แชร์

จะไปที่ไหนดี

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-06 22:10:41

ลมหนาวในยามเช้าตรู่ของเมืองบาธปะทะเข้ากับใบหน้าของเมรี่ ผมสีน้ำตาลเข้มของเธอปลิวสยายไปด้านหลังขณะที่เธอวิ่งไปตามถนนที่ยังคงเงียบสงัด เสียงฝีเท้าของเธอดังก้องบนก้อนหินที่ปูทาง เมรี่วิ่งโดยไม่รู้ทิศทางแน่ชัด รู้เพียงว่าต้องไปให้ไกลที่สุดจากโรงเรียนสตรีเลดี้เอเมไลน์

ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาอ่อน บอกสัญญาณของการมาถึงของรุ่งอรุณ เมรี่หอบเหนื่อย เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่กล้ามเนื้อขา แต่หัวใจกลับเบิกบานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายเดือน นี่คืออิสรภาพที่เธอโหยหา!

เธอวิ่งมาหยุดที่ริมแม่น้ำเอวอนที่ไหลเอื่อยๆ มองเห็นสะพานพัลเทนีย์ที่ทอดตัวอยู่เบื้องหน้า บ้านเรือนของชาวเมืองยังคงเงียบสงบ ไม่มีผู้คนพลุกพล่านเหมือนในตอนกลางวัน

"ฉันจะไปที่ไหนดีนะ" เมรี่พึมพำกับตัวเอง เธอเปิดกระเป๋าผ้าเล็กๆ หยิบจดหมายเก่าๆ ของพี่ชายออกมาอีกครั้ง จดหมายฉบับหนึ่งระบุว่า อเล็กซานเดอร์ กำลังสืบคดีเกี่ยวกับคดีลักพาตัวในลอนดอน ส่วนอีกฉบับของ เฟรเดอริค กล่าวถึงการตรวจสอบคดีปล้นเครื่องเพชรในเมืองเบอร์มิงแฮม

"ลอนดอน...เบอร์มิงแฮม..." เมรี่ครุ่นคิด เธอมีเงินติดตัวไม่มากนัก การเดินทางไปเมืองใหญ่ทั้งสองแห่งนั้นต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายไม่น้อย "ฉันต้องหาเงิน"

ในขณะที่เธอกำลังคิดหาวิธีอยู่นั้น เสียงเกวียนไม้เก่าๆ ก็แล่นผ่านไปบนถนน กลิ่นขนมปังอบใหม่ๆ ลอยมาเตะจมูก เมรี่หันไปมอง เธอเห็นชายวัยกลางคนผู้มีใบหน้าใจดีกำลังเข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยขนมปังอบใหม่ๆ ออกมาจากร้านเบเกอรี่เล็กๆ แห่งหนึ่ง

"คุณลุงคะ พอจะมีงานอะไรให้หนูทำบ้างไหมคะ" เมรี่รวบรวมความกล้า ถามออกไปอย่างสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ ชายคนนั้นหันมามองเมรี่ด้วยความประหลาดใจ สายตาของเขาจับจ้องไปยังเสื้อผ้าที่เรียบง่ายของเธอ "งานหรือหนูน้อย? แต่ดูจากชุดของเจ้าแล้ว เจ้าไม่น่าจะใช่เด็กสาวที่มาทำงานหามรุ่งหามค่ำได้นะ"

เมรี่ก้มหน้าเล็กน้อย "หนู...หนูหนีมาจากโรงเรียนค่ะ ต้องการเงินเพื่อเดินทางไปหาญาติที่ลอนดอนค่ะ" เธอเลือกที่จะไม่บอกความจริงทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกลับไป

ชายเบเกอรี่พิจารณาเธออยู่ครู่หนึ่ง "หนูน้อยเอ๋ย ดูเจ้าอ่อนแรงเต็มที หากเจ้าทำงานได้จริง พอลุงจะให้งานเล็กๆ น้อยๆ ช่วยขนขนมปังไปส่งที่ตลาดได้ ลุงก็ต้องการคนช่วยอยู่พอดี แต่ลุงไม่มีเงินจ่ายมากนักหรอกนะ"

เมรี่เงยหน้าขึ้น ดวงตาเป็นประกาย "เท่าไหร่ก็ได้ค่ะคุณลุง! หนูทำงานได้จริงๆ ค่ะ!"

