มิลินหันมองเพื่อนใหม่ที่มีท่าทางแตกต่างกัน สีหน้าของไม้สะลึมสะลือราวกับจะหลับอยู่ตลอดแต่วันนี้นั่งตรงกลางทำให้อยู่ในสายตาของอาจารย์ ไม้ก็เลยแอบหลับไม่ได้ ส่วนอลันก็นั่งเล่นเกมในโทรศัพท์
“เพื่อนปอร์เช่ไม่ค่อยสนใจเลยแฮะ” มิลินกระซิบคุยกับปอร์เช่
ชายหนุ่มหัวเราะแล้วหันไปทางเพื่อนของเขา รู้จักกันที่ผับก็รู้นิสัยมาบ้างว่าสองคนนี้ไม่ได้สนใจเรื่องเรียนขนาดนั้น
“ยังติดเที่ยวเยอะก็เป็นแบบนี้แหละ” ปอร์เช่ตอบ เขานึกถึงเมื่อก่อนที่ตัวเองชอบออกเที่ยวกลางคืน พอไปเรียนก็ง่วงซะจนไม่ได้สนใจเรื่องที่อาจารย์สอน
“แล้วจะสอบได้ไหม”
“เพิ่งจะเปิดเทอมเอง ยังไม่สอบซะหน่อย เดี๋ยวพออาจารย์สั่งงานเยอะ ๆ หรือใกล้สอบก็ไม่ไปเที่ยวกันหรอก”
“ปอร์เช่รู้ได้ไง” มิลินแปลกใจเพราะเขาเข้าใจเพื่อนใหม่เป็นอย่างดี ทั้งที่เพิ่งรู้จักได้ไม่นาน
“เมื่อก่อนเราก็เป็นแบบนี้เลย เพื่อนเราที่เรียนที่อื่นก็เป็นแบบนี้ แต่พออาจารย์สั่งงานเยอะก็ไม่ไป”
หญิงสาวพยักหน้าเพื่อสื่อว่าเข้าใจแล้ว เธอเองก็มีช่วงเวลาที่ไม่ได้ใสใจกับการเรียนนัก หากเป็นช่วงที่แบรนด์โปรดกำลังจะปล่อยคอลเลกชันใหม่ เธอก็ใจจดจ่ออยู่กับแบรนด์นั้นเหมือนกัน
“คุยไรกัน” มินนี่ถาม เธอได้ยินที่มิลินคุยกับปอร์เช่แต่เสียงเบามากจนจับใจความไม่ได้
“คุยเรื่องสองคนนั้น”
“อ๋อ” มินนี่มองไปที่เพื่อนใหม่แล้วอมยิ้ม “คืนนี้ไปเที่ยวกันป้ะ”
“ไปดิ อยากไปอยู่เหมือนกัน” มิลินตอบเพื่อนรักทันที ช่วงนี้อาจารย์ยังไม่สั่งงานมากนัก รีบไปเที่ยวก่อนที่งานจะเยอะแล้วไม่ได้ไป
“ทำไมรอบนี้มึงเปิดใจรับเพื่อนใหม่ง่ายจังวะ” มินนี่สงสัยตั้งแต่ที่มิลินตอบตกลงให้สองคนนั้นมาเข้าแก๊งด้วย และยังสนใจที่จะไปเที่ยวกลางคืนด้วยกันอีก
“เผื่อเข้ากันได้เหมือนปอร์เช่” มิลินตอบเสียงเรียบ เธอเลิกคิดกังวลไปก่อนแล้วเพราะปอร์เช่ก็ยังเข้ากันได้ดี สองคนนั้นก็น่าจะเข้ากันได้
มินนี่อมยิ้มแล้วหันกลับมาสนใจอาจารย์ที่กำลังสอน มิลินจดเลกเชอร์ไว้จนกระทั่งเลิกคลาสเธอก็ส่งชีตไปให้เพื่อนใหม่
“เอาไปลอกซะ เราเห็นว่าไม้กับอลันแทบไม่สนใจอาจารย์เลย” มิลินเอ่ยออกมา ไม้และอลันยิ้มแห้งด้วยความเขิน แต่ก็รับเอาไว้เพราะตอนสอบจะได้มีอ่าน
“ขอบคุณนะ เดี๋ยวกลางวันเราเลี้ยงข้าว” อลันเอ่ยออกมา
“ไม่เลี้ยงมื้อกลางวันได้ไหม”
“แล้วจะให้เลี้ยงมื้อไหน” ไม้เอ่ยถาม
