รัญรวีถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อชายแปลกหน้าที่เธอเจอเป็นครั้งที่สองเดินออกจากวอร์ดผู้ป่วยไปแล้ว หญิงสาวแอบยิ้มกับตัวเองเพราะยังไงเย็นนี้เขาก็มาไม่เจอเธอแน่ๆ และอีกสองวันจากนี้ก็จะเป็นวันหยุดของเธอ
หญิงสาวภาวนาว่าเขาจะลืมเรื่องทานอาหารเย็นและเลิกตามตื๊อเพราะถ้าเขายังคงตามที่อยู่แบบนี้เธอก็ต้องยอมไปทานอาหารเย็นกับเขาเนื่องจากตนเองเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น
“เนยใจลอยไปถึงไหน จุ๋มเรียกตั้งหลายครั้งแล้วนะ”
“จุ๋มกลับมาก็มาตั้งแต่ตอนไหน”
“มาตั้งนานแล้วนะ”
“ข้าวล่ะ” เธอมองในมือเพื่อนที่ว่างเปล่าทั้งที่บอกว่าจะลงไปเอา
“เทใส่จานแล้วเรียบร้อยแล้ว รีบไปกินกันเถอะ”
“ไปสิ”
“เป็นอะไรหรือเปล่าหรือคิดเรื่องไปรับงานที่โรงพยาบาลเอกชน”
“เมื่อกี้ผู้ชายคนนั้นเขามาที่นี่”
“เขาตามเนยมาเหรอ แสดงว่าเขารู้เรื่องของเนยจริงๆ ต้องมีใครสักคนบอกแน่ ต้องถามให้รู้แล้วว่าใครเป็นคนบอก”
“บางทีอาจจะไม่มีคนบอกก็ได้”
“แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงกันล่ะ”
“ก็เขาบอกว่าเขามาเยี่ยมญาติเตียงที่ 18”
“คุณลุงที่มาจากเรือนจำน่ะเหรอเขาเป็นลูกชายของคุณลุงหรือเปล่า”
“ไม่น่าจะใช่นะ เขาไม่ได้เรียกพ่อแล้วคุณทนายก็บอกเนยว่าลูกชายเขาไม่ว่างมาเยี่ยม”
“หรือเขาอาจจะเปลี่ยนใจมาเยี่ยมพ่อเองก็ได้”
“เนยก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรหรอกถ้าเขามาอีกก็คงไม่เจอเนยแล้ววันนี้เนยเวรเช้าแล้วก็หยุดต่ออีกสองวันถึงตอนนั้นคุณลุงเตียง 18 ก็น่าจะกลับบ้านแล้ว”
“ถ้าเขาถามถึงเนยล่ะ จะให้จุ๋มบอกไปว่ายังไง”
“เขาคงไม่ถามหรอกมั้ง แต่ถ้าถามจุ๋มก็บอกว่าเนยหยุดยาวห้าวัน”
“ไม่อยากเจอเขาเหรอ”
“ใครอยากจะเจอ”
“เนยชอบคนหล่อๆ ที่ไม่อยากเจอเพราะกลัวจะหวั่นไหวใช่ไหมล่ะ”
“ยอมรับว่าชอบคนหล่อนะ แต่เรื่องจะหวั่นไหวไหมก็ยากอยู่ เนยชอบคนที่สุขุมดูอบอุ่นเป็นผู้ใหญ่ แต่ท่าทางเขาขี้เล่นไปหน่อย”
“เมื่อกี้จุ๋มก็เจอคนหล่อมากๆ เหมือนกันนะ”
“ตัวสูงๆ ใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลกางเกงสีดำใช่ไหม”
“ทำไมรู้หรือเขาคือคนที่เนยพูดถึง”
“น่าจะใช่คนเดียวกันนั่นแหละ”
“เขาหล่อมากๆ แต่งตัวก็ดูดีถ้าเขามาจีบก็รับไว้พิจารณาไว้หน่อยก็ดีนะ”
“เขาก็แค่อยากเอาชนะ ไม่ได้คิดจะจีบหรอก”
“มันก็ไม่แน่นะคืนนั้นเนยแต่งตัวเซ็กซี่มากด้วยสิ”
