Home / โรแมนติก / เมรี่ยอดนักสืบหญิง / การสืบสวนครั้งแรก

Share

การสืบสวนครั้งแรก

last update Last Updated: 2025-06-06 22:10:53

การสืบสวนครั้งแรก

นี่คือคดีแรกของเมรี่ เธอรู้ดีว่านี่คือโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเอง และหาเงินทุนสำหรับเดินทางไปหาพี่ชายให้ได้ เธอเริ่มสืบสวนด้วยความกระตือรือร้น เธอสัมภาษณ์คนขายดอกไม้ที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งจำได้ว่าเห็นเด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งเดินวนเวียนอยู่ใกล้รถม้าของท่านดัชเชสเมื่อเช้า

"เธอสวมเสื้อผ้าเก่าๆ และมีผ้าคลุมหน้าปิดบังใบหน้าไว้ค่ะ" คนขายดอกไม้กล่าว "ดูเหมือนคนยากจนน่ะค่ะ"

เมรี่จดบันทึกทุกรายละเอียด เธอเดินตามรอยเท้าเล็กๆ นั้นไปตามถนนสายต่างๆ รอยเท้าพาเธอไปยังตรอกซอยแคบๆ ที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่าน มันนำพาเธอไปสู่ย่านที่อยู่อาศัยของชนชั้นแรงงาน ที่บ้านเรือนเก่าทรุดโทรมแออัดกัน

ในขณะที่เมรี่กำลังเดินตามรอยเท้าไปเรื่อยๆ เธอรู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องมาที่เธอหลายคู่ เธอพยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด ราวกับเธอเป็นคนในย่านนี้ เธอสังเกตเห็นเด็กๆ หลายคนเล่นอยู่ตามตรอกซอกซอย ใบหน้าของพวกเขาบ่งบอกถึงความยากลำบากในชีวิต

รอยเท้าพาเธอไปยังบ้านหลังหนึ่งที่ดูเก่าและทรุดโทรมกว่าหลังอื่นๆ เมรี่เห็นรอยเท้าแบบเดียวกันปรากฏอยู่บนพื้นดินหน้าบ้านหลังนั้น

"นี่ไงคะ!" เมรี่กระซิบกับตัวเอง "นี่ต้องเป็นบ้านของขโมยแน่ๆ!"

เธอรวบรวมความกล้าแล้วเคาะประตูไม้เก่าๆ บานนั้นอย่างสุภาพ ประตูเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นหญิงชราคนหนึ่งที่มีใบหน้าอิดโรยและดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง

"มีอะไรหรือคะคุณหนู?" หญิงชราถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

"สวัสดีค่ะคุณยาย" เมรี่กล่าวอย่างสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ "หนูชื่อเมรี่ค่ะ กำลังสืบสวนคดีเล็กๆ น้อยๆ และเชื่อว่าอาจจะมีเบาะแสบางอย่างที่บ้านหลังนี้ค่ะ"

หญิงชรามองเมรี่ด้วยความประหลาดใจ เธอคงไม่คาดคิดว่าจะมีเด็กสาวอย่างเมรี่มายืนอยู่หน้าประตูบ้านของเธอ

"มีอะไรให้ช่วยหรือคะ?" หญิงชราถามอย่างระมัดระวัง

"ไม่ทราบว่าคุณยายเห็นเด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งออกมาจากบ้านหลังนี้เมื่อเช้าบ้างไหมคะ" เมรี่ถาม "เธอสวมรองเท้าบูทที่มีลักษณะเฉพาะตัว"

หญิงชรานิ่งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าของเธอดูซีดลง "ฉัน...ฉันไม่เห็นใครเลยค่ะ"

เมรี่สังเกตเห็นว่าหญิงชรากำลังโกหก ดวงตาของเธอหลบเลี่ยง และมือของเธอกำชายเสื้อแน่น เธอเคยเห็นอาการแบบนี้หลายครั้งจากผู้ต้องสงสัยที่พ่อของเธอเคยสอบสวน

"คุณยายคะ" เมรี่กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่หนักแน่น "หนูแค่ต้องการทราบความจริงเท่านั้น หากคุณยายให้ความร่วมมือ จะไม่มีใครต้องลำบากเลยค่ะ"

ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงเด็กสาวคนหนึ่งไอค่อกแค่กดังขึ้นมาจากด้านในบ้าน

หญิงชราหันไปมองประตูอย่างตกใจ เมรี่มองตามไปที่ประตู และเห็นเด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งเดินออกมา เธอสวมเสื้อผ้าเก่าๆ และมีผ้าพันคอสีซีดพันรอบคอ ดวงตาของเธอดูกลัว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ รองเท้าบูทของเธอมีรอยบุ๋มเล็กๆ ที่ปลายเท้าเหมือนกับที่เมรี่เห็น

"ลูซี่! ทำไมเจ้าถึงออกมา!" หญิงชราตะโกน

ลูซี่ตัวสั่น เธอหันไปมองเมรี่ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความกลัว

"คุณ...คุณหนูคะ" ลูซี่พูดเสียงแผ่วเบา "หนู...หนูไม่ได้ตั้งใจ..."

เมรี่รู้สึกสงสารเด็กสาวคนนี้ แต่ก็รู้ว่าเธอต้องทำหน้าที่ของเธอ "ลูซี่ เธอรู้ไหมว่าแหวนของท่านดัชเชสหายไปไหน?"

ลูซี่มองเมรี่ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เธอเริ่มร้องไห้ "หนู...หนูแค่ต้องการเงินมาซื้อยาให้ยายค่ะ ยายป่วยหนักมาก ไม่มีใครยอมช่วยพวกเราเลย"

เมรี่ทรุดตัวลงนั่งยองๆ ตรงหน้าลูซี่ "ลูซี่ ไม่มีใครอยากให้เธอต้องติดคุกหรอกนะ แค่บอกความจริงกับเรา แหวนอยู่ที่ไหน?"

ลูซี่หยิบแหวนเพชรแซฟไฟร์วงงามออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเธอ มันถูกห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าสีขาว แหวนยังคงมีประกายระยิบระยับ แม้จะถูกขโมยมา

"หนู...หนูไม่ได้อยากขโมยมันเลยค่ะ" ลูซี่กล่าวทั้งน้ำตา "หนูแค่เห็นมันหล่นอยู่ และคิดว่ามันจะช่วยยายได้"

เมรี่รับแหวนมาถือไว้ในมืออย่างระมัดระวัง "เธอเห็นแหวนหล่นอยู่ที่ไหนหรือ?"

ลูซี่ชี้ไปที่มุมหนึ่งของตลาด "ตรงที่คนขายดอกไม้พรมน้ำน่ะค่ะ หนูเห็นมันหล่นจากกระเป๋าของท่านดัชเชสตอนที่ท่านกำลังเดินซื้อดอกไม้อยู่ค่ะ"

"ขอบคุณมากนะลูซี่ เธอซื่อสัตย์มาก" เมรี่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอหันไปหาหญิงชรา "คุณยายคะ หนูเข้าใจว่าทำไมหลานสาวของคุณยายถึงทำแบบนี้ แต่การเก็บของที่หายไปแล้วไม่ส่งคืนก็ถือเป็นการกระทำผิดนะคะ หนูจะนำแหวนไปคืนท่านดัชเชส แต่หนูจะเล่าความจริงทั้งหมดให้ท่านฟัง ท่านอาจจะเมตตาและไม่เอาเรื่องหลานสาวของคุณยายก็ได้ค่ะ"

หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้นด้วยความโล่งใจ "ขอบคุณพระเจ้า! ขอบคุณคุณหนู! ขอบคุณจริงๆ ค่ะ!"

บทสรุปของคดีและการเดินทาง

เมรี่เดินกลับไปที่ตลาดพร้อมกับแหวนในมือ เธอเดินตรงไปหาท่านดัชเชสเอลิซาเบธที่ยังคงยืนรอคอยความคืบหน้าอยู่

"ท่านดัชเชสคะ หนูเจอแหวนของท่านแล้วค่ะ" เมรี่กล่าวพร้อมกับยื่นแหวนคืนให้

ท่านดัชเชสเบิกตากว้างด้วยความดีใจ เธอรับแหวนมาถือไว้ในมือด้วยความระมัดระวัง "จริงหรือนี่! ขอบคุณพระเจ้า! ขอบคุณมากนะเด็กน้อย! เธอทำได้ยังไงกัน?"

