“จะยอมแพ้เหรอวะ ไหนบอกว่าคอแข็ง” อลันเห็นสีหน้าของปอร์เช่ก็รู้ว่ากลัวตัวเองจะเมาอยู่
“กูไม่ได้พูด มึงคิดเอง”
“ฮ่า ๆ เลิกดวลก็ได้วะ” อลันไม่แกล้งต่อเพราะถ้าเมาขึ้นมาเดี๋ยวก็เดือดร้อน
“กูก็คอแข็ง แต่ถ้าดื่มเข้ม ๆ ติดกันหลายแก้ว กูก็เมาหัวทิ่มสิวะ” ปอร์เช่เอ่ยออกมา เขามั่นใจว่าตัวเองคอแข็งพอสมควร แต่ก็ยังจำคืนที่มาดื่มกับพัตเตอร์และฟาโรได้ เขาเอาแต่ดื่มจนเมาหนักแล้วเพื่อนต้องพากลับได้
“พวกกูก็แกล้งไปงั้นแหละ ถ้ามึงเมาขึ้นมาใครจะแบกไปส่ง”
“พวกมึงไงที่ต้องพากูกลับ” ปอร์เช่ตอบไม้ อยู่กันแค่นี้หากเขาเมาขึ้นมาเพื่อนใหม่สองคนนี้ก็ต้องช่วยพากลับ
“กูขอไลน์พวกมึงไว้หน่อยดิ ถ้าคืนไหนจะออกมาเที่ยวอีก ชวนกูด้วย” ปอร์เช่เอาโทรศัพท์มือถือออกมา เขารู้สึกว่าคุยกับเพื่อนใหม่สองคนนี้แล้วถูกคอและยังชอบปาร์ตี้เหมือนกัน ทำความรู้จักกันไว้ก็ดี
อลันและไม้ให้ไลน์ไปทันที ทั้งสองคนก็ถูกชะตากับปอร์เช่อยู่ คุยกันวันเดียวยังรู้สึกสนิทสนมกันได้อย่างง่ายดาย…
หลายวันต่อมา
ปอร์เช่เดินเข้ามาหาสองสาวที่นั่งอยู่พร้อมกับวางถุงแซนด์วิชลงที่กลางโต๊ะ ถึงแม้มิลินจะยอมให้เขาเป็นเพื่อนด้วยแล้ว แต่เขาก็ยังมีของติดไม้ติดมือมาให้อยู่ตลอด
“แล้วของปอร์เช่ล่ะ” มิลินเอ่ยถามเพราะในถุงมีแซนด์วิชอยู่แค่ 2 ชิ้น
“เรากินมาแล้ว”
“ที่จริงปอร์เช่ไม่ต้องซื้อมาฝากเราก็ได้ เราเองก็กินมาจากบ้านแล้ว” มิลินเอ่ยออกมาพร้อมกับแบ่งแซนด์วิชให้มินนี่ เธอกินข้าวเช้ามาทุกวันแต่ก็ยังกินที่ปอร์เช่ซื้อมาฝาก เพราะกลัวว่าจะเสียน้ำใจ
“เราก็กินมาก่อนแล้ว ทีหลังไม่ต้องซื้อมาแล้ว” มินนี่เอ่ยออกมา
“โอเคครับ” ปอร์เช่คลี่ยิ้มบาง เขามีอะไรที่อยากพูดกับทั้งมินนี่และมิลินแต่ก็หาโอกาสที่จะพูดอยู่ แต่ทว่ามิลินกลับสังเกตสีหน้าของปอร์เช่ได้ก่อน
“มีอะไรหรือเปล่าปอร์เช่”
“เอ่อ” ปอร์เช่อ้ำอึ้ง เขาไม่กล้าพูดออกมา
“เพื่อนกันมีอะไรก็พูดกันได้” มิลินยิ้ม
“คือเราจะพาเพื่อนใหม่ของเรามารวมกลุ่มกับมิลินและมินนี่ได้ไหม เรารู้จักกันที่ผับน่ะ ไปเจอกันมา 3 ครั้งแล้ว เราว่าเข้ากันได้นะ” ปอร์เช่มองหน้ามิลินนิ่ง ๆ หัวใจของเขาเต้นแรงเพราะกลัวว่ามิลินจะปฏิเสธ เธอไม่ได้เปิดใจรับใครง่าย ๆ ขนาดเขาเองยังใช้เวลากว่าเธอจะใจอ่อน
มิลินหันไปมองหน้ามินนี่ เพราะเธอตัดสินใจเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้
“กูว่ามารวมกลุ่มกันก็ดี ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ ไว้เยอะ ๆ ก็ดีนะ” มินนี่เอ่ยออกมา
“พามาสิ” มิลินหันไปตอบปอร์เช่ ชายหนุ่มคลี่ยิ้มด้วยความดีใจแล้วเอาโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาอลันให้เดินมาหาที่หน้าตึก
10 นาทีต่อมา อลันและไม้ก็เดินเข้ามาหา
“สวัสดีครับเราชื่ออลันนะ และนี่ชื่อไม้เป็นเพื่อนสนิทเราเอง” อลันแนะนำตัว
