หมอวายุ / Ren เร็น ซาโต้อิชิบะ ผู้ชายที่ซ่อนอดีตที่แสนเจ็บปวดเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน ความรัก คือ สิ่งต้องห้ามสำหรับผู้ชายอันตรายแบบเขา แต่ความเฟียร์สของเธอกลับทำให้เขา❤️หลงรักเธอจนหมดหัวใจ แก้มใส กมลชนก เธอหลงรักรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของเขาตั้งแต่แรกพบ ผู้ชายอันตรายที่เธอยอมเสี่ยงด้วยการวางชีวิตและหัวใจเป็นเดิมพันเพื่อแลกกับการได้รักเขา❤️ "ให้เฟียร์สแค่ไหนก็ยอม ขอแค่ได้ปกป้องรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของพี่หมอไว้ก็พอ" หมอเพลิง / Ryuu ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้ามาเฟียใหญ่แห่งประเทศญี่ปุ่น รักน้องชายคนเดียวอย่างเร็นและเรียวอิจิ ผู้เป็นพ่อมาก ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องครอบครัวจากอันตรายที่อยู่รอบตัว
View Moreประเทศญี่ปุ่น
20 ปีที่แล้ว
“ริว เร็น หนีไปลูก หนีไปหาโอโต้ซัง หนีไป”
ริโกะ ซาโต้อิชิบะ ตะโกนบอกลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ขาเล็ก ๆ ของเธออ่อนแรงเหลือเกิน เธอวิ่งทั้งน้ำตาฝ่าลูกกระสุนที่รัวยิงเข้ามาหาเป้าหมายซึ่งคือเธอกับลูกชายฝาแฝดทั้งสองคน ที่โดนมาเฟียคู่อริของสามีเธอ เรียวอิจิ ซาโต้อิชิบะ จับมาเป็นตัวประกัน เพราะขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ
สายตาที่อ่อนโยนจ้องมองลูกชายทั้งสองผ่านม่านน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสาย เมื่อปลายทางคือเรียวอิจิ สามีของเธอที่รีบวิ่งมารับลูกชายทั้งสองคนเข้าสู่อ้อมกอดก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไปเมื่อลูกกระสุนวิ่งผ่านหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมาพร้อมกับอากาศที่หนาวเย็นยะเยือกจับใจ
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
กระสุนสามนัดติดที่ยิงโดนจุดสำคัญของริโกะก่อนที่ร่างเล็กจะหยุดชะงักขาก้าวไม่ออกทันทีที่เด็กชายทั้งสองคนวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของผู้เป็นพ่อ มือบางยื่นมือไปข้างหน้าด้วยความหวังอันเลือนลาง ดวงตากลมโตจ้องมองภาพครอบครัวตรงหน้าไว้เพื่อเก็บเป็นความทรงจำสุดท้ายของชีวิต
หยาดน้ำตาไหลลงมาอาบสองแก้มด้วยความเจ็บปวดก่อนที่ร่างบางจะค่อย ๆ ทรุดตัวลงกับพื้นที่แสนเย็นเยียบ ลมหายใจผะแผ่วลงเรื่อย ๆ จนหยุดนิ่ง พร้อม ๆ กับที่เรียวอิจิ เร็นและริวที่หันมามองภาพของโอก้าซังที่ล้มลงขาดใจตายต่อหน้าต่อตา
“แม่ แม่ครับ แม่ ไม่นะ แม่ครับ ฮือ ฮือ”
เด็กน้อยวัยหกขวบทั้งสองคนน้ำตาไหลทันทีที่เห็นภาพจำ ที่แสนเจ็บปวดก่อนที่จะพยายามวิ่งกลับมาหาผู้เป็นแม่ที่นอนหมดลมหายใจท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมาด้วยความหนาวเหน็บ หนาวไปจนถึงขั้วหัวใจ เรียวอิจิตั้งสติได้ก็จับลูกชายทั้งสองส่งให้ทาเคชิกับเท็ตซึยะ ลูกน้องคนสนิททั้งสองคน
