 Mag-log in
Mag-log in@สถานบันเทิงชื่อดัง
"กระดกเหล้าดื่มเป็นน้ำเปล่าเลย เมามากูไม่แบกนะบอกไว้ก่อน" วาโยเบ้ปากใส่เพื่อนชายคนสนิท ทำมาเป็นบอกว่าจะไม่แบก เห็นเมาทีไรก็อุ้มกลับคอนโดทุกรอบ ถึงจะตีกันบ่อยแต่ก็ต้องยอมรับเลยว่ามีภามมาด้วยสบายใจสุดแล้ว รู้สึกปลอดภัยโดยไม่ต้องห่วงว่าถ้าเมาแล้วจะมีคนมาทำอันตราย "ไม่แบกกลับก็แล้วแต่ ทิ้งฉันไว้ตรงนี้แหละ ให้โดนผู้ชายลากไปข่มขืนเลย" "ไหน? ใครจะข่มขืนมึงเรียกตัวมาดิ เดี๋ยวกูจะอุ้มไปส่งเลย แล้วแถมตังเปิดห้องให้ด้วย" "เหอะ~ ถ้าฉันโดนขึ้นมาจริงๆ อย่าวิ่งร้องไห้ไปเคาะประตูแล้วลากผู้ชายคนนั้นออกมากระทืบนะ" "อาจจะไปเคาะประตูจริง แต่เคาะเพื่อขอเข้าไปนั่งดูนะ อยากรู้ว่าตอนอยู่บนเตียงจะปากเก่งแบบนี้ไหม" "แน่ใจว่าทนดูได้?" วาโยเลิกคิ้วถามขณะที่ภามยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม "พอๆ มึงเมาแล้วพูดจาเลอะเทอะ อ่านนิยายเยอะไปอ่ะดิ เพลาๆลงบ้างนะ" "....." ทำมาเป็นบ่นแต่โอนตังมาเติมเหรียญปลดล็อกนิยายให้ตลอด "กูไม่คุยกับมึงละ ไปหาสาวโต๊ะนั้นดีกว่า" วาโยมองตามสายตาภามไปที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม "ไหนบอกไม่ชอบผู้หญิงนมใหญ่ๆไง" "ก็ไม่ได้ชอบ แต่มันคืออาหารตา เดี๋ยวมานะ" ภามตบไหล่วาโยเบาๆ แล้วเดินไปที่โต๊ะเป้าหมาย "ไปไหนไปเหอะ" นั่งดื่มคนเดียวได้สักพักสายตาก็ไปหยุดโพกัสที่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ก่อนที่วาโยจะเพ่งมองให้แน่ใจ "อ้าว! หายไปไหนแล้ว" เธอรีบลุกเดินไปหาภามที่โต๊ะสาวๆทันทีแบบไม่รีรอ ถึงจะเมาแต่เชื่อว่าตัวเองจำคนไม่ผิดแน่ๆ "ภามๆ เมื่อกี้ฉันเหมือนเห็นพี่โอบเลยอ่ะ" "ตาลายเปล่า มึงเมาอ่ะ" "ฉันไม่ได้ตาฝาดนะ" "ไหนมึงบอกผัวมึงนอนตั้งแต่สี่ทุ่มไง" "แค่แฟนมั้ยล่ะ! เดี๋ยวตบปากฉีกถึงหูเลย" "เออนั่นแหละ" วาโยดึงสติกลับมา แล้วบอกตัวเองว่าอย่าเพิ่งทะเลาะกัน ต้องโพกัสเรื่องสำคัญก่อน "ก็พี่โอบบอกฉันว่านอนสี่ทุ่มจริงๆ แถมถ่ายรูปชุดนอนมาให้ดูด้วยนะ หรือฉันต้องโทรถามเขาดี... " วาโยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากำลังจะกดปุ่มโทรแต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ "แต่ถ้าโทร เขาก็ต้องรู้สิว่าฉันแอบมาคลับโดยที่ไม่ได้บอก โอ๊ย! เอาไงดี" วาโยเขย่าแขนภามให้ช่วยคิด "ไหนบอกจิมว่าโสด แล้วป้านี่ใครคะ?" เธอมองวาโยตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูก เธอแค่สวมเสื้อแขนยาวตัวใหญ่ ปิดชุดเดรสข้างในจนมิดชิด ไม่ได้แต่งตัวป้าสักหน่อย