“วันศุกร์นี้พาไปเที่ยวหน่อย” มิลินเอ่ยออกมา เธออยากไปเที่ยวคืนวันศุกร์เพราะพ่อแม่มักจะกลับดึก ๆ และวันเสาร์ก็ไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้ามาเรียนด้วย
“ได้เลย!!!” ไม้และอลันเอ่ยออกมาทันที เสียเงินแค่นี้ไม่มีปัญหาเลยสำหรับเขา
“ไปที่ผับ S นะ” ไม้เอ่ยออกมาผับ S เป็นผับประจำที่พวกเขาไป อยู่ไม่ห่างจากมหาวิทยาลัยเท่าไหร่
“เลี้ยงกูด้วยนะ” ปอร์เช่กระตุกยิ้ม
“ไม่!!!” ไม้และอลันเอ่ยออกมา เสียงหัวเราะของมิลินและมินนี่พลันดังขึ้น ต่างจากปอร์เช่ที่มองเพื่อนด้วยแววตาขุ่นเคือง
เลี้ยงสาว ๆ แต่ไม่ยอมเลี้ยงเขา!
“ไปกินข้าวกันเถอะ หิวละ” มิลินดึงแขนปอร์เช่ให้เดินลงไปกินข้าว ชายหนุ่มมองมือของมิลินแล้วหัวใจก็เต้นแรง เขาทำสีหน้าเรียบเพื่อไม่ให้มีใครสังเกตเห็นว่าเขารู้สึกกับมิลินเกินกว่าเพื่อน
“ไปกินที่ไหนกันอะ” อลันเอ่ยถาม เดินมาถึงหน้าโรงอาหารแล้วแต่ไม่เลี้ยวเข้าไป
“ไปกินข้างนอก ปอร์เช่เคยพาออกไปกิน คนไม่เยอะและอร่อยด้วย” มิลินตอบกลับ อลันพยักหน้าให้
เดินออกมาถึงร้านข้าวแล้วปอร์เช่ก็เดินไปสั่งน้ำผลไม้ให้มิลิน จำได้ดีว่าเธอชอบอะไรและถ้าออกมากินที่ร้านนี้ก็จะสั่งน้ำผลไม้มาทุกครั้ง ต่างจากมินนี่ที่เปลี่ยนไปดื่มอย่างอื่นตามที่ตัวเองอยาก
“คืนวันศุกร์นี่ให้เราไปรับที่บ้านไหม” ปอร์เช่หันไปถามมิลินระหว่างที่กินข้าว
“ไปสิ ไม่อยากขับรถเองเหมือนกัน”
“รู้จักบ้านมิลินด้วยเหรอ” อลันเอ่ยถาม
“รู้สิ เคยคุยกันวันที่ไปช็อปปิงอะ บ้านมิลินอยู่ไม่ไกลจากคอนโดกูเท่าไหร่” ปอร์เช่ตอบกลับ
“แล้วมินนี่จะไปยังไงให้ไปรับเปล่า” อลันพยักหน้าให้ปอร์เช่แล้วหันไปถามมินนี่ด้วยความหวังดี
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราขับรถไปเอง บ้านเราอยู่ใกล้แค่นี้เอง” บ้านของมินนี่อยู่ใกล้ ๆ เธอขับรถไปเองสะดวกกว่า
“โอเค”
ทั้ง 5 คนกินข้าวเสร็จแล้วก็กลับมาเข้าเรียนในคาบบ่ายต่อ วิชานี้อาจารย์สั่งงานกลุ่ม 5 คน ซึ่งก็ครบพอดีไม่ต้องไปหากลุ่มอยู่เหมือนคนอื่น ๆ
บทส่งท้าย (จบ) 3 เดือนต่อมาภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองอบอวลไปด้วยดอกไม้มากมาย โคมไฟระย้าประกายแสงออกมาในโทนอบอุ่น เสียงดนตรีดังคลอเบา ๆแขกเหรื่อมากมายมาร่วมงานฉลองมงคลสมรสระหว่างมิลินและปอร์เช่ จนบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น พ่อแม่ของทั้งสองต้อนรับแขกอยู่ตลอดส่วนบ่าวสาวยังแต่งตัวอยู่ในห้อง