Share

บทที่ 7

last update Last Updated: 2025-03-19 11:53:39

คนร่างอรชรนอนคว่ำหน้า สายตาไล่ตามตัวหนังสือที่เธออ่านซ้ำ เป็นรอบที่สาม จนเกินชั่วโมงจึงพลิกกายหงาย แล้วทอดถอนใจอย่างเบื่อหน่าย

“เบื่อจนเครียด ใกล้จะบ้าแล้วนะ รับรองเถอะ ฉันบ้าเมื่อไหร่ ลุงได้สังเวยความบ้าของฉันเป็นคนแรกแน่ ลุงคุณใหญ่แห่งบ้านผีดิบ!”

ท้ายเสียงกระแทกขุ่นมัว นึกภาพชายชราผมขาวโพลนทั้งหัว หากเรือนกายยังกำยำล่ำสัน มีรัศมีสีเทาแผ่ออกมา...และเมื่อภาพนั้นชัดขึ้นปิ่นลดากลับนึกขันปนสมเพช

“คงมีเมียเด็กซุกไว้ในคฤหาสน์ พอมีลูก เลยต้องซุกต่อ จะจ้างพี่เลี้ยงยังต้องทำลับๆ ล่อๆ แก่แล้วไม่เจียมตัว ทำเราเดือดร้อนไปด้วย” 

หล่อนว่าใส่อารมณ์ พยายามสูดลมหายใจลึก บรรเทาอารมณ์เดือดพล่าน แต่เมื่อไม่เป็นผลจึงต่อว่าฝากฟ้าลม 

“ถ้าลุงอยู่ส่วนลุง ฉันก็ไม่สนใจหรอก ชีวิตใครชีวิตมัน แต่ตอนนี้ฉันอยากฉีกอกลุง ตัณหาหน้ามืดของลุงทำฉันเดือดร้อน ลุงกำลังคุกคามชีวิตอันสงบสุขของฉันอยู่ เข้าใจไหม”

เจ้าหล่อนทุบกำปั้นลงกับที่นอน พ่นลมหายใจฟืดฟาดอย่างเคืองแค้น การถูกกักขังให้อยู่ในบ้านหลังเล็ก โดยมีคนคุมคอยส่งอาหารเช้าเที่ยงเย็น จะติดต่อใครก็ไม่ได้ การจะออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอก เป็นอันไม่ต้องคิดฝัน

ถึงขนาดนี้ ใครจะทนไหว!

ร่างกลมกลึงในชุดนอนตัวเดียว สวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าฝ้ายเนื้อบาง ไม่อนาทรต่อความหนาวที่แทรกมาสัมผัสผิวอ่อน เธอจ้ำออกจากบ้านหลังสีฟ้า เป้าหมายอยู่เบื้องหน้า...คฤหาสน์ใหญ่สูงตระหง่านในความสลัว ทาบกับทิวเขาที่เห็นเป็นเงาไกลๆ 

ตลอดระยะทางสองร้อยกว่าเมตรในคืนข้างแรมกับสายลมเย็น ไม่ทำให้เธอคลายความเดือดดาลลงได้ มือบางกำแน่น 

มันเรื่องอะไรที่ใครก็ไม่รู้ทำให้ชีวิตเธอต้องมาเป็นอย่างนี้!

“เฮ้ย! หยุดอยู่ตรงนั้นนะ” 

เสียงตะโกนบอกด้วยสำเนียงท้องถิ่นทำให้หญิงสาวชะงักเท้า หยุดมองนิดหนึ่ง แต่ไม่สนใจ เพราะเป้าหมายของเธอเป็นคนที่อยู่ในคฤหาสน์ใหญ่ตรงหน้านี้แหละ

แต่เจ้าของเสียงเมื่อครู่กลับวิ่งมาขวาง แสงสว่างจากโคมไฟที่ติดอยู่ห่างๆ ทำให้ปิ่นลดามองฝ่ายนั้นชัด

นายคนสวนที่เคยเดินหนีเธอเมื่อกลางวัน ปิ่นลดาจำได้!

