เมษา...
"แต่ทางเข้าบ้านฉันมันลำบากมากเลยนะคะ" ฉันพูดความจริงกับคุณไทด์เพราะกว่าจะถึงบ้านของฉันที่อยู่กลางสวนกล้วยสวนมะพร้าวนับร้อยๆต้นต้องเดินข้ามท้องร่องที่สะพานทำด้วยต้นมะพร้าวทั้งต้นและต้องเดินเข้าไปอีกลึกเลยกว่าจะถึงบ้าน
"ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะลำบากมากแค่ไหน"
ยิ่งฉันพูดเขาก็ยิ่งเหมือนอยากจะท้าทายฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงเขาอยากมาส่งก็ตามใจเขา
"ถ้าอย่างงั้นก็ตามใจคุณละกันค่ะฉันถือว่าเตือนคุณแล้วนะคะ" พูดจบฉันก็เดินต่อไปเรื่อยๆโดยมีคุณไทด์เดินตามมาติดๆ
"ทำไมบ้านเธอมันอยู่ลึกขนาดนี้แถมทางเดินก็ลำบาก เดินกลับแบบนี้ทุกคนไม่กลัวเหรอ"
"ฉันอยุ่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดทำไมฉันต้องกลัวด้วยคะ" ฉันหันไปตอบคนที่เดินตามหลังที่ตอนนี้น่าจะรู้ตัวแล้วว่าไม่น่าเดินตามฉันเข้ามาเลย แต่ในที่สุดเขาก็เดินมาส่งฉันถึงบ้านจนได้
"นี่บ้านเธอเหรอ" น้ำเสียงของเขาดูตื่นเต้นคงจะตกใจกับสภาพบัานหลังน้อยของฉันอยู่
"ค่ะบ้านฉันเอง ถึงมันจะไม่ค่อยเหมือนบ้านเท่าไหร่ก็ตาม" ฉันหันไปมองบ้านตัวเองก่อนจะหันมามองหน้าคนที่กำลังอึ้งกับสภาพบ้าน
"เธอพูดจริงหรือแกล้งหลอกฉัน"
"ฉันจะแกล้งคุณจะหลอกคุณไปเพื่ออะไรคะ"
"เธออยู่ที่นี่จริงดิ" เขาถามย้ำ
"อยู่จริงค่ะอยู่ตั้งแต่เด็ก"
"แล้วเธอ...อยู่คนเดียวเหรอ"
"เมื่อก่อนฉันอยู่กับยายค่ะแต่ท่านเสียไปแล้ว" ฉันคิดว่าไม่มีอะไรต้องปิดบังเพราะดูแล้วเขาก็ดูไว้ใจได้
"แปลว่าตอนนี้อยู่คนเดียว"
"ค่ะ" พูดจบฉันก็เดินเข้าบ้านหาโคมไฟเพื่อใช้จุดเพิ่มความสว่างเพราะในสวนแบบนี้มันไม่มีไฟฟ้าซึ่งตลอดหลายปีที่ฉันอาศัยอยู่ที่นี่ฉันใช้วิธีจุดโคมไฟแบบนี้แบบนี้มาตลอดจนชิน
"ทำไมถึงต้องจุดไฟแบบนี้ ไฟดับเหรอ"
"เปล่าค่ะ ไฟฟ้าไม่มี"
"ห๊ะ ไฟฟ้าไม่มีแล้วเธออยู่ได้ยังไง"
"อยู่ได้ค่ะ"
"เธอนี่มีอะไรให้ฉันอึ้งหลายเรื่องเลยนะถึงจะจนแต่ก็หยิ่งในศักดิ์ศรีขนาดคุณย่าฉันให้เงอนตั้งแสนนึงเธอยังปฏิเสธ"
