Home / รักโบราณ / เพียงนาง / ทางหนีทีไล่ 2

Share

ทางหนีทีไล่ 2

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-10-25 22:26:47

“ท่านเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน ข้าเป็นใครกันนี่” เฉินเจียวเหมยเริ่มต้นบทบาทที่คิดเอาไว้พลางยกมือของตนขึ้นกุมศีรษะด้านหนึ่ง คงเหลือเอาไว้อีกด้านหนึ่งเพื่อเผยให้เห็นรอยจ้ำสีแดงบนหน้าผาก “ได้โปรดข้าจำสิ่งใดไม่ได้เลย”

จ้าวจิ่นหลงเพียงหรี่ตามองใครบางคนที่ไม่แนบเนียนเอาเสียเลย

เฉินเจียวเหมยที่เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าตนเองไม่ถนัดเรื่องมารยาสักเท่าไหร่จึงได้แต่ทำแข็งใจตีเนียนต่อไปอย่างมึนๆ

“ท่านคงเป็นท่านหมอของที่นี่สินะ ท่านควรไปดูแลคนป่วยบ้านโน้น” ว่าแล้วก็วาดนิ้วพลางผินใบหน้าไปตามทิศทางอันไกลโพ้น  

“ได้ข่าวว่าใกล้ตายแล้ว ท่านหมอรีบไปเลย” จบคำก็เดินเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ของบุรุษตรงหน้าแล้วผลักดันเขาให้ออกไปยังทิศทางที่นางวาดนิ้วชี้ไปเมื่อครู่

“ข้าว่าทางนี้มีคนป่วยมากกว่าทางนั้น” จ้าวจิ่นหลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำราบเรียบ

“อา...ใช่...ข้าเองก็ป่วย ข้าจำอะไรไม่ได้เลย ท่านรีบไป” เฉินเจียวเหมยยังคงตีเนียนหน้ามึนพลางฉุดดึงร่างของใครบางคนที่บัดนี้คล้ายกับรากไม้อีกแล้ว

“หากเจ้าจำสิ่งใดไม่ได้ ข้าจะบอกกล่าวให้” จ้าวจิ่นหลงที่ยังคงขืนตัวเองเอาไว้ไม่ยอมขยับเอ่ยขึ้นเนิบนาบอย่างรู้เท่าทันสตรีตรงหน้า “ข้าเป็นสามีของเจ้า”

“...”

เฉินเจียวเหมยถึงกับนิ่งอึ้งไป

“เจ้าเป็นภรรยาของข้า”

“...”

เฉินเจียวเหมยถึงกับทำอันใดไม่ถูก

“ข้าจะพาเจ้ากลับไปแต่งงาน”

ครานี้เฉินเจียวเหมยถึงกับตั้งท่าจะวิ่งหนี

จ้าวจิ่นหลงรู้ทันในท่าทีจึงตวัดวงแขนของตนโอบกอดเฉินเจียวเหมยเอาไว้อย่างแนบแน่น

“ปล่อยข้านะ” หญิงสาวดิ้นรนพลางตะโกนออกมา

“หยุดหนีเสียที” ชายหนุ่มเริ่มคำราม

“ไม่..” เฉินเจียวเหมยยังคงไม่ยินยอม

จ้าวจิ่นหลงยังคงไม่ยินยอมเช่นเดียวกัน เขายังคงกอดรัดโรมรันเรือนร่างของเฉินเจียวเหมยเอาไว้โดยไม่คิดที่จะปล่อย

ไม่มีทาง!

“อาเหมย” เสียงของบุรุษผู้หนึ่งพลันดังขึ้นมาตรงทางด้านหน้าของโรงหมอ

“อาหยวน” เฉินเจียวเหมยที่จดจำน้ำเสียงของสหายนามว่าจูหยวนจางได้ นางจึงรีบตะโกนเรียกขานเขาในทันที

จ้าวจิ่นหลงถึงกับนิ่งอึ้งไป

เมื่อเฉินเจียวเหมยรู้สึกได้ถึงอาการนิ่งอึ้งเงียบงันของบุรุษที่กำลังโอบกอดนางอยู่ นางจึงรีบสลัดเขาออกจากวงแขนของเขาแล้ววิ่งไปทางจูหยวนจางในทันที