“ไปเรียกคุณใหญ่มาพบฉัน” 

เสียงประกาศก้อง ทำให้ชายที่มีความสูงไม่ห่างจากเธอ แต่ความหนามากกว่าเป็นเท่าตัวชะงักงัน ดูเหมือนว่าฝ่ายนั้นก็จำเธอได้เช่นกัน ท่าทางอึกอักเงอะงะเลยกลับมาให้ปิ่นลดานึกขุ่นใจ

แล้วเสียงเดินสวบสาบก็ดังขึ้นพร้อมกับคำถาม

“ใครน่ะ ไอ้ปั้น” 

“ผู้หญิงคนนี้จะพบนาย”

“พบนาย?” คนถามทำหน้าสงสัยเต็มที่ มองหน้าตาหล่อนไม่ชัด แต่ดูจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ จึงไม่รีรอที่จะฟันธง “คนบ้าหรือคนเมาวะ หน้าตาไม่เคยเห็น หรือเป็นอีตัวในเมือง ใครมันหิ้วมากกอีกวะไอ้ปั้น ห้ามไม่ฟัง อย่าให้รู้นะ พ่อจะเตะให้สลบ”

จบคำพูดอวดเบ่งในความรู้สึกคนตัวเล็ก เสียงแว้ดแหวก็ดังสนั่นหวั่นไหว 

“อีตัวบ้านนายน่ะสิ คนบ้านนี้ประสาทกันหมดหรือไง เพ้อเจ้อ บ้าบอ ไปเรียกคุณใหญ่ของนายมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้ ฉันมาทำงาน รออยู่ตั้งหลายวัน ยังไม่เห็นมีอะไรมาให้ทำ ค่าจ้างก็ไม่คิดจ่ายด้วยใช่ไหม นี่เดือนกว่าแล้วนะ หรือว่าบ้านหลังนี้เป็นที่ซ่องสุมค้าแรงงานทาส คอยดูนะ ฉันจะแจ้งตำรวจ แล้วเรียกนักข่าวมาประโคมให้ดังทั้งประเทศ”

ปิ่นลดาหายใจหอบ จ้องมองสองคนที่ขวางหน้าซึ่งกำลังอึ้งตามกัน 

แล้วชายคนเตี้ยกว่าก็หันมองคนตัวใหญ่ที่มาภายหลัง เหล่มายังเธอในทำนองว่า เห็นฤทธิ์หรือยัง!

คนตัวเล็กที่ยืนเท้าสะเอวต่อว่าชายสองคนฉอดๆ อย่างไม่กลัวภัย สร้างแสงวาบให้จุดในดวงตาคมสีสนิมเหล็ก ดวงหน้าคมสันเรียบเฉยเช่นเดิม 

เขาเห็นปิ่นลดาตั้งแต่หล่อนออกจากบ้านสีฟ้าจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ จึงมายืนกอดอกรอตรงระเบียงชั้นลอยอยู่เงียบๆ กระทั่งหญิงสาวปรากฏตัวอยู่ห่างจากจุดที่เขายืนมองไม่ถึงยี่สิบเมตร หากว่าแสงสลัวยามค่ำคืนคงทำให้เจ้าหล่อนไม่ทันสังเกต

“กลับไปได้แล้ว นายปั้น นายแสง”

รัชตะออกคำสั่งเสียงเข้ม ชายสองคนหันมอง แล้วทำท่าทางนอบน้อมรับคำสั่งจนปิ่นลดาเบ้หน้า...ก่อนตวัดสายตาไปยังเงาร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ 

นายคนนี้เป็นใคร หรือเป็นเจ้าชีวิตอีกคนของคนในนี้ แต่คิดหรือว่าคนอย่างปิ่นลดาจะกลัว! 

ปิ่นลดาสาวเท้าเนิบผ่านหน้านายสองคนที่บังอาจมาสกัดเธออย่างไม่ใส่ใจ เพราะเป้าหมายใหม่อยู่ที่คนยืนนิ่งตรงระเบียงนั่นแหละ

“คุณเป็นใคร ฉันไม่สนใจ แต่คิดว่าคงใหญ่พอตัว ไม่อย่างนั้นนายสองคนนี้ถึงไม่ทำท่ากลัวหงอขนาดนี้ เมื่อกี้ยังทำกร่างกับฉันอยู่เลย” ปิ่นลดาประชดอย่างได้ที

“เธอมีธุระอะไร”

“ฉันต้องการพบคุณใหญ่”

คำประกาศกร้าวของเธอ สร้างความเงียบให้เกิดถ้วนทั่ว หากอยู่ในระยะใกล้พอและมีแสงสว่างส่องถึง เธอคงได้เห็นแววตาทอความรู้สึกของชายหนุ่มออกมา และหากหันมองข้างหลังคงเห็นว่าชายสองคนมองหน้ากัน สีหน้างุนงงเต็มที่

