LOGINผลัดกันเติมอีกไม่กี่อึดใจหม้อก็เหลือแต่เพียงความว่างเปล่า แววตาขบขันช้อนขึ้นมองใบหน้าคมคายซึ่งมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายเต็มหน้าผากด้วยความเอ็นดูก่อนเอื้อมไปหยิบทิชชูมายื่นให้"เผ็ดเหรอคะ ไว้รอบหน้าหนูจะซื้อรสหมูสับมาใช้คืนนะคะ""ไม่จำเป็น ฉันไม่ได้ชอบกินของไร้ประโยชน์พวกนี้""หื้มมม คุณติณณ์ไม่รู้อะไรซะแล้ว เจ้านี่น่ะมีประโยชน์มากเลยนะคะ""ประโยชน์?""ค่ะ เอาไว้ชวนผู้หญิงมาห้องไงคะ"พอเห็นชายหนุ่มยังทำหน้ามึนงงเธอก็หลุดหัวเราะร่วน ลืมนึกไปว่าคนอย่างเขาคงไม่มีเวลามานั่งดูซีรี่ย์แบบเธอแน่ คนคลั่งหนุ่มหล่อแดนกิมจิจึงสาธยายประโยชน์ของมาม่าซองเล็กให้ฟังต่อ"ก็เวลาผู้ชายอยากชวนผู้หญิงมาห้อง คนไทยจะถามคนที่ถูกใจว่า 'เธอ ๆ มาดูเน็ตซิกซ์ที่ห้องเราไหม' หรือไม่ก็ 'เธอ ๆ ห้องเรามีแมวนะ มาดูไหม' แต่ถ้าเป็นคนเกาหลีเขาจะใช้วิธีถามว่า 'มากินรามยอนที่ห้องเราไหม' ไงคะ""งั้นมาอีกไหมล่ะ ฉันมีทั้งสองอย่างนะ"เพียงเท่านี้พวงแก้มนวลก็เห่อร้อนจนแดงก่ำ เสหลบสายตากรุ้มกริ่มทันควัน นี่เขาชวนเพราะรู้ในความหมายแฝงหรือคิดแกล้งพูดไปอย่างงั้นเนี้ยสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านที่ก่อตัวขึ้นแล้วก็เหลือบตาไปมองกล่องเล็ก ๆ
"โกรธเหรอคะ นะ...หนูขอโทษ""เปล่า"เอ่ยตอบทั้งที่ยังไม่ยอมหันกลับไปสบตา กระทั่งสัมผัสได้ถึงแรงกระตุกและการถูกจับจ้อง ติณณ์จึงถอนหายใจเฮือก เอี้ยวหน้ากลับมามองแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม"ง้อ"คำสั้น ๆ มาพร้อมนิ้วก้อยทำเอาคนที่เพิ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวครั้งแรกนิ่งงัน ทั้งที่เคยมองว่าการกระทำนี้ดูปัญญาอ่อน ทว่าหนนี้ทำไมมันกลับทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดแปลกไปจากเดิมอย่างประหลาดแม่งง นี่กูเป็นอะไรไปอีกแล้ววะเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มมีท่าทีลังเลบริ้งค์จึงฉวยโอกาสนี้ยกมือสากขึ้นข้างหนึ่งขึ้นก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกี่ยวเข้ากับนิ้วก้อยของอีกฝ่ายแล้วออกแรงลากชายหนุ่มให้เดินตามกลับมาหย่อนสะโพกลงนั่งบนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์แทนที่ตำแหน่งเดิมของเธอพร้อมบีบบังคับกลาย ๆ"เดี๋ยวหนูทำชามใหม่มา รอแป็บนะคะ""ฉันไม่หิว""แต่หนูหิวนี่คะ แล้วอีกอย่างหนูก็ไม่อยากนั่งทานคนเดียวด้วย"เพราะถูกประโยคท้ายสะกิดใจ ร่างสูงที่ตั้งใจจะรอจังหวะให้เด็กสาวเผลอแล้วหลบออกจากห้องครัวไปอย่างเงียบ ๆ จึงชะงักเขาเหม่อมองแผ่นหลังบอบบางของเด็กสาวที่ง่วนกับการเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบเซตใหม่ด้วยแววตาอธิบายยากนิ่งนาน จมลงในห้วงความคิ