ฉันไม่ได้ตอบโต้อะไรเขากลับไปเพราะฉันบอกไปแล้วว่าฉันช่วยท่านด้วยความเต็มใจไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน
"ถามจริงเธออยู่มืดๆแบบนีัทุกวันเลยเหรอ"
"ค่ะ"
"อยู่ได้ยังไงกันนี่มันสมัยไหนแล้วมีด้วยเหรอบ้านที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ นี่เธออยู่ในกรุงเทพนะไม่ได้อยู่ป่ากลางเขา"
"ได้ไม่ได้ฉันก็อยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ค่ะ"
"เป็นฉันฉันคงอยู่ไม่ได้แน่แค่วันเดียวก็เถอะ"
"ตอนนี้คุณก็เดินมาส่งฉันถึงบ้านแล้ว คุณกลับไปได้แล้วนะคะ"
"อ่อพาถึงบ้านก็ไล่กันกลับเลยสินะ"
"เปล่าไล่ค่ะ คือตอนนี้มันจะเย็นแล้วเดี๋ยวมันจะมืดกลับลำบากว่าแต่คุณกลับได้ใช่ไหมคะ"
"อืม ก็คิดว่าได้นะ"
"ฉันว่าคุณเอาโคมไฟนี่ไปด้วยดีกว่านะคะ พอถึงประตูวัดคุณก็เอาวางไว้แถวๆ นั้นก็ได้พรุ่งนี้ฉันจะไปเก็บเอง"
"ก็ได้ ถ้างั้นฉันกลับนะ"
"ค่ะ กลับดีๆนะคะ" ฉันยืนมองเขาจนลับตาก็รีบเดินเข้าบ้าน
คอนโดCJ....
ปั่ก ปั่ก ปั่ก ปั่ก
"อ๊าาาา พีเจ อ๊าาาาา มีมี่ ไม่ไหวแล้ว อ๊าาาาา"
"ซี๊ดดดดด อืมมมมมมมม แม่งจะแตก อ่าาาาส์"
"พีเจขามี่อยากกกินน้ำของคุณ"
"หึ ได้ดิ"
"อ๊ะ!!" พีเจดึงตัวตนออกมาจากร่องรักของหญิงสาวอย่างเร็วจนหญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเพราะท่อนเอ็นของเขาไม่ใช่อันเล็กๆจะเข้าจะออกแต่ละทีมันทำเอาจุกได้เหมือนกันจากนั้นเขาก็ถอดถุงยางออกแล้วโยนมันลงข้างเตียงจากนั้นก็นำท่อนเอ็นของตนเองไปจดจ่อตรงปากของหญิงสาวที่นอนรออยู่อย่างใจจดใจจ่อ
"อ๊อก อ๊อก อ๊อก" จากนั้นมีมี่ก็ทำออรัลเซ็กส์ด้วยปากจนชายหนุ่มถึงกับครางออกมาด้วยความเสียว
"ซี๊ดดดด อ่าาา ปากเธอแม่งสุดยอดเลยมีมี่ อื้มมมม อ่าาาาา แบบนั้น ดูดแรงๆ ดูดให้น้ำของฉันแตกคาปากของเธอ"
ไม่นานพีเจก็ถึงจุดหมายปลายทางเมื่อเขาได้ปลดปล่อยความต้องการออกมาเป็นรอบที่สาม เขาเดินเข้าห้องน้ำทันทีโดยไม่สนใจหญิงสาวที่เขาเพิ่งร่วมรักกันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนที่ตอนนี้ยังนอนหายใจรวยรินเพราะหมดแรง
พีเจ...