มิลินสวยราวกับเจ้าหญิง เพื่อนสนิทเดินเข้าไปหาก็อึ้งในความสวยของเธอ“สวยมากเลยมึง” มินนี่เอ่ยออกมา แววตาของเธอเป็นประกายด้วยความชื่นชม“เห็นมาตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อน ตอนจีบ ตอนมีปัญหากัน ในที่สุดก็ได้เห็นถึงวันนี้ด้วย” อลันเอ่ยออกมา“เห็นมาตลอดแต่พอได้แต่งงานกันก็ซึ้งไปด้วยเนอะ” ไม้เอ่ยออกมา อลันก็พยักหน้าให้ เป็นเพื่อนกันมาจนได้เห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาทั้งอิ่มสุขและซึ้งกับความรักของเพื่อน“ใกล้ได้เวลาแล้วนะคะ” พิธีกรเดินเข้ามาตามในห้องแต่งตัว บ่าวสาวพยักหน้าให้แล้วเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อน ๆ ก็เดินนำไปที่ห้องจัดเลี้ยงก่อนแล้วประตูบานใหญ่เปิดออกกว้าง เจ้าสาวในชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์ยืนควงแขนกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ทั้งสองเดินเข้ามาข้างใน เพื่อน ๆ โปรยก
บทที่ 97ปอร์เช่พามิลินเดินออกมานั่งดูดาวกันสองคนแบบเงียบ ๆ ส่วนลูกสาวของเขาก็มีเพื่อน ๆ คอยดูแลให้อยู่ “เราเตรียมแผนนี้ไว้ตั้งแต่วันที่รู้ว่าจะไปเลย” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “ปิดเป็นความลับเก่งมากเลย” ก่อนที่จะไปมิลินไม่เอะใจเลยสักนิด ทั้งที่เพื่อน ๆ ก็รู้กันหมด ทุกคนกำความลับเอาไว้ได้มิดมาก “ฮ่า ๆ ถ้าไม่ปิดสนิท มิลินรู้ก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ” ปอร์เช่ลูบศีรษะของแฟนสาวก่อนที่จะดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด มิลินเอียงหัวซบที่แผงอกของเขาแล้วมองแหวนที่นิ้วตัวเอง “แล้วไปซื้อแหวนมาตอนไหน” “ตอนที่ออกไปทำงานน่ะ เรามีเวลาว่างก็ออกไปซื้อแหวนมา” ตัวติดกันตลอดเขามีโอกาสไปซื้อได้แค่ตอนที่ออกไปทำงานเท่านั้น “แล้วแบบนี้เคยหนีเที่ยวบ้างหรือเปล่าเนี่ย” “ไม่เคยครับ” ปอร์เช่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่เคยออกนอกลู่นอกทางอยู่แล้ว นอกจากไปซื้อแหวนวงนี้ มิลินหันไปส่งยิ้มให้ก่อนจะจูบปากเขาด้วยความรัก แฟนของเธอทำน่ารักขนาดนี้จนเธอรู้สึกว่าโชคดีจริง ๆ ที่ได้รักกัน “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะ” “ครับ” ปอร์เช่กอดมิลินเอาไว
