Share

บทที่ 87

last update Last Updated: 2025-04-30 15:21:22

บทที่ 87

“นั่งด้วยกันมั้ย” ปราณต์เอ่ยชวน

“ไม่ดีกว่าครับ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอคนที่กำลังอยู่ข้าวใหม่ปลามัน” รังสิมันต์ปฏิเสธก่อนจะหันไปทางกวินภพเพื่อหาพวก “จริงมั้ยวะอิสร์”

“แกมันก็ชอบหาเรื่องกวนตีนชาวบ้านไปทั่ว” กวินภพไม่ได้เออออแต่พูดขัดคอขึ้นมาซะงั้น

“เฮ้ย...แกเป็นนักธุรกิจพันล้านนะเว้ยอิสร์ พูดคำหยาบกวนตงกวนตีนแบบนี้ได้ไง เสียภาพพจน์นักธุรกิจหนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบหมด”

“แกมันบ้าว่ะตะวัน” หนุ่มกรุงเทพฯ ส่ายหน้ายิ้มๆ กับความเจ้าคารมและช่างกวนอารมณ์ชาวบ้านของรังสิมันต์

“พี่ก็ว่างั้นละอิสร์”

“เฮ้อ...ตอนแรกว่าจะไม่อยู่เป็นก้างขวางคอ เปลี่ยนใจดีกว่านั่งกับพี่ปราณต์เลยแล้วกัน” รังสิมันต์แกล้งกวนอารมณ์พี่ชายต่อ ด้วยการจะขยับเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ แต่ยังไม่ทันได้นั่งนัสรินซึ่งไปเข้าห้องน้ำก็กลับมาเสียก่อน ทำให้ทั้งสองหนุ่มต้องหันไปทักทายกับหญิงสาวตามมารยาท

“สวัสดีครับพี่สะใภ้” รังสิมันต์ทักทายขึ้นก่อนอย่างขี้เล่น ทำให้คนถูกทักเหวอแกมอายนิดๆ เพราะไม่ค่อยคุ้นกับคำเรียกแบบนั้นสักเท่าไหร่

“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ เพราะประเมินว่าทั้งสองน่าจะอายุมากกว่าตน

“ตะวันกับอิสร์เพื่อนของปรัชญ์น่ะนัส” ปราณต์แนะนำให้ภรรยารู้จักกับสองหนุ่มอย่างเป็นทางการ เมื่อนัสรินมองมาทางเขาเหมือนกับรอให้เขาบอก นัสรินยังไม่รู้จักเพื่อนของปรัชญ์เป็นการส่วนตัว แม้จะเคยเป็นคู่หมั้นของปรัชญ์ แต่เธอกับเขาก็ไปไหนมาไหนด้วยกันแทบจะนับครั้งได้ และปรัชญ์ก็ไม่เคยพาเธอไปทำความรู้จักกับเพื่อนของเขาเลย

“ตอนที่พี่สะใภ้หมั้นกับไอ้ปรัชญ์ เรายังไม่รู้จักกัน มารู้จักกันอีกทีก็ตอนเป็นภรรยาพี่ปราณต์ไปแล้ว”

“ไปได้แล้วตะวัน” กวินภพเป็นคนขัดขึ้นเมื่อรังสิมันต์ทำท่าว่าจะแซวนัสรินหนักขึ้นกว่าเดิม

“ไหนแกว่าแกหิว”

“ไม่หิวแล้ว ไปหาปรัชญ์เลยดีกว่า”

“โอเคๆ ไปก็ไป งั้นผมกับอิสร์ไปก่อนนะครับพี่ปราณต์พี่สะใภ้ อย่าลืมเอาการ์ดไปให้ผมล่ะ” รังสิมันต์หันไปบอกปราณต์พร้อมกับผงกศีรษะให้กับนัสรินนิดๆ อย่างให้เกียรติ ราวกับเมื่อกี้ไม่ได้แซวจนเธอหน้าเหวอ ถ้าคนที่รู้จักเขาจริงๆ จะรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ บทจะเล่นก็เล่น บทจะจริงจังก็ดุดันเด็ดขาดจนแทบจะไม่มีใครกล้าตอแย