“มีธุระอะไร”

“ฉันไม่ต้องการบอกผ่านใคร แม้คุณจะใหญ่แค่ไหน แต่ไม่ใช่คนที่ฉันจะพูดด้วย”

“คุณใหญ่ไม่พร้อมคุยกับเธอ กลับไปซะ ถึงเวลาแล้วได้พบเอง”

“ไม่มีอะไรจะพูดแล้วหรือไง พูดอยู่ได้ซ้ำๆ ประโยคเดียว เมื่อเช้าคุณทิพย์อะไรนั่นก็ท่องให้ฉันฟังไปรอบหนึ่งแล้ว ยังจะมีคุณมาทวนซ้ำอีกเหรอ ตายละ นี่มันอะไรกัน โดนคุณใหญ่ฝังชิปตั้งโปรแกรมกันทั้งบ้านหรือไง”

แล้วเสียงหัวเราะพลิ้วที่แทรกผ่านความมืดกับสายลมเย็นทำให้คนฟังทั้งสามมีปฏิกิริยาต่างกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 66 (จบ)

    หล่อนหอบกระเส่า เปล่งเสียงเรียก ทิ้งศีรษะกับที่นอนอย่างหมดทางเมื่อเรียวลิ้นสากระคายกดคลึงยอดเกสรสวย ช่องทางรักอุ่นชื้นถูกรุกรานด้วยนิ้วแกร่งที่ทำงานประสานกัน เร่งจังหวะรัวเร็ว จนหล่อนดีดตัวสูง บิดกายเมื่อความเสียวซ่านกำซาบทั่วทุกรูขุมขน หากเขาไม่ปรานี กลับเร่งอารมณ์โถมใส่ กายอิ่มสั่นระริก ส่งเสียงครางกระเส่าเคล้าเสียงสะอื้นไห้อย่างยอมจำนนดวงหน้านวลแดงก่ำด้วยฤทธิ์อารมณ์สะบัดไปมา ดวงตาหวานเปิดปรือเย้ายวนอย่างไม่รู้ตัว มือนุ่มที่ถูกมัดไว้กำแน่นเข้ามากัน ระลอกคลื่นอารมณ์ใหญ่ยักษ์ซัดสาดเข้ามาต่อเนื่อง กระทั่งสิ่งที่อัดแน่นในกายระเบิดโพลง พล่านพร่าเกินจะควบคุม“คุณใหญ่ขา ลดาไม่ไหวแล้ว”ปิ่นลดาครวญอย่างน่าสงสาร ก่อนกรีดร้องอย่างไม่อาจทนไหว ทิ้งกายเปลือยลงระทวยทอดอย่างหมดทาง ปรับลมหายใจและอารมณ์ข้างในที่ปลดปล่อยออกมาร่างหนาใหญ่ขยับนั่งคุกเข่า เขาถอดเสื้อคลุมออก เหลือเพียงกายแกร่งเปลือย โน้มคร่อมเจ้าร่างบาง ปลดเชือกที่พันธนาการข้อมือเธอไว้ แล้วไล้เลื่อนต่ำมาผลักท่อนขาอวบให้เปิดกว้างปิ่นลดาผวาเฮือก แอ่นกายไขว่คว้าสามีหนุ่ม เมื่อเขาดันกายเข้า

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 65

    บทส่งท้ายปิ่นลดา...ยอดรักยอดปรารถนาหลังจากแต่งงาน ไม่กี่เดือนต่อมาปิ่นลดาก็คลอดลูกชายคนแรกให้กับรัชตะ และว่างเว้นไม่ถึงปีหญิงสาวก็ตั้งท้องลูกสาวคนที่สอง ตอนนี้ทารกน้อยออกมาลืมตาดูโลกได้กว่าแปดเดือนแล้วในแต่ละวันหญิงสาวต้องหัวหมุนกับลูกชายหญิง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในความวุ่นวายนั้นช่างเปี่ยมด้วยความสุขอย่างที่เธอนึกไม่ออกว่าชีวิตนี้จะต้องการอะไรอีก...นอกเหนือจากสามีหนุ่มและลูกสองคนอันเป็นแก้วตาดวงใจในวันนี้รัชตะออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อเข้าร่วมประชุมหุ้นส่วนใหญ่ซึ่งเป็นนักธุรกิจต่างชาติในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีโรงงานตั้งอยู่ในประเทศพม่า โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่กลางเมืองเชียงราชของฝั่งไทยเขากลับเข้าบ้านในเวลาสองทุ่ม ทันทีที่ภรรยาสาวซึ่งเพิ่งจัดการกับลูกน้อยสองคนเสร็จเห็นเขาก็ยิ้มกว้างแล้วเดินไปหา“งานเป็นยังไงบ้างคะ เสร็จเรียบร้อยดีไหม”ปิ่นลดากอดท่อนแขนล่ำสันของสามีไว้ แนบแก้มนวลด้วยท่าทางประจบอย่างแสนน่ารัก ทุกท่าทางเป็นไปโดยธรรมชาติ“เรียบร้อยครับ”“คุณใหญ่มาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอุ่นให