พอถอดเสื้อคลุมออกก็แซ่บเหมือนกันนั่นเเหละ เผลอๆแซ่บกว่ายัยเด็กนี่ที่นั่งอยู่อีก "โห! เรียกป้าเลยหรอ!" วาโยเตรียมพุ่งตัวเข้าหาเด็กสาว แต่ภามจับไหล่รั้งเอวไว้ได้ทันจนเธอตัวลอยเหนือพื้นด้วยแรงยกเพียงแขนเดียวของชายหนุ่ม พรึ่บ~ แต่เธอยอมได้ที่ไหน แบบนี้มันหยามกันชัดๆ ทั้งดิ้นทั้งสะบัดให้หลุดแต่ภามกลับกอดไว้แน่นกว่าเดิม แล้วก้มลงมากระซิบข้างหูเบาๆจนวาโยหยุดนิ่ง "ใจเย็นๆก่อน~ น้องมันแซวเล่น" "...." จิมมี่เด็กสาวนั่งมองการกระทำของทั้งคู่ที่ดูยังไงก็ไม่ใช่เพื่อน 'หนีเมียมาเที่ยวสิไม่ว่า' "นี่เพื่อนพี่...อาจจะดูแก่ไปนิดแต่อายุเท่ากันครับ" วาโยสะบัดตัวออกจากวงแขนภามอีกครั้งจนหลุด แล้วยืนจ้องหน้าเพื่อนสนิทแล้วนึกอยากกระโดดตบปากสักที "อ้าว! หรอคะ งั้นคืนนี้ก็ไปต่อกับจิมได้สิ" "ได้สิคะ เดี๋ยวพี่ขอไปส่งป้า.. เห้ย! เพื่อนก่อนนะ แล้วเดี๋ยวจะกลับมารับครับ" "ไอ้ภาม!" วาโยยืนกอดอกจ้องมองอย่างคาดโทษอีกครั้ง "ได้ค่ะ รีบไปรีบมานะ จิมจะรอ..." หมับ! ไม่ทันได้ตอบกลับเด็กสาวก็ลากตัวเพื่อนสนิทออกมาจากคลับเสียแล้ว "โอ๊ย! ไอ้ภามฉันเจ็บนะ ลากอย่างกับฉันเป็นวัวเป็นควายเลย จะรีบไปไหนห๊ะ!" "รีบเหอะน่า เดี๋ยวตลาดวาย" "ไม่เอา เพิ่งจะมาเองฉันยังไม่อยากกลับ ฉันจะไปดูก่อนว่าผู้ชายคนนั้นใช่พี่โอบรึเปล่า" "เดี๋ยวค่อยมาดู เร็วขึ้นรถ นี่ถ้ามีเชือกเอาออกมาจูงไปแล้วนะเนี่ย" "ไอ้...กรี๊ด!" พอจับยัดเข้ามาในรถได้ ภามก็เหยียบคันเร่งอย่างไวจนขับมาถึงคอนโดในเวลาที่รวดเร็ว @โซฟาหน้าทีวี "ไม่พอใจก็ด่า อย่ามาทำหน้าเป็นตูด" "จะลากฉันกลับมาเพื่อ! แกมีพิรุจนะ รู้ตัวรึเปล่า" "พิรุธอะไร ไม่มี๊!!" เสียงจะสูงไปไหนก่อน "หรือแกเห็น?" "บ้า! กูจะไปเห็นพี่โอบของมึงได้ไง" "ฉันยังไม่ได้พูดถึงพี่โอบเลยนะ...แกเห็นอะไร พูดมาเดี๋ยวนี้" "ไม่เห็น จะเห็นได้ไง นั่งคนละโต๊ะ" "แกดูมีพิรุจจริงๆด้วย" "ไร้สาระพูดไปเรื่อย อย่าลืมกินยาแก้แฮงค์ล่ะ กูต้องไปแล้วเดี๋ยวน้องเขาจะรอนาน..." พูดจบภามก็รีบเปิดประตูออกไป ทิ้งวาโยให้นั่งคิดไม่ตกอยู่คนเดียวที่โซฟา ก่อนที่เธอจะสะบัดหน้าเบาๆไล่ความคิดในหัว แล้วพูดขึ้น "ไม่หรอก ไม่ใช่พี่โอบหรอก คิดมากน่าโย"
หลายปีต่อมา... ตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยอดนมแม่อย่างเป็นทางการแล้ว ก็เหลือแต่ตัวพ่อเนี่ยแหละที่ร้องขอกินนมก่อนนอนเกือบทุกคืน ไหนใครบอกว่าแต่งงานอยู่ด้วยกันนานๆแล้วผัวจะเบื่อ แต่นี่ไม่เลย... รู้สึกว่าภามรักและหลงเธอมากกว่าเดิมเสียอีก ถึงบางวันทั้งคู่จะไม่ได้ทำรัก