ร่างสูงของเรียวอิจิยกปืนในมือทั้งสองข้างขึ้นทั้งน้ำตาก่อนที่จะสาดกระสุนใส่ศัตรูคู่อริด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่ฝังรากลึกลงไปในใจเมื่อเมียรักถูกยิงล้มลงขาดใจตายต่อหน้าต่อตา
น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาโดยไร้เสียงสะอื้นก่อนที่จะสาดกระสุนผ่านม่านน้ำตาใส่ฝ่ายตรงข้ามไม่ยั้ง ลูกน้องของซาโตชิค่อย ๆ ล้มตายไปทีละคนจนหมด รวมถึงตัวการใหญ่อย่างซาโตชิที่เรียวอิจิยิงนัดเดียวกระสุนวิ่งเข้าไปตัดขั้วหัวใจล้มลงขาดใจตายทันที
“ริโกะ”
เสียงเรียกริโกะดังขึ้นแผ่วเบาท่ามกลางความมืดมิดและหิมะที่โปรยปรายลงมา สองขาอ่อนแรงจนล้มลงข้าง ๆ ร่างบางของริโกะที่นอนแน่นิ่งอยู่ท่ามกลางกองเลือดที่ไหลนองเต็มพื้น
มือใหญ่ยกร่างบางที่ไร้ลมหายใจของริโกะขึ้นมากอดแนบอกก่อนที่จะกอดเอาไว้แน่นแล้วร่ำไห้ออกมาอย่างไม่อายสายตาของลูกน้องนับสิบที่เข้ามารายล้อมผู้เป็นนายด้วยความสงสารเห็นใจที่ต้องมาสูญเสียภรรยาที่รักมากไป เพราะศัตรูที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้นมา
“แม่ครับ แม่ ฮึก ฮือ โอก้าซัง ฮืออ”
เร็นกับริววิ่งเข้ามาหาผู้เป็นพ่อที่กอดแม่ของเขาร้องไห้เสียงสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวด เด็กน้อยน้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจ เมื่อสัมผัสร่างที่ไร้ลมหายใจของมารดาก่อนที่จะโผเข้ากอดมารดาไว้ด้วยความเสียใจที่ต่อไปนี้จะไม่มีมือที่อบอุ่นของแม่ที่คอยโอบกอดหรือจูงมือเด็กทั้งคู่อีกแล้ว
เฮือกกกกก!!!
วายุสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้ายด้วยความตกใจก่อนที่มือใหญ่จะยกขึ้นมาลูบใบหน้าที่เปรอะไปด้วยคราบน้ำตา ฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนและตอกย้ำความเจ็บปวดของเขาในทุกค่ำคืน ภาพที่มารดาถูกยิงยังฉายชัดอยู่ในความฝันก่อนที่ร่างสูงจะนั่งชันเข่าซบหน้าลงร่ำไห้ท่ามกลางความมืดด้วยความคิดถึงมารดา
ผ่านมาแล้ว 20 ปี แต่ภาพจำที่ฝังใจกับฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขาทุกคืนทำให้แผลในใจของเขาถูกสะกิดจนยากที่จะหายดี คงทำได้แค่เพียงยิ้มอย่างอ่อนโยนเวลาที่คิดถึงมารดา เพราะภาพสุดท้ายคือมารดาจากไปด้วยรอยยิ้มที่ยังคงประดับไว้บนใบหน้าสวย
โรงพยาบาล M
วายุเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยความเร่งรีบ ในวันนี้เขามีผ่าตัดใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไปจากที่นี่ เพราะเขาได้ทำเรื่องลาออกไว้แล้ว
“เร็น วันนี้มีผ่าตัดใช่ไหมคะ” คุณหมอซากุระเดินเข้ามาถามด้วยรอยยิ้มก่อนที่วายุจะยิ้มตอบแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมความพร้อมทำการผ่าตัดผู้ป่วยที่กำลังรอเขาอยู่
“ผ่าตัดเสร็จแล้วเจอกันนะคะ ซากุระอยากเลี้ยงข้าวเร็น ขอบคุณที่เร็นช่วยเข้าเวรแทนวันนั้น”
ซากุระยิ้มหวานให้วายุ คุณหมอหนุ่มได้แต่พยักหน้าตอบรับก่อนที่จะปิดประตูแล้วรีบเปลี่ยนชุดเพื่อเข้าผ่าตัดใหญ่ที่รอเขาอยู่ การผ่าตัดครั้งนี้เขาขอเดิมพันกับความสามารถทั้งหมดของเขาที่มี
เพราะเป็นการผ่าตัดที่เปอร์เซ็นต์รอดชีวิตของคนไข้มีเพียงแค่