"เอาไปเงินค่าตัวของเธอแล้วก็กลับไปได้ละฉันต้องการพักผ่อน" ผมโยนเงินปึกหนึ่งให้กับมีมี่ที่ยังนอนอยู่บนเตียงก่อนจะเดินออกมายืนสุบบุหรี่นอนระเบียง
"ให้มีมี่นอนที่นี่ไม่ได้เหรอคะ มีมี่ไม่มีแรงลุกจากเตียงเลยค่ะพีเจ"
"เธอน่าจะรู้กฏของฉันดีนะมีมี่ว่าอะไรที่ฉันสั่งถ้าไม่ทำตามจะเป็นยังไง แต่ถ้าเธอจะนอนต่อก็ไม่เป็นไรแต่ต่อไปเธอไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก" พอได้ยินแบบนั้นมีที่ก็รีบลุกออกจากที่นอนทันทีทั้งที่ตอนแรกบอกว่าไม่มีแรงลุก หึ
"มะ ไม่นะคะ มีมี่กลับก็ได้ค่ะ มีมี่ยังอยากอยู่ให้ความสุขกับพีเจ พีเจอย่าเลิกกับมีมี่นะคะ" ผมยืนกอดอกมองหญิงสาวคู่นอนที่กำลังลุกใส่เสื้อผ้าที่แทบจะปิดอะไรบนร่างกายแทบไมไ่ด้ แต่ถามว่าชอบไหมที่เห็นผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ๆผมชอบมากเพราะมันทำให้ผมรู้สึกตื่นตัวแต่ตอนนี้ผมหมดแรงแล้วไงก็เลยไม่มีอารมณ์
หลังจากมีมี่กลับไปผมเดินออกมาจากห้องตรงไปที่เคาท์เตอร์หยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วทำการเปิดเครื่องเพราะก่อนหน้านี้ผมปิดเครื่องเอาไว้เนื่องจากว่าไม่ต้องการให้ใครโทรมารบกวนหรือขัดจังหวะเวลาที่ผมทำกิจกรรมบนเตียงซึ่งผมจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งและพอเปิดเครื่องมาก็เห็นข้อความจากไอ้ไทด์พี่ชายนอกไส้ที่ผมเกลียดมันยิ่งกว่าอะไร แต่ผมไม่สนใจจะเปิดเข้าไปอ่าน ผมโยนมือถือทิ้งไว้ที่โซฟาใกล้ๆก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องนอนของผมที่ผมไม่เคยให้ใครเขามายุ่งวุ่นวาย ส่วนห้องที่ผมเพิ่งทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับมีมี่เมื่อกี้มันเป็นห้องนอนเล็กที่ผมเรียกมันว่าห้องเชือด ห้องนั้นผมเอาไว้สำหรับทำเรื่องอย่างว่าเพียงอย่างเดียว
ผมกลับมาที่ห้องแล้วล้มตัวลงนอนเพื่อพักผ่อนเพราะเสียเหงื่อเสียพลังงานไปเยอะ มีมี่ทำเอาผมแทบหมดแรงเธอรู้งานรู้ว่าผมชอบแบบไหนท่าไหนเธอจัดได้หมด แต่ถึงเธอจะเอาใจเก่งแต่ผมก็มีกฎเหล็กว่าถ้าเอากันเสร็จต้องออกไปจากห้องไม่มีการนอนค้างไม่ว่าเวลานั้นจะดึกดื่นมากแค่ไหนก็ตาม เพราะเวลาปกติผมชอบอยู่คนเดียวไม่ชอบให้ใครมารบกวน
เมษา...ตอนนี้เรามาถึงวัดกันแล้วค่ะระหว่างทางฉันก็ได้ปะทะคารมกับเขามาตลอดทางแต่เราสองคนไม่ได้ทะเลาะกันเสียงดังหรอกนะคะเพราะกลัวว่าลูกจะได้ยินและสงสัยโชคดีที่เขาเปิดการ์ตุนให้ลูกดูลูกก็เลยไม่ได้สนใจฉันกับเขา พอรถจอดสนิทฉันกำลังจะเอื้อมมือไปคว้าลูกมาอุ้มเพื่อพาแกลงจากรถแต่ไม่ทันเขาเพราะเขารีบลงจากรถแล้วเปิดประตูด้านหลังอุ้มลูกเดินออกไปหน้าตาเฉยโดยไม่รอฉันสักนิด