เขาก็ขอแค่ได้กอดได้หอมเมียให้ชื่นใจก่อนไปทำงานแค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้ววันนี้เป็นวันที่หมอนัดสาวน้อยอย่างวรินทร์มารับวัคซีนครบสี่ขวบที่โรงพยาบาล แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่วาโยเจอรุ่นพี่อย่างแทนที่เคยเรียนร่วมคณะเดียวกันสมัยมหาลัย"น้องวาโยนี่เองพี่ก็คิดว่าใคร^_^" "พี่แทน มาหาหมอหรอคะ""ครับ พี่พา เอ่อ... พาน้องสาวมาฝากครรภ์ ว่าแต่เรามาทำอะไรที่แผนกเด็กเล็กหรอครับ?""โยพาลูกสาวมาฉีดวัคซีนค่ะ""อ้าว นี่เรามีลูกแล้วหรอ แล้วไหนล่ะสามี? ทำไมถึงไม่มาด้วย ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆมากับลูกสาวตามลำพังแบบนี้ได้ยังไงกัน ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย" "เขามาด้วยนะคะพี่แทน..." แทนแกล้งชะเง้อคอมองข้ามผ่านคนตัวเล็กไปทางด้านหลังก็ไม่เจอใคร วาโยเลยหันมองข้างๆที่มีภามยืนอยู่ แล้วทำหน้างงๆว่าพี่แทนไม่เห็นภามจริงๆหรอ หรือเขาแค่แกล้งเล่น? วรินทร
@หนึ่งปีต่อมา...ตอนนี้วาโยคลอดลูกสาวได้สี่เดือนแล้ว และเดือนนี้ก็เป็นเดือนสุดท้ายในการสอบปลายภาคสำหรับนักศึกษาปีสี่ ทั้งภามและวาโยเลยต้องเรียนหนักเป็นพิเศษ แต่หน้าที่เลี้ยงลูกส่วนใหญ่จะเป็นคุณพ่อลูกอ่อนอย่างภาม เขาอยากให้วาโยโฟกัสกับเรื่องเรียนให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงวรินทร์เดี๋ยวเขาจะดูแลให้เองอย่างเช่นวันนี้คนที่เลี้ยงลูกอยู่ในห้องก็เป็นภาม ส่วนวาโยเธอออกมานั่งเรียนอยู่โซนด้านนอกกับอาจารย์ที่แม่สามีจ้างมาสอนพิเศษให้ถึงเพนท์เฮาส์ แต่ทว่า! นั่งเรียนยังไม่ถึงชั่วโมงภามก็เดินออกมาตามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ เพราะเขาเห็นอาจารย์ที่มาสอนวาโยวันนี้ไม่ใช่คนเดิม"โย ลูกร้องหิวนม เข้าไปดูลูกในห้องหน่อย" "ตอนนี้เลยหรอ แต่ฉันยังเรียนไม่จบครอสเลยนะ" ปกติภามไม่เคยปล่อยให้ลูกร้องนี่นา นมก็ปั๊มไว้ให้ตั้งเยอะมาบอกว่าลูกร้องหิวนมได้ยังไง ไม่ใช่ว่าวาโยไม่เป็นห่วงลูกนะ แต่ปัญหาแค่นี้เธอเชื่อว่าภามจัดการได้สบายอยู่แล้ว"นมที่ปั๊มแช่ไว้ในตู้เย็นละลายไม่ทัน""อ๋อ โอเค..." ที่แท้ก็นมละลายไม่ทันนี่เอง วาโยเลยละสายตาจากภามหันกลับมามองอาจารย์ก่อนจะพูดต่อ "งั้นเดี๋ยวโยขอเข้าไป