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในโลกกว้างของเมรี่ เธอทำงานช่วยชายเบเกอรี่ไปส่งขนมปังที่ตลาดในตอนเช้า ช่วยล้างจาน ทำความสะอาดร้านในตอนบ่าย และอาศัยนอนบนกองกระสอบแป้งในร้านเบเกอรี่เล็กๆ แห่งนั้น แลกกับอาหารและเงินเล็กน้อยที่พอจะเก็บเป็นค่าเดินทางได้

สองสัปดาห์ผ่านไป เมรี่เก็บเงินได้พอสมควร แต่การเดินทางไปลอนดอนก็ยังดูเหมือนเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อม เธอเริ่มรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย แต่ทุกครั้งที่ความคิดนั้นผุดขึ้นมาในหัว เธอก็จะนึกถึงหน้าพ่อและพี่ชาย นึกถึงความฝันที่จะเป็นนักสืบ แล้วเธอก็จะฮึดสู้ขึ้นมาใหม่

เสียงกระซิบจากตลาด

เช้าวันหนึ่ง ขณะที่เมรี่กำลังช่วยชายเบเกอรี่ขนขนมปังไปที่ตลาด เสียงโกลาหลก็ดังขึ้นมาจากฝูงชนที่มุงดูอะไรบางอย่างอยู่บริเวณน้ำพุกลางตลาด เมรี่สังหรณ์ใจว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น

"เกิดอะไรขึ้นคะคุณลุง?" เธอถาม

ชายเบเกอรี่ถอนหายใจ "ไม่รู้สิหนู คงเป็นเรื่องราวของคนแปลกหน้าอีกแล้วล่ะมั้ง ช่างเถอะ เราไปขายขนมปังกันเถอะ"

แต่เมรี่ไม่สามารถเพิกเฉยได้ สัญชาตญาณนักสืบของเธอกำลังกระตุ้น เธอเดินเข้าไปใกล้ฝูงชน และพยายามชะเง้อมอง เมื่อเข้าไปใกล้พอ เธอได้ยินเสียงคนซุบซิบ

"แหวนของท่านดัชเชสหายไปอีกแล้ว!"

"นี่มันครั้งที่สามในรอบเดือนแล้วนะ!"

"ใครกันที่กล้าขโมยของจากผู้ดีมีสกุลเช่นนั้น!"

เมรี่เบิกตากว้าง 'คดีขโมย!' หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น นี่คือโอกาสของเธอ!

"คุณตำรวจคะ!" เมรี่เรียกตำรวจที่กำลังสอบปากคำหญิงสูงศักดิ์คนหนึ่งอยู่ "เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?"

ตำรวจคนนั้นหันมามองเมรี่ด้วยสายตาดูแคลน "เจ้าเด็กน้อย! ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าควรรู้! ไปให้พ้น!"

"แต่ฉันอยากช่วยค่ะ" เมรี่พยายาม "ฉันอาจจะช่วยหาเบาะแสได้"

"ฮึ่ม! เจ้าเด็กน้อยจะไปรู้อะไร!" ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หัวเราะเยาะ "นี่เป็นเรื่องของตำรวจ และนักสืบมืออาชีพ ไม่ใช่เรื่องที่สตรีอย่างเจ้าจะมายุ่งเกี่ยว!"

เมรี่รู้สึกโกรธ แต่ก็พยายามควบคุมอารมณ์ เธอรู้ดีว่าเธอต้องพิสูจน์ตัวเอง เธอสังเกตเห็นกลุ่มคนสามสี่คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พวกเขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดูดี มีหนึ่งในนั้นคือ ท่านดัชเชสเอลิซาเบธ ผู้มีใบหน้าซีดเผือดและดวงตาที่แดงก่ำจากการร้องไห้

"ไม่มีประโยชน์หรอกตำรวจ!" ท่านดัชเชสกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ "แหวนวงนั้นเป็นของขวัญจากสามีของฉัน! และมันหายไปจากกระเป๋าถือของฉันขณะที่ฉันกำลังเดินเลือกซื้อดอกไม้อยู่ตรงนี้เอง!"