ฉันจึงทำได้แค่เดินลงจากรถแล้วตามเขาไป แต่ก้าวขาไม่ถึงสามก้าวคุณไทด์ก็ขับรถมาจอดข้างๆพอดี ฉันจึงยืนรอคุณไทด์ลงจากรถเพื่อเดินเข้าไปในวัดด้วยกัน แต่เหมือนมีใครบางคนจ้องมองมาที่ฉันฉันก็เลยมองกลับไปปรากฏว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวรของฉันเองค่ะ คุณพีเจ เขามองฉันตาเขียวมองแบบไม่พอใจขั้นสุด เขาคงจะโกรธฉันที่ฉันไม่ยอมอยู่บ้านเขาก็ได้เพราะฉันยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่อยู่เด็ดขาด ฉันกลัว...กลัวอะไรหลายอย่าง กลัวใจตัวเองด้วย ทางเดียวที่จะทำให้ฉันเลิกกลัวก็คือการแยกออกมาอยู่กับลูกตามลำพังเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาเพราะฉันกับเขาสถานะของเราเป็นแต่พ่อและแม่ของลูกเท่านั้นแม้ว่าตอนนี้น้องพอใจจะยังไม่รู้ว่าเขาคือพอ ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะบอกลูกเมื่อไหร่ยังไง คือ
"ฉันมั่นใจว่าใช่นะ มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะน้องพอใจมีปานที่ข้อมือเหมือนแม่ของฉันซึ่งฉันก็เพิ่งสังเกตเมื่อเช้า" ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นจริงๆ ฉันพอจะนึกออกแล้วล่ะว่าเขาเคยพูดเรื่องนี้เมื่อหลายปีก่อน และนั่นทำให้ฉันนึกย้อนไปตอนที่น้องพอใจอายุได้ซักขวบกว่าๆแกกำลังหัดพูดจู่ๆแกเรียกชื่อคุณพีเจขึ้นมาทั้งที่ฉันไม่เคยสอนไม่เคยบอกให้แกเรียก ฉันหันไปมองลูกที่ตอนนี้นั่งอยู่บนเตียงเปิดดูอัลบั้มรูปที่วางอยู่ข้างโต๊ะหัวเตียงแกมองอย่างตั้งใจแล้วจู่ๆแกก็ร้องไห้ ฉันตกใจที่เห็นแกเป็นแบบนั้นก็รีบเดินไปหาลูกแล้วถามว่าแกเป็นอะไร แกบอกว่าแกคิดถึงคนๆนี้แล้วแกก็ชี้ไปที่รูปผู้ชายคนนึงซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเขาคือใคร"คนๆนี้ใครเหรอคะ" ฉันหันไปถามเขา"รูปพ่อฉันเอง" คุณพีเจตอบฉันเสียงสั่นตอนที่เห็นลูกนั่งร้องไห้แล้วชี้ไปที่รูปของพ่อเขา"พ่อคุณ??""อื้มใช่""แล้วลูกร้องไห้ทำไมทำไมแกถึงบอกว่าแกคิดถึงล่ะคะ""อาจจะเป็นเพราะแม่รักพ่อมากก็เลยทำให้รู้สึกแบบนั้น""แล้วเราจะทำยังไงดีคะฉันไม่อยากให้แกต้องมารู้สึกหรือจดจำเรื่องราวเกี่ยวกับอดีต ตอนนี้แกคือลูกของฉัน คือ..." ฉันไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาเข้าใจฉันก