หลังจากที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันเรื่องสินสอดเรียบร้อยแล้วก็พากันกลับบ้านไปดูฤกษ์ วาโยเลยขอกลับมาอยู่คอนโดก่อน รอจนกว่าจะแต่งงานแล้วค่อยย้ายไปอยู่เพนท์เฮาส์ที่ภามซื้อให้ และเธอมองว่ามันไม่ใช่ของเธอแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นเรือนหอของเราสองคนต่างหาก'โยจำคำแม่ไว้นะลูก... ผู้ชายร้อยทั้งร้อยแพ้ผู้หญิงขี้อ้อน หมั่นเอาใจลูกเขยแม่ให้มากๆ อย่าปล่อยให้ผู้ชายดีๆแบบภามหลุดมือไปเด็ดขาด'วาโยหวนนึกถึงคำพูดของแม่แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ฮึบ!เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน อ้อนแฟนตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักหน่อย พอคิดได้ดังนั้นวาโยก็เดินมาหาภามที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งบนตักของแฟนหนุ่มจนเขาต้องวางไอแพดในมือลงข้างตัวแล้วยกมือมาโอบเอวเธอไว้แทน"แกดูอะไรอยู่หรอ" "ดูแพ็คเกจคลอดลูก กินข้าวอิ่มแล้วหรือไง" ความจริงทั้งคู่กินข้าวด้วยกันไปแล้วรอบนึง แต่ผ่านมายังไม่ถึงชั่วโมงวาโยก็ร้องหิวอีก ภามเลยทำให้กินอีกรอบ ส่วนตัวเขาก็มานั่งดูโปรแกรมคลอดลูกรอเธอไปพลางๆ"อิ่มแล้ว..." "แล้วทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก""รอแฟนไปอาบให้""ฮึ?""ก็ช่วงนี้ฉันหน้ามืดบ่อยๆ กลัวตัวเองจะเป็นลมในห้องน้ำ แกอาบให้ฉันหน่อ
"อย่าเพิ่งเป็นลม เพราะยังไม่หมดแค่นั้น""ยังมีอีกหรอ!?" แค่นี้เธอก็จะเป็นลมอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรที่เซอร์ไพรส์มากกว่านี้อีกมีหวังได้วูบไปจริงๆแน่"...." ภามที่ยืนช้อนหลังวาโยอยู่ในตอนนี้สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีออกมาใช้ ก่อนจะสอดมือล้วงกระเป๋าหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมายื่นไปด้านหน้าของวาโยแล้วเปิดกล่องดังป๊อก! โชว์แหวนเพชรน้ำดีด้านในให้คนตัวเล็กที่ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ได้เห็น"อะ อะไรของแกเนี่ยO_O" "แต่งงานกันนะโย..." วาโยมองแหวนเพชรเม็ดโตในกล่องที่มีความเปล่งประกายวิบวับสวยงามเล่นกับแสงไฟภายในห้องอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ถึงจะแอบหวังให้เขาขอแต่งงานแต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆทำให้เธอตั้งตัวรับไม่ทัน เธอมองแหวนในกล่องอีกครั้งก่อนที่ภาพจะตัดไปราวกับมีคนมาสับสวิตซ์ พรึ่บ! "เห้ย! โย ทุกคน! เมียผมเป็นลม" ภามรีบย่อตัวลงอุ้มคนตัวเล็กที่หมดสติขึ้นทันที แล้วภาพก็ตัดมาทางฝั่งของอาโป... "จะปล่อยฉันไปได้รึยัง" นี่เป็นคำถามที่ร้อยของวันนี้ที่นิเนยเอ่ยถามอาโป เขาเล่นขังเธอไว้ในห้องกับเขาตั้งแต่จับตัวเธอมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวเธอไป"จะให้ผมปล่อยป
