16- บ้านพ่อเลี้ยง
ติ๊ง!!
เหมือนเสียงเตือนลิฟต์ดังขัดจังหวะช่วยทำให้สถานการณ์พูดคุยที่เริ่มน่าอึดอัดสำหรับแสงทัดหมดไป เขาเดินนำออกไปก่อนแล้วผายมือให้แม่เลี้ยง
“เชิญครับ พ่อเลี้ยงรออยู่แล้วที่ห้องเดิมครับ”
แม่เลี้ยงสาวพยักหน้าขอบคุณ เดินตรงไปทางห้องของพ่อเลี้ยง แสงทัดเหลือบตามองอริสรา เลขานุการสาวที่กำลังเดินออกมาจากห้องเหนือหัวพอดีพรางยิ้มช่วยเปิดประตูให้แม่เลี้ยง เขาและอิสราต่างยิ้มให้กันอย่างมีเล่ห์นัย ทั้งเขาและเธออาจกำลังได้เจ้านายสาวคนใหม่เร็ว ๆ นี้
คลิก!!
ดวงฤทัยก้าวเข้าไปในห้องทำงานใหญ่ของเหนือหัว เห็นเขายังนั่งอ่านเอกสารอย่างตั้งใจจึงไม่อยากรบกวน เดินเลี่ยงไปนั่งรอที่โซฟารับแขกสังเกตห้องทำงานกว้างและอบอุ่นจากการตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก ม่านหนาหนักสีครีมอ่อนด้านหลังเปิดไว้จึงทำให้ห้องทั้งห้องสว่าง
เสียงกระดาษที่ถูกพลิกหน้าจากมือเหนือหัวเว้นจังหวะเป็นระยะ เธอสังเกตเสี้ยวหน้ายามเขาก้มมองเอกสารบนโต๊ะ ข่าวลือที่คนเมืองเล่าลือกันเป็นความจริง พ่อของเหนือหัว เจ้าศิรพงษ์ แต่งงานกับคนรัฐฉาน จันทร์มาลา ชื่อของแม่เหนือหัวตามที่แสงทัดเพิ่งบอกมา
เขามีเค้าโครงหน้าเหลี่ยมเหมือนคนไทใหญ่ คิ้วกระบี่เฉียงขึ้นและมีผิวคล้ำกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย แต่ยังผสมผสานความเป็นไทยไว้ เธอคาดว่ามารดาของเหนือหัวคงเป็นสวยคนหนึ่ง
“อุ๊ย!!”
จู่ ๆ เหนือหัวเงยหน้าขึ้นสบตาทำให้ดวงฤทัยที่กำลังแอบมองเพลินตกใจ แสร้งเบือนหน้ามองไปทางอื่นเพื่อหลบเลี่ยงสายตาจับจ้อง
“มาตั้งแต่เมื่อไร พี่ไม่ทันเห็น”
เหนือหัวปิดแฟ้มเอกสารทันที ร่างสูงลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานเดินไปยังแม่เลี้ยงสาวที่นั่งรออยู่ก่อนตรงโซฟา
“สักพักค่ะ พี่เหนือไม่เห็นเพราะดวงเข้ามาตอนที่เลขาของพี่เหนือเปิดประตูออกไป”
ดวงฤทัยขยับตัวกระเถิบไปเกือบชิดพนักเท้าแขนโซฟาอีกด้านเมื่อร่างใหญ่ของเหนือหัวหย่อนลงเกือบติดตัวเธอ
สายตาคมกวาดมองสำรวจไปทั่วร่าง ดวงฤทัยสวมชุดผ้าซิ่นพื้นเมืองเช่นเคย ตัวบนเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีแขนตุ๊กตา
“ไม่ทัดดอกไม้แล้วเหรอ พี่ชอบหอมดี”
พูดไม่ทันจบประโยคมือใหญ่พลันเอื้อมไปยังศีรษะหญิงสาวจับพลิกดูว่าได้ซ่อนดอกไม้ไว้ตรงไหนหรือเปล่า เพราะเขายังได้กลิ่นดอกพุดโรยรินออกมาจากตัวเธอ
“ไม่ทันได้เด็ดมาค่ะ”
“แล้วทำไมถึงมีกลิ่นหอม”
ดวงฤทัยหน้าแดงขยับหน้าหนีแต่ไม่พ้น เขาจับปลายคางเธอไว้แน่น
“ก็สบู่อาบน้ำธรรมดาค่ะ คุณแม่มักเอาดอดกไม้ที่มีในบ้านมาผสมด้วย เป็นสูตรเฉพาะ”
