอกว่าที่นี่คือ ‘บ้าน’ ที่หล่อนจะอยู่ด้วยหัวใจอบอุ่นและมั่นคงรัชตะแตะเอวพาหญิงสาวเข้าไปในบ้าน ศจีที่วิ่งออกมาทำหน้าดีใจก้ำกึ่งจะร้องไห้ ปิ่นลดาจับมือไว้ ถามพลางยิ้มเต็มสีหน้า“เป็นอะไรศจี คิดถึงฉันมากหรือ ไม่เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง”“ฉันคิดว่าคุณจะไม่กลับมา ฉันใจหายหมดเลยคุณรู้ไหม”หญิงร่างผอมบางบอก น้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ จนปิ่นลดาต้องหัวเราะเสียงใสหวังจะสร้างบรรยากาศใหม่“ทำไมจะไม่กลับ ฉันไม่ได้ไปไหนสักหน่อย ศจีอย่าตื่นตูมไปหน่อยเลยน่า”เจ้าหล่อนว่าพลางเดินผ่านจะขึ้นไปชั้นบน ก่อนหยุดฝีเท้าตรงบันไดขั้นแรก แล้วหันมาถามอีกหน“ศจีเก็บลูกหม่อนไว้ให้ฉันไหม”“เก็บค่ะ ฉันเก็บมาเต็มตะกร้าเลย แล้วลงมานะคะ”“จ้ะ”แล้วร่างอิ่มในเดรสสวยเหมาะสำ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status