เมื่อจูหยวนจางเห็นเฉินเจียวเหมยวิ่งออกมาจนปรากฏกายแก่สายตาจึงรีบเอ่ย “ข้าจะเดินทางแล้ว ข้าจึงเข้ามาลาเจ้า”

“อาเหมย ข้าจะเดินทางแล้ว ข้ามาลาเจ้า” น้ำเสียงแว่วหวานของฮูหยินของจูหยวนจางนามว่าหลิวหลีที่เดินเคียงข้างกันมากับจูหยวนจางเอ่ยขึ้นมาทางเฉินเจียวเหมย

“จะเดินทางแล้วหรือ ข้าไปด้วย” จบคำของเฉินเจียวเหมยนางรีบวิ่งออกไปแล้วพุ่งตัวขึ้นรถม้าที่นางแน่ใจว่าเป็นของสหายของนางในทันที

จูหยวนจางและหลิวหลีถึงกับงุนงง

จ้าวจิ่นหลงที่รู้สาเหตุของการพุ่งตัวไปอย่างนั้นถึงกับนิ่งอึ้งไป

ฮึ่ม! นาง...นาง...

น่าตายนัก!

นางหนีเขาอีกแล้ว...

*********

ตามถนนหนทางทอดยาวสายหนึ่งกำลังมีรถม้าคันขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กกำลังเคลื่อนตัวไปตามทางโดยมีบุรุษหนุ่มสองคนกำลังควบม้าให้เดินเคียงข้างไปกับรถม้าเพื่อดูแลคุ้มภัยให้สตรีที่กำลังนั่งอยู่ภายในของรถม้าคันนี้

หนึ่งบุรุษนามว่าจูหยวนจางนั้น เขามีหน้าที่คอยดูแลภรรยาของเขาที่กำลังนั่งอยู่ในรถม้าคันนี้ หน้าที่นี้ย่อมเป็นของเขาหาใช่ของผู้ใดอื่นไม่ มันย่อมเป็นหน้าที่ของเขาแต่เพียงผู้เดียว

แต่... กับบุรุษอีกคนที่ขี่ม้าเคียงกันมา เขามีหน้าที่อันใด ไยต้องมาร่วมทางกับเขา จูหยวนจางยังคงไม่ไว้วางใจใครบางคนที่อาจจะมาเกี้ยวภรรยาของเขาตามวิสัยที่หึงหวงภรรยาคนงามแบบเต็มขั้น

“ไยมองข้าอย่างนั้น” จ้าวจิ่นหลงเอ่ยถามตามตรงขณะที่ขี่ม้าติดตามขบวนของจูหยวนจางกับภรรยาของเขามาด้วยกันนี้เขารู้สึกได้ถึงสายตาอันร้อนแรงหึงหวงภรรยาคนงามของคนผู้นี้ได้เป็นอย่างดี เขาไม่แปลกใจ

“ท่านต้องการสิ่งใด” จูหยวนจางถามขึ้นด้วยสายตาคลางแคลงใจฉายชัดกลิ่นน้ำส้มเปรี้ยวรุนแรงชัดเจน

“ไม่ใช่ภรรยาของท่านก็แล้วกัน” จ้าวจิ่นหลงเอ่ยตอบออกไปอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่

แค่เพียงสตรีน่าตายบางคนที่บังอาจหนีเขาครั้งแล้วครั้งเล่านั่น นอกจากนั้นก็ไม่มีใครทำให้เขาต้องรู้สึกเสียอารมณ์ได้อย่างนี้

ทั้งเสียอารมณ์ ทั้งเสียเกียรติ ทั้งเสียเชิงชายอย่างยิ่งยวด

ฮึ! นางต้องรับผิดชอบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพียงนาง   เพียงนาง 3