เธอเลื่อนสายตาสบดวงตาคม แล้วเอียงศีรษะเล็กน้อยแปลกใจที่พวงแก้มของเหนือหัวแดงซ่านขึ้นมาเห็นได้ชัด
“พี่เหนือไม่สบายหรือเปล่าคะ”
“ฮื้อ ทำไมเหรอ”
มือเล็กวางพาดบนหน้าผากเพื่อทดสอบแต่ไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด เห็นมุมปากของเขาขยับยิ้มยิ่งแปลกใจ
“มีอะไรเหรอคะ ดวงทำแบบนี้มัน ผิดปกติตรงไหน”
น้ำเสียงกระเง้ากระงอดสะบัดมือลงจากหน้าเหนือหัว พยายามขืนตัวเบี่ยงกายออกแต่คนร่างสูงกลับไม่ยอมปล่อย แถมคว้าเอวสาวน้อยยกขึ้นจนนั่งบนตักกว้าง
“ไม่ผิดหรอก ดวงจะแตะตัวพี่ตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น”
“แล้วพี่เหนือหัวเราะเยาะดวงทำไมคะ”
หน้าคมเข้มปรากฏรอยยิ้มกว้างอีกครั้งยิ่งพาให้เหนือหัวดูหล่อกว่าที่เคยจนเธอเองใจเต้นไม่เป็นส่ำ
“พี่ไม่ได้หัวเราะเยาะดวง พี่แค่ดีใจที่ดวงไม่ประสา”
ดวงฤทัยสะบัดหน้าออกจากการเกาะกุมของมือใหญ่ เขาจึงใช้มือข้างนั้นจับมือเล็กของเธอวางลงบนต้นเหตุที่ทำให้เขาหน้าแดง
“นี่ต่างหากที่ทำให้พี่หน้าแดง”
“พี่เหนือ!!!”
ตากลมโตเบิกกว้างพยายามขืนมือออกแต่เหนือหัวยังกุมไว้แน่นให้เธอแนบฝ่ามือลงบนท่อนเนื้ออุ่นร้อนแข็งขึงและใหญ่โต
“ตกใจอะไรกัน จะได้คุ้นเคยกันไง พี่แทบรอให้ถึงคืนนี้ไม่ไหว เหนือหัวน้อยอยากทำความรู้จักน้องสาวดวงอีกจัง”
“พี่เหนือ!!!”
ครั้งนี้ดวงฤทัยกระชากมือออกมาได้สำเร็จตะเกียกตะกายลงจากตักของเหนือหัวไปยืนข้างโซฟา เอามือไขว้หลังไว้ไม่ให้เขาเห็นว่าเธอกำลังสั่น
“ดวงหิวข้าวแล้ว ไปกันเถอะค่ะ”
เหนือหัวยิ้มกว้างอีกครั้งแล้วจึงลุกขึ้นเดินตามสาวร่างเล็กที่เดินขาขวิดนำหน้าเขาไปก่อนแล้ว ร่างอรชรในชุดพื้นเมืองเหนือด้านหลัง ยิ่งมองยิ่งทำให้น้องชายฮึกเหิม โชคดีที่เสื้อสูทวันนี้คลุมยาวพอปกปิดอาการตื่นตัวแข็งโด่ขึ้นมากระทันหัน
ยามค่ำหลังจากมื้อเย็นบนเรือนไม้หลังใหญ่ชานเมืองของเหนือหัว ช่วงคาบเกี่ยวฤดูหนาวทำให้ลมเหนือเริ่มพัดผ่านชานบ้านจนดวงฤทัยลูบต้นแขนตัวเองเพิ่มความอบอุ่น
“ดวงเข้าห้องไปก่อนก็ได้ พี่ว่าจะทำงานต่ออีกสักหน่อย”
“รอก็ได้ค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก อากาศเย็นแล้ว อาบน้ำเร็วหน่อยดีกว่า”
เหนือหัวกล่าวขึ้นพร้อมเลื่อนจานออกจากมือเล็กที่กำลังใช้ส้อมจิ้ม เธอมองหน้าเหวอเห็นคนร่างสูงยิ้มพราย
“ชอบทานนี้เหรอ”
ดวงฤทัยหน้าเง้าวางส้อมลง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแสดงท่าทางกระเง้ากระงอดราวกับว่าเป็นแฟนกันจริง ๆ ยิ่งทำให้เหนือหัวต้องการแกล้งจึงหยิบส้อมของตนจิ้มขนมแล้วยื่นไปตรงหน้า
“ไม่แกล้งแล้ว อ้า อ้ำเร็วสิ”
เธอหันหน้ากลับมายิ้มแล้วอ้าปาก แต่พอจะงับกลายเป็นเหนือหัวชักมือกลับ ดวงฤทัยจึงได้แต่งับอากาศเข้าไปเต็มเปา
งับ!!
