Masuk"อ๊ายย / อาส์"เสียงครวญครางดังประสานหากแต่ด้วยอารมณ์ที่แตกต่าง คนหนึ่งเจ็บแสบกับรอยแผลที่ได้รับส่วนอีกคนนั้นคำรามด้วยความสุขสมเมื่อร่องรักขมิบเกร็งในทุกครั้งที่เขาตวัดฝากร่องรอยไว้บนผิวกายที่เคยนวลเนียน เธอบีบรัดตัวตนเสียจนกายแกร่งสะท้านเสียวซ่านไปทุกอณูเพี้ยะ!"อื้ออ มะ...มันเจ็บนะ อา~""เจ็บ แต่ก็ตอดซะแน่นเชียวนะ ชอบใช่ไหมหื้ม จะเสร็จอีกแล้วใช่ไหม"บริ้งค์หน้าร้อนผ่าว ขัดเขินกับคำหยอกเย้าแสนหยาบโลนจนอยากมุดหนี แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าทุกคำที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ยิ่งเมื่อเขาแสดงความป่าเถื่อน มันกลับกระตุ้นให้เธอเสียวซ่าน อารมณ์พลุ่นพล่านกว่าปกติอย่างน่าอายพลันร่างอรชรก็สะดุ้งโหยง หลุดครางหวิว เด้งสะโพกตอบโต้รัวเร็วเมื่อกายแกร่งโน้มลงมาทาบทับทั้งยังสอดมือลอดเข้ามาบดขยี้ติ่งเกสรบวมเป่งร่วมด้วย"อะ อ๊า คุณติณณ์~""หึหึ ยอมรับเถอะว่าเธอชอบมัน"กระเซ้าเย้าแหย่เสียงพร่าแล้วมุมปากก็กระตุกยิ้มร้ายเมื่อเห็นคนตัวเล็กทำตาโต เม้มปากเขินอายย้อนแย้งกับร่างกายที่ฟ้องถึงความต้องการอย่างชัดเจนเด็กน้อยเอ้ยติณณ์ประทับจูบเข้าที่ขมับบางก่อนผละออกห่าง จัดแจงท่วงท่าให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้น
ใบหน้าคมคายมุดลงซุกไซ้ ฟัดสองเต้าอวบที่กระเด้งกระดอนล่อตาล่อใจด้วยความมันเขี้ยว ขณะที่ท่อนล่างยังคงทำหน้าที่ตอกตรึงในจังหวะหนักหน่วงรุนแรงอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ส่งผลให้ร่องรักที่ยังไม่ทันได้ปรับตัวเกิดบาดแผลขึ้นอีกครั้งยิ่งได้สัมผัสความอ่อนนุ่ม ยิ่งได้ครอบครองความอ่อนหวาน ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางยามถูกเขากระแทกกระทั้น ยิ่งได้เห็นหยาดเลือดสีสดไหลเปรอะเปื้อนเคลือบอยู่บนท่อนลำ ความปรารถนาที่กักเก็บก็พลันพุ่งทะยาน เผยสัญชาตญาณดิบเถื่อนออกมาอย่างลืมตัว "อึก"ร่างอรชรสะดุ้งเฮือก ใบหน้าหวานบิดเบ้ทรมาน ดิ้นพล่านด้วยความตกใจระคนหวาดกลัวเมื่อมือใหญ่เลื่อนขึ้นบีบลำคอระหงเต็มแรงจนเธอหายใจติดขัดแต่ไม่ว่าจะพยายามดิ้นแค่ไหนก็ไม่อาจสู้แรงชายได้ สองมือเรียวจึงได้แต่จิกข่วน ฝากรอยแผลไว้ตามท่อนแขนแกร่งหวังดึงสติแม่งงง!ติณณ์สบถลั่น ความกระสันพลันเพิ่มพูนขณะหลุบตาลงมองแล้วพบกับรอยแดงยาวที่ปรากฏหยาดเลือดซึมออกมาประปราย เพราะยิ่งเธอพยศเขายิ่งมีอารมณ์!จากนั้นคนหื่นที่ชอบความเจ็บปวดก็เร่งสะบัดสะโพก ถาโถมแรงทั้งหมดที่มีเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง งัดทุกกระบวนท่ามาปรนเปรน ไม่กี่อึดใจคนใต้ร่างก็หวีดร้องเสียงหล
