로그인"เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น มันใช้การได้ฉันรับประกัน และที่สำคัญมันพร้อมที่จะเข้าไปสำรวจในถ้ำของเธอแล้วกันยา" ผมพูดพร้อมกับโน้มตัวกันยาให้นอนลงราบกับเตียง จากนั้นผมจึงรีบจัดการกับชุดที่ตัวเองสวมใส่ ซึ่งผมใช้เวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที ร่างกายของผมก็ล่อนจ้อน เผยให้เห็นมวลกล้าม พร้อมทั้งเจ้ามังกรตั้งลำเขื่องนั้นด้วย กางเกงของหญิงสาวพร้อมทั้งกางเกงชั้นในของเธอ ถูกชายหนุ่มรั้งลงต่ำ จากนั้นเขาได้ดึงลงให้พ้นจากขาเรียวของเธอ ลงไปรวมกับชุดของเขาอย่างไม่เป็นระเบียบ "อื้ม..อ้า สะ สิงโต" เสียงหวานครางเรียกชื่อชายหนุ่มออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น เมื่อเขาจับลงไปที่ต้นขาของเธอแล้วง้างออก ชายหนุ่มมุดใบหน้าลงไปเชยชมกลีบกุหลาบงามบานเบ่งด้วยความสุขในอุรา เมื่อเขากำลังจะนำพาหญิงตรงหน้าให้ไปแตะขอบฟ้าด้วยกัน จากนั้นเพลงรักก็เริ่มบรรเลงขึ้น ปลายลิ้นร้อนแตะลงไปที่เม็ดสีแดงระเรื่อ หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความเสียวซ่าน จนก้นของเธอกระตุกขึ้นลง เพื่อเด้งรับกับปลายลิ้นร้อนอย่างอัตโนมัติ "อื้ม สิงโต ฉะ ฉาน ฉันว่ามัน
น้ำเสียงของใบหม่อนดังมาก่อนตัว จนทำให้กันยาถึงกับเอามือขึ้นมาป้องปาก เพราะที่บ้านของไผ่เปิดไฟเอาไว้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไผ่หันหน้าจอสมาร์ตโฟน ไปทางต้นเสียงของหญิงสาวพอดี จึงมองเห็นใบหม่อนได้อย่างถนัด เมื่อเธอกำลังเดินเข้ามาหาไผ่พร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบอกเอาไว้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าผู้หญิงที่ไผ่พูดถึง ที่เขาบอกกับสิงโตว่าเป็นภรรยานั้น คงต้องเป็นใบหม่อนอย่างแน่นอน "ฉันพูดกับสิงโต ไม่มีสาวที่ไหนหรอกน่า" ไผ่รีบพูดแทรกขึ้นราวกับคนที่กำลังกลัวเมีย เมื่อใบหม่อนเห็นว่าเป็นสิงโตเธอจึงไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก "แค่นี้นะสิงโต... กูค้าง" "อืม... เชิญมึงไปทำธุระของมึงต่อให้เสร็จ กูไม่กวนละ" "ต่อให้มึงโทรมาอีกกูก็ไม่รับ แค่นี้นะเมียกูนอนรอแล้ว โชคดีเพื่อน" พูดจบไผ่ก็ตัดสายทันที ในขณะที่กันยายืนน้ำตาไหลอาบแก้มสองข้าง เมื่อเธอกำลังรู้สึกเสียใจ ที่เข้าใจ
"รับสักทีสิ ไอ้เชี้ยไผ่ มึงทำอะไรอยู่เนี่ย คนยิ่งร้อนใจมันก็ยิ่งลีลา" ผมพูดออกมาอย่าอารมณ์เสีย เมื่อกดวิดีโอคอลหาไผ่แต่มันไม่ยอมรับสาย "ทำไม... ถึงต้องหาตัวช่วยเลยเหรอ ต่อให้ไผ่มาเป็นพยานฉันก็ไม่มีทาง ที่จะเออออห่อหมกกับพวกนายหรอกนะ ในสายตาของนายฉันคงเป็นผู้หญิงที่โง่ ถึงคิดที่จะหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า" ฉันยังคงพูดจากระแทกแดกดันออกไป เพราะฉันคิดว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่เราสองคนจะดึงดันคบกันต่อไป "พูดจบหรือยังยัยตัวแสบ ยังไม่แก่ก็บ่นเป็นหมีกินผึ้งเสียแล้ว" "นายว่าฉันบ่นเก่งเหรอ ฉันกำลังพูดความจริงอยู่ต่างหาก...ชิ! ถ้าไม่มีอะไรจะพูดฉันขอตัวเข้าบ้านก่อน" ฉันเริ่มขี้เกียจที่จะต่อปากต่อคำกับสิงโตแล้ว เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งดูแย่ เมื่อเขามองฉันเป็นเพียงเหมือนยายแก่ขี้บ่นคนหนึ่งเท่านั้น "เดี๋ยวก่อน ฉันขอโทรหาไผ่อีกเพียงแค่ครั้งเดียว ถ้ามันไม่รับจริงๆ
ซึ่งเขาและครอบครัวกลับปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ แม่ขวัญกับพ่อเสือก็น่าจะบอกความจริงกับฉัน ทำไมทุกคนต้องเห็นดีเห็นงามกับสิงโตด้วย ฉันเองก็ไม่เข้าใจ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นให้ได้ เพราะชีวิตนี้ต้องเดินต่อไป แม้ว่าจะไม่มีสิงโตอยู่ข้างๆ ก็ตามที ~เวลาสิบเก้านาฬิกา~ ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ แล้วมานั่งลงที่เตียงนอน กลิ่นอาหารที่โชยเข้ามาภายในห้องนั้นทำให้ฉันรู้สึกหิว แต่ก็พยายามฝืนร่างกายไม่ให้เผลอไปกับกลิ่นที่ได้รับ เพราะฉันรู้ดีว่ามันคงเป็นฝีมือของสิงโตอย่างแน่นอน เขาคงตั้งใจที่จะอยู่ให้ฉันหิวแล้วเปิดประตูออกไป แต่ขอบอกไว้เลยว่าไม่มีทาง ต่อให้ฉันต้องหิวจนตายก็จะไม่ยอมเปิดประตูออกไปกินอาหารที่เขาทำ เพราะฉันยังจดจำทุกถ้อยคำของใบหม่อนไม่เคยลืม ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น แต่ฉันก็ไม่ได้คิดที่จะลุกขึ้นไปเปิด ฉันไม่รู้หรอกนะว่าความอดทนของคนเรามันมีขีดจำกัดมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ฉันต้องการคืออยากให้สิงโต ออกไปให้พ้นๆ จากไร่กุหลาบสัก
"ทำไมที่นี่ ถึงมีแต่คนมาพักใจ หรือเป็นเพราะว่าผู้ชายส่วนมากไม่รู้จักพอ คุณย่ารู้เปล่าคะ ว่ากันยาเจ็บปวดแค่ไหน คุณย่าอยู่บนฟ้าสบายดีไหมคะ ทำไมกันยาถึงรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าจังเลย กำไลของคุณย่าสองวงนี้มันได้อยู่ด้วยกันแล้วนะคะ แต่ไม่รู้ว่ากันยากับสิงโตจะใช่คู่ครอง ที่คุณย่าเคยหมายปองเอาไว้หรือเปล่า เราอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่กันก็ได้ค่ะ" ฉันพูดออกมาพร้อมกับมองไปที่เจดีย์เก็บอัฐิคุณย่า เพราะก่อนสิ้นลมหายใจคุณย่าได้กำชับทุกคนเอาไว้ ท่านอยากมาอยู่ที่ไร่กุหลาบนี้เพราะมันสงบดี และที่สำคัญที่ไร่กุหลาบนี้ มันเป็นสถานที่เดียวที่มีความทรงจำดีๆ ระหว่างคุณปู่กับคุณย่าหลงเหลือ ก่อนที่ท่านจะเดินออกไปจากชีวิตของคุณย่า โดยไม่หันกลับมามองแม้แต่หางตา เมื่อคุณปู่มีผู้หญิงอีกคนเข้ามาในหัวใจ ในขณะที่คุณย่าเองไม่มีใคร นางยอมปิดประตูหัวใจตราบจนสิ้นลมหายใจ สิงโตขับรถมาที่ไร่กุหลาบ เขาจอดรถเอาไว้แล้วรีบตามหากันยา เพราะเข้าไปในบ้านแล้วไม่พบเธอ ชายหนุ่มจึงเดินออกมาที่ไร่ และก็พบว่า
"ไม่เป็นไรหรอกครับแค่นิดหน่อยเอง แม่เลี้ยงกวางกมลมีบุญคุณกับผมมากมาย ต่อให้ชดใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด การที่ผมช่วยคุณกันยามันเป็นเพียงค่าเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น อย่าคิดมากเลยครับ" อ้ายคำปันพูดออกมาจากใจ เพราะสิ่งที่เขาทำไปนั้นไม่ได้หวังผลตอบแทน "แพนด้าลงมาพอดี หยิบเงินมาในเก๊ะมาให้พ่อสักหมื่นสิลูก" "ได้ค่ะพ่อ" แพนด้าพูดพร้อมกับเดินไปหยิบ ธนบัตรมาหนึ่งปึก แล้วส่งให้บิดาของเธอ "รับไปสิอ้ายคำปัน" อัครเดชพูดพร้อมกับส่งธนบัตรให้กับชายตรงหน้า แต่เขาก็มีท่าทีที่ไม่อยากรับมันเลยสักนิด "นายครับมันเยอะเกินไปผมรับไม่ได้หรอก" อ้ายคำปันรีบปฏิเสธออกไปทันที เพราะเขาซื้อของไปแค่พันกว่าบาทเอง "ความจริงฉันต้องให้อ้ายคำปันมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ที่ช่วยกันยาเอาไว้ รับไว้เถอะ คิดว่าเป็นทุนการศึกษาให้ลูกก็แล้วกัน" "ขอบคุณมากครับนาย" อ้ายคำปันยกมือไหว้ด้วยความจำใจ "ไม่เป็นไรหรอกฉันคิดว่าน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับน้ำใจที่อ้ายคำปันมีให้กับกันยา"