เมรี่เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เธอสืบสวนพบเจอ รวมถึงเรื่องราวของลูซี่และความจำเป็นที่ทำให้เด็กสาวคนนั้นต้องทำเช่นนั้น

ท่านดัชเชสฟังอย่างตั้งใจ ใบหน้าของนางดูเศร้าสลดลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องราวของความยากลำบากของลูซี่ "น่าสงสารจริงๆ นะเด็กน้อยคนนั้น...แต่การขโมยก็คือการขโมย"

"แต่เธอไม่ได้ขโมยค่ะท่านดัชเชส เธอแค่เก็บมันได้เพราะความจำเป็นจริงๆ" เมรี่อธิบาย "หนูเชื่อว่าเธอจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ และหนูหวังว่าท่านดัชเชสจะเมตตาเธอด้วยนะคะ"

ท่านดัชเชสมองเมรี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพิจารณา "เธอช่างใจดีจริงๆ นะเมรี่...และเธอมีความสามารถในการสืบสวนที่น่าทึ่ง ฉันไม่เคยเห็นใครไขคดีได้รวดเร็วและแม่นยำเท่าเธอเลย" ท่านดัชเชสหยิบถุงผ้าไหมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเหรียญทองออกมา "นี่คือรางวัลของเธอเมรี่ มันสมควรแก่เธอแล้ว และฉันจะให้เงินช่วยเหลือเด็กสาวคนนั้นอีกส่วนหนึ่งด้วย"

เมรี่รู้สึกดีใจสุดขีด เธอรับถุงเหรียญทองมาถือไว้ในมือ มันหนักกว่าที่เธอคาดไว้มาก "ขอบคุณมากค่ะท่านดัชเชส! หนูจะนำเงินนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดค่ะ"

เมื่อคดีจบลง และเงินรางวัลอยู่ในมือ เมรี่ก็รู้สึกถึงความพร้อมที่จะเดินทางต่อไปอย่างแท้จริง

"คุณหนูแบล็ควู้ด" ตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเมรี่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคารพที่เพิ่งได้รับ "ผมต้องขอโทษด้วยที่ดูถูกความสามารถของคุณในตอนแรก คุณเป็นนักสืบที่มีพรสวรรค์จริงๆ ครับ"

เมรี่ยิ้มเล็กน้อย "ไม่เป็นไรค่ะคุณตำรวจ ฉันเข้าใจดี"

เมรี่รู้ว่าการเดินทางจากบาธไปยังลอนดอนนั้นค่อนข้างไกล แต่ด้วยเงินรางวัลที่ได้รับ เธอจะสามารถซื้อตั๋วรถม้าโดยสารไปยังลอนดอนได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมากนัก

เธอเดินกลับมาที่ร้านเบเกอรี่ เพื่อบอกลาคุณลุงเบเกอรี่และจัดเตรียมข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ของเธอ

"เจ้าจะไปจริงๆ แล้วหรือเมรี่?" คุณลุงเบเกอรี่ถามด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

"ค่ะคุณลุง หนูต้องไปตามหาพี่ชายของหนูค่ะ" เมรี่ตอบ "ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมานะคะ คุณลุงใจดีกับหนูมากจริงๆ"

คุณลุงเบเกอรี่พยักหน้า "ขอให้เจ้าเดินทางปลอดภัยนะหนูน้อย ขอให้พระเจ้าคุ้มครองเจ้า"

เมรี่กล่าวลาทุกคนที่ร้านเบเกอรี่ แล้วมุ่งหน้าไปยังสถานีรถม้าโดยสาร หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกังวลในเวลาเดียวกัน เธอไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจออะไรบ้าง การเดินทางสู่โลกกว้างเพียงลำพังของเด็กสาววัย 17 นั้นเต็มไปด้วยอันตรายและความไม่แน่นอน แต่หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักสืบ และตามหาพี่ชายทั้งสองที่เธอเชื่อว่ายังคงรอคอยเธออยู่ ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะยาวไกลและอันตรายแค่ไหน เมรี่ก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันทั้งหมด เพื่ออิสรภาพและเพื่อความฝันของเธอ

