Masuk"สัญญาฉันไม่ทำหรอกนะ ฉันชอบทำสัญญาใจมากกว่า เพราะฉันเชื่อในความซื่อสัตย์ของเธอ ตกลงกู้เงินจากฉันใช่ไหม" คำพูดของตุลาทำให้องุ่นถึงกับเอามือเกาหัว แม้ว่าเธอจะยังคงมึนเมาอยู่บ้าง แต่ก็มีสติพอที่จะทราบ ในสิ่งที่เธอกับเขากำลังพูดคุยสนทนากัน "ทำไมอยากให้ฉันกู้เงินจากคุณจัง ฉันมีค่าขนมทุกเดือน แม้ว่ามันจะไม่กี่พัน แต่ก็พอประทังชีวิตเราสองคนแม่ลูกไปได้บ้าง อย่างน้อยเขาก็ยังมีเมตตาให้ทุนการศึกษา ให้ค่าขนมในแต่ละเดือน"หญิงสาวพยายามมองโลกในแง่ดี แม้ว่าเธอจะพยายามเข้าใจ ในสิ่งที่ผู้เป็นบิดามอบให้ ที่สำคัญเขาคงเหลือกินเหลือใช้ เพราะเป็นถึงนักธุรกิจ รายใหญ่ เขาจึงเจียดเศษเงินให้กับเธอ แต่อย่างน้อยเขาก็ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง ที่ไม่ทิ้งขว้างให้เธอนั้นต้องเผชิญโลกนี้เพียงลำพัง แม้ว่าเขาจะมาในรูปแบบผู้สงเคราะห์เด็กยากไร้เรียนดีแต่ยากจนก็ตามที "มันคนละส่วนกัน แต่นี่ฉันให้เธอยืม รอแป๊บนะ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหยิบเช็คขึ้นมา เขาได้บรรจงเขียนตัวเลขลงไปพร้อมกับเซ็นกำกับเอาไว้ เพื่อให้คนที่ถือเช็คนี้เบิกเงินได้เลย ทั้งที่แสงไฟมืดสลัว "นี่คุ
"ไม่เป็นไรหรอก ยังไงเธอก็เป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวฉัน ขอบใจนะที่ส่งโลเคชันไปให้" ตุลาพูดออกมาพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก แต่องุ่นคงไม่ทันสังเกต ความจริงกว่าจะได้โลเคชันจากองุ่นตุลาก็รอนานมาก จนชายหนุ่มตัดสินใจไปถามบิดา เพราะเขาได้อ้างกับบิดาออกไปว่ากันยาให้รีบไปรับ แล้วโทรศัพท์ของเธอแบตหมด ผู้เป็นบิดาจึงบอกทางไปบ้านของราชันเพียงคร่าวๆ จากนั้นพักใหญ่องุ่นจึงได้แชร์โลเคชันมาให้ เขากับสิงโตจึงรีบบึ่งรถไปที่นั่นทันที แม้ว่าเกือบจะไม่ทันการณ์ แต่ก็เข้าไปช่วยเหลือน้องสาวและองุ่นมาได้อย่างปลอดภัย "คุณรีบหรือเปล่าคะ ฉันขอนั่งในรถสักพักได้ไหม รอให้ฉันแน่ใจว่าแม่หลับแล้วจะเข้าบ้านทันที หรือถ้าคุณรีบ ฉันนั่งรอหน้าบ้านก็ได้" "ฉันไม่รีบรอได้ เอ่อ... ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ" ตุลามีความสงสัยมากมายที่อยากจะถามองุ่น แต่ไม่มีโอกาส วันนี้เขาจึงตั้งใจที่จะถามเธอในเรื่องที่เคยข้องใจ ทำไมหญิงสาวถึงเลือกเรียนคณะเกษตรศาสตร์ ทั้งที่มันไม่เข้ากับชีวิตของเธอเลยสักนิด
"เรื่องนี้เราเคลียร์กันจบแล้วไม่ใช่เหรอครับ...หืม" ผมพูดพร้อมกับเอามือปัดลงไปที่ปอยผมของเธอ ในขณะที่ใบหน้าของเราสองคนห่างกันไม่ถึงคืบ และตัวผมเองก็พร้อมที่จะจู่โจม เมื่อแววตาและกิริยาของเธอนั้นช่างดึงดูดใจผมเหลือเกิน "อื้ม..." คราวนี้สิงโตได้จูบลงไปที่เรียวปากของกันยาอย่างหนักหน่วง ซึ่งหญิงสาวเองก็ไม่มีท่าทีจะถอยหนี เธอเผยออ้าปากรับด้วยความเต็มใจ ในเวลานี้คงไม่มีใครทำให้คนทั้งคู่ยุติแรงปรารถนาที่มีในตัวลงได้"อื้อ...อื้ม" เสียงครางดังอื้ออึงออกมาจากในลำคออย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ชายหนุ่มได้ดึงผ้าเช็ดตัวออกจากร่างอรชร เขาได้ทิ้งมันลงไปกองที่พื้นอย่างไม่ไยดี พร้อมกับผ้าเช็ดตัวของเขาที่พันไว้รอบเอวหนาถูกชายหนุ่มกระชากทิ้งลงไปกองรวมกันไว้ อย่างไม่แยแสแม้แต่น้อย จึงทำให้เรือนกายของคนทั้งคู่เปลือยเปล่าล่อนจ้อนอีกครั้ง "อื้ม..." รสจูบที่แสนหวานเร่าร้อนและดูดดื่ม ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระบบจังหวะการเต้นของหัวใจ เริ่มแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อชายหนุ่มสอดแทรกปลายลิ้นเข้า
ภายในห้องที่มีแสงไฟสลัว แสงสีส้มนวลอ่อนๆ จากโคมไฟ บวกกับแอลกอฮอล์ที่หญิงสาวดื่มไป ยิ่งส่งผลให้กันยามีความต้องชายตรงหน้าเป็นทวีคูณ เรือนกายเปลือยเปล่าที่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง ทำให้สิงโตแทบละสายตาจากเธอไม่ได้เลย ชายหนุ่มกวาดสายตามองออกไปด้วยหัวใจที่เต้นแรง ก่อนจะรีบจัดการกับชุดของตัวเอง ซึ่งเขาใช้เวลาไม่นาน เสื้อผ้าอาภรณ์ในกายของชายหนุ่ม ก็ถูกถอดทิ้งไปกองที่พื้นรวมกับชุดของหญิงสาวหญิงสาวร่างอรชรอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน พร้อมกับชันเข่าขึ้น เพื่อปิดบังกลีบกุหลาบงามบานเบ่ง แม้จะมีอาการเมาแต่เธอนั้นก็ยังคงมีความเขินอาย ภาพตรงหน้าท่าทางของเธอนั้น ยิ่งทำให้ หญิงสาวนั้นแลดูเซ็กซี่ไม่เบา แถมสายตาของเธอที่มองมายังชายหนุ่ม มันมีแววของความอ้อนยังกับลูกแมวน้อยขี้อ้อน อยากให้เจ้าของเอาอกเอาใจ "เธอรู้ตัวหรือเปล่ากันยา ตอนนี้ฉันกำลังจะคลั่ง วันนี้ทำไมยั่วยวนจัง เธอจะทำให้ฉันหลงรักหัวปักหัวปำไปถึงไหน ทุกวันนี้ฉันแทบจะไม่อยากห่างเธอแม้วินาที ถ้าจะยั่วขนาดนี้ แต่งกันพรุ่งนี้เลยไหมครับคนดี...หืม" ผมพูดออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตากลมโต ที่เวลานี้มันเป็นประกายไม่แ
"ขอบคุณนะ แล้วทำไมไม่พากลับบ้าน เดี๋ยวพ่อฉันก็เอานายตายหรอก" ฉันพูดออกไปด้วยความเขินอายเมื่อสิงโตมองด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม ทำให้ฉันรู้และสัมผัสได้ ในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อคำพูดของเขาที่บอกว่าจะลบรอย ความหมายของมันคงไม่พ้นเรื่องแบบนั้นอย่างแน่นอน "คนที่พ่อเธอควรจะเอาถึงตาย คือนายราชันนู่นไม่ใช่ฉันหรอกนะกันยา" "พูดไม่เพราะเลย เขาเป็นรุ่นพี่เรียกไอ้แบบนั้นได้ยังไง" "คนอย่างมันไม่มีเกียรติพอที่ฉันจะเรียกพี่หรอก ถ้ามันอยากให้ฉันเรียกพี่จริงๆ ไอ้ราชันมันต้องมากราบขอโทษเธอเท่านั้น ฉันถึงจะยอมเรียกมันว่าพี่" น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่เกรี้ยวกราด แต่ก็วางอำนาจอยู่ในที เมื่อเขารู้สึกหวงแหนเธออย่างเป็นที่สุด "โหดจัง" ฉันพูดออกมาพร้อมกับอมยิ้ม ก่อนจะชำเลืองหางตามองไปที่เขา ใบหน้าอันหล่อเหลา ทำให้ฉันรู้สึกหลงรักเขา ครั้งแล้วครั้งเล่า "รู้ตัวว่ามีผัวขาโหด ก็อย่าประกาศตัวว่าโสดนะครับน้อง"
"ไอ้สารเลวเอ๊ย!" ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ! ตุลากระชากคอเสื้อชายคนที่หนึ่งแล้วซัดเข้าที่ใบหน้ารัวๆ โดยที่ชายหนุ่มนั้นไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะหันไปใช้เท้ากระทืบชายอีกคนอย่างไม่ยั้งเช่นกัน เมื่อชายทั้งคู่ดื่มไปมากจึงไม่มีแรงสู้ตุลา เกมนี้เขาจึงได้เปรียบ เขาจัดการคนทั้งคู่ไปไม่กี่กระบวนท่า ก็สยบแทบเท้าภายในพริบตา "ไอ้ชัว! ไอ้เลว! มึงทำกับผู้หญิง ที่เป็นสตรีเพศแม่แบบนี้ได้ยังไง จิตใจของพวกมึงทำด้วยอะไร! ไอ้สัตว์เอ๊ย!" ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ! ชายหนุ่มพูดพร้อมกับชกไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของคนทั้งคู่ สลับกันไปมา พร้อมกับถีบและเตะอย่างกับคนบ้าคลั่ง จนไม่รู้ว่าสองหนุ่มหมดสติไปตั้งแต่เมื่อใด ส่วนเกรซนั้นหล่อนรีบเก็บโทรศัพท์แล้วเดินออกไปจากบ้านในทันที เพราะกลัวความผิดที่สมรู้ร่วมคิดกับเพื่อนชาย "องุ่น! องุ่นคุณมีสติหน่อย คุณไม่เป็นไรแล้วนะ ผมจัดการพวกมันให้แล้ว" ตุลาเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าให้กับเธอ จากนั้นเขาได้ถอดแจ็คเก็ตสวมให้กับหญิงสาว