คล้อยหลังรังสิมันต์กับกวินภพ นัสรินก็นั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมของตัวเอง ในระหว่างรอให้ปราณต์เรียกพนักงานร้านมาคิดเงิน

“ท่าทางคุณตะวันกับพี่ปรัชญ์จะนิสัยคล้ายๆ กันนะคะ ส่วนคุณอิสร์ดูเงียบขรึมกว่าสองคนนั้น” นัสรินรำพึงถึงชายหนุ่มทั้งสองที่ตนเพิ่งจะรู้จักให้ปราณต์ฟัง

“ตะวันกับปรัชญ์หัวหกก้นขวิดด้วยกันมาแต่เด็ก แต่ก่อนตอนเรียนมัธยมขึ้นห้องปกครองกันเป็นประจำเลยละ ส่วนอิสร์เป็นคนเงียบๆ ขรึมๆ มาแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร ในบรรดาสามคนอิสร์นี่ละดูสุขุมที่สุด”

“น่าจะจริงค่ะ”

“แล้วในสายตาของคุณ สามคนนั้นใครหล่อที่สุด”

“ไม่รู้สิคะบอกยาก ต่างคนต่างก็ดูดีและมีเสน่ห์ไปคนละแบบ” นัสรินตอบไปตามที่ตัวเองเห็น

“แล้วถ้าเทียบกับผมล่ะ”

“คุณปราณต์หล่อน้อยกว่าทุกคนค่ะ” คราวนี้นัสรินตอบแบบไม่คิด พร้อมยิ้มล้อเลียนสามีตัวเองทั้งๆ ที่ในสายตาของเธอไม่มีใครหล่อเกินเขา

“ปากช่างยั่วแบบนี้ ต้องโดนจูบหนักๆ ถึงจะเข็ด”

เป็นอีกครั้งที่คำพูดของปราณต์ทำให้ห้าสาวโต๊ะข้างๆ ต้องหันมามอง คราวนี้นัสรินอายจนต้องรีบคว้ากระเป๋าและเดินออกจากร้านไปก่อน ปราณต์หัวเราะเบาๆ พร้อมกับหยิบเงินแบงก์พันในกระเป๋าสตางค์ออกมาสองใบ วางไว้ที่โต๊ะก่อนจะก้าวดุ่มๆ ตามออกไป

มือแข็งแรงโอบเอวของภรรยาสาวอย่างเป็นเจ้าของเมื่อเดินตามมาทัน และกำลังจะพากันกลับ แต่วันนี้เหมือนเป็นวันรวมพลคนรู้จัก เพราะจู่ๆ ทั้งคู่ก็เห็นว่าหมออรรณพกำลังเดินสวนมาพร้อมกับภรรยา

ปราณต์กับนัสรินยังคงมีสีหน้าเป็นปกติ ขณะที่หมออรรณพทำหน้าผิดหวังและเสียดายไม่น้อย เมื่อเห็นสาวที่ตนหมายปองถูกหมอหนุ่มที่หล่อและรวยกว่าตนโอบกอดอย่างแสดงสิทธิ์

“สวัสดีครับ หมออรรณพพาภรรยามาทานข้าวเหรอครับ” ปราณต์เอ่ยทักทายขึ้นก่อนพร้อมกับหันหน้าไปทางภรรยาของหมออรรณพและผงกศีรษะให้เป็นเชิงทักทาย

“ครับ...แล้วหมอล่ะมากับคุณนัสรินได้ยังไง หมอเมย์ไปไหนเสียล่ะ” หมออรรณพจงใจพูดให้นัสรินแสลงใจเล่นและเป็นการยุแยงอยู่ในที

“ผมกับเมย์เป็นพี่เป็นน้องกันครับ ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ คงไม่ดี เกรงใจภรรยาน่ะครับ”

“ภรรยา?”

