Home / รักโบราณ / เพียงนาง / คุยกันไม่รู้เรื่อง 1

Share

คุยกันไม่รู้เรื่อง 1

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-10-25 22:26:51

ภายในรถม้าที่กำลังเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ตามทางคันนี้มีสองสตรีกำลังนั่งอยู่ในนั้น

หนึ่งในสตรีสองนางนี้คือเฉินเจียวเหมย นางกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องราวความผิดพลาดอย่างมหันต์ที่สุดในชีวิตสตรีของนาง

มันเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ไม่อาจจะหาสิ่งใดมาเปรียบเทียบได้

นางเสียบริสุทธิ์ให้กับบุรุษแปลกหน้า

นางเสียบริสุทธิ์ให้กับบุรุษไปแล้วทั้งๆ ที่นางยังมิเคยได้มีคนรัก ทั้งยังมิได้แต่งงาน

หากว่าวันหนึ่งนางเกิดปักใจรักใครขึ้นมา หรือหากว่าวันหนึ่งนางเกิดได้แต่งงานกับใครขึ้นมา แล้วนางจะต้องทำอย่างไร

หากว่านางได้แต่งงานกับเขาแล้วสิ่งที่นางได้ทำผิดพลาดไปในวันนี้เล่า นางจะสามารถหลวกลวงบุรุษผู้ที่เป็นคนรักของนางได้หรือไม่

นางจะลืมอดีตในวันนี้ได้หรือ หากในภายภาคหน้านางได้แต่งงานกับใครสักคนหนึ่งไป

แน่นอนว่านางทำไม่ได้ นางไม่สามารถหลอกลวงใครได้โดยเฉพาะกับตนเอง

นางจะทำอย่างไรดี นางพลาดไปแล้วอย่างนี้ แล้วนางจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างไร เรื่องที่ผิดพลาดในครั้งนี้ มันใช่เรื่องน้อยนิดเสียที่ไหน มันคือทั้งชีวิตของนางเลยใช่หรือไม่

นางควรทำอย่างไรดี...

“อาเหมย” เสียงแว่วหวานของสตรีนามว่าหลิวหลีภรรยาคนงามของจูหยวนจางสหายของเฉินเจียวเหมยเอ่ยขึ้น เสียงนั้นดึงสติของเฉินเจียวเหมยในทันที

หลิวหลียังคงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงหวานล้ำแฝงความห่วงใย “เจ้าเป็นอะไร เจ้าหนีใครมาหรือ อาเหมย”

“ป่ะ เปล่านะ ข้ามิได้หนีใคร” เฉินเจียวเหมยรีบตอบ “ข้าแค่เป็นห่วงเจ้า ข้าอยากตามไปดูแลเจ้าหากว่าเจ้าตั้งครรภ์”

“อืม...เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” หลิวหลีเอ่ยแค่นั้นแม้จะรู้สึกห่วงใยเฉินเจียวเหมยอยู่มาก แต่ทว่า...หากเฉินเจียวเหมยไม่อยากบอกกล่าว นางก็ไม่อาจเซ้าซี้ได้แต่อย่างใด

หลิวหลีเพียงนั่งเงียบงันไร้วาจาใดๆ คงเหลือไว้เพียงดวงตาที่แสดงออกถึงความห่วงใยแค่เพียงเท่านั้นที่ส่งตรงให้เฉินเจียวเหมยในยามนี้

เฉินเจียวเหมยนั้นไม่อาจบอกเล่าเรื่องราวปัญหาชีวิตที่มืดหม่นของตนให้ใครฟังได้ มันเป็นเรื่องที่ไม่อาจเล่าสู่ให้ใครฟังได้แต่อย่างใด มันเป็นเรื่องที่อัปยศอดสูเป็นที่สุด มันไม่ควรเกิดขึ้นกับนาง

หญิงสาวคิดในใจอยู่อย่างนั้นพลางเมียงมองออกไปทางนอกหน้าต่างของรถม้าอย่างระแวงอยู่ตลอดเวลา

