“คุณดาครับ ผมดูรายงานล่าสุดที่คุณส่งมาแล้ว ผมคิดว่ามันผิดไปจากที่เราคุยกันไว้นี่ครับ”
ธามขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่สบอารมณ์ แผนงานขั้นแรกที่คุยกันไว้ก่อนหน้านั้นเขาโอเคแล้ว เพราะสเปกโครงสร้างของสวนน้ำดูแล้วปลอดภัยกับผู้มาใช้บริการ แต่แผนงานล่าสุดที่บริษัทของกนกลดาปรับแก้มาให้ดูนั้นลดสเปกหลายอย่างลง ทำให้เขาไม่พอใจมาก
“ผมเข้าใจครับว่าทางคุณต้องการลดค่าใช้จ่าย แต่แบบนี้มันมากเกินไป ที่เราจะสร้างคือสวนน้ำในโรงแรมนะครับ ถ้าความปลอดภัยมีไม่มากพอ หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นจะทำยังไง”
ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปมาในห้องเพื่อฟังปลายสายพูดโต้ตอบกลับมา แต่คงไม่ใช่คำตอบที่เขาอยากฟังเท่าไรนัก สีหน้าจึงย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม
“ต่อให้มีคนใช้บริการแค่คนเดียว เราก็ต้องทำให้มันได้มาตรฐานครับ ผมไม่ต้องการเอาชื่อเสียงของโรงแรมผมไปเสี่ยง” เขาหยุดยืนแล้วมองถนนหนทางด้านนอกโรงแรม มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาทุบหน้าผากตัวเองเบา ๆ ราวกับต้องการบอกให้ตนใจเย็นลง
“เอาเป็นว่าผมไม่โอเคเลยครับ คุณจะให้ผมเข้าไปคุยที่บริษัทก็ได้นะ แต่ต้องเรียกบริษัทรับเหมามาคุยกันด้วย ผมจะพาวิศวกรทางฝั่งของผมเข้าไป” เขาเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง
“โอเคครับ คุณดาสะดวกเมื่อไรก็โทร. แจ้งผมละกัน ผมจะได้นัดกับคนของผม สวัสดีครับ”
หลังจากวางสายแล้ว ธามก็นั่งลงบนเก้าอี้พลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาส่ายหน้าไปมาช้า ๆ เมื่อมองแผนงานที่ทางบริษัทของกนกลดาเสนอมาครั้งล่าสุด
“พวกทีมบริหารบ้าบอนี่ ไม่น่าดึงบริษัทนี้มาเอี่ยวด้วยเลย”
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของทางกนกลดานั้น มีข้อพิพาทกับทางลูกค้าบ่อยเกี่ยวกับบ้านและคอนโดฯ ที่ไม่ได้คุณภาพ สาเหตุเพราะการปรับลดต้นทุนมากเกินไปจนทำให้หลายโครงการเกิดความเสียหายหลังจากที่ลูกบ้านเข้าอยู่อาศัยได้ไม่ถึงปี และทุกวันนี้ก็ยังมีคดีฟ้องร้องระหว่างลูกบ้านกับบริษัทเจ้าของโครงการอีกหลายคดีด้วย
ยังไม่ทันได้เริ่มสร้างก็มีกลิ่นทะแม่งเสียแล้ว