ได้ยินเช่นนั้นหมออรรณพก็ถึงกับผงะพร้อมกับมุ่นคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าเวลาเพียงแค่สองสามเดือนจะทำให้ผู้หญิงที่ดูสวยหวานเรียบร้อยอย่างนัสรินตกลงปลงใจกับปราณต์จนถึงขั้นยอมเป็นภรรยาได้ หรือว่าปราณต์ก็เป็นเหมือนเขา ที่ชอบมีเมียเก็บซุกเอาไว้หลายๆ คน

“อ้อ...ครับ ผมลืมแนะนำไปว่านัสรินเป็นภรรยาของผม จดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมายแล้วครับ งานแต่งจะมีเร็วๆ นี้ เสียดายที่การ์ดพิมพ์ยังไม่เสร็จ ไม่งั้นวันนี้คงได้ให้หมอเลย”

“จริงเหรอครับคุณนัสริน” หมออรรณพที่ยังไม่อยากเชื่อนักหันมาถามหญิงสาวที่ดูเหมือนจะโกหกไม่เป็นอย่างนัสรินแทน

“ค่ะคุณหมอ เรียนเชิญคุณหมอด้วยนะคะ” นัสรินตอบเสียงนุ่มและรักษามารยาทตามนิสัยตัวเอง

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีต้องพาเมียกลับไปส่งบ้านและไปตรวจคนไข้ที่คลินิกต่อ” ปราณต์ตัดบทแค่นั้นก็พานัสรินกลับไปยังรถของตัวเอง โดยบ่อยครั้งที่เขาหันมามองหน้าหวานๆ ของเธอ เหมือนมีเรื่องอยากจะพูดด้วย นัสรินจึงถามขึ้น

“มองทำไมคะ มีอะไรอยากพูดกับนัส”

“อยากรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงที่เห็นกิ๊กเก่ามากับเมียเขา” คุณหมอหนุ่มเอ่ยถามพลางจ้องหน้าภรรยาเพื่อดูปฏิกิริยาของเธอ

“คนปากร้าย นัสไม่เคยเป็นกิ๊กกับใครค่ะ”

“แน่ใจนะว่าไม่แสลงใจ”

“แน่ใจมากค่ะ เพราะนัสไม่เคยคิดอะไรกับหมออรรณพหรือผู้ชายคนไหน นอกจากผู้ชายที่ชื่อปราณต์คนเดียว พอใจหรือยังคะ”

“พอใจสุดๆ เลยล่ะ แบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย”

ปราณต์ยิ้มออกเมื่อได้ยินคำตอบที่ถูกใจ จากนั้นก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มของนัสรินหนักๆ ก่อนจะออกรถ และขับกลับบ้านพร้อมกันท่ามกลางบรรยากาศที่ห้อมล้อมด้วยความสุขซึ่งเกิดจากความรักความเข้าใจที่มีต่อกันและกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 89