หึ! เขาอยู่ตรงนั้น บนหลังม้านั่น เขาผู้นั้น

นางอับอายจนอยากจะเอาหน้างามๆ ของนางมุดเข้าไปในดินเหลือจะกล่าว นางอับอายเกินกว่าจะสู้หน้าของเขาได้ไหว นางไม่กล้าแม้แต่จะสบตาคมกริบของเขา มันน่าอายเกินไป น่าอายเหลือเกิน เฉินเจียวเหมยยังคงครุ่นคิดอยู่อย่างนั้น พลางนั่งพิงผนังรถม้าอย่างเหม่อลอย

ยิ่งคิดยิ่งน่าอาย มันอับอายจนมิรู้ได้ว่าจะพรรณนาออกมาว่าอย่างไรดี ยามนี้ นางไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้เลย เรื่องในคืนนั้นมันเป็นตราบาปของนาง

ช่างน่าชังนัก! นางตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ได้อย่างไร

น่าอายจริงๆ

เฉินเจียวเหมยนั่งเหม่อลอยอยู่จนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่มิรู้ได้ หญิงสาวจึงรู้สึกว่าหลิวหลีได้หายไปจากตำแหน่งข้างๆ กายของนาง แล้วแทนที่ด้วยใครบางคน

ใครบางคนที่…

ดวงตาเรียวยาวคมกริบทรงพลัง เรียวคิ้วพาดเฉียงคล้ายกระบี่ จมูกเป็นสันตั้งตรง ริมฝีปากได้รูปสีแดงสดน่าจดจำ อืม...

หือ!

เฉินเจียวเหมยพลันได้สติ เมื่อเห็นใบหน้าได้รูปของบุรุษตรงหน้าได้อย่างชัดเจน

เขาเข้ามานั่งภายในรถม้าตั้งแต่เมื่อไหร่?

หญิงสาวถึงกับถลึงตาใส่บุรุษตรงหน้าพร้อมเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น ใบหน้าของนางพลันเห่อแดงขึ้นมาจนถึงใบหู ความอับอายยังคงมีอยู่ ทั้งยังมากมาย

กับบุรุษตรงหน้า กับกิจกรรมหรรษา กับลีลาเร่าร้อน

อา...นางจะทำอย่างไรดี มุดหน้าทางใดได้บ้างนี่ อับอายเหลือเกิน

เมื่อคิดได้แล้วก็หันซ้ายหันขวา หาที่ทางเตรียมมุดใบหน้าฝังเอาไว้ที่ใดซักที่

“อาเหมย...” เสียงทุ้มต่ำน่าฟังพลันดังขึ้นจากริมฝีปากสีแดงสดน่ากดจูบของบุรุษตรงหน้า 

ทั้งน้ำเสียงทั้งนามเรียกขานทำเอาเฉินเจียวเหมยถึงกับตัวแข็งทื่อ

“ข้าจะเรียกเจ้าว่าอาเหมย ส่วนเจ้าก็เรียกข้าว่าอาหลง ดีหรือไม่” เขายังคงกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ จ้องมองนางเขม็ง

“ยามนี้ข้าไม่สะดวกให้เจ้าเรียกขานนามจริงของข้า เจ้าคงไม่ว่าอะไร” เขายังคงเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงน่าฟังเหลือเกิน

เฉินเจียวเหมยได้แต่มองตามริมฝีปากสีแดงๆ ของเขาโดยหาได้มีข้อมูลอันใดเข้าสมองของนางไม่

หากไม่เจอกันด้วยเหตุการณ์สุดระทึกอย่างนั้นก็คงดี

ไม่น่าเลย เฉินเจียวเหมย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพียงนาง   ร่วมทุกข์2