    และเพียงไม่นาน เนื้อตัวที่เย็นเยียบของเฉินเจียวเหมยพลันเปลี่ยนไปเป็นอุ่นร้อนขึ้นมาเนื่องจากว่าถูกเรือนร่างหนาแน่นและร้อนระอุของจ้าวจิ่นหลงบดเบียดเข้าแนบชิดจนสนิทแนบแน่นไร้ช่องว่างใดๆ ระหว่างกัน“อุ่นขึ้นหรือไม่” จ้าวจิ่นหลงกระซิบเสียงแหบต่ำตรงใบหูของเฉินเจียวเหมย“อ่ะ...อืม...” นางตอบด้วยน้ำเสียงเริ่มกระเส่า“เจ้าชอบ...” จ้าวจิ่นหลงก้มหน้าถามแนบชิด“ข้าชอบ...” เฉินเจียวเหมยครางตอบเสียงเบาจ้าวจิ่นหลงเพียงหัวเราะอยู่ในลำคออย่างถูกใจก่อนจะก้มหน้าลงฝังจมูกและริมฝีปากอุ่นชื้นกับลำคอระหงของนางและเริ่มต้นบทเพลงบรรเลงบทรักเพื่อเอาใจชายารักอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องในหน้าที่ของสวามีที่ดีเขาเติบโตมาท่ามกลางบิดาที่มีหลายภรรยา ตัวของเขาเป็นบุตรชายที่เกิดจากหนึ่งในภรรยาของบิดา จากภรรยาหลายๆ คนนั่นความรักที่ได้มาจึงมักจะถูกแบ่งสันปันส่วนจากพี่น้องต่างมารดา ถึงแม้ว่ามารดาของเขาจะเป็นถึงฮองเฮา แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่ามารดาของเขาก็ไม่เคยที่จะได้รับความรักจากสามีได้อย่างเต็มที่ เขาเคยเห็นมารดาของเขาแอบร่ำไห้น้อยใจอยู่หลายครั้ง จนถึงขั้นที่เคยคิดจะพาเขาหนีออกจากวัง จนเขาต้องเลือกที่จะทำงานหนัก เพื่อให้มา

  • เพียงนาง   เพียงนาง 2

    “เจ้าไม่ควรทำอย่างนี้ อาเหมย มีอะไรเจ้าก็ควรบอกกล่าวแก่ข้า ข้ายอมเจ้าทุกอย่าง” จ้าวจิ่นหลงเอ่ยออกมาอย่างนั้น พลางเอื้อมมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าที่ทั้งเย็นเยียบทั้งแดงชาดของนางเบาๆ ตั้งแต่เจอกันเขายังไม่เคยเห็นสภาพอย่างนี้ของนางนางทำเขาใจสั่นไม่เบาเขาไม่อยากเสียนางไป เขารักนางถึงเพียงนี้ นางไม่สิทธ์ไปจากเขา ไม่ว่าด้วยวิธีใด โดยเฉพาะการทำร้ายตัวเองเฉินเจียวเหมยเหม่อมองใบหน้าของเจ้าจิ่นหลงในระยะประชิดใบหน้าของเขา ฝ่ามือของเขา สัมผัสของเขา กลิ่นอายของเขา อา...นางทำใจไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ นางหลงใหลเขาถึงเพียงนี้ นางทำใจไม่ได้แน่ๆ หากเขาจะต้องเข้าหอกับสตรีนางอื่น หากนางได้เห็นอย่างนั้นแล้วทำใจไม่ได้ สู้ไม่ต้องอยู่ไม่ต้องเห็นยังจะดีเสียกว่า“ข้ามิใช่สตรีที่ดี ข้าจะกลายร่างเป็นสตรีร้ายกาจเพียงใด หากต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในวังหลังของท่าน คอยดูแลมวลบุบผาให้ท่าน อาหลง หากเป็นอย่างนั้น ข้าขอไปอยู่ดูแลผู้ยากไร้ในถิ่นฐานทุรกันดารยังดีเสียกว่า” เฉินเจียวเหมยเลือกที่จะเอ่ยออกมาตามตรงอย่างไม่คิดที่จะยินยอมใดๆ นางมักจะมีจุดยืนของนางจ้าวจิ่นหลงได้ฟังถึงกับนิ่งอึ้งไปแน่นอนว่านางคงคิดจะทำจริงๆ หากวันนั้นมาถ