“สวัสดี เรามินนี่ และนี่มิลิน” มินนี่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส เธอดีใจที่จะได้อยู่รวมตัวกันถึง 5 คน ไม่ต้องเหงากันอยู่ 2-3 คนแล้ว
“พวกนายเรียนสาขาอะไรเหรอ”
“สาขาเดียวกันกับเรานี่แหละมิลิน ไม่คุ้นหน้ามันใช่ไหม” ปอร์เช่ตอบมิลิน
“อืม เราไม่ค่อยคุ้นหน้าเลยอะ”
“ฮ่า ๆ พวกเราชอบนั่งมุม ๆ ฟุบหลับบ่อย” ไม้หัวเราะเพราะก่อนหน้านี้ปอร์เช่ก็แปลกใจที่รู้ว่าเรียนสาขาเดียวกัน
“ทำไมถึงหลับ กลางคืนมัวแต่ออกเที่ยวกันใช่ไหม” มินนี่เอ่ยถาม
“ใช่ วันหลังไปด้วยกันได้นะ” อลันชวนให้ไปด้วยกันจะได้กระชับความสัมพันธ์ให้สนิทสนมกันมากขึ้น
“ได้เลย อยากเที่ยวอยู่พอดี” มิลินอมยิ้ม เธออยากไปเที่ยวผับอยู่แล้ว มีเพื่อนไปกันเยอะ ๆ ก็น่าสนุก
“เรื่องเที่ยวไว้ค่อยคุยดีกว่า ตอนนี้ขึ้นเรียนก่อน” ไม้ดูนาฬิกาข้อมือแล้วเอ่ยออกมา
เหลือเวลาอีกแค่ 3 นาทีก็ได้เวลาเรียนคาบแรกแล้ว พวกเขารีบพากันขึ้นห้องทันที หากเข้าช้ากว่าอาจารย์ต้องโดนดุแน่ ๆ
บทส่งท้าย (จบ) 3 เดือนต่อมาภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองอบอวลไปด้วยดอกไม้มากมาย โคมไฟระย้าประกายแสงออกมาในโทนอบอุ่น เสียงดนตรีดังคลอเบา ๆแขกเหรื่อมากมายมาร่วมงานฉลองมงคลสมรสระหว่างมิลินและปอร์เช่ จนบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น พ่อแม่ของทั้งสองต้อนรับแขกอยู่ตลอดส่วนบ่าวสาวยังแต่งตัวอยู่ในห้อง มิลินสวยราวกับเจ้าหญิง เพื่อนสนิทเดินเข้าไปหาก็อึ้งในความสวยของเธอ“สวยมากเลยมึง” มินนี่เอ่ยออกมา แววตาของเธอเป็นประกายด้วยความชื่นชม“เห็นมาตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อน ตอนจีบ ตอนมีปัญหากัน ในที่สุดก็ได้เห็นถึงวันนี้ด้วย” อลันเอ่ยออกมา“เห็นมาตลอดแต่พอได้แต่งงานกันก็ซึ้งไปด้วยเนอะ” ไม้เอ่ยออกมา อลันก็พยักหน้าให้ เป็นเพื่อนกันมาจนได้เห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาทั้งอิ่มสุขและซึ้งกับความรักของเพื่อน“ใกล้ได้เวลาแล้วนะคะ” พิธีกรเดินเข้ามาตามในห้องแต่งตัว บ่าวสาวพยักหน้าให้แล้วเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อน ๆ ก็เดินนำไปที่ห้องจัดเลี้ยงก่อนแล้วประตูบานใหญ่เปิดออกกว้าง เจ้าสาวในชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์ยืนควงแขนกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ทั้งสองเดินเข้ามาข้างใน เพื่อน ๆ โปรยก
บทที่ 97ปอร์เช่พามิลินเดินออกมานั่งดูดาวกันสองคนแบบเงียบ ๆ ส่วนลูกสาวของเขาก็มีเพื่อน ๆ คอยดูแลให้อยู่ “เราเตรียมแผนนี้ไว้ตั้งแต่วันที่รู้ว่าจะไปเลย” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “ปิดเป็นความลับเก่งมากเลย” ก่อนที่จะไปมิลินไม่เอะใจเลยสักนิด ทั้งที่เพื่อน ๆ ก็รู้กันหมด ทุกคนกำความลับเอาไว้ได้มิดมาก “ฮ่า ๆ ถ้าไม่ปิดสนิท