"แล้วท่านดัชเชสแน่ใจหรือคะว่าแหวนหายไปที่นี่?" ตำรวจคนหนึ่งถามด้วยความอดทน "อาจจะหล่นหายที่อื่นก็ได้"

"ไม่! ฉันแน่ใจ!" ท่านดัชเชสตอบอย่างฉุนเฉียว "ฉันเพิ่งตรวจดูมันก่อนที่จะลงจากรถม้า และมันก็อยู่ในกระเป๋าของฉันจริงๆ!"

เมรี่เดินเข้าไปใกล้มากขึ้น เธอสำรวจบริเวณรอบๆ น้ำพุอย่างละเอียด เธอสังเกตเห็นรอยเท้าเล็กๆ หลายรอยที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่บนพื้นดินที่ชื้นแฉะจากการพรมน้ำของคนขายดอกไม้ เธอนั่งยองๆ ลงไปใกล้ๆ รอยเท้าเหล่านั้น และเห็นรอยบุ๋มเล็กๆ คล้ายรอยของรองเท้าบูทขนาดเล็ก

"คุณตำรวจคะ!" เมรี่เรียกอีกครั้ง "ท่านดัชเชสลงจากรถม้าตรงไหนคะ?"

ตำรวจคนนั้นหันมามองเมรี่ด้วยความรำคาญ "เจ้าเด็กนี่! ยังไม่ไปอีกหรือ!"

"ตอบหนูเถอะค่ะ หนูคิดว่าหนูเห็นบางอย่าง" เมรี่พูดด้วยความมุ่งมั่น

ท่านดัชเชสชี้ไปที่รถม้าคันงามที่จอดอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย "ตรงนั้นแหละจ้ะ"

เมรี่เดินไปที่จุดนั้น เธอสังเกตเห็นว่าพื้นดินบริเวณนั้นค่อนข้างแห้งกว่าบริเวณอื่นๆ ยกเว้นจุดหนึ่งที่เปียกชื้นเป็นพิเศษ และมีรอยเท้าเล็กๆ คล้ายกับรอยที่เธอกำลังตรวจสอบอยู่ เมรี่ก้มลงมองใกล้ๆ เธอเห็นประกายบางอย่างบนพื้นดิน มันคือเศษหินเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะหลุดออกมาจากแหวน

"ท่านดัชเชสคะ" เมรี่เดินกลับไปหาท่านดัชเชส "แหวนของท่านมีอัญมณีอะไรประดับอยู่บ้างคะ?"

"มันคือแหวนเพชรวงงาม มีแซฟไฟร์ล้อมรอบด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ นับสิบเม็ด" ท่านดัชเชสตอบอย่างรวดเร็ว

"หนูพบเศษหินเล็กๆ ที่คาดว่าเป็นเพชรหล่นอยู่ใกล้จุดที่ท่านลงจากรถม้าค่ะ" เมรี่กล่าวอย่างมั่นใจ "และรอยเท้าเหล่านี้...ดูเหมือนจะเป็นรอยเท้าของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ หรือผู้หญิงร่างเล็ก"

ตำรวจและท่านดัชเชสต่างพากันประหลาดใจ สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เมรี่

"เจ้าแน่ใจหรือเด็กน้อย?" ตำรวจถามด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป

"ค่ะ" เมรี่พยักหน้า "หนูเคยเรียนรู้การแกะรอยเท้าจากพ่อของหนูค่ะ ท่านเป็นนักสืบ"

ท่านดัชเชสมองเมรี่ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความหวัง "ถ้าอย่างนั้น เจ้าพอจะช่วยฉันได้ไหม? ฉันจะให้รางวัลอย่างงาม!"