    เขาเป็นองค์ชายที่มีตำแหน่งพ่วงท้ายเป็นรัชทายาทแน่นอนว่าย่อมมีเรื่องเช่นนี้ เขาไม่แปลกใจ“อาเหมย...” จ้าวจิ่นหลงตัดสินใจปลุกสตรีในอ้อมกอดให้ตื่นขึ้นมาหลังจากที่นางกำลังเคลิบเคลิ้มอยู่ภายในอ้อมอกของเขา“หืม...” เฉินเจียวเหมยจึงงัวเงียตื่นขึ้นมาจากนิทรารมย์ฝันหวานที่นางไม่รู้เลยว่ามันมิใช่แค่เพียงความฝัน“ตื่นขึ้นมาก่อน ยามนี้อันตราย” จ้าวจิ่นหลงยังเอ่ยคำไม่ทันจบ รอบด้านของเขาพลันปรากฏเงาร่างของชายชุดดำหลายคนกำลังคืบคลานพรางตัววูบไหวใกล้เข้ามา“อันใด” เฉินเจียวเหมยพลันได้สติตื่นเต็มตาด้วยสัญชาตญาณจ้าวจิ่นหลงไม่เสียเวลาอธิบาย เขารีบจับยกร่างของเฉินเจียวเหมยขึ้นอุ้มแล้วนำนางไปวางเอาไว้บนหลังม้าในทันที“เจ้าขี่ม้าเป็นหรือไม่ ขี่ม้าหนีไป ข้าจะอยู่ทางนี้เอง” ชายหนุ่มรีบเอ่ย“ท่านขึ้นมา” เฉินเจียวเหมยตอบแค่นั้นพลางจับสาบเสื้อช่วงไหล่ของจ้าวจิ่นหลงแล้วย้ำ “ขึ้นมา!”จ้าวจิ่นหลงจึงรีบขึ้นหลังม้าซ้อนกับร่างของเฉินเจียวเหมยในทันทีก่อนจะเอื้อมมือไปจับดาบที่อยู่ตรงข้างลำตัวของม้าแล้วดึงออกจากฝักอย่างไม่เสียเวลาคิดอันใดเนื่องจากชายชุดดำได้เข้ามาจนถึงตัวของพวกเขาแล้วในยามนี้“ไป!” เสียงคำรามของจ้าวจิ่

  • เพียงนาง   ร่วมทุกข์1

    ภายใต้ร่มไม้ร่มรื่นของป่าใหญ่หนาทึบ จ้าวจิ่นหลงเพียงบังคับม้าให้เดินเท้าอยู่เพียงเบาๆ มิได้เร่งรีบเหมือนดั่งเช่นในคราแรกเนื่องจากว่าในยามนี้ มีสตรีผู้หนึ่งผู้ซึ่งนั่งอยู่ภายในอ้อมแขนของเขาบนหลังม้าตัวเดียวกันนี้ นางกำลังนั่งสัปหงกคอพับคออ่อนอยู่ตรงแผงอกของเขานางคงใช้เรี่ยวแรงในการวิ่งหนีเขาเมื่อก่อนหน้านี้มากจนเกินไป หนีแล้วหนีอีกอยู่นั่น วิ่งไปทั่วหมู่บ้านอยู่อย่างนั้น มิรู้ได้ว่าจะหนีทำไมกันนักกันหนา หนีอยู่ได้ น่าขย้ำนัก!จ้าวจิ่นหลงนึกเข่นเขี้ยวอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มเพียงก้มหน้ามองเฉินเจียวเหมยที่กำลังนั่งหลับอยู่ตรงด้านหน้าของเขาในยามนี้ เขาจึงเอื้อมมือที่จับกุมเอวของนางขึ้นมาแล้วจับเอาศีรษะของนางกดเอาไว้ให้แนบกับแผงอกของเขา ให้นางได้หลับสบายอยู่ตรงแผงอกของเขา เขาเกรงว่านางจะสัปหงกจนตกม้าไป แล้วคอหักตายไปเสียก่อนที่จะได้เข้าพิธีแต่งงานกับเขามีสตรีมากมายที่ต้องการจะแต่งงานเป็นชายาของเขาแต่ละนางหาเรื่องเข้ามาหาเขาในวังไม่เว้นในแต่ละวัน จนเขานึกรำคาญก็เลยแอบปลอมตัวออกท่องเที่ยวไปถ้วนทั่วแผ่นดินจนมาถึงแคว้นเฉินแห่งนี้ แต่นาง...นางหนีเขา…นางทำการอุกอาจเพื่อที่จะ