เธอขึ้นรถม้าโดยสารที่มุ่งหน้าสู่ลอนดอน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยโอกาสและปริศนาที่รอคอยการไข เมรี่รู้ว่าภารกิจของเธอกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   กุญแจแห่งอนาคต

    เมรี่ กุม กุญแจทั้งสี่ดอกแห่งกาลเวลา ไว้ในมือ แต่ละดอกเปล่งประกายพลังงานที่แตกต่างกันออกไป บัดนี้ พวกเขาได้เรียนรู้ถึงความหมายของแต่ละดอก: ความทรงจำที่หายไป, บทเพลงแห่งผู้ถูกจองจำ, ความเจ็บปวดจากอดีต และ แสงสว่างแห่งศรัทธา เหลือเพียง กุญแจดอกสุดท้าย — 'กุญแจแห่งอนาคต' — ที่จะเปิด 'ประตูแห่งกาลเวลา' สู่ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาบแช่ง' และเผชิญหน้ากับ 'ผู้สร้างแห่งหายนะ'หลังจากได้รับกุญแจดอกที่ 4 จากโบสถ์แห่งศรัทธา ทุกคนก็รีบเดินทางกลับมาที่ 'ป่าต้องห้าม' เพื่อพบกับ เอเลนอร์ ผู้เฝ้าประตู พวกเขาเชื่อว่าเธออาจมีเบาะแสสุดท้ายเกี่ยวกับกุญแจดอกที่ 5เมื่อมาถึง ประตูแห่งกาลเวลา ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางป่า เอเลนอร์ก็ยืนรอพวกเขาอยู่แล้ว ร่างของเธอยังคงเปล่งแสงสีเขียวมรกตที่อบอุ่น"ยินดีด้วยที่พวกเจ้าได้กุญแจดอกที่ 4 มา" เอเลนอร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม "แต่เส้นทางข้างหน้ายังคงอันตรายนัก""ท่านพอจะบอกได้ไหมครับว่ากุญแจดอกที่ 5 อยู่ที่ไหน?" ปู่ทวด ถามอย่างมีความหวังเอเลนอร์หลับตาลงชั่วครู่ แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยแสงแห่งปัญญา "กุญแจดอกที่ 5 นั้น...อยู่ใกล้กว่า

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   โบสถ์แห่งศัทธา

    เมรี่ กุม กุญแจทั้งสามดอกแห่งกาลเวลา ไว้ในมือแน่น แต่ละดอกเป็นเครื่องยืนยันถึงการเดินทางที่ยาวนานและอันตรายที่พวกเขาได้เผชิญหน้ามา ตอนนี้พวกเขามีกุญแจสามในห้าดอกแล้ว เหลืออีกเพียงสองดอกเท่านั้นที่จะเปิด 'ประตูแห่งกาลเวลา' สู่ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาปแช่ง' หลังจากได้รับกุญแจดอกที่ 3 จากหัวหน้าหมู่บ้านแบล็ควินด์ พวกเขาก็รีบออกเดินทางต่อทันที ปู่ทวด กำลังตรวจสอบแผนที่โบราณและจารึกที่ได้มาจากหอสมุดหลวงอีกครั้ง เพื่อค้นหาเบาะแสของกุญแจดอกที่ 4 "คำใบ้ของกุญแจดอกที่ 4 คือ 'ที่ซึ่งความศรัทธาถูกทดสอบ... ที่ซึ่งแสงสว่างส่องนำทางในความมืดมิด...'" ปู่ทวดพึมพำ "มันฟังดูเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์" "โบสถ์อย่างนั้นหรือครับ!" นักสืบโธมัส กล่าว "อาจจะเป็นไปได้" ปู่ทวดพยักหน้า "โบสถ์เก่าแก่บางแห่งถูกสร้างขึ้นบนจุดที่พลังงานแห่งกาลเวลาไหลเวียน...และอาจมีบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ 'กุญแจแห่งกาลเวลา' ซ่อนอยู่" พวกเขาตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังโบสถ์เก่าแก่ที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของประวัติศาสตร์อันยาวนานและตำนานลึกลับที่เล่าขานกันมา แม่ชีผู้รอคอย การเดินทางไปยังโบสถ์นั้นค่อนข้างราบรื่น หล