เมรี่รู้สึกดีใจสุดขีด "แน่นอนค่ะท่านดัชเชส! หนูจะพยายามอย่างเต็มที่ค่ะ"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   กุญแจแห่งอนาคต

    เมรี่ กุม กุญแจทั้งสี่ดอกแห่งกาลเวลา ไว้ในมือ แต่ละดอกเปล่งประกายพลังงานที่แตกต่างกันออกไป บัดนี้ พวกเขาได้เรียนรู้ถึงความหมายของแต่ละดอก: ความทรงจำที่หายไป, บทเพลงแห่งผู้ถูกจองจำ, ความเจ็บปวดจากอดีต และ แสงสว่างแห่งศรัทธา เหลือเพียง กุญแจดอกสุดท้าย — 'กุญแจแห่งอนาคต' — ที่จะเปิด 'ประตูแห่งกาลเวลา' สู่ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาบแช่ง' และเผชิญหน้ากับ 'ผู้สร้างแห่งหายนะ'หลังจากได้รับกุญแจดอกที่ 4 จากโบสถ์แห่งศรัทธา ทุกคนก็รีบเดินทางกลับมาที่ 'ป่าต้องห้าม' เพื่อพบกับ เอเลนอร์ ผู้เฝ้าประตู พวกเขาเชื่อว่าเธออาจมีเบาะแสสุดท้ายเกี่ยวกับกุญแจดอกที่ 5เมื่อมาถึง ประตูแห่งกาลเวลา ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางป่า เอเลนอร์ก็ยืนรอพวกเขาอยู่แล้ว ร่างของเธอยังคงเปล่งแสงสีเขียวมรกตที่อบอุ่น"ยินดีด้วยที่พวกเจ้าได้กุญแจดอกที่ 4 มา" เอเลนอร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม "แต่เส้นทางข้างหน้ายังคงอันตรายนัก""ท่านพอจะบอกได้ไหมครับว่ากุญแจดอกที่ 5 อยู่ที่ไหน?" ปู่ทวด ถามอย่างมีความหวังเอเลนอร์หลับตาลงชั่วครู่ แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยแสงแห่งปัญญา "กุญแจดอกที่ 5 นั้น...อยู่ใกล้กว่า

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   โบสถ์แห่งศัทธา

    เมรี่ กุม กุญแจทั้งสามดอกแห่งกาลเวลา ไว้ในมือแน่น แต่ละดอกเป็นเครื่องยืนยันถึงการเดินทางที่ยาวนานและอันตรายที่พวกเขาได้เผชิญหน้ามา ตอนนี้พวกเขามีกุญแจสามในห้าดอกแล้ว เหลืออีกเพียงสองดอกเท่านั้นที่จะเปิด 'ประตูแห่งกาลเวลา' สู่ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาปแช่ง' หลังจากได้รับกุญแจดอกที่ 3 จากหัวหน้าหมู่บ้านแบล็ควินด์ พวกเขาก็รีบออกเดินทางต่อทันที ปู่ทวด กำลังตรวจสอบแผนที่โบราณและจารึกที่ได้มาจากหอสมุดหลวงอีกครั้ง เพื่อค้นหาเบาะแสของกุญแจดอกที่ 4 "คำใบ้ของกุญแจดอกที่ 4 คือ 'ที่ซึ่งความศรัทธาถูกทดสอบ... ที่ซึ่งแสงสว่างส่องนำทางในความมืดมิด...'" ปู่ทวดพึมพำ "มันฟังดูเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์" "โบสถ์อย่างนั้นหรือครับ!" นักสืบโธมัส กล่าว "อาจจะเป็นไปได้" ปู่ทวดพยักหน้า "โบสถ์เก่าแก่บางแห่งถูกสร้างขึ้นบนจุดที่พลังงานแห่งกาลเวลาไหลเวียน...และอาจมีบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ 'กุญแจแห่งกาลเวลา' ซ่อนอยู่" พวกเขาตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังโบสถ์เก่าแก่ที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของประวัติศาสตร์อันยาวนานและตำนานลึกลับที่เล่าขานกันมา แม่ชีผู้รอคอย การเดินทางไปยังโบสถ์นั้นค่อนข้างราบรื่น หล