ติณณ์หันขวับ แม้อีกฝ่ายจะพยายามย่อย่องทว่าด้วยสัญชาตญาณของคนที่ผ่านการถูกลอบทำร้ายอยู่หลายหนเมื่อครั้งถูกดันขึ้นเป็นประธานกรรมการใหม่ ๆ จึงสามารถรับรู้การมาถึงของเด็กสาวได้อย่างรวดเร็ว"หิวหรือยัง""มากกกกก"บริ้งค์ลากเสียงเพื่อเน้นย้ำพร้อมพยักหน้าหงึกหงักอย่างกระตือรือร้น เขย่งปลายเท้าขึ้นพลางชโงกหน้าเข้าไปมองต้นตอของกลิ่นหอม ๆ แล้วคิ้วเรียวก็เลิกขึ้น ดวงตาฉายแววประหลาดใจระคนขบขันหลังมองเห็นทุกอย่างเต็ม ๆ ตา"นี่อะไรคะ"เห็นแล้วยังจะถาม?ติณณ์ถอนหายใจใส่คนแสร้งทำหน้าใสซื่อทั้งที่แววตาวาววับเกเรแล้วพยักพเยิดหน้าเป็นเชิงสั่งให้เด็กสาวขยับตัว ย้ายไปนั่งรอที่เก้าอี้จากนั้นจึงหันกลับไปยกหม้อขนาดพอเหมาะออกจากเตา มาวางตั้งบนที่รองซึ่งได้อีกฝ่ายช่วยหยิบมาให้"ทำเองเหรอคะ""แล้วเธอเห็นคนอื่นไหมล่ะ""น่ากินเชียวว~"บริ้งค์หัวเราะร่วน เลิกเย้าแหย่คนหน้าบึ้งแล้วเงยขึ้นมาเอ่ยปากชมเสียงอ่อนเสียงหวานอย่างเอาใจ แม้ว่าชามตรงหน้าจะเป็นเพียงมาม่ากึ่งสำเร็จรูปที่มีไข่ไก่ซึ่งขอบปริ ส่งของเหลวสีส้มนวลกระจายตัวโปะอยู่ด้านบนทว่าหลังจากตักคำแรกเข้าปากไปแล้ว เธอก็แทบอยากจะขอคำพูดเมื่อครู่คืนมันเสียเดี๋ยวนั้
“ขอบคุณค่ะ”แม้น้ำเสียงที่ใช้จะเจือด้วยความไม่พอใจอยู่บ้างแต่กลับทำให้คนได้รับยกยิ้มมุมปากอย่างอดไม่ไหว หย่อนสะโพกลงนั่งบนเตียงก่อนโน้มตัวเข้าไปใกล้ ส่งผลให้คนที่กลัวถูกจับกินใจสะดุ้ง ร้องโวยวายเสียงดัง“ไม่เอานะ หนูไม่ทำแล้ว!”“รู้แล้ว”ป้อก!มือใหญ่ที่เอื้อมไปทางโต๊ะหัวเตียงแวะเคาะลงหน้าผากนูนของคนหน้าแดงก่อนยืดต่อไปคว้าเอาอุปกรณ์สื่อสารมายื่นให้“มีคนโทรมาเหรอคะ”บริ้งค์ทำหน้าฉงน เอ่ยถามพลางจรดปลายนิ้วกดปลดล็อก พลันดวงตาก็เบิกกว้าง สีหน้าประหวั่นพรั่นพรึงหลังพบว่าจำนวนสายไม่ได้รับทั้งหมดนั้นปาไปเกือบครึ่งร้อยโดยที่เยอะที่สุดเห็นจะเป็นเพื่อนสาวคนสนิท ‘เคท’ รองลงมาคือเลขาหน้าใหม่ จากนั้นก็เป็นเบอร์เก้าหลักของที่บ้านและบิดาตามลำดับ“โอ้ยยยยย ตาย! ตายแน่ ๆ กลับบ้านไปจะโดนนมใหญ่หยิกจนเนื้อหลุดไหมเนี้ย”คนมีความผิดหลายกระทงพึมพำโอดครวญ นึกภาพสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวินาทีที่เธอย่างกรายเข้าไปในตัวบ้านแล้วทำหน้าเข็ดขยาด ข่มความปวดเมื่อยที่ยังรุมเร้า รีบกระถดกายไปทางปลายเตียง“จะไปไหน”“หนูต้องกลับบ้านแล้วค่ะ วันนี้ป๊ากลับมาจากต่างจังหวัด ถ้ารู้ว่าเมื่อคืนหนูไม่ได้กลับไปนอนบ้าน โดนบ่นหูชาแน่ ๆ
