[25]
อย่ามารักกันเลย
___________
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงเคาะประตูปังๆ ทำเอาคนที่เพิ่งสวมเสื้อลงทางศีรษะต้องรีบมาเปิดประตู พี่สะใภ้เขายืนหน้าตื่นอยู่ตรงหน้า ผิวแก้มหล่อนซีดเผือดและมือสั่นจนน่าตกใจ
“พี่เป็นอะไร!”
“ยัยออม! ยัยออมจะคลอด พี่...พี่จะพายัยออมไปโรง’บาล นนท์ดูน้องด้วยนะ ดูฟีฟ่าด้วย ฟีฟ่าอาบน้ำอยู่ พี่...พี่...กุญแจรถพี่ล่ะ กุญแจรถ โอ...ตายจริง พี่จอดรถไว้ที่กรุงเทพฯ พี่นั่งรถรัณมา พี่...”
“พี่อุ่น! ใจเย็นๆ ก่อน พี่อยู่นี่แหละ ผมจะพาออมไปหาหมอเอง”
อารดาพยักหน้า น้ำตาหล่นเม็ดโตๆ เมื่อได้ยินว่าน้องกำลังลำบาก เมื่อกี้เธออยู่ในห้องน้ำกับฟีฟ่าตอนที่เจ้าตัวโทรมาเลยไม่ได้รับสาย พอได้รับสายอีกคราก็ปรากฏว่าบิดาโทรมา น่าตกใจที่รู้ว่าอรุณฉายกำลังเผชิญสถานการณ์ใดอยู่ หล่อนเจ็บท้องคลอดอยู่ข้างถนนและไม่มีใครพอจะให้หล่อนพึ่งพาได้เลย
“เธออยู่ไหนพี่”
“ข้างถนน ยัยออมอยู่ข้างถนน...แค่คนเดียว”
“อะไรนะ!?&r
“พวกผู้ใหญ่ตกลงกันไม่ยากหรอกคุณอุ่น เต็มที่ก็จับพวกเขาตบแต่งกันให้เรียบร้อย แต่ที่ยากสุดคือน้องสาวคุณต่างหาก เธออุ้มท้องลำพังมาเก้าเดือนนะ เธอไม่ใจอ่อนกับเจ้านนท์ง่ายๆ หรอก”“นั่นสินะ เราคงทำได้แค่ส่งกำลังใจใช่ไหม”“ใช่...แล้วกำลังใจของผมเมื่อไหร่จะนอนละครับ นอนได้แล้ว เจ้าตัวน้อยในท้องนี้ง่วงนอนแล้วครับผม” สั่งความแล้วหอมแก้มไปสองทีซ้อน ก่อนก้มลงมาที่ท้องนูนของอารดา จูบท้องผ่านเสื้อนอนของหล่อนดังจ๊วบๆ ก่อนจะส่งหล่อนเขานอนดิบดี“นอนเลยนะ ผมขอแวะไปดูเจ้าตัวแสบก่อน” บอกเมียแล้วเดินออกไปนอกประตู ห้องเล็กๆ ที่อยู่ข้างกันคือห้องส่วนตัวของฟีฟ่า เด็กน้อยมีห้องเป็นของตัวเอง ห้องที่ติดกับห้องเขา ในยามนี้แสงสว่างจากโคมไฟที่เปิดไว้ ส่องแสงรำไรกระทบใบหน้าของเจ้าเด็กน้อย เขานั่งลงข้างลูกชาย จุมพิตเขาที่ข้างขมับแล้วลูบกระหม่อมบางอย่างเอ็นดูเด็กน้อยขยับกายราวกับรู้ว่าบิดามาหา แขนเล็กๆ วาดมาโอบเข้าที่เอวของคนเป็นพ่อ“พ่อ...”“อือ...”“คิดถึงแม่ฟ้าจังเลย”&ldqu
“เอาลูกกินนมยังไม่เป็นแล้วยังอยากจะมีลูก ทำไม...ถึงดื้ออย่างนี้นะ ดื้อเหมือนใครกัน” ปากบ่นว่าแต่สองมือแตะที่กระหม่อมของหลานสาว โฉมชบายังไม่หายเคืองโกรธ แต่ความโกรธนั้นเบาบางเมื่อเห็นหน้าหลาน หลานที่ใบหน้าไม่เหมือนลูกสาวตัวเองเลย ทำไมถึงได้เกิดมาตอกย้ำความผิดของคนเป็นแม่ขนาดนี้นะ จะเหมือนแม่ เหมือนป้า เหมือนตากับยายบ้างไม่ได้หรืออย่างไร“พอเถอะคุณ ลูกเหนื่อยแล้ว” โอภาสติงภรรยา“ให้ฉันพูดบ้างเถอะ ไม่อย่างนั้นฉันคงอกแตกตาย”“หนูขอโทษ...