  • เพียงนาง   เพียงนาง 1

    ตามทางเดินทอดยาวระหว่างโรงน้ำชากับบ้านของเฟยเทียน เฉินเจียวเหมยกำลังเดินอย่างเร็วด้วยอาการเมามายคล้ายกับวิญญาณล่องลอยนางกำลังต้องการหนีมาทำใจเสียหน่อย นางต้องทำใจให้ได้ ภาพของอาหลงกำลังรื่นเริงบันเทิงยิ่งกับสตรีคนอื่นที่มิใช่ตัวนาง ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่านยากแก่การจัดการความเห็นแก่ตัวของตนอา...แย่แล้ว...ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดพี่สะใภ้ของนางที่เป็นฮองเฮาถึงได้ใจร้ายยิ่งนักนางกำลังจะกลายร่างเป็นอย่างนั้นหากนางต้องไปแต่งงานกับอาหลงที่เป็นถึงรัชทายาทจริงๆ แล้วในภายภาคหน้าเขาได้ขึ้นครองราชย์แล้วต้องมีสนมหลายคนจริงๆ นางคงจะใจร้ายไม่แตกต่างจากพี่สะใภ้แน่ๆอา...หรืออาจจะร้ายยิ่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยแย่แล้ว แย่แล้วเมื่อเข้ามายังห้องพักของเรือนรับรองได้แล้ว เฉินเจียวเหมยที่กำลังฟุ้งซ่านอย่างร้อนรุ่มเต็มขั้น จึงรีบเดินเข้าห้องอาบน้ำเพื่อที่หวังจะใช้การอาบน้ำช่วยให้ดับอารมณ์กรุ่นร้อนคล้ายดั่งลูกไฟที่กำลังปะทุอยู่ภายในอกให้มอดดับไปแต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลภายในจิตใจของนางยังคงรุ่มร้อนคล้ายกับเปลวไฟเผาผลาญ อยากจะแพ้วพานใส่เหล่าสตรีทุกนางให้ตายตกตามกันไปทุกคนอยากฆ่าพวกนางยิ่งนักเฉินเจี

  • เพียงนาง   สตรีของรัชทายาท 3

    เวลาแห่งการร่ำสุราผ่านไปอย่างเชื่องช้าเป็นชั่วยามผ่านไป เฉินเจียวเหมยพาร่างกายและสติที่เริ่มจะไม่อยู่กับร่องกับรอยด้วยอาการเมามายอย่างที่ไม่เคยเป็นเดินออกไปจากห้องแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบได้ คงเหลือเอาไว้เพียงซูเซียว ซูฮวา และหย่าหลินยังคงนั่งดื่มกินอยู่ด้วยกันและเพียงไม่นานซูเซียวจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินไปหาเฟยเทียนที่กำลังนั่งร่ำสุราตามประสาบุรุษอยู่อีกห้องหนึ่งกับอาหลงและสหายอีกหนึ่งคนเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่พี่สาวคุยกับหย่าหลินจนเป็นเหตุให้อาเหมยคล้ายกับเปลี่ยนพฤติกรรมไปจนน่าเป็นห่วง “อาเหมยไปที่ใด” เสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจของจ้าวจิ่นหลงถามขึ้นไปทางซูเซียวเมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่เป็นหัวข้อสนทนากันระหว่างซูฮวากับหย่าหลิน “ข้าไม่รู้ นางบอกแค่ว่าขอหนีไปทำใจ” ซูเซียวตอบตามจริงและเนื่องจากนางยังไม่รู้ว่าอาหลงมีฐานะใดนางจึงเอ่ยไปด้วยระโยคอย่างนั้น จ้าวจิ่นหลงพลันชะงักงันไป และเพียงอึดใจเขาจึงรีบลุกขึ้นแล้วก้าวเท้ายาวๆ ออกจากห้องแห่งนี้ไปในทันทีอย่างไม่รีรอ เฟยเทียนรีบลุกขึ้นมาประคองร่างบางของซูเซียวเอาไว้ พลางถามนางอย่างห่วงใย “เจ้าเหนื่อยหรือไม่ ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน”“ไ