บทที่ 96“เตรียมแหวนไว้พร้อมแล้วใช่ไหม” ไม้เอ่ยถามเมื่อมิลินเดินออกไปแล้ว“เตรียมไว้แล้ว ขอบคุณมากนะครับที่ทำตามแผนของผม” ปอร์เช่ตอบไม้แล้วเอ่ยกับผู้นำ เขาเป็นคนวางแผนเอาไว้เองว่าจะจัดงานเลี้ยงส่ง แล้วเขาก็จะขอแฟนสาวแต่งงานในคืนนี้“ไม่เป็นไรเลยครับ” ผู้นำตอบกลับปอร์เช่มองไปที่สองแม่ลูกแล้วเดินออกไปหา เขานั่งลงข้าง ๆ แฟนสาวแล้วมองเมญ่าเล่นขายของกับเด็ก ๆ “ลูกเรานี่เข้ากับคนง่ายจริง ๆ เลยเนอะ” ปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา “คิดถูกแล้วที่พาลูกมาด้วย” มิลินตอบกลับ ทีแรกก็กังวลว่าจะอยู่ไม่ได้ แต่เมญ่ากลับอยู่ได้แบบสบาย ๆ นั่งเล่นกับพื้นไม่ได้กลัวเปื้อน แล้วยังสนุกไปกับเพื่อนใหม่อีกด้วย “ลูกกินง่ายอยู่ง่ายเหมือนเราสองคน” มิลินหันไปมองหน้าปอร์เช่แล้วคลี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยที่ลูกสาวเป็นเหมือนเราสองคนที่อยู่ตรงไหนได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ชีวิตหรูหราสะดวกสบายอะไร ตกเย็นชาวบ้านก็มารวมตัวกันที่ลานกว้าง ทำอาหารแล้วมาตั้งไว้ พร้อมกับช่วยกันตกแต่งเป็นสถานที่เลี้ยงส่งกลุ่มหนุ่มสาวที่เข้ามาช่วยกันซ่อมแซมโรงเรียน “มิลินเสร็จแล้วเดินไปก่อนก็ได้” ปอร์เช่เอ่ย
บทที่ 95 วันต่อมาปอร์เช่และกลุ่มเพื่อนตื่นขึ้นมาแต่เช้าท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เมญ่ายังคงนอนหลับสบาย มิลินไม่ได้ปลุกขึ้นมา ให้ลูกนอนห่มผ้าหนา ๆ ไปก่อนเพราะกลัวว่าถ้าลุกออกมาเล่นตอนนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำ แล้วมานั่งเล่นมองหมอกจาง ๆ อยู่ที่หน้าบ้าน สักพักนึงชาวบ้านก็เอากับข้าวมาให้ “ขอบคุณมากนะครับ” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “คุณแม่ขา” “จ้า เดี๋ยวแม่เข้าไปหานะ” มิลินได้ยินเสียงลูกสาวเรียกหาก็เลยลุกเข้าไปในห้องนอน เมญ่าอ้าปากหาวแล้วลุกขึ้นมาหาผู้เป็นแม่ “หนาวไหมลูก” มิลินเอ่ยถาม ถึงตอนนี้จะมีแดดขึ้นมาแต่ก็ยังมีความเย็นอยู่ “ไม่หนาวมากค่ะ” “ถ้างั้นเราไปแปรงฟันกันนะคะ ลุง ๆ ป้า ๆ เอาของกินมาให้เยอะเลย”“ค่ะคุณแม่”มิลินพาน้องเมญ่าไปแปรงฟันแล้วออกมานั่งกินข้าวด้วยกัน หลังจากกินข้าวกันอิ่มแล้วทุกคนก็พากันไปขนของที่รถลงมาโดยที่มีชาวบ้านไปช่วยกันขนด้วย“ไปเล่นกันไหม” เด็กหญิงคนเดิมเดินเข้ามาหาเมญ่า“ไปค่ะ” เมญ่าตอบกลับแล้วพากันเดินไปนั่งเล่นอยู่แถวบ้านอีกหลังนึง ซึ่งอยู่ในสายตาของมิลินและปอร์เ