หนูขอโทษค่ะแม่”มือสั่นๆ ของโฉมชบาเลื่อนหาคนเป็นลูก ดึงลูกเข้าสู่วงแขน แล้วหยดน้ำตาก็หลั่งมาเหมือนห่าฝนในฤดูแห่งลมพายุ“ไม่มีก็ไม่ต้องมี ถ้าไม่มีใครรับเป็นพ่อก็ไม่ต้องมี แม่เลี้ยงเองก็ได้ แม่จะเลี้ยงหลานเอง”โอภาสยิ้มให้เมียรัก เรื่องมันมาอีหรอบนี้ การปลงคงดีที่สุดแล้ว ท่านถอยออกมาให้แม่ลูกได้คุยกัน มานั่งอยู่กับลูกสาวคนโต เอื้อมมือวางบนกระหม่อมของลูก มือข้างหนึ่งก็ปาดเช็ดน้ำหูน้ำตา“ขอบใจนะอุ่น ที่ช่วยดูน้อง ยัยออมโชคดีที่มีลูกเป็นพี่สาว รู
“เราเริ่มต้นกันใหม่เถอะนะ เพื่อยัยตัวเล็กของเราดีไหม”หญิงสาวส่ายหน้า ไร้ประโยชน์ที่จะเริ่มต้นใหม่ ในเมื่อไม่มีอะไรดีขึ้นมา “จะแต่งงานกับฉันเหรอ”“แต่งสิ”“เพราะลูกใช่ไหม”“เพราะฉันรักเธอ”คราวนี้หยดน้ำตาของชนนท์ได้หล่นร่วงรุนแรง เพราะคนตรงหน้าเอาแต่ส่ายศีรษะรัวๆ“เราไม่เหมาะกันหรอกนนท์ เราไม่ควรมารักกัน เรา...ปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ต่อไปเถอะนะ อย่าเข้ามาข้องเกี่ยวกันอีกเลย”“ออม...”“กลับไปได้แล้ว ฉันเหนื่อย ฉันอยากพักจริงๆ”“เธอจะอยู่ยังไง ไม่มีคนเฝ้าอย่างนี้”“ฉันอยู่ได้ก็แล้วกัน”ชนนท์ไม่เชื่อที่หล่อนพูดเลย หล่อนกำลังโกหก“เธอโกรธฉันอยู่ ฉันรู้ ต้องให้ทำยังไง เธอถึงจะยอมรับทุกสิ่งที่ฉันอยากทำเพื่อเธอ”อรุณฉายถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอเหนื่อยจริงๆ“เราไปกันไม่รอดหรอกนนท์ อย่าพูดว่ารักฉันอีก ถ้าไม่ได้รักฉันจริงๆ ฉันรู้ตัวว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก
[25]อย่ามารักกันเลย___________ปัง! ปัง! ปัง!เสียงเคาะประตูปังๆ ทำเอาคนที่เพิ่งสวมเสื้อลงทางศีรษะต้องรีบมาเปิดประตู พี่สะใภ้เขายืนหน้าตื่นอยู่ตรงหน้า ผิวแก้มหล่อนซีดเผือดและมือสั่นจนน่าตกใจ“พี่เป็นอะไร!”“ยัยออม! ยัยออมจะคลอด พี่...พี่จะพายัยออมไปโรง’บาล นนท์ดูน้องด้วยนะ ดูฟีฟ่าด้วย ฟีฟ่าอาบน้ำอยู่ พี่...พี่...กุญแจรถพี่ล่ะ กุญแจรถ โอ...ตายจริง พี่จอดรถไว้ที่กรุงเทพฯ พี่นั่งรถรัณมา พี่...”“พี่อุ่น! ใจเย็นๆ ก่อน พี่อยู่นี่แหละ ผมจะพาออมไปหาหมอเอง”อารดาพยักหน้า น้ำตาหล่นเม็ดโตๆ เมื่อได้ยินว่าน้องกำลังลำบาก เมื่อกี้เธออยู่ในห้องน้ำกับฟีฟ่าตอนที่เจ้าตัวโทรมาเลยไม่ได้รับสาย พอได้รับสายอีกคราก็ปรากฏว่าบิดาโทรมา น่าตกใจที่รู้ว่าอรุณฉายกำลังเผชิญสถานการณ์ใดอยู่ หล่อนเจ็บท้องคลอดอยู่ข้างถนนและไม่มีใครพอจะให้หล่อนพึ่งพาได้เลย“เธออยู่ไหนพี่”“ข้างถนน ยัยออมอยู่ข้างถนน...แค่คนเดียว”“อะไรนะ!?&r
