เมื่อความผูกพันตั้งแต่ครั้งเรียนมัธยมต้น ได้จบลงไม่สวยเท่าไหร่นัก จึงทำให้เขาและเธอห่างเหินกันไป จนกระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งคู่ได้พบกันโดยบังเอิญ มิหนำซ้ำยังเรียนอยู่คณะเดียวกันอีกด้วย "ยังเจ็บอยู่ไหมมีแผลตรงไหนหรือเปล่า" เสียงทุ้มของชายหนุ่มเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย ในขณะที่หัวใจของกันยาเริ่มเต้นระรัว "ว้าย! จะทำอะไร" ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อชายหนุ่มในชุดนักศึกษานั่งคุกเข่าลงไปกับพื้นพร้อมกับถลกกระโปรงนักศึกษาของฉันขึ้นเลยเข่าเล็กน้อย การกระทำของเขายิ่งทำให้ทุกคนจับจ้องมองมาที่ฉัน เหมือนในหนังในละครมาก เวลาที่พระเอกก้มลงไปมองแผลและพร้อมที่จะหายามาทาให้นางเอก ส่วนเกรซกับเพื่อนๆ ของเธอนั้นกลับมองมาที่ฉันด้วยความหมั่นไส้ "อยู่นิ่งๆ สิขอดูแผลหน่อย ช้ำแบบนี้ต้องประคบเย็นเท่านั้น" น้ำเสียงของเขาที่ฟังดูอ่อนโยนและห่วงใย กำลังทำให้หัวใจของฉันแทบจะละลาย ซึ่งผลงานชุดนี้จะเป็นซีรีส์ Follow your heart. เรื่องแรกแม่ทูนหัวของพ่อเสือหนุ่ม ตามมาด้วยเล่ห์ร้ายใจปรารถนา ต่อมาเรื่องเพื่อนรัก (เผลอ) รักเพื่อน (I love my friend) และเรื่องสะดุดรัก Lady cook. ฝากติดตามด้วยนะคะ
View More"สงสัยพี่ตุลาจะมารับฉันละมั้ง" ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมบางครั้งฉันถึงเรียกตุลาว่าพี่ บางทีก็เรียกแค่ชื่อเฉยๆ เพราะเราสองคนเป็นฝาแฝดแล้วเกิดห่างกันไม่กี่นาที จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะ เรียกกันว่าพี่หรือไม่เรียกก็ได้ "ไม่น่าจะใช่ตุลา นี่เพิ่งจะสิบแปดนาฬิกาเอง เหลือเวลาอีกตั้งสองชั่วโมง ตุลาคงจะไม่มาก่อน เวลาหรอกมั้ง" ผมพูดพร้อมกับทำสีหน้างงๆ ออกมาด้วยความแปลกใจ เมื่อกำลังมีลางสังหรณ์ว่าจะเป็นใครบางคน ที่ผมไม่อยากให้มาที่นี่หรือเปล่า "ออกไปดูสิ หรือว่าจะเป็นเพื่อนของนาย ฉันอิ่มแล้วนายอิ่มหรือยัง เดี๋ยวฉันจะเก็บจานไปล้าง แล้วจะขึ้นไปรอตุลาข้างบนนะ" ฉันรีบพูดขึ้นเพราะไม่อยากเจอใครในตอนนี้ ถ้าเกิดว่ามีใครมาเห็นฉันอยู่กับสิงโตเพียงลำพังภายในบ้านหลังนี้ แน่นอนเขาต้องรู้ถึงความสัมพันธ์ของฉันกับสิงโต ที่กำลังเริ่มต้นตกลงเป็นแฟนกัน ซึ่งฉันไม่ต้องการให้ใครรู้
