“ยัยอุ่น!?” รสิกาเงื้อแขนจะตบด้วยความเคยชิน และเป็นอีกครั้งที่มือเล็กๆ ของอารดาปัดป้องมันไว้ “อะไร? นี่แก! แกกล้าขัดขืนเหรอ!”
“ใช่ แต่อย่ารู้เหตุผลเลย มันเจ็บ ถ้าป้าอรกล้าพอก็คงบอกเองว่าทำไมฉันถึงเป็นบ้าได้ขนาดนี้” ประกาศใส่หน้าแล้วผลักรสิกาออกห่าง
“แม่!? มันเรื่องอะไรกันแน่”
รสิกาทวงถาม แต่มารดาไม่ยอมพูดง่ายๆ
“อย่าไปฟัง ยัยอุ่นมันเสียสติไปแล้ว มันผลักแม่ล้มด้วย”
เผียะ!
“ยัยรุ้ง!?”
โอภาสร้องอย่างตื่นตะลึง รสิกาตบลูกสาวของท่านง่ายๆ อย่างนี้เลยหรือ
อารดาปล่อยมือบิดาเพื่อกุมแก้มซ้ายที่โดนตบ เจอมากี่คราก็เจ็บ แต่จะไม่ยอมชินชากับมันอีกแล้ว
“แกต่างหากที่เป็นบ้า ไม่ใช่ฉันหรอกรุ้ง แกสนุกเหรอที่ได้ตบฉัน สนุกหรือไงฮะ!”
“เออ! ฉันสนุก แกก็โดนมาตั้งแต่เล็กจนโตแล้วนี่ ยังไม่ชินหรือไงฮะ!”
เผียะ! เผียะ!
ทุกคนที่แลเห็นต่างอ้าปากตกตะลึง อารดาที่ไม่เคยมีปากมีเสียงกับใคร เกิดเรื่องอะไรก็ยอมตลอด บัดนี้ได้ฟาดฝ่ามือใส่แก้มรสิกาไ
“ยัยอุ่น!?” รสิกาเงื้อแขนจะตบด้วยความเคยชิน และเป็นอีกครั้งที่มือเล็กๆ ของอารดาปัดป้องมันไว้ “อะไร? นี่แก! แกกล้าขัดขืนเหรอ!”“ใช่ แต่อย่ารู้เหตุผลเลย มันเจ็บ ถ้าป้าอรกล้าพอก็คงบอกเองว่าทำไมฉันถึงเป็นบ้าได้ขนาดนี้” ประกาศใส่หน้าแล้วผลักรสิกาออกห่าง“แม่!? มันเรื่องอะไรกันแน่”รสิกาทวงถาม แต่มารดาไม่ยอมพูดง่ายๆ“อย่าไปฟัง ยัยอุ่นมันเสียสติไปแล้ว มันผลักแม่ล้มด้วย”เผียะ!“ยัยรุ้ง!?”โอภาสร้องอย่างตื่นตะลึง รสิกาตบลูกสาวของท่านง่ายๆ อย่างนี้เลยหรืออารดาปล่อยมือบิดาเพื่อกุมแก้มซ้ายที่โดนตบ เจอมากี่คราก็เจ็บ แต่จะไม่ยอมชินชากับมันอีกแล้ว“แกต่างหากที่เป็นบ้า ไม่ใช่ฉันหรอกรุ้ง แกสนุกเหรอที่ได้ตบฉัน สนุกหรือไงฮะ!”“เออ! ฉันสนุก แกก็โดนมาตั้งแต่เล็กจนโตแล้วนี่ ยังไม่ชินหรือไงฮะ!”เผียะ! เผียะ!ทุกคนที่แลเห็นต่างอ้าปากตกตะลึง อารดาที่ไม่เคยมีปากมีเสียงกับใคร เกิดเรื่องอะไรก็ยอมตลอด บัดนี้ได้ฟาดฝ่ามือใส่แก้มรสิกาไ
[12]อารดาผู้เปลี่ยนไป__________________คำถามนั้นยังดังก้องอยู่ในหูของเด็กน้อยอารดา กระทั่งสองเดือนถัดมา ความสูญเสียก็เกิดขึ้นกับครอบครัว แม่ของเด็กน้อยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต และน่าตกใจที่หล่อนมิได้จากไปเพียงลำพัง ลุงของอารดาก็อยู่บนรถคันนั้นด้วย เธอไม่รู้รายละเอียดมากนัก รู้แค่ว่าความมืดมิดได้คลี่คลุมหัวใจของเธอจนเต็มพื้นที่หลังจากวันนั้นที่หลังห้องครัว หลายต่อหลายครั้งที่เธอเห็นลุงลวนลามแม่ ครั้งแรกๆ มันเกิดขึ้นเพราะแม่อยากให้ลุงช่วยเรื่องบริษัท แต่ครั้งหลังๆ เธอรู้เลยว่าลุงบังคับแม่ หากแม่ไม่ยอมไปตามนัด ลุงก็ขู่ว่าจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อ เธอเห็นน้ำตาแม่นับครั้งไม่ถ้วน เธอเสียใจที่แม่จากไป แต่ว่า...