เสียงเคาะประตูสามครั้งอย่างเป็นจังหวะทำให้ธามเงยหน้าขึ้นมองไปทางประตูทันทีเพราะรู้ดีว่าใครมาเคาะ เมื่อวานเขาไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิศเนื่องจากต้องไปคุยธุระสำคัญกับทีมวิศวกรที่เขาอยากให้มาตรวจสอบแปลนโครงสร้างโรงแรมและสวนน้ำแห่งใหม่ จึงไม่เห็นหน้าพลอยพัดชามาตลอดสองวัน เพราะวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุด เขาไม่ได้มาทำงาน ถ้าเดาไม่ผิดเมื่อวานหญิงสาวก็คงมาหาเขาเช่นเคยกระมัง แต่ดูเหมือนวันนี้เธอจะมาไม่ถูกจังหวะเสียแล้ว เพราะเขาอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก
หลังจากเขาอนุญาตแล้วประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มของพลอยพัดชาเช่นเคย
“ไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกันไหมคะพี่ธาม” น้ำเสียงของเธอดีขึ้นกว่าวันนั้นมากนัก แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่มีอารมณ์ต่อล้อต่อเถียงกับเธออยู่ดี
“ไม่ไป ตอนนี้พี่กำลังยุ่งอยู่ เธอไปคนเดียวเถอะ” เขามีเรื่องที่ต้องให้คิดมากมาย และตอนนี้เขาก็อยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ มากกว่า
“พี่ก็ยุ่งทุกวันที่พลอยมาหานั่นแหละ” เธอยืนกอดอกแล้วเบ้ปากใส่ ซึ่งเขาเห็นแล้วทำให้ต่อมความสุขุมของเขาถูกตีแตกไปทันที
“รู้ไว้ก็ดี พี่มีงานต้องทำนะพลอย ไม่ได้ว่างลอยไปลอยมาแบบเธอน่ะ”
เขาขึ้นเสียงใส่เธออย่างอดไม่อยู่ พลอยพัดชาเอามือลงแล้วยืนตัวตรงทันที ตาจ้องเขาเขม็งอย่างไม่พอใจ และเริ่มเสียงดังใส่เขากลับมาเช่นกัน
“แล้วพี่คิดว่าพลอยว่างงานหรือไง ทุกวันนี้ที่พลอยมาทำงานพี่คิดว่าพลอยทำตัวลอยไปลอยมาหรือ พลอยก็มีงานทำเหมือนกันนะ แต่ก็ยังอุตส่าห์เจียดเวลามาชวนพี่กินข้าว”
ธามผ่อนลมหายใจออกมาช้า ๆ เพื่อระงับอารมณ์ไม่ให้เดือดจัดไปยิ่งกว่านี้ เพราะตอนคุยกับกนกลดาเขาก็ต้องควบคุมอารมณ์ไม่ให้ตวาดใส่อีกฝ่ายแล้ว นี่ยังต้องมารับมือกับอารมณ์เหวี่ยงวีนของพลอยพัดชาอีก
“เธอจะไปไหนก็ไปเถอะพลอย อย่าเพิ่งมาวุ่นวายกับพี่ตอนนี้”
เขาโบกมือไล่หญิงสาวพลางยกมือขึ้นกุมศีรษะแล้วหลับตา แต่ก็ต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของเธอพูดขึ้นว่า
“พลอยมันงี่เง่าน่ารำคาญมากเลยใช่ไหม ก็ได้! ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปพลอยจะไม่มาให้พี่เห็นหน้าอีกเลย จะไม่มายุ่งวุ่นวายให้พี่ต้องรำคาญอีกแล้ว”
เธอพูดจบก็ปิดประตูเสียงดังลั่น จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกระแทกประตูมาอีกหนึ่งที ซึ่งเดาว่าหญิงสาวคงยกเท้าถีบประตูห้องทำงานของเขาเป็นแน่ เพราะคนที่กล้าทำอย่างนี้นอกจากธีรนาฏ น้องสาวของเขาแล้วก็มีแต่พลอยพัดชาเพียงคนเดียว
“เฮ้อ...”