    บทที่ 89เสียงกริ่งหน้าบ้านที่ดังขึ้นอย่างถี่รัว ทำให้ร่างสูงใหญ่ที่กำลังนอนกอดตระกองภรรยาสาวอยู่ในอ้อมแขนอย่างมีความสุขต้องยันกายลุกขึ้น พลางมุ่นคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ใครมากดกริ่งแบบนี้” นัสรินถามสามีอย่างพลอยตกใจไปด้วย เพราะตั้งแต่อยู่บ้านหลังนี้มาไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน “เดี๋ยวผมไปดูก่อน นัสรออยู่นี่นะ” ปราณต์เดินออกไปชะเง้อดูที่ระเบียง แสงที่สาดสะท้อนมาจากไฟหน้าบ้าน ทำให้เขาเห็นได้ชัดว่าคนกดเป็นใคร หนำซ้ำคนกดยังส่งเสียงร้องเรียกเขาราวกับกำลังมีเรื่องร้อนใจสุดๆ อีกต่างหาก“พี่ปราณต์! พี่ปราณต์!”ร่างสูงกลับเข้าห้อง แล้วบอกภรรยาที่นั่งรออยู่บนเตียง เพื่อให้เธอคลายความกังวลว่าคนที่กำลังกดกริ่งหน้าบ้านและส่งเสียงเรียกเขาอยู่นั้นเป็นใคร“ตะวันน่ะ”บอกเสร็จปราณต์ก็ออกจากห้อง โดยมีนัสรินก้าวตามลงไป ทั้งสองเดินออกไปยังหน้าบ้านด้วยกัน และปราณต์ก็กดกุญแจรีโมตเปิดประตูรั้วให้รังสิมันต์“มีอะไรตะวัน”“พี่ปราณต์ต้องช่วยผมนะ เด็กคนนั้นโดนแก้วบาดมือ เลือดไหลเยอะมาก ตอนนี้เด็กนั่นอยู่ในรถผม” รังสิมันต์ไม่ได้เอ่ยชื่อของจันทริกาออ

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 88

    บทที่ 88แสงไฟสีเหลืองอมส้มที่ส่องสว่างทั่วอาณาบริเวณของบ้านเดี่ยวสองชั้นหลังใหญ่ ยิ่งทำให้บ้านซึ่งถูกออกแบบและปลูกสร้างอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูโดดเด่นสวยสะดุดตามากยิ่งขึ้นในยามค่ำคืนเช่นนี้ หากแต่ภายใต้ความสว่างไสวและสวยงามที่ห้อมล้อมบ้านหลังใหญ่ในยามนี้ คนเป็นเจ้าของกลับกำลังอยู่ในห้วงของอารมณ์ซึ่งสวนทางกับบรรยากาศอันแสนสวยงามของบ้านโดยสิ้นเชิง เพราะถูกครอบงำด้วยความโมโหต่อ ‘เด็กในปกครอง’ ที่หายตัวไปตั้งแต่ตอนบ่าย และป่านนี้แล้วก็ยังไม่กลับมาร่างสูงลุกขึ้นเดินไปมาสลับกับมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ซึ่งความหนานุ่มสมราคาของมันกลับไม่ได้ทำให้ความเดือดพล่านในอารมณ์ของรังสิมันต์ลดลงเลยแม้แต่นิด มือใหญ่สมสัดส่วนกับรูปร่างเอื้อมไปหยิบขวดวิสกี้ราคาแพงระยับมาเทลงบนแก้ว ก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันนั้นลงไปในลำคอพรวดเดียวหมด จากนั้นก็กระแทกแก้วลงกับโต๊ะเพื่อระบายอารมณ์ โดยมี ‘เมสซี่’ แมวพันธุ์แร็กดอลล์ตัวโปรดนั่งอยู่บนโซฟาข้างๆ บ่อยครั้งที่ตาสีฟ้าของมันเหลือบมองเจ้านายตัวเอง และลุกขึ้นมาคลอเคลีย ตามประสาแมวขี้เล่น แต่พอรู้ว่าเจ้านายกำลังอารมณ์ไม่ดี มันก็กลับไปนั่งที่ของมันแล้วหมอบลงเงียบๆ อย่างไม่กล้าก

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 87

    บทที่ 87“นั่งด้วยกันมั้ย” ปราณต์เอ่ยชวน“ไม่ดีกว่าครับ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอคนที่กำลังอยู่ข้าวใหม่ปลามัน” รังสิมันต์ปฏิเสธก่อนจะหันไปทางกวินภพเพื่อหาพวก “จริงมั้ยวะอิสร์”“แกมันก็ชอบหาเรื่องกวนตีนชาวบ้านไปทั่ว” กวินภพไม่ได้เออออแต่พูดขัดคอขึ้นมาซะงั้น“เฮ้ย...แกเป็นนักธุรกิจพันล้านนะเว้ยอิสร์ พูดคำหยาบกวนตงกวนตีนแบบนี้ได้ไง เสียภาพพจน์นักธุรกิจหนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบหมด”“แกมันบ้าว่ะตะวัน” หนุ่มกรุงเทพฯ ส่ายหน้ายิ้มๆ กับความเจ้าคารมและช่างกวนอารมณ์ชาวบ้านของรังสิมันต์“พี่ก็ว่างั้นละอิสร์”“เฮ้อ...ตอนแรกว่าจะไม่อยู่เป็นก้างขวางคอ เปลี่ยนใจดีกว่านั่งกับพี่ปราณต์เลยแล้วกัน” รังสิมันต์แกล้งกวนอารมณ์พี่ชายต่อ ด้วยการจะขยับเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ แต่ยังไม่ทันได้นั่งนัสรินซึ่งไปเข้าห้องน้ำก็กลับมาเสียก่อน ทำให้ทั้งสองหนุ่มต้องหันไปทักทายกับหญิงสาวตามมารยาท“สวัสดีครับพี่สะใภ้” รังสิมันต์ทักทายขึ้นก่อนอย่างขี้เล่น ทำให้คนถูกทักเหวอแกมอายนิดๆ เพราะไม่ค่อยคุ้นกับคำเรียกแบบนั้นสักเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ เพราะประเมินว่าทั้งสองน่าจะอายุมากกว่าตน“ตะวั

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 86

    บทที่ 86“แน่นอนสิที่รัก ถ้าไม่รู้ใจคุณแล้วผมจะเป็นผัวคุณได้ยังไง ว่าไงจะบอกหรือเปล่าว่าหมายถึงใคร”“นัสหมายถึงหมอเมย์ค่ะ” ในที่สุดนัสรินก็ยอมรับว่าเธอต้องการจะถามเขาว่าเคยพาเมธาวีมาที่นี่หรือไม่“ถ้าบอกว่าเคยล่ะ”“ก็ไม่แปลกใจค่ะ” ปากว่าไม่แปลกใจ หน้าก็ยังดูยิ้ม แต่แววตาและน้ำเสียงนั้นแปร่งไปจนฟังได้ชัด“คราวนี้จะยอมรับได้หรือยังหือว่าคุณหึงผมกับเมย์” คุณหมอผู้ลองใจเมียเริ่มต้อนให้เธอยอมรับความจริงกับเขาเสียที“ยอมรับก็ได้”“ทำไมถึงจำเพาะเจาะจงว่าเป็นเมย์”“ไม่รู้สิคะ อาจเป็นเพราะว่านัสเคยเห็นกับตาว่าคุณกับหมอเมย์สนิทสนมกันแค่ไหนมั้ง”“ผมไม่ได้คิดอะไรกับเมย์เกินกว่าน้องสาว สาบานได้เลย แต่ผมก็ดีใจนะที่รู้ว่าทำให้คุณหึง”“วันที่นัสไปตรวจที่คลินิกว่าท้องหรือเปล่า นัสเจอหมอเมย์ด้วยค่ะ เธอบอกว่าเธอเลิกกับคุณปราณต์แล้ว”“หือ...เลิกกัน?” ปราณต์เลิกคิ้วเข้มขึ้น “ฟังอะไรผิดหรือเปล่านัส”“เธอบอกแบบนั้นจริงๆ นะคะ แต่มาบอกทีหลังว่าเลิกหวังในตัวคุณแล้ว เพราะคุณรักคนอื่นอยู่” นัสรินเล่าให้ฟังตามความจริง พลางคิดถึงเหตุการณ์และสีหน้าของเมธาวีในวันนั้นอย่างจำได้แม่น“ขนาดเมย์ยังรู้ว่าผมรักใคร แล้วทำไม

