พีรกันต์นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถคันหรู ตาคมมองตัวเลขสิบหลักที่ได้มาจากผู้ช่วยพยาบาลเมื่อครู่จากนั้นก็บันทึกตัวเลขลงในโทรศัพท์ก่อนจะกดโทรออก
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับเนย คุณกำลังอะไรอยู่”
“ขอโทษนะคะคุณเป็นใครคะ”
“เพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมงก็ลืมแล้วเหรอ”
“ถ้าไม่บอกว่าตัวเองเป็นใครฉันจะวางสายแล้วนะคะ”
“ผมชื่อกันต์ เราเจอกันในผับครั้งหนึ่งแล้วก็เมื่อกลางวันที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่งคุณจำเสียงผมไม่ได้เหรอ”
“วันหนึ่งฉันคุยกับคนเยอะแยะไปหมดฉันจะจำได้ยังไง”
“จำไม่ได้หรือแกล้งลืมกันแน่ล่ะครับ”
“ฉันจะทำแบบนั้นไปทำไมกัน”
“ก็เพราะคุณกลัวที่จะต้องไปทานข้าวกับผม คุณเลยรีบกลับโดยไม่รอเจอผม”
“ฉันไม่กลัวแล้วก็ไม่หนีแต่ฉันเลิกงานแล้วจะให้ฉันอยู่รอคุณทำไม”
“แล้วทำไมไม่บอกผมว่าวันนี้เลิกงานเวลาไหน”
“คุณถามฉันเหรอคะ” หญิงสาวย้อนถาม
“ผมผิดเองที่ไม่ถามให้ดีก่อน แต่ช่างมันเถอะที่ผมโทรหาเพราะอยากถามว่าเรื่องกินข้าวของเราคุณจะเอายังไง”
“เอาไว้วันอื่นได้ไหมล่ะ”
“วันนี้ไม่ได้เหรอครับ”
“กลัวฉันเบี้ยวเหรอคะ”
“ใช่ครับ”
“คุณนี่ดูจริงจังกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเหมือนกันนะคะ ถ้าจะให้ฉันเลี้ยงข้าวก็อย่ากินแพงมากก็แล้วกันฉันเงินเดือนน้อย”
“ผมกินง่ายอยู่แล้วคุณจะไปกินที่ไหนบอกมาเลยเดี๋ยวผมไปรับ”
“ไม่ต้องมารับให้เสียเวลาหรอกค่ะ ร้านที่ฉันจะพาคุณไปกินอยู่หน้าโรงพยาบาลอีก 20 นาทีเจอกันที่ร้านป้าแอ๋วนะคะ ร้านหาไม่อยากเลย อย่ามาช้านะคะเพราะถ้าคุณไม่มาตามเวลานัดฉันจะถือว่าฉันได้ทำตามสัญญาแล้ว” หญิงสาวคิดว่าเวลาแค่นี้เขาไม่น่าจะมาทันเพราะหน้าโรงพยาบาลมีร้านอาหารตามสั่งอยู่หลายร้านและร้านป้าแอ๋วที่เธอบอกเขาก็เป็นร้านเล็กๆ และไม่มีป้ายชื่อบอกถ้าขาจะเดินถามก็คงเสียเวลามากไหนจะต้องหาที่จอดรถหน้าโรงพยาบาลอีก ยังไงเขาก็คงมาไม่ทัน
“ได้สิผมจะไปรอคุณที่ร้านป้าแอ๋วนะ คุณจะกินอะไรให้ผมสั่งไว้รอเลยดีไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไปถึงฉันค่อยสั่งก็ได้ตอนนี้นาฬิกาของฉันเริ่มจับเวลาแล้วนะคะ”
“แล้วเจอกันนะเนย” เขาเรียกด้วยความสนิทสนมก่อนจะวางสาย
พีรกันต์เคยมาเป็นแพทย์ฝึกหัดอยู่ที่นี่เขาเลยรู้ว่าร้านป้าแอ๋วที่หญิงสาวพูดถึงนั้นอยู่ที่ไหน และถ้าเอารถไปก็คงหาที่จอดยาก ชายหนุ่มเลยจอดรถในโรงพยาบาลและเดินออกไปแทนที่จะขับรถไปจอด
เขาใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็เดินมาถึงร้านป้าแอ๋วแต่คนที่นัดไว้กลับยังมาไม่ถึง พีรกันต์คิดว่าเธอน่าจะหลอกให้เขามาเก้อจึงคิดจะโทรศัพท์ไปบอกแต่อีกฝ่ายก็ไม่รับสาย เขาชะเง้อมองไปทางหน้าร้านแล้วยิ้มกว้างเมื่อเห็นรัญรวีกำลังเดินข้ามทางม้าลายมา
วันนี้หญิงสาวแต่งกายไม่เหมือนกับที่เจอครั้งแรกเธอสวมกระโปรงผ้าพลิ้วสีครีมยาวคลุมเขาส่วนเสื้อก็เป็นเสื้อแขนตุ๊กตาพอดีตัวพีรกันต์ชอบแบบนี้มากกว่าชุดสาวเดี๋ยวอีกร้อยเท่าเพราะเขาเป็นคนชอบผู้หญิงสไตล์นี้อยู่แล้ว
“ผมนึกว่าคุณจะเบี้ยว นั่งก่อนสิครับ”
“คุณมาก่อนเวลานี่คะ” รัญรวีแปลกใจที่เขามาทันและยังมาถูกร้านอีกด้วย ตอนที่เขาโทรศัพท์เข้ามาเมื่อครู่เธอตั้งใจไม่รับสายเพราะคิดว่าเขาจะโทรถามว่าร้านป้าแอ๋วอยู่ที่ไหนแต่พอเห็นว่าเขานั่งรออยู่ก่อนแล้วเธอก็ต้องยอมมาเลี้ยงข้าวตามที่ตกลงกันไว้
“พอดีผมยังอยู่แถวนี้ก็เลยมาก่อน”
“จะกินอะไรล่ะ สั่งหรือยังคะ”
“ผมหิวมากก็เลยสั่งไปแล้วคงไม่ว่ากันนะครับ คุณจะกินอะไรเดี๋ยวผมเดินไปสั่งให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปสั่งเองได้คุณจะเอาน้ำอะไรไหมข้างร้านมีน้ำผลไม้ปั่น”
“ผมขอเดินไปสั่งเองดีกว่าจะดูด้วยว่ามีอะไรบ้างแล้วคุณจะเอาน้ำอะไรครับ”
“ขอแคนตาลูปนมสดค่ะ อย่าเพิ่งจ่ายตังนะคะ”
“คุณจะเลี้ยงน้ำผมด้วยเหรอ”
“กินข้าวก็ต้องกินน้ำค่ะ เลี้ยงข้าวกับน้ำคุณแค่นี้ฉันคงไม่จนลงหรอก”
“ขอบคุณครับคุณนี่สวยแล้วยังใจดีอีกนะ” คนชมเดินไปยังร้านน้ำผลไม้ปั้นแล้วแต่คนถูกชมยังยืนอยู่ที่เดิมกว่าจะก้าวขาไปสั่งข้าวก็ผ่านไปหลายวินาทีเพราะไม่ชินที่มีใครชมต่อหน้าแบบนี้
“คุณทำงานที่นี่นานหรือยังครับ” พีรกันต์ชวนคุยระหว่างทานอาหารเพราะอยากทำความรู้จักหญิงสาวให้มากขึ้น
“ก็ตั้งแต่เรียนจบค่ะ”
“ใช้ทุนเหรอครับ”
“ค่ะ” เธอเงยหน้ามองและนึกแปลกใจที่เขารู้เรื่องทุนของนักเรียนพยาบาล
“ผมเห็นพยาบาลจบใหม่บางคนเอาเงินส่วนตัวใช้ทุนแล้วไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชน”
“ค่ะบางคนก็เลือกแบบนั้น”
“คุณล่ะไม่คิดจะทำบ้างเหรอ” เขาอยากชวนเธอไปทำงานที่โรงพยาบาลของเขาเพราะอยากจะได้เจอเธอให้บ่อยขึ้น
“ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้ามีมากก็คงเลือกทำงานในโรงพยาบาลของรัฐมากกว่า”
“ทำไมล่ะครับ ผมว่าเดี๋ยวนี้โรงพยาบาลเอกชนหลายๆ ที่ก็มีสวัสดิการดีและถ้าทำจนเกษียณก็มีเงินก้อนให้ด้วยนะครับ”
