“สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาแก้ไขปัญหาของระบบที่แจ้งเอาไว้นะคะ ต้องขอโทษจริงๆ นะคะที่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น” ฉันกล่าวขอโทษกับทีมเอ็นจิเนีย
“ไม่เป็นไรครับ อาจจะเกิดเพราะเครื่องจักรมันรวนก็ได้ครับ” แล้วฉันกับกาลนานก็ช่วยกันแก้ไขจนกระทั่งพี่ชาโทรมาบอกว่าประธานใหญ่ของบริษัทเราพ่อของคุณนิรันด์ คือคุณนิรันด์กาล ก็อยู่ที่บริษัทนี้ด้วยเหมือนกัน เห็นว่าจะถามเรื่องของเครื่องจักรที่เคยติดตั้งด้วย ยังไงซะฉันก็อยู่ที่นี่แล้วช่วยต้อนรับเขาด้วยเพราะเขาก็มาดูงานที่นี่ด้วยเช่นกัน “แต่พี่ชาคะ หนู” “เอาน่า ถือว่าช่วยพี่ ช่วยทีมแล้วก็ช่วยบริษัทด้วย” “อ้างเยอะ” ฉันว่าพี่ชาแล้วก็วางสายไป ฉันเดินเข้ามายังห้องรับรองแขกที่มีคุณนิรันด์กาลเข้ามานั่งอยู่ก่อนแล้ว ด้วยอาการนอบน้อมของฉันและก็เกร็งสุดๆ ด้วยเช่นกัน “เชิญนั่งครับ คุณรินรดาผมขอโทษด้วยนะครับที่รบกวนเวลาการทำงานของคุณ” “ไม่เป็นไรค่ะท่านดิฉันยินดีมากค่ะ” แถมฉันยังรู้มาอีกว่าคุณนิรันด์กาลก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของที่นี่ด้วย ถึงแม้เขาจะมีอายุที่มากแต่บุคลิกที่ดูภูมิฐานทำให้เขาดูไม่ต่างจากหนุ่มๆ เลย ไม่แปลกที่คุณนิรันด์จะดูดีเช่นเดียวกับเขา “วันนี้ มาคนเดียวเหรอครับแล้วทีมไปไหนหมด” “ดิฉันมากับทีมอีกคนค่ะ แต่เขากำลังดูเครื่องกับเอ็นจิเนียของบริษัทค่ะ” “ผมอยากลงไปดูด้วยครับ เผื่อว่าจะต้องปรับปรุงหรือว่าต้องเพิ่มเติมอะไรบ้างจะได้นำเข้าให้เหมาะสมกับหน้างาน แล้วคนที่มาด้วยชื่ออะไรครับ” “กาลนานค่ะ” “กาลนานเหรอ ชื่อนี้คุ้นจังครับ” ชายวัยห้าสิบพูดขึ้น ฉันทำได้เพียงยิ้มและพยักหน้าแค่นั้น เมื่อลงมาถึงตรงที่กาลนานอยู่กับทีมเอ็นจิเนียฉันก็รีบเดินเข้าไปหาเขาเพื่อบอกให้ไหว้คุณนิรันด์กาล “กาลนาน นี่คุณนิรันด์กาลเจ้าของบริษัทที่เราทำอยู่” เขาหันมามองเพียงแค่แว็บเดียว ก็รีบเอาน้ำมันเครื่องทาหน้าของตัวเอง “สวัสดีครับคุณนิรันด์กาล ขอโทษนะครับผมขอไปล้างหน้าก่อน” แล้วเขาก็รีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว “กาลนานงั้นเหรอ ทั้งชื่อทั้งรูปร่างเหมือนลูกชายคนเล็กผมไม่มีผิด แต่รายนั้นไม่เห็นหัวมาหลายเดือนแล้วเอาแต่เที่ยวเตร่สู้พี่ชายเขาไม่ได้เลยสักนิด” ชายสูงวัยพูดขึ้นพร้อมทั้งส่ายหัว