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 64

    “พราวพิชชาค่ะ พี่สาวของลดา”“ชื่อยังกะลิเก”เสียงเปรยเข้าหูในระยะประชิด พราวพิชชาต้องกลั้นอารมณ์อีกรอบ แต่เธอไม่ต้องทนนานเมื่อเสียงคุ้นหูดังเข้ามา อย่างที่ต้องรีบหันมอง“คุณแหวว คุณแหววจริงๆ ด้วย ลดาดีใจจังเลย ในที่สุดคุณแหววก็มา”ร่างงามอิ่มในชุดไทยประยุกต์สีครีมที่เห็นชัดว่ากำลังตั้งครรภ์เดินแกมวิ่งมาหา จนต้องปราดไปรับ กลัวว่าเจ้าสาวจะล้มคว่ำเสียก่อน“ลดาคิดว่าคุณแหววจะไม่มาซะอีกค่ะ”“มาสิ พี่ต้องมา ลดาแต่งงานทั้งที”พราวพิชชายิ้ม ยกสองมือประคองแก้มนวลที่ตกแต่งไว้อย่างดี เธอมองทั่วดวงหน้าน้องสาวแล้วดันออกห่าง สังเกตถ้วนทั่วแล้วยิ้มพอใจ“ลดาสวยมากเลยจ้ะ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น พี่ดีใจจริงๆ ที่เห็นลดาในภาพนี้”เธอหลุดความคิดออกมา พราวพิชชาพอรู้ว่าน้องสาวบุญธรรมต้องเจอกับอะไรก็ต่อเมื่อเรื่องมันเลยมาจนถึงวันนี้แล้ว ถามพ่อกับแม่กลับได้คำตอบว่าปิ่นลดาสบายดี เจ้าตัวเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วเลือกทำงานที่เมืองไทยต่อ โดยปฏิเสธจะไปอยู่ออสเตรเลียด้วยกันหากค

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 63

    “ไม่เชื่อค่ะ ลดาไม่เชื่อหรอกว่าตลอดชีวิตของคุณจะไม่มีใครอีก นอกจากเด็กมอมแมมอย่างลดาในตอนนั้น”“มันก็ใช่ ความจริงมีคนเต็มใจเยอะเชียวละ แต่ฉันไม่ตกลง” เขาว่าหน้าตาเฉย แต่คนฟังเบ้หน้า “ฉันอยากได้แม่เก่งๆ ให้ลูก แล้วถูกใจฉันด้วย”“คนเต็มใจของคุณใหญ่มีคุณชัญญาด้วยไหมคะ”“ฉันบอกแล้ว คุณชัญญาเป็นผู้หญิงที่ฉันให้ความสนิทสนม เธอเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ฉันไม่เคยคิดเป็นอื่น”“แต่คุณชัญญาคิด” หล่อนว่าเสียงเข้ม ชายหนุ่มต้องอธิบายด้วยท่าที งอนง้อ“ต่อจากนี้ไม่คิดแล้วละ เชื่อฉัน เรื่องที่คุณชัญญาช่วยเธอหนีกลับกรุงเทพฯ วันนี้ ฉันก็รู้ แต่ไม่อยากพูดถึงอีก ขอให้มันจบได้ไหม เรื่องนี้ฉันขอ เพราะเราต้องอยู่ร่วมกันในเชียงราช อาจจะตลอดชีวิตของเรา แล้วฉันเชื่อว่าคุณชัญญาเป็นผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรี เธอจะจบเรื่องของเราลงแค่นี้แน่นอน”“โอเคค่ะ ลดาเชื่อและคิดเหมือนคุณ...แต่ขอบอกไว้นะคะถ้าเมื่อกี้คุณใหญ่ไม่บอกว่ารักลดาก่อน ลดาจะไม่ยอมรับฟังอะไรง่ายๆ ลดาจะทำให้คุณเจ็บตัวด้วย ผู้ชายอะไร พิษสงรอบตัวจริ