30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถช่วยชีวิตคนไข้คนนี้ให้รอดพ้นจากความตายได้
5 ชั่วโมงผ่านไป
เมื่อวายุออกมาจากห้องผ่าตัด ลูกสาวของคนไข้ที่นั่งรออยู่หน้าห้องผ่าตัดก็รีบวิ่งเข้าไปหาวายุทันที
“การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีนะครับ หลังจากนี้เราจะย้ายผู้ป่วยไปที่ห้องฉุกเฉินเพื่อรอดูอาการอย่างใกล้ชิด ไม่ต้องห่วงนะครับ อย่างไรคุณพ่อต้องหายดี” วายุบอกลูกสาวของคนไข้ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนที่ลูกสาวคนไข้จะโผเข้ากอดขอบคุณวายุด้วยความดีใจทั้งน้ำตา
“ขอบคุณนะคะคุณหมอ ขอบคุณจริง ๆ ที่ช่วยคุณพ่อไว้ ฮือ ฮือ”
ลูกสาวคนไข้กอดวายุร้องไห้จนชุดผ่าตัดของเขาเปียกชื้นไปด้วยคราบน้ำตาก่อนที่มือใหญ่จะยกขึ้นลูบหลังสาวน้อยไว้ด้วยความปลอบโยน คนไข้เขามีลูกสาวเพียงคนเดียว เขาจึงอยากให้คนไข้ของเขาอยู่ดูรอยยิ้มของลูกสาวไปอีกนานแสนนาน
หมอแบบเขาเป็นได้ทั้งยมทูตและก็เทวดา แต่เขาเลือกที่จะเป็นเทวดามากกว่ายมทูต แค่ได้รักษาชีวิตคนไว้ได้มันก็ทดแทนความเจ็บปวดที่อยู่ในใจของเขาได้แล้ว
“จะไม่เปลี่ยนใจหน่อยเหรอ” ฮิโรโตะประธานโรงพยาบาล M ถามเร็นเป็นครั้งสุดท้าย เพราะบางทีหมอเร็นที่เป็นหมอผ่าตัดอันดับหนึ่งตีคู่มากับพี่ชายอย่างหมอริวอาจจะเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้ายก็ได้ใครจะรู้
“ไม่ครับ ขอบคุณมาก ๆ นะครับสำหรับประสบการณ์การทำงานที่มีค่าที่แสนวิเศษ”
วายุก้มหัวลงทำความเคารพท่านฮิโรโตะก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องท่านประธานด้วยรอยยิ้ม เขาทำเรื่องลาออกจากที่นี่เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดของมารดาเขาซึ่งก็คือประเทศไทยนั่นเอง
เขาอยากลืมอดีตที่แสนเจ็บปวดและทิ้งความทรงจำที่แสนเลวร้ายไว้ที่นี่ทั้งหมดเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น ที่ ๆ ไม่มีใครรู้จักเขา ไม่รู้ว่าเขาคือใคร ไม่รู้ว่าเขามาจากที่ไหน รู้แต่เพียงว่าเขาคือหมอวายุ หมอศัลยกรรมมือหนึ่งก็พอ
สนามบิน
“ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วยนะ” เรียวอิจิในวัย 46 ปี กอดลูกชายคนเล็กด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ เมื่อดวงใจของเขากำลังจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศไทย ประเทศบ้านเกิดของริโกะจัง ภรรยาของเขาที่เป็นลูกครึ่งไทย ญี่ปุ่น
“พ่อก็ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองดี ๆ ด้วยนะครับ ถ้ามีวันหยุดยาววายุสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมพ่ออย่างแน่นอน”
วายุสบตาผู้เป็นพ่อด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ ถึงเขาจะเคยจากบิดาไปเรียนหมอที่ต่างประเทศนานนับหลายปี แต่ครั้งนี้เป็นการจากไปที่เขาตั้งใจไว้ว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก นอกจากกลับมาเยี่ยมบิดาเท่านั้น
“แล้วไม่คิดจะบอกเพลิงหน่อยเหรอ”