หลังจากเคลียร์งานเสร็จฉันกับเขาก็แวะไปหาข้าวทานกันเพราะไม่ได้กินอะไรเลยกันตั้งแต่เช้านอกจากกาแฟคนละแก้วเท่านั้น ระหว่างที่ฉันทานข้าวกับกาลนานก็มีสาวๆ โต๊ะข้างๆ ต่างก็มองเขากันเป็นตาเดียว “หล่อจังเลย ไม่รู้มีแฟนหรือยังนะ” สาวเสื้อสีชมพูผมลอนเอ่ย “ไม่ใช่แฟนเขาเหรอ ที่นั่งด้วยกัน” สาวที่นั่งคู่กันพูดขึ้น “แต่พี่ผู้หญิง เค้าดูเหมือนพี่สาวมากกว่า หล่อขนาดนี้จะเอาแฟนแก่กว่าจริงๆ เหรอ” กาลนานลุกขึ้นทุบโต๊ะ ดังปึง ทำให้ผู้หญิงโต๊ะข้างๆ ต่างก้มหน้าก้มตากินข้าวกันอย่างเงียบๆ “เบื่อคนเสน่ห์แรงจัง” “ก็เขาพูดถึงพี่ด้วย ลำพังผมไม่เท่าไหร่หรอกครับ” “ก็นานกับพี่ดูอายุก็ห่างกันเยอะ ใครจะไปเชื่อว่าเป็นแฟนกัน” ฉันพูดพร้อมกับมองไปที่ผู้หญิงโต๊ะนั้น ทำให้พวกเธอรีบลุกไป “ดีใจจังที่พี่รินยอมรับว่าเราเป็นแฟนกัน” เขาเอื้อมมาจับมือของฉัน “อายเค้า คนเยอะ” ฉันตีมือของเขาเบาๆ แต่ก็นึกขึ้นได้ “ว่าแต่ทำไมนานถึงหน้าเลอะน้ำมันนักล่ะ ตอนที่คุณนิรันด์กาลเข้าไป” “พอดีมันกระเด็นใส่ครับ” “ครั้งหน้าก็ระวังด้วยนะคะเกิดตาบอดขึ้นมา ยุ่งเลยนะ เอ่อ แล้วคุณนิรันด์ก็ยังบอกอีกว่าชื่อของนานเหมือนกับลูกชายของเขาท่าทางก็เหมือนด้วยนะ พี่ว่านานน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายของคุณนิรันด์” “แล้วคุณนิรันด์ พูดอะไรต่อมั้ยครับ” “อือ เห็นบ่นๆ ว่าลูกชายคนเล็กไม่เอาไหน เอาแต่เที่ยวเตร่ไม่เหมือนคุณนิรันด์ คงจะเพราะว่าเขารวยด้วยแหละ เลยใช้ชีวิตแบบนั้นได้” “แค่กๆๆๆ” “เป็นไรกาลนาน สำลักข้าวเหรอ ค่อยๆ กินสิ” กาลนานสำลักข้าวไม่หยุดจนฉันต้องรีบหยิบน้ำให้ “แล้วคุณนิรันด์ที่พี่เคยบอกว่าชวนพี่รินไปดื่มกาแฟที่ห้องทำงานเมื่อวันก่อนใช่ลูกชายของคุณนิรันด์กาลที่เราเจอกันวันนี้หรือเปล่าครับ“ “ใช่ค่ะ” ฉันพยักหน้ายิ้ม “แค่กๆๆ” “สำลักอาหารอีกแล้วเหรอนานมาๆ เดี๋ยวพี่เทน้ำให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ กิน เดี๋ยวติดหลอดลมกันพอดี” “ครับๆ พี่” กาลนาน Talk หลังจากที่ผมกลับมาจากต่างจังหวัดกับพี่รินก็ขอไปส่งเธอที่บ้าน เธออยู่บ้านคนเดียวเป็นบ้านจัดสรรที่เธอยังคงผ่อนอยู่ “ผมขอเข้าไปดื่มน้ำข้างในได้มั้ยครับ” ผมเอ่ยเมื่อเธอกำลังเปิดประตูลงจากรถ “อือ จะดีเหรอ บ้านพี่รกนะ” “แล้วอาร์เคยมาบ้านพี่รินหรือเปล่าครับ” ผมถามเธอที่กำลังอ้ำอึ้ง “เคยสิ” “แล้วทำไมผมจะเข้าไปบ้างไม่ได้ ทั้งที่ผมก็เป็นแฟนของพี่ริน” ผมทำหน้างอน “โอเคๆ งั้นพี่ขอเวลาเก็บบ้านแป๊บนะ รอหน้าประตูก่อน” “ได้ครับพี่ริน” แล้วเธอก็รีบวิ่งเข้าบ้านไป ผมจึงกดโทรศัพท์โทรหาไอ่เจตเพื่อนรัก “ไงไอ่นาน” “กูมีเรื่องให้มึงช่วยว่ะเพื่อนเจต” “ไอ่สัส ไม่มีเรื่องไม่โทรมาหากูหรอกนะ กูไม่ว่างกำลังไปหาน้องจิ๊บ พรุ่งนี้เช้าจะโทรกลับ” “มึงเอาแต่วันเลยเหรอวะ พระอาทิตย์ยังไม่ทันตกดินมึงจัดแล้วเหรอ” “ของแบบนี้ได้ตลอดเวลาโว้ย ทำอย่างกับว่าไม่เคย” “เอ่อๆ แต่ช่วยกูก่อน มึงให้ลูกน้องพ่อมึงสืบให้กูหน่อยว่าไอ่รันด์มันไปติดพันกับผู้หญิงคนไหนอยู่วะตอนนี้กูอยากรู้ด่วนๆ เลย” “ถ้ามึงรีบขนาดนั้น ทำไมไม่ทำเองวะ” “ไอ่เจต อย่ากวนตีนกู” “เอ่อๆ หยอกนิดหยอกหน่อยไม่ได้เลยนะ พรุ่งนี้บ่ายกูจะแจ้งให้ทราบครับท่านกาลนาน ขออนุญาตวางสายนะครับ” แล้วไอ่เจตก็วางสายไป ที่ผมไว้ใจมันเพราะลูกน้องของพ่อมันขึ้นชื่อเรื่องตามคนสุดๆ อยากรู้เรื่องใครละเอียดแค่ไหนรู้หมด อาจเป็นเพราะพ่อของมันมีธุรกิจผับบาร์ด้วยเลยระวังเป็นพิเศษเวลาจะร่วมธุรกิจกับใครเขาจึงสืบให้แน่ชัดก่อนร่วมลงทุน ซึ่งแน่นอนไอ่เจตมันก็รวยมีเงินใช้ไม่ขาดมือเหมือนกัน “นานเข้ามาได้เลย” พี่รินออกมาเรียกผมให้เข้าไปข้างในบ้าน เธอเอาน้ำมาวางให้ผมหนึ่งขวด “พี่รินพักคนเดียวเหรอครับ” ผมมองสำรวจรอบห้องจนเห็นบราที่เธอเก็บไม่หมดตกลงที่ข้างโซฟาที่ผมกำลังนั่งอยู่ “อยู่คนเดียวสิ จะให้พี่อยู่กับใครได้ล่ะ” “อยู่กับผมนี่ไงครับ หรือว่าผมจะเก็บข้าวของมาอยู่กับพี่รินดี” ผมดึงมือเธอให้มานั่งโซฟาข้างๆ ผม เธอนั่งลงตามอย่างว่าง่าย “ใครจะให้มาอยู่ด้วย คอนโดนานออกจะสวยหรูจะมาอยู่บ้านเล็กๆ กับพี่ทำไมคะ” “หรือว่าพี่รินจะไปอยู่กับผม” “บ้าเหรอ นี่ปกติจีบผู้หญิงแบบนี้เหรอพาผู้หญิงไปคอนโดกี่คนแล้วล่ะ ตอบพี่มาเลยนะ” “ผมพาพี่รินไปคอนโดผมคนแรก” พอผมพูดแบบนั้นพี่รินก็หัวเราะออกมา “ใครจะไปเชื่อ” “จริงครับพี่ คอนโดที่ผมนอนอยู่ผมไม่เคยพาใครไปเลยนะพี่รินคนแรกเลย” “อ๋อ แบบนี้นี่เองแสดงว่าอีกคอนโดนึงคงพาไปไม่ว่างเว้นสินะ” เธอชี้หน้าผม “มันเป็นอดีตไปแล้วครับพี่ ผมไม่ได้พาใครไปนานแล้ว ก็ไปนอนครั้งสุดท้ายวันที่พี่รินมาค้างห้องผมแหละครับผมเลยไปนอนที่นั่น” ผมไม่รู้ว่าที่ผมพูดเธอจะเชื่อมากน้อยแค่ไหน