นี่อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแม่แล้วก็ได้“แกมันเด็กเปรต! มีแม่ร่านๆ เที่ยวเอากับผัวคนอื่นไปทั่ว”เสียงของป้าเธอเอง มันดังอยู่ใกล้หูเพราะป้ากำลังกระซิบ มือแข็งๆ ของป้ายังหนีบเข้าที่ต้นแขนของเธอ เธอชินเสียแล้วกับการลงโทษที่ป้าทำ การโดนตีโด
“อุ่น...น้องออมเป็นยังไงบ้าง”“สบายดีค่ะ ทำไมน้าไม่เรียกกลับมาละคะ ย่าใช้งานยัยออมไม่ต่างจากคนงานทีเดียว”“โธ่...น้องออมลูกแม่”“แหม...น้าโฉม ยัยออมถึกจะตาย ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ น้องยังเด็ก คงจะสนุกตามประสามากกว่า” รสิกาเอ่ยแทรก“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ น้ารู้ว่าน้องออมอดทนเก่ง ถ้าแกไม่ไหวก็คงกลับมาเอง โธ่เอ๋ย...แม่คุณของแม่ คงจะคิดถึงคุณย่าจนทนไม่ไหว เอาเลยลูก เอาใจคุณย่าเข้าไว้ คุณย่าจะได้ยกมรดกให้เยอะๆ นะลูกนะ”โฉมชบาทำหน้าเคลิ้มฝัน รสิกาเบ้ปากใส่ ในขณะที่อารดาถอนหายใจเฮือกๆ ถ้าน้าโฉมรู้ว่าอรุณฉายไปทำอะไรที่โน่น ยังจะทำหน้าเคลิ้มฝันได้อยู่หรือเปล่านะหญิงสาวได้แค่ถามตัวเองในใจ ก่อนจะลุกจากโต๊ะเพื่อตรงไปที่ห้องหนังสือ เธอแค่อยากรู้ว่าป้าอรจะคุยอะไรกับท่านเท่านั้น แล้วเสียงทุ่มเถียงกันก็แว่วดังออกมาให้เธอได้ยิน“ทำไมแกไม่บอกฉันว่าบริษัทกำลังแย่ ถ้าแกไม่เก่งพอก็น่าจะบอกฉันสิ ฉันจะได้หาคนอื่นมาทำแทน ไม่ใช่ปล่อยให้มันหนักขนาดนี้!”อรดีตวาดใส่น้องชาย ตัวเองนั้นไม
ช่วงค่ำวันเดียวกันความอึดอัดในบ้านหลังน้อยยังแผ่กำจายไม่จบไม่สิ้น ยิ่งในตอนที่อารดาได้รับโทรศัพท์จากบิดา อารมณ์ของเธอก็ยิ่งขุ่นมัวมากขึ้นไปอีก เธอคิดว่าอาจจะอยู่ที่นี่ได้แค่วันนี้เท่านั้น เธอต้องคุยกับบิดากับป้าอร เธอเบื่อเรื่องนี้เต็มทนแล้ว“เป็นอะไรอีก ไม่สบายเหรอ” ศรัณถามภรรยาที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่อารดาไม่ยอมพูด เอาแต่ปิดปากเงียบเสีย “คุณอุ่นครับ” เร่งเร้าด้วยเสียงอันนุ่มอ่อน หวังว่าหล่อนจะยอมคายเรื่องราวที่อยู่ในใจออกมา“พ่อเร่งเรื่องเงินน่ะ รัฐบาลคงจะประกาศล็อกดาวน์เร็วๆ นี้เพราะโรคระบาด พ่ออยากจัดการให้มันเรียบร้อย อย่างน้อยก็ต้องจ่ายเงินที่ค้างไว้ให้พนักงาน ก่อนที่อะไรๆ จะเลวร้ายกว่านี้”“คุณอุ่นต้องตัดสินใจว่าจะเอายังไง คุณอยากเก็บบริษัทไว้จริงๆ เหรอ”เธอส่ายหน้าทันใด เธอไม่ได้อยากเก็บมันไว้สักนิด“ฉันอยากขายมันทิ้งเพราะมันทำให้พ่อต้องเหนื่อยเหลือเกิน”“ผมช่วยคุณได้นะ เอาเงินผมไปสิ เคลียร์เรื่องหนี้สินที่มี เคลียร์เรื่องเงินชดเชยของพนักงานด้วย”