มิลินรู้ก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ” ปอร์เช่ลูบศีรษะของแฟนสาวก่อนที่จะดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด มิลินเอียงหัวซบที่แผงอกของเขาแล้วมองแหวนที่นิ้วตัวเอง “แล้วไปซื้อแหวนมาตอนไหน” “ตอนที่ออกไปทำงานน่ะ เรามีเวลาว่างก็ออกไปซื้อแหวนมา” ตัวติดกันตลอดเขามีโอกาสไปซื้อได้แค่ตอนที่ออกไปทำงานเท่านั้น “แล้วแบบนี้เคยหนีเที่ยวบ้างหรือเปล่าเนี่ย” “ไม่เคยครับ” ปอร์เช่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่เคยออกนอกลู่นอกทางอยู่แล้ว นอกจากไปซื้อแหวนวงนี้ มิลินหันไปส่งยิ้มให้ก่อนจะจูบปากเขาด้วยความรัก แฟนของเธอทำน่ารักขนาดนี้จนเธอรู้สึกว่าโชคดีจริง ๆ ที่ได้รักกัน “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะ” “ครับ” ปอร์เช่กอดมิลินเอาไว
บทที่ 96“เตรียมแหวนไว้พร้อมแล้วใช่ไหม” ไม้เอ่ยถามเมื่อมิลินเดินออกไปแล้ว“เตรียมไว้แล้ว ขอบคุณมากนะครับที่ทำตามแผนของผม” ปอร์เช่ตอบไม้แล้วเอ่ยกับผู้นำ เขาเป็นคนวางแผนเอาไว้เองว่าจะจัดงานเลี้ยงส่ง แล้วเขาก็จะขอแฟนสาวแต่งงานในคืนนี้“ไม่เป็นไรเลยครับ” ผู้นำตอบกลับปอร์เช่มองไปที่สองแม่ลูกแล้วเดินออกไปหา เขานั่งลงข้าง ๆ แฟนสาวแล้วมองเมญ่าเล่นขายของกับเด็ก ๆ “ลูกเรานี่เข้ากับคนง่ายจริง ๆ เลยเนอะ” ปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา “คิดถูกแล้วที่พาลูกมาด้วย” มิลินตอบกลับ ทีแรกก็กังวลว่าจะอยู่ไม่ได้ แต่เมญ่ากลับอยู่ได้แบบสบาย ๆ นั่งเล่นกับพื้นไม่ได้กลัวเปื้อน แล้วยังสนุกไปกับเพื่อนใหม่อีกด้วย “ลูกกินง่ายอยู่ง่ายเหมือนเราสองคน” มิลินหันไปมองหน้าปอร์เช่แล้วคลี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยที่ลูกสาวเป็นเหมือนเราสองคนที่อยู่ตรงไหนได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ชีวิตหรูหราสะดวกสบายอะไร ตกเย็นชาวบ้านก็มารวมตัวกันที่ลานกว้าง ทำอาหารแล้วมาตั้งไว้ พร้อมกับช่วยกันตกแต่งเป็นสถานที่เลี้ยงส่งกลุ่มหนุ่มสาวที่เข้ามาช่วยกันซ่อมแซมโรงเรียน “มิลินเสร็จแล้วเดินไปก่อนก็ได้” ปอร์เช่เอ่ย
บทที่ 95 วันต่อมาปอร์เช่และกลุ่มเพื่อนตื่นขึ้นมาแต่เช้าท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เมญ่ายังคงนอนหลับสบาย มิลินไม่ได้ปลุกขึ้นมา ให้ลูกนอนห่มผ้าหนา ๆ ไปก่อนเพราะกลัวว่าถ้าลุกออกมาเล่นตอนนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำ แล้วมานั่งเล่นมองหมอกจาง ๆ อยู่ที่หน้าบ้าน สักพักนึงชาวบ้านก็เอากับข้าวมาให้ “ขอบคุณมากนะครับ” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “คุณแม่ขา” “จ้า เดี๋ยวแม่เข้าไปหานะ” มิลินได้ยินเสียงลูกสาวเรียกหาก็เลยลุกเข้าไปในห้องนอน เมญ่าอ้าปากหาวแล้วลุกขึ้นมาหาผู้เป็นแม่ “หนาวไหมลูก” มิลินเอ่ยถาม ถึงตอนนี้จะมีแดดขึ้นมาแต่ก็ยังมีความเย็นอยู่ “ไม่หนาวมากค่ะ” “ถ้างั้นเราไปแปรงฟันกันนะคะ ลุง ๆ ป้า ๆ เอาของกินมาให้เยอะเลย”“ค่ะคุณแม่”มิลินพาน้องเมญ่าไปแปรงฟันแล้วออกมานั่งกินข้าวด้วยกัน หลังจากกินข้าวกันอิ่มแล้วทุกคนก็พากันไปขนของที่รถลงมาโดยที่มีชาวบ้านไปช่วยกันขนด้วย“ไปเล่นกันไหม” เด็กหญิงคนเดิมเดินเข้ามาหาเมญ่า“ไปค่ะ” เมญ่าตอบกลับแล้วพากันเดินไปนั่งเล่นอยู่แถวบ้านอีกหลังนึง ซึ่งอยู่ในสายตาของมิลินและปอร์เ
บทที่ 94 “เมญ่าอยากได้สไลด์เดอร์ค่ะคุณปู่ คุณพ่อคุณแม่เคยพาไปเล่น เมญ่าชอบมากเลยค่ะ” “ได้เลยหลานรัก เดี๋ยวปู่ซื้อให้นะ” “อย่าเลยค่ะพ่อ ไว้พาไปเล่นข้างนอกดีกว่าค่ะ เพราะเล่นไม่นานเดี๋ยวก็เมญ่าโตขึ้นแล้วเล่นไม่ได้อีกค่ะ” มิลินเดินออกมาได้ยินที่ลูกสาวอ้อนขอของเล่นพอดีก็เลยห้ามไว้ ท่านตามใจเมญ่ามากเกินไปเธอกลัวว่าลูกสาวจะเอาแต่ใจ พออยากได้อะไรก็ต้องได้ ใบหน้าของเมญ่างอง้ำที่ถูกขัดใจ “หน้างอแบบนี้ แม่เอาไก่ทอดไปเก็บดีกว่า” มิลินแกล้งเดินหนีเข้าไปที่ครัว เมญ่ารีบลุกจากตักของคุณปู่แล้ววิ่งตามไป “กินค่ะคุณแม่ เมญ่าไม่หน้างอแล้วค่ะ” “พ่อคงตามใจหลานมากเกินไปหน่อย” พ่อของปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา พอถูกมิลินขัดท่านก็รู้สึกผิดที่ตามใจเมญ่ามากไป พอขอสไลด์เดอร์ก็จะซื้อให้เลยโดยที่ไม่ต้องคิด “ผมเข้าใจพ่อนะครับ ผมเองก็รักลูกหลงลูกจนอยากซื้อของให้ลูกเยอะแยะไปหมดเลย” ปอร์เช่ตอบกลับ เขารักลูกมากพอลูกขออะไรก็อยากให้ แต่เขาก็หักห้ามใจไว้เพราะกลัวว่าลูกจะเสียนิสัย “พ่อก็ต้องห้ามใจแล้วล่ะ” มาเฟียใหญ่คลี่ยิ้มบางแล้วเดินไปที่โต๊ะ
บทที่ 93 หลังจากงานรับปริญญาแล้ว ปอร์เช่เปิดโน้ตบุ๊กค้นหาข้อมูลเรื่องของเด็กบนดอย เขาเคยมีความฝันว่าอยากเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ บนนั้นแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไป ตอนนี้เขาและแฟนสาวก็เรียนจบแล้วเขาเลยอยากหาโอกาสไปสักครั้ง “ทำอะไร” มิลินเดินออกมาหลังจากที่พาลูกสาวนอนในช่วงกลางวันแล้ว เห็นคนตัวโตกำลังดูหน้าโน้ตบุ๊กด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เธอก็เลยเอ่ยถามออกมา “เราอยากชวนกันไปช่วยเหลือเด็กบนดอย มิลินสนใจไหม” ปอร์เช่มองหน้ามิลินด้วยความกังวล เพราะว่าการไปที่นั่นก็ค่อนข้างลำบาก ไม่รู้ว่าแฟนสาวจะอยากไปด้วยไหม “สนใจสิ เราก็อยากไปเหมือนกัน” ได้คำตอบจากมิลินแล้วปอร์เช่ก็คลี่ยิ้มด้วยความโล่งใจ เขาเลยเปิดข้อมูลที่หาเอาไว้ให้มิลินดู หญิงสาวตอบตกลงแบบไม่ลังเลเลย “ชวนเพื่อนไปด้วยใช่ปะ” มิลินเอ่ยถาม “ใช่ครับ พวกเรายังไม่ได้รวมตัวฉลองที่เรียนจบกันเลย เราก็เลยว่าจะชวนเพื่อนไปที่นั่น” ปอร์เช่ตอบกลับพร้อมกับเอาโทรศัพท์ออกมาส่งเข้าไปในไลน์กลุ่ม “ตอบตกลงกันทุกคนเลยมิลิน” ปอร์เช่หันหน้าจอให้มิลินดู เพื่อนทุกคนตอบว่าไปกันหมด ให้เขาหาสถานท