“ค่ะ ฉันก็เคยได้ยินมาบ้างคะ แต่มันก็ไม่มีอะไรมาการันตีว่าเขาจะไม่ไล่เราออก ถ้าเกิดทำจนอายุ 40 ปี แล้วเขาเลิกจ้างขึ้นมาเพราะอยากจะเปลี่ยนมาจ้างพยาบาลสาวๆ มาทำงานล่ะคะ การตกงานตอนอายุขนาดนั้นคงเครียดน่าดูเลยค่ะ”
“มันก็จริงของคุณนะครับ” เขาไม่เคยมองมุมนี้มาก่อนเพราะเพิ่งเข้ามาทำงานแทนบิดาแบบเต็มตัวได้เพียงแค่สองปีเท่านั้น
คำพูดของรัญรวีทำให้เขาต้องกลับไปคิดว่าเวลารับสมัครพยาบาลเขาจะทำยังไงให้คนที่จะไปสมัครมั่นใจว่าตนเองจะไม่ถูกเลิกจ้าง หรือถ้าโรงพยาบาลต้องการเลิกจ้างก่อนอายุ 60 ปี เขาจะมีงานอื่นรองรับพยาบาลเหล่านี้หรือจะจ่ายเป็นเงินชดเชยเพราะที่ผ่านมาพยาบาลที่มาทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนมักจะทำกันไม่นาน บางคนก็ลาออกก่อนที่จะถึงวัยเกษียณ
“คุณจะทำหน้าเครียดทำไมคะ” เมื่อเห็นเขานิ่งแล้วคิ้วขมวดรัญรวีก็อดถามไม่ได้
“ผมคิดตามที่คุณพูดไงครับ ถ้าต้องตกงานตอนอายุมากก็คงไม่ใช่เรื่องดี”
“ฉันก็พูดไปตามที่คิดค่ะ อาจจะมองไปในแง่ลบนิดหน่อย”
“ผมว่ามันก็เป็นความจริงอย่างหนึ่งนะครับ คนเราทำงานไปนานก็คงอยากได้ความมั่นคง ผมว่าผมเข้าใจสิ่งที่คุณพูดนะ”
“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ ถ้ายังไม่อิ่มจะสั่งเพิ่มก็ได้นะคะ”
“แค่นี้ก็อิ่มมากแล้วครับ”
“ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิ คุณอุตส่าห์เลี้ยงข้าวผมแล้วผมยินดีให้คุณถามทุกอย่างเลยครับ”
“ฉันจะถามว่าเย็นนี้คุณตั้งใจมาหาฉันหรือมาเยี่ยมญาติคะ”
“ไม่ว่าเมื่อกลางวันหรือเย็นนี้ผมก็ตั้งใจมาหาคุณ”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันทำงานอยู่ที่นี่เพราะฉันแน่ใจว่าเราสองคนไม่เคยเจอกันเลย”
เกินจะทน (ตอบจบ)พีรกันต์เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะเขาเองก็เคยคิดเรื่องนี้แต่เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอลูกอีกจึงยอมปล่อยเลยตามเลย“ถ้าเขาไม่ยอมให้ตรวจมึงก็แอบตรวจสิ เป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาลเรื่องแค่นิคิดไม่ได้”“แต่มันผิดกฎหมายนะ” นุกูลทนายหนุ่มพูดขึ้น“กูถามมึงหน่อยนะไอ้นุถ้ามึงเป็นไอ้กันต์มึงอยากจะรู้ไหมว่าเด็กที่เรียกว่าลูกน่ะเป็นลูกของมึงจริงๆ หรือเปล่า”“เป็นใครก็ต้องอยากรู้”“งั้นมึงก็เงียบไปเลยนะ” ธนวินท์หันมาทำตาดุใส่เพื่อน“ถ้ายังไม่อยากตรวจDNAก็ตรวจแค่กรุ๊ปเลือดก่อนก็ได้ มึงรู้ไหมน้องข้าวหอมกรุ๊ปเลือดอะไร”“กูไม่รู้แต่น่าจะมีในผลตรวจเลือด” เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอีเมลที่ทางโรงพยาบาลส่งให้เมื่อครั้งก่อนพอเห็นกรุ๊ปเลือดของลูกสาวแล้วก็หน้าซีด“ไหนกูขอดูหน่อย” เมฆาคว้าโทรศัพท์ในมือเพื่อนไปดูจากนั้นก็เงยหน้ามองพีรกันต์แล้วนิ่ง“มึงเลือดกรุ๊ปอะไร”“AB” เขาตอบเหมือนคนไร้วิญญาณเพราะถ้าเขาเลือดกรุ๊ปABก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ข้าวหอมจะมีเลือดกรุ๊ปO“นั่นมึงจะไปไหนกันต์” อธิษถามเห็นพีรกันต์ลุกขึ้น“กูจะไปถามหลินให้รู้เรื่อง”“ใจเย็นก่อน” เมฆาที่นั่งอยู่ใกล้ฉุดมือของพีรกันต์ให้นั
การอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวไม่ง่ายเลยสำหรับพีรกันต์เพราะนอกจากเขาจะคอยดูแลข้าวหอมแล้วยังต้องคอยหลบหลีกลินรดาที่มักจะเข้าใกล้และยุ่งกับการใช้ชีวิตของเขามากกว่าที่คุยกันไว้“นี่มันดึกแล้วนะกันต์จะออกไปไหนอีก”“หน้าที่ของผมคือเล่านิทานและพาลูกเข้านอนตอนนี้ผมก็ทำหน้าที่ของผมเสร็จแล้วผมจะไปไหนมันก็เรื่องของผม” พีรกันต์ตอบอย่างหัวเสีย“หลินอยากคุยกับคุณ ขอเวลาหลินได้ไหมเราไปคุยกันที่ห้องนะคะ”“เรามีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีก”“ก็เรื่องของเรา”“ระหว่างผมกับคุณมีแค่เรื่องของลูก ไม่มีเรื่องของเราหรอกนะ”“คุณชวนหลินมาอยู่ที่บ้านแต่คุณไม่เคยสนใจหลินเลยนะคะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ คุณไม่มีใครหลินก็ไม่มีใครทำไมเราไม่ลองคุยกันอีกสักครั้ง”“ผมว่าผมชัดเจนแล้วนะว่าจะเป็นแค่พ่อของข้าวหอมที่ผมทำทุกอย่างก็เพื่อลูก ผมไม่เคยคิดอะไรกับคุณเลย”“คุณจะกลับไปหาผู้หญิงที่ชื่อเนยเหรอคะ คุณคิดว่าเธอจะรอคุณเหรอ”“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเนยเพราะถึงไม่มีเนยผมก็คิดจะกลับไปคบกับคุณ อะไรที่มันผ่านไปแล้วปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ ผมอยากทำหน้าที่พ่อที่ดีของข้าวหอมเรื่องอื่นผมไม่อยากคิด”“หลินทำผิดอะไรคุณถึงไม่คิดจะกลับมาเป
“พี่กานต์มีเบอร์อาจารย์หมอศาสตราไหมขอผมหน่อยสิ”“มีสิ นายจะเอาไปทำอะไรหรือจะจ้างอาจารย์มาตรวจพี่ว่าอย่าเสียเวลาเลยพี่เคยชวนท่านหลายครั้งแล้ว”“เปล่าครับ”“แล้วจะเอาเบอร์ไปทำไมหรือมีใครป่วย”“ผมอยากปรึกษาท่าน”“กันต์มีอะไรหรือเปล่า หรือลูกไม่สบาย” เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กมีสีหน้าเครียดคนเป็นมารดาก็ร้อนใจ“เปล่าครับแม่ คนที่ใม่สบายคือข้าวหอม”“อะไรนะ หลานแม่ป่วยเป็นอะไร”“เนยบอกผมว่าข้ามหอมเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวครับแม่”“ป่วยถึงขั้นไหนแล้วตรวจเจอนานหรือยังรักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว ต้องให้คีโมหรือเปล่า”“ผมยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากครับวันนี้ว่าจะพาข้าวหอมไปหาอาจารย์หมอ”“น่าสงสารจังตัวแค่นั้นก็ป่วยแล้ว กันต์ต้องดูแลลูกดีๆ”“ครับแม่”“คนที่บอกนายว่าข้าวหอมป่วยคือเนยเหรอ”“ครับพี่ เนยบอกผมเมื่อคืน”“แปลกดีนะทำไมคนที่บอกไม่ใช่แม่ของข้าวหอมล่ะ แล้วเนยไปรู้มาได้ยังไง”“ผมมัวแต่ตกใจเลยลืมถามเรื่องนี้ไปเลย แต่ก็ช่างมันเถอะจะรู้จากใครความจริงก็คือความจริง”“ถ้าต้องไปดูแลข้าวหอมบ่อยๆ กันต์ก็คุยกับหนูเนยให้เข้าใจนะลูก แบ่งเวลาให้ดี” เพราะคนหนึ่งก็หลานสาวอีกคนก็ว่าที่ลูกสะใภ้“คงไม่ต้องแล้วล่ะครับแม่”“ก
เพราะมีข้าวหอมมาอยู่ด้วยที่บ้านพีรกันต์เลยไม่คิดมากเรื่องรัญรวีเท่าไหร่จนกระทั่งผ่านไปสามวันหญิงสาวก็ยังไม่ติดต่อกลับมาพีรกันต์ไม่อยากรออีกต่อไปแล้ววันนี้เขาจึงมาดักรอหญิงสาวตรงทางเดินระหว่างโรงพยาบาลกับคอนโดมิเนียม“เนย”“พี่กันต์” รัญรวีตกใจเพราะจู่ๆ เขาก็โผล่ออกมาจากมุมถนน“พี่ขอคุยด้วยหน่อย”“เอาไว้คุยวันหลังดีไหมคะ ตอนนี้มันดึกแล้ว”“พี่ไม่อยากรอแล้วนะ สามวันมานี้เนยไม่ติดต่อพี่มาเลย”“เนยงานยุ่งค่ะ”“ไปนั่งคุยกันในรถก่อน”“แต่เนยจะกลับไปพักแล้ว”“จะไปดีๆ หรือจะให้พี่อุ้มไปละเนย"เพราะคำขู่ของเขารัญรวีเลยยอมเดินตามมาที่รถ เธอขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งเดิมที่เคยนั่งแต่ความรู้สึกแปลกออกไปเพราะตอนนี้คนข้างกายของเธอไม่ใช่คนที่เธอจะใช้ชีวิตด้วยอีกต่อไปแล้ว“พี่กันต์จะคุยอะไรคะ”“เนยเป็นอะไร โกรธอะไรพี่หรือเปล่า พี่ทำอะไรผิดเหรอเนยถึงไม่ติดต่อพี่เลยแล้วยังเก็บของพี่ออกจากคอนโด”“พี่กันต์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ เนยเองที่ผิด ผิดที่ไปรักคนมีเจ้าของอย่างพี่”“กำลังพูดเรื่องอะไรพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“ก็พี่กับครอบครัวของพี่”“ครอบครัวของพี่ก็คือเนย เราจะแต่งงานและร่วมสร้างมันด้วยกัน”“พี่กันต์ค่ะ