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 85

    บทที่ 85ปราณต์เป็นฝ่ายขยับมาถือกระเป๋าสะพายของภรรยาที่วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับโอบเอวเล็กที่ตอนนี้ขยายขึ้นเล็กน้อย ทำให้นัสรินซึ่งยังงงอยู่เล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าคนทั้งสองจะรู้จักกันต้องขยับตาม แต่ก็ไม่ลืมที่จะร่ำลาหมอพัทธระตามมารยาทอันดี “ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ เดี๋ยววันหลังนัสจะเตรียมสัญญามาให้เซ็น วันนี้นัสขอตัวก่อน” “ครับคุณนัสริน แล้วพบกันครับ” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ จากนั้นก็ก้าวตามสามีออกไปขึ้นรถ ปราณต์เดินเงียบๆ แต่ยิ้มในหน้า ซึ่งจากประสบการณ์ที่อยู่ด้วยกันมาพักหนึ่ง ทำให้นัสรินพอจะรู้ว่าเวลาที่ปราณต์เป็นแบบนี้นั่นคือเขากำลังอยู่ในภาวะอารมณ์ดีแบบสุดๆ “ยิ้มอะไรนักหนาคะ พอใจมากหรือไง” นัสรินถามคนที่ซ่อนยิ้มในหน้าอย่างอดไม่ได้ จากสายตาและวาจาที่ฟังดูนุ่มละมุนผิดปกติของหมอพัทธระเมื่อครู่นี้ เธอก็พอจะรู้ว่าเขาคิดยังไงกับสามีของตน “ก็พอใจสิ” “แล้วเป็นไงคะ หมอพัทธระหล่ออย่างที่นัสบอกหรือเปล่า” “หล่อ...แต่ที่ฟังดูน้ำเสียงของนัสเหมือนกำลังหึงผมอยู่นะ อย่าหึงเลยน่า ผมชอบผู้หญิง” คราวน

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 84

    บทที่ 84วันนี้เป็นวันครบรอบสามเดือนที่บริษัทส่งตัวนัสรินมาทำงานที่เชียงใหม่พอดี ซึ่งตามกำหนดเดิมเธอจะต้องกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ และมีตัวแทนจากบริษัทคนใหม่มาทำงานแทนเธอ แต่จนป่านนี้ทางบริษัทก็ยังไม่ส่งใครมา แถมเธอยังต้องทำงานที่นี่ต่อ ซึ่งคราวนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ทำชั่วคราวแล้ว หากแต่ต้องประจำอยู่ที่นี่อย่างถาวรนัสรินยังจำวันที่ตัวเองโทร.ไปแจ้งข่าวกับกิตติ ว่าเธอประสงค์จะลาออกจากงาน ตอนนั้นหัวหน้าของเธอดูเป็นเดือดเป็นร้อนมาก เพราะยังหาคนที่ทำงานเก่งอย่างเธอมาแทนยังไม่ได้ แต่เมื่อรู้ว่านัสรินจะลาออกไปแต่งงาน และอยู่ที่เชียงใหม่กับสามี กิตติก็ขอร้องให้เธอทำงานให้ต่อ โดยเสนอจะเพิ่มเงินเดือนให้ สุดท้ายนัสรินก็จำต้องรับปาก โดยไม่ต้องเพิ่มเงินเดือนให้เธอ ความจริงเธอไม่ได้อยากลาออกเลยสักนิด แต่ที่ต้องบอกหัวหน้าไปเช่นนั้น ก็เพราะปราณต์ขอร้องแกมบังคับ และเมื่อเขาได้รู้ว่าเธอตัดสินใจจะทำงานต่อ หมอหน้าหล่อก็งอนไปหลายวันเหมือนกันนัสรินออกมาจากออฟฟิศก่อนเวลาเลิกเงิน เพราะมีนัดกับลูกค้าซึ่งเป็นหมอของโรงพยาบาลเอกชน เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะเอ่ยปากขอตัวกับหมอหนุ่มที่ตัวเองกำลังคุยงานด้วยอย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status