“แต่มันต่างจากตอนนี้มากนะ ถ้าเขาชอบหรือคิดจะจีบเพราะเห็นเราแต่งตัวแบบนั้นเขาก็คิดผิดแล้ว” โดยปกติแล้วรัญรวีจะเป็นคนแต่งตัวเรียบร้อยมากๆ ยกเว้นก็แต่ตอนไปเที่ยวสถานบันเทิงเพราะคิดว่านานๆ ครั้งได้ออกไปคลายเครียดก็อยากสนุกเต็มที่
“การแต่งตัวมันก็แค่ส่วนหนึ่งแต่หน้าตาเนยสวยหวานใครๆ ก็ชอบทั้งนั้นขนาดจุ๋มเป็นผู้หญิงยังชอบมองเลย”
“พูดอย่างกับตัวเองไม่สวย” รัญรวีมองหน้าเพื่อนแล้วก็พากันหัวเราะเพราะจริญญาก็เป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งแต่ติดที่เวลามาทำงานทั้งสองคนไม่แต่งหน้าจัดเหมือนเวลาไปเที่ยว
ช่วงบ่ายมีผู้ป่วยรับใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคนและอาการยังไม่คงที่เท่าไหร่ รัญรวีเลยยุ่งกว่าเธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จก็ถึงเวลาลงเวรพอดี
“ไปก่อนนะจุ๋ม เจอกันวันอังคารนะ”
“วันพุธต่างหากล่ะ วันอังคารจุ๋มหยุด”
“หยุดวันเดียวเหรอ”
“จริงๆ ก็หยุดสองวันแหละแต่ซื้อเวรน้องแขไว้”
“ขยันจริงๆ แบบนี้ทริปญี่ปุ่นคงใกล้แล้วใช่ไหม”
“ใกล้แล้วเนยไม่อยากไปด้วยจริงๆ เหรอ”
“ถ้ารอไปพร้อมกันเนยคงอีกนาน บางทีอาจจะลองคิดเรื่องไปรับงานพาร์ทไทม์ที่โรงพยาบาลเองชนอีกรอบเผื่อจะเก็บตังไปเที่ยวได้เร็วขึ้น”
“ถ้าจะไปจริงๆ บอกนะ จะได้ไปด้วยกัน”
“ก็ต้องบอกอยู่แล้วใครจะกล้าไปคนเดียวล่ะ”
“ไปจริงล่ะนะ ขอให้เวรบ่ายไม่ยุ่ง”
“สมพรปากเถอะอยากเวรสบายกับเขาบ้าง”
รัญรวีเดินกลับมายังหอพักที่อยู่ด้านหลังของโรงพยาบาล หญิงสาวอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 4 ปีแล้ว มีเพื่อนหลายคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เรียนจบเช่นเดียวกับเธอและก็มีบางคนที่ย้ายออกไปหาที่พักใหม่หรือบางคนก็ย้ายออกไปอยู่กับแฟนหรือครอบครัว ส่วนตัวของเธอนั้นกำลังเก็บเงินสักก้อนเพื่อหาที่อยู่ใหม่เธออยากซื้อคอนโดมิเนียมห้องเล็กๆ ไว้เป็นที่พักเพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะได้อยู่ที่หอพักแห่งนี้ไปตลอดหรือเปล่า
หญิงสาวเคยอยู่บ้านเช่ากับมารดาและคุณยายแค่พอท่านจากไปรัญรวีก็เลยไม่เช่าต่อเนื่องจากทางโรงพยาบาลมีสวัสดิการที่พักให้มันเลยทำให้เธอประหยัดเงินได้อีกเดือนละหลายพัน
เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วหญิงสาวก็เดินไปยังตลาดนัดด้านหลังโรงพยาบาลซึ่งจะมีทุกเย็นวันเสาร์ รัญรวีซื้อกับข้าวและขนมอีกหลายอย่างเพื่อกลับมาทานที่หอซึ่งไม่มีที่สำหรับปรุงอาหาร