มือเรียวของกันยาได้ยกขึ้นไปดันอกแกร่งของสิงโตเอาไว้ ในขณะที่เขาจูบอย่างดูดดื่ม ปล่อยช่องว่างเอาไว้ให้เธอได้หายใจ เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ในเวลานี้ร่างกายอรชรได้อ่อนระทวย ไปกับสัมผัสที่ได้รับจากชายหนุ่ม จูบแรกของเธอได้มอบให้กับสิงโตไปแล้ว เมื่อกันยาได้เผลอปล่อยให้เขาจูบตามอำเภอใจ เพราะร่างกายของเธอต้านทานความต้องการของหัวใจไม่ไหว ริมฝีปากหนายังคงดูดดึงขบเม้ม บดเบียดละเลียดชิมความหอมหวานจากริมฝีปากของเธอ ลิ้นร้อนอ่อนนุ่มกำลังสอดแทรกเข้าไปภายใน โพรงปากของกันยา หญิงสาวอ้ารับลิ้นร้อนด้วยความเต็มใจ เขาแตะกระหวัดปลายลิ้นสอดแทรกเข้าไปภายในโพรงปากของเธอ ทั้งสองโต้ตอบกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงจูบดังสลับกับเสียงเสียดสีของร่างกายที่เร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนสิงโตแทบจะคลั่ง "อื้ม..." เสียงครางจากในลำคอของกันยาดังขึ้น ในขณะที่เธอพยายามดันชายร่างกำยำออกห่าง เมื่อจิตใต้สำนึกลึกๆ บอกว่าไม่ควรทำแบบนี้ เพราะถ้าบิดามารดารู้คงจะเสียใจมาก
"พอแล้วสิงโตหยุดก่อนเดี๋ยวฉันทำเอง" ฉันไม่รู้ว่ายืนเหม่ออยู่ตรงนั้นไปนานแค่ไหน แถมสิงโตยังจับฉันมานั่งไดร์ผมอีกด้วย ตอนนี้หัวใจของฉันมันกำลังเต้นโครมคราม เมื่อชายหนุ่มใบหน้าคมคาย ร่างกายหล่อล่ำกำยำ กำลังไดร์ผมให้ฉันในระยะประชิดตัว "เสร็จแล้ว ไปนั่งรอฉันที่เตียงห้ามออกจากห้องนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเธอโดนฉันทำโทษแน่ยัยตัวแสบ" เสียงทุ้มของสิงโตกระซิบลงมาที่ข้างหูของฉัน เขาจะรู้หรือเปล่าว่าคำขู่นั้น กำลังทำให้ฉันรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว ลมหายใจอุ่นๆ ที่รดลงมายังซอกคอหอมกรุ่นทำให้สัมผัสได้ถึงความใกล้ชิด เมื่อปลายจมูกคมเกือบแนบลงมาชนที่แก้มของฉัน สรุปว่าฉันต้องนั่งรอเขาอาบน้ำวนไป มันน่าแปลกใจที่ฉันไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง ซึ่งเขาจัดเอาไว้ได้อย่างลงตัวและน่าอยู่มาก ดูมีระบบระเบียบเรียบร้อยดี แต่เมื่อฉันนึกถึงใบหน้าของเนตรดาว ทำให้รอยยิ้มที่สดใส เปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ แฟนของใคร ใครก็รัก ใครก็หวง ฉันไม่ควรเผลอใจไปม
"จะให้ฉันลงนายก็หลบไปสิ" ฉันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด แน่นอนฉันกำลังพยายามพูด เพื่อกลบเกลื่อนความตื่นเต้นที่มีเอาไว้ หมับ! ชายหนุ่มคว้าข้อมือเล็กเรียวของกันยามากุมเอาไว้ ในขณะที่เธอนั้นไม่ทันตั้งตัว "ตามมา" "สิงโต... ปล่อยฉันเดินเองได้" ฉันพูดออกมาพร้อมกับพยายามสะบัดข้อมือให้พ้นจากอุ้งมือหนา แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผล "กันยาอย่าดื้อสิ บ้านผมหลังใหญ่เดี๋ยวคุณเดินหลง" ข้ออ้างของเขาช่างฟังดูไร้เหตุผล เพราะบ้านหลังนี้ไม่กว้างไม่ใหญ่มากซึ่งเป็นบ้านที่ขวัญข้าวกับอัครเดชเคยอยู่มาก่อน สมัยที่พวกเขาทั้งสอง ทำงานด้วยกันที่โชว์รูม ซึ่งตอนนี้เขาได้ยกให้กับลูกชายคนโต เมื่อชายหนุ่มขอมาเรียนที่กรุงเทพฯ แม้ว่าอัครเดชและขวัญข้าวจะไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความดื้อของสิงโต "สิงโต นายจะพาฉันขึ้นไปบนบ