ตากลมรีขวางขุ่นเมื่อเห็นไหล่กว้างสะเทือนจากอาการกลั้นหัวเราะ จึงลุกขึ้นกรุ่นโกรธเดินงอนกลับเข้าห้องนอนไปทันที ทิ้งให้เหนือหัวยังนั่งยิ้มอยู่คนเดียว
“พ่อเลี้ยงดูมีความสุขนะครับ”
เหนือหัวเอี้ยวหน้ากลับไปมองแสงทัดที่ขึ้นมาจากข้างล่าง หน้าคมเข้มยังยิ้มมุมปากไม่ถือสาบอดี้การ์ด
“มีอะไรหรือเปล่า”
“คุณพฤกษ์โอดว่าราคาตึงไปนิดครับ แต่ยอมลงลายมือชื่อแต่โดยดี รับเช็คมัดจำไปแล้วครับ”
“ดี มีอะไรอีกไหม”
“มีคุณพราวพิลาศถามหาพ่อเลี้ยง”
“ไม่สำคัญ”
เขาโบกมือไล่แสงทัดขณะที่ลุกขึ้นยืนอย่างอารมณ์ดี เดินเข้าห้องทำงานเพื่อเคลียร์เอกสารให้เสร็จเพราะพรุ่งนี้ทั้งวันเขาตั้งใจว่าจะพาเธอไปเที่ยวข้างนอก
“เออ เดี๋ยวครับพ่อเลี้ยง”
เหนือหัวชะงักเท้าเอี้ยวหน้ากลับไปอีกครั้ง
“เจ้ายิ่งอยากเชิญพ่อเลี้ยงไปทานข้าวที่คุ้ม”
“ปฏิเสธ”
“แต่ว่าท่านขอร้องมา พ่อเลี้ยงจะไม่ใจอ่อนหน่อยเหรอครับ”
“ไม่ เขาไม่สมควรจะได้รับ”
เหนือหัวไม่ทันรอให้แสงทัดรับคำ สั่งงานเรียบร้อยจึงรีบย่ำเท้าเข้าห้องทำงานด้วยใจร้อนรน คืนนี้เขาจะได้นอนกอดร่างนุ่มนิ่มอีกครั้ง ถ้าเธอยังไม่หลับไปเสียก่อนเขาคงจะได้ทำอะไรให้หัวใจชายหนุ่มดวงนี้ได้ชื่นใจบ้าง
ส่วนคนร่างเล็กพลิกตัวนอนกระสับกระส่ายผิดไปจากอาทิตย์ที่แล้ว ดวงฤทัยยอมรับกับตนเองว่าเธอทั้งตื่นเต้นและคาดหวัง นอนหงายห่มผ้าจนมิดถึงคอปิดไฟในห้องมืดสนิท
สักพักจึงพลิกตัวนอนตะแคงหันไปทางด้านข้างที่ยังว่างเปล่าเอื้อมมือออกไปลูบหมอน พลันนึกประหลาดใจอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมีวันนี้ วันที่เธอได้นอนค้างกับเหนือหัว ดั่งที่เธอได้เคยนึกภาพในวัยสาวอายุสิบแปด
บทพิเศษสามเดือน เมื่อเจ็ดปีที่แล้วตุบ ตุบ!ดวงฤทัยสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหินปามาโดนผนังห้องนอนด้านหน้าเรือนทรงไทยล้านนาร่างเล็กสะลืมสะลือลงจากเตียงควานมือเพราะความมืด เปิดหน้าต่างห้องนอน ชะโงกหน้าออกไปแต่ยังไม่เห็นใครได้ยินแต่เสียงเรียกทุ้มต่ำแผ่วเบา“ดวง ดวง”ดวงฤทัยขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เขาเดินลับหายไปท่ามกลางผู้คนในงานยี่เป็ง แต่กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแทบทุกวันแอ๊ดดด!!ดวงฤทัยพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุด ย่องปลายเท้าผ่านชานเรือน โชคดีเธอได้นอนห้องหน้าสุดทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย จากนั้นดวงฤทัยก็พาร่างอันบอบบางลงบันไดบ้านเดินไปยังประตูเล็กข้างรั้ว“มาทำไม มันดึกแล้ว!!”