พีเจ...ผมรู้ดีว่าทำไมตัวผมเองถึงพูดคำว่าขอโทษ เพราะตลอดระยะเวลาหลายวันมานี้ผมได้รับรู้ได้เห็นถึงความยากลำบากของเมษาที่ต้องดูแลลูกเพียงลำพัง ผมยอมรับว่าตัวเองทำให้เมษากับลูกลำบาก ถ้าบอกว่าผมรู้สึกผิดตอนนี้จะทันไหม ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าเมษาจะลำบากขนาดนี้แล้วลูกผมอีกล่ะ บอกตามตรงว่าผมก็ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าตัวเองจะมีลูกเพราะผมกลัวว่าตัวเองจะเป็นพ่อที่ไม่ดีจะทำให้ลูกผิดหวังเสียใจแบบที่พ่อผมเคยทำให้แม่ให้ผมเสียใจแต่พอได้รู้ว่าตัวเองได้เป็นพ่อคนผมก็อยากที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองนั่นก็คือการเลิกเที่ยวเลิกกินเหล้าเลิกเลี้ยงผู้หญิง คืออยากจะบอกว่าตั้งแต่รู้เรื่องลูกผมก็ไม่ได้ไปเข้าผับเข้าบาร์หรือพาผู้หญิงมานอนที่ห้องเหมือนที่เคย ตอนนี้ผมอยากสร้างอนาคตให้กับลูกสร้างไว้ให้แกในวันที่ผมไม่อยู่แกจะได้ไม่ลำบาก ในสายตาของคนอื่นผมอาจจะเป็นคนเลวแต่ผมก็รักลูก รักโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ผมไม่รู้ว่าผมรักแกมากแค่ไหนแต่ผมสามารถตายแทนแกได้ ผมไม่คิดว่าตัวเองจะรู้สึกอะไรแบบนี้เป็น รู้สึกรักรู้สึกห่วงรู้สึกอยากปกป้องดูแลไม่อยากให้แกร้องไห้ ผมอยากให้แกมีแต่รอยยิ้มในทุกๆวันเพียงครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าแกและรู้ว่าแกคือลูกมันท
พีเจ...."คุณพีเจพาเด็กที่ไหนมาคะ หน้าตาน่ารักเชียว""ลูกผมเอง""ห๊ะ!!""ลูกคุณพีเจ??""คุณพีเจอำป้าหรือเปล่าคะ""ผมจะอำป้าเพื่ออะไร แกชื่อน้องพอใจเป็นลูกของผมกับ..เมษาน่ะ""หนูเมษาน่ะเหรอคะเป็นไปได้ยังไงกัน""เป็นไปแล้วครับ ว่าแต่ป้าอย่าเพิ่งถามอะไรมากป้าช่วยไปทำความสะอาดห้องนอนเก่าของเมษาให้ทีเพราะเดี๋ยวผมจะพาเมษากับลูกไปนอนที่ห้องนั้น""หนูเมษามาด้วยเหรอคะ""ครับ""แล้วตอนนี้หนูเมษาอยู่ไหนคะ ป้าคิดถึงจังเลยไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีตั้งแต่คุณพีเจไล่...อะ เอ่อออ เอ่อ ป้าว่าป้าขอตัวไปทำความสะอาดห้องหนูเมษาก่อนนะคะ" ป้าแม่บ้านพูดไม่ทันจบประโยคก็คงนึกขึ้นได้ว่ากำลังว่าให้ผมอยู่แกรีบสะกิดแม่บ้านคนอื่นๆให้รีบตามขึ้นไปทำความสะอาดห้องนอนของเมษา หลังจากนั้นผมก็พาลูกไปนอนรอที่ห้องของผมก่อนเพราะต้องรอให้แม่บ้านทำความสะอาดห้องเมษาเสร็จก่อน ทุกคนคงจะสงสัยว่าในเมื่อเมษาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วทำไมยังมีห้องของเธออยู่อีก ผมยอมรับว่าผมเองเป็นคนบอกให้แม่บ้านทิ้งห้องนั้นไว้แบบนั้นไม่ต้องขนย้ายอะไรออกมาไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้ากระเป๋าเครื่องประดับที่ผมซื้อให้เธอแต่เธอไม่เอาไปเลยแม้แต่ชิ้นเดียวผมก็เลยสั่งแม่บ้านว่