ตะโกนถามลูกชายที่เตรียมตัวเดินเขาไปข้างในเพื่อรอขึ้นเครื่องก่อนที่วายุจะชะงักเท้าเล็กน้อย ใบหน้าหล่อหันมาหาผู้เป็นพ่อช้า ๆ ก่อนที่จะก้มหัวทำความเคารพบิดาอีกครั้งแล้วเดินจากไปทันที ทิ้งให้เรียวอิจิยืนมองลูกชายคนเล็กจากไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดลึก ๆ ในใจ
วายุถอนตัวออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าของแก๊งมาเฟียท่ามกลางเสียงคัดค้านของทุกคน ชีวิตของลูกชายเขาอยู่ท่ามกลางเสียงปืน การนองเลือดและการเข่นฆ่ามามากพอแล้ว ตระกูลมาเฟียแบบเขามีชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา ฉะนั้นเขาควรปล่อยมือให้ลูกชายได้มีชีวิตที่มีความสุขเสียที
เมื่อวายุจากไปแล้ว เสียงฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาภายในบริเวณสนามบินด้วยความเร่งรีบก็หยุดลง เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อยืนมองเข้าไปข้างในด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเรียวอิจิกำลังคิดอะไรอยู่
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก วายุล่ะครับพ่อ”
เพลิงถามผู้เป็นพ่อด้วยความเหนื่อย เพราะเมื่อมาถึงสนามบินเขาก็รีบวิ่งเข้ามาข้างในทันที เขาเพิ่งกลับมาจากทีมอาสาที่ออกตรวจผู้ป่วยตามชนบทที่อยู่ต่างจังหวัด พอกลับมาก็ทราบว่าน้องชายลาออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบเหยียบรถมาที่สนามบินทันทีเพื่อที่จะรั้งน้องชายไว้ แต่ก็กลับพบว่า
เขามาไม่ทันเสียแล้ว น้องชายสุดที่รักของเขาไปจากประเทศนี้เรียบร้อยแล้ว เป็นการจากลาที่บีบหัวใจคนเป็นพี่ชายแบบเขาเหลือเกิน
“ตามน้องไปสิ” เรียวอิจิพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบไร้ความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนริวถึงกับหันมามองผู้เป็นพ่อด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“เราสองคนเป็นพี่น้องที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลา จะให้น้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยคนเดียวได้อย่างไร”
เรียวอิจิหันมายิ้มให้ลูกชายคนโตด้วยความอบอุ่นก่อนที่จะตบบ่าของลูกชายเบา ๆ สองทีแล้วเดินจากไปทันที แต่เดินไปได้เพียงสามก้าวก็หันกลับมามองลูกชายคนโตที่มองตามแผ่นหลังของผู้เป็นพ่อด้วยความซาบซึ้งใจ เพราะถ้าเขาไปนั่นหมายความว่าเขาต้องคืนตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมาเฟียให้พ่อดูแลอีกครั้ง
“ดูแลน้องแทนพ่อด้วยนะ ปกป้องน้องเท่าชีวิต มีกันแค่สองคนพี่น้องดูแลตัวเองให้ดี ไม่ต้องห่วงพ่อ พ่อดูแลตัวเองได้ คนแบบพ่อหนังเหนียวไม่มีทางตายด้วยกระสุนปืนของใครง่าย ๆ หรอก”
ยิ้มหล่อทิ้งท้ายให้ลูกชายก่อนที่จะเดินจากไปพร้อมกับทาเคชิและเท็ตสึยะมือซ้ายและมือขวาที่อยู่รับใช้เขามายาวนานนับยี่สิบปีตั้งแต่ที่เขายังเด็กจนเติบโตมาด้วยกัน
เพลิงก้มหัวลงทำความเคารพบิดา จนกระทั่งเรียวอิจิลับสายตาไปแล้วเพลิงก็ยกโทรศัพท์โทรสั่งการเคนจิกับเคนตะ ลูกน้องของตัวเองให้จองตั๋วเครื่องบินพร้อมเก็บเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวบินไปเมืองไทยตามน้องชายทันที
แล้วเจอกันประเทศไทย
คฤหาสน์วายุ“กอหญ้าคะกินผักด้วยค่ะลูกสาว”แก้มใสบอกลูกสาวที่แอบเขี่ยผักมากองไว้ที่ขอบจานแถมข้าวผัดกุ้งที่แก้มใสโชว์ฝีมือทำมื้อเช้าให้สองแฝดกินยังเหลือเต็มจานของเด็กน้อย ส่วนรามสูรตักข้าวกินเงียบ ๆ โดยที่ไม่พูดไม่จาสักคำทั้ง ๆ ที่รสมือของมารดาทำเอาแฝดคนพี่แทบอยากคายข้าวที่อยู่ในปากออกมาคืน แต่พอหันมาเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังในฝีมือการทำกับข้าวที่ไม่เคยพัฒนาเลยสักนิดของมารดาทำให้รามสูรต้องกล้ำกลืนฝืนทนกลืนข้าวลงไปทั้ง ๆ ที่อยากจะร้องไห้ออกมาเต็มแก่กับรสชาติที่แสนจืดชืดของข้าวผัดจานนี้ ส่วนเด็กหญิงกอหญ้าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาก่อนที่จะตักผักเข้าปากด้วยท่าทางยี้ เพราะเธอไม่ชอบกินผักเลยสักนิดและด้วยความสงสารน้องสาวที่ไม่ชอบกินผักพี่ชายที่แสนดีอย่างรามสูรก็เลยแอบตักผักจากจานของแฝดน้องมาไว้ที่จานของตัวเองในยามที่มารดาเผลอ ทำเอาเด็กหญิงกอหญ้าถึงกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่พี่ชายมักจะช่วยเธอกินผักเสมอเวลาที่มารดาหรือบิดาทำอาหารที่มีผักเป็นส่วนผสม“เป็นอย่างไรกันบ้างคะวันนี้ข้าวผัดฝีมือคุณแม่ขาอร่อยขึ้นหรือยัง”แก้มใสเดินกลับมาที่โต๊ะทานอาหารอีกครั้งหลังจากที่เดินออกไปหยิบโทรศัพท์
วันเวลาช่างผ่านไปไวราวกับโกหกตอนนี้เจ้าแฝดทั้งสองคนของเธออายุสี่ขวบกว่าแล้ว แต่ความซนความเฟียร์สของทั้งคู่ไม่ได้ต่างจากแก้มใสตอนที่เป็นเด็ก ๆ เลยแม้แต่น้อยและอาจจะมีมากกว่าด้วยซ้ำ ในแต่ละวันมีเรื่องราวมากมายที่ลูกเธอก่อเรื่องขึ้นมาซึ่งนิสัยที่ได้มาไม่ได้มาจากเธอผู้เป็นมารดานะ แต่กลับได้มาจากคุณปู่สายเฟียร์สกับคุณตาสายห้าวต่างหากเล่าสอนหลานอย่างไรให้ถอดนิสัยของตัวเองมาแบบที่เหมือนกันแทบจะทุกกระเบียดนิ้ว สอนเอง ปวดหัวเอง กุมขมับเอง เป็นไงล่ะ แก้มใสไม่รู้จะยินดีที่ลูก ๆ ได้นิสัยของคุณปู่คุณตามาหรือจะนั่งร้องไห้แทนดีหลาน ๆ ซนขึ้นมาเมื่อไรไม่พากันความดันขึ้นก็พากันนั่งกุมขมับชนแก้วด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ“เด็ก ๆ คะวันนี้พากันไปโรงเรียนอย่าดื้อกับคุณครูแล้วก็พี่อากิระกับพี่ฮิโรชินะคะเข้าใจไหม”แก้มใสที่อยู่ในชุดนักศึกษาบอกลูก ๆ ทั้งสองคนที่พากันยิ้มแฉ่งพยักหน้ารับหงึกหงักมือน้อย ๆ ก็ตักข้าวต้มรสชาติอร่อยที่บิดาเป็นคนทำให้กินด้วยความเอร็ดอร่อย วันไหนที่ทั้งสองคนดื้อแก้มใสก็จะเป็นคนลงมือทำอาหารรสชาติอร่อยม้ากมากให้ลูก ๆ ทาน แต่ถ้าวันไหนทั้งคู่เป็นเด็กดีอาหารรสชาติถูกปากก็จะมารออยู่ตรงหน้าทำไมต