“เอาขนมมาให้”“แขวนไว้นั้นแหล่ะ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวก่อนสิ ขอเห็นหน้าก่อนไม่ได้เหรอ”ดวงฤทัยมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาก่อนแอ้มประตูรั้วยื่นมือออกไปเพื่อรับขนม แต่คนร่างสูงกลับจับข้อมือเธอไว้ดึงเธอออกไปนอกรั้วดันไปยังมุมมืดด้านข้างใช้มือยันรั้วไว้“พี่แค่อยากขอดูหน้าน้องดวง หลับไปหรือยัง”“ถ้าหลับจะได้ยินเสียงหรือไง เห็นหน้าก็กลับไปได้แล
38 – ดาวเหนือคอยนำทาง จบบริบูรณ์ ncคราวนี้ดวงฤทัยลุกขึ้นนั่งข้างกายของเหนือหัว ก้มมองดวงตาของชายแกร่งที่ปิดสนิทไม่ยอมมองเธอ“คุณนฤเบศร์ฉีกสัญญาไปทิ้งแล้วค่ะ”“แล้วยังไง? แม้ว่าไม่มีสัญญา ดวงจะยอมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟังไหม ไม่เลย พี่ไม่ได้อยู่ในแผนการ อยู่ในความคิดของดวงด้วยซ้ำ!”“พี่เหนือ!”มือเล็กวางบนแผ่นอกใต้ผ้าห่ม เธอวางไว้ตรงอกข้างซ้ายตรงที่หัวใจของเหนือหัวกำลังเต้นแรง“ที่ดวงไม่บอกพี่ เพราะว่าดวงไม่อยากให้พี่เหนือมองดวงว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน ทั้งที่ดวงเองก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดวงต้องการหลักประกันมั่นคงให้กับตัวเอง ดวงต้องการบ้านคุ้มหัวที่ปกป้องแม่และยายไปตลอดชีวิต แต่ดวงยอมทิ้งทุกอย่างแล้ว ที่ดวงไปบ้านคุณนฤเบศร์วันนั้นก็เพราะว่าดวงต้องการยกเลิกสัญญา ดวงยอมทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาบ้าน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับพี่เหนือ”“แน่ล่ะ ก็เพราะพี่รวยใช่ไหม”“พี่เหนือ! พี่คิดว่าดวงรักพี่เหนือเพราะเงินเหรอคะ พี่คิดว่าดวง ดวงทิ้งของพวกนั้นเพราะต้องการเงินทองของพี่ใช่ไหม? ไม่เลย ดวงไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ดวงไม่ยอมให้คุณนฤเบศร์หรือเจ้ายิ่งบอกพี่เหนือก็เพราะว่า ถ้าพี่เหนือรู้ พี่เหนือต้อง
37 - คนร่างเล็กเขาง้อแล้วนะ“หนูดวง”ดวงฤทัยสะดุ้งหันกลับไปยังจันทร์มาลา เธอไม่ได้ยินเสียงเดินของหญิงวัยกลางคนเนื่องจากคิดเรื่องของเหนือหัว“คะ?”