เมษา...ฉันเข่าแทบทรุดเมื่อกลับมาเห็นสภาพบ้านของตัวเองที่ตอนนี้ไฟกำลังลุกไหม้อย่างหนักเพราะเป็นบ้านไม้ทั้งหลังโดยมีหน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังช่วยกันดับไฟอยู่ ชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงก็ต่างมามุงดูกันเต็มไปหมดโชคดีที่เปลวไฟไม่พัดไปติดบ้านใครเพราะบ้านของฉันมันอยู่ในสวนห่างจากบ้านของชาวบ้านไกลพอสมควรซึ่งตอนนี้ฉันยังไม่รู้ว่าไฟมันไหม้บ้านของฉันได้ยังไง ฉันมั่นใจว่าก่อนออกจากบ้านเมื่อเช้าฉันก็ดับไฟในครัวแล้วและไม่ได้เสียบปลั๊กอะไรทิ้งไว้เลย "ฮือออ ฮือออ ไฟเต็มบ้านหมดเลย ฮืออออ ตุ๊กตาของน้องอยู่ข้างในด้วยฮืออออ" น้องพอใจร้องไห้สะอึกสะอื้นเมื่อเห็นไฟไหม้บ้านของตัวเองตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นพ่อโชคดีที่คุณพีเจอาสาอุ้มลูกให้เพราะตอนนี้ฉันอุ้มแกไม่ไหวมันไม่มีแรงแขนขาหมดแรงไปหมดแล้วตอนนี้"ไฟมันไหม้ได้ยังไงกัน" ฉันพูดคนเดียวแต่เขาคงจะได้ยิน"เธอแน่ใจใช่ไหมว่าไม่ได้เสียบปลั๊กไฟหรือก่อไฟเอาไว้ก่อนออกจากบ้าน""ฉันมั่นใจค่ะ""ถ้าอย่างงั้นมันต้องมีคนทำเพราะจู่ๆบ้านเธอจะไหม้ได้ยังไง เอางี้ฉันจะให้ตำรวจช่วยสืบ""ฮือออ ฮือออแม่จ๋าแล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน ไฟไหม้บ้านเราหมดแล้วเราไม่มีที่น
เมษา...."น้องพอใจอยากไปเล่นสวนสนุกมั้ยครับ""อยากไปค่า""ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวลุงพาไปดีมั้ยครับ""ไม่เอาค่ะน้องอยากให้คุณอาพีเจพาน้องไป คุณอาขาคุณอาพาน้องไปเล่นสวนสนุกหน่อยได้ไหมค้า" ลูกชวนเขาแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ว่างเพราะฉันเพิ่งสังเกตเห็นเอกสารหลายปึกวางอยู่บนโต๊ะที่เขานั่งเขาอาจจะกำลังคุยงานอยู่ก็ได้"คุณพีเจพาหลานไปเล่นสวนสนุกก่อนก็ได้นะคะเรื่องงานไว้เดี๋ยวน้ำตาลไปคุยที่บริษัทก็ได้ค่ะ" ผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามกับเขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไพเราะ เธอดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยไม่ได้แต่งตัวหวือหวาแตกต่างจากผู้หญิงของเขาคนก่อนๆที่ฉันเคยเจอ"ก็ได้ครับ ไว้ถ้าน้ำตาลจะเข้าไปที่บริษัทก็แจ้งที่เลขาของผมได้เลย""โอเคค่ะ ถ้าอย่างงั้นตาลขอตัวก่อนนะคะ" "ครับ" ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะลุกออกไปเธอหันมายิ้มให้กับฉันซึ่งฉันก็ยิ้มตอบไปตามมารยาท "เมษาเดี๋ยวพี่มานะขอไปทำธุระแป๊บนึงนะ" คุณไทด์บอกฉันก่อนจะเดินออกไปอย่างรีบเร่งซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหน"ป่ะน้องพอใจเราไปเล่นสวนสนุกกันดีกว่าน้องอยากเล่นอะไรอาจจะให้เล่นหมดทุกอย่างเลย" เขาบอกกับลูกอย่างอารมณ์ดีหลังจากคุณไทด์เดินออกไปจากร้านแล้ว"ค่าไปเล้ยยยย" แล้วเขาก็เอาล