พลอยพัดชาเดินกระฟัดกระเฟียดกลับร้านของตน เมื่อถึงร้านก็จัดการสั่งพิซซ่าถาดใหญ่มากินร่วมกับพนักงานทุกคนถึงสองถาดพร้อมกับไก่ทอดและเครื่องเคียงอีกหลายอย่าง ลำพังแค่พิซซ่าเธอก็กินคนเดียวถึงสี่ชิ้นแล้ว ไม่นับรวมไก่ทอดและขนมปัง หญิงสาวกินราวกับต้องการประชดคนที่ทำให้อารมณ์เสียอย่างไรอย่างนั้น
ในช่วงบ่าย ขณะที่พลอยพัดชากำลังตรวจเช็กสินค้าใหม่ที่เพิ่งเข้าร้านมาเมื่อวานว่าตรงตามเอกสารหรือไม่ หญิงสาวก็ต้องต้อนรับลูกค้ารายหนึ่งซึ่งเป็นชายหนุ่มที่เธอเคยรู้จักเป็นอย่างดี
“สวัสดีครับน้องพลอย” รพีพัฒน์คลี่ยิ้มอ่อนโยน พลางยืนเอามือล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย
“สวัสดีค่ะ” พลอยพัดชาคาดไม่ถึงว่าแฟนเก่าอย่างรพีพัฒน์จะมาหาเธอถึงที่ร้านได้
“โชคดีจังที่วันนี้มาแล้วเจอน้องพลอยอยู่ร้านพอดี คืออย่างนี้ พี่อยากจะซื้อเครื่องประดับให้คุณแม่สักชุดน่ะครับ วันเสาร์ที่จะถึงนี้เป็นวันเกิดท่านน่ะ” เขายังคงยิ้มอยู่เช่นเคยพลางมองไปรอบร้าน
“พอนึกถึงเครื่องประดับพี่ก็เลยคิดถึงน้องพลอยเป็นคนแรกเลย” คำว่าคิดถึงน้องพลอย ชายหนุ่มเว้นระยะการพูดราวกับจงใจเน้นสี่คำนี้เป็นพิเศษ
“ยินดีแนะนำค่ะ ไม่ทราบว่าคุณแม่พี่พัฒน์เกิดวันอะไรคะ” หญิงสาวยิ้มหวานกลับไปให้รพีพัฒน์ และต้อนรับเขาไม่ต่างจากลูกค้าคนหนึ่ง
“คุณแม่ของพี่เกิดวันอาทิตย์น่ะ มีพลอยชนิดไหนแนะนำบ้างไหมครับ” ชายหนุ่มเท้าแขนไว้บนตู้เคาน์เตอร์พลางมองสินค้าในนั้นด้วยความสนใจ
“ตู้นี้เป็นเครื่องเงินค่ะ พี่พัฒน์อยากซื้อให้คุณแม่เป็นทองหรือเป็นเงินคะ ถ้าสนใจทองจะอยู่ตู้นั้นค่ะ”
พลอยพัดชาเดินออกจากด้านหลังตู้เครื่องเงินทันที เพราะเธอรู้ดีว่าคนระดับรพีพัฒน์นั้นคงไม่ซื้อเครื่องประดับที่เป็นเงินให้มารดาแน่นอน
“ทองของที่ร้านก็จะมีตั้งแต่เก้าเค สิบสี่เค สิบแปดเค และทองเก้าสิบค่ะ แล้วก็มีทั้งเยลโลโกลด์ พิงค์โกลด์ และแพลตินัมหรือทองคำขาว”
พลอยพัดชาหยิบเครื่องประดับที่เป็นเซตออกมาจากตู้โชว์ ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดที่มีราคาแพงที่สุดของร้าน
“เป็นทองเคงั้นหรือ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย หญิงสาวจึงรู้ทันทีว่าเขาคงมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับทองเคเป็นแน่ จึงอธิบายให้เขาฟัง