“ตั้งโต๊ะเถอะ เย็นมากแล้ว เหนือจะได้ทานยา”“ค่ะ”สองหญิงหนึ่งคนสาวหนึ่งคนแก่กว่า จัดจานใส่ถาดกว้างทยอยยกมากลางลานใกล้ระเบียงแล้ววางบนพื้นบ้านของเหนือหัวยังคงนั่งทานกับพื้นซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้เองก็ยังคงทำแบบนี้ ยกเว้นบางบ้านที่นั่งทานโต๊ะทานอาหารอาหารของไทใหญ่ก็คล้ายกับของทางภาคเหนือจึงทำให้ดวงฤทัยเองทานได้คล่องปาก“แล้วนี่ทำไมเหนือถึงบาดเจ็บมาล่ะลูก”ในที่สุดจันทร์มาลาก็เอ่ยถามอย่างที่ใจของดวงฤทัยเองอยากรู้เช่นกัน เธอเอี้ยวหน้าไปมองพลันสบตาของเหนือหัวที่มองมาทางเธอพอดี จึงรีบหลบก้มมองจานข้าวของตัวเอง ตักข้าวเข้าปากนิ่งเงียบ“ไปตรวจงานอยู่หลายวัน พอใกล้ ๆ วันกลับเจอพวกชนกลุ่มน้อยครับ ปะทะนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่เป็นอะไรมาก หมอผ่าเอากระสุนออกไปแล้ว”“แล้วทางนั่นลูกยังจะไปอีกเหรอ”“ก็ต้องไปครับ นั่นมันธุรกิจเรา แต่อาจจะน้อยลง ให้หุ้นส่วนที่เป็นทหารช่วยดูแล”“แล้วเราจะไว้ใจได้ยังไง คนพวกนี้ใช่ย่อย”ดวงฤทัยแม้ว่าจะก้มหน้าทานข้าวแต่หูเธอคอยฟังเสียงท
36 - สำหรับเขาต้องมากกว่า ไม่มีน้อยกว่าเหนือหัวชะโงกตัวไปยังหลังรถแต่แสงทัดปัดมือของชายหนุ่มไว้ก่อนแล้วคว้ากระเป๋าของเหนือหัวมาไว้เอง“ยังไม่รู้ ไว้หลังสงกรานต์ว่ากันอีกที”แสงทัดเดินนำยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไปบนเรือนยกใต้ถุนไม่สูงมากนักแบบไทใหญ่ อากาศในหน้านี้ไม่ร้อนมากนักเพราะอยู่ภูเขา ทำให้มีสายลมพัดมาตลอดเวลาบอดี้การ์ดเดินขึ้นเรือนกำลังเดินตรงไปยังห้องนอนของเหนือหัว พลันเหลือบเห็นร่างเล็กของคน ๆ หนึ่งที่เพื่อนของเขาถวิลหามาตลอด ทำให้เท้าใหญ่หยุดนิ่งตาเบิกกว้างหันกลับไปมองเพื่อนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันไดเรือนมาพอดี“ไอ้เหนือ!”เหนือหัวเงยหน้าขึ้นมองแสงทัดที่ทำหน้าเหมือนเห็นผี คิ้วเข้มขมวดนิ่งไม่เอ่ยตอบอะไรยังก้าวขึ้นเรือนตามปกติ“มากันแล้ว”เสียงมารดาเอ่ยลอยมาจากชานเรือนแม้ว่าเขายังไม่ทันขึ้นไปชั้นบน จวบจนกระทั่งร่างสูงสาวเท้าไปบนขั้นสุดท้ายก้มศีรษะลงเพื่อให้พ้นชายหลังคาทรงเตี้ยเพื่อมุดเข้าไปในเรือน เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งจึงเห็นแม่เลี้ยงสาวแห่งสินธุเจริญพาณิชยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง หน้าเข้มกระด้างลงทันที“ไอ้ทัด มึงรอก่อน พาแม่เลี้ยงกลับไปด้วย”“ไอ้เหนือ!!”“เหนือ!!”เสียงแสงทัดและจั