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   หมู่บ้านที่เงียบงัน

    เมรี่ กุม กุญแจทั้งสองดอกแห่งกาลเวลา ไว้ในมือแน่น พร้อมกับ เข็มทิศแห่งความจริง และ เศษเสี้ยวของผลึกแห่งดวงดาว หลังจากที่ได้ กุญแจดอกที่ 2 จาก ป่าต้องคำสาป ตอนนี้พวกเขามีกุญแจสองในห้าดอกแล้ว แต่ละดอกล้วนเป็นหลักฐานของการเดินทางอันยาวนานและความลึกลับของ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาปแช่ง' ที่รออยู่เบื้องหน้าพวกเขาออกเดินทางจากป่าฮอคเฮิร์สท์ด้วยรถม้า โดยมี ไคโรส และสมาชิกของ 'หน่วยบิดเบือนกาลเวลา' ร่วมเดินทางไปด้วย แม้จะยังคงมีคำถามเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขา แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ การมีพันธมิตรที่รู้เรื่องกาลเวลาดีก็ถือเป็นเรื่องดี"เราจะไปหากุญแจดอกที่ 3 ที่ไหนกันครับปู่ทวด?" นักสืบโธมัส ถามขณะที่รถม้าเคลื่อนตัวไปตามถนนลูกรังที่คดเคี้ยวปู่ทวด กำลังตรวจสอบแผนที่โบราณและจารึกที่ได้มาจากหอสมุดหลวง เขาพยายามถอดรหัสคำใบ้ของ เอเลนอร์ ผู้เฝ้าประตู"คำใบ้ของกุญแจดอกที่ 3 คือ 'ที่ซึ่งเสียงหัวเราะกลายเป็นความเงียบงัน... ที่ซึ่งชีวิตถูกพรากไปโดยไร้ร่องรอย...'" ปู่ทวดพึมพำ "มันฟังดูเหมือนสถานที่ที่กำลังประสบปัญหาใหญ่"คำขอจากชายชราผู้ผอมโทรมยังไม่ทันที่พวกเขาจะตัดสิน

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ผู้เฝ้ากุญญาและปริศนาทั้ง5

    เบื้องหน้า เมรี่ และทีม คือ 'ประตูแห่งกาลเวลา' บานมหึมาที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์และสัญลักษณ์โบราณ มันดูเก่าแก่และน่าเกรงขาม ราวกับเป็นประตูสู่โลกอีกใบหนึ่ง หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดใน 'ป่าต้องห้าม' และการได้มาซึ่งพันธมิตรที่ไม่คาดฝันอย่าง ไคโรส ผู้นำ 'หน่วยบิดเบือนกาลเวลา' ตอนนี้ทุกคนต่างจ้องมองไปยังประตูบานนั้นด้วยความคาดหวังและกังวลใจ"เราจะเปิดมันได้อย่างไรครับ?" นักสืบโธมัส ถามพลางสำรวจประตูปู่ทวด มองไปที่แผนที่โบราณในมือ "ตำราโบราณกล่าวว่า 'ประตูแห่งกาลเวลา' ไม่ได้เปิดออกด้วยพละกำลัง...แต่ด้วยกุญแจแห่งความเข้าใจ"ทันใดนั้นเอง แสงสว่างสีเขียวมรกตก็ส่องประกายออกมาจากบริเวณด้านบนของประตู!"วูบบบบบบบบบบบ!"ร่างของ หญิงสาวคนหนึ่ง ที่สวมชุดสีเขียวมรกตดูราวกับชุดของเทพธิดา ปรากฏขึ้นจากแสงสว่างนั้น เธอมีใบหน้าที่งดงาม ดวงตาของเธอเปล่งประกายสีเขียวมรกตราวกับดวงดาวในยามค่ำคืน เส้นผมของเธอพลิ้วไหวราวกับกระแสเวลาที่มองไม่เห็น"ยินดีต้อนรับ...ผู้พิทักษ์แห่งกาลเวลา" หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่ก้องกังวานไปทั่วทั้งป่า "ข้าคือ เอเลนอร์... ผู้เฝ้าประตูแห่งกาลเวลา"เมรี่เบิกตากว้าง "เลดี้เ