“ทองเคก็คือทองแท้เหมือนกันค่ะพี่พัฒน์ ไม่ใช่ทองปลอมนะเพราะตัว K น่ะย่อมาจากคำว่า Karat เพียงแต่มันจะแตกต่างกันตรงเปอร์เซ็นต์ของทองที่ผสมอยู่ เช่น 9K จะมีทองผสมอยู่สามสิบเจ็ดจุดห้าเปอร์เซ็นต์ 14K จะมีทองประมาณห้าสิบแปดเปอร์เซ็นต์ 18K จะมีทองเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ และ 20K ก็คือทองเก้าสิบ ซึ่งร้านจิวเวลรี่ทุกร้านไม่ว่าจะแบรนด์หรือไม่แบรนด์ก็จะใช้ทอง18K หรือทองเก้าสิบกันทั้งนั้นค่ะ”
“พลอย” เขาเรียกเธอเสียงพร่า หญิงสาวจึงแกล้งละเลงลิ้นลงบนกล้วยอีกครั้งพลางตอบรับเบา ๆ“ขา พี่อยากทำงานก็ทำไปสิคะ พลอยก็แค่...หิว”พูดจบเธอก็ส่งกล้วยเข้าปากไปอีกครั้ง และเช่นเคยที่เธอไม่ยอมกัดกินมัน แต่กลับเอาออกมาแล้วส่งเข้าไปใหม่อีกสองสามครั้ง จนในที่สุดธามก็พับหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงเพื่อปิดเครื่อง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“อุ๊ย!” สายตาของพลอยพัดชาหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงเขาทันที เพราะตอนนี้มันเป็นรูปเป็นร่างจนเห็นเด่นชัด“ตื่นแล้วอะ ทำยังไงดีน้า” หญิงสาวใช้นิ้วชี้ลากเบา ๆ ไปตามรอยที่นูนขึ้นมาอย่างยั่วเย้า“ยั่วเก่งดีนักนะ แล้วอย่ามาบ่นละกันว่าปวดขาปวดเอว”เขาพูดจบก็คว้าสูทมาพาดไว้ที่แขนเพื่อเป็นการบังเป้ากางเกงไปด้วย มืออีกข้างก็โอบเอวภรรยาจอมยั่วพลางกระซิบว่า“กล้วยนี้มันไม่อร่อยหรอก ขึ้นไปกินกล้วยกับพี่บนห้องดีกว่า อร่อยกว่าเยอะแถมกินได้ไม่อั้น”พลอยพัดชายิ้มกริ่มพลางทิ้งกล้วยหอมนั้นลงถังขยะทันที จากนั้นก็เดินตามสามีออกจากห้องทำงานแล้วขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุ
สองปีต่อมาพลอยพัดชามองเงาตัวเองในกระจกแล้วอดยิ้มไม่ได้ ตอนนี้พุงของเธอป่องมากราวกับลูกโป่งใบใหญ่ เธอตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว อีกไม่นานก็จะได้เจอหน้าสาวน้อยที่อยู่ในพุง หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นเสียจนแทบนับวันถอยหลังรอแต่คนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อ เพราะตั้งแต่รู้ว่าเด็กในครรภ์เป็นลูกสาว ธามก็ลงทุนจัดห้องไว้รอรับด้วยตัวเอง ตั้งแต่ทาสีผนังเป็นสีชมพูอ่อน ซื้อเตียงและเปลเจ้าหญิงเอาไว้รอ รวมถึงเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นสีชมพูและไม่ใช่แค่ธามเท่านั้นที่เตรียมห้องไว้รอบุตรสาวคนแรก จินตวาตีก็เช่นกันที่จัดเตรียมห้องไว้รอต้อนรับหลานสาวคนแรกที่จะได้เรียกตนว่าคุณยายหญิงสาวหยิบโลชั่นสำหรับกันรอยแตกลายมาทาเบา ๆ ที่หน้าท้อง เพราะแม้จะใกล้ได้เป็นคุณแม่แล้ว แต่ร่างกายส่วนอื่นของพลอยพัดชาก็ยังคงสภาพเดิม มีเพียงหน้าอกเท่านั้นที่ขยายใหญ่ขึ้นมาอีกเล็กน้อยเพื่อเป็นแหล่งอาหารของเจ้าตัวเล็กในครรภ์ทว่าตอนนี้คนที่ดูจะคลั่งไคล้กับหน้าอกที่ขยายใหญ่ขึ้นของเธอเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นสามีของเธออ้อมกอดอบอุ่นจากด้านหล