ติณณ์กระตุกยิ้มมุมปากพลางดันมือเรียวข้างที่ถือฝักบัวให้เลื่อนมาจ่ออยู่เหนือเนินเนื้ออวบอิ่มเฮือก!ร่างอรชรสะดุ้งน้อย ๆ ในตอนที่ความอบอุ่นของสายน้ำไหลลงชโลมร่างกายก่อนจะตามด้วยฝ่ามือสากซึ่งเต็มไปด้วยฟองสบู่สีขาวนวล สอดเข้ามาลูบไล้เรือนร่างโดยไม่ขออนุญาต“อื้ออ คุณติณณ์ หนูทำเองค่ะ”เลิ่กลั่กวางขวดสบู่เหลวในมือลงบนเคาน์เตอร์ก่อนใช้มือข้างเดิมนั้นไล่ตะปบคว้ามือซุกซนที่ไม่ได้ทำแค่ลูบอย่างที่มันควรจะเป็น"ฉันไม่นอนกับคนสกปรก" บริ้งค์หน้าม้าน นึกค้านในใจ แล้วใครกันที่ทำให้เธอเหงื่อท่วมกายขนาดนี้ จากนั้นก็ถลึงตา กระแหนะแหนกลับเสียงขุ่น"อาบให้ตัวเองเถอะค่ะ เพราะหนูใจสะอาด อาบน้ำวันละครั้งก็พอ!""งั้นเหรอ วันละครั้งแต่ครั้งละสามน้ำ อืมม คงพอแหละ หึหึ"คราวนี้ปากเล็กถึงกับอ้าเหวอ เครื่องดับไปทันที เด็กหนอเด็ก ปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนมุมปากครู่หนึ่งก่อนที่ติณณ์จะปรับสีหน้าให้ดูเคร่งขรึมหมายจะตะล่อมกล่อมเธอต่อ"ถ้าไม่อยากถูกกินในนี้อีก ก็อยู่นิ่ง ๆ ทำตามที่ฉันสั่ง"ได้ผลชะงัด! คำขู่บวกกับสีหน้าจริงจังเป็นปกติทำให้เด็กสาวที่เคยขยุกขยิกไม่อยู่สุข สงบเสงี่ยมขึ้นกว่าเดิมหลายส่วนแม้จะมีส่งสายตาขุ่นขวาง
“ลงได้ไหม”“ได้ค่ะได้”บริ้งค์พยักหน้ารัว ๆ แล้วขาเรียวข้างหนึ่งก็ค่อย ๆ ยืดลงแตะพื้นเย็นเฉียบโดยมีมือใหญ่ของชายหนุ่มเจ้าของคำถามคอยช่วยประคอง“ไหวแน่นะ”ติณณ์รั้งตัวเด็กสาวไว้แล้วเอ่ยถามย้ำอีกหน หรี่ตามองอย่างไม่ไว้วางใจเพราะเจ้าหล่อนเล่นเชิดหน้าแหงนมองเพดานลูกเดียวขณะก้าวเดิน อีกทั้งสองขายังสั่นพั่บ ๆ จนเห็นได้ชัดอีกด้วย “สบายมากค่ะ”คนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่กัดฟันตอบเสียงใส แต่อวดเก่งต่อได้เพียงไม่กี่ก้าว ร่างกายก็ซวนเซจวนจะหมดเรี่ยวแรงเสียอย่างนั้นติณณ์ส่ายหน้าระอาใจ แม้จะไม่ชอบให้น้ำกระเซ็นเปรอะเปื้อนพื้นที่โซนที่ยืนอยู่ทว่าพอเห็นสภาพของเด็กสาวแล้วเขาก็อดหวั่นไม่ได้ว่าจะมีคนได้ล้มเอาหัวฟาดพื้นเสียก่อนอาบเสร็จ“มานี่”ออกคำสั่งแล้วดึงให้เธอถอยกลับมายืนใกล้ ๆ สอดสองมือเข้าใต้รักแร้ก่อนยกร่างอรชรให้ขยับขึ้นมานั่งบนเคาน์เตอร์ตามเดิมพร้อมกำชับเสียงเข้ม“รอ”สั่งเป็นหมาเชียวนะ!บริ้งค์ย่นจมูกใส่แผ่นหลังแข็งแรงด้วยความหมั่นไส้ เอียงคอมองชายหนุ่มที่กำลังจรดปลายนิ้วลงบนหน้าจอของเครื่องทำน้ำอุ่นสีเทาเมทาลิค สีหน้าประหลาดใจระคนฉงนว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรกระทั่งอีกฝ่ายหมุนตัวเดินกลับมาพร้อมอุปก