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ป่าต้องห้ามและพันธมิตร

    หลังจากช่วยเหลือชาวบ้านจากกลุ่มโจรป่าที่ถูกควบคุมโดย 'ดวงดาวที่สาปแช่ง' ได้สำเร็จ เมรี่ และทีมก็เร่งรัดการเดินทางไปยัง 'ประตูแห่งกาลเวลา' ที่ซ่อนอยู่ในป่าลึกทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอนดอน พวกเขาขึ้นรถม้าอีกครั้ง โดยมีชาวบ้านที่รอดชีวิตช่วยส่งไปถึงปากทางเข้าป่าที่เปล่าเปลี่ยว"ประตูแห่งกาลเวลาอยู่ที่นี่ครับ" ปู่ทวด ชี้ไปที่แผนที่เก่าแก่ที่บัดนี้ดูเหมือนจะส่องแสงเรืองรองขึ้นมาเองเมื่ออยู่ใกล้ เข็มทิศแห่งความจริง ของเมรี่ "มันถูกซ่อนไว้อย่างดี...เพื่อไม่ให้ผู้คนภายนอกล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของมัน"ป่าที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาดูไม่เหมือนป่าทั่วไป ต้นไม้สูงใหญ่หนาทึบจนแสงอาทิตย์แทบส่องไม่ถึง บรรยากาศเงียบสงัดจนน่าขนลุก มีเพียงเสียงลมพัดผ่านยอดไม้ที่สร้างเสียงหวิวๆ ราวกับเสียงกระซิบของสิ่งเร้นลับ"ป่าแห่งนี้ถูกเรียกว่า 'ป่าต้องห้าม' ครับ" นักสืบโธมัส กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ตำนานเล่าว่าไม่มีใครเคยเข้าไปในป่าแห่งนี้แล้วกลับออกมาได้อีกเลย""นั่นเพราะมันคือทางเข้าสู่มิติอื่น" ปู่ทวดเสริม "มันไม่ได้มีแค่ต้นไม้และสัตว์ป่า...แต่มันมี กับดักแห่งกาลเวลา ที่ซ่อนอยู่"เมรี่กำเข็มทิศแห่งความจริงไว้แน่น เธอรู้

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   หญิงชราและโจรป่า

    เมรี่ กุม เข็มทิศแห่งความจริง ไว้ในมือแน่น พร้อมกับ เศษเสี้ยวของผลึกแห่งดวงดาว ที่เธอเก็บรักษามาอย่างดี ทั้งหมดคือสิ่งจำเป็นที่จะเปิด 'ประตูแห่งกาลเวลา' สู่ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาบแช่ง' หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในหอสมุดหลวง พวกเขาตัดสินใจที่จะเดินทางด้วยรถม้าอีกครั้ง เพราะเกรงว่าการใช้รถไฟอาจทำให้พวกเขาถูก 'ผู้สร้างแห่งหายนะ' หรือกลุ่ม 'ดวงดาวที่สาปแช่ง' ดักทางได้ง่ายกว่าพวกเขาเช่ารถม้าที่ดูเก่าแต่แข็งแรงคันหนึ่ง มุ่งหน้าออกจากลอนดอนในยามเช้าตรู่ โดยมี ปู่ทวด นั่งอยู่ข้างเมรี่ในห้องโดยสาร นักสืบโธมัส สลับกันนั่งกับ อเล็กซานเดอร์ ที่บังเหียน ขณะที่ เฟรเดอริค, เบ็น, เอดิสัน, มิสเตอร์คลาร์ก และ 'ผู้พิทักษ์แห่งราชบัลลังก์' ติดตามไปอีกคัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีกำลังเพียงพอหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน"ตามแผนที่โบราณ 'ประตูแห่งกาลเวลา' ตั้งอยู่ในป่าลึกทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอนดอนครับ" ปู่ทวดกล่าวพลางกางแผนที่ที่ได้มาจากหอสมุดหลวงเมรี่มองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ของชนบทอังกฤษกำลังผลัดเปลี่ยนจากทุ่งหญ้าเขียวขจีเป็นป่าทึบที่ปกคลุมด้วยหมอกยามเช้า บรรยากาศเงียบสงบ แต่ในใจของเมรี่กลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status