พลอยพัดชากับนลินทรายืนมองผืนน้ำสีเขียวมรกตด้วยแววตาระยิบระยับ นานมากแล้วที่ไม่ได้มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เพราะฉะนั้นมาทะเลครั้งนี้พวกเธอจะต้องเก็บเกี่ยวความสุขเอาไว้เติมพลังชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้“พี่ธามไปไหนน่ะ” นลินทราถามถึงแฟนหนุ่มของเพื่อน“ไม่รู้สิ เห็นมีโทรศัพท์มาเมื่อกี้แล้วก็เดินไปคุยที่อื่นน่ะ” พลอยพัดชาตอบก่อนจะหันไปโบกมือให้จินตวาตีที่กำลังนั่งทาครีมกันแดดอยู่ในที่ร่ม“น้าจินนี่เอาชุดว่ายน้ำกับพร็อพมาเพียบเลยแก ทั้งหมวกเอย ผ้าคลุมเอย คือนางไม่ได้จะมาเล่นน้ำหรอก แต่จะมาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เห็นบอกว่าจะเก็บไว้ดูตอนแก่” พลอยพัดชาได้ที จึงแอบเม้าท์ผู้เป็นน้า“ว่าแต่น้าจินนี่ ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะยะ มาเที่ยวแค่สี่วันแต่กระเป๋าเดินทางตั้งสองใบ อีบ้า ทำอย่างกับจะมาอยู่เป็นเดือน” นลินทราค้อนให้เพื่อน พลอยพัดชาจึงได้แต่หัวเราะคิกคักทั้งสองสาวเห็นว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาที่ชายหาดกันบ้างแล้วจึงหันไปมองหน้ากัน“ฉันว่าเราไป
“เจ้าค่า...คราวนี้ก็ออกกันยกแผงเลยสิคะ”“ใช่ ตอนนี้ให้ฝ่ายบุคคลของส่วนกลางประกาศรับพนักงานใหม่แล้ว ส่วนคนที่จะไปแทนตำแหน่งของพิษณุกับโชคชัยนั้น พี่ว่าจะลองคุยกับคุณพ่อดูว่าจะคัดเลือกคนเก่ง ๆ ของที่นี่ไปประจำอยู่สาขานั้นดีไหม ถือเป็นการเลื่อนตำแหน่งไปในตัว แล้วพลอยล่ะเป็นไงมั่ง”“ตอนนี้ที่ร้านได้พนักงานใหม่มาเพิ่มแล้วค่ะ หน่วยก้านดีใช้ได้ ไลฟ์สดเก่งด้วยเพราะเขาเคยไลฟ์ขายเสื้อผ้ามาก่อนก็เลยคล่องมากตอนอยู่หน้าจอ ส่วนน้าจินนี่อาการดีขึ้นมากแล้ว เริ่มให้พวกพี่เลี้ยงที่ดูแลศิลปินเข้าไปคุยเรื่องงานโดยตรงในห้องพักได้แล้วค่ะ เพราะจะได้ช่วยฟื้นความจำด้วย”“พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงไอ้ก้าว ตอนนี้ฝากขังไว้ที่เรือนจำแล้วละ รอศาลตัดสินโทษ แต่คิดว่าคงติดคุกไม่นานหรอก ไม่กี่ปี แต่เรื่องของเพื่อนพลอยนี่สิ กว่าคดีจะเสร็จสิ้นคงอีกนานเลย น่าจะเป็นปี”พลอยพัดชาได้ยินอย่างนั้นก็รู้ทันทีว่าเขาหมายถึงกนกลดา“ว้าย อย่ามาพูดอย่างนี้นะ นางไม่ใช่เพื่อนพลอยสักหน่อย แค่คนรู้จักยังไม่อยากจะเป็นเลย เท่ากับว่าตอนนี้นางกับพ่อก็ยัง