  • เพียงนาง   สตรีของรัชทายาท 2

    เวลาแห่งการดื่มเหล้าหวังสานสัมพันธ์ไมตรีระหว่างกันผ่านไปอีกครู่ใหญ่ “นี่ๆ พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าการแข่งขันของเมืองเราปีนี้ช่างสำคัญยิ่งนัก” หย่าหลินที่ดื่มเหล้าจนมึนเอ่ยออกมาอย่างเป็นกันเองไร้ความขุ่นเคืองใดๆ ไปเสียแล้ว “อันใด” ซูฮวานั่งท้าวคางถามออกไปอย่างมึนๆ เช่นเดียวกัน “การแข่งขันปีนี้หาใช่แค่การแข่งขันเพื่อแสดงออกถึงความสามารถประกาศศักดาเพื่อให้มีบุรุษมาหมายตาไม่แต่...” หย่าหลินอธิบายยาวเหยียดเว้นคำเพียงนิดเพื่อดื่มน้ำเมา แล้วเอ่ยต่อ “มันเป็นการคัดเลือกสาวงามผู้มีคุณสมบัติเพียบพร้อมเพื่อส่งตัวเข้าวัง” “ไปเป็นสนมหรือ” ซูฮวายังคงนั่งเอามือท้าวคางถามออกไปอย่างมึนๆ “มิใช่ๆ” หย่าหลินยังคงเอ่ย “เป็นของขวัญของกำนัลแด่องค์รัชทายาทอายุครบยี่สิบห้าชันษาต่างหากเล่า” แกร๊ง! จอกเหล้าถึงกับหลุดมือใครบางคน ซูเซียวถึงกับหันไปมองเฉินเจียวเหมยผู้เป็นเจ้าของจอกเหล้าจอกนั้นก่อนจะช่วยเฉินเจียวเหมยหยิบจอกเหล้าขึ้นมาให้อย่างงุนงง สงสัยอาเหมยคงจะเมาแล้วกระมัง หย่าหลินยังคงเอ่ยต่อ “หากโชคดีในภายภาคหน้าเมื่อรัชทายาทได้ขึ้นครองราชย์สตรีที่ส่งเข้าไปถวายตัวให้พระองค์ก็อาจจะได้เลื่อนขั้นเป็นถึงพระสนม

  • เพียงนาง   สตรีของรัชทายาท 1

    “ในเมื่อผลการประลองยังไม่เป็นที่แน่ชัดและเจ้าไม่คิดที่จะยอมรับ เช่นนั้นแล้ว” เฉินเจียวเหมยที่ยังคงยืนท้าวสะเอวอยู่เอ่ยขึ้นไปทางซูฮวาและหย่าหลิน “ข้าเลี้ยงเหล้าพวกเจ้าดีหรือไม่ เรามานั่งคุยกันดีๆ มาเถอะ!” ถึงแม้ว่าจะเป็นประโยคคำถามแต่ก็หาได้รอคำตอบไม่ เฉินเจียวเหมยกล่าวเสร็จก็รวบข้อมือของซูฮวาและหย่าหลินให้เดินตามตนเองไป และเพียงไม่นานเสี่ยวเอ้อร์ผู้รู้ความก็สามารถจัดการห้องรับรองสำหรับแขกคนสำคัญได้อย่างรวดเร็ว อาหารเลิศรส สุราเลิศล้ำ ก็มีมาวางเอาไว้บนโต๊ะได้อย่างทันใจ สมกับเป็นโรงน้ำชาของผู้ยิ่งใหญ่อย่างเฟยเทียน ซูฮวากับหย่าหลินเพียงนั่งดื่มเหล้าและกินอาหารด้วยสายตาพิฆาตแวววาวใส่กันตลอดเวลา ซูเซียวเพียงนั่งจิบชาอยู่ใกล้ๆ กับเฉินเจียวเหมยด้วยท่าทางนุ่มนวลอ่อนโยนตามวิสัยแตกต่างจากสตรีอีกสองนาง เฉินเจียวเหมยเพียงกินอาหารอย่างสบายอารมณ์ตามวิสัยเช่นเดียวกัน ทั้งสี่สตรีกำลังนั่งร่ำสุราอยู่ด้วยกันตรงโต๊ะเล็กทรงเตี้ยขนาดพอเหมาะ โดยที่ทั้งสี่นางนั่งอยู่กับพื้นรอบโต๊ะบนผ้าบุนวมรอบทิศทาง “ข้าอยากรู้เสียจริงว่าพวกเจ้ามีความแค้นอันใดต่อกัน” เฉินเจียวเหมยถามออกไปทางซูฮวาและหย่าหลิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status