“แอะ แอะ แอ้ แอ้”เสียงเด็กชายตัวน้อยที่กำลังนอนดิ้นไปดิ้นมาพร้อมกับร้องขึ้นเสียงดังเรียกให้แก้มใสกับวายุที่กำลังหลับอยู่ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เพราะเมื่อคืนกว่าที่คนทั้งคู่จะได้นอนก็ปาไปตีสามกว่า เพราะลูกสาวกับลูกชายตัวน้อยร้องไห้งอแงขึ้นมากลางดึก แก้มใสที่กำลังเคลิ้มหลับถึงกับต้องรีบตื่นขึ้นมาแล้วเอาเด็ก ๆ เข้าเต้าโดยที่มีวายุนั่งอยู่เป็นเพื่อนและกว่าที่ลูก ๆ จะยอมหลับคุณแม่กับคุณพ่อก็แทบร้องไห้ออกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย เพิ่งรู้ว่าการเป็นพ่อเป็นแม่คนมันเหนื่อยมากขนาดนี้ตั้งแต่ที่แก้มใสออกจากโรงพยาบาลวายุก็ขอพ่อตาลาออกจากงานเพราะอยากมาช่วยแก้มใสเลี้ยงลูก แต่คุณพ่อตากลับบอกให้วายุพักงานชั่วคราวแทนพร้อมเมื่อไรก็ค่อยกลับไปทำงาน เพราะโรงพยาบาล N ในอนาคตต่อไปเขาก็คงต้องฝากฝังให้ลูกเขยดูแลต่อ“อื้อ ลูกชายขาขอแม่นอนก่อนได้ไหมคะ แม่ไม่ไหวแล้ว” มือบางของแก้มใสยื่นไปจับมือของลูกน้อยเอาไว้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตาส่วนวายุที่ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความง่วงงุนกระพริบตาปริบ ๆ สองสามครั้งก่อนที่จะเอื้อมมือมาอุ้มลูกชายที่นอนน้ำลายไหลยืดดีดเท้าไปมา ยิ่งเมื่อผู้เป็นบิดาอุ้มเด็กชายก็ยิ้มร่าด้วยความด
ห้องคลอด“อดทนหน่อยนะลูกนะเจ็บแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หายแล้ว”กฤษฎิ์บอกลูกสาวที่กำลังร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ข้าง ๆ กันมีวายุที่ยืนบีบมือแก้มใสอย่างให้กำลังใจเมียตัวน้อยที่เจ็บท้องใกล้คลอดด้วยความทรมานถ้าเจ็บแทนได้เขาจะยอมรับความเจ็บนั้นไว้เอง เห็นเมียร้องไห้น้ำตาไหลแล้วเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกทั้งยินดีที่ลูกกำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกทั้งเจ็บปวดที่เมียต้องทนเจ็บเพื่อให้กำเนิดลูก ๆ“พี่หมอคะแก้มใสเจ็บ ฮึก ฮืออออ” แก้มใสร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะหันมาอ้อนวายุ ด้านคุณตากฤษฎิ์ที่กำลังจะลงมือทำคลอดถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองลูกสาวอย่างงอน ๆWhat!! ไอ้เราก็เป็นห่วงแทบตาย แต่ลูกสาวคนสวยกลับอ้อนผัวต่อหน้าต่อตาเขามันน่าน้อยใจนัก“เอ่อ คุณหมอคะ” พยาบาลสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เรียกกฤษฎิ์ที่ยังไม่ยอมลงมือทำคลอด ก่อนคุณหมอรุ่นใหญ่จะหันกลับมาแล้วเริ่มลงมือทำคลอดแบบธรรมชาติให้ลูกสาวทันที ในตอนนี้จะผ่าก็ไม่ทันแล้ว เพราะเป็นการคลอดที่ฉุกเฉินฉุกละหุกมาก เนื่องด้วยหัวเด็กโผล่มาแล้วทำให้ต้องเปลี่ยนจากการผ่าคลอดมาเป็นการคลอดแบบธรรมชาติแทนซึ่งเขาเป็นคนทำคลอดไม่น่าจะมีอะไรน่าเป็นห่วงหมอกฤษฎิ์เสียอ
“ง่ำ ง่ำ ง่ำ อร่อยจังเลย”แก้มใสที่ตอนนี้ท้องใหญ่อุ้ยอ้ายใกล้คลอดหยิบขนมลูกชุบที่แม่ขาของเธอเอามาฝากเมื่อวานเข้าปากด้วยความเอร็ดอร่อย เธอจำได้ว่าคุณยายชอบทำขนมลูกชุบให้เธอกินบ่อย ๆ ตอนที่เธอยังเป็นเด็กและมันก็เป็นขนมไทยสุดโปรดของเธอมาจนถึงทุกวันนี้“อร่อยใช่ไหมคะตาหนูยายหนูดิ้นใหญ่เลย อร่อยแบบนี้คุณแม่ต้องกินเยอะ ๆ เสียแล้วสิ”ยิ้มร่าด้วยความชอบใจเมื่อลูกน้อยถีบเข้าที่ท้องเบา ๆ วันนี้พี่หมอของเธอเข้าเวรเช้าคืนนี้เธอไม่ต้องนอนเหงาคนเดียวอีกแล้ว ทุกครั้งที่พี่หมอเข้าเวรดึกเธอมักจะนอนไม่หลับเสมอบางวันถึงกับต้องเอาเสื้อสามีมานอนกอดทีเดียวถึงจะหลับตาลงได้ติ๊งเสียงข้อความที่เด้งเข้ามาในโทรศัพท์ทำให้แก้มใสรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครกันที่ส่งข้อความมาหาเธอ แต่พอเปิดเข้าห้องแช็ตก็พบว่าคนที่ส่งมาก็คือพี่ใบบัวอดีตสายสืบของเธอนั่นเองใบบัว: น้องแก้มขาวันนี้พี่ใบบัวเห็นปลิงควายตัวหย่ายใหญ่N'แก้มใส: วันนี้เป็นอะไรมาอีกล่ะคะ...