บทที่ 94 “เมญ่าอยากได้สไลด์เดอร์ค่ะคุณปู่ คุณพ่อคุณแม่เคยพาไปเล่น เมญ่าชอบมากเลยค่ะ” “ได้เลยหลานรัก เดี๋ยวปู่ซื้อให้นะ” “อย่าเลยค่ะพ่อ ไว้พาไปเล่นข้างนอกดีกว่าค่ะ เพราะเล่นไม่นานเดี๋ยวก็เมญ่าโตขึ้นแล้วเล่นไม่ได้อีกค่ะ” มิลินเดินออกมาได้ยินที่ลูกสาวอ้อนขอของเล่นพอดีก็เลยห้ามไว้ ท่านตามใจเมญ่ามากเกินไปเธอกลัวว่าลูกสาวจะเอาแต่ใจ พออยากได้อะไรก็ต้องได้ ใบหน้าของเมญ่างอง้ำที่ถูกขัดใจ “หน้างอแบบนี้ แม่เอาไก่ทอดไปเก็บดีกว่า” มิลินแกล้งเดินหนีเข้าไปที่ครัว เมญ่ารีบลุกจากตักของคุณปู่แล้ววิ่งตามไป “กินค่ะคุณแม่ เมญ่าไม่หน้างอแล้วค่ะ” “พ่อคงตามใจหลานมากเกินไปหน่อย” พ่อของปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา พอถูกมิลินขัดท่านก็รู้สึกผิดที่ตามใจเมญ่ามากไป พอขอสไลด์เดอร์ก็จะซื้อให้เลยโดยที่ไม่ต้องคิด “ผมเข้าใจพ่อนะครับ ผมเองก็รักลูกหลงลูกจนอยากซื้อของให้ลูกเยอะแยะไปหมดเลย” ปอร์เช่ตอบกลับ เขารักลูกมากพอลูกขออะไรก็อยากให้ แต่เขาก็หักห้ามใจไว้เพราะกลัวว่าลูกจะเสียนิสัย “พ่อก็ต้องห้ามใจแล้วล่ะ” มาเฟียใหญ่คลี่ยิ้มบางแล้วเดินไปที่โต๊ะ
บทที่ 93 หลังจากงานรับปริญญาแล้ว ปอร์เช่เปิดโน้ตบุ๊กค้นหาข้อมูลเรื่องของเด็กบนดอย เขาเคยมีความฝันว่าอยากเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ บนนั้นแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไป ตอนนี้เขาและแฟนสาวก็เรียนจบแล้วเขาเลยอยากหาโอกาสไปสักครั้ง “ทำอะไร” มิลินเดินออกมาหลังจากที่พาลูกสาวนอนในช่วงกลางวันแล้ว เห็นคนตัวโตกำลังดูหน้าโน้ตบุ๊กด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เธอก็เลยเอ่ยถามออกมา “เราอยากชวนกันไปช่วยเหลือเด็กบนดอย มิลินสนใจไหม” ปอร์เช่มองหน้ามิลินด้วยความกังวล เพราะว่าการไปที่นั่นก็ค่อนข้างลำบาก ไม่รู้ว่าแฟนสาวจะอยากไปด้วยไหม “สนใจสิ เราก็อยากไปเหมือนกัน” ได้คำตอบจากมิลินแล้วปอร์เช่ก็คลี่ยิ้มด้วยความโล่งใจ เขาเลยเปิดข้อมูลที่หาเอาไว้ให้มิลินดู หญิงสาวตอบตกลงแบบไม่ลังเลเลย “ชวนเพื่อนไปด้วยใช่ปะ” มิลินเอ่ยถาม “ใช่ครับ พวกเรายังไม่ได้รวมตัวฉลองที่เรียนจบกันเลย เราก็เลยว่าจะชวนเพื่อนไปที่นั่น” ปอร์เช่ตอบกลับพร้อมกับเอาโทรศัพท์ออกมาส่งเข้าไปในไลน์กลุ่ม “ตอบตกลงกันทุกคนเลยมิลิน” ปอร์เช่หันหน้าจอให้มิลินดู เพื่อนทุกคนตอบว่าไปกันหมด ให้เขาหาสถานท