กู่ร้องในใจแล้วมือใหญ่ที่เคยรวบผมก็ย้ายมายึด ตรึงท้ายทอยแน่นพลางสะบัดสะโพกสอบเข้าใสโพรงปากนุ่มนิ่มรัวเร็ว เร่งเร้าจังหวะจนเด็กสาวส่งเสียงอึกอัก น้ำตาคลอหลังจากนั้นเพียงชั่วอึดใจเสียงทุ้มก็คำรามลั่น ปลดปล่อยหยาดน้ำขาวขุ่นออกมาอย่างทะลักทลาย กระโจนเข้าเส้นชัยที่รออยู่เบื้องหน้าสมใจปรารถนา"อื้ออออุนอินนนน"บริ้งค์หลับตาปี๋ สีหน้ากระอักกระอ่วนด้วยความไม่คุ้นชินเมื่อกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วโพรงปาก ซ้ำรสชาติที่ได้รับยังแปลกใหม่ทำเธอขนลุกขนพองอย่างอธิบายไม่ถูกแต่ในขณะที่เธอพยายามผลักไสกายแกร่งออกห่าง คำสั่งที่ดังขึ้นก็ทำเอาเธอชะงักงัน หน้าเหลอหลา"กลืนมันลงไป" เมื่อเห็นว่าเด็กสาวมัวแต่ตะลึงงัน มือใหญ่ข้างที่ยังวางจึงเลื่อนลงบีบพวงแก้มแล้วกระทุ้งท่อนลำที่เพิ่งสิ้นฤทธิ์ใส่อย่างเอาแต่ใจ ทำให้เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลืนเจ้าของเหลวเหนียวหนืดลงคอ"ฮืมม เด็กดี~"แบบนี้ค่อยน่าลดโทษลงหน่อยทว่าประโยคหลังนั้นติณณ์ทำเพียงแค่คิดในใจ กัดฟันถอนตัวตนออกจากโพรงปากอบอุ่นก่อนโน้มลงประกบจูบ ผลักร่างอรชรให้เอนลงนอนหงายเพื่อเริ่มบทลงโทษบทถัดไปใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นส่ำ หน้าแดงก่ำในตอนที่ขาเรียวถูกจับแยก
"อาส์ มองฉัน" เอ่ยสั่งเสียงพร่า พลางออกแรงดึงรั้งให้ใบหน้าแดงก่ำแหงนขึ้นสบประสานสายตา"บอกฉันมา...ตอนนี้เธอเป็นของใคร?"“...”และเมื่อเด็กสาวดื้อดึงไม่ยอมตอบ มือใหญ่จึงออกแรงบีบมากขึ้น ถามย้ำเสียงเข้ม“ฉันถามว่าของใคร!?”"อึก ขะ..ของคุณ""ดี! งั้นก็จำไว้ให้ขึ้นใจนะ เธอเป็นของฉัน เป็นของฉันได้แค่คนเดียวโชติกานต์"ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อปลายคางถูกบีบ บังคับให้เธออ้าปาก ก่อนที่ท่อนลำขนาดใหญ่จะทะลึ่งพรวดเข้ามาด้านในโดยไม่เอ่ยขออนุญาตสักคำต่างจากเจ้าของการกระทำที่แหงนหน้าขึ้นซี้ดปากครวญครางอย่างสุขสม"อื้ออ"กว่าจะได้สติก็ผ่านไปหลายวินาที บริ้งค์ส่งเสียงครางอื้อในลำคอพลางทุบหน้าขาแกร่งประท้วงระรัวเมื่อเขาขยับโยก ไม่รอให้เธอได้ได้ตั้งตัวเลยสักนิด แถมน้ำหนักการตอกตรึงยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอหัวสั่นหัวคลอน แทบสำลักกับความอลังการที่คาคับปากริมฝีปากหนาหยักกระตุกยิ้มขบขันเมื่อถูกแววตาขุ่นขวางตวัดมอง ไม่เคยสินะ หึหึ ความไร้เดียงสาของเด็กสาวทำให้เขาพอเดาได้ไม่ยากว่าเธอทำไม่เป็น สะโพกสอบจึงผ่อนแรงลงแม้ตอนนี้จะถูกความเสียวซ่านทรมานจนปวดหนึบไปทั้งลำ"ห่อปากสิ" เสียงแหบพร่าดังขึ้นเห
"เจ็บก็จำ แล้วอย่าดื้อกับฉัน""คุณจะเอาแต่ใจไปแล้วนะ อื้อ ระ..แรงไปแล้วค่ะ อึก" พลันเสียงหวานก็หลุบหายไปในลำคอ ใจดวงน้อยกระตุกวูบในวินาทีที่ดวงตาสีนิลช้อนขึ้นสบประสานความขุ่นขวางหากแต่แฝงด้วยความปรารถนาร้อนแรงสะท้อนออกมาจากแววตาทำเอาเธอร้อนผะผ่าว ขนอ่อนลุกชันไปทั่วร่าง เห็นภาพอนาคตของตัวเองราง ๆ ว่าคงไม่แคล้วได้นอนซมอีกแล้วบริ้งค์ดิ้นขลุกขลัก ทว่ายิ่งขัดขืนเธอก็ยิ่งเจ็บ สุดท้ายจึงทำได้เพียงเบ้หน้า กัดฟันอดทนมือใหญ่ที่บีบปลายคางเธอแน่นจนมันแทบแหลกทั้งยังเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนจัดที่กระชั้นถี่"เออ ฉันมันเอาแต่ใจ แต่ตราบใดที่เธอยังคบกับฉัน เธอไม่มีสิทธิ์คุย ไม่มีสิทธิ์อยู่ใกล้ ไม่มีสิทธิ์มองใครนอกจากฉัน!"ปากเล็กอ้าเหวอ ทั้งงุนงงทั้งตกตะลึงกับคำสั่งเพราะมันแทบไม่ต่างอะไรไปจากการกักขังเธอไว้ในห้อง ทว่ายังไม่ทันจะได้คัดค้าน เพียงแค่ปากร้อนตรงเข้าครอบครองยอดจุกเล็กสีชมพูระเรื่อแล้วตะโบมดูดดึงหนักหน่วง ความปรารถนาภายในก็ตรงเข้าครอบงำ ร่างอ่อนระทดระทวยในพริบตา"อา คุณติณณ์~"ปากเล็กอ้าเผยอ เปล่งเสียงครวญครางออกมาอย่างสุดกลั้นเมื่อความเสียวซ่านตรงเข้าโจมตีอย่างหนักหน่ว
บริ้งค์ขมวดคิ้ว ความหงุดหงิดเริ่มเข้ามาแทนที่ความหวาดกลัว และอีกหนึ่งคือเธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้ตัวหยาบคายแบบนี้"กล้าดียังไงไปนั่งกับมันสองต่อสอง"บริ้งค์หลุดส่งเสียงเหอะออกมาเบา ๆ ทันทีที่ฟังจบ นี่น่ะเหรอสาเหตุที่ทำให้เขาโมโหจนกลายร่างเป็นคนบ้า เธอแค่นั่งคุยเองนะ"สองต่อสองตรงไหนคะ คนเต็มร้าน อื้ออ กัดหนูทำไมเนี้ย รู้ไหมว่ามันเจ็บ!"เธอแว้ดลั่น ความเจ็บที่ได้รับบริเวณหัวไหล่ทำให้เผลอตวัดสายตามองค้อนอย่างลืมตัว โดยไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำนั้นจะยิ่งทำให้ทุกอย่างรุนแรงขึ้น"รู้!""รู้แล้วยังจะทำอีก"น้ำเสียงประชดประชันทั้งยังหันมาสบสายตาสู้ยิ่งกระตุ้นให้ติณณ์รู้สึกหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม แววตาวาวโรจน์จดจ้องตอบอย่างดุดันยิ่งเมื่อนึกถึงภาพที่เด็กสาวนั่งหัวร่อต่อกระซิก ฉีกยิ้มกว้างให้น้องชายต่างมารดา ต่างจากตอนนี้ที่ทำหน้าหงิกงอ ไม่พอใจ อุณหภูมิในกายแกร่งก็ยิ่งพุ่งทะยานกูจะไม่ยอมให้มึงแย่งของ ๆ กูได้อีกแล้ว!ติณณ์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความรู้สึกมากมายตีรวนในช่องอกขณะตวัดสายตาคาดโทษคนใต้ร่าง ก่อนที่ใบหน้าคมคายจะโน้มลงต่ำอีกครั้งโดยมีเป้าหมายเป็นปากเล็กที่กำลังส่งเสียงโวยวายนั่นร่างอ