ใบบัว: โรคสำออยอยากอ้อนหมอค่ะN'แก้มใส: โดนตบสักทีเขาจะหายไหมคะแก้มใสจะสงเคราะห์ให้ อิอิแก้มใสยังคงพิมพ์ข้อความหยอกล้อเล่นกับใบบัวอย่างไม่คิดอะไรมาก ตั้งแต่ที่เธอตั้งท้
คฤหาสน์วายุตอนนี้แก้มใสกำลังนั่งกินขนมดูซีรีส์อยู่ด้วยความสนุกสนาน วันนี้พี่หมอของเธอเข้าเวรดึกทำให้เธอที่ติดสามีต้องหาอะไรทำเพื่อคลายเหงาซึ่งการดูซีรีส์ฟิน ๆ คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับแก้มใส“อูยย ลูกจ๋าเบา ๆ ค่ะคุณแม่เจ็บน้า”ในขณะที่กำลังส่งขนมเข้าปากเจ้าแฝดทั้งสองคนของเธอก็ดิ้นไปมาพร้อมกับถีบท้องของเธอเบา ๆ แก้มใสที่กำลังกินขนมอยู่ถึงกับทำขนมหลุดมือ เพราะดูเหมือนเจ้าแฝดจะพร้อมใจกันถีบเสียมากกว่า แต่พอมือบางของเธอลูบท้องที่นูนใหญ่เบา ๆ แรงถีบก็หายไปก่อนที่แก้มใสจะยิ้มออกมาบาง ๆคิดถึงคุณพ่อล่ะสิถีบใหญ่เลย ปกติก่อนนอนพี่หมอมักจะเล่านิทานให้ลูก ๆ ฟังเสมอ ซึ่งเด็ก ๆ ก็จะพากันฟังอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อยกันมาก แต่พอผู้เป็นแม่อย่างเธอพาดูซีรีส์ยิงกันเลือดสาด เด็ก ๆ กลับประท้วงด้วยการดิ้นอย่างแรง“อร่อยจังเลยรสนี้ วันหลังต้องซื้อมาตุนเยอะ ๆ” หยิบขนมชิ้นสุดท้ายเข้าปากก่อนที่จะเดินเอาถุงขนมไปซ่อนในถังขยะเพื่อไม่ให้วายุเห็น ขืนพี่หมอรู้ว่าเธอกินขนมดูซีรีส์ก่อนนอนงานนี้มีดุแน่นอนก็คนมันชอบกินขนมอะ กินจนตอนนี้แก้มป่องไม่ยุบเลย เป็นคุณแม่ที่สมบูรณ์มากจริง ๆครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ที่สั่นเพรา
หลังจากที่งานแต่งผ่านพ้นไปแก้มใสกับวายุก็ย้ายเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ที่พ่อสามีซื้อให้เป็นของขวัญวันแต่งงานให้ทั้งคู่ เมื่อถึงวันที่มหาวิทยาลัยเปิดเทอมแก้มใสกลับไม่ได้ไปเรียนตามที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะตอนนี้อายุครรภ์ของแก้มใสเกือบจะห้าเดือนแล้ว ถึงจะเป็นท้องแรกและท้องสาว แต่วายุกลับเป็นห่วงแก้มใสมากแทบจะไม่ให้เธอหยิบจับอะไรนอกจากกินและนอนเท่านั้นซึ่งตอนนี้แก้มใสรู้สึกว่าเธอแทบจะกลิ้งได้อยู่แล้ว รูปร่างที่เคยผอมบางรู้สึกจะกลมดุกดิกแลดูตะมุตะมิไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นแก้มใสก็ไม่รู้สึกเหงาเลยสักนิดเพราะในแต่ละวันเธอมีซีรีส์มากมายหลายเรื่องที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเธอยามที่พี่หมอวายุไปเข้าเวรแต่วันนี้แก้มใสไม่ดูซีรีส์นะคะทุกคน แก้มใสจะแอบหนีพี่หมอไปอัลตราซาวนด์แหละโรงพยาบาล N“พ่อขาคิดถึงจังเลยค่ะ” เด็กหญิงแก้มใสเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาแล้ววิ่งดุกดิกไปหาบิดาที่กำลังนั่งทำงานรอลูกสาวอยู่ซึ่งตอนนี้ว่าที่คุณตาได้ไว้หนวดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะถ้าหลานเขาเป็นผู้หญิงจะได้ไม่มีใครมันกล้ามาจีบอย่างไรล่ะ“บอกกี่ครั้งแล้วคะลูกสาวว่าให้ค่อย ๆ เดินห้ามวิ่ง หนูท้องอยู่นะลูกไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว”กฤษฎิ์เอ