35 – รัฐฉานปีใหม่ของชาวรัฐฉานปกติจัดขึ้นในวันขึ้นหนึ่งคำเดือนอ้ายของทุกปี ซึ่งมักจะเป็นช่วงงต้นเดือนธันวาคม ทำให้ในวันปีใหม่สากลของที่นี่เงียบเหงา ไม่ได้จัดงานเหมือนที่อื่นมีเพียงตามสถานที่สำคัญร้านค้าที่ทำสัญลักษณ์ว่าป้ายสวัสดีปีใหม่บางร้านค้าเท่านั้นร่างสูงยืนนิ่งตรงชานเรือนไม้ยกพื้นสูงบนเขาดอยเย่ว[1] ดอยสูงคดเคี้ยวเข้าลำบากถิ่นเดิมของมารดา บ้านทรงธรรมดาแบบไทใหญ่เพียงแต่หลังใหญ่กว่าทุกหลังในหมู่บ้านบอกสถานะทั้งทางสังคมและฐานะเงินทองใบหน้าเข้มไม่ได้พันผ้าโผกหัวนุ่งโสร่งเหมือนกับผู้ชายคนอื่นพื้นถิ่น เขาสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีเข้มม่อฮ่อมและเสื้อผ้าฝ้ายสีอ่อนคอจีนผ่ายาวลงมาติดกระดุมทำจากรังผ้าฝ้ายสีเดียวกันจันทร์มาลา มารดาของเหนือหัวเองเฝ้าสังเกตลูกชายมาสักระยะแล้วนับจากกลับมาบ้านในคราวนี้ร่วมสองเดือน แม้ว่าเหนือหัวยังคงพูดคุยด้วยปกติแต่สีหน้าลูกชายดั่งมีเรื่องกลุ้มใจ บางครั้งเธอได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาขณะที่เขาเผลอยามอยู่คนเดียวแสงทัดเองเมื่อกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้เขาเองก็กลับบ้าน ไม่ได้มาอยู่ดูแลเหมือนดั่งอยู่เมืองไทย ทำให้จันทร์มาลาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปถามใครดี ได้แต่เฝ้ามองลูกชายคนเ
34 – รู้ความจริงร่างเล็กนั่งรอแทบไม่ติดที่นั่งเมื่อนฤเบศร์เดินเข้ามาในห้องรับแขกของบ้าน และพลันยืนขึ้นทันทีอย่างร้อนใจเมื่อเห็นเขา โดยไม่ต้องพูดนฤเบศร์ก็รู้ว่าเธอมาเพื่อสิ่งใดในบ่ายวันนี้“พ่อเลี้ยง”“นั่งก่อนสิ ค่อย ๆ พูด”มือเล็กกุมไว้ขยุกขยิกห้ามตัวเองไม่ได้ ร้อนใจต้องการพูดเรื่องที่ตนเองตัดสินใจโดยเด็ดขาดแล้ว แต่ถูกขัดจังหวะด้วยเด็กรับใช้ในบ้านกำลังนำน้ำดื่มมาต้อนรับเธอนั่งนิ่งรอจนกระทั่งเด็กคนนั้นออกจากห้องไปจึงได้เริ่มเปิดปาก“ดวงตัดสินใจแล้ว”“ผมรู้ว่าที่คุณดวงมาวันนี้ก็คงเลือกมาแล้ว คุณเลือกเหนือหัวใช่ไหม”ดวงฤทัยพยักหน้ารับทันทีไม่รอช้า“ใช่ ดวงตัดสินใจแล้วว่าจะขอละเมิดสัญญาที่ทำไว้ ไม่มีสิ่งใดแทนที่พี่เหนือได้ ดวงไม่ต้องการบ้านหรือฟาร์ม”“ดื่มน้ำก่อนสิ”นฤเบศร์เอ่ยแนะนำเมื่อเสียงของดวงฤทัยทั้งแหบแห้งและฟังเหนื่อยล้า นั่นคงเพราะเธอคงร้องไห้มาทั้งคืน ร่างเล็กหยุดไปชั่งครู่แล้วทำตามที่เขาบอก“ดวงรู้หรือเปล่าว่าในสัญญานอกจากจะสูญเสียทุกอย่างแล้ว ยังต้องชดใช้เงินสินสอดกลับคืนอีกด้วย”ดวงฤทัยหน้าซีดเผือดวางแก้วลงมือสั่นเล็กน้อยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ“ดวงจำได้ดี และสินสอดที่คุณพ่