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 62

    หญิงสาวหันมอง อมยิ้มแก้มตุ่ย ไม่บอกเขาหรอกว่าตนกำลังมีความสุขเหลือเกิน ก็ผู้ชายที่รักเต็มหัวใจแถมยังเป็นพ่อของลูกในท้องบอกรักพร้อมกับขอแต่งงาน ต่อให้เหนื่อยอ่อนแค่ไหนก็เรียกพลังคืนได้ในพริบตา“ทานข้าวกันเลยไหมคะ ค่ำแล้ว คุณลดากำลังท้องกำลังไส้ ท้องว่างนานไม่ดี เดี๋ยวคุณหนูจะหิว”พวงทิพย์เดินออกมาบอกเสียงจริงจัง จนปิ่นลดาหน้าเหวอกับท่าทางที่เปลี่ยนไป กระนั้นก็รีบปรับสีหน้ายิ้มรับอย่างจริงใจพร้อมบอกขอบคุณ จนแม่บ้านใหญ่ยิ้มเก้อ รีบกลับเข้าห้องครัวสั่งเด็กตั้งโต๊ะเสียงหัวเราะในลำคอหนาทำให้ปิ่นลดาหันมอง“คุณใหญ่หัวเราะทำไม มีอะไรน่าขำหรือคะ”“ขำเธอกับคุณทิพย์ไง”“คุณใหญ่นี่ นิสัยไม่ดีอีกแล้ว”ปิ่นลดารู้ทันหรอกน่า หยิกท่อนแขนกำยำก่อนฝ่ายนั้นจะโอบพาเข้าห้องทานอาหาร เพราะไม่อยากให้เธอกินข้าวมื้อค่ำผิดเวลานานสองคนใช้เวลาส่วนตัวในห้องทานอาหาร ช่างน่าแปลกว่าวันนี้แม้จะเป็นอาหารรสเลิศ ไม่ต่างจากวันก่อนที่ปิ่นลดาเห็นแล้วอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง จนรัชตะต้องลงมือทำเมนูสารพัดไข่ให้หล่อนแทน

  • เบี้ยปรารถนา   บทที่ 61

    การกลับมาถึงคฤหาสน์ราชเกียรติกูรในช่วงเย็นความรู้สึกต่างจากการออกไปในตอนเช้าโดยสิ้นเชิงปิ่นลดาก้าวลงจากรถ มองรอบตัว สูดลมหายใจเต็มปอด เหมือนกับว่าได้จากไปนานแล้วเพิ่งหวนคืนมา สำนึกอีกส่วนบอกว่าที่นี่คือ ‘บ้าน’ ที่หล่อนจะอยู่ด้วยหัวใจอบอุ่นและมั่นคงรัชตะแตะเอวพาหญิงสาวเข้าไปในบ้าน ศจีที่วิ่งออกมาทำหน้าดีใจก้ำกึ่งจะร้องไห้ ปิ่นลดาจับมือไว้ ถามพลางยิ้มเต็มสีหน้า“เป็นอะไรศจี คิดถึงฉันมากหรือ ไม่เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง”“ฉันคิดว่าคุณจะไม่กลับมา ฉันใจหายหมดเลยคุณรู้ไหม”หญิงร่างผอมบางบอก น้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ จนปิ่นลดาต้องหัวเราะเสียงใสหวังจะสร้างบรรยากาศใหม่“ทำไมจะไม่กลับ ฉันไม่ได้ไปไหนสักหน่อย ศจีอย่าตื่นตูมไปหน่อยเลยน่า”เจ้าหล่อนว่าพลางเดินผ่านจะขึ้นไปชั้นบน ก่อนหยุดฝีเท้าตรงบันไดขั้นแรก แล้วหันมาถามอีกหน“ศจีเก็บลูกหม่อนไว้ให้ฉันไหม”“เก็บค่ะ ฉันเก็บมาเต็มตะกร้าเลย แล้วลงมานะคะ”“จ้ะ”แล้วร่างอิ่มในเดรสสวยเหมาะสำ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status