หลังจากที่เรียวอิจิออกไปจากห้องแล้วแก้มใสก็หันหน้ามาหาวายุทันที มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้สามีขี้แยอย่างอ่อนโยน คุณสามีหมาด ๆ ถึงกับยิ้มออกมาอย่างขวยเขิน เขาเป็นลูกผู้ชายแท้ ๆ แต่กลับร่ำไห้กับบิดาต่อหน้าภรรยาคนสวยมันช่างน่าอายเสียจริง ๆ“คุณพ่อไม่งอแงสิคะ เดี๋ยวลูกออกมาจะขี้แยเหมือนคุณพ่อนะคะ”แก้มใสเช็ดน้ำตาไปด้วยแซววายุไปด้วยจนเมื่อเช็ดน้ำตาให้วายุเรียบร้อยแล้วร่างบางขาวอวบที่ดูมีน้ำมีนวลจากการตั้งครรภ์ก็ลุกขึ้นจากเตียงมาหยุดยืนที่กลางห้อง มือบางค่อย ๆ ถอดชุดแต่งงานออกช้า ๆ จนกระทั่งชุดสวยราคาแพงร่วงลงมากองอยุ่บนพื้น แก้มใสก็หันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับพ่อของลูกทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอมีเพียงแพนตี้สีดำสุด Sexy เท่านั้น“เหนียวตัวจะแย่แก้มใสขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”กระตุกยิ้มมุมปากบอกสามีอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะมองวายุด้วยสายตายั่วยวนชวนขึ้นเตียงแล้วหันหลังเดินสะบัดก้นเด้ง ๆ เข้าห้องน้ำไปทันที วายุที่เห็นแบบนั้นไม่รอช้ารีบวิ่งตามแก้มใสไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้รักเมียในฐานะสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายหมับร่างสูงตรงเข้ามากอดร่างสวยอวบอิ่มยั่วยวนของแก้มใสที่ตอนนี้
“โอเคค่ะทุกคน คณะของเจ้าบ่าวผ่านด่านประตูเงินไปได้เรียบร้อยแล้ว ไปต่อกันที่ด่านสุดท้ายเลยนะคะ ด่านนี้มีชื่อว่าคำมั่นสัญญาแห่งรัก พี่อลิสขอให้น้องหมอโชคดีนะคะ”อลิสกล่าวอวยพรวายุพร้อมกับขบวนแห่ของฝ่ายเจ้าบ่าวที่หยุดลงหน้าประตูด่านที่ 3 ซึ่งด่านนี้มีพี่ชายหน้าดุกับน้องชายหน้าหล่อกายกับเก้าทัพเป็นผู้กั้นประตูนั่นเองก่อนที่ทั้งคู่จะหันมามองหน้าของวายุนิ่ง ๆ ซึ่งเจ้าบ่าวก็ส่งยิ้มให้พี่ชายกับน้องชายของว่าที่เมียด้วยความจริงใจ“ด่านนี้หินหน่อยนะ อาจจะต้องแลกหมัด หึ” กายพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัยก่อนที่จะเข้าสู่โหมดจริงจังซึ่งวายุก็เตรียมรับมือเป็นอย่างดี“พี่แก้มเป็นพี่สาวคนเดียวของเก้าพี่แก้มเลี้ยงเก้ามาตั้งแต่เด็กตอนนี้พี่แก้มกำลังจะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว พี่วายุสัญญากับเก้าได้ไหมครับว่าจะดูแลพี่สาวของเก้าให้ดีที่สุดจะไม่ทำให้พี่แก้มร้องไห้หรือเสียใจเด็ดขาด”เก้าทัพจ้องหน้าวายุด้วยความจริงจังก่อนที่ว่าที่พี่เขยจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความจริงใจแล้วพยักหน้าตอบรับคำพูดของน้องชายว่าที่ภรรยา“พี่สัญญาครับ ว่าจะไม่มีวันทำให้พี่สาวของเก้าเสียใจแน่นอน”วายุมองต
Comments