พลอยพัดชาตื่นขึ้นมาช่วงสายเพียงลำพังบนเตียงนอนหลังใหญ่ ไม่รู้ธามไปไหน แต่เดาว่าเขาคงลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสของโรงแรมตามเคยหญิงสาวพาร่างที่เมื่อยขบของตนไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ครึ่งชั่วโมงถัดมาเธอก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยความสดชื่น แต่แล้วสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่กล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องใหญ่บนเตียง ดูแล้วเหมือนกล่องใส่เครื่องประดับที่สามารถใส่ได้หลายชิ้นทั้งแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล และต่างหู“หรือว่าจะเป็นกล่องใส่นาฬิกาของพี่ธาม” เธอรู้ว่าธามเป็นคนที่ชอบสะสมนาฬิกา ก็เลยคิดว่าเขาคงหยิบมาเลือกใส่จึงไม่ได้สนใจมันอีก จากนั้นก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดของตนออกมาสวม“จะไม่เปิดดูหน่อยหรือ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากหน้าประตูห้องนอน หญิงสาวจึงหันไปมองตามเสียง ธามยืนเปลือยท่อนบน ใส่เพียงกางเกงลำลองอยู่บ้านสบาย ๆ กำลังยืนกอดอกและส่งยิ้มมาให้“กล่องนาฬิกาของพี่ธามรึเปล่าล่ะคะ”“ไม่ใช่ กล่องนั้นของพลอยทั้งกล่องเลย”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ถามจริง”เธอแขวนชุดไว
“เม็ดสีเหลืองคือพลอยปลอม วิธีสังเกตอย่างง่ายเลยก็คือให้ดูประกายของมันเวลาส่องกับแสง ถ้ามีประกายรุ้งคือปลอมชัวร์ เป็นพลอยที่สังเคราะห์ขึ้นมา และอีกวิธีที่สังเกตด้วยตาเปล่าได้ก็คือให้ดูที่เส้นของพลอย พลอยบางเม็ดมันจะมีเส้นตรงเรียง ๆ กันเป็นแถบให้เห็นกันเลย แต่บางเม็ดเราก็อาจจะต้องใช้ลูปหรือกล้องส่องพระขยายดูข้างในว่ามันมีเส้น ๆ พวกนี้ไหม จำไว้ว่าต้องเป็นเส้นตรงเท่านั้น ถ้ามีเส้นโค้งให้เห็นนั่นคือปลอม และถ้าใช้ลูปส่องดูแล้วมีฟองอากาศหรือรูปร่างกลม ๆ เหมือนโดนัทกระจายอยู่ นั่นก็ปลอมเหมือนกัน” พลอยพัดชาลองให้วนิตาใช้ลูปส่องพลอยดูด้วยตัวเอง“เส้นหรือแถบสีในเนื้อพลอยมันก็เหมือนลายนิ้วมือของคนเรานั่นแหละ แต่ละเม็ดก็จะแตกต่างกันไป ไม่มีเม็ดไหนที่เหมือนกันหรอก”พลอยพัดชาอธิบายพลางเดินไปหยิบถ้วยสีขาวในตู้มารองน้ำแล้วกลับมานั่งที่เดิม“และอีกวิธีที่ง่ายในการดูด้วยตาเปล่าก็คือการจุ่มน้ำ” เธอหยิบพลอยเม็ดสีเขียวมาจุ่มลงไปในน้ำแล้วถามว่า“นิตาเห็นอะไรไหม”“เห็นค่ะ มันเป็นแถบสีเป็นเส้น ๆ” วนิตาตอบ&