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   หมู่บ้านที่เงียบงัน

    เมรี่ กุม กุญแจทั้งสองดอกแห่งกาลเวลา ไว้ในมือแน่น พร้อมกับ เข็มทิศแห่งความจริง และ เศษเสี้ยวของผลึกแห่งดวงดาว หลังจากที่ได้ กุญแจดอกที่ 2 จาก ป่าต้องคำสาป ตอนนี้พวกเขามีกุญแจสองในห้าดอกแล้ว แต่ละดอกล้วนเป็นหลักฐานของการเดินทางอันยาวนานและความลึกลับของ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาปแช่ง' ที่รออยู่เบื้องหน้าพวกเขาออกเดินทางจากป่าฮอคเฮิร์สท์ด้วยรถม้า โดยมี ไคโรส และสมาชิกของ 'หน่วยบิดเบือนกาลเวลา' ร่วมเดินทางไปด้วย แม้จะยังคงมีคำถามเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขา แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ การมีพันธมิตรที่รู้เรื่องกาลเวลาดีก็ถือเป็นเรื่องดี"เราจะไปหากุญแจดอกที่ 3 ที่ไหนกันครับปู่ทวด?" นักสืบโธมัส ถามขณะที่รถม้าเคลื่อนตัวไปตามถนนลูกรังที่คดเคี้ยวปู่ทวด กำลังตรวจสอบแผนที่โบราณและจารึกที่ได้มาจากหอสมุดหลวง เขาพยายามถอดรหัสคำใบ้ของ เอเลนอร์ ผู้เฝ้าประตู"คำใบ้ของกุญแจดอกที่ 3 คือ 'ที่ซึ่งเสียงหัวเราะกลายเป็นความเงียบงัน... ที่ซึ่งชีวิตถูกพรากไปโดยไร้ร่องรอย...'" ปู่ทวดพึมพำ "มันฟังดูเหมือนสถานที่ที่กำลังประสบปัญหาใหญ่"คำขอจากชายชราผู้ผอมโทรมยังไม่ทันที่พวกเขาจะตัดสิน

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ผู้เฝ้ากุญญาและปริศนาทั้ง5

    เบื้องหน้า เมรี่ และทีม คือ 'ประตูแห่งกาลเวลา' บานมหึมาที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์และสัญลักษณ์โบราณ มันดูเก่าแก่และน่าเกรงขาม ราวกับเป็นประตูสู่โลกอีกใบหนึ่ง หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดใน 'ป่าต้องห้าม' และการได้มาซึ่งพันธมิตรที่ไม่คาดฝันอย่าง ไคโรส ผู้นำ 'หน่วยบิดเบือนกาลเวลา' ตอนนี้ทุกคนต่างจ้องมองไปยังประตูบานนั้นด้วยความคาดหวังและกังวลใจ"เราจะเปิดมันได้อย่างไรครับ?" นักสืบโธมัส ถามพลางสำรวจประตูปู่ทวด มองไปที่แผนที่โบราณในมือ "ตำราโบราณกล่าวว่า 'ประตูแห่งกาลเวลา' ไม่ได้เปิดออกด้วยพละกำลัง...แต่ด้วยกุญแจแห่งความเข้าใจ"ทันใดนั้นเอง แสงสว่างสีเขียวมรกตก็ส่องประกายออกมาจากบริเวณด้านบนของประตู!"วูบบบบบบบบบบบ!"ร่างของ หญิงสาวคนหนึ่ง ที่สวมชุดสีเขียวมรกตดูราวกับชุดของเทพธิดา ปรากฏขึ้นจากแสงสว่างนั้น เธอมีใบหน้าที่งดงาม ดวงตาของเธอเปล่งประกายสีเขียวมรกตราวกับดวงดาวในยามค่ำคืน เส้นผมของเธอพลิ้วไหวราวกับกระแสเวลาที่มองไม่เห็น"ยินดีต้อนรับ...ผู้พิทักษ์แห่งกาลเวลา" หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่ก้องกังวานไปทั่วทั้งป่า "ข้าคือ เอเลนอร์... ผู้เฝ้าประตูแห่งกาลเวลา"เมรี่เบิกตากว้าง "เลดี้เ