  • เพียงนาง   เริ่มต้นการเดินทางของสองเรา 2

    เฉินเจียวเหมยเงียบงันพลันครุ่นคิดหาทางหนีทีไล่อยู่ภายในใจ เอาอย่างไรดี?“หยุดคิดที่จะหนีข้าได้แล้ว” จ้าวจิ่นหลงคำรามเสียงดังอย่างรู้เท่าทันสตรีตรงหน้าเฉินเจียวเหมยถึงกับสะดุ้งตกใจ“พูดดีๆ ก็ได้” หญิงสาวตะคอกกลับเสียงดัง“เจ้าคุยไม่รู้เรื่อง”“ท่านนั่นล่ะคุยไม่รู้เรื่อง”“เจ้านั่นล่ะ”“ท่านนั่นล่ะ”“ฮึ!”“หึ!”ทั้งสองสะบัดหน้าหนีออกจากกันคนละทิศละทางแม้ว่ากายงามจะยังคงแนบชิดพวกเขายังคงนั่งซ้อนกันอยู่บนหลังม้าอึดใจต่อมา จ้าวจิ่นหลงจึงทำท่าจะควบตะบึงม้าให้ออกตัวเดินทางอีกครา โดยที่มือข้างหนึ่งของเขายังคงรัดรึงโอบกอดร่างของเฉินเจียวเหมยที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเขา ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็คุมบังเหียนม้าเพื่อบังคับให้ไปตามทางเฉินเจียวเหมยเห็นดังนั้นจึงรีบเอื้อมมือของตนขึ้นจับมือของจ้าวจิ่นหลงที่กำลังจับบังเหียนม้าอยู่อย่างรวดเร็วเมื่อมือเล็กจับกุมมือใหญ่ ชายหนุ่มจึงชะงักไป“หยุดเลย!” เฉินเจียวเหมยยังคงเสียงดัง“อันใด!”“ท่านจะพาข้าไปที่ใด”“พาเจ้ากลับแคว้นจ้าว”“ข้าไม่ไป”“ทำไม”“ไม่ไปก็คือไม่ไป ท่านนี่ พูดไม่รู้เรื่อง” เฉินเจียวเหมยเริ่มหงุดหงิดเหลือประมาณ“...”จ้าวจิ่นหลงถึงกับเงียบงัน เข

  • เพียงนาง   เริ่มต้นการเดินทางของสองเรา 1

    เฉินเจียวเหมยเพียงใช้หางตาแอบมองใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กันอย่างระแวงอยู่ตลอดเวลา เขากำลังนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยมาดของบุรุษที่มีเสน่ห์น่าแทรกกายเข้าหานางติดใจเขาเสียแล้ว นางเป็นสตรีอย่างนี้ได้อย่างไร อา...นางต้องอยู่ให้ไกลจากเรือนร่างอันยั่วยวนของเขา นางต้องหนีเขาไปให้ไกล ก่อนที่นางจะรู้สึกคลั่งเขาไปมากกว่านี้เรื่องอย่างนี้จะให้ใครล่วงรู้ไม่ได้ โดยเฉพาะกับบุรุษน่าตายผู้นี้ นางจะต้องเก็บข่มมันเอาไว้ให้ลึกที่สุด ไม่ได้ ไม่ได้นางจะเสียชื่อหมอหญิงผู้เก่งกาจทุกสถานการณ์อย่างนี้...ไม่ได้! จะเสียท่าให้กับยาปลุกกำหนัดของตัวเองอย่างนี้...ไม่ได้! จะตกอยู่ในสภาพที่เป็นอยู่อย่างนี้...ไม่ได้! จะ....หือ!และแล้วความคิดที่ต้องการจะหนีใครบางคนด้วยเหตุผลทั้งหลายทั้งปวงของเฉินเจียวเหมยพลันตกไป ด้วยเพราะว่าใครบางคนนั้นพลันอุ้มนางลงจากรถม้าแล้วพานางมาขึ้นนั่งบนหลังม้าก่อนจะควบตะบึงม้าพานางออกมาอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาดและเพียงอึดใจ เสียงควบตะบึงม้าพลันดังขึ้นมาในโสตประสาทของเฉินเจียวเหมยและทำให้นางได้เข้าใจไม่...เฉินเจียวเหมยได้แต่ร่ำร้องอยู่ในใจเวลาผ่านไปครู่ใหญ่แล้วเฉินเจียวเหมยยังคงถูกบุรุษแป