อรุณฉายยังอยู่ที่ท้ายสวนแม้ว่าท้องแก่เต็มที ไม่ว่าจะด้วยทิฐิ หรือด้วยความมุ่งมั่น วันนี้เธอก็สามารถอุ้มท้องลูกสาวจวนเจียนจะคลอดแล้ว สองผัวเมียเพื่อนบ้านที่กระท่อมข้างกันยังทำหน้าที่ช่วยเหลือเธอไม่ขาด โดยเฉพาะในระยะหลังมานี้ที่อาหารการกินดีขึ้นกว่าเดิม เธอได้กินอิ่มท้องมากขึ้น มีกับข้าวในสำรับหลายอย่าง ผลไม้หรือขนมนมเนยก็มีมาในสำรับด้วย เธอเคยถามถึงเรื่องอาหารการกินจากซอ เจ้าตัวก็เอาแต่อึกอัก กระทั่งอาทิตย์ที่แล้ว ที่เธอได้รู้ความจริงชนนท์หอบหิ้วของกินมาให้ สาเหตุที่ทำให้เธอมีของกินดีๆ แต่แทนที่เธอจะยินดี เธอกลับปวดแปลบในใจ เขากลัวเธอกินไม่อิ่ม กลางคืนก็กลัวว่าเธอกับลูกจะเป็นอะไรไป จึงได้มานั่งเฝ้านอนเฝ้า เขาคงแค่สงสารเวทนา และความสงสารเวทนานั้น ก็ไม่มากพอให้เขายืดอกยอมรับลูกสาวของเธอ“อีกไม่กี่วันก็จะได้เจอกันแล้วนะเจ้าตัวเล็ก อีกไม่กี่วันแล้ว” พูดกับตัวเองก่อนเข้านอน เธอไม่ได้ทำงานในสวนมาสองอาทิตย์แล้ว เงินที่จำนำสร้อยเพชรมาได้ ถูกใช้ไปวันละนิดละหน่อย จวนจะหมดเต็มที การไปหาหมอแต่ละครั้งต้องใช้เงินนี่นา และค่าแรงที่ได้จากงานในสวนย่าก็ไม่ได้มากมายนัก
ช่างเป็นคำสัญญาที่นุ่มนวลนัก ในตอนที่สามีเคลื่อนกายเข้ามายังระหว่างขาของเธอ ความตื่นเต้นก็เหมือนว่าจะพาหัวใจทะลุออกจากอก เขาจูบขึ้นมาตามท่อนขา ระเรื่อยขึ้นมาถึงโคนขาอ่อน ก่อนจะหยุดนิ่งที่ตรงนั้น เพื่อชื่นชมความอวบอูมของความสดสาว เธอหลับตาลงเสีย แสงสว่างยามกลางวันส่องตาให้รู้สึกละอาย แต่จะหักห้ามใจก็ไม่ไหวแล้ว ศรัณกำลังทำให้เธอต้องยอมศิโรราบต่อมัน“อา...รัณ...อื้อ...” เสียงครางกระเส่าเริ่มต้นในตอนใกล้เที่ยง อารดาไม่อาจทานทนต่อริมฝีปากเขา ต่อฝ่ามือเขา และจากอะไรสักอย่างที่เขาเพิ่งวางทาบบนเนินเนื้อโหนกนูนของเธอ เธอมองมันเหมือนมองสิ่งของล้ำค่า ยามที่เขาสวมสอดเข้ามา ร่างกายเธอก็กอดรัดเอาอย่างแนบแน่น“อืม...คุณอุ่น...” ศรัณอ้าปากค้างไว้ ความนุ่มแน่นของกายสาวช่างให้ความรู้สึกวิเศษเหลือเกิน เขาค่อยๆ ขยับโยกสะโพกสอบ พาตัวตนแห่งชายสอดแทรกชำแรกลึกในกายสาวซ้ำๆ เกิดเสียงดังพั่บๆ อย่างการกระหน่ำแรงกระแทก เขาพยายามแล้วในการเบาจังหวะเพื่ออารดาจะได้ไม่เจ็บกาย แต่รู้ไหม ยิ่งเขากระหน่ำสะโพกโยกใส่ หล่อนก็ยิ่งครางระงมอย่างสมใจ“ดี...รัณ...แรงอีกนิดก็ได้ รัณ...เร็วอีก อ๊า!!!”