อึก! อ้วก~"โย!" ภามลืมตาตื่นจากฝันดียังไม่ทันถึงเสี้ยววิ ก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงวิ่งตรงไปหาเสียงโอ้กอ้ากในห้องน้ำทันที พอเข้ามาถึงเขาก็เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปช่วยลูบหลังให้วาโยที่นั่งกอดโถส้วมอ้วกอยู่อย่างหมดสภาพด้วยความเป็นห่วง "ไหวมั้ย""ฉันไหว อ้วก~" วาโยชูนิ้วโอเคตอบกลับมาทั้งที่ยังก้มหน้าอ้วกไม่หยุด"ตัวแสบทำไมแกล้งแม่แต่เช้าเลย ถ้าคลอดออกมาเมื่อไหร่พ่อจะตีให้" มาโหมดดุลูกซะแล้วเมื่อเห็นเมียอ้วกจนเหนื่อย"ดุแค่ฉันก็พอ เว้นลูกไว้คนนึง" วาโยอ้วกเสร็จก็หันมายิ้มหวานให้ภาม เชิงบอกเป็นนัยๆว่าแค่นี้เองสบายมาก "หึ ลูกคงดื้อเหมือนแม่สินะ" พูดจบภามก็ช้อนตัวอุ้มวาโยมานั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัวใส่มือแล้วเอามาลูบหน้าให้วาโย แต่ทว่า! สายตาเขาดันเกเรไม่ได้มองแค่หน้าสวยๆของเธอ แต่ดันมองต่ำลงไปกว่านั้นอีก...เนินหน้าอกขาวๆที่ล้นออกมาจากชุดนอนสุดวาบหวิวที่เธอแอบลุกขึ้นไปใส่มาเมื่อคืน มันชวนมองซะจนภามลอบกลืนน้ำลายลงคอดัง อึก!ยิ่งเปียกน้ำยิ่งเห็นไปถึงไหนต่อไหน... "จะมองอีกนานไหม" เสียงหวานเอ่ยขึ้นทำให้ภามเลื่อนสายตากลับมามองหน้าเธอก่อนจะเอื้อมมือไปปิดน้ำแล้วเก็บฝักบัวเข้าที่ "
พอมาถึงโรงพยาบาลภามก็ขอรถเข็นมาให้ฉันนั่งแล้วเข็นฉันเข้าห้องตรวจ แต่พอเจอหมอผู้ชายก็บอกว่าไม่สะดวกใจเลยต้องเปลี่ยนมาเป็นหมอผู้หญิงแทน และคิดว่าเรื่องจะจบ แต่ไม่เลย ภามไม่ยอมให้อัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอดบอกว่ากลัวโดนหัวลูก ให้ตายเถอะ! หมอเลยต้องอธิบายหลักการทั้งหมดที่มีให้คุณพ่อมือใหม่ได้ฟังกว่าจะยอมได้หมอถึงกับยกมือกุมขมับ... ผลตรวจเลือดออกมาว่าฉันท้องจริงๆ และอัลตร้าซาวด์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ลูกในท้องยังเล็กมากขนาดเท่ากับเมล็ดถั่ว อายุครรภ์แค่ 6 สัปดาห์ถือว่าโตตามเกณฑ์ พอหมอบอกว่าแข็งแรงทั้งแม่และลูก เท่านั้นแหละ! ผู้เป็นพ่อก็ยิ้มออกมาไม่หุบ ดีใจยิ่งกว่าฉันที่เป็นแม่เสียอีกหาหมอเสร็จภามก็พาฉันไปช็อปปิ้งต่อ ขนาดท้องฉันแบนราบจนแทบจะมองไม่ออกด้วยซ้ำแต่เขาก็ยังซื้อชุดคลุมท้องให้ บอกว่าในอนาคตก็ต้องใช้ ตอนแรกจะซื้อของลูกมาด้วยนะ ฉันเลยห้ามไว้ก่อนบอกเขาว่ารอรู้เพศก่อนค่อยซื้อก็ได้ พอกลับมาถึงคอนโดก็ยังไม่วายนั่งดูรูปอัลตร้าซาวด์แล้วยิ้มอยู่คนเดียวไม่ค่อยจะเห่อเท่าไหร่เลย...อ๋อ! ยังมีอีกเรื่องที่หมอย้ำ คือช่วงนี้ให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนจนกว่าอายุครรภ์จะครบ 3 เดือนขึ