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ป่าต้องห้ามและพันธมิตร

    หลังจากช่วยเหลือชาวบ้านจากกลุ่มโจรป่าที่ถูกควบคุมโดย 'ดวงดาวที่สาปแช่ง' ได้สำเร็จ เมรี่ และทีมก็เร่งรัดการเดินทางไปยัง 'ประตูแห่งกาลเวลา' ที่ซ่อนอยู่ในป่าลึกทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอนดอน พวกเขาขึ้นรถม้าอีกครั้ง โดยมีชาวบ้านที่รอดชีวิตช่วยส่งไปถึงปากทางเข้าป่าที่เปล่าเปลี่ยว"ประตูแห่งกาลเวลาอยู่ที่นี่ครับ" ปู่ทวด ชี้ไปที่แผนที่เก่าแก่ที่บัดนี้ดูเหมือนจะส่องแสงเรืองรองขึ้นมาเองเมื่ออยู่ใกล้ เข็มทิศแห่งความจริง ของเมรี่ "มันถูกซ่อนไว้อย่างดี...เพื่อไม่ให้ผู้คนภายนอกล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของมัน"ป่าที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาดูไม่เหมือนป่าทั่วไป ต้นไม้สูงใหญ่หนาทึบจนแสงอาทิตย์แทบส่องไม่ถึง บรรยากาศเงียบสงัดจนน่าขนลุก มีเพียงเสียงลมพัดผ่านยอดไม้ที่สร้างเสียงหวิวๆ ราวกับเสียงกระซิบของสิ่งเร้นลับ"ป่าแห่งนี้ถูกเรียกว่า 'ป่าต้องห้าม' ครับ" นักสืบโธมัส กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ตำนานเล่าว่าไม่มีใครเคยเข้าไปในป่าแห่งนี้แล้วกลับออกมาได้อีกเลย""นั่นเพราะมันคือทางเข้าสู่มิติอื่น" ปู่ทวดเสริม "มันไม่ได้มีแค่ต้นไม้และสัตว์ป่า...แต่มันมี กับดักแห่งกาลเวลา ที่ซ่อนอยู่"เมรี่กำเข็มทิศแห่งความจริงไว้แน่น เธอรู้

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   หญิงชราและโจรป่า

    เมรี่ กุม เข็มทิศแห่งความจริง ไว้ในมือแน่น พร้อมกับ เศษเสี้ยวของผลึกแห่งดวงดาว ที่เธอเก็บรักษามาอย่างดี ทั้งหมดคือสิ่งจำเป็นที่จะเปิด 'ประตูแห่งกาลเวลา' สู่ 'เมืองแห่งดวงดาวที่สาบแช่ง' หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในหอสมุดหลวง พวกเขาตัดสินใจที่จะเดินทางด้วยรถม้าอีกครั้ง เพราะเกรงว่าการใช้รถไฟอาจทำให้พวกเขาถูก 'ผู้สร้างแห่งหายนะ' หรือกลุ่ม 'ดวงดาวที่สาปแช่ง' ดักทางได้ง่ายกว่าพวกเขาเช่ารถม้าที่ดูเก่าแต่แข็งแรงคันหนึ่ง มุ่งหน้าออกจากลอนดอนในยามเช้าตรู่ โดยมี ปู่ทวด นั่งอยู่ข้างเมรี่ในห้องโดยสาร นักสืบโธมัส สลับกันนั่งกับ อเล็กซานเดอร์ ที่บังเหียน ขณะที่ เฟรเดอริค, เบ็น, เอดิสัน, มิสเตอร์คลาร์ก และ 'ผู้พิทักษ์แห่งราชบัลลังก์' ติดตามไปอีกคัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีกำลังเพียงพอหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน"ตามแผนที่โบราณ 'ประตูแห่งกาลเวลา' ตั้งอยู่ในป่าลึกทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอนดอนครับ" ปู่ทวดกล่าวพลางกางแผนที่ที่ได้มาจากหอสมุดหลวงเมรี่มองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ของชนบทอังกฤษกำลังผลัดเปลี่ยนจากทุ่งหญ้าเขียวขจีเป็นป่าทึบที่ปกคลุมด้วยหมอกยามเช้า บรรยากาศเงียบสงบ แต่ในใจของเมรี่กลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status