  • เพียงนาง   คุยกันไม่รู้เรื่อง 3

    เขาทำท่าทางดุดันน่าเกรงขามข่มคำรามใส่นาง ในขณะที่จับกดนางไม่ยอมปล่อยนางรู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดที่ทำให้เขาไม่อาจถอนร่างกายของเขาออกจากร่างกายของนางเพราะว่านางเองก็เป็นอย่างนั้นเช่นเดียวกันนางโอบกอดกระหวัดรัดรึงเขาเอาไว้อย่างแนบแน่นในขณะที่เขาก็ถาโถมเข้าใส่นางอย่างหนักหน่วง เราสองสอดประสานกันอย่างเหนียวแน่นเกินห้ามใจเกินยับยั้งแต่ทว่า...เขามิได้รักนาง เขามิได้ต้องการนางแต่อย่างใดนางเองก็เช่นเดียวกันนางมิได้ต้องการเขา ไม่ได้รักเขานางจะรักเขาได้อย่างไร เขาเป็นใครนางยังไม่รู้เลยที่สอดประสานกับจนเนื้อนวลเกือบจะแหลกเหลวนั่น ก็เพราะยาสูตรพิเศษของนางล้วนๆนางกับเขาไม่ควรเจอกัน นางไม่ควรเจอกับเขาอีก นางอยากจะลืมลืมความอับอาย ลืมความอัปยศดอดสูนี่ นางควรหนี นางจะต้องหนีเขา นางต้องหนีเขาเท่านั้น นางควรหนีเขาไปที่ใดดีเมื่อเฉินเจียวเหมยคิดได้อย่างนั้นจึงทำท่าจะกระโจนตัวหนีจ้าวจิ่นหลงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ นอกจากฝ่ามือใหญ่หนาของเขาที่จับกระชากนางให้นั่งอยู่กับที่นิ่งๆ แล้ว ใบหน้าของจ้าวจิ่นหลงพลันแนบชิดเข้ามา แล้วกดจูบนางอย่างเร่าร้อน“อื้อ...อื้อ” เฉินเจียวเหมยถึงกับตกใจอุทานอยู่

  • เพียงนาง   คุยกันไม่รู้เรื่อง 2

    เขาเป็นบุรุษน่าตายที่สุดในชีวิตของนางนางควรทำอย่างไรดี ทำตัวน่ารังเกียจไปเลยดีหรือไม่ จะอย่างไรเสีย นางก็น่ารังเกียจอยู่แล้วในยามนี้ นางเป็นสตรีน่ารังเกียจไปหมดแล้วตั้งแต่ค่ำคืนของคืนนั้นจ้าวจิ่นหลงที่ได้ถือโอกาสเข้ามาภายในรถม้าคันนี้เป็นผลสำเร็จเมื่อจูหยวนจางอุ้มภรรยาลงจากรถม้าไปเพื่อที่จะได้ไปนั่งชื่นชมทิวทัศน์พร้อมกับแนบชิดคลอเคลียไปมาอยู่กับภรรยาที่ริมลำธารนั่น เขาจึงเข้ามาเพื่อที่ต้องการจะคุยกับสตรีน่าตายผู้นี้ให้รู้เรื่อง เมื่อเขาเข้ามานั่งในรถม้าคันเดียวกันกับนางแล้ว เขาเพียงนั่งจ้องมองนางนิ่งๆ เพื่อหยั่งเชิงนาง เพื่อดูว่านางจะหนีเขาไปที่ใดได้อีกเมื่อเขาเห็นนางไม่มีทีท่าว่าจะหนีไปที่ใดแล้ว เขาจึงเริ่มต้นบทสนทนาแนะนำตัวและทำความรู้จักกับนางใช่! เขากับนางควรทำความรู้จักกันด้วยการเสวนากันดีๆ แบบปกติของบุรุษและสตรีทั่วไปถึงแม้ว่า เขากับนางจะทำความรู้จักกันด้วยเรือนร่างทุกสัดส่วน ด้วยลีลาเร่าร้อนหลายกระบวนท่าไปแล้วก็ตาม แต่ทว่า...นอกจากนางจะไม่หนีเขาแล้ว นางยังทำหน้าตาน่าจับกดอีกนางนั่งเหม่อลอยอยู่ครู่ใหญ่ แล้วซักพักนางก็หันหน้ามามองใบหน้าของเขาเพียงอึดใจนางก็ใช้สายตาของนา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status