“ขนมค่ะลุงยาม นี่ของลุงยามนะคะ แล้วเสื้อผ้าเด็กพวกนี้เนยฝากให้หลานนะคะ” เธอส่งถุงนมและเสื้อผ้าที่ซื้อมาให้กับยามที่หน้าหอพักเพราะเห็นกันมาตั้งแต่เรียนจบ และเธอก็รู้มาว่าลูกสาวของลุงยามเพิ่งจะคลอดลูกเมื่อสัปดาห์ก่อน
“ขอบใจมากนะหนูเนย”
พอเอาของให้ลุงยามแล้วก็เอาไปให้แม่บ้านของหอพักอีกหนึ่งถุงก่อนจะกลับเข้าห้องตัวเองจากนั้นก็นอนดูซีรีส์ด้วยความสบายใจ
พรุ่งนี้และวันมะรืนเป็นวันหยุดหญิงสาวไม่ต้องรีบนอนเพราะไม่คิดจะออกไปเที่ยวไหน เธอกะเอาไว้ว่าสองวันที่ได้หยุดจะนอนอย่างเต็มที่เพื่อเก็บพลังไว้ต่อสู้กับงานหนักที่รออยู่
ขณะที่กำลังดูซีรีส์เพลินๆ ยุวดีผู้ช่วยพยาบาลก็โทรศัพท์เข้ามา
“พี่เนยยุขอโทษ” เสียงปลายพูดออกมาทันทีโดยที่เธอยังไม่ได้พูดอะไรสักนิด และน้ำเสียงก็ฟังดูเหมือนคนไปทำอะไรผิดมาสักอย่าง
“ยุเป็นอะไร”
“ถ้ายุบอกพี่เนยอย่าโกรธนะ”
“พี่ยังไม่รู้เลยว่ายุไปทำอะไรมาแล้วพี่จะบอกได้ยังไงว่าโกรธไหม ลองบอกมาก่อนสิ”
“ยุกลัวพี่โกรธ อย่าโกรธยุนะคะ”
“ไม่โกรธก็ได้ บอกมาสิว่าไปทำอะไรผิดมา”
“พอดีมีผู้ชายคนหนึ่งมาหาพี่ที่นี่ เขาบอกว่ารู้จักพี่แต่ทำเบอร์โทรศัพท์พี่หายก็เลยอยากจะขอใหม่ ยุก็ไม่เชื่อเหรอค่ะ แต่เขายืนยันว่ารู้จักพี่แล้วตอนกลางวันก็มาหาพี่ที่วอร์ดแล้วด้วย แต่ยุไม่เชื่อเขาเลยท้าให้ดูกล้องวงจรปิด พอยุก็ไปดูเลยเห็นพี่กับเขายืนคุยกันอยู่ ยุก็เลยให้เบอร์ศัพท์พี่เขาไปแล้ว”
“แล้วตอนนั้นพี่จุ๋มอยู่ไหม”
“ไม่ค่ะ มีเคสรับใหม่พี่จุ๋มกำลังยุ่ง แล้วเขาโทรหาพี่หรือยังคะ”
“ไม่มีจ้ะ เขาคงแค่ขอเล่นๆ ”
“พี่โกรธยุไหม”
“ไม่หรอกเพราะพี่ไม่ได้สั่งไว้ แต่ครั้งต่อไปถ้าใครขอเบอร์แบบนี้อีกก็ให้ยุถามพี่ก่อนตกลงไหม”
“ตกลงค่ะ ถ้าพี่เนยมาทำงานยุจะเลี้ยงกาแฟหนึ่งแล้วเป็นการไถ่โทษดีไหมคะ”
“ไม่ต้องเลี้ยงหรอกจ้ะ แค่ลงไปซื้อให้พี่ก็พอ”
“ยุขอโทษอีกครั้งนะคะพี่เนย คราวหลังจะไม่ทำอีก”
“จ้ะ ยุรีบไปทำงานเถอะ”
“ได้ค่ะแล้วเจอกันนะคะพี่เนย”
เกินจะทน (ตอบจบ)พีรกันต์เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะเขาเองก็เคยคิดเรื่องนี้แต่เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอลูกอีกจึงยอมปล่อยเลยตามเลย“ถ้าเขาไม่ยอมให้ตรวจมึงก็แอบตรวจสิ เป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาลเรื่องแค่นิคิดไม่ได้”“แต่มันผิดกฎหมายนะ” นุกูลทนายหนุ่มพูดขึ้น“กูถามมึงหน่อยนะไอ้นุถ้ามึงเป็นไอ้กันต์มึงอยากจะรู้ไหมว่าเด็กที่เรียกว่าลูกน่ะเป็นลูกของมึงจริงๆ หรือเปล่า”“เป็นใครก็ต้องอยากรู้”“งั้นมึงก็เงียบไปเลยนะ” ธนวินท์หันมาทำตาดุใส่เพื่อน“ถ้ายังไม่อยากตรวจDNAก็ตรวจแค่กรุ๊ปเลือดก่อนก็ได้ มึงรู้ไหมน้องข้าวหอมกรุ๊ปเลือดอะไร”“กูไม่รู้แต่น่าจะมีในผลตรวจเลือด” เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอีเมลที่ทางโรงพยาบาลส่งให้เมื่อครั้งก่อนพอเห็นกรุ๊ปเลือดของลูกสาวแล้วก็หน้าซีด“ไหนกูขอดูหน่อย” เมฆาคว้าโทรศัพท์ในมือเพื่อนไปดูจากนั้นก็เงยหน้ามองพีรกันต์แล้วนิ่ง“มึงเลือดกรุ๊ปอะไร”“AB” เขาตอบเหมือนคนไร้วิญญาณเพราะถ้าเขาเลือดกรุ๊ปABก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ข้าวหอมจะมีเลือดกรุ๊ปO“นั่นมึงจะไปไหนกันต์” อธิษถามเห็นพีรกันต์ลุกขึ้น“กูจะไปถามหลินให้รู้เรื่อง”“ใจเย็นก่อน” เมฆาที่นั่งอยู่ใกล้ฉุดมือของพีรกันต์ให้นั
การอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวไม่ง่ายเลยสำหรับพีรกันต์เพราะนอกจากเขาจะคอยดูแลข้าวหอมแล้วยังต้องคอยหลบหลีกลินรดาที่มักจะเข้าใกล้และยุ่งกับการใช้ชีวิตของเขามากกว่าที่คุยกันไว้“นี่มันดึกแล้วนะกันต์จะออกไปไหนอีก”“หน้าที่ของผมคือเล่านิทานและพาลูกเข้านอนตอนนี้ผมก็ทำหน้าที่ของผมเสร็จแล้วผมจะไปไหนมันก็เรื่องของผม” พีรกันต์ตอบอย่างหัวเสีย“หลินอยากคุยกับคุณ ขอเวลาหลินได้ไหมเราไปคุยกันที่ห้องนะคะ”“เรามีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีก”“ก็เรื่องของเรา”“ระหว่างผมกับคุณมีแค่เรื่องของลูก ไม่มีเรื่องของเราหรอกนะ”“คุณชวนหลินมาอยู่ที่บ้านแต่คุณไม่เคยสนใจหลินเลยนะคะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ คุณไม่มีใครหลินก็ไม่มีใครทำไมเราไม่ลองคุยกันอีกสักครั้ง”“ผมว่าผมชัดเจนแล้วนะว่าจะเป็นแค่พ่อของข้าวหอมที่ผมทำทุกอย่างก็เพื่อลูก ผมไม่เคยคิดอะไรกับคุณเลย”“คุณจะกลับไปหาผู้หญิงที่ชื่อเนยเหรอคะ คุณคิดว่าเธอจะรอคุณเหรอ”“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเนยเพราะถึงไม่มีเนยผมก็คิดจะกลับไปคบกับคุณ อะไรที่มันผ่านไปแล้วปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ ผมอยากทำหน้าที่พ่อที่ดีของข้าวหอมเรื่องอื่นผมไม่อยากคิด”“หลินทำผิดอะไรคุณถึงไม่คิดจะกลับมาเป
“พี่กานต์มีเบอร์อาจารย์หมอศาสตราไหมขอผมหน่อยสิ”“มีสิ นายจะเอาไปทำอะไรหรือจะจ้างอาจารย์มาตรวจพี่ว่าอย่าเสียเวลาเลยพี่เคยชวนท่านหลายครั้งแล้ว”“เปล่าครับ”“แล้วจะเอาเบอร์ไปทำไมหรือมีใครป่วย”“ผมอยากปรึกษาท่าน”“กันต์มีอะไรหรือเปล่า หรือลูกไม่สบาย” เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กมีสีหน้าเครียดคนเป็นมารดาก็ร้อนใจ“เปล่าครับแม่ คนที่ใม่สบายคือข้าวหอม”“อะไรนะ หลานแม่ป่วยเป็นอะไร”“เนยบอกผมว่าข้ามหอมเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวครับแม่”“ป่วยถึงขั้นไหนแล้วตรวจเจอนานหรือยังรักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว ต้องให้คีโมหรือเปล่า”“ผมยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากครับวันนี้ว่าจะพาข้าวหอมไปหาอาจารย์หมอ”“น่าสงสารจังตัวแค่นั้นก็ป่วยแล้ว กันต์ต้องดูแลลูกดีๆ”“ครับแม่”“คนที่บอกนายว่าข้าวหอมป่วยคือเนยเหรอ”“ครับพี่ เนยบอกผมเมื่อคืน”“แปลกดีนะทำไมคนที่บอกไม่ใช่แม่ของข้าวหอมล่ะ แล้วเนยไปรู้มาได้ยังไง”“ผมมัวแต่ตกใจเลยลืมถามเรื่องนี้ไปเลย แต่ก็ช่างมันเถอะจะรู้จากใครความจริงก็คือความจริง”“ถ้าต้องไปดูแลข้าวหอมบ่อยๆ กันต์ก็คุยกับหนูเนยให้เข้าใจนะลูก แบ่งเวลาให้ดี” เพราะคนหนึ่งก็หลานสาวอีกคนก็ว่าที่ลูกสะใภ้“คงไม่ต้องแล้วล่ะครับแม่”“ก
เพราะมีข้าวหอมมาอยู่ด้วยที่บ้านพีรกันต์เลยไม่คิดมากเรื่องรัญรวีเท่าไหร่จนกระทั่งผ่านไปสามวันหญิงสาวก็ยังไม่ติดต่อกลับมาพีรกันต์ไม่อยากรออีกต่อไปแล้ววันนี้เขาจึงมาดักรอหญิงสาวตรงทางเดินระหว่างโรงพยาบาลกับคอนโดมิเนียม“เนย”“พี่กันต์” รัญรวีตกใจเพราะจู่ๆ เขาก็โผล่ออกมาจากมุมถนน“พี่ขอคุยด้วยหน่อย”“เอาไว้คุยวันหลังดีไหมคะ ตอนนี้มันดึกแล้ว”“พี่ไม่อยากรอแล้วนะ สามวันมานี้เนยไม่ติดต่อพี่มาเลย”“เนยงานยุ่งค่ะ”“ไปนั่งคุยกันในรถก่อน”“แต่เนยจะกลับไปพักแล้ว”“จะไปดีๆ หรือจะให้พี่อุ้มไปละเนย"เพราะคำขู่ของเขารัญรวีเลยยอมเดินตามมาที่รถ เธอขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งเดิมที่เคยนั่งแต่ความรู้สึกแปลกออกไปเพราะตอนนี้คนข้างกายของเธอไม่ใช่คนที่เธอจะใช้ชีวิตด้วยอีกต่อไปแล้ว“พี่กันต์จะคุยอะไรคะ”“เนยเป็นอะไร โกรธอะไรพี่หรือเปล่า พี่ทำอะไรผิดเหรอเนยถึงไม่ติดต่อพี่เลยแล้วยังเก็บของพี่ออกจากคอนโด”“พี่กันต์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ เนยเองที่ผิด ผิดที่ไปรักคนมีเจ้าของอย่างพี่”“กำลังพูดเรื่องอะไรพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“ก็พี่กับครอบครัวของพี่”“ครอบครัวของพี่ก็คือเนย เราจะแต่งงานและร่วมสร้างมันด้วยกัน”“พี่กันต์ค่ะ