รัญรวีตื่นขึ้นมาในตอนสายเธอในขณะที่พีรกันต์ออกไปทำงานแล้ว หญิงสาวมองสภาพห้องนอนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความสุขที่เขามอบให้เมื่อคืนมันยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ คำบอกรักที่เขากระซิบข้างหูเธอจำมันได้อย่างดีและจะจดจำมันไปตลอดว่าตนเองเคยมีความสุขมากแค่ไหนหญิงสาวเข้าห้องน้ำมองตัวเองในกระจกร่างกายเต็มไปด้วยรอยรักที่เขาฝากไว้ มันตอกย้ำว่าเธอและเขาผ่านเรื่องบนเตียงมาแล้วอย่างเร่าร้อนแต่มันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเพราะรัญรวีไม่คิดจะนอนกับใครอีกแล้ว การอยู่ตัวคนเดียวมันอาจเหงาแต่ที่ผ่านมาเธอก็เคยอยู่คนเดียวมาตลอดหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วหญิงสาวก็เก็บของใช้ของพีรกันต์ลงกระเป๋าก่อนะจะเอาไปฝากไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ด้านล่างและสั่งไว้แล้วว่าห้ามเขาขึ้นมาบนห้องเธออีก รหัสที่ประตูหน้าห้องถูกเปลี่ยน รัญรวีตัดการติดต่อทุกช่องทางเพราะกลัวว่าถ้าได้ยินเสียงของเขาเธอจะตัดเขาออกไปจากชีวิตไม่ได้หญิงสาวใช้เวลาว่างตลอดวันจัดห้องใหม่เพราะถ้าอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ก็จะคิดถึงเขา กว่าทุกอย่างจะเข้าที่ก็เป็นเวลาเย็น เธอทำอาหารจากของสดที่เหลืออยู่ในตู้จากนั้นก็นั่งทานคนเดียวเงียบๆโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้าดังขึ้นรีญ
พีรกันต์กอดกระชับร่างที่หอบเหนื่อยรอจนเธอหายใจเป็นปกติจากนั้นก็รีบอาบน้ำและเช็ดตัวให้เธอก่อนจะอุ้มมาวางบนเตียง“เนยจ๋า พี่ไม่ไหวขออีกคืนนี้ขอแรงหน่อยไหม” เพราะท่าทางยั่วยวนและลีลารักเมื่อครู่มันปลุกความดิบเถื่อนในกายเขาจนต้องเอ่ยขอ“เนยตามใจพี่กันต์ทุกอย่าง” เพราะนี่จะเป็นคืนสุดท้ายเธอก็อยากให้เขาทำทุกอย่างไปตามใจปรารถนา รัญรวีอยากเก็บทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาขึ้นไว้เป็นความทรงจำเมื่อเธอพูดออกมาแบบนั้นพีรกันต์ก็เริ่มบทรักอีกครั้ง ปากร้อนจูบไปทั่วใบหน้าซอกคอดูดแรงจนขึ้นรอย รัญรวีทั้งเจ็บทั้งเสียวจนได้แต่ครางหวาน“อื้อ...พี่กันต์ขาจูบเนยหน่อยได้ไหม”ลิ้นร้อนสอดเข้าโพรงปากนุ่มตวัดรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อน เธอเองก็จูบกลับไปอย่างถึงพริกถึงขิงทำให้เขาครางอย่างพอใจหญิงสาวหูอื้อตาลายไปกับปากร้อนที่จูบเบียดแนบชิด เธอปล่อยกายปล่อยใจไปตามแรงปรารถนาพีรกันต์จูบจนพอใจก็ยอมให้ปากเล็กเป็นอิสระ เขาลากไล้ความเปียกชื้นมาตามผิวนุ่มขบเม้มแทะเล็ม ฝากรอยประทับไว้ทั่วเนินอกอิ่ม ตาคมมองยอดถันที่ชูชัน ลิ้นร้อนลากวนอย่างปลุกเร้าก่อนจะครอบครองเข้าอุ้งปากร้อน ดูดแรงอย่างคนกระหาย ยิ่งเธอแอ่นโค้งเข้าหาเ