"สิงโต! นายนี่มัน! " ฉันเอ็ดเขาออกไป พร้อมกับ ถึงมือออกมา ในเวลานี้ใบหน้าของฉันเริ่มร้อนผ่าวมันคงแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้ว ยิ่งอยู่ใกล้เขาหัวใจของฉันก็ยิ่งเต้นแรง ฉันไม่รู้ว่าจะสามารถเก็บอาการเหล่านี้ไว้ได้อีกนานแค่ไหนกัน หลังจากนั้นภายในรถก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน เพราะต่างคนต่างก็กำลังคิดไปเองว่าอีกคนคงไม่มีใจ ทั้งสองจะรู้หรือไม่ว่ากำลังใจตรงกันเมื่อรถยนต์คันหรูวิ่งขึ้นมาที่ถนนใหญ่ สิงโตได้เปลี่ยนทิศทาง จนกันยารู้สึกแปลกใจ เพราะนี่ไม่ใช่ทางไปบ้านของเธออยากแน่นอน "นี่นายจะพาฉันไปไหน" เสียงของฉันดังขึ้นหลังจากที่ภายในรถเงียบไปหลายนาที แม้ว่าฉันจะรู้สึกดีกับเขามากแค่ไหนก็ตามที แต่ก็ไม่มีทางที่จะทำให้บิดามารดาต้องเสียใจ เพราะในเวลานี้ฉันเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจสิ่งโต แววตาและรอยยิ้มที่เขามองมาอย่างฉันนั้นเจ้าเล่ห์ยังไงชอบกล "ใครบอกว่าฉันจะพาเธอกลับบ้านกันล่ะ" ผมตอบเธอกลับไป ในขณะที่เหลือบหางตามองไปที่เธอ ก่อนจะรีบโฟกัสไปที่ถนนตรงหน้า เพราะไม่อยากเห็นแววตาที่เธอกำลังมองค้อนมาที่ผมอย่างเอาเรื่อง "ฉันต้องรีบกลับบ้าน เพราะพ่อกับแม่รออยู่ ถ้
อาจารย์เข้ามาบรรยายถึง หัวข้อสำคัญในรายวิชา นี่มันคือครั้งแรกที่ฉันรู้สึกอึดอัดที่สุดตั้งแต่เรียนมา นั่นคงเป็นเพราะว่าใจของฉันจดจ่ออยู่แต่เรื่องขององุ่น ไม่รู้ว่าป่านนี้เธอจะเป็นยังไง เธอจะถึงบ้านหรือยังพาแม่ไปหาหมอที่ไหน ไปกับใคร ฉันยังรู้สึกเจ็บใจตัวเองไม่หาย ถ้าวันนี้ขับรถมาคงได้พาองุ่นกลับบ้านและพาแม่เธอไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้วจากนาทีเป็นชั่วโมงจน กระทั่งอาจารย์บรรยายเสร็จหมดคาบเรียน ทุกคนค่อยๆ ทยอยเดินออกไปจากห้อง ในขณะที่ฉันยังคงนั่งอยู่ที่เดิม "เป็นอะไรหรือเปล่ากันยาแล้วเพื่อนเธอไปไหน" เสียงทุ้มดังขึ้น ทำให้ฉันรีบหันกลับไปมองและพบว่าจิงโจ้กับเพื่อนของเขาสามสี่คนยืนอยู่ด้านหลังออกจากฉัน "แม่องุ่นไม่สบาย เราขอตัวนะ" ฉันพูดพร้อมกับรีบลุกขึ้นยืนและเตรียมเก็บสมุดหนังสือมาถือเอาไว้ พร้อมที่จะเดินออกไปจากห้อง "เดี๋ยวก่อนสิ จะรีบไปไหน ให้เราไปส่งไหม... ตอนเช้าได้ข่าวว่าเธอมารถเมล์ไม่ใช่เหรอ" จิงโจ้ยังคงยืนกรานที่จะพูดคุยกับกันยาต่อ ที่สำคัญเขารู้อีกว่าเธอนั้นนั่งรถเมล์มากับอ
Comments