รัญรวีตื่นขึ้นมาในตอนสายเธอในขณะที่พีรกันต์ออกไปทำงานแล้ว หญิงสาวมองสภาพห้องนอนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความสุขที่เขามอบให้เมื่อคืนมันยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ คำบอกรักที่เขากระซิบข้างหูเธอจำมันได้อย่างดีและจะจดจำมันไปตลอดว่าตนเองเคยมีความสุขมากแค่ไหนหญิงสาวเข้าห้องน้ำมองตัวเองในกระจกร่างกายเต็มไปด้วยรอยรักที่เขาฝากไว้ มันตอกย้ำว่าเธอและเขาผ่านเรื่องบนเตียงมาแล้วอย่างเร่าร้อนแต่มันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเพราะรัญรวีไม่คิดจะนอนกับใครอีกแล้ว การอยู่ตัวคนเดียวมันอาจเหงาแต่ที่ผ่านมาเธอก็เคยอยู่คนเดียวมาตลอดหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วหญิงสาวก็เก็บของใช้ของพีรกันต์ลงกระเป๋าก่อนะจะเอาไปฝากไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ด้านล่างและสั่งไว้แล้วว่าห้ามเขาขึ้นมาบนห้องเธออีก รหัสที่ประตูหน้าห้องถูกเปลี่ยน รัญรวีตัดการติดต่อทุกช่องทางเพราะกลัวว่าถ้าได้ยินเสียงของเขาเธอจะตัดเขาออกไปจากชีวิตไม่ได้หญิงสาวใช้เวลาว่างตลอดวันจัดห้องใหม่เพราะถ้าอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ก็จะคิดถึงเขา กว่าทุกอย่างจะเข้าที่ก็เป็นเวลาเย็น เธอทำอาหารจากของสดที่เหลืออยู่ในตู้จากนั้นก็นั่งทานคนเดียวเงียบๆโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้าดังขึ้นรีญ
พีรกันต์กอดกระชับร่างที่หอบเหนื่อยรอจนเธอหายใจเป็นปกติจากนั้นก็รีบอาบน้ำและเช็ดตัวให้เธอก่อนจะอุ้มมาวางบนเตียง“เนยจ๋า พี่ไม่ไหวขออีกคืนนี้ขอแรงหน่อยไหม” เพราะท่าทางยั่วยวนและลีลารักเมื่อครู่มันปลุกความดิบเถื่อนในกายเขาจนต้องเอ่ยขอ“เนยตามใจพี่กันต์ทุกอย่าง” เพราะนี่จะเป็นคืนสุดท้ายเธอก็อยากให้เขาทำทุกอย่างไปตามใจปรารถนา รัญรวีอยากเก็บทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาขึ้นไว้เป็นความทรงจำเมื่อเธอพูดออกมาแบบนั้นพีรกันต์ก็เริ่มบทรักอีกครั้ง ปากร้อนจูบไปทั่วใบหน้าซอกคอดูดแรงจนขึ้นรอย รัญรวีทั้งเจ็บทั้งเสียวจนได้แต่ครางหวาน“อื้อ...พี่กันต์ขาจูบเนยหน่อยได้ไหม”ลิ้นร้อนสอดเข้าโพรงปากนุ่มตวัดรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อน เธอเองก็จูบกลับไปอย่างถึงพริกถึงขิงทำให้เขาครางอย่างพอใจหญิงสาวหูอื้อตาลายไปกับปากร้อนที่จูบเบียดแนบชิด เธอปล่อยกายปล่อยใจไปตามแรงปรารถนาพีรกันต์จูบจนพอใจก็ยอมให้ปากเล็กเป็นอิสระ เขาลากไล้ความเปียกชื้นมาตามผิวนุ่มขบเม้มแทะเล็ม ฝากรอยประทับไว้ทั่วเนินอกอิ่ม ตาคมมองยอดถันที่ชูชัน ลิ้นร้อนลากวนอย่างปลุกเร้าก่อนจะครอบครองเข้าอุ้งปากร้อน ดูดแรงอย่างคนกระหาย ยิ่งเธอแอ่นโค้งเข้าหาเ