อรุณรุ่งวันใหม่เสียงเหมือนคนเถียงกันดังอยู่ที่หน้าชาน อารดาก้าวขาออกมาจากห้องช้าๆ เมื่อคืนเธอคุยกับเขาเรื่องเพียงฟ้า และสรุปได้ว่า อย่างไรเสียเธอก็อยากให้เพียงฟ้าจากไป ศรัณไม่ได้รับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นวันไหน แต่เธอรู้ดี เขาต้องจัดการมันสักวันแน่ๆ เธอครุ่นคิดเรื่องนี้ทั้งคืน เธอนอนไม่ค่อยหลับหรอก และมันทำให้เธอตื่นสายอย่างนี้ดูเหมือนว่าศรัณยังไม่ได้เข้าสวน น้ามาลาเองก็ไม่ได้ขลุกอยู่ในครัวด้วย พวกเขากำลังคุยบางเรื่องอยู่ ท่าทางเคร่งเครียด ห่างออกไปนั้น เพียงฟ้านั่งอยู่บนเสื่อผืนเล็กอย่างเจียมตัวเจียมตน มีกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กวางอยู่ ลูกชายของหล่อนนั่งอยู่ด้วย เขากอดกระเป๋าใบนั้นไว้ มีน้ำตานองหน้าและเสียงสะอื้นเบาๆ ท่าทีของฟีฟ่าทำให้เธอพอจะรู้ละว่าเกิดอะไรขึ้น“น้าครับ ขอร้องเถอะ”ศรัณเอ่ยกับมาลาอีกคราหนึ่ง หลังจากพูดประโยคนี้มาหลายรอบแล้ว“น้าต่างหากที่ต้องขอร้อง น้าพูดไปแล้วว่าทำไมเพียงฟ้าถึงต้องอยู่ที่นี่ รัณไม่สงสารลูกบ้างเหรอ ฟีฟ่าเพิ่งได้เจอแม่นะ” ถามคนที่รักเหมือนลูกแล้วชี้ไปยังหลานชาย ฟีฟ่
[11]อุปสรรคหัวใจ_____________ลมเย็นๆ พัดผ่านชานเรือน อารดารับรู้ถึงความหนาวเย็นที่กำลังแทรกซึมจากผิวเนื้อลงสู่ขั้วใจ ความทรมานได้ผุดพรายอีกคราแล้ว หนักกว่าตอนที่รู้ว่าพี่ธี อดีตคนรัก แอบไปคบกับลูกพี่ลูกน้องของเธอเสียอีกเธอไม่อยากยอมรับความจริง ไม่! ไม่จริงหรอก เธอจะรักศรัณได้อย่างไร ถึงจะเกินเลยเป็นผัวเมียกันอย่างสมบูรณ์ แต่มันเร็วไปไหมหากจะเรียกความทรมานนี้ว่าความรัก เธออาจจะแค่หวงของ ใช่...ถ้าเขาเป็นของเธอ เธอก็หวงเขาได้มิใช่หรือ ถึงพวกเขาจะเคยรักกัน ถึงจะมีความรักความหลังฝังใจแต่ผู้หญิงคนนั้นมีสิทธิ์อะไรมากอดเขาล่ะ เธอต้องเดินหนีอย่างร้าวรานใจแล้วกลับไปนอนร้องไห้บนฟูกนั่นหรือ ไม่...เธอไม่ทำอย่างนั้นหรอกนะ เธอไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา ไม่ได้ทำเลย!กำปั้นน้อยทุบหน้าอกอยู่ปึกๆ มันปวดหนึบในนั้นจนไม่รู้จะบรรเทาด้วยอะไรดีแอ๊ด...อารดาดึงประตูให้เปิดอ้ามากกว่าเดิม เพื่อส่งสัญญาณให้พวกเขารู้ตัว ศรัณสะบัดร่างออกจากอ้อมแขนเพียงฟ้า และหันมามองเธอด้วยดวงตาอันตื่นตกใ