แต่ที่ผมพูดออกมาทั้งหมดคือเรื่องจริง ยิ่งนิรันด์พี่ชายของผมเห็นเธอแล้ว ผมยิ่งเป็นหวงเธอมากกลัวว่ามันจะทำกับพี่รินเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่เคยทำ เพราะเวลาผมมีความสัมพันธ์กับใครจะมีมันเข้ามาแย่งเสมอ แต่ดีหน่อยที่ผมจะซื้อกินกับพวกลูกคุณหนูที่เที่ยวและรักสนุกกับเรื่องอย่างว่ามากกว่า “หิวข้าวมั้ย พี่จะสั่งเข้ามา” “หิวครับแล้วก็เพลียมากผมขอค้างที่บ้านพี่รินได้มั้ยครับ” ผมทำหน้าอ้อนเธอ “ไม่ได้ค่ะ นานต้องกลับไปนอนที่คอนโดนานนะคะ” “งั้นผมขออาบน้ำก่อนได้มั้ยครับ เหนียวตัวมากเลย ดีนะของในกระเป๋าผมยังไม่เอาออก” “เหมือนวางแผนมาเลยนะนาน สารภาพมา” พี่รินยืนเท้าสะเอวมองผม “รู้ทันผมตลอดนะพี่” ผมดึงเธอมากอดอีก ตัวเธอหอมจัง “แบบนี้หรือเปล่านะ เขาถึงว่ามีแฟนเด็กมันดี มันน่ารักไปหมด” “งั้นมองผมแค่คนเดียวนะครับ ห้ามมองใคร” ผมไม่รอให้เธอตอบ กลับจับใบหน้าของเธอแล้วจูบไปที่ริมฝีปากที่เหมือนเชื้อเชิญให้ผมสัมผัสตลอดเวลาด้วยลิปสติกมันวาวสีชมพูอ่อนที่ผมอยากจะสัมผัสตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานกับพี่รินในระยะสอนงานใกล้ๆ เธอก็ทำให้ผมหวั่นไหวจนอยากจะครอบครองมันจริงๆ(ตอนพิเศษที่ 2 วันวานกับเรื่องบาดหมางของกาลนานกับนิรันด์และโมเม้นกาลนานเจอรินรดาครั้งแรก)เมื่อกาลนานกำลังจะขึ้นปีสองก็ได้มีการบรรยายพิเศษที่คณะจากทีมวิศวะมืออาชีพหญิงสาวสวยสะพรั่งในชุดกระโปรงทรงเอรัดรูปกับผมที่ถูกมัดขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าและต้นคองามระหงเด่นชัด“ไอ้นาน มึงมองพี่เขาขนาดนั้นเดี๋ยวพี่เขาก็ถามมึงหรอก” เจตเพื่อนที่เรียนวิศวะด้วยกันกับเขาพูดขึ้น“ถ้าพี่เขาถามกู กูจะให้เบอร์โทรพี่เขาเลย ผู้หญิงอะไรสวยแท้วะ” กาลนานนั่งพูดอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องโดยที่หญิงสาวยังคงพูดบรรยายไปโดยที่ไม่ทันได้เห็นกาลนานด้วยซ้ำ“ต้องขอขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ฟังพี่รินพูดอย่างตั้งใจหวังว่าทุกคนจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในการเรียนหรือวันข้างหน้าก็สามารถปรับเปลี่ยนกับการทำงานได้ค่ะ” รินรดาพูดจบเธอก็เก็บอุปกรณ์ของตัวเอง“พี่รินครับ ผมมีข้อสงสัยครับ” นักศึกษาชายยกมือขึ้นทำให้กาลนานหันไปมองเพื่อนในชั้นทันที“มีอะไรคะ ถามได้เลยค่ะ” รินรดายิ้มแย้ม“พี่รินมีแฟนหรือยังครับ” นักศึกษาคนนั้นถามทำให้เพื่อนๆ ในห้องโห่แซวกันใหญ่“ไอ่เชี่ย” กาลนานอุทาน“พี่ยังไม่มีแฟนค่ะ และพี่ก็ไม่ชอบเด็กด้วยค่ะ” รินรดาพูดตัดจบไป ทุกคนในค
เผลอใจรักพักใจเหรอ ตอนพิเศษ1 วันวานกับพี่ชายที่ชื่อนิรันด์ย้อนกลับไปในช่วงวัยรุ่นตอนอายุสิบแปดของกาลนานที่เริ่มโตเป็นหนุ่มมีใบหน้าที่หล่อเหลาแม้ร่างกายที่ดูภายนอกจะบอบบางแต่จริงๆ แล้ว เขานั้นซ่อนรูปไม่เบามันเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจของหญิงแท้ชายเทียมเป็นอย่างมาก ท่ามกลางแสงสีไฟสลัวๆ ที่กระทบกับร่างกายของชายหนุ่มที่เต้นใช้เอวเป็นซะส่วนใหญ่ ค่อยๆ หมุน ค่อยๆ ควงเอวให้มันต่ำลงจนตัวเองนั่งคุกเข่าลงแล้วยกเสยเอวเด้งขึ้นเด้งลงไม่หยุด เสียงกรี๊ดของผู้หญิงในผับก็ดังแข่งกับเสียงดนตรีที่เขาเต้นอยู่บนเวทีด้วยเช่นกัน คงจะถูกใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่ปลดกระดุมลงจนเห็นสะดือกับหัวเข็มขัดถูกถอดและเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น ยิ่งทำให้เห็นกล้ามเนื้อและแผ่นหลังที่ดูแข็งแรงจนไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย“กรี๊ดดด ถอดอีกๆ” เสียงร้องตะโกนของสาวๆ ในผับตะโกนกู่ร้องดังเหมือนยิ่งยุให้เขาทำในสิ่งที่พวกเธอต้องการ“ข้างล่างถอดไม่ได้ครับ ขืนผมถอดเจ้าของผับแบนไม่ให้ผมเข้าอีกแน่ๆ” เมื่อกาลนานพูดจบเขาก็ก้มโค้งขอบคุณแล้วเก็บเสื้อที่เขาโยนมันลงพื้นไปแต่แรก ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายที่เขาคุ้นเคยเป็นอ
หลายวันต่อมา คุณนิรันด์กาลเรียกฉันให้เข้าไปพบที่ห้องทำงานของเขา “สวัสดีค่ะ คุณนิรันด์กาล” ฉันยกมือไหว้อย่างนอบน้อม “เชิญนั่งก่อนครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะแจ้ง” “ขอบคุณค่ะ” ฉันนั่งลงตรงข้ามเขาด้วยใจที่ลุ้นระทึกอีกรอบ เขาส่งกระดาษใบสี่เหลี่ยมให้ฉัน “เงินเจ็ดล้านตามที่ตกลงกันไว้ครับ คุณทำสำเร็จนะขอบใจคุณรินมากที่ช่วยครอบครัวของเรา” “ฉันรับไม่ได้หรอกค่ะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ” ฉันส่งเช็คนั้นคืนกลับไป “ทำไมจะยังไม่ได้ทำครับ ก็ลูกชายทั้งสองของผมบอกว่าถ้าไม่ได้คุณรินป่านนี้น่าจะยังทะเลาะกันอยู่ผมเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องครับ เลี้ยงลูกตามใจจนเอาลูกไม่อยู่จนต้องไปขอให้คุณรินช่วย” “ฉันยินดีค่ะ แต่เขาสองคนดีกันแล้วเหรอคะ” “ใช่ครับ เมื่อคืนเขาคุยกันหัวเราะชอบใจใหญ่ผมมีความสุขมากครับ” อ๋อว่าแล้วเมื่อคืนกาลนานบอกว่าจะมานอนที่บ้านเป็นแบบนี้นี่เอง “ดีใจด้วยนะคะคุณนิรันด์กาล แต่ฉันไม่ขอรับเงินจำนวนนี้หรอกค่ะเพราะว่าฉันเองก็มีส่วนทำให้เขาทั้งสองทะเลาะกันด้วย” “งั้นถ้าผมจะสู่ขอคุณรินให้เจ้ากาลนานลูกชายคนเล็กของผมล่ะครับ คุณจะรังเกียจครอบครัวของเรามั้ย“ “คะ คุณรู้เรื่องของเราเหรอคะ” ฉันก้มหน้าพูด
“รินครับ ผมมีอะไรจะให้” เขาเดินมานั่งข้างๆ ฉันที่นั่งหน้าบ้านเพราะว่าเราจะมานั่งดูพระจันทร์ด้วยกัน“อะไรคะ” เขาหยิบกิ๊บติดผมขึ้นมาแล้วติดที่ผมของฉันมันวิบวับแวววาวมากจนฉันต้องหยิบลงมาดู“ดาวครับ สวยมั้ย” เขาใช้นิ้วเกลี่ยแก้มของฉันเล่นอย่างแผ่วเบา“เพชรนี่คะ สวยจัง” ฉันทำท่าจะเอากิ๊บเข้าปากเพื่อเช็คว่าแท้มั้ย“รินทำน่ารักอีกแล้วนะแท้สิครับผมเป็นใคร ผมคือกาลนานนะ”“ล้อเล่นเฉยๆ เองขอบคุณนะคะ” แล้วฉันก็ติดกิ๊บที่ผมตามเดิม“ครั้งนี้ไม่ปฏิเสธเหรอครับ หลายล้านบาทนะอย่าเอาไปขายล่ะเวลางอนผม” “ปฏิเสธก็บ้าแล้ว นานกระแทกรินจนช่วงล่างแทบจะพังรินเสียหายนะ” “งั้นเหรอครับ งั้นผมให้ใบนี้รินไว้ใช้ดีกว่าเพราะผมจะกระแทกอีกนานเลยครับ” เขาหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาพร้อมกับหยิบบัตรการ์ดใบแข็งสีดำส่งให้ฉัน“นี่มันแบล็คการ์ดเหรอคะ นานมีจริงๆ ด้วยเพราะเมื่อก่อนรินว่าเคยเห็นนานถืออยู่นะ”ฉันหยิบมาดูพลิกไปพลิกมา“จริงสิครับ ผมให้”“สายเปย์ของจริงเลยนะเนี่ย” “แน่อยู่แล้วครับ”“งั้นคืนนี้รินขอใช้บัตรนี้ซื้อตัวนานได้มั้ยคะ เหมาทั้งคืน” ฉันขยิบตาให้พร้อมกับหย่อนบัตรลงไปในกระเป๋าเสื้อของเขา“อย่ามาร้องขอชีวิตกับผมแล้ว
หลังจากที่ฉันบอกว่าจะลาออกฉันก็ไม่เจอคุณนิรันด์ที่นี่อีกเลย ฉันเหลือบมองกาลนานที่นั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดเลยอยากเอาใจเขา“รับกาแฟมั้ยคะคุณกาลนาน” เขาเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารตรงหน้าด้วยอาการคิ้วขมวด“เรียกคุณอีกแล้ว เราอยู่กันสองคนเรียกผมนานเฉยๆ ก็ได้หรือจะเรียกผัวจ๋าแบบที่เคยเรียกก็ได้นะครับ” เขายิ้มพร้อมทั้งขยิบตาใส่“บ้า อือ แล้วพี่ชายของคุณล่ะฉันยังไม่เห็นเขาเลยตั้งแต่มา” ฉันลองถามเขาเพราะเห็นว่าเขาอารมณ์ดีอยู่“ทำไมคิดถึงเขาเหรอ” กาลนานหน้าบึ้ง“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย พี่แค่ถามดู”“มันไปดูอีกบริษัทละครับ เสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันได้ไงครับ”“จร้าๆ พ่อเสือใหญ่ถอดเขี้ยวเล็บด้วยนะคะ ถ้าไม่ถอดพี่จะถอดให้เอง” ฉันทำท่าเสือกางเล็บใส่เขา “เสือสิ้นลายแล้วครับโดนพี่ขี่ผมไปไหนไม่ได้แล้วครับ ว่าแล้วก็อยากโดนขี่อีกจังในนี้ดีมั้ย” กาลนานลุกมาหาฉัน“หยุดเลย ไว้ไปทำที่บ้าน”“คืนนี้ไม่อดแล้วเว้ยเราชักจนปวดมือแล้ว”“ทะลึ่ง” พอเราสองคนมาคืนดีกันแบบนี้ก็ยิ่งเติมเต็มความรักให้กันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันมัวแต่มีความสุขจนลืมคำพูดที่รับปากไว้กับคุณนิรันด์กาลพ่อของเขาสนิทเลย จะทำยังไงดี ถึงจะให้สองคนมาคืนดีก
“กาลนานอย่า” ฉันห้ามเขา แต่อคินก็ยังสวนหมัดกลับมาใส่ใบหน้าของกาลนานเต็มๆ เช่นกัน“หยุดนะคิน ถ้าคุณไม่หยุดฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก” ฉันควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้นจุ๊ดที่ฉันใส่อยู่บ้าน“ทีไอ้นี่ยังเข้ามาได้” เขาชี้หน้ากาลนาน“ก็เขาเป็นสามีของฉันทำไมจะเข้ามาไม่ได้ล่ะ” ฉันยืนพูดเพราะยังไงวันนี้ฉันต้องจัดการเรื่องฉันกับอคินให้มันจบๆ ไปเสียที“พูดได้เต็มปาก เด็กมันจะสู้ผมได้ยังไง” อคินยังคงดื้อดึง ยิ่งทำให้กาลนานโกรธเข้าไปใหญ่“อย่าค่ะผัวจ๋า เดี๋ยวเมียจัดการเอง” ฉันแกล้งพูดให้อคินโดยมีกาลนานที่ยืนยิ้มอยู่“พอเถอะค่ะคินฉันมีผัวใหม่แล้วฉันไม่กลับไปกินของเก่าแบบคุณอีกแน่ๆ”“ถ้าคุณพูดเต็มปากขนาดนี้ว่าไอ้อ่อนนี่มันเป็นผัวใหม่ของคุณ ผมก็ไม่เอาคุณแล้วเหมือนกัน”“เชิญค่ะ นั่นประตู” อคินเดินไปอย่างหัวเสียเจอแบบนี้ใครกลับมาอีกก็บ้าแล้ว“ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” ฉันหยิบเสื้อที่ตกลงกับพื้นส่งให้เขาคืน“ครับ แต่ผมโดนเขาต่อยช่วยทำแผลให้ผมหน่อยไม่ได้เหรอ”“ก็ได้ค่ะ เห็นแก่ความดีของคุณนะ” ฉันเดินไปหยิบยาทาแล้วมานั่งรอเขาที่กำลังใส่เสื้ออยู่“เดือนนี้ทั้งเดือนไม